ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

ตำนานทองมา โครงการจำนำข้าวฉาวโลก

http://www.naewna.com/politic/columnist/11000

See Translation

 

 

1505345_692217100829085_1747059520_n.jpg

 

1560378_211873292341253_854854824_n.jpg

 

 

 

เมื่ออดีตไล่ล่าชินวัตร

http://www.naewna.com/politic/columnist/11005

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Dr.Ponn Virulrak - Politics Only

The Next Move: ของ กปปส. และ ระบอบทักษิณ

 

จากหนังสือ 33 Strategies of War โดย Robert Green ซึ่งเป็นหนังสือกลยุทธ์ที่ฝรั่งเขียนตามซุนหวู่ มีประโยคสำคัญในภาคแรก ก่อนที่จะพูดถึงกลยุทธ์ใดๆ คือ

 

“Seeing things as they are”

 

ซึ่งหมายถึงการเปิดตา มองรอบๆตัว ดูสถานการณ์ตามความเป็นจริง ไม่ดูตามอารมณ์ ไม่ดูในแบบที่อยากให้มันเป็นไม่อวดดี ไม่กลัว ไม่สับสน ตัดอารมณ์ทุกอย่างออกไปก่อน สนใจแค่ “ความเป็นจริง” อย่างเดียว

 

ขั้นตอนนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญมากในหลายๆ สาขาของการเรียน และประกอบธุรกิจ เพราะถ้าเราไม่เห็นความจริง หรือเห็นความจริงแต่ไม่ครบถ้วน แผนที่เราจะวางต่อไป ก็คือแผนที่ผิด

 

หลักคิดนี่ สำคัญ แต่หากมาปรับในสถานการณ์ปัจจุบัน ก็ต้องขอเพิ่ม องค์ประกอบคำว่า “at that time” เข้าไปเป็นเงื่อนไขอีกข้อที่สำคัญมาก ซึ่งหมายถึงการ พร้อมที่จะวิเคราะห์สถานการณ์ ตามเวลาที่เปลี่ยนแปลงไป

 

องค์ประกอบของ “ความจริง” ก็ต้องเป็นความจริง “ณ เวลานั้น” ด้วย

 

ถ้าเป็นความจริงของเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วเอามาวางแผนกลยุทธ์ตอนนี้อาจจะเป็นกลยุทธ์ที่ใช้การไม่ได้

 

สำหรับการเมืองของไทยตอนนี้ การเอาความจริงเมื่อ 3 วันที่แล้ว มาวิเคราะห์เพื่อวางแผนกลยุทธ์ อาจจะเป็นยิ่งกว่าแผนทีใช้ไม่ได้ อาจจะถือว่าเป็นแผนที่ “เน่า” ไปเลยก็ได้

 

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ใครจะคิดว่า พรรคประชาธิปปัตย์ จะเริ่มเล่นการเมืองข้างถนน

 

เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2556 ใครจะคิดว่า สุเทพ ที่มีภูมิหลังสกปรก จะได้รับการยอมรับ จากมวลชน ให้เกิดการประสานขั้วต่อต้านทักษิณเป็น หนึ่งเดียวกัน

 

เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2556 ใครจะคิดว่า คนจะเข้ามาร่วมกระบวนการ กปปส. เป็นล้าน

 

เมื่อวันที่ 1 มกราคม 2557 ใครจะคิดว่า วิกฤติจำนำข้าวจะคลี่ออกมาเป็น ดาบอาญาสิทธิที่กำลัง จะตัดคอ ระบอบทักษิณ ช้าๆ แต่โคตรชัวร์

 

และแล้ว วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2557 ที่ผ่านมา เราก็ยังคงคาดไม่ถึงกับอะไรหลายๆ เรื่องที่มันกำลังเกิดอยู่ แต่เราต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ถึงแม้รัฐบาลจะกำลังเมาหมัด กปปส. ของเราก็อ่อนแรงไปพอสมควร เหมือนกัน

นี่คือความจริง ซึ่งผมคิดว่าแกนนำก็รู้

 

หากเราจะวิเคราะห์เกม เราต้องดูความเป็นจริง ก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น ก่อนหากลยุทธ์

 

-รู้เขา: The Next Move of ระบอบทักษิณ-

 

ตอนนี้สังเกตแนวทางของรัฐบาลระบอบทักษิณ ไม่มีประเด็นที่ทำให้เดือดร้อนมากเท่าเรื่องจำนำข้าว การประท้วงของ กปปส. เราเป็นเพียงสัญลักษณ์ เท่านั้น ซึ่งทำให้เกิด ข่าวตีแผ่ไปทั่วโลก และเป็นการเปิดตัวตนของคนที่เกลียดระบอบทักษิณ มารวมกัน

 

แต่การที่จะปิดถนน เปิดเวทีดา ไล่ม๊อบให้รัฐบาลออกไปนั้น หลายๆ คนก็ทราบว่า มันเป็นไปไม่ได้สำหรับรัฐบาลที่ไร้ความรับผิดชอบชั่วดี ตรงนี้ทุกคนก็ต้องยอมรับ แกนนำที่เดินไปปิดสถานที่ราชการหรือ ถนน ในที่สุดก็ต้องยอมเปิด เพราะคนก็เริ่มมีความเดือดร้อน เราก็ต้องเห็นใจเขา

 

ทีนี้พอมีแกนใหม่อย่างชาวนา ซึ่งเป็นฐานเสียงของเขาที่วันนี้จงเกลียดจงชังเขาเข้ากระดูกดำ ระบอบทักษิณย่อมเดือดร้อน

 

ทางเลือกที่รัฐบาลมีอยู่ตอนนี้คือ

 

1. ขายข้าว – เป็นวิธีมาตรฐานที่ง่ายที่สุด ก็คือมีข้าว 10 กว่าล้านตัน ก็ขายออกไป เอาเงินมาให้ชาวนา ง่ายแต่นั้น แต่เรื่องนี้มีปัญหาหลักได้แก่

 

- ข้าวมีอยู่จริงหรือไม่ – จากที่ทราบว่ามีการทุจริต หิ้วข้าว ออกไปจากระบบฟรีๆ อย่างต่อเนื่อง แล้วจริง 10 กว่าล้านตัน แต่มีจริงๆ กี่ตัน ตรงนี้ถ้าความแตก ก็เป็นเรื่องอีก

 

- คุณภาพของข้าวที่จะขาย – อาจจะมีการปลอมปน ต่างๆ ทำให้มีผลต่อราคาข้าวก็จะลดลงไป G2G ไม่ต้องพูดถึง เพราะพอคนรู้ว่าเป็นข้าวที่ขายโดย รัฐบาลไทยเอง คนก็ไม่เชื่อในคุณภาพของข้าวแล้ว เพราะรู้ว่าทุจริตกันมากขนาดไหน หากจะขายก็ต้องขายราคาขยะๆ กันเลย เพื่อเอาแค่เงินสด พูดง่ายๆ แบบชาวบ้านคือ กำขี้ดีกว่ากำตด แต่ขี้นี่คือขี้จริงๆ พร้อมกับหนี้ที่ต้องจ่ายรัฐบาลต่อ

 

- Speed – อันนี้สำคัญที่สุด จากที่สถาบัน TDRI บอกว่า ระบายข้าวตอนนี้ได้เร็วที่สุดคือได้เงินมา 10,000 ล้านบาท ต่อเดือน อย่างมาก ดังนั้น ถ้านับกับคร่าวๆ ใบประทวนใบสุดท้ายในรอบนี้ที่จะได้รับการจ่ายเงินจำนำ ก็น่าจะอยู่ในช่วงสงกรานต์ “ของปีหน้า”

 

2. กู้เงิน – จากที่เห็นชัดๆ กันอยู่ว่าข้าวยังไงก็ขายไม่ทันแน่ๆ หรือทำให้เกิดแผลเปิด มาก วิธีที่ดี ที่เร็วที่สุดก็คือ กู้ แล้วจะกู้ใคร

 

- ธนาคารเอกชนภายในประเทศ ไม่มีทางเพราะการกู้ครั้งนี้เป็นเงินกู้ที่เป็นหนี้เสียแน่นอน คนให้กู้ก็ต้องอยากกู้และได้ดอกเบี้ย แล้วรัฐบาลมีปัญหาหาให้ทั้ง

สองอย่างนี้หรือไม่ รับรองเจอผู้ถือหุ้นเอาตาย และเจอคนแห่ถอนเงิน

 

- ธนาคารรัฐ ก็เช่นกัน ก็เป็นธนาคารเหมือนกัน แถมสหภาพแรงงานเข้าไปให้ คนเขาก็ต้องปกป้องเงินของเขา ไม่เอาไปเป็นหนี้เสียแน่นอน

 

- กู้กองทุนบำนาญข้าราชการ กองทุนประกันสังคม กองทุนสลาก ทั้งหมดนี้ มีนักกฎหมายของฝ่ายตรงข้ามรอเล่นงานอยู่ และมีเจ้าของเงิน ก็คือทั้งข้าราชการบำนาญ และ ประชาชนผู้จ่ายประกันสังคมรอออกมาจัดการถ้าไปแตะ ซึ่งถามว่าจริงๆ จะแตะได้มั้ย ถ้ากล้าออกเป็นมติ ครม. ได้ กองสลากก็อาจจะยอม เพราะไม่มีเจ้าของเงินตัวจริงชัดเจน แต่รัฐบาลก็ต้องพร้อมที่จะทำผิดกฎหมาย เสียสละติดคุก เอาเงินมาให้ชาวนา ซึ่งรัฐบาลนี้ ไม่ใจ Sport ขนาดนั้นแน่นอน

 

สรุป ในประเทศแทบไม่เหลือแหล่งจะกู้ได้ แล้ว จะหันไปพึ่งใครดี ก็ต้องดูต่างประเทศ ก็ต้องถามว่า การที่สถาบันหรือแหล่งเงินจากต่างประเทศจะให้กู้เงิน เป็นหมื่นๆ ล้านหรือแสนล้านมาจ่ายชาวนานั้น ก็จะต้องมี การ “แลกกัน” แล้วการแลกที่ว่าจะเป็นอะไรได้บ้าง หลักๆ ก็คือการเอาทรัพย์สินของชาติไปค้ำประกัน แล้วประชาชนที่ทราบจะยอมหรือไม่ หรือยิ่งกว่านั้นคือ Make Deal เช่นเอาบ่อก๊าซไปเลย แล้วเอาเงินมา

 

ซึ่งจะทำอะไรแบบนี้ ก็ผิดกฎหมายเห็นๆ เนื่องจากเป็นรัฐบาลรักษาการ

ตรงนี้ก็ต้องย้ำอีกรอบว่าที่รัฐบาลบอกว่า เป็นความผิดของ กปปส. ที่ทำให้รัฐบาลยุบสภา เราก็คงจะจำกันได้ว่า ในวันที่เราออกมาเดินกันเป็นล้านนั้น เราไม่ได้สนใจว่าปูจะยุบสภาหรือไม่ เราต้องการให้เธอไปต่างหาก แล้วก็ไม่ได้มีการกดดันให้ใครยุบสภา ในวันนั้น

 

ชาวนาก็จำได้ว่า การผัดผ่อนหนี้นั้นเกิดก่อนการชุมนุม จะหลอกเขาตรงนี้ไม่ง่ายแล้ว

 

ที่แน่ๆ คือก่อนจะยุบสภาแทนที่จะ Clear ทุกอย่างให้จบรวมทั้งกู้ 130,000 ล้านให้เรียบร้อยก็ไม่ทำอีก “ลืม”

 

เป็นการย้ำ สุดยอดแห่งความ “ชั่ว” และ ความ “โง่” ของคนในระบอบทักษิณได้ชัดเจนมากขึ้น

 

3. รีบกลับมาเป็นรัฐบาลเต็มรูปแบบโดยเร็ว – การกลับมาเป็นรัฐบาลที่ถูกต้อง สมบูรณ์จะทำให้ ข้อจำกัดในการกู้เงิน หรือ Move เงินต่างๆ จบลง โยกงบโน้นมาปะงบนี้ได้ แต่ “ความเป็นจริง” ก็คือ การเลือกตั้งที่ยังไม่จบนี้ โดยเฉพาะในภาคใต้ จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก และเมื่อเวลาค่อยๆ ผ่านไป การเลือกตั้งก็ไม่เสร็จเสียที ชาวนาก็จะเพิ่มแรงกดดันขึ้นเรื่อยๆ – และต่อให้กลับเข้ามาได้ โครงการนี้ก็อยู่ใน Radar ปปช. เรียบร้อย แล้ว การที่จะทำอะไรกับกองเงินจะยากมากๆ ถ้ายังอยากจะมีแผ่นดินอยู่ในประเทศไทยสำหรับรัฐมนตรีแต่ละคน

 

สรุป จะขายข้าว จะกู้ หรือ จะกลับมาเป็นรัฐบาลก็ไม่ง่ายสักอย่าง แต่โดย ยังไงก็ต้องหาเงินมาจ่ายชาวนาให้ได้ เพราะถ้าไม่รีบแก้ปัญหานี้โดยเร็ว ปล่อยทุกอย่างลุกลามไปถึง Q2 ของปีนี้ รับรองได้ว่า จะ “เป็นสงกรานต์เลือดสาด” ที่ชาวนาจะเริ่มใช้กำลัง เพราะเขาไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว และพรรคเพื่อไทย ก็น่าจะปิดประตูการเป็นพรรคใหญ่ไปตลอดกาลพร้อมกับการสิ้นสุดของมหาทรราชชื่อทักษิณ ชินวัตร

 

แต่จริงๆ หากลอง เอาตนเองเป็นพรรคเพื่อไทย แล้วลองมองดูแหล่งเงินรอบๆ ตัว ที่มีเงินมหาศาลขนาดนั้น ก็เหลือเพียงแหล่งเดียวที่จะมีเงินถึง 130,000 ล้าน ก็คือ

 

“สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์”

 

สิ่งที่พรรคเพื่อไทยอาจทำก็คือ อาจจะไปขอกู้ สร้างแรงกดดันให้กับสำนักงานทรัพย์สิน แล้วถ้าสำนักงานทรัพย์สินไม่ให้กู้ ก็จะมองเป็นเรื่องของ อำมาตย์ ไม่ช่วยชาวนา เป็นการโยนบาปไปแปดเปื้อนพระองค์ท่านอีก

 

เชื่อหรือไม่ว่าพรรคนี้ สามารถคิดชั่วได้ขนาดนั้น? ถ้าไม่เชื่อขอให้ระวัง เพราะเขา Surprise เรามาหลายรอบแล้ว – สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์อาจจะต้องคิดวิธีรับมือเชิง PR ได้ก่อน

 

-PR Machine: โยนความผิดให้คนรอบตัว-

 

เรื่องสำนักงานพระมหากษัตริย์ อาจจะเป็น Scenario ที่ โหดไปนิด แต่ของแบบนี้กันไว้ดีกว่าแก้

 

เมื่อถึงเวลาที่รัฐบาลเข้าตาจนมากๆ การเริ่มโยนความผิดจะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดย Automatic

 

จากวิดีโอรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ของสรยุทธ์ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2557 เราก็เริ่มเห็น “ลาย” ของสุนัขรับใช้ระบอบทักษิณชื่อ ยรรยง พวงราช ว่าแท้จริงแล้ว ระบอบทักษิณมองชาวนาเป็นอะไรกันแน่

 

http://t.co/9BCuzx8PfRไม่ได้มีอะไรมากกว่าดินที่ไว้เหยียบย่ำ ไว้เพราะปลูกเอาพืชพล ว่างๆ ก็เอาเท้าลูบ ถ่มน้ำลายใส่ หรือถ่ายใส่เท่านั้นเอง (โดยเฉพาะดูนาทีสุดท้าย)

การปล่อย Propaganda หรือ ข่าวลวงโดยรัฐบาล จะมาพร้อมกับคำพูดโกหกต่อไปนี้

 

“ชาวนาปลอม” – คนที่มาเป็นพวกที่จะมาหาผลประโยชน์ ไม่ใช่ชาวนาจริง มาหลอกชาวนาให้เดินขบวน แล้วก็มาไถรัฐบาล

 

“ชาวนาส่วนน้อย” – ชาวนาคนอื่นๆ เขาได้เงินไปหมดแล้ว ที่มานี่เป็นคนส่วนน้อย ของประเทศ

 

“พวกกปปส.แปลงร่างมา” – เห็นใส่นกหวัด ถือธงชาติมาก็เป็น กปปส. ไปแล้ว ตอนนี้รัฐบาลเห็นธงชาติไทยไม่ได้ (เหมือนกับเห็นข้าศึก ก็ต้องถามต่อว่าคุณเป็นคนไทยหรือเปล่า พอเห็นธงเขมรอาจจะดีใจก็ได้) – กลยุทธ์นี้จะทำให้ชาวนา ไปร่วมกับ กปปส. มากขึ้น ประมาณว่าถ้ามึงด่ากู ก็ก็จะเป็นแม่งซะเลย

 

“ทำนาไมได้ผลก็มาทุกปีอยู่แล้ว” – อันนี้ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Downplay คือทำให้ดูเป็นเรื่องทั่วๆ ไปเสีย

 

ตรงนี้ เชื่อว่าภายในเดือนนี้ รัฐบาลจะเล่นตรงนี้มากๆ โดยเฉพาะผ่านช่องหอยม่วง

 

ผลคือ จะทำให้ชาวนาทั่วประเทศเดือดดาลมากขึ้น แต่ทำให้รัฐบาลซื้อเวลาไปได้เล็กน้อย เหลือให้คนที่ยังรักเสือแดงอยู่มาปกป้องรัฐบาล

 

ซึ่งเวลาคุยกํนก็จะเป็นการโทษกปปส. อีก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด

 

"ชาวนาไม่สนใจว่าทำไมรัฐบาลถึงหาเงินมาไม่ได้ ชาวนาสนใจแค่จะได้เงินเมื่อไหร่ เท่านั้น"

 

-แตกเป็นเสี่ยง: สถานการณ์ภายในพรรคเพื่อไทย-

 

เป็นที่รู้กันว่าการโกงจำนำข้าวนั้น คนที่รับกันพุงปลิ้นเลยคือเจ๊ ด. แต่ไม่ได้แบ่งใคร – ขณะนี้ สส.พรรคเพื่อไทย ที่เพิ่งได้รับเลือก และไมได้รับเลือกเข้ามา จากการเลือกตั้งคราวที่แล้ว คือ “หนังหน้าไฟ” ที่จะต้องรองรับอารมณ์จากชาวนา ที่พร้อมจะทำอะไรหลายๆ อย่างรวมทั้งการใช้กำลังอย่างแน่นอน ถ้ารัฐบาลไม่ยอมใช้เงินโดยเร็ว

 

สส.เหล่านี้คือ ลิ่วล้อ เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง เอากระดูกมาแขวน คอ และกำลังจะเอาชีวิตเป็นเดิมพัน กับชาวนา ซึ่งตอนนี้ไม่มีคำตอบอะไร

 

ทางเลือกที่แท้จริงอีกอย่าง ที่อาจารย์อัมมาร สยามวาลา เคยพูดว่า “คนที่กินไปต้องคายออกมา” ก็คือ หมายถึง คนที่โกงเงินจำนำข้าวไป ต้องเอาเงินส่วนนั้นออกมาให้ชาวนาได้แล้ว

 

และขอให้เชื่อว่า เรื่องนี้มีการคุยกันในพรรคเพื่อไทยแน่นอน

 

แต่ใครจะเชื่อ หัวหน้าแก๊งค์จะยอมคายอะไรออกมา ไม่มีทาง แม้จะเป็นการช่วยชีวิตของลูกน้องก็ตาม

 

“เงิน” ในเชิงการเมืองคือกระสุนที่ใช้ในการรบ หากจ่ายเงินก้อนนี้ไป แล้วในอนาคตจะเอาที่ไหนไปซื้อเสียง ทำประชานิยมสร้างบุญคุณกับคนได้อีก จ่ายไปก็ล่มสลาย ดังนั้น พวกลิ่วล้อ พวกมึงไปแก้ปัญหากันเอาเองก็แล้วกัน

นี่คือความระส่ำระสายในเพื่อไทย ประมาณว่า นครพระเจ้ามูลเมืองใกล้แตกเต็มทน

 

โดยภาพรวม หากเล่นกันตรงไปตรงมา พรรคเพื่อไทยไม่มีทางเลือกมากนัก

การลาออกเป็นไปไม่ได้ เพราะการหลุดออกจากอำนาจรัฐจะทำให้เกิดการเช็คบิลทันที

 

ก็เหลือทางสุดท้ายทางเดียว ก็คือ การก่อจลาจล แล้วเอาทหารของตัวเอง ที่เป็นแตงโมออกมาลุย

 

แต่บอกตรงๆ Option นี้ก็รอดยากอีก เพราะทหารเขาก็รู้ตัวเห็นตัว มัดตราสังข์กันเองหมดแล้ว

 

สรุปจริงๆ ผมเองพยายามมองตัวเองเป็นพรรคเพื่อไทย ไม่เห็นแนวทางใดที่จะแกะปมอันนี้ออกได้เลย นอกเสียจาก ซื้อเวลาไปเรื่อยๆ แล้วไปหาแนวทางเอาดาบหน้า รอสถานการณ์ปรับเปลี่ยนมาเข้าทางเผื่อมีปาฏิหาริย์

ทีนี้มาลองดูสถานการณ์โดยรอบพรรคเพื่อไทยดู

 

-เอกชนทิ้ง-

เพื่อนๆ ที่เป็นนักธุรกิจแดงตอนนี้เงียบหมดถ้าถามเรื่องจำนำข้าว บอกได้คำเดียวว่ายังไงก็ต้องจ่าย แต่นั่นคือเมื่อเดือนที่แล้ว ตอนนี้ ก็จะสี่เดือนเข้าไปแล้ว ตอนนี้ฝ่ายที่เป็น Back เสื้อแดงจ๋าๆ เงียบลง

 

-นปช.เงิบ-

จัดชุมนุมใหญ่ ตอนนี้ลองจัดดู สักจังหวัด แล้วดูว่าจะมีคนมาชุมนุมสักกี่คน แถลงข่าวที่อิมพีเรียลลาดพร้าวทีโคตรกร่อย ลองจัดชุมนุมอยุธยาดูแล้วดูกันก็ได้ รับรองได้ว่าชาวนาจะเดินไปหา เพราะเมื่อ “วิกฤติปากท้องเข้ามา ประชาธิปไตยวิปริตก็เป็นเรื่องรองไป”

 

-ตำรวจเกียร์ว่าง-

ตำรวจคือนกรู้ ศรส.ตอนนี้ก็นั่งกันอยู่แค่ 2 คนเหลิม บวก ปึ้ง แล้วมีธาริต ออกมาปล่อยจี๊ดเล็กน้อย แจ๊ด กับอดุลย์แทบไมได้เห็นหน้าแล้ว เพราะรู้แล้วว่า รัฐบาลกำลังเพลี่ยงพล้ำหนัก จากจำนำข้าว มีหมายจับออกมาแล้ว เมื่อวานนี้หลวงปู่พุทธอิสระนั่งคุยกับนักข่าวเป็นทีมใหญ่ มีการ์ดคนเดียว ยังไม่กล้าเข้าไปจับเพราะไม่อยากมีเรื่อง – ใครจะเอาตัวไปแลกกับรัฐบาลที่คนกำลังจะมารุมกระทืบ

 

-สื่อจัดเต็ม-

ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นสื่อไหนๆ ทั้ง Free TV ทั้งวิทยุ ทั้งหนังสือพิมพ์ ประเภทที่เหยียบเรือสองแคมทั้งหลาย เล่นเรื่องนี้แบบไม่ยั้ง เพราะถ้าไม่เข้าข้างชาวนางานนี้ ภาพของสื่อนั้น คือ “เลวถ่อยสถุลย์” แน่นอน แม้กระทั่ง จส.100 ที่มีคนฟังทั่วประเทศยังเล่นเรื่องนี้ ไม่ยั้ง (วันนี้) เพราะในที่สุด เราต้องเข้าใจว่า สื่อคือ ธุรกิจ อะไรที่เป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ และมี Drama จะขายดีมาก

 

ตอนนี้มีชาวนาเสียชีวิตไป 4 ศพ จากจำนำข้าว วันนี้ที่ จส.100 มีชาวนาผู้หญิงโทรเข้ามาร้องไห้ บอกว่ามีชาวบ้านบางคนดูเงื่อนไขสัญญาประกันชีวิตของ ธกส. ว่าถ้าตาย จะได้เงิน แสนนึง พร้อมค่าทำศพ เลยพิจารณาว่า จะฆ่าตัวตายดีหรือไม่ เพราะผ่านช่วงเงื่อนไขห้ามฆ่าตัวตายไปแล้ว อย่างน้อยถ้าตาย ครอบครัวจะได้สบาย

 

เจอประเด็นขนาดนี้เข้าไปคนน้ำตาร่วงทั่วแผ่นดิน และสามารถด่าได้ชัดเจนว่ารัฐบาลแม่ง “ชั่ว”

 

ล่าสุดก็มีการขยายข่าวออกไปว่า “นายกให้เห็นใจรัฐบาลบ้าง แต่นายกยังมีข้าวกิน วันนี้ชาวนาไม่มีข้าวกินแล้ว นายกเห็นใจชาวนามั้ย”

 

สรุป สื่อที่ปกติคุมได้สนิท ตอนนี้ หลุดหมด คุมอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้มีช่องเดียวที่รัฐบาลคุมได้คือ คือช่อง “หอย” เท่านั้น

 

โดยร่วมๆ รัฐบาล ค่อนข้างจะ Cluster _ucked มืดแปดด้าน

 

The Next Move: กปปส.

 

ทีนี้มาลองดู กปปส. บ้างว่าเป็นอย่างไร

 

ความจริง ที่เราต้องมอง กปปส. คือเราต้องดู Demographics ของเราก่อน หากมอง กปปส. เหมือนองค์กร องค์กรหนึ่งก็ต้องมองว่าองค์กรนี้ประกอบด้วยบุคคลที่มี ลักษณะอย่างไร เอาง่ายๆ มาลอง SWOT กับสถานการณ์ นี้ดูก็ได้

 

ผมชอบบอกลูกศิษย์เสมอ ว่าเวลาเราจะทำ SWOT นั้น เราต้องทำให้ตัวแปรเชิงสถานการณ์นิ่งก่อน

 

สถานการณ์ตอนนี้ คือการไล่รัฐบาลให้หมดจากอำนาจ นี่คือเป้าหมายหลักของเรา

 

แล้วเราก็มา SWOT กัน ณ วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2557

 

Strength – ความแข็งแกร่ง

กปปส. ของเราคือคนทำงานคนชั้นกลาง สิ่งที่เราแข็งแกร่งแน่ๆ มีดังต่อไปนี้

 

-เงิน- ถ้า กำนันสุเทพบอกเดี๋ยวนี้ว่าจะเอาเท่าไหร่ บัญชีไหน บอกเดี๋ยวกดมือถือโอนให้ได้ ทั้งนั้น ทั่วประเทศ เงินหลักพันหรือหลักหมื่นของผู้ชุมนุมหลายๆ คนคือเรื่องเล็กๆ หากรวมทรัพย์สินของ สมาชิก กปปส. เข้าด้วยกัน บอกได้เลยว่า มากกว่าระบอบทักษิณอย่างแน่นอน เงินมีคนละเป็นล้าน มีกันสักล้านคน ลองนับดูเองว่าเท่าไหร่ แล้วจริงๆ มีกันกี่ล้าน

 

-ข้อมูลข่าวสาร- เรามีนักวิชาการเพียบแล้วเรามีสายอยู่ในกระทรวงต่างๆของรัฐบาลเพียบ รัฐบาลทำอะไรเรารู้ก่อนเสมอ เพราะข้าราชการที่ส่งข่าวให้เรามีตลอด แล้วเรายังมีข้อมูลเรื่องการโกง เรื่องเศรษฐกิจต่างๆ มากมาย ที่พร้อมบริการ

 

-เทคโนโลยี- ตั้งแต่เวที การใช้เครื่องมือสื่อสาร ระบบ IT ต่างๆ เรามีพร้อมที่จะสนับสนุนการเคลื่อนไหว

 

-การสื่อสาร – เรามีคนที่จะสร้างสารได้ทั้งไทย ทั้งอังกฤษ พร้อมที่จะคุยกับคนทั่วโลก ส่งข้อความไปในระบบถ่ายทอดต่างๆ

Weakness

 

-กำลังคนในถนน – เราทุกคนส่วนใหญ่เป็นคนทำงาน กินเงินเดือน นั่งห้องแอร์ ถ้าร้อนๆ ไม่กล้านั่ง เหนื่อยง่าย

 

-เวลา – พอต้องทำงาน มักก็ไปได้บ้าง ไม่ได้บ้าง ไม่ได้อยู่ตลอดเวลาทำให้มีปัญหา

 

Opportunity

โอกาสกำลังมาทางเรา เพราะรัฐบาลกำลังอ่อนแอถึงที่สุด

 

Threat

ตัวเราเองประท้วงแบบปิดถนน สงบ สันติ อหิงสา ไม่ได้ผลแน่นอน เราลองมาสามเดือนแล้ว คนออกมาอีก 10 ล้านก็ไม่ไปแน่ แล้วเราก็ไม่รู้จะยกระดับไปอย่างไรด้วยตัวเอง

 

Solution: กปปส. Sponsor ชาวนา

 

โดยสรุปหากเราดู SWOT ของ กปปส. เราก็คือฝ่าย บุ๋นนั่นเอง เราบู๊ไม่เป็นหรอก

 

ถึงแม้เราจะมีชาวบ้านมาอยู่กับเราแต่ลองดูจำนวน ก็ร่อยหรอลง และส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ตาม Weakness ที่เห็น หากเป็นอย่างนี้ต่อไป เราจะกร่อยแล้วแกนนำเราจะเป็นอันตราย

 

เราอย่าไปนับทหารว่าเป็นบู๊เพราะเขาต้องคุมเชิง ขืนเขามาบู๊กับเรา ก็จะมีปัญหาภาพการปฎิวัติอีกทหารต้องเคลื่อนที่อย่างระมัดระวังมาก

 

และต้องพูดตรงๆ คือทหารก็ต้องคุมความประพฤติของการ์ดเราด้วย เราเองก็ไม่ได้มีระบบการจัดกำลังคนแบบที่ดีเป็นระเบียบมากเท่าใดนัก ความผิดพลาดทำร้ายคนไปก็มี

 

ข่าวดีคือ ชาวนา ฝ่ายบู๊ นั้นขาดสิ่งที่เรามี และเรามีในสิ่งที่ชาวนาขาด จะเป็นการรวมกำลังที่ “สุดยอด” แต่เราต้องมีแผน

 

1. ความสัมพันธ์ – เราเป็นกองหลัง ชาวนาเป็นกองหน้าและผู้นำ - กำนันสุเทพพูดชัดเจน ว่า เราต้องไม่แทรกแซง เราต้องไม่นำเขาเราอยู่ในฐานะ Sponsor ให้ชาวนาตัดสินใจ เราตัดสินใจตามที่ชาวนาต้องการ ชาวนาลุย เรา Back ชาวนาถอย เราช่วย

 

2. เราสนับสนุน ปัจจัย 4 - ให้ชาวนาอยู่ได้ พร้อมกับค่าเดินทางให้มากรุงเทพ ใครอยากมา ออกค่าน้ำมันให้เลย ไปพามาเลย

 

3. เราสนับสนุนการให้ข้อมูลข่าวสาร - พอชาวนามานั่งทวงข้าวหน้าเวทีเราเราก็เริ่ม Lecture ให้ชาวนาฟัง เพิ่มความรู้ให้ชาวนา อย่าลืม กรุณาใช้ภาษาง่ายๆ อย่าเป็นเรื่องวิชาการเวอร์ๆ มากนัก

 

4. เราสนับสนุนด้านกฎหมาย – หากจะฟ้องจะฟ้องอย่างไร ฟ้องที่ใคร ประชาธิปปัตย์ ทำได้อยู่แล้ว

 

5. เราสนับสนุนให้โอกาสชาวนาได้มีเสียง - ให้ชาวนามาพูดบ้าง ออกเวที เราเองที่เป็นคนเมืองกินข้าว ไม่เคยรู้จักวิถีชีวิตของชาวนามาก่อนเลย

ผลลัพธ์ ที่น่าจะเกิด

 

- ยิ่งบรรยากาศดี มีอาหารกิน อยู่ได้เรื่อยๆ ชาวนาจะยิ่งมา จำนวนจะมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็จะมาพร้อมกับการจัดการที่ต้องเป็นระบบเช่นกัน เพราะเคยมีความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว การ์ด กปปส. เองก็ทำร้ายคนไป ผิดตัวมีพอควร

 

- ความสัมพันธ์ อันดีระหว่างเรา กับชาวนา จะมีมากขึ้น กปปส. เป็นการเรียนรู้ระหว่างกัน รัฐบาลที่บอกตัวเองมาตลอดว่าเป็นตัวแทนคนชั้นล่าง จะถุกล้อมโดยคนชั้นบน ระดับปัญญาชน และคนชั้นล่างคือชาวนาให้ขยับไม่ได้

 

- พละกำลังของ กปปส. จะมีทิศทางที่ชัดเจน มีความชอบธรรม มากขึ้น เพราะเราสู้เพื่อคนจน

 

- ในขณะเดียวกันก็ต้องตรวจสอบการกู้เงินของรัฐบาล ว่าจะมีผิดกฎหมายหรือไม่ ปิดให้หมด

 

- ระหว่างนั้นต้องสัญญากับชาวนา และมีแผนที่ชัดเจนว่าจะได้เงินคืนอย่างไร หากรัฐบาลไปแล้ว แผนนี่ต้องชัดเจน จับต้องได้โดยเฉพาะเรื่องจำนวน และเวลา เพราะหากทำไม่ได้ ชาวนาจะ “ฆ่าเรา” แทน

 

ถึงตรงนี้ แกนนำกปปส. ที่จะระดมทุนต้องคิด แผนการเหล่านี้ให้รอบคอบ เพราะเวลาแห่งการยกระดับการชุมนุมจริงๆ มาถึงแล้ว และขุนพลตัวจริง พร้อมขวานตัดหัวระบอบทักษิณ อยู่ใกล้แค่เอื้อม

 

โดยส่วนตัว หากมองในเรื่องของเวลา ต้องให้สถานการณ์สุกงอมมากกว่านี้สักเล้กน้อย อาจจะเป็นสงกรานต์

 

หากเราไม่ไปช่วย Organize ให้ชาวนา ชาวนาอาจจะดำเนินการเองแบบสะเปะสะปะ และอาจไม่สงบ ถึงขนาดมีการจลาจลเผาเมือง แล้วรัฐบาลก็จะใช้กำลังเข้าปราบอาจจะต้องเสียเลือดเนื้อ และถึงตอนนั้นถึงทหารออกมาก็ไม่คุ้ม

 

แต่หากเรามีการ Organize ให้ชาวนา จัดชุมอย่างเป็นระบบ ชาวนาจะเป็นกำลังสำคัญมากในการล้มรัฐบาล โดยไม่ต้องมีใครเจ็บใครตายอีก

 

พร้อมๆ กับบรรยากาศดี ดนตรีไพเราะ

 

Enemy of my Enemy is my friend

 

อย่างน้อยก็จนกว่าเป้าหมายของการโค่นระบอบทักษิณจะจบสิ้นลง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สำรวจโลก

วันมาฆบูชา เป็นวันสำคัญของชาวพุทธเถรวาท

 

วันมาฆบูชา มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "วันจาตุรงคสันนิบาต" เพราะเป็นวันที่พระพุทธองค์ประทานหลักโอวาทปาฏิโมกข์ อันเป็นหัวใจของพระธรรม แก่พระอรหันตสาวกผู้เป็นเอหิภิกขุทั้ง 1,250 องค์ ที่มาประชุมพร้อมกันเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าโดยมิได้นัดหมายในวันมาฆปุรณมี

ในปี พ.ศ. 2557 นี้ วันมาฆบูชาตรงกับ วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ ตามปฏิทินสุริยคติ

 

สร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ กับ www.nextsteptv.com

Critical tabaung is Theravada Buddhist.

 

Makha bucha day Contains titles, also called "the day chatunngok League" because it served as the primary discourse therefore o Pai ti mok is the heart of God's phikkhu อรหันต, who is a disciple of the elements hi 1250 meeting simultaneously into Buddhahood without appointment for this coming, there has to be an khapu in 2557 (2014) makha bucha day falls on Friday, February 14 according to the Gregorian calendar.

 

Creating the learning society with www.nextsteptv.com (Translated by Bing)

 

 

1653326_10152162537532226_1428952150_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บอกรัก

วันนี้เพื่อนๆ บอกรักประเทศไทยหรือยัง

รักใดจะเท่า เรารักประเทศไทย

1796663_628102153912238_1928988210_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Nation Channel

ตร.ที่เคลียร์พื้นที่ฝั่งสะพานมัฆวานฯ

=====

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

viteehangkwamruk.jpg

ความเป็นมนุษย์ที่แท้ บนวิถีแห่งความรัก

พระไพศาล วิสาโล

เนชั่นสุดสัปดาห์ (ฉ.1129) รายงานพิเศษ

ภาวินี อินเทพ เรื่องและภาพ

จากงานแนะนำ โครงการอุทยานการเรียนรู้แห่งความรักและสันติภาพ 'พิพิธภัณฑ์แม่' (Mother's Spiritual Museum)

 

แบ่งปันบน facebook Share

คนเราไม่ได้อยู่ด้วยข้าวปลาอาหารเท่านั้น เราจะต้องอาศัยสิ่งอื่นด้วย และหนึ่งในบรรดาสิ่งที่จำเป็นต่อชีวิต ต่อความเป็นมนุษย์ของเราก็คือ ความรัก

ที่จริงแล้ว หากปราศจากความรัก แม้แต่ข้าวปลาอาหารเพื่อความอยู่รอด ก็คงจะเกิดขึ้นได้ยาก มนุษย์เราไม่เพียงแต่ต้องการความอยู่รอดเพื่อการดำรงชีวิตเท่านั้น แต่ว่ายังต้องการความสุขและความเจริญงอกงาม

ความรักนั้นทำให้ความเป็นมนุษย์เกิดขึ้นได้ เป็นไปได้และเจริญงอกงาม ถ้าปราศจากความรักแล้ว กล่าวได้ว่า ความเป็นมนุษย์ก็ไม่อาจจะเกิดขึ้นได้ด้วยซ้ำ

อานุภาพของความรักจะเห็นได้ชัดก็ต่อเมื่อ เรานึกถึงความรักของแม่ ปราศจากความรักของแม่ แม้เราจะสามารถเกิดขึ้นมาได้ในโลกนี้ แต่ก็ไม่สามารถจะอยู่รอดได้ หลายชีวิตหลายคนปฏิสนธิขึ้นมา อาจจะไม่ใช่เพราะความรักของพ่อแม่ แต่เมื่อปฏิสนธิและเมื่อได้ลืมตามาดูโลกแล้ว ความรักของแม่เป็นพลังสำคัญที่ทำให้อยู่รอดได้

เมื่อเราได้ลืมตาดูโลก เราไม่สามารถจะรับอาหารอื่นใดได้เลย นอกจากน้ำนมของแม่ ถ้าปราศจากน้ำนมของแม่แล้ว แม้เพียงแค่จะมีชีวิตให้อยู่รอดก็เป็นไปได้ยาก ความรัก ไม่ได้เพียงช่วยทำให้เรามีชีวิตอยู่รอดและเติบโตเท่านั้น นอกจากกายจะเติบใหญ่แล้ว ใจของเรางอกงามได้ ก็เพราะความรักของแม่ทำให้จิตใจของเราได้รับการเติมเต็ม ใจที่ปราศจากความรัก ใจที่ไม่ได้รับความรักซึ่งมีจุดตั้งต้นจากแม่ ย่อมเป็นใจที่พร่อง ที่ขาด และต้องการได้รับการเติมเต็ม

ความรักของแม่ยังปลุกพลังบวกในใจเรา คนเราทุกคนล้วนแล้วแต่มีพลังบวกอยู่ในใจ เช่น คุณธรรม ความใฝ่ดี อาตมาเชื่อว่า คุณสมบัติดังกล่าว เกิดขึ้นมาพร้อมกับความเป็นมนุษย์ แต่ว่าคุณสมบัติดังกล่าวไม่สามารถที่จะมีพลังได้ หากปราศจากการปลุกกระตุ้นด้วยความรัก และความรักของคนที่สามารถจะกระตุ้นพลังบวกในใจเราให้มีอานุภาพอย่างยิ่ง ก็คือ ความรักของแม่

เมื่อใดก็ตามที่เราขาดความรัก ใจเราย่อมรู้สึกขาดพร่อง โหยหา และเป็นทุกข์ มีบุคคลจำนวนไม่น้อยที่ไม่ได้รับความรักจากแม่ หลายคนกำพร้าพ่อ หลายคนกำพร้าแม่ และหากไม่ได้รับความรักจากคนที่เป็นตัวแทนของแม่แล้ว ก็เชื่อได้เลยว่า เขาจะรู้สึกโหยหา อาจจะเป็นความโหยหาที่สืบเนื่องมาทั้งชีวิตหรือตลอดชีวิต จะคอยเรียกร้องความรักอย่างไม่มีวันหยุดหย่อน คนเหล่านั้น ถ้าหากว่าเราสืบสาวไปจะพบว่า จุดเริ่มต้นคือ การไม่ได้รับความรักของแม่ มันทำให้เกิดบาดแผล ทำให้จิตใจต้องการการเยียวยา และหากไม่มีบุคคลใดที่จะมาเป็นผู้แทนหรือตัวแทนของแม่แล้ว ก็จะนำไปสู่ความโหยหาอย่างไม่สิ้นสุด แม้กระทั่งในวัยชรา

เมื่อขาดความรักที่มีจุดเริ่มต้นจากแม่ คนเราย่อมเป็นทุกข์ เป็นทุกข์เพราะความโหยหา เป็นทุกข์เพราะความรู้สึกพร่องหรือเป็นทุกข์ เพราะรู้สึกตนเองไม่มีคุณค่าเพียงพอที่จะได้รับความรักจากแม่ ก็จะโบยตีซ้ำเติมตัวเอง หลายคนมีบาดแผลเมื่อพบว่าแม่ได้ทิ้งเขาไป อาจทิ้งเพราะเหตุจำเป็น หรือทิ้งเพราะว่าความตายได้พรากไป แต่สำหรับเด็กที่ปราศจากความรักของแม่แล้ว จะรู้สึกเสมอว่า เป็นเพราะเขาไม่มีคุณค่าเพียงพอที่แม่จะอยู่เพื่อรักเขา คนที่รู้สึกเช่นนี้ย่อมมีความทุกข์อย่างยิ่ง และต้องใช้เวลานานกว่าที่จะก้าวข้ามบาดแผล หรือสามารถที่จะกลับมามองเห็นคุณค่าตัวเอง

เมื่อปราศจากความรัก เราย่อมขาดพลังในการทำความดี ความใฝ่ต่ำย่อมครอบงำง่าย คนเราเมื่อเกิดมา แม้มีพลังแห่งความดีติดตัวมาแต่กำเนิด แต่พลังลบหรือพลังแห่งความใฝ่ต่ำก็มาด้วยเหมือนกัน

ใครก็ตามที่ได้รับความรักแม่เป็นจุดเริ่มต้น พลังบวกหรือพลังแห่งความดีก็จะได้รับการกระตุ้นเร้าโดยสามารถที่จะครอบงำหรือมีชัยต่อพลังที่ใฝ่ต่ำได้ แต่หากปราศจากความรักของแม่เสียแล้ว ก็เป็นการยากที่พลังความดีจะได้รับการกระตุ้นเร้า มีพลังที่จะสามารถจะต้านทานพลังแห่งความใฝ่ต่ำได้

นั่นก็หมายความว่า ในที่สุดพลังแห่งความใฝ่ต่ำก็สามารถจะครอบงำจิตใจได้ ทำให้มีพฤติกรรมที่เบ่งเบน หรือเป็นคนที่มองผู้คน มองโลกทั้งโลกด้วยความรู้สึกเป็นลบ และพร้อมที่จะทำร้าย

คนที่เป็นฆาตกรหรือผู้ที่ทำร้ายเด็กตัวเล็กๆ ล่วงละเมิดเยาวชนที่อ่อนแอกว่า คนเหล่านั้นหากสาวประวัติไปก็จะพบว่าเป็นเพราะเขาขาดความรักจากแม่ จากตัวอย่างคนซึ่งเป็นข่าวเมื่อเร็วๆ นี้ ที่ไปล่วงละเมิดเด็กหญิงและฆ่าเด็กตัวเล็กๆ ซึ่งไม่รู้ว่ากี่คนแล้ว จุดเริ่มต้นอาจเป็นเพราะเขาไม่ได้รับความรักจากแม่ตั้งแต่เล็ก เพราะเป็นเด็กกำพร้า

ความรักของแม่ทำให้ความดีในใจของเรางอกงามและทำให้ความเป็นมนุษย์ของเราเบ่งบาน ประดุจดอกบัวที่เบ่งบานยามต้องแสงอรุณ เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าเมื่อแม่ได้มอบความรักกับเรา ใจเราย่อมสัมผัสได้ถึงความเมตตา เราย่อมรู้ชาติแห่งเมตตาว่าซาบซึ้งเพียงไร และความซาบซึ้งนี่แหละที่สามารถปลุกเร้าบันดาลความเมตตาในใจของเราให้งอกงามขึ้นด้วยเช่นกัน

นั่นเป็นเพราะแม่เป็นแบบอย่างของความดี ความเสียสละและความสุข เราจึงเห็นคุณค่าของการเสียสละ และรู้จักที่จะทำความดี ปราศจากซึ่งแบบอย่างแห่งความดีแล้ว ยากที่ปุถุชนคนเราจะเห็นความดีมากพอที่จะมอบสิ่งนั้นให้กับผู้อื่น หรือเสียสละเพื่อคนที่ไกลจากแวดวงของเรา

แม่เป็นผู้ที่สอนให้เรารู้จักผิดชอบชั่วดี เพราะแม่อยากให้เราให้เราเป็นคนดี คำสอนของแม่ทำให้เราเกิดความรู้ผิดรู้ชอบ และความรู้ผิดรู้ชอบนั้นแหละนำไปสู่สัมมาทิฐิ เป็นพลังขับเคลื่อนให้เกิดการทำความดี

ดังที่กล่าวไว้แล้วว่า ความรักของแม่ทำให้ใจของเราได้รับการเติมเต็ม และเมื่อใจได้รับการเติมเต็มก็มีความสุข และความสุขนั้น ก็คือสิ่งที่ชะโลมใจและหล่อเลี้ยงความดีให้เจริญงอกงาม ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นได้เพราะแม่ได้อยู่กับเรา ใกล้ชิดเรา แต่ถึงแม้ แม่จะจากไป แต่ว่าแบบอย่างการที่ท่านได้สอนได้เป็นแบบอย่างก็สามารถเตือนใจให้เราอยากทำความดี และมีกำลังที่จะเอาชนะความชั่วได้

...ความรักของแม่ช่วยทำให้เรารู้จักโลก ทำให้เราเกิดพัฒนาการทางสติปัญญา ไม่ต้องอธิบายมากกว่า ก็เห็นชัดว่า แม่เป็นครูคนแรกของเรา คนเราจะเติบโตได้ต้องมีความงอกงามทั้งอารมณ์และสติปัญญา ความงอกงามทางอารมณ์นั้น ทำให้เราใฝ่ดีและมีความสุข ขณะเดียวกันความงอกงามทางสติปัญญาทำให้เราเข้าถึงความจริงของชีวิตและโลก ซึ่งทำให้เราสามารถเกี่ยวข้องและอยู่กับโลกได้อย่างมีคุณค่า และมีความหมาย ผาสุก

ความรักไม่เพียงแต่ประเทืองอารมณ์เท่านั้น แต่สามารถหล่อเลี้ยงสติปัญญาของเราให้เจริญงอกงามได้ ความรักของแม่ทำให้ลูกเกิดการเรียนรู้และพัฒนาตน ที่จริงไม่เพียงเฉพาะความรักของแม่เท่านั้น ความรักของครูก็ทำให้เราเกิดความใฝ่รู้ มีฉันทะในการเรียนรู้ และกล้าสู้สิ่งยาก ความลำบาก ความรักของแม่และครู ย่อมเป็นแรงบันดาลใจให้ลูกและศิษย์ กล้าที่จะสู้สิ่งยาก ไม่กลัวความยากลำบาก และถูกกระตุ้นเร้าให้เกิดความเชื่อมั่นในตัวเอง

ความรักของแม่นั้นในฐานะของความเป็นครู ไม่เพียงแต่ให้คำแนะนำสั่งสอน แต่ยังให้แรงบันดาลใจ มีคำกล่าวว่า 'ครูธรรมดานั้นแค่สอน ครูที่ดีสาธิต ส่วนครูที่ดีที่สุดให้แรงบันดาลใจ'

อาตมาเชื่อว่าหลายคนได้พบแรงบันดาลใจในการที่จะเรียนรู้จากแม่ และจากครู แรงบันดาลใจจะเกิดขึ้นก็เพราะความรัก ทั้งต่อวิชาที่ครูสอนและต่อตัวเด็กเองที่เป็นผู้เรียน หลายคนกลายเป็นครูที่มีความรักต่อศิษย์ มีความรักต่อวิชาที่ตัวเองสอนและทำให้เกิดแรงบันดาลใจใฝ่รู้ เพราะฉะนั้น ความรักและความรู้เป็นสิ่งที่คู่กันด้วย ความรักไม่เพียงเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทำความดีเท่านั้น แต่ความรักนำมาซึ่งความใฝ่รู้และการมีสติปัญญา

ความรักความเมตตาและน้ำใจของผู้คนสามารถปลุกพลังแห่งความดี และทำให้เรามีสติงอกงาม ไม่เฉพาะแต่วิชาความรู้ในโรงเรียนในหนังสือเท่านั้น แต่รวมถึงความรู้เกี่ยวกับชีวิตและโลก เด็กที่หิวโหย หากได้รับน้ำใจได้รับอาหารจากคนแปลกหน้า เขาย่อมซาบซึ้งในคุณค่าของเมตตาและย่อมมีน้ำใจต่อคนที่หิวโหยเช่นกัน ตรงกันข้ามกับคนที่ไม่เคยได้รับความรักความเมตตาหรือใคร ก็ยากที่เขาจะมีความรักความเมตตาต่อคนอื่น

อันนี้คือพลังในการทำความดี และในเวลาเดียวกันก็ทำให้เขาเข้าใจเรื่องชีวิต ในเรื่องของมนุษย์ด้วยว่า มนุษย์ทุกคนย่อมมีความสุขเมื่อได้รับเมตตา นี่เป็นความรู้ขั้นพื้นฐานที่จำเป็นมากสำหรับการมีชีวิตอย่างมีความผาสุกและเกื้อกูลในโลก เพราะหากเราไม่ประสบสัมผัสความสุขอันเนื่องจากความรักด้วยตัวเราเอง เราจะรู้ได้อย่างไรว่าความเมตตาของเรานั้นสามารถจะก่อความสุขและความประทับใจแก่ผู้อื่นได้

ความดีของผู้คนนั้นสามารถจะทำให้เราได้เกิดการเรียนรู้หลายอย่าง ไม่ใช่แค่เพียงความประทับใจเท่านั้น อาตมานึกถึงคนๆ หนึ่งที่เป็นข่าวเมื่อสอง-สามเดือนก่อน แกเป็นนักปั่นจักรยานที่มีชื่อมากของอิตาลีในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ชื่อจีโน บาร์ทาลี เป็นนักปั่นจักรยานที่ประสบความสำเร็จมาก ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ชาวยิวจำนวนไม่น้อยในอิตาลีในยุโรปถูกส่งไปยังค่ายนรก 6 ล้านคนตายไปในค่ายนรก แต่ก็มีชาวยิวหลายคนที่ได้รับการช่วยเหลือให้ปลอดภัย บาร์ทาลีก็เป็นคนหนึ่งที่ชวยให้ชาวยิวในอิตาลีมีที่พักพิงและสามารถเดินทางออกนอกประเทศได้ เขาช่วยทำพาสปอร์ตปลอมเอกสารปลอมให้ชาวยิวที่กำลังหลบซ่อนให้สามารถเดินทางไปยังประเทศที่ปลอดภัยหลายคน แต่เขาไม่เคยแพร่งพรายถึงวีรกรรมของเขาเลย แต่มีบางคนที่รู้ว่าเขาเคยทำอะไรไว้ บอกว่า เขาคือวีรชน แต่เขาปฏิเสธ เขาบอกว่า คนที่เป็นวีรชนที่แท้จริงคือ คนที่เจ็บปวดในจิตวิญญาณในหัวใจในดวงจิตเพื่อคนที่ตนรัก คนเหล่านี้คือวีรชนอย่างแท้จริง 'ผมเป็นเพียงแค่นักปั่นจักรยาน'

วีรกรรมของบาร์ทาลี และการที่เขาไม่รู้สึกเลยว่าเขาทำอะไรที่ยิ่งใหญ่นี้ อาตมาเชื่อว่ามันย่อมประทับใจในผู้คนมาก ไม่ใช่ประทับใจในความกล้าความเสียสละของเขา แต่ประทับใจในความอ่อนน้อมถ่อมตนของเขาด้วย

เรื่องราวของคนเหล่านี้สอนให้เรารู้ว่า มนุษย์ที่แท้เป็นผู้ที่มีน้ำใจ 'หัวใจเขาใหญ่' แต่ 'อัตตาเขาเล็ก' เขามีความสุขที่ได้ทำความดีแต่ไม่คิดที่จะโอ้อวด เพราะคนเราทั่วไป เวลาทำความดีมีแต่จะโอ้อวดว่าเราทำความดีอะไรบ้าง

การมีหัวใจใหญ่อัตตาเล็ก เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามาก ทำให้เรามีความสุขและอยู่ในโลกนี้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องประกาศตนถึงความยิ่งใหญ่ของเรา

ที่พูดมาทั้งหมดนี้ พูดถึงเรื่อง การที่เราได้รับความรักแล้วช่วยให้ความเป็นมนุษย์ของเราเจริญงอกงามอย่างไรบ้าง แต่ในอีกด้านหนึ่งไม่เพียงแต่การได้รับความรักเท่านั้น การให้ความรัก ความมีน้ำใจ การเสียสละ ก็ช่วยพัฒนาความเป็นมนุษย์ของเราให้สมบูรณ์ได้ด้วย

คนที่อัตตาเล็กหัวใจใหญ่ย่อมเสียสละชนิดที่เอาชีวิตเข้าแลกก็ว่าได้ แต่อีกด้านหนึ่งการเสียสละเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นก็ช่วยทำให้อัตตาของเราเล็กลง หัวใจใหญ่ขึ้น และจิตใจงอกงาม การเสียสละ การที่ทำ การช่วยเหลือผู้อื่นนั้น ไม่ได้เป็นประโชน์ต่อคนอื่นเท่านั้น แต่เป็นประโยชน์แก่ตัวเราด้วย

มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งอายุ 14 ชื่อน้องด้าย เป็นอาสาสมัครช่วยเด็กที่บ้านปากเกร็ด ซึ่งบ้านที่มีเด็กถูกทิ้งตั้งแต่สามเดือนถึงเก้าขวบ หรือบางทีพ่อแม่ไม่ได้ทิ้งแต่ไม่มีกำลังเลี้ยงก็มามอบให้บ้านปากเกร็ด พอต้องการจิตอาสา น้องด้ายก็ไปเป็นอาสาสมัคร หลังจากน้องด้ายไปเป็นอาสาสมัครพักใหญ่ แม่น้องด้ายก็พบกับความเปลี่ยนแปลงคือ เธอนิ่ง สุขุม และรับฟังคนอื่นมากขึ้น รวมทั้งแม่ด้วย ความเปลี่ยนแปลงเกิดจากการที่เธอได้ไปดูแลเด็ก

เช่นเดียวกับชายวัย 30 ชื่อโป่ง ก็ไปเป็นจิตอาสาบ้านปากเกร็ดเช่นเดียวกัน เขาก็ค้นพบเช่นเดียวกันว่า หลังจากไปดูแลเด็กแล้ว แทบไม่กี่เดือน พบว่าตัวเองใจเย็นขึ้น และยังส่งผลถึงคนอื่นด้วย พบว่าการพูดจารื่นหูกับลูกน้องไม่ใช่เรื่องต้องฝืนอีกต่อไป เขาอธิบายถึงความเปลี่ยนแปลงของตัวเองว่า เมื่อเราดูแลใส่ใจเด็ก เราจะอ่อนโยนไปเองโดยอัตโนมัติ ในขณะที่เราพยายามให้เขามีพัฒนาการที่ดี เขาก็ช่วยขัดเกลาให้เราอ่อนโยนในเวลาเดียวกันด้วย ความรักที่มอบให้กับผู้อื่นสามารถที่จะกลับมาขัดเกลาและพัฒนาจิตใจของเราได้...

...ความรักที่เรามีต่อผู้อื่นยังสามารถจะทำให้เราเอาชนะความโกรธเกลียดได้ แม้กระทั่งเมื่อต้องสูญเสียคนที่รัก....ความเมตตาความมีน้ำใจสามารถที่จะยกจิตยกใจของเราให้ออกจากความทุกข์ และความเจ็บปวด สามารถที่จะขัดเกลาจิตใจเราให้เจริญงอกงามได้...

ความเมตตาทำให้ความเป็นมนุษย์ของเราเจริญงอกงามขึ้นมาได้ จะเห็นว่าความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ต้องมีเมตตาหรือความรักเป็นพลังขับเคลื่อน เพราะความรักความเมตตาทำให้มนุษย์เรายอมที่จะลำบากยอมที่จะเพียรพยายาม แม้จะต้องประสบกับความทุกข์ยากลำบาก แต่เมื่อระลึกถึงประโยชน์ของสรรพสัตว์ก็สามารถก้าวข้ามความลำบากนั้นได้ และเมื่อใดบรรลุถึงสัจธรรมพัฒนาตนถึงที่สุดแล้ว ก็จะหมดซึ่งความเห็นแก่ตัวทำให้ความเมตตากรุณานั้นแผ่กระจายอย่างไม่มีประมาณเป็นความเมตตายิ่งกว่าเดิม เพราะไม่มีความยึดมั่นถือมั่นในตัวตนแล้ว

เพราะฉะนั้นความเมตตากรุณาอย่างแท้จริงเกิดขึ้นได้เมื่อบุคคลเจริญปัญญาอย่างถึงที่สุด จนเห็นว่าแท้จริงแล้วว่าตัวตนไม่มีจริงแล้ว ความเห็นแก่ตัว ความยึดมั่นถือมั่นก็หมดสิ้น สามารถที่จะเกื้อกูลแก่สรรพสัตว์ได้อย่างไม่มีที่สุดไม่มีประมาณและไม่มีที่รักที่ชัง ดังที่พระพุทธเจ้าได้ตรัสว่า พระองค์รู้สึกอย่างไรต่อพระราหุลซึ่งเป็นลูกชาย ก็รู้สึกตอบพระเทวทัตเช่นนั้น ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างพระเทวทัตที่มุ่งปองร้าย หรือพระราหุลซึ่งเป็นลูกชายของท่านเลย ถึงที่สุดแล้ว ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์คือ การที่มีความรักอย่างไม่มีประมาณ เพราะมีปัญหาเห็นแจ้งในสัจธรรมอันลึกซึ้ง

กรุณาทำให้เราทำความดีปัญญาทำให้เราเข้าถึงความจริง ทั้งความดีและความจริงทำให้เราเข้าถึงความสุข แม้เมตตากรุณาต่อผู้ที่พระพุทธองค์ทรงเมตตา มีความทุกข์อย่างไรก็ไม่สามารถทำให้พระองค์ทุกข์ด้วย เพราะเป็นเมตตาที่ไม่ปรารถนาผล ทำเต็มที่ แต่หากว่าไม่สามารถจะช่วยได้ ใจก็เป็นอุเบกขา

อย่างไรก็ตาม สำหรับพวกเราซึ่งเป็นปุถุชน การเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์นั้น เป็นอุดมคติ แต่ในทางที่เราถึงอุดมคติ การที่เราบำเพ็ญเพื่อความเป็นมนุษย์ที่แท้ก็เป็นสิ่งที่เราควรกระทำ

การเป็นมนุษย์ที่แท้คือ การที่มีเมตตา มีปัญญา และสามารถเข้าถึงความสุขได้ มนุษย์ที่แท้คือ ผู้ที่จิตเป็นอิสระไม่ถูกครอบงำด้วยโลกธรรมใดๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...