ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

1604551_607349329386893_8965147152208243038_n.jpg?oh=992295f4e35e304faf44398b77e9de52&oe=54CF31C7&__gda__=1421893774_740816f237627ef413a92cd512aa5886

 

ตามรอยพ่อ

 

เบื้องหลังพระบรมฉายาลักษณ์จากปก 'แพรว'

 

"ผมได้รับมอบหมายให้ไปทำหน้าที่ฉายพระรูปที่โรงพยาบาลศิริราช จึงไปรอตั้งแต่ตีห้า

ปรากฏว่ามีคนเอาเสื่อมาปูนอนตามพื้นในโรงพยาบาลหลายร้อยคนแล้ว

ถ้าผมไปสายกว่านั้นคงหาทางเข้าไปไม่ได้ ผมถูกจัดให้อยู่ในมุมที่เคลื่อนไปตามพระองค์ท่านไม่ได้

มองไปรอบๆเห็นคนเต็มไปหมด ไม่มีใครลุกไปไหนเลยแม้แต่จะเข้าห้องน้ำ

เพราะกลัวจะเสียพื้นที่ มีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่สุดท้ายก็ยุติลงด้วยดี

 

พอใกล้เวลาที่จะเสด็จฯลง ผู้คนก็ขยับแนวรุกล้ำขึ้นมาเรื่อยๆ ..

ตอนพระองค์ท่านเสด็จฯมา ก็มีเสียงร้อง 'ทรงพระเจริญ' ดังขึ้น

ผมรู้สึกตื่นเต้นตลอด พอเสด็จฯมาในจังหวะที่ผมถ่าย ถ้าราชองครักษ์เดินผ่านหน้า ผมก็จะถ่ายไม่ได้

แต่โชคดีที่ผมได้จังหวะที่ราชองครักษ์พ้นจากรัศมีเลนส์กล้องผม เป็นช่วงเวลาแค่ ๒ วินาที แต่เป็นมุมที่ชัดเจนมาก

..ผมกดเต็มที่ ไม่ได้คิดว่าเก่ง แต่คิดว่าเป็นเพราะพระองค์ท่านพระราชทานพระวโรกาสให้ผมมากกว่า

เพราะคนที่ยืนอยู่ข้างผมเป็นคนไทยที่ทำงานให้เอเจนซี่ที่เยอรมนี

เขาถ่ายไม่ได้ เพราะไม่ได้จังหวะที่ดีเท่าผม สุดท้ายผมให้เขาไปหนึ่งภาพ..

 

..ตอนเห็นพระองค์ท่านก็ตื่นเต้น ตื้นตันในใจ และเมื่อเสด็จฯผ่านไปแล้ว

เสียง 'ทรงพระเจริญ' ก็ยังดังก้องอยู่ ผมรู้สึกคุ้มค่าที่รอมา ๔-๕ ชั่วโมง

แล้วได้ทำหน้าที่ฉายพระรูปที่งดงามเพื่อให้ผู้อ่านได้ชื่นชมพระบารมี"

 

บรรยากาศเบื้องหลังพระรูปที่เล่าจากหัวใจของ คุณรัฐพล ศิริจิรสุข ช่างภาพจากนิตยสาร 'แพรว'

 

ท ร ง พ ร ะ เ จ ริ ญ ยิ่ ง ยื น น า น

ทีฆายุโก โหตุ มหาราชา ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ ตลอดกาล ตลอดไป

เป็นมิ่งขวัญให้ปวงชนชาวไทย ตราบนานเท่านาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ กราบแทบพระบาท...

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1401398_430150407106787_986764528_o.jpg

 

ภาพล้นเกล้าฯ ทั้งสองพระองค์บนปกหนังสือพิมพ์จีนกวงหัวจิวคัง

ครั้งเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงผนวช พ.ศ. ๒๔๙๙

ชุมชนตามรอยพ่อขอถวายพระพร คู่บุญบารมีของแผ่นดิน

ขอจงทรงพระสิริสวัสดิ์ ทรงพระเกษมสำราญ มีพระพลานามัยแข็งแรง ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าฯ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1147516_399805113474650_1865842104_o.jpg

 

รอยยิ้มของฉันคือเธอ

เมื่อปีพุทธศักราช 2503 เป็นปีแรกที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ

เสด็จฯ เยือน14ประเทศในยุโรปและอเมริกา เป็นการเสด็จเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการครั้งแรก

และยาวนานที่สุดถึง 7 เดือนเต็ม

การเสด็จฯ ในครั้งนี้เป็นที่สนใจของสื่อมวลชนในสหรัฐฯเป็นอย่างมา

ต่างเข้ามาขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตฉายพระรูปและสัมภาษณ์กันมากมาย

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงให้สัมภาษณ์นักข่าวอย่างเป็นกันเอง

โดยมีสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถประทับอยู่เคียงข้าง

ตอนหนึ่งนักข่าวได้กราบบังคมทูลถามความรู้สึกส่วนพระองค์ว่า

"นี่เป็นการเสด็จฯ เยือนอเมริกาเป็นครั้งแรก ทรงรู้สึกอย่างไรบ้าง"

มีพระราชดำรัสตอบว่า "ก็ตื่นเต้นที่ได้กลับมาเยี่ยมบ้านเกิด เพราะข้าพเจ้าเกิดที่นี่ ที่เมืองบอสตัน"

พระราชดำรัสตอบดังกล่าวสร้างความ"ใกล้ชิด" ให้เกิดขึ้นกับเหล่านักข่าวได้ทันที

จากความรู้สึกที่ว่า พระองค์ไม่ใช่"คนต่างประเทศ" หากแต่เป็น"คนบอสตัน"คนหนึ่ง

รอยแย้มสรวลที่มิใคร่ปรากฏให้เห็นบนพระพักตร์บ่อยนัก

ทำให้นักข่าวหนุ่มผู้หนึ่งได้ทูลถามพระองค์ท่านเป็นการปิดท้าย

ก่อนที่กลุ่มนักข่าวทั้งหมดจะกราบบังคมทูลลาว่า

"ทำไมพระองค์จึงทรงเคร่งขรึมนัก...ไม่ทรงยิ้มเลย?"

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมิได้พระราชทานถึง"เหตุผล"

แต่ทรงแสดงออกถึงพระราชอารมณ์ขันอันล้ำลึกที่มีในพระราชหฤทัย

โดยผินพระพักตร์ไปทางสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พลางรับสั่งว่า

"She's my smile.."

เมื่อนักข่าวเหล่านั้นมองไปที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ ในขณะนั้น

ท่านก็ทรงพระเมตตาแย้มพระสรวลประทานให้ นับเป็นรอยพระสรวลที่ประทับใจชาวต่างชาติอย่างมิรู้ลืม

***

คู่บุญบารมีของแผ่นดิน ขอจงทรงพระสิริสวัสดิ์ มีพระพลานามัยแข็งแรง

ทรงพระเกษมสำราญ ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้า ด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1267985_426315354156959_1777194713_o.jpg

 

 

ชุมชนตามรอยพ่อ ขอถวายพระพรคู่บุญบารมีของแผ่นดิน ขอจงทรงพระสิริสวัสดิ์

ทรงพระเกษมสำราญ มีพระพลานามัยแข็งแรง ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าฯ

 

ภาพจากอนุสารอ.ส.ท. ฉบับประจำเดือนเดือนธันวาคม ๒๕๐๖

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทหารปฏิรูปประเทศไทย

 

วันที่ 2 ต.ค.57 เด้งผู้กำกับตำรวจเกาะสมุย ส่อ พัวพันส่วยบ่อน

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.พยุงศักดิ์ สุรินทร์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเกาะสมุย จังหวัดสุราษฏธานี ไปปฎิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตั้งแต่วันที่ 2 ตุลาคม 2557 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง โดยให้ไปรายงานตัวภายในเวลา 16.00 น.ของวันที่ดังกล่าว

 

สาเหตุการย้ายด่วนในครั้งนี้มาจากการถูกร้องเรียนว่า ปล่อยปละละเลย หย่อนยานในปฏิบัติหน้าที่ และมีลูกน้องในสังกัด ไปเรียกเก็บส่วยในพื้นที่แล้วแอบ อ้างว่าส่งให้ ผู้บังคับบัญชา และนักการเมืองระดับสูง

 

ถ้าเป็นกฎหมายอนุรุกษ์นิยมของจีน คงไม่รอดแล้ว อนาคตยุค คสช.ที่จะอยู่ต่อกว่า 8 ปี คงได้เห็นกฎหมายที่เฉียบขาด ลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ทุจริต

 

@ เสธ น้ำเงิน2

https://www.facebook.com/topsecretthai

 

หมายเหตุ โปรดงดออกความเห็นในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาในตอนนี้ /นำข่าวลือได้ยินมาโพส / ลิ้งใดๆ ทุกชนิด / คำหยาบ / บทความจากแหล่งอื่นที่ทำให้เกิดความสับสนในเนื้อหา / ภาพที่เกิดความแตกแยก / ให้ร้าย คสช. ฯลฯ ผู้ที่ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาบล็อกเข้าเพจนี้

 

 

1377489_365644206936093_976388621476082126_n.jpg?oh=e942530a79d8196901f53de918df7456&oe=54BC1B9F&__gda__=1418079018_63a76dca62ae1ab8f70b0d8b96e6d626

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันที่ 2 ต.ค.57 อึ้ง..แมงกระพรุนพิษนานาชนิดหลายแสนโจมตีชายหาดหัวหิน

 

ตลอดแนวชายหาดหันหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ แต่แต่หน้าวังไกลกังวลไปจนถึงหมู่บ้านตะเกียบ สวนสนประดิพัทธ์ รวมทั้งหมู่บ้านเขาเต่า พบแมงกระพรุนนานาชนิด โดยเฉพาะแมงกระพรุนสีน้ำเงินทั้งขนาดเล็กรวมถึงขนาดใหญ่นับแสนตัวลอยเป็นแพอยู่ในทะเล

 

ขณะที่บางส่วนที่น้ำซัดเข้าฝั่งเกยตื้นตลอดแนวเป็นระยะทางยาวกว่า 10 กิโลเมตร เทศบาลเมืองหันหินได้ประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนรวมทั้งนักท่องเที่ยวหลีกเลี่ยงการลงเล่นน้ำในบริเวณดังกล่าว เนื่องจากแมงกระพรุนดังกล่าวเป็นชนิดมีพิษ

 

และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเร่งเก็บซากแมงกระพรุนที่เริ่มส่งกลิ่นเน่าเหม็นรวมทั้งให้ทำความสะอาดบริเวณชายหาดเพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้การท่องเที่ยวคาดการณ์ว่าคงใช้เวลาอีก 2 -3 วันจึงจะจัดการเรียบร้อย

 

แมงกระพรุนพิษหลายแสนตัว มันหนีอะไรขึ้นมาที่ชายหาดหัวหิน ที่เป็นฝั่งตะวันตกของอ่าวไทย ?? เพราะก่อนหน้านี้ มันเคยบุกขึ้นหาดแถวระยอง ที่เป็นฝั่งตะวันออกของอ่าวไทย

 

ปลาวาฬบรูด้า ก็ขึ้นมาเป็นฝูง ที่ชายทะเลสมุทรปราการ และบางขุนเทียน ที่เป็นด้านเหนืออ่าวไทย และเคยมาเกยตื้นตายหลายตัว น่าสงสัยว่า น้ำทะเล ในกลางอ่าวไทย กำลังเกิดอะไรเปลี่ยนแปลง??

 

@ เสธ น้ำเงิน4

https://www.facebook.com/topsecretthai

 

1977049_365631970270650_3458181804888684329_n.jpg?oh=1336ac6eb2ef81d75fcd93d69855f660&oe=54BCED3B&__gda__=1421432736_f9c9c0a4eac3e36c818b97e57a753b7c

 

10334414_365631986937315_3228742521951933900_n.jpg?oh=4dde91c1831ca99bccc57852ee2eceba&oe=54CE0AE8&__gda__=1422876290_ef869a04e57b7ad5d2765640ebfbc40f

 

10647035_365632003603980_5051055808100130167_n.jpg?oh=215b75a6ca1f5e585f57b28c62a3e153&oe=54C0B2D0&__gda__=1422753128_58c842d4e14c94dd25caa64a75e08678

 

10649718_365632020270645_2258838252588463175_n.jpg?oh=dddbeb648b0027e0ba3c4f2ae4a1957d&oe=54C424FF&__gda__=1421678919_26055eb9cbd7e65b47be33f4099ac6ea

 

วันที่ 2 ต.ค.57 ปรากฎการณ์ประหลาดสัตว์ขั้วโลกอพยพมาโผล่ที่ชายหาดอเมริกา

 

โดยปกติแล้ว ตัววอลรัสจะอาศัยอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบริเวณมหาสมุทรอาร์กติก แต่มึเหตุการประหลาด คือ เกิด การอพยพขึ้นชายฝั่งของฝูงวอลรัสที่ยังเล็ก ว่ายขึ้นมาเกยตื้นบนชายหาดฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือของรัฐอะแลสกา ประเทศอเมริกา ตั้งแต่ 13 กันยายน ที่ผ่านมา

 

โดยเริ่มแรกๆ มีจำนวนเพียงประมาณ 1,500 ตัว แต่ตอนนี้มันอพยพมาปริมาณมากขึ้นกว่า 35,000 ตัวแล้ว ในเวลาเพียงครึ่งเดือนเท่านั้น คาดว่าปรากฎการณ์ดังกล่าวสืบเนื่องมาจากภาวะโลกร้อน เมื่อมันไม่มีแผ่นน้ำแข็งให้อาศัยอยู่ จึงอพยพมาอาศัยเกยตื้นบนชายหาดแทน ทั้งนี้วอลรัสตัวเล็กๆ จะมีความเสี่ยงถูกเหยียบหรือทับตายได้

 

หรือมันจะรู้ว่าแผ่นดินขั้วโลก จะเปลี่ยนตำแหน่งไปย้ายต่ำลงมาจุดนี้ มันจึงอพยพถิ่นฐานย้ายมา เพื่อดำรงเผ่าพันธ์ของตนเองไว้ เพราะปีนี้ความเย็นแผ่ลงมาทางตอนเหนือของอเมริกา เร็วกว่าปกติในช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา

 

และที่เกาะสุมาตรา ใกล้ภาคใต้ของไทย ชั้นโอโซนในบรรยากาศที่ห่อหุ้มโลก ก็เกิดทะลุเป็นรูขนาดใหญ่ ส่งผลให้รังสีจากนอกโลกผ่านเข้ามายังพื้นโลกได้ โดยไม่มีอะไรกรองไว้ก่อน ให้จับตาอุกาบาตตก และแผ่นดินไหวเกิน 7.0 ริกเตอร์ได้

 

@ เสธ น้ำเงิน4

https://www.facebook.com/topsecretthai

10606068_365617526938761_8947277701484932540_n.jpg?oh=1924e3f0288f7fd2b8a40bdcf79ff30e&oe=54AF892C&__gda__=1418055060_e3f0533257c4dfcbbac5a1254341bbdd

 

10678621_365617610272086_3605449140225993122_n.jpg?oh=56182527b98fada59e152274bb7a151f&oe=54858FE4&__gda__=1422265554_5017a2147dd13a2c8f1de396205dd185

 

1625469_365617633605417_1591380354621314534_n.jpg?oh=dabbf877831d4cf1fd2c6e8a5dcd54cf&oe=54CBA3DF

 

10712851_365617650272082_6128616031383562782_n.jpg?oh=84c0f1fbbb61794b812bf01f630b28cd&oe=54B0178C

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันที่ 1 ต.ค.57 รัฐบาล ทุ่มงบกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือเกษตรกร

 

รัฐบาลที่นำโดยบิ๊กตู่ นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. เผยมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยใช้งบประมาณ 3 แสน 2 หมื่น ล้านบาท การลงทุนต่างๆ เช่น การศึกษา สาธารณสุข สาธารณูปโภค

ั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้สำนักงบประมาณและรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจตรวจสอบการใช้งบประมาณการใช้จ่ายทั้งหมดเพื่อป้องกันการทุจริต

 

ส่วนการแก้ไขปัญหาชาวนาที่ประชุม ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณ 40,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มรายได้ให้กับชาวนาที่มีพื้นที่ทำกินน้อย โดยจะมีการตรวจสอบพื้นที่ทำกินของชาวนาที่จดทะเบียนการปลูกข้าวกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ( ธ.ก.ส. )

 

เพื่อให้เงินช่วยเหลือชาวนา ชาวนาที่มีพื้นที่ปลูกข้าวตั้งแต่ 0-15 ไร่ จะได้เงินอุดหนุนไร่ละ 1,000 บาท ส่วนชาวนาที่มีพื้นที่ปลูกข้าวมากกว่า 15 ไร่ จะได้รับเงิน 15,000 บาท สำหรับ การอุดหนุนเงินดังกล่าวรัฐจะจ่ายเงินให้กับชาวนา เฉพาะการทำนาปี ในปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเฉพาะหน้า

 

โดย ธ.ก.ส.จะจ่ายเงินให้กับชาวนาผ่านทางบัญชีธนาคาร โดยตรงไม่ผ่านเจ้าหน้าที่ เพื่อป้องกันการรั่วไหลของงบประมาณเหมือนเมื่อสมัยรัฐบาลปูข้าวเน่า ปีนี้พื้นที่ภาคกลางบางจังหวัดฝนตกน้อย ทำให้บางพื้นที่ทำนาไม่ได้ตามปกติ

 

@ เสธ น้ำเงิน2

https://www.facebook.com/topsecretthai

1794585_365238656976648_861910581621206167_n.jpg?oh=234adc06b69384740cb188de14a04f2a&oe=54CF3BCA

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1618559_216171745239527_1527197466_n.jpg?oh=c5d12fa293a7baf00252223462ef8b81&oe=54B81BD8&__gda__=1421513191_6d63607bcb65937594eb8cb6bacd055f

 

แฉ..ความลับ

วันที่ 2 ต.ค.57 เผย..ควบคุมตัวผู้เกี่ยวข้องข่มขืน ฆ่า นักท่องเที่ยวอังกฤษเกาะเต่า ได้แล้ว 3 คน

 

ความคืบหน้า การคลี่คลายคดีฆาตกรรม 2 นักท่องเที่ยว นายเดวิด มิลเลอร์ วัย 24 ปี และ นางสาวฮานนาห์ วิทเธอร์ริดจ์ วัย 23 ปี นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ บนเกาะเต่า จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 ก.ย.57 ที่ผ่านมานั้น

 

คดีนิี้บิ๊กตู่ นายกฯ และหัวหน้า คสช. รวมทั้งรัฐบาลไทย ได้ให้ความสนใจ และกำชับตำรวจ ให้ติดตามคนร้ายมาให้ได้ เนื่องจากส่งผลเสีย ต่อชื่อเสียงของประเทศไทย

 

รายงานล่าสุด ตำรวจได้เชิญตัวแรงงานชาวยะไข่ สัญชาติพม่า จำนวน 3 คน มาสอบสวนและควบคุมตัว เพราะบางคนผิดกฎหมายไทย ในคดีเกี่ยวกับการเข้าเมืองผิดกฎหมาย

 

เรื่องนี้เป็นเรื่องลับ ลวง พลาง มานานกว่าครึ่งเดือน เพราะมีการปล่อยข่าวหลอกล่อให้ผู้ต้องหาตายใจ ให้แสดงความพิรุธ และร้อนรนออกมาให้มากที่สุด ตามหลักอาชญวิทยา คือ ผู้กระทำผิดย่อมทิ้งร่องรอยเสมอ

 

เริ่มต้นหลังเกิดเหตุ ตำรวจได้เชิญตัวชาวยะไข่ สัญชาติพม่า ซึ่งเป็นพนักงานของบังกะโลแห่งหนึ่ง ใกล้ที่เกิดเหตุ มาซักถามข้อมูล เนืองจากทราบว่ามีกลุ่มเพื่อนชาวยะไข่ ที่สนิทกัน 3 คน มักใช้เวลาว่างชอบจับกลุ่มกันนั่งเล่นกีต้าร์ ริมชายหาดอยู่เป็นประจำ

 

จากการสอบสวนพยาน ทำให้ทราบว่าเพื่อนอีก 2 คน เป็นพนักงานของร้านอาหารในย่านที่เกิดเหตุ คือ บาร์ AC TWO และร้านมายา เมื่อซักถามผู้ต้องสงสัยเสร็จจึงปล่อยตัวไป แต่ตำรวจ ยังคงติดตามเฝ้าดูพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด

 

จนพบว่า 1 ในนั้น คือ นายวิน ลูกจ้างร้านเซฟตี้สต๊อป ที่ตั้งอยู่บริเวณท่าเทียบเรือเกาะเต่า ได้หลบหนีออกจากเกาะ ไปกับเรือนอนโดยสาร ที่ออกจากเกาะเต่าเมื่อเวลา 21.00 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจจึงตัดสินใจเข้าควบคุมตัวชาวยะไข่ ทั้ง 3 คนทันที คือ

10689904_275473072642727_3681541439806526091_n.jpg?oh=55eb08818e4c677f7e4db0d7db93830e&oe=54B25DA5&__gda__=1421588089_8a8145e29f39834d74a70bd071f70556

1. นายวิน อายุ 21 ปี

2. นายเมา อายุ 23 ปี

3. นายซอ อายุ 21 ปี

 

โดยควบคุมที่เกาะเต่าได้ 2 คน คือ นายเมา และนายซอ ส่วนนายวิน สามารถควบคุมตัวได้ขณะเรือกำลังจะเข้าเทียบท่าเรือ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เมื่อคืนวันที่ 1 ต.ค.57 ที่ผ่านมา

 

หลักฐานสำคัญ ที่หามาได้คือภาพวงจรปิด ขณะที่ 1 ในที่ผู้ต้องหาเข้าไปซื้อบุหรี่ยี่ห้อ LM แดง นมกล่อง และสุรา ที่ร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งริมหาดทรายรี แล้วนำมานั่งดื่มกินกัน ที่ขอนไม้ ซึ่งอยู่บริเวณชายหาดทรายรีใกล้ๆ กับจุดที่พบศพ 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ

10304875_275473085976059_8452850871622424907_n.jpg?oh=82228e33e339b1245fc04919f3234f35&oe=54CE8D7E

โดยนายซอ และ นายวิน เป็นพนักงานเสิร์ฟบาร์ AC TWO และร้านมายา ทั้งคู่ให้การรับว่า พากันมานั่งดื่มกินพร้อมเล่นกีตาร์ในบริเวณดังกล่าวจริง ตรงตามที่พยานอีกหลายปากให้การไว้ ส่วนนายเมา ทำงานอยู่ที่สถานบันเทิง ซึ่งมีเจ้าของเป็นเครือญาติ ของผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่งบนเกาะเต่า โดยสถานบันเทิงแห่งนี้ ตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่เกิดเหตุมากนัก

 

นายวิน (ที่ได้ย้อมผมเป็นสีดำ และหนีขึ้นเรือออกจากเกาะเต่า) และเพื่อน 2 คน ไปนั่งดื่มกินเหล้า สูบบุหรี่ กันอยู่ที่บริเวณใกล้ที่เกิดเหตุ เห็นนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษทั้ง 2 คนเดินมาด้วยกัน แล้วมานั่งคุยกันในที่เกิดเหตุ และชายหญิงคู่นี้พรอดรักกันบนโขดหินที่เกิดเหตุ

 

ด้วยความเมา ทำให้นายวิน และนายซอ เพื่อนคู่หูเกิดอารมณ์ หยิบจอบและเดินตามไปแอบดู 2 นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษพลอดรักกัน จนเกิดอารมณ์ทางเพศ จึงร่วมกับเพื่อน เข้าไปทำร้ายร่างกาย โดยใช้จอบตีผู้ชายก่อน แล้วลากร่างนักท่องเที่ยวชายไปทิ้งที่ริมทะเล

 

หลังจากนั้น ก็ได้ข่มขืนนักท่องเที่ยวหญิง เมื่อข่มขืนเสร็จแล้ว ก็ได้ใช้จอบทุบนักท่องเที่ยวหญิงซ้ำอีกครั้งจนเสียชีวิต ก่อนนำจอบไปทิ้งตรงจุดที่ตำรวจมาพบ นายวิน หลังเกิดเหตุได้ย้อมผมจากสีทอง ย้อมผมกลับมาเป็นสีดำเพื่ออำพราง (ในภาพวงจรปิดเป็นภาพขาว - ดำ) ในเล็บของผู้ตายหญิง จึงพบเส้นผมสีทอง

 

ส่วน นายเมา ในคืนวันเกิดเหตุได้ไปร่วมนั่งเล่นกีต้าร์ ที่บริเวณขอนไม้ ในจุดที่พบก้นบุหรี่ ซึ่งห่างจากจุดพบศพนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษทั้ง 2 รายออกไปประมาณ 65 เมตร ซึ่งนายเมา อ้างว่าได้กลับไปหาภรรยาที่พัก แต่ยอมรับว่า ก้นบุหรี่ LM สีแดง ที่พบบริเวณขอนไม้ดังกล่าว นายเมา และเพื่อน 2 คน เป็นคนสูบและทิ้งไว้ จริง

 

ซึ่งเป็นบุหรี่ยี่ห้อเดียวกัน กับก้นบุหรี่ และกล่องนม ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ซึ่งมี DNA ตรงกับอสุจิที่พบในร่างของเหยื่อผู้หญิง แต่นายเมา อ้างว่าไม่ได้ร่วมฆ่านักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ แค่รู้เห็น เพราะได้กลับไปหาภรรยาก่อน ผลตรวจ DNA จึงไม่ตรงกับอสุจิ

 

จึงสอดคล้องกับพยานหลักฐานที่ได้รวบรวมไว้ก่อนหน้านี้ โดยทั้ง 3 คน อยู่ระหว่างผลตรวจสอบ DNA จากเนื้อเยื่ออื่นๆ เทียบกับ DNA ที่พบกับวัตถุพยานต่างๆ ที่พบในจุดเกิดเหตุ รวมถึง DNA ที่พบบนศพของผู้ตายทั้ง 2 คนด้วย เช่น จากเชื้ออสุจิ

 

ถ้าใครคิดว่าเป็นแพะ และกล่าวโทษเจ้าหน้าที่กำลังทำงานอย่างหนัก ก็ต้องอธิบายให้ได้ว่า ก้นบุหรี่ LM ที่ชาวพม่าทั้ง 3 คนสูบ ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และ DNA ในเนื้อเยื่อผู้ถูกควบคุมตัว ทำไมมี DNA ตรงกับอสุจิ ที่พบในร่างของเหยื่อผู้หญิง

 

หลายคนอาจบอกว่า ข่าวที่ออกมาบอก DNA ไม่ตรง แสดงว่ารู้จัก "ข่าว" น้อยไป เพราะข่าว กับสำนวนหลักฐานทางกฎหมายในคดี อาจคนละเรื่องกันเลย มีเยอะแยะไป เพราะข่าวไม่ใช่หลักฐานทางคดีที่ศาลยอมรับ

 

หลักฐาน DNA ทางวิทยาศาสตร์นี้ แพะ และตำรวจ คงทำไม่ได้..ต้องเกิดจากฆาตกรตัวจริงเท่านั้น และหลักฐาน DNA เป็นแค่กระบวนการทางนิติวิทยาศาสตร์แบบหนึ่ง ยังมีหลักฐาน พยาน อีกจำนวนมาก ที่จะต่อเชื่อมเรื่องราว

 

DNA นี่แหละ ในอดีตเคยเอาฆาตกรหลายคนเข้าคุกมาแล้ว เช่น คดีฆ่าหั่นศพ หมอวิสุทธิ์ นักเรียนแพทย์เสริม

ส่วนคดีนี้จะจบแบบใด ศาลเท่านั้นจะเป็นผู้ตัดสิน คนที่ปรามาสว่าเป็นแพะ..ต้องคิดทบทวนว่า

 

"ท่านเคยอ่านสำนวนคดีนี้ทุกคำ และเห็นพยาน หลักฐาน ด้วยตาตนเองหรือยัง"

หรือว่า เห็นแต่ทางอินเตอร์เน็ต เว็ปต่างๆ เท่านั้น ??

 

@ เสธ น้ำเงิน2

https://www.facebook.com/topsecretthai

10516613_275473109309390_7086558188275616540_n.jpg?oh=07a3c063da857f2affdc71fdbb9fbadc&oe=54CA0DB3&__gda__=1420913419_285e6540db321479859679f434184375

 

10593055_275473129309388_5394146102758057822_n.jpg?oh=8a7cf790e01dd2f6b5737959efa4ce57&oe=54CF0580&__gda__=1417937208_6b71755b993eb4c24143b7cc9dd61838

 

10405274_275473152642719_4746635632468864388_n.jpg?oh=96451de8104c5e61a48365c6b10cbbf2&oe=54C2C09F&__gda__=1422490691_f1651ef42e536437086aa0d5bc241766

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

ปัญหามากมาย เหตุการณ์ที่กดดัน ภาวะตึงเครียดที่รุมเร้า..

สิ่งแรกที่เราต้องจัดการคือ.. ใจ..

เพราะใจที่แกว่ง คิดปรุงแต่งไปเรื่อย

ทำให้เราทุกข์แบบไร้ขีดจำกัด

 

ตั้งสติ หลับตานิ่งสักพัก

หายใจเข้าลึกๆ หายใจออกยาวๆ

อยู่กับลมหายใจ สัก 5 นาที

อย่าพึ่งให้ใจวิ่งหนีไปไหน

หากวิ่งไปก็ตามกลับมา

เอาใจมาอยู่กับเนื้อ กับตัว

 

...

 

ณ สติจับใจ

See Translation

 

1969364_690526917682128_189332655905996607_n.jpg?oh=4d045c93a669c6562a08f583926f1f01&oe=54B5894E&__gda__=1421808051_bd4d3aad6db7a1de80f4e5884daca8c8

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"8 บทเรียนชีวิตของมหาเศรษฐีล้านล้าน Jack Ma"

..

 

1.คนเราเกิดมาเพื่อใช้ชีวิตและหาประสบการณ์ชีวิต

2.ผมบอกกับตัวเองเสมอว่าคนเราไม่ได้เกิดมาเพื่อทำงาน แต่เพื่อสนุกกับชีวิต และเราเกิดมาเพื่อทำสิ่งที่ดีกว่า ไม่ได้เพื่อทำงาน

3."ทัศนคติของคุณนั้นสำคัญกว่าความสามารถ" และ "การตัดสินใจของคุณนั้นก็สำคัญกว่าความสามารถ"

4.โลกนี้จำไม่ได้หรอกว่าคุณพูดอะไรไป แต่จะไม่ลืมสิ่งที่คุณทำ

5.ถ้าหากมีข้อเสนอนึงมาให้ แล้วคนส่วนใหญ่ (มากกว่า 90%) ตอบว่าข้อเสนอนี้มัน “ใช่”, ผมจะทิ้งข้อเสนอนั้นลงถังขยะในทันที ..เหตุผลง่ายนิดเดียวคือ “ถ้าหากมีคนอยู่เยอะที่คิดว่าข้อเสนอนี้ดี แสดงว่าต้องมีคนอยู่อีกเยอะเช่นกันที่กำลังทำงานนี้อยู่ และโอกาสนั้นมันก็ไม่ได้เป็นของเราแล้ว”

6.คุณไม่สามารถที่จะทำให้คนทุกคนคิดเหมือนกันได้หรอก แต่คุณสามารถทำให้ทุกคนก้าวไปทางเดียวกันได้ด้วยเป้าหมายเดียวกัน

7.หากคุณมองทุกคนรอบตัวเป็นศัตรู ทุกคนรอบตัวคุณก็จะเป็นศัตรูของคุณ หากคุณทำการแข่งขันกับคู่แข่ง อย่าพยายามใช้ความเกลียดชัง "ความเกลียดจะทำให้คุณพ่ายแพ้"

8.การแข่งขันนั้นคล้ายกับการเล่นหมากกระดานหากคุณแพ้กระดานนี้ คุณก็มีโอกาสเล่นต่อในกระดานต่อไป ดังนั้นทั้งสองฝั่งไม่ควรจะสู้กันเอง นักธุรกิจที่แท้จริงนั้นไม่ควรมีศัตรูเลย หากใครเข้าใจจุดนี้ ไม่มีอะไรเป็นไปไม่ได้ในโลกธุรกิจ"

 

εїз︷‧ :(¯`v´¯)︷‧:✿

Thnk.credit : hackerlife.in.th

Via.#Wealth_Creation

10411938_690474391020714_4682478744680805196_n.jpg?oh=715e2367bcd444f6a65574e897c5f71e&oe=54C22E1E&__gda__=1421591412_721a276bfc532723d3c9756943b2cc18

 

Life is sharing by หมอก้อย.

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

#หมายเลขเดียวกันหมด 7ฌ-9096349

 

 

@ ด่วน...แบ๊งค์พันปลอมระบาด แจ้งความที่สน.ร่มเกล้า พิมพ์เหมือนกันหมดหมายเลขเดียว 7ฌ-9096349

จะนำมาให้กลุ่มวัยรุ่นปล่อย

 

10157146_920583847955747_2223990375144923943_n.jpg?oh=567e7f4cd413489f9c8066be6a19ed47&oe=54BBD660&__gda__=1417886730_f60b3163390144f2c5b042875ae66759

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

@ ประโยชน์ของลูกพลับ

1.ลูกพลับเป็นผลไม้ที่มีแคลอรีและไขมันต่ำ และยังอุดมไปด้วยเส้นใยอาหาร จึงเหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักหรือควบคุมน้ำหนัก

2.ลูกพลับมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระหลายชนิด ซึ่งช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยและช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ

 

3.หากนำลูกพลับมาหมักให้เปรี้ยว 1 ปีขึ้นไปจะมีสรรพคุณทางยาสูงขึ้น ช่วยบำรุงร่างกายแก้อาการเหนื่อยล้า

4.ลูกพลับ ประโยชน์ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ป้องกันต้อกระจก ตาฟาง

5.ช่วยบำรุงลำไส้ บำรุงปอดและม้าม

6.ช่วยแก้อาการกระหายน้ำ

7.ช่วยแก้หืดหอบ (ผลแห้ง)

8.ช่วยลดความดันโลหิต

9.ช่วยบรรเทาอาการของโรคหัวใจและปอดได้

10.ช่วยแก้โรคปอดและกระเพาะอาหาร ซึ่งเกิดจากการสร้างพลังงานของปอดที่ลดลง ทำให้มีอาการไอ หายใจติดขัด เส้นผมหลุดร่วงหยาบกระด้าง หากเป็นติดต่อกันนานๆ ชีพจร กล้ามเนื้อและกระดูก จะสร้างสารผิดปกติในผนังกระเพาะอาหารได้

11.ใช้เป็นยาบรรเทาอาการร้อนใน (ผลแห้ง)

12.ช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอ (ผลแห้ง)

13.ส่วนกลีบเลี้ยงหรือก้านของผลลูกพลับสามารถนำมาทำเป็นยาเพื่อใช้แก้อาการสะอึกได้

14.ช่วยบรรเทาอาการไข้เพ้อ หรือไข้ที่เกิดจากอาการโกรธสุดขีด

15.สรรพคุณของลูกพลับ ช่วยแก้ไอ (ผลสด,ผลแห้ง)

16.ลูกพลับ สรรพคุณช่วยขับเสมหะ (ผลแห้ง)

17.ช่วยแก้พิษสุรา (ผลสด)

18.ช่วยแก้อาการท้องเดิน (ผลสด)

19.ช่วยบำรุงกระเพาะอาหารและลำไส้ (ผลแห้ง)

20.ช่วยบรรเทาอาการปวดท้องซึ่งมีสาเหตุมาจากความเย็น เช่น ประจำเดือน ปวดบิด เป็นต้น

21.ช่วยแก้อาการบิดในเด็กที่ถ่ายเป็นมูกเลือด

22.ช่วยแก้อาการถ่ายเป็นเลือด

23.ช่วยในการขับถ่าย แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียดแน่นท้อง

24.ช่วยแก้และบรรเทาอาการของโรคริดสีดวงทวาร (ผลแห้ง)

25.ช่วยแก้อาการปัสสาวะเป็นเลือด (ผลแห้ง)

26.ช่วยแก้ต่อมไทรอยด์บวม (ผลดิบ)

27.สรรพคุณลูกพลับ ช่วยห้ามเลือด (ผลสด)

28.ช่วยลดผื่นจากไข้ หรือผื่นที่เกิดจากความร้อน

29.ช่วยแก้พิษจากเหล้า ช่วยทำให้หายจากการอาเจียนเป็นเลือด

30.ประโยชน์ของลูกพลับ มีส่วนช่วยลดฝ้ากระบนใบหน้า

31.ประโยชน์ลูกพลับ นอกจากจะใช้รับประทานเป็นผลไม้สดแล้ว ยังสามารถนำไปแปรรูปเป็น ลูกพลับแห้ง พลับเชื่อม น้ำลูกพลับ แยมลูกพลับ ฯลฯ

32.ใบของลูกพลับสามารถนำมาทำเป็นชาไว้ชงดื่มได้ ด้วยการใช้ใบตากแห้งต้มกับน้ำเดือด ก็จะช่วยลดอาการแข็งตัวของหลอดเลือด แก้เส้นเลือดเลี้ยงหัวใจตีบตัน ลดความดัน ช่วยระบาย แก้อาการนอนไม่หลับ เป็นต้น

33.ไม้ของต้นพลับ สามารถนำมาใช้ทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ได้

10603296_922569544423844_8127821920196777673_n.jpg?oh=80d98525bb75f7f9580fa5bacd5f2e14&oe=54BC3156&__gda__=1420988910_37258d1a9aaa572535e735c22314a0c7

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

@ สูตรเด็ดเครื่องดื่มสมุนไพร... "น้ำสามเกลอ"

ช่วยป้องกันหลอดเลือดหัวใจอุดตัน ลดไขมันในเส้นเลือด บำรุงหัวใจ ลดความดันโลหิตสูงฯ

เป็นที่รู้กันว่าโรคที่คร่าชีวิตคนไทยเป็นจำนวนมากในแต่ละปีถ้าไม่นับโรคมะเร็งแล้ว ก็ต้องยกให้โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตันและโรคหลอดเลือดสมองตีบ แม้ยาแผนปัจจุบันที่ใช้รักษาโรคทั้งสองจะมีประสิทธิภาพดี แต่ก็มีผลข้างเคียงมากเช่นกัน ผู้ที่รักสุขภาพจึงหันมานิยมยาสมุนไพรเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ที่ปลอดภัยหาง่าย และมีประสิทธิภาพในการรักษาไม่แพ้กัน

 

สมุนไพรมีอยู่มากมายหลายตำรับ แต่ที่ตรงคำกล่าวที่ว่า "สูงสุดคืนสู่สามัญ" ยาสมุนไพรสูตรตำรับเดียว ที่ใช้ป้องกันได้ทั้งสองโรคนั้นมีอยู่ไม่กี่ตำรับ ในที่นี้ขอแนะนำตำรับหนึ่งที่มีผู้ใช้ได้ผล และบอกต่อกันมา คือตำรับกระเจี๊ยบแดง พุทราจีน และเตยหอม

สมุนไพรชนิดแรก สีแดงและรสเปรี้ยวจี๊ดของกลีบเลี้ยงผลกระเจี๊ยบแดง นอกจากมีฤทธิ์ขับปัสสาวะ ขับนิ่วในไต และในระบบทางเดินปัสสาวะแล้ว ยังมีฤทธิ์ลดไขมันในเลือด และรักษาโรคความดันโลหิตสูง รวมทั้งลดความเหนียวข้นของเลือดลง ทำให้การไหลเวียนของโลหิตทั่วร่างกายดีขึ้น ซึ่งก็ช่วยรักษาเส้นเลือดขอดให้ทุเลาลงได้ด้วย

สมุนไพรชนิดที่สอง รสหวาน มัน ฝาด ของผลพุทราจีนสุก ช่วยบำรุงโลหิต บำรุงร่างกาย บำรุงประสาท แก้โรคนอนไม่หลับ นอกจากนี้ ยังอุดมด้วย วิตามินเอ วิตามินซี ซึ่งช่วยบำรุงสายตา และเพิ่มภูมิต้านทานโรค ที่สำคัญผลพุทราช่วยลดผลข้างเคียงจากกรดซิตริกของกระเจี๊ยบ ในขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมฤทธิ์ป้องหลอดเลือดหัวใจอุดตัน และเส้นเลือดสมองตีบ

สมุนไพรชนิดที่สาม คือ รสหวานเย็นของใบเตย ช่วยบำรุงหัวใจ

ชูกำลัง ลดพิษไข้ ดับพิษร้อนภายใน เตย มีชื่อวิทยาศาสตร์ Pandanus amaryllifolius Roxb ชื่ออื่นๆ เตยหอมใหญ่ เตยหอมเล็ก ปาแนะวองิง (มลายู)

วิธีทำ :

นำสมุนไพรสามเกลอ คือ กระเจี๊ยบแดงแห้ง 30 กรัม เนื้อพุทราแห้งไม่มีเมล็ด 30 กรัม ใบเตยแห้ง 5 กรัม ล้างน้ำให้สะอาด เติมน้ำพอประมาณแล้วแต่ชอบข้นมากก็ใส่น้ำน้อย อยากได้ข้นน้อยก็ใส่น้ำมาก แล้วเคี่ยวไฟอ่อนๆ ราว 10-15 นาที จะเติมเกลือและน้ำตาลเล็กน้อยก็ได้ เพื่อให้ได้รสชาติดีขึ้น แต่สำหรับผู้ป่วยเบาหวานไม่ควรเติมอะไรเพิ่ม ดื่มขณะอุ่น วันละ 2 ครั้ง ครั้งละ 1 แก้ว เช้า-เย็น หลังอาหาร น้ำยาที่เหลือเก็บแช่ตู้เย็นได้ แล้วนำมาอุ่นเพื่อดื่มในมื้อต่อไป

สำหรับผู้ป่วยโรคหัวใจ หรือโรคเส้นเลือดสมองตีบเรื้อรัง สามารถดื่มคอกเทลสมุนไพรสูตรนี้ได้ทุกวัน ช่วยเสริมการบำบัดรักษาที่แต่ละคนดูแลสุขภาพตนเองอยู่แล้วให้ดียิ่งขึ้น ดื่มเป็นประจำรับรองว่าสมองจะแจ่มใส หัวใจสดชื่นไปอีกนาน สำหรับผู้ที่ใช้สมองมาก เช่น นักเรียน นิสิต นักศึกษา หรือผู้บริหาร สามารถดื่มสมุนไพรสามเกลอนี้แทนซุปไก่สกัด หรือผลไม้สกัดราคาแพงๆ ได้เช่นกัน นอกจากจะได้ยาบำรุงสมองที่มีสรรพคุณดีกว่าแล้ว ยังได้ยาราคาถูกกว่าอีกด้วย

See Translation

 

 

 

 

1474589_922066637807468_6844072109883098215_n.jpg?oh=1f5e626fea69705c6155508110c44f6f&oe=54B76A83&__gda__=1421940414_a8b26bea719bc495bbf03644d77af478

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...