ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 ว่าด้วย "ช้างตาย-วัวสันหลังหวะ"ที่ศาลปกครอง "เนื้อหาของหนังสือ นายดิเรกฤทธิ์ ยกสารพัดข้อกฎหมายขึ้นมากล่าวอ้างว่า การนำเสนอข่าวของสำนักข่าวอิศรา เข้าข่ายผิดกฎหมายดังกล่าว ทั้งการนำความลับของราชการมาเปิดเผย , มีการกระทำที่ไม่ชอบด้วย พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์...เมื่ออ่านแล้ว... ISRANEWS.ORG อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 กลุ่มอนุรักษ์เตรียมล่ารายชื่อ คัดค้านขยายถนน กระทบอุโมงค์ต้นไม้ น่าน-กลุ่มอนุรักษ์ฯยังคงคัดค้านการขยายถนนจากน่านสู่ลาว ที่ต้องรื้อเส้นทางอุโมงค์ต้นไม้กว่า 800 เมตร เตรียมล่ารายชื่อส่งผู้ว่าฯ ขณะที่ผอ.แขวงฯ ยันเตรียมประชาพิจารณ์รอบ2... NATIONTV.TV มูลนิธิกสิกรรมธรรมชาติ shared Subin Hinjan's post. March 7 at 12:17pm · ภาพของต้นไม้ใหญ่เหล่านี้ ที่ขึ้นอยู่สองข้างทาง... แผ่กิ่งก้านสาขาครอบคลุมถนนสาย น่าน-ท่าวังผา มาเนิ่นนาน เป็นภาพชินตา สำหรับคนที่ผ่านไปผ่านมา เป็นอุโมงต้นไม้ที่งดงามและร่มเย็น... บ่อยครั้งที่ ผู้ผ่านไปผ่านมา อดไม่ได้ที่จะยกกล้องขึ้นมาถ่ายภาพเอาไว้... แต่อนิจจา... ภาพเหล่านี้กำลังจะหายไป... เพราะการเข้ามาของคำว่า "พัฒนา" เพียงเพราะต้องการขยายถนนให้กว้างขึ้น สะดวกสบายขึ้น... ถึงกับต้องทำลายชีวิตของเขาเหล่านี้ อุโมงต้นไม้ ที่เป็นมรดกตกทอดมาจากคนน่านรุ่นก่อน บางท่านอาจจะคิดว่า... ก็ช่วยไม่ได้ มันเป็นพื้นที่ของหลวง ต้นไม้หลวง ก็ถ้าหลวงเค้าจะตัดออก ก็เป็นสิทธิของเข้า พวกเราคนเล็กๆจะทำอะไรได้... คงได้แต่ทำใจเท่านั้นกระมัง บางคนอาจจะลืมไปว่า ทุกวันนี้ถนนทั้วประเทศกำลังปรับปรุงอย่างมโหฬาร ต้นไม้ ป่า เขา ลูกแล้วลูกเล่าที่ถูกตัดและขุดอย่างบ้าคลั่ง... ผู้คนที่มีชีวิตอยู่กับชุมชน รอบข้างถนนเหล่านี้ เป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์... อากาศบริสุทธิ์ ความชุ่มชื้น ร่มเงาที่เย็นแผ่ออกไป... พวกเค้ากำลังจะถูกพรากสิ่งเหล่านี้ไป เพียงเพื่อให้ชาวเมือง ต่างที่ต่างถิ่น ที่นานๆจะผ่านมาได้ใช้ถนนสะดวกๆ เดินทางได้เร็วขึ้น... แล้วก็ผ่านไป และผ่านไป... แต่คนท้องถิ่นจำต้องเสียสละ อย่างนั้นหรือ หรือว่าทุกวันนี้... ป่าไม้ ธรรมชาติยังชิบหายไม่พออีกหรือ... ร่วมกันส่งเสียงเล็กๆ เพื่อบอกคนน่าน... และชาวบ้าน คนลุง คุณป้า พ่ออุ้ย แม่อุ้ยว่า... "............................................" ( พวกเราคิดอย่างไร อยากให้รักษาต้นไม้พวกนี้ไว้ไหม?) แด่ ผืนดิน และ ธรรมชาติ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 มหาหิน สารภาพทำเพราะถูกกดดัน มหาหิน ขุนทอง หรือหิน หรือสิ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ให้ยุทธนา เย็นภิญโญ ปาระเบิด ลานจอดรถศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เผยได้รับเงินสนับสนุนจากคนชื่อเดียร์ ให้ก่อเหตุระเบิด เพื่อให้องค์การสหประชาชาติ เข้ามาแทรกแซงสถานการณ์ในไทย พร้อมระบุในวันที่ 10 มี.ค.นี้... NATIONTV.TV ความคืบหน้าปาระเบิดศาลอาญา พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กับความคืบหน้าเหตุปาระเบิดลานจอดรถ หน้าศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ซึ่งจากการสืบสวนขยายผล คาดจะขอศาลทหาร ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง ที่เป็นระดับปฏิบัติการรวม 5 คน NATIONTV.TV อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) added 2 new photos. 1 hr · หรือว่าพระเสื้อแดงเขากลัวว่าสังคมเขาจะลืมเรา ๙ มีนาคม ๒๕๕๘ เห็นข่าวพวกพระเสื้อแดงและพวกปกป้องธรรมกาย รวมหัวกันออกมาประกาศให้ประชาชนคนทั้งประเทศ แจ้งความจับพระพุทธะอิสระ ข้อหาดูหมิ่นผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนสมเด็จพระสังฆราช และทำลายสงฆ์ให้แตกกัน ฉันดูข่าวแล้วรู้สึกดีใจจัง ที่ไม่เหนื่อยเปล่าในการออกไปตะลอนๆ ออกไปวางเหยื่อ กับดัก กดดันให้ลิ่วล้อธรรมกายปรากฏตัว ไม่คิดว่าคนพวกนี้จะรีบร้อนฮุบเหยื่อกันเร็วขนาดนี้ แต่ก็ยังดี ฉันจะได้ไม่ต้องเหนื่อย ไม่ต้องเสียเวลา จะได้รู้กันไปเลยว่าไผเป็นไผ ใครอยู่ฝ่ายไหน เวลาจะเช็คบิลจักได้เช็คไม่ผิดตัว แต่ก็ยังอยากจะส่งสัญญาณฝากไปถึงบรรดาสาวกมหาเถร สาวกธรรมกาย และมหาจุฬาลูกน้องนายหน้าเหลี่ยมว่า อย่าพึ่งใจร้อนตะกรุมตะกรามตะกละฮุบเหยื่อ เผื่อเหลือเผื่อขาดเอาไว้บ้าง เพราะฉันจะวางเหยื่อดักยังไม่ถึงครึ่งเลย ใจเย็นๆ เก็บอาการหวาดกลัวเอาไว้บ้าง เดี๋ยวเจอเหยื่อชิ้นใหญ่จะตกใจช็อค หมดแรงฮุบเหยื่ออร่อยๆ เสียก่อนน่าเสียดาย ไหนๆ ก็พูดมาถึงขั้นนี้แล้ว ลองหันไปถามลูกพี่ตนที่ท่านคุณออกมาปกป้องดูทีซิว่า รู้บ้างไหมว่า ใครเอ่ย มีเมียตั้ง ๔ คน ใครรู้ช่วยบอกที มีเหยื่อตัวอย่างให้ชม ได้ยินมาว่า คนที่มีเมีย ๔ คน โยกย้ายถ่ายเทงบประมาณแผ่นดินไปสู่ภูเขาทอง ระหว่างวันที่ ๑๑ พ.ย. ๕๖ – ๔ มี.ค. ๕๗ เงินนั้นไปเข้าบัญชีของใคร ? หากอยากรู้ จักยกขึ้นมาให้ดูเป็นหนังตัวอย่าง (ดูรูปประกอบ) นี่แค่เหยื่อตัวอย่าง สดๆ ร้อนๆ นะจ๊ะ เพราะฉะนั้น อย่าพึ่งใจร้อนรีบฮุบเหยื่อ งานนี้คงต้องดูกันไปยาวๆ ตามคอนเซ็ปต์ ลุ้น เสียว ขำ ฮา ของพญาราชสีห์แห่งเวทีแจ้งวัฒนะ โปรดติดตามตอนต่อไป พุทธะอิสระ 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 (มีการแก้ไข) สนพ.-องค์กรชาวพุทธ ยกเลิกสวดมนต์หมู่ 12 มี.ค.ที่สนามหลวง-เรียกร้องชาวพุทธแจ้งความ พุทธอ� สนพ.และองค์กรชาวพุทธ ยกเลิกสวดมนต์หมู่ 12 มี.ค.นี้ ภายหลังรัฐบาล-สปช.ยอมถอยยุบบอร์ดปฏิรูปพุทธศาสนา “พระเมธีธรรมาจารย์”... MANAGER.CO.TH ถูกแก้ไข มีนาคม 9, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 9. นับถอยหลัง ก่อเหตุขว้างระเบิดใส่ศาลอาญาที่รัชดาฯในวันที่7มีนาคมไม่ใช่เรื่องล้อเล่น เพราะว่ามีแผนป่วนระเบิด100จุดทั่วกรุงเทพในวันที่15มีนาคมเพื่อสร้างสถานการณ์ดึงยูเอ็นเข้ามา ตามรายงานของไทยรัฐฯดูจากลิงค์ข้างล่าง รัสเซียเอาเรือรบมาเยือนสัตหีบแล้ว อิลลิทไม่น่าจะพอใจ จึงต้องเร่งให้คนไทยจัดการกันเองตามสไตล์Civil Warที่เคยเกิดขึ้นในช่วงFirst Triumvirateในช่วงก่อนคริสตกาล แผนการในวันที่15มีนาคมที่จะบึ๊มบางกอกตรงกับวัน Ides of March หรือวันที่จูเชียส ซีซ่าร์โดนแทงตายที่สภาเซเนทในกรุงโรมไม่ใช่หรือ? โลโก้ของยูเอ็นเป็นรูปโลก แต่อยู่ใต้อำนาจของช่อกิ่งต้นมะกอก (olive branch) ซึ่งเป็นสัญญลักษณ์ของโรม รูปปั้นซีซ่าร์สวมมงกุฎเป็นช่อใบมะกอกเหมือนกัน กิ่งใบมะกอกเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพ แต่อ่านประวัติศาสตร์แล้วเคยเห็นโรมคิดเรื่องสันติภาพด้วยหรือ นอกจากเรื่องสงคราม? thanong 9/3-2015 http://www.thairath.co.th/content/485744 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 (มีการแก้ไข) ลัทธิอันตรายสำนักธรรมกาย ทุนนิยมในคราบพุทธศาสนา? พฤติกรรมแนวคิดของสำนักพระธรรมกายตลอดช่วงที่ผ่านมาถูกวิพากษ์วิจารณ์ตั้งข้อสงสัยมาตลอดว่าบิดเบือนจากหลักธรรมคำสอนของพุทธเจ้าไม่ต่างอะไรจากทุนนิยมในคราบพุทธศาสนา หนึ่งในบุคคลที่จะวิพากษ์สำนักธรรมกายได้อย่างลึกซึ้งดีที่สุดก็คือ พระอดิศักดิ์ วิริยะสักโก 1 ใน 3 ผู้ก่อตั้งวัดพระธรรมกาย อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเหรัญญิกวัด วิพากษ์ว่าเทคนิคการสอนของวัดพระธรรมกายคือพยายามบอกบุญหรือเรี่ยไรในรูปของธุรกิจมากกว่าการสร้างศรัทธาให้คนทำบุญด้วยจิตใจ ไม่ใช่การบอกบุญธรรมดา แต่เป็นการพยายามเซ๊าซี๊เพื่อให้พุทธศาสนิกชนเกิดความเกรงใจ ทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน ถ้าเขาไม่มีเงินก็ทำให้เกิดความงมงายโดยการให้ไปกู้เงินมาทำบุญและเร้า ให้คนทำบุญเพื่อแลกกับนิพพาน ยิ่งบุญมากเท่าไหร่ก็ยิ่งได้ขึ้นสวรรค์ นอกจากนี้การที่ออกมาพูดว่าเข้าถึงธรรมกายแล้วจะสามารถสื่อสารกับพระพุทธเจ้าได้นั้น เป็นเรื่องที่สร้างขึ้นมาเพื่อยกย่องสร้างสัญญลักษณ ธัมมชโยว่าเป็นผู้วิเศษ และพยายามโน้มโน้มให้ผู้คนศรัทธาว่าตัวเองเป็นหัวหน้าของพระพุทธเจ้าทั้งหมด สามารถทำอะไรก็ได้ ซึ่งขัดหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า และผิดหลักพุทธศาสนาซึ่งถือเป็นการเผยแพร่แนวคิดในทางที่ผิด ขณะที่ ดร.น.พ.มโน เลาหวณิช ซึ่งครั้งหนึ่งเคยบวชที่วัดธรรมกาย โดยปัจจุบันเป็นกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ชี้ว่า “วัดธรรมกายขณะนี้ทำให้มาตรฐานของพระธรรมวินัยหมดไปแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมหาเถรสมาคมออกมาอุ้มพระธัมมชโย แล้วก็คดีความต่างๆที่บอกว่าคืนทรัพย์สินแล้วไม่ปาราชิกมันสวนทางกับพระธรรมวินัยทั้งหมดเลย และวัดธรรมกายเป็นองค์กรที่มีอำนาจมากล้นฟ้าเลยทีเดียว สามารถเอาอำนาจตัวเองไปใช้อะไรต่างๆก็ได้ แต่มันไม่ได้ใช้ในทางที่ดี เอาไปใช้โดยบอกว่าพัฒนาศีลธรรมโลก แต่ตัวเองโกงชาวบ้านเขา มันเหมือนกับหน้าเนื้อใจเสือ คนได้รับความทุกข์ทรมานจากวัดเยอะแยะ ครอบครัวแตกแยกเป็นหมื่นครอบครัว มีการปั่นศรัทธาคนทำบุญกันอย่างบ้าคลั่ง ทำบุญโดยการดูดเอาเงิน ดูดทรัพย์เข้ามาอย่างมโหฬาร“ ดร.น.พ.มโน ยังกล่าวถึงคดียักยอกทรัพย์สินวัดธรรมกายของ ธัมมชโย ว่า “ที่สมเด็จพระสังฆราชออกมาชี้ว่าปาราชิกเพราะหลักฐานชัดเจนว่าเอาเงินวัดไปเป็นพันล้าน ไปซื้อที่กว่าจะคืนก็นาน คืนเสร็จก็บอกว่าไม่ผิด อันนี้มันผิดทั้งหลักการ กฏหมาย หลักธรรมวินัย ท่านมีเงินเยอะ มีพระผู้ใหญ่เข้าข้างมากมาย ทางลิขิตถือว่าท่านปาราชิกแล้วเป็นปี แต่ก็ยังมีพระพวกถืออำนาจอยู่ จนกระทั่งสามารถจะเป็นใหญ่ต่อไปได้อย่างหน้าชื่นตาบาน ความละอายไม่มี“ ส่วนเรื่องคำสอนที่บิดเบือนที่ผิดเพี้ยนของลัทธิธรรมกายนั้น ดร.น.พ.มโน ชี้ว่า “มันบิดเบือนคำสอนของพระพุทธศาสนาไปมาก อย่างการเกิดขึ้นของพระต้นธาตุต้นธรรม พระพุทธศาสนาเป็นศาสนา ที่ไม่มีพระผู้เป็นเจ้า ท่าน(ธัมมชโย)ก็ต้องรู้ตัวท่านเองดีว่าท่านไม่ใช่ต้นธาตุ แล้วท่านยังมาทำอุตริมนุสธรรมที่เกินคนธรรมดา พยากรณ์ด้วยญาณทัสสนะ อันนี้มันผิดอยู่แล้ว“ สำหรับแนวคิดความเป็นธุรกิจทุนนิยมของวัดพระธรรมกาย ดร.น.พ.มโน วิพากษ์ว่า “นี่มันเป็นยุคกองทุน มันไม่ใช่ธรรมมะยุคพระศรีอาริย์ ธรรมมะยุคเงินเป็นใหญ่ ทุนนิยมครอบครองประเทศไทยไปหมดแล้ว พระสงฆ์องค์เจ้าตอนนี้ก็แข่งกันรวย พระพุทธองค์ทรงสอนไว้ว่า การเป้นพระต้องสละเงินทอง สมบัติส่วนตัว ไม่เช่นนั้นถือว่าเป็นอาบัติ ทว่าพระปัจจุบันบิดเบือนคำสอนทำให้ศาสนาไม่เหลืออะไรเลย เหลือเพียงแต่คนนุ่งเหลืองที่หลอกลวงชาวบ้าน พระพุทธเจ้าตรัสว่าทรัพย์สมบัติมันเป็นอาบัติปาจิตตีย์ เงินต้องสละเรียกว่า นิสสัคคีย์ เงินเหมือนอสรพิษ แต่ปัจจุบันพระไทยอยากมีอรสรพิษกันเยอะ พกอสรพิษกันเต็มย่ามเลย มีธุรกิจอุตสาหกรรมพระเครื่องอีกต่างหาก บิดเบือนคำสอนเอาดีเข้าตัว ทำยังไงจะได้เงิน ศาสนามันไม่เหลืออะไรตอนนี้เหลือแค่การทำมาหากินเป็นอาชีพหนึ่งของคนนุ่งเหลืองหลอกลวงชาวบ้าน“ ดร.น.พ.มโน ยังเปิดเผยว่าเมื่อครั้งบวชอยู่ที่วัดธรรมกายเคยเตือน ธัมมชโย เรื่องการนำเงินไปลงทุนทำธุรกิจต่างๆว่า“ผมเคยเตือนเขาว่าให้หยุดเถอะไม่ดี แต่เขากลับตอบมาว่าอย่ามายุ่ง นี่คือเรื่องส่วนตัว เท่านั้นผมก็พอเพราะไม่ใช่พุทธแล้ว นี่คือธุรกิจของธัมมชโยเพื่อต่อยอดให้เขาได้ความยิ่งใหญ่” พร้อมกันกันนั้น ดร.น.พ.มโน ฝากข้อคิดทิ้งท้ายไปยังพุทธศาสนิกชนให้ตี่นเลิกงมงาย โดยต้องแยกแยะสิ่งที่เป็นสาระแก่นสารของพุทธศาสนาโดยพระที่ดีต้องไม่มีเงิน ไม่ขับรถเบนซ์หรู ซื้อรถหรู สะสมรถหายาก ซื้อรถหนีภาษี พระที่มีเงินไม่เรียกว่าพระ แต่เรียกว่านักธุรกิจ ซึ่งคนไทยยังนิยมชอบพระหมอดู พระผู้วิเศษ โดยไม่ศึกษาแก่นสารในหลักธรรมเพื่อมาพัฒนาตัวเอง นอกจากนี้จากผลงานวิจัยในวิทยานิพนธ์ของ ท่านว.วชิรเมธี ในหัวข้อ” บทบาทในการรักษาพระธรรมวินัยของพระธรรมปิฏก(ป.อ.ปยุตโต) : ศึกษาเฉพาะกรณีธรรมกาย” เมื่อครั้งศึกษาหลักสูตรปริญญาพุทธศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนา มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เมื่อปี 2546 ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า วัดพระธรรมกายทำให้พระธรรมวินัยวิปริต ยกเรื่องการทำบุญมาเป็นสินค้า นำเอาลัทธิทุนนิยมมาผสมผสานกับการบริหารจัดการวัด ซึ่งพฤติกรรมทั้งหมดที่ดำเนินการของวัดจะเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาและต่อสังคมไทย และหากวัดพระธรรมกายกระทำการเผยแผ่ และยึดครองได้สำเร็จตามความมุ่งหมายที่ตั้งเอาไว้ จะส่งผลให้พระพุทธศาสนาแบบเถรวาทในประเทศไทยต้องสูญสิ้นได้ ก่อนหน้านี้หลายปีมาแล้ว พระธรรมปิฏก(ป.อ.ปยุตโต เคยแสดงความห่วงใยเอาไว้ว่า ปัญหาพระธรรมกายร้ายแรงถึงขั้นอาจทำให้พุทธศาสนาดั้งเดิมที่รักษากันมานับพันปีอาจถึงคราวสูญสิ้นลงให้ประวัติศาสตร์ได้จากรึกในคราวนี้ โดยความร้ายแรงของปัญหากรณีธรรมกาย แบ่งเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนที่หนึ่ง ส่งผลกระทบต่อธรรมวินัยโดยตรง และส่วนที่สอง ปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อสถาบันสงฆ์และต่อสังคมไทย อันเกิดจากการเผยแพร่คำสอนคลาดเคลื่อนไปจากหลักพระพุทธศาสนาหลายประการ อาทิ 1.สอนคำว่านิพพานเป็นอัตตา 2. สอนเรื่องธรรมกายอย่างเป็นภาพมิติและให้มีธรรมกายที่เป็นตัวตน เป็นอัตตาของพระพุทธเจ้ามากมายหลายพระองค์ไปรวมอยู่ในอายตนนิพพาน 3.สอนเรื่องอายตนนิพพานที่ปรุงถ้อยคำขึ้นมาเองใหม่ให้เป็นดินแดนที่จะเข้าไปเฝ้าพระพุทธเจ้า ถึงกับมีพิธีถวายข้าวพระที่จะนำข้าวไปบูชาไปถวายแด่พระพุทธเจ้าในอายตนนิพพานนั้น ซึ่งคำสอนเหล่านี้ผิดเพี้ยนไปจากธรรมวินัยของพระพุทธเจ้า ยิ่งไปกว่านั้นวัดพระธรรมกายยังเผยแพร่เอกสารที่จาบจ้วงพระธรรมวินัย ชักจูงให้คนเข้าใจผิด สับสน หรือแม้แต่ลบหลู่พระไตรปิฏกบาลีที่เป็นหลัก ของพระพุทธศาสนาเถรวาท อาทิ ให้เข้าใจว่าพระไตรปิฏกบาลีบันทึกคำสอนไว้ตกหล่น หรือมีฐานะเป็นเพียงความคิดเห็นอย่างหนึ่ง เชื่อถือหรือใช้เป็นมาตรฐานไม่ได้ ทั้งหมดเป็นแค่ตัวอย่างอันตรายของลัทธิธรรมกาย ส่อพฤติการณ์เป็นภัยร้ายแรงต่อพระพุทธศาสนา และสังคม ยังไม่พูดถึงเบื้องหลังทางการเมืองของลัทธิธรรมกายที่เป็นภัยต่อความมั่นคงและระบอบการปกครองของประเทศในระยะยาว http://www.naewna.co...umnonline/17309 == ถูกแก้ไข มีนาคม 9, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 หลวงปู่พุทธะอิสระ (Buddha Isara) อยากให้คุณประยุทธ์ เป็นพระเจ้าอโศกมหาราช ๘ มีนาคม ๒๕๕๘ เหตุเพราะปัญหาที่เกิดขึ้นในสังฆมณฑลในขณะนี้ ซึ่งมีทั้งพระผู้ปกครองละเมิดวินัย ทุจริตคอรัปชั่น ปล่อยให้มีการประพฤติปฏิบัตินอกธรรมนอกวินัย เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย จนขยายครอบคลุมไปทั้งบ้านทั้งเมือง แล้วสร้างอิทธิพลครอบงำสังฆมณฑล โดยจับมือกับพรรคการเมืองเพื่อครอบงำประเทศไทย อีกทั้งภิกษุทุศีลเกิดขึ้นเต็มบ้านเต็มเมือง มหาเถรสมาคมซึ่งเป็นองค์กรปกครองสงฆ์สูงสุด กลับปล่อยปละละเลย ความวิปริตผิดธรรมผิดวินัยเช่นนี้ หากจะปล่อยให้สงฆ์จัดการกันเองคงจะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ จำเป็นต้องใช้อำนาจพิเศษดังที่มีมาแล้วเมื่อปี พ.ศ.๒๓๕ มีพวกเดียรถีย์ นักบวชนอกศาสนาปลอมเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา เพราะเห็นแก่ลาภ ต้องการลาภ และบ่อนทำลายพระพุทธศาสนา พระธรรมวินัย พร้อมกับแสดงวิธีคิด วิธีปฏิบัติที่ผิดธรรม ผิดวินัย แล้วโพนทะนาว่า เป็นพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพียงเพื่อให้ได้มาซึ่งลาภสักการะ และอำนาจวาสนาที่ตนต้องการ แต่ด้วยอาศัยพระมหาเถระโมคคัลลีบุตรติสสะ ผู้มีปัญญารุ่งเรือง ผู้มีความเคารพศรัทธาในพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระธรรมวินัยยิ่งชีวิต ได้เสียสละเสี่ยงอันตรายออกมาเรียกร้องให้พระภิกษุสงฆ์ผู้เคร่งครัดพระธรรมวินัยและรวบรวมได้ ๑,๐๐๐ รูป ให้มาช่วยกันชี้โทษ ชี้ถูก ชี้ผิด ให้พุทธบริษัทได้รับรู้ จนเรื่องอลัชชีนี้ได้รู้ไปถึงหูของพระเจ้าอโศกมหาราช ผู้มีจิตศรัทธา เคร่งครัดในพระธรรมคำสั่งสอนของพระบรมศาสดา จวบกับพระโมคคัลลีบุตรติสสะและหมู่พระเถรานุเถระได้เข้าเฝ้า ขอร้องให้พระเจ้าอโศกเป็นกำลังสำคัญในการปฏิรูป ทำการสังคายนาหมู่สงฆ์อลัชชี พร้อมทั้งได้อธิบายความผิดและโทษภัยที่พวกนักบวชเดียรถีย์ ได้กระทำการย่ำยีต่อพระธรรมวินัย พระเจ้าอโศกมหาราช เมื่อทรงฟังคำอธิบายของบรรดามหาเถระผู้ทรงธรรมทรงวินัย จึงใช้พระราชอำนาจสั่งเรียกประชุมสงฆ์ทั่วแผ่นดินให้มารวมกัน แล้วทรงคัดสรรจัดตั้งพระมหาเถระผู้มีสติปัญญา ทรงธรรม ทรงวินัย ได้จำนวนหนึ่ง แบ่งกันตั้งคำถามไต่สวน สอบทานความรู้ความเข้าใจ และหลักปฏิบัติตามพระธรรมตามวินัย ๕๐๐ ข้อ แก่ภิกษุทั้งหลาย จนสามารถคัดกรองพวกนอกรีต เดียรถีย์ อลัชชีปลอมบวชได้ถึง ๖๐,๐๐๐ กว่ารูป ให้ออกจากหมู่บริสุทธิสงฆ์ โดยมีพระเจ้าอโศกมหาราชทรงเป็นประธาน เมื่อได้ตัวผู้บ่อนทำลายพระธรรมวินัยพระพุทธศาสนามาถึง ๖๐,๐๐๐ รูปแล้ว พระเจ้าอโศกมหาราชจึงสั่งให้เจ้าพนักงานจับอลัชชีพวกนั้นสึก ถอดจีวร แล้วให้ลงทัณฑ์โดยการเฆี่ยนตีบ้าง ทำงานเป็นกรรมกรใช้แรงงานหนัก เพื่อชดเชยใช้หนี้สงฆ์บ้าง หากมีโทษหนักก็ให้นำตัวไปคุมขังเสียบ้าง รวมความแล้ว พวกอลัชชี ๖๐,๐๐๐ กว่ารูป โดนกำจัดออกไปจากหมู่บริสุทธิสงฆ์จนหมดสิ้น โดยอาศัยอำนาจบารมีของพระเจ้าอโศกมหาราช นอกจากนี้พระองค์ยังทรงสนับสนุนให้มีการนำเอาหลักธรรมวินัยมาประกาศใช้เป็นกฎมณเฑียรบาล เป็นกฎหมายปกครองบ้านเมือง พร้อมคัดสรรพระภิกษุผู้มีสติปัญญา ทรงธรรม ทรงวินัย ให้ออกเดินทางนำเอาหลักพระธรรมวินัยของพระบรมศาสดา ออกไปเผยแผ่ในทิศทั้ง ๔ จนแผ่นไทยได้รับอานิสงส์จากพระธรรมทูต ที่พระเจ้าอโศกมหาราช ส่งพระโสณเถระและพระอุตตรเถระเป็นหัวหน้า มาพร้อมคณะสงฆ์ ได้นำเอาพระพุทธศาสนา สายพระเจ้าอโศกมหาราช เข้ามาเผยแผ่ในสุวรรณภูมิแหลมทองของไทยอยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ข้อสังเกต - พระภิกษุสงฆ์สาวกขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้า ที่มีมาแล้วในอดีตจะไม่นิ่งดูดาย เมื่อเห็นว่าพระธรรมวินัยโดนย่ำยี พระพุทธศาสนามีภัย หมู่สงฆ์ผู้ทรงธรรมทรงวินัยจะเสียสละออกมาปกป้อง - พระภิกษุสงฆ์สาวกขององค์พระผู้มีพระภาคเจ้า ที่มีมาแล้วในอดีต จักเป็นผู้อาจหาญ ผู้กล้า ผู้สามารถ ที่จะต่อสู้กับพวกอลัชชี เดียรถีย์ โดยไม่หวั่นเกรงแม้จะมีกำลังน้อยนิด แค่ ๑,๐๐๐ รูป ต่อกรกับ ๖๐,๐๐๐ คน - ผู้มีอำนาจปกครองบ้านเมืองในอดีต เป็นผู้มีศรัทธาอันถูกต้องซื่อตรงต่อพระธรรมวินัย เขาจะไม่นิ่งดูดาย ปล่อยให้พระพุทธศาสนา พระธรรมวินัยเป็นไปตามยถากรรม โดยใช้คำว่า “ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์” หรอกคุณประยุทธ์ ถึงเวลาแล้วหรือยัง ที่รัฐบาล คสช. สปช. สนช. คุณประยุทธ์ จะร่วมมือกัน ใช้อำนาจพิเศษที่คุณมี ทำการสังคายนาปฏิรูปวงการคณะสงฆ์ และกิจการคณะสงฆ์ให้ถูกตรงตามพระธรรมคำสั่งสอนเสียที หรือพวกคุณจะปล่อยให้สังฆมณฑลเน่าใน หมักหมม โสโครก และกัดกินบ่อนทำลายพระบริสุทธิธรรมของพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่เช่นนี้ แล้วพวกคุณจะมีอำนาจหน้าที่เอาไว้ทำไม พุทธะอิสระ อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 (มีการแก้ไข) ถูกแก้ไข มีนาคม 9, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 .....ทำไม 'ยุโรป-สหรัฐ' ขย้ำไทย? .....เปลว สีเงิน ไทยโพสต์ วันจันทร์ที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๕๗ .....เห็นมั้ย....ประเทศไทยวันนี้ เป็นตามคำว่า "สิ่งที่ตาเห็น ใช่สิ่งที่เป็นจริงเสมอไป" เปี๊ยบเลย! .....นปช.ก็ดี เสื้อแดงแปลงร่างก็ดี นักวิชาการประชาธิปไตยมาตรฐานทักษิณก็ดี กลุ่มต่อต้านรัฐประหารก็ดี กลุ่มสิทธิมนุษยชนใบสั่งก็ดี .....สิ่งที่ตาเห็นคือว่า เป็นกลุ่มคนเอาประชาธิปไตย กลุ่มคนเอาเลือกตั้ง กลุ่มคนเรียกร้องมาตรฐานเดียวกันในสังคม .....แต่สิ่งที่เป็นจริงคือ พวกนี้เป็นกลไกใต้ระบอบทักษิณ เพื่อเปลี่ยนระบอบ-ล้มสถาบัน-ทักษิณสถาปนาเป็นใหญ่ในแผ่นดิน! .....เมื่อมองตามหลักการนี้ ก็ต้องถามว่า "แล้วเบื้องหลังทักษิณ นอกจากที่ตาเห็นล่ะ...สิ่งที่เป็นจริงมันคืออะไร"? .....นี่ไง...สิ่งที่เป็นจริงที่อยู่เบื้องหลังทักษิณ! .....-๒๓ พ.ค.๕๗ "นายจอห์น แคร์รี" รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐแถลง ....."ข้าพเจ้ารู้สึกผิดหวังกับการตัดสินใจของกองทัพไทยในการประกาศงดใช้รัฐธรรมนูญ และเข้ามาควบคุมรัฐบาลภายหลังภาวะโกลาหลทางการเมืองที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน ซึ่งไม่มีเหตุผลอันชอบธรรมใดๆ ให้แก่การก่อรัฐประหารโดยกองทัพ..." .....-๒๙ พ.ค.๕๗ "นางแคทรีน แอชตัน" ผู้แทนระดับสูงสหภาพยุโรป (อียู) แถลง .....".........เราเรียกร้องให้ผู้นำทหาร ปล่อยตัวผู้ที่ถูกควบคุมตัวด้วยเหตุผลทางการเมืองในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาทั้งหมด และยกเลิกการจำกัดเสรีภาพสื่อ เราขอร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความยับยั้งชั่งใจอย่างสูงสุด และเคารพปฏิบัติตามสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานและสิทธิมนุษยชน การจัดทำแผนที่น่าเชื่อถืออย่างเร็วที่สุดในการคืนสู่การปกครองภายใต้รัฐธรรมนูญ และการเลือกตั้งเท่านั้นที่จะช่วยให้การสนับสนุนของสหภาพยุโรปต่อประเทศไทยดำเนินต่อไปได้” .....-๓๐ พ.ค.๕๗ น.ส.เจน ซากี โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐแถลง ....."...........การแถลงแผนยุทธศาสตร์มุ่งสู่ความเป็นประชาธิปไตยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เมื่อค่ำวันที่ ๓๐ พ.ค.ที่ผ่านมานั้น ยังขาดรายละเอียดบางอย่างไป สหรัฐยืนยันว่าหนทางที่ดีที่สุดในการก้าวไปข้างหน้าคือ การกำหนดเวลาให้มีการเลือกตั้งเร็วกว่าที่ระบุ และควรช่วยอำนวยการให้เกิดความโปร่งใสในกระบวนการเลือกตั้ง" .....-นายชัค เฮเกล รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ ....."..........ให้คืนอำนาจให้ประชาชนคนไทย ด้วยการกำหนดให้มีการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรมในทันที และจนกว่าจะทำตามที่สหรัฐเรียกร้อง สหรัฐขอระงับการสนับสนุนทางการทหาร และการซ้อมรบร่วมกับไทย รวมทั้งทบทวนความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพของทั้ง ๒ ประเทศ" .....-นายเดวิด จอห์นสตัน รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย .....".........ออสเตรเลียขอลดความร่วมมือกับกองทัพไทยและลดระดับความสัมพันธ์กับผู้นำทางทหารของไทย......ยังจัดกลไกป้องกันไม่ให้ผู้นำรัฐประหารเดินทางไปยังออสเตรเลียด้วย ขอให้กองทัพไทยจัดทำแผนการคืนประชาธิปไตยและหลักนิติธรรมให้เร็วที่สุด...." .....ก็เห็นชัดและรู้ซึ้งกันแล้วใช่มั้ยว่า...... ....."ใต้หน้ากากมหามิตร" คือ จักรวรรดินิยมอำนาจตะวันตก ที่คบไทยเป็นมิตรหวังปอกลอก จ้องเอาแต่ประโยชน์ เมื่อไม่ได้ดังใจก็ใช้อำนาจและอิทธิพลที่เหนือกว่า...ขย้ำ! .....ต้องรู้กำพืดนะว่า สหรัฐคือ "เด็กเพาะในหลอดแก้ว" ของยุโรป ไม่แค่ยุคนี้ นับแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ ๑-๒ สหรัฐ-ยุโรป เป็นองค์กรควบคุมกลไกโลกมาตลอด .....ส่วนแคนาดา ออสเตรเลีย นั่นแค่เด็ก "ท้องนอกมดลูก" ของอังกฤษ เหมือนๆ สหรัฐที่ว่ายิ่งใหญ่ .....แต่...ทุกการเคลื่อนไหว อยู่ใต้อาณัติ "แม่"! .....สหรัฐ-ยุโรป ทำไมดัดจริต "ยกประชาธิปไตย" ขึ้นมาบังหน้า เอาเป็น-เอาตายกับไทย ที่ต้องใช้กองทัพเข้าแก้ไขปัญหาเรื้อรังภายใน .....ทั้งที่สหรัฐ-ยุโรปเอง สุมหัวกันสนับสนุนโจรก่อการร้ายบ้าง กบฏแยกดินแดนบ้าง ทั้งเงิน ทั้งอาวุธ ทั้งกำลัง ให้โค่นล้มรัฐบาลในหลายๆ ประเทศ เช่น ลิเบีย ซีเรีย อียิปต์ และอีกหลายๆ ประเทศแถบอเมริกากลาง แถบตะวันออกกลาง .....ที่ลงมือ-ลงตีนทำเอง ก็อย่างเช่นเข้าไปยึดอิรัก จากประเทศที่มั่งคั่ง สวยงาม ประชาชนเป็นสุขตามวิถีวัฒนธรรมเขา กระทั่งจิ้งจอกสหรัฐ-ยุโรป เข้าไปสร้างฉากประชาธิปไตย .....แต่ "สิ่งที่เป็น" อันเป็นเบื้องหลัง.... .....แม่ง...มันรวมหัวกันเข้าไปปล้น เข้าไปสูบเอาเอาทรัพยากรน้ำมันเขา นั่นคือเป้าหมายแท้จริงในการบุกอิรัก ชนิดที่ UN ต้องเอาหัวแม่ตีนยัดปากตัวเอง กลัวเผลอด่าสหรัฐว่า.... ....."มึงนั่นแหละ...ไอ้เผด็จการโลก!" .....อิรักล่มสลาย มองไม่เห็นทางฟื้นคืนกลับ ตราบ ณ วินาทีนี้ นี่คือตัวอย่างตำตาว่ายุโรป-สหรัฐ ยึดมั่นประชาธิปไตย หรือไอ้เผด็จการลวงโลก แต่สวมหน้ากากประชาธิปไตย คอยเข้าไปปล้นตามประเทศที่ไม่ยอมทำตามที่มันร้องขอ? .....ทักษิณเป็นรัฐบาลครองประเทศไทย ไม่ว่าทักษิณจะโกงเลือกตั้ง จะฆ่าตัดตอน จะคุกคามสื่อ จะทุจริต-คอร์รัปชัน จะบริหารเผด็จการในคราบประชาธิปไตย .....ถุย....อเมริกา! .....เคยซักครั้งมั้ย ที่โฆษกทำเนียบขาวหรือรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐจะออกมาแถลงด้วยคำนำประโยคว่า.... ....."ข้าพเจ้ารู้สึกผิดหวังกับการกระทำของรัฐบาลทักษิณที่ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ" เหมือนอย่างที่ทำกับคณะ คสช.วันนี้? .....กระทั่งรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชัดว่าเป็นรัฐบาลประชาธิปไตยหุ่นกระบอก โกง-กินก็ปานนั้น บริหารย่ำยีรัฐธรรมนูญก็ปานนั้น คุกคาม-เข่นฆ่าประชาชนที่ไม่เป็นพวกก็ปานนั้น ซ่องสุมกำลังและอาวุธ มีปฏิบัติการเพื่อล้มระบอบ ล้มสถาบัน หวังยึดครองประเทศ ถึงขั้นประกาศจะเปลี่ยนประเทศเป็นแดงทั้งแผ่นดิน .....สหรัฐก็รู้ ขืนบอกไม่รู้ ระวัง...จะถูกถีบ! .....เพราะเมื่อ ๒๗ กุมภา ๕๗ นี่เอง ส่งเลขานุการเอก ฝ่ายการเมือง ของสถานทูตสหรัฐประจำประเทศไทย ให้ยกคณะทูตสหรัฐไปเยี่ยมชมหมู่บ้านเสื้อแดง และสถานีวิทยุเสียงประชาชน ที่ชุมชนพรสวรรค์ ต.หนองบัว อ.เมือง จ.อุดรธานี .....ต้อนรับเอิกเกริก ภายใต้ป้ายต้อนรับผืนใหญ่ .....Red Shirt Village welcome .....Embassy of the United State Bangkok .....เนี่ย...แทรกแซงกิจการภายในประเทศอื่นขนาดนี้ มันยังมีอะไรแก้ตัวได้ว่า สหรัฐไม่ได้สมคบทักษิณ "เหนือแผ่นดินไทย"? .....ทำไม ยุโรป-สหรัฐ จึงมองไม่เห็น การเป็นปฏิปักษ์ประชาธิปไตยแท้จริงของรัฐบาลระบอบทักษิณ? .....คำตอบชัดมาก! .....เพราะรัฐบาลทักษิณ-ยิ่งลักษณ์ ยอมยกผลประโยชน์ชาติให้สหรัฐ-ยุโรป "ง่ายดี" นั่นเอง! .....ที่ปิด แต่รู้กันทั่วไทย คือ ทรัพยากรน้ำมัน ก๊าซ ในอ่าวไทย .....ที่ปิด แต่รู้กันทั่วโลก คือ ฐานทัพอู่ตะเภา! .....ไม่ใช่แค่สหรัฐอยากได้ รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยิ่ง "อยากได้" ด้วยเหตุผลแห่งประโยชน์วงศ์วานว่านเครือเธอเอง ถึงขั้นแบหลา จ้างล็อบบี้ยิสต์ไปล็อบบี้สภาคองเกรส กองทัพเรือ กลาโหมสหรัฐ ให้เข้ามาตั้งฐานทัพในประเทศไทยเร็วๆ .....นี่ไม่ใช่การกล่าวหา ไปดูได้จาก "เว็บไซต์กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ" ที่เผยแพร่ปลายปีที่แล้ว .....ยังไม่จบแค่นี้ ประเด็นหลักมันเกี่ยวไปถึงการกลับเข้ามา "ฟื้นฟูอำนาจ" อีกครั้งหนึ่ง ของกองทัพสหรัฐในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เพื่อคานกับจีน .....ทุกวันนี้ ในภูมิภาคนี้ มีฐานทัพสหรัฐเหลืออยู่แห่งเดียวที่สิงคโปร์ ซึ่งไม่พอเพียงที่จะใช้ต้านจีน ก็จะเห็นว่าในระยะ ๒-๓ ปีมานี้ สหรัฐได้รื้อฟื้น "ฐานบินคลาก" ที่เกาะลูซอน ฐานทัพเรือที่ "อ่าวซูบิก" ในประเทศฟิลิปปินส์ขึ้นมาใหม่ .....นอกจาก ๒ แห่งนี้ ยังเจรจากับเวียดนามฟื้นฟูท่าเรือที่ "อ่าวกามแร็งห์" ขึ้นมาด้วย .....แต่ที่ฟิลิปปินส์-เวียดนาม จะใช้ให้เกิดประสิทธิภาพถึงขั้น "จีนสะดุ้ง" ได้ ก็ต้องได้ "ฐานทัพอู่ตะเภา" เชื่อม เพราะอู่ตะเภาอยู่ในจุดยุทธศาสตร์เชื่อมต่อเยี่ยมสุด .....ที่อู่ตะเภา เครื่องบินรบบินจากอู่ตะเภาไปมหาสมุทรอินเดีย ทางด้านตะวันตก และไปมหาสมุทรแปซิฟิก ทางด้านตะวันออกได้ โดยไม่ต้องผ่านน่านฟ้าประเทศอื่น .....แต่ที่ฟิลิปปินส์และเวียดนาม ถ้าจะไปมหาสมุทรอินเดีย ต้องผ่านน่านฟ้าอีกหลายประเทศ! .....ก็นี่ไง...คุยกับรัฐบาลระบอบทักษิณ มันง่าย เพราะชาติมีไว้ขาย แต่คุยกับ คสช.มันไม่ง่าย เพราะชาติต้องรักษาไว้เหนือผลประโยชน์ .........ยุโรป-สหรัฐ จึงเล่นบท "หมาป่ากับลูกแกะ" ไงล่ะ. อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 อเนจอนาถ อุบาทว์ม็อบ จริงๆ สำหรับ แก๊งลิเบอรัล เลเบอร์รั่วเมืองไทย อุตส่าห์ไปหยิบยืมท่าชู 3 นิ้ว ของชาวบ้านเขามา เพื่อหวังมาเรียกร้องความสนใจครั้งใหม่ โดยการระดมพลครั้งนี้ ตั้งเป้าความฝันไว้ซะมากมายเรือนหมื่นเรือนแสน แต่เอาเข้าจริงขนกันมาได้แสนรันทดหดหู่ประมาณหลักสิบ พอหมดปัญญาหยิบฉวยสถานการณ์ใดๆมาสร้างกระแสป่วนได้ ก็รีบแห่หนีหายสลายโต๋กันไปในพริบตา ม็อบอะไร ?.. ลมที่ผายยังไม่ทันได้หายเหม็น ..เผลอแป๊บเห็นแต่หลังไหวๆ..หนีไวยังกับลิง !!.. เบื้องหลัง ม็อบดัดจริตชนลิเบอรัล ผสม เลเบอร์รั่ว แรงงานทาสแดงทักษิณอารมณ์ค้างพวกนี้ มี บก.ลายจุด ที่ตอนนี้กลายเป็น บก.ลายด่างหนีหางจุกตูดไปมุดหัวหลบภัยส้นคอมแบตอยู่ที่ไหนไม่รู้ ? คอยบงการแผนอยู่เบื้องหลังผ่านการนัดหมายปลุกระดมทางเฟซบุ๊ค ที่จับสาระสำคัญของยุทธวิธี และ เป้าหมายของการประท้วงไม่ได้ ตกลงจะเรียกร้องอะไรกันแน่ ? .. ต้านรัฐประหาร หรือ ต้องการผลประโยชน์อะไรแอบแฝงกันแน่ ? เหตุเพราะว่า..มันมีความตั้งอกตั้งใจอย่างเหลือเชื่อ ที่จะพยายามสื่อสารผ่านสื่อฝรั่งจัดตั้งให้เข้ามาทำข่าว บางจังหวะมีคนถือป้ายยืนแหกปากอยู่คนเดียว แต่ช่างภาพผู้สื่อข่าวมีเป็นสิบ โดยมีภาพทหารเป็นฉากหลัง ..พฤติกรรมต่ำทรามก่อนหน้านี้ ที่ตั้งใจทำร้ายเจ้าหน้าที่ ฉีดสีสเปรย์พ่นรถทหาร ยกป้าย ชูกระดาษ เรียกองค์กรข้ามชาติอย่าง UN ให้เข้ามาช่วย ให้เข้ามา ส.ใส่เกือก เสือกเรื่องการเมืองภายในประเทศของตัวเองเนี่ย ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่ชั่วร้ายมากๆ เรื่องบ้านเมืองตัวเองไปพาลเรียกหาฝรั่งมังค่ามาช่วย UN มันจะมาช่วยอะไรได้ ? ..นอกจากมาสร้างปัญหาเพิ่ม !! นี่แหละ ..สันดานทาสแท้ๆ ของดัดจริตชนเมืองไทย ไม่มีใคร คิดชั่วทำชั่ว และ เล่นละครปาหี่ได้ ตอแหล ระยำ อัปรีย์ เท่าคนพวกนี้อีกแล้วในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ทุกยุคทุกสมัยคนพวกนี้ก็จะอยู่กับการจัดฉากสร้างสถานการณ์ สร้างกระแสปลุกระดมด้วยข้อมูลบิดเบือน เผยแพร่ข้อมูลใส่ร้ายป้ายสี กองทัพ ทหาร และ สถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่เคารพและรักยิ่งของคนไทย โดยผลักให้ฝ่ายตรงข้ามเป็น พวกหัวอนุรักษ์ ส่วนพวกมันนั้น .. หัวก้าวหน้าตายห่า !! เวลานี้..เราคนไทยต้องช่วยกันจับตา และ ระมัดระวัง การแทรกแซงของมหาอำนาจชาติตะวันตกให้มากๆ คลิปการเยือนหมู่บ้านเสื้อแดง ของ เจ้าหน้าที่สถานทูตอเมริกาประจำประเทศไทย ที่ตอนนี้มีนางคริสตี้ เคนนีย์ ทูตอเมริกา เป็นหัวหน้าเนี่ย มองเป็นอย่างอื่นไม่ได้เลยนอกจากเรื่องของการแทรกแซงการเมืองภายในของไทย และ คิดโค่นล้มเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครองของไทย !! หมู่บ้านคนเสื้อแดง ไม่ใช่ หมู่บ้านของคนรักประชาธิปไตย วาทกรรมปกป้องประชาธิปไตย ปกป้องรัฐธรรมนูญ ที่ติดอยู่ป้ายไวนิล ที่มีหน้าเหลี่ยมๆของทักษิณติดอยู่น่ะ มันเอามาแปะบังหน้าสร้างภาพ แต่ความจริง คือ แผนแดงทั้งแผ่นดิน เพื่อแบ่งแยกคนไทยออกเป็นข้างฝ่ายด้วยสีเสื้อ เพื่อเป้าหมายใหญ่..ล้มล้างเปลี่ยนแปลงการปกครอง !! เมื่อตัวแทนของอเมริกาเสือกเข้าไปเยี่ยมชม ไปสนับสนุนหมู่บ้านเสื้อแดงแบบนี้ รัฐบาลอเมริกามันก็อย่าได้มาตะแบงเรียกร้องประชาธิปไตยส้นตีนแดงอะไรของมันอีกต่อไป เพราะหมู่บ้านคนเสื้อแดง มันมีแบบจำลองและที่มาจากพวกนิยมลัทธิคอมมิวนิสต์ ตั้งขึ้นมาและขยายตัวออกไปโดยใช้ลักษณะของไฟลามทุ่ง ป่าล้อมเมือง..มันคือสูตรสำเร็จ ของ พวกนิยมลัทธิคอมมิวนิสต์ อเมริกาเคยต่อต้านคอมมิวนิสต์ ตอนนี้จู่ๆมาจิตสับสนไปสนับสนุน ..หมู่บ้านแดง ของ ขี้ข้าทักษิณได้อย่างไร ?.. รายงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับปัญหาความขัดแย้งในประเทศไทย ที่ถูกส่งไปถึงสภาคองเกรสของอเมริกา จึงมีแต่ข้อมูลลวงโลก เรื่องความขัดแย้งในไทย เป็นการต่อสู้ระหว่าง ฝ่ายนิยมประชาธิปไตย กับ ฝ่ายนิยมเผด็จการ โดยยกให้ฝ่ายทักษิณเป็นฝ่ายนิยมประชาธิปไตย และ ให้ฝ่ายอื่นเป็นฝ่ายเผด็จการหมด ไม่เว้นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมในไทย เรื่องของ ศาล เรื่องขององค์กรอิสระ ที่ทำหน้าที่ตรวจสอบคดีทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ รัฐบาลอเมริกาก็มาตั้งแง่ตั้งข้อสงสัยในเรื่องของมาตรฐานการพิจารณาคดี .. อเมริกา เลือกข้างคนชั่วอย่างทักษิณชัดเจน และ สนับสนุนให้ทักษิณ โค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์ของไทยชัดเจน สูตรล้มล้าง ก็มีอยู่ 2 สูตร คือ 1. สูตรแดงทั้งแผ่นดิน เพื่อหวังล้างสมองปลุกระดมประชาชนให้ลุกฮือโค่นล้มสถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2. สูตรแก้ไขกฎหมาย ลดบทบาทสถาบันพระมหากษัตริย์ ฯ ผ่านข้อเสนอของแนวร่วมด้านวิชาการ พวกจานแดง เอ็นจีโอแดง นักวิชาการแดง โดยใช้วิธีเผยแพร่แนวคิดลัทธิประชาธิปไตยเฉยๆ เพื่อหวังลดพระราชอำนาจพระมหากษัตริย์ และ ลดบทบาทฐานะของสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เหลือเป็นเพียงสัญลักษณ์ .. อย่าได้แปลกใจ เหตุใด ? .. วานนี้ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ ถึงรีบสาระแนประกาศออกมาว่า ไม่ยอมรับโรดแมป 3 ระยะ ของ บิ๊กตู่ โดยตอแหลบอกว่าไม่มีรายละเอียด ทั้งๆที่ บิ๊กตู่ แถลงซะยาวเหยียดละเอียดยิบ แต่มันดันไม่หยิบมาพิจารณา แถมยังมาเรียกร้องให้ ทหารคืนอำนาจ และ จัดการเลือกตั้งโดยเร็ว 1 ปี นานไป ..จัญไรสิ้นดี !! ตอนนี้จึงมีคนไทยหลายฝ่ายออกมาร่วมด้วยช่วยกันประณามรัฐบาลอเมริกาต่อเนื่อง ล่าสุดก็สมาคมนักเรียนเก่าสหรัฐ โดยคุณหญิง ทรงสุดา ยอดมณี ประธานสมาคมฯ ออกมาแถลงตอบโต้ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ โดยบอกว่า ข้อมูลถ้อยแถลงโรดแมปของ บิ๊กตู่ นั้นชัดเจนดีแล้ว รัฐบาลอเมริกาต้องหลีกเลี่ยงการแทรกแซงกิจการบ้านเมืองไทยเพราะราชอาณาจักรไทยไม่เคยเป็นเมืองขึ้นของชาติตะวันตก และ ตอนนี้อเมริกาก็เสียเพื่อนไปมากแล้ว ประมาณว่า..ตอนนี้นานาชาติที่ไม่เห็นด้วยกับอเมริกานั้น ..มีมากไม่ใช่น้อยนั่นเอง !! ส่วนท่าที ของ บิ๊กตู่ และ คสช. นั้น ..ไม่หวั่นไหวต่อท่าที ไอ้กัน กับ พันธมิตรป่วนโลกชาติตะวันตกอยู่แล้ว เพราะงานนี้ กองทัพไทย และ ฝ่ายทหาร ถือไพ่เหนือกว่า ฝ่ายทักษิณ และ พวกมหาอำนาจอเมริกาเยอะ เพราะถือความชอบธรรมตรงที่มี ประชาชนคนไทยทั่วทุกฝ่าย หรือ เสียงส่วนใหญ่ของคนในสังคมไทยต่างให้การสนับสนุนการจัดระเบียบ สร้างความสงบภายใน และ ปฏิรูปประเทศ ก่อนกลับไปเลือกตั้งกันใหม่ทั้งนั้น .. พวกที่ออกมาสร้างกระแสต่อต้านรัฐประหารในตอนนี้ คือ พวกป่วนเมืองเสียงส่วนน้อย .. ที่ความเป็นคนไทยของคนพวกนี้นั้น..มันเหลือน้อยเต็มทน ..มานานแล้ว !! .. วินเซนต์ 1 มิถุนายน 2557 — อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 ยิ่งกลัวลูกลำบาก ลูกจะยิ่งลำบาก? "ผิดเป็นครู รู้เพราะลงมือทำ" สำหรับคนที่เป็นพ่อแม่ ที่กำลังจะเป็น และคนที่เป็นลูก:- เรื่องนี้ไว้สอนคนเป็นพ่อแม่โดยเฉพาะ อ่านแล้วค่อยให้ลูกๆอ่านต่อ ในระหว่างทานข้าวกลางวัน ซีอีโอ ถามกิตติผู้บริหารระดับสูงคนหนึ่งที่รายงานตรงต่อเธอว่า “ กิตติพี่สังเกตว่าคุณไม่เคยปิดมือถือเลย แม้กระทั่งเวลาประชุม แล้วพี่ก็เห็นคุณขอตัวออกไปจากที่ประชุมกลางคันเพื่อรับโทรศัพท์ พี่อยากรู้ว่าเป็นโทรศัพท์ของใครหรือ ทำไมมันสำคัญขนาดรอจนจบประชุมไม่ได้ พี่เห็นเป็นประจำเลยนะ ” กิตติมีท่าทีอึดอัด เขาตอบว่า “ ไม่มีอะไรหรอกครับ เรื่องส่วนตัวนะครับ ผมขอโทษ ” กิตติสารภาพออกมาแบบกระอักกระอ่วน “ ก็...คือว่า...พี่อย่าโกรธผมนะครับ มันเป็นโทรศัพท์มาจากลูกสาวผมเอง เธอเพิ่งไปเรียนไฮสคูลที่ออสเตรเลียเมื่อไม่กี่เดือน โรงเรียนที่ลูกสาวผมเรียนนี้ค่อนข้างจะเข้มงวด แถมมีการบ้านจมเลย ตอนลูกสาวผมเรียนที่นี่ ผมช่วยติวและทำการบ้านร่วมกับเธอบ่อยๆ ลูกคนเดียวเธอคือดวงใจของผมเลยครับ ผมบอกเธอว่าไปอยู่นั่น ติดขัดเรื่องการบ้านละก็โทรมาหาผมได้ทุกเมื่อไม่ว่าจะเป็นเวลาใด ผมจะคอยช่วยเหลือเธอผมไม่ต้องการเห็นเธอล้มเหลว ตอนค่ำเมื่อกลับบ้านผมก็แทบจะไม่ได้พักผ่อน แต่จะไปช่วยเธอทำการบ้านแล้วก็แฟ็กซ์ส่งไปเรื่องคณิตศาสตร์บ้าง ภาษาอังกฤษบ้าง ผมอยากให้เธอประสบความสำเร็จ “ เรื่องของคุณมันฟังแล้วคุ้นๆมากเลย พี่พอจะจินตนาการออก ถึงความลำบากใจของเธอ พี่เองก็มีลูกสาวเรียนปริญญาโทอยู่ที่อเมริกา พี่เคยทำแบบคุณเหมือนกัน เพราะลูกสาวพี่จบตรี แล้วไปต่อโทเลย จึงไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน ดังนั้นพอทำกรณีศึกษาก็มักจะ ไม่ทันเพื่อนเขา หรือไม่เข้าใจ แถมยังไม่กล้าถามอาจารย์อีก พี่เลยต้องช่วยทำเคส แล้วก็อีเมล์ไปให้เธอ แต่ว่าตอนนี้พี่หยุดช่วยเธอแบบนั้นแล้วล่ะค่ะ ” กิตติถามด้วยความประหลาดใจ “ ทำไมล่ะครับ พี่ไม่รักเธอแล้วหรือ หรือว่าพี่เห็นว่างานมีความสำคัญกว่าครอบครัวครับ ” “ พี่ยังรักลูก และเห็นคุณค่าของครอบครัวและงานเหมือนเดิม พี่โชคดีที่มีเพื่อนชาวอเมริกันคนหนึ่ง เขาสังเกตเห็นวิธีที่พี่ช่วยลูกสาว แล้ววันหนึ่งเขาก็ให้หนังสือเล่มหนึ่งชื่อ The Power of Failure โดย Charles C. Manz และมีการแปลเป็นไทยในชื่อ วิกฤติคือโอกาส โดยพสุมดี กุลมา เรียบเรียงโดย นราธิป นัยนา เพื่อนอเมริกันเขาคั่นเรื่องๆหนึ่งให้พี่อ่านโดยเฉพาะเลย พี่จะเล่าให้เธอฟัง ” ........ มีชายคนหนึ่งนั่งมองผีเสื้อที่กำลังดิ้นรนจะออกจากรังไหม เจ้าผีเสื้อดิ้นรนไปซักพัก จนกระทั่งใยรังไหมเริ่มขาดเป็นรูเล็กๆ ชายคนนั้นมองด้วยความสนใจ เจ้าผีเสื้อดูเหมือนจะหยุดไป ที่จริงผีเสื้อมันพักเพื่อที่จะดิ้นรนต่อไป แต่ว่าชายคนนั้นคิดไปเองว่าผีเสื้อคงติดใยรังไหม ไม่สามารถจะออกมาได้ด้วยตนเอง ด้วยความหวังดี เขาจึงนำกรรไกรขนาดเล็กมาตัดใยรังไหมนั้น ทำให้รูมันขยายใหญ่ขึ้น เจ้าผีเสื้อเห็นรูขยายใหญ่ขึ้นมันก็คลานต้วมเตี้ยมออกมา แต่เขาสังเกตว่าตัวมันมีขนาดเล็กกว่าปกติ ปีกเหี่ยวย่น แถมลำตัวของเจ้าผีเสื้อก็มีลักษณะบวมผิดปกติ กลายเป็นว่าในขณะที่ผีเสื้อต้องดิ้นรนออกแรงตะเกียกตะกาย เพื่อพยายามจะดันตัวมันออกจากรังไหมนั้น เป็นกระบวนการธรรมชาติที่จะกระตุ้นให้ของเหลวชนิดหนึ่ง ที่อยู่ในลำตัวผีเสื้อเคลื่อนที่มาสู่ปีก เพื่อทำให้ปีกแข็งแรงเพียงพอจะบินได้ ด้วยความปรารถนาดีของชายคนนั้น ผีเสื้อตัวนี้ปีกจึงเหี่ยวย่นไม่แข็งแรงเพียงพอจะบินได้ แถมยังมีรูปร่างพิกลพิการ เพราะของเหลวที่ควรจะอยู่ที่ปีก ดันไปติดคั่งค้างอยู่ที่ลำตัว เจ้าผีเสื้อตัวนี้ออกจากใยมาได้ด้วยความสบาย แต่ต้องพิกลพิการ และบินไม่ได้ไปชั่วชีวิตของมัน ..... อุปสรรคและความล้มเหลวในชีวิตของคน ก็คล้ายๆกันกับสิ่งที่เจ้าผีเสื้อเผชิญ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ ความก้าวหน้าในชีวิต การพัฒนาทักษะ ความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น ล้วนแล้วแต่น่าสงสารและน่าเห็นใจ แต่จะได้คุณค่ามาก็ด้วยการล้มเหลวอย่างถูกวิธี เราจะคาดหวังว่าจะประสบความสำเร็จในชีวิต โดยไม่มีความล้มเหลวนั้นเป็นไปไม่ได้ เมื่อเราเผชิญอุปสรรค แล้วเราหลีกเลี่ยงที่จะแก้ไขหรือต่อสู้กับมัน เท่ากับว่าเรากำลังเสียโอกาสสำคัญในการเรียนรู้บทเรียนที่จำเป็นอย่างยิ่งต่อความสำเร็จในชีวิตของคน มีคำพูดที่ว่า 'No pain No gain' "ไม่เจ็บ ไม่ได้เรียนรู้" ที่จริงพวกเรานะผิดเองที่ป้อนลูกๆ เรามากไป สำหรับกรณีของพี่ พี่อธิบายให้ลูกเขาเข้าใจด้วยการเล่าเรื่องนี้แหละ หลังจากนั้น พี่ก็ขอโทษสำหรับการให้ความช่วยเหลือลูกแบบผิดๆในอดีต ลูกๆ ของเราเขาฉลาดพอจะเข้าใจเรื่องราวเหล่านี้นะ ... คุณลองมองไปรอบๆตัวเราสิ เรามีพนักงานที่มีความรู้ มาจากครอบครัวที่มีฐานะ หลายคนที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ พวกเขาไม่อดทนต่อปัญหาและอุปสรรค คนที่ควรถูกตำหนิคือ พ่อแม่ของเขา คุณอยากถูกคนอื่นเขาต่อว่าแบบนี้ในอนาคตไหมล่ะ แถมลูกๆ ของเรายังอ่อนแอไม่สามารถจะฟันฝ่าปัญหาอุปสรรคได้ .. ...คุณมีสิทธิ์เลือกนะ … ” 1 อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 วันที่ 9 มี.ค.58 ถ้ายังขัดแย้งกัน จะไม่ให้มีการเลือกตั้ง บิ๊กตู่ นายกฯ และ หัวหน้า คสช.ระบุว่ามีผู้อยู่เบื้องหลัง จ้างวานก่อเหตุปาระเบิดหน้าศาลอาญารัชดาฯ เป็นฝีมือของกลุ่มเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้บงการอาจจะมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มเสรีเทย ของอดีตหัวหน้าแก็งค์เผาไทย มือปืน 10 ล้านกระบอก ที่หลบหนีอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่กำลังประสานติดตามตัวอยู่ และยืนยันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่มีการเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหว ของกลุ่มต่างๆ จึงทำให้สามารถจับคนร้ายได้เร็ว และมีความคล่องตัวจากการใช้กฎอัยการศึกที่สามารถจับกุมได้โดยไม่ต้องขอหมายศาล " หากรัฐธรรมนูญเสร็จแล้ว แต่ยังมีความขัดแย้งอยู่ จะไม่ให้มีการเลือกตั้ง" โย่ะๆๆ ว็อตซับแม้น..ตรงใจคนไทย 97 % ตามโพลสำรวจเลย () @ เสธ น้ำเงิน1 : กดปุ่ม “ติดตาม” ด้านบนเพจ เพื่อรับข่าวครั้งต่อไป http://www.facebook.com/thailandcoup อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 (มีการแก้ไข) ชัยสิทธิ์แดงแยกแผ่นดิน ถูกแก้ไข มีนาคม 9, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ginger 11,058 โพสต์รายงาน ได้โพสต์เมื่อ มีนาคม 9, 2015 (มีการแก้ไข) บิ๊กตู่"เตือนพวกไม่กลัวกฎอัยการศึก ระวัง ลั่น ไม่ยอม คนเลว ด่าคนจ้างก่อเหตุ โง่กว่าคนทำ ชี้ สร้างสถานการณ์หวังโชว์บทบาท ให้ตำรวจชี้แจง โยง "เสรีไทย" หรือไม่ เผยรู้อยู่แล้วว่า นายจารุงพงศ์อยู่ประเทศไหน อยู่ประเทศรอบบ้านนี่แหละ ปลุกจิตสำนึก ทุกคนมีจิตสำนึก ผมก็มีจิตสำนึกมีความรับผิดชอบต่อประเทศไทยผมถึงทำ ถ้าทุกคนอยากให้ประเทศเน่า ๆ เป็นอย่างเดิมก็เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) กล่าวถึงเหตุระเบิดที่ศาลอาญา ที่สะท้อนว่าผู้ก่อเหตุไม่กลัวกฎอัยการศึก ว่า เขากลัวไหม ถ้าเขาไม่กลัวก็รอดูต่อไป กฎหมายคือกฎหมาย เมื่อถามว่ามีการระบุว่าเป็นกลุ่มเสรีไทย ที่นำโดย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ อดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย และทราบหรือไม่ขณะนี้นายจารุพงศ์ อยู่ที่ไหน นายกฯ กล่าวว่า ให้ตำรวจชี้แจง เพราะเขามีการสอบอยู่แล้ว รู้อยู่แล้วว่านายจารุงพงศ์อยู่ประเทศไหน อยู่ประเทศรอบบ้านนี่แหละ เมื่อถามว่า มีการประเมินว่าคนร้ายมุ่งหวังจะก่อความปั่นป่วน นายกฯ กล่าวว่า ใช่แน่นอน เมื่อถามต่อว่า เป้าหมายของการสร้างสถานการณ์ในช่วงนี้ นายกฯ กล่าวว่า เขาสร้างความตื่นตระหนกให้เห็นว่า เขามีบทบาทอยู่แค่เท่านั้น คนที่ไปเสียเงินจ้างมาก็โง่กว่าเขา คนทำก็โง่ เมื่อถามว่า มีการแจ้งมาว่า มีการไปฝึกอาวุธที่ประเทศลาว พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่าบอกเขาไปแล้ว มีการประสานตลอดอยู่แล้ว เมื่อถามว่า ทำอย่างไรไม่ให้ประชาชนเกิดความหวาดกลัว เพราะช่วงนี้เศรษฐกิจกำลังจะดีขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อมวลชนก็อย่าไปเขียนให้คนตื่นตระหนกสิ วันนี้เจ้าหน้าที่รัฐทำได้แค่นี้ คุณจะให้ทำอย่างไร ทำได้มากกว่านี้ไหม รัฐบาลที่แล้วทำได้ไหมเรื่องระเบิด จับใครได้ไหม รัฐบาลนี้จับไปแล้ว 4 คน เมื่อถามว่า จะมีการเพิ่มมาตรการดูแลความปลอดในพื้นที่สำคัญอีกหรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า สื่อมวลชนก็ต้องไปอธิบายว่าเกิดเหตุการณ์อย่างนี้ เจ้าหน้าถึงต้องเข้มงวด แต่ถ้าคุณไปบอกว่าเร่งบังคับใช้กฎหมาย จะใช้กฎอัยการศึก สื่อมวลชนเขียนอย่างนี้ตลอดแล้วผมจะทำอะไรถูก "ถามสิจะเอาอะไร ถามสิคนทั้งประเทศจะเอาอะไร ต้องการอะไร ความสงบเรียบร้อย ความก้าวหน้าของประเทศ ขจัดทุจริตคอรัปชั่น เดินหน้าประเทศ เศรษฐกิจตก อะไรต่างๆ ผมถามว่ามันเกิดจากอะไร 1.ความขัดแย้งทางการเมือง 2.การไม่สร้างความเข้มแข็ง 3.การไม่ลดความเหลื่อมล้ำ ซึ่งรัฐบาลพยายามทำอยู่ทุกอย่าง ผมถามว่าท่านจะเอาอะไรจากผมอีก ผมก็จะทำแบบนี้แหล่ะ" เมื่อถามว่า จะมีการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้นมากกว่านี้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า กฎอัยการศึกมีกี่ข้อ มีกี่มาตรา มีเกือบ20 มาตรา ใช้อยู่อันเดียวคือ การเข้าไปตรวจค้นบุคคลผู้ต้องสงสัยหรือสถานที่ต้องสงสัยโดยไม่ต้องขอหมายศาล ใช้แค่อันเดียว ไม่อย่างนั้นระเบิดวันนั้นต้องไปขอหมายศาลแล้วเมื่อไหร่จะไปจับมันได้ นั้นแหล่ะคือกฎอยการศึก รวมถึงสามารถควบคุมตัวไว้ได้ 7 วันในพื้นที่ และก็ต้องส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย ใช้ 2 ข้อเดือดร้อนใคร แล้วมาว่ารัฐบาลใช้อำนาจปิดกั้นประชาชน ตนปิดตรงไหน ที่บอกว่าเอาประชาชนไปขังลงโทษ 3,000 - 4,000 คนอยู่ที่ไหนไปหามาสิ คนที่ติดคุกก็ผิดคดีอาญาทั้งสิ้น เราเรียกตัวมา 300-400 คนแล้วก็ปล่อยหมด เว้นแต่คนที่มีคดีอาญาก็ต้องส่งตำรวจ มีแค่นั้น ตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค.มามีอะไรมากกว่าไหม ไม่มี เมื่อถามว่า จะมีการใช้อำนาจเพิ่มหรือไม่ เพราะคนยังไม่เชื่อ นายกฯ กล่าวว่า อำนาจอะไร คนไทยกลัวอำนาจไหม จะใช้อะไร คนเราอยู่ที่จิตสำนึก ทุกคนมีจิตสำนึก ผมก็มีจิตสำนึกมีความรับผิดชอบต่อประเทศไทยผมถึงทำ ถ้าทุกคนอยากให้ประเทศเน่า ๆ เป็นอย่างเดิมก็เชิญ แต่ผมไม่ยอม เมื่อถามว่า ในฐานะที่เป็นคนทำให้ประเทศสงบจะบอกให้ประชาชนช่วยเป็นหู เป็นตากับผู้ที่ก่อความไม่หวังดีตรงนี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า พูดมา 9 เดือนแล้ว เมื่อถามว่า รู้สึกโมโหกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่โมโหหรอก โมโหทำไม ไปดูสิว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องบ้างไปหาดู เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะไม่เกิดเหตุซ้ำ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจไม่ได้ ตราบใดที่คนเหล่านี้ยังมีอยู่ ที่ขัดแย้งที่ยังไม่เลิก ที่ยังพยายามต่อสู้ทางการเมือง ผมก็บอกว่าการเมืองคือการเมือง ผมไม่ใช่การเมือง เข้ามาทำงานเพื่อมาขับเคลื่อนประเทศ และเดี๋ยวผมก็ไป ท่านยังรอไม่ได้เลย ตนถามว่าเกิดอะไรขึ้น ท่านมาป้ายอย่างนั้นอย่างนี้ แล้วตอนท่านอยู่ทำไมไม่ทำ เมื่อถามว่า สถานการณ์แบบนี้เป็นการส่งสัญญาณหรือไม่ ว่าแก้ไขรัฐธรรมนูญเสร็จก็ยังไม่สงบ นายกฯ กล่าวว่า ผมไม่ได้เลือกของผม ถ้าแก้ไม่ได้ก็ไม่ต้องเลือก ตนไม่รู้ ผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้สถานการณ์การเมืองอยู่ในระดับไหน นายกฯ กล่าวย้อนถามสื่อว่า คิดว่าอยู่ในระดับไหน และถ้าตนไม่เข้ามาจะแย่กว่านี้ไหม ตอบสิ โดยนักข่าวตอบว่า แย่กว่านี้ นายกฯกล่าวต่อว่า “กล่าวให้ชื่นใจบ้าง ถ้าวันนี้ผมไม่เข้ามาจะให้ประเทศไทยเป็นแบบต่างประเทศหรือไม่ ที่มีข่าวระเบิดลงทุกวัน เมื่อถามว่า คิดว่าประชาชนยังฝากความหวังไว้กับนายกฯได้ใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ถามแบบนี้ไม่สร้างสรรค์ ไปลงอุโมงค์เถอะ ผมมั่นใจว่าทำได้ และผมจะไม่ยอมคนเลว และทุกวันนี้ก็ไม่ยอมอยู่แล้ว ถ้ายอมเลิกไปนานแล้ว นี่ไม่ยอม” เมื่อถามว่าการจับผู้ก่อเหตุได้ครั้งนี้เพราะมีการข่าวเข้ามาใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวยอมรับว่า มี ให้เจ้าหน้าที่ไปเฝ้าทุกที่ ที่มีความเสี่ยง เมื่อมาก็จับได้ เมื่อถามว่าผู้ที่จ้องก่อเหตุยังมีเพ่นพล่านอีกเยอะหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ยังมีอยู่ ครั้งก่อนจับมาหลายร้อยคน แล้วก็กระจัดกระจายหนีไป ผู้สื่อข่าวถามว่า จะต้องปรับการดูแลหรือไม่ นายกฯ กล่าวติดตลกว่า ปรับอย่างไร ดูตาซ้าย ตาขวา ตาหน้า ตาหลัง เมื่อถามว่า มีรายงานข่าวแจ้งว่า วันที่ 15 มี.ค. กลุ่มก่อเหตุ เตรียมจะสร้างสถานการณ์อีก นายกฯ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ทำงานทุกวัน ไม่ใช่พอจับได้หรือมีข่าวแล้วเพิ่งทำ เขาเฝ้ากันทุกวัน แต่ขึ้นอยู่ที่ว่าผู้ก่อเหตุเลือกเวลาและสถานที่ที่เจ้าหน้าเผลอไผล ฉะนั้นอยากให้ประชาชนช่วยกันเฝ้าระวัง อย่าฝากไว้กับเจ้าหน้าที่อย่างเดียว บ้านเมืองเป็นของคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะอาชีพใด การสร้างความมั่นคงต้องมาก่อนเสมอ สร้างความเชื่อมั่น สร้างเสถียรภาพ รัฐบาลมีเสถียรภาพต่างชาติคบค้าสมาคม แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้ นี่คือสิ่งที่เราต้องเดินประเทศแบบนี้ ไม่ใช่อยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง หรือทำให้ข้างใดข้างหนึ่งได้รับความไม่ยุติธรรม วันนี้ให้ความยุติธรรมทุกอย่าง กระบวนการยุติธรรม คดีอาญาก็ว่ากันไป เราก็เดินหน้าประเทศไป เมื่อถามว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางไปประเทศญี่ปุ่นของนายกฯ ในวันที่ 13-14 มี.ค.นี้ใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในฐานะหัวหน้ารัฐบาลตนตัดสินใจไว้หมดแล้ว ทุกคนมีความรับผิดชอบ ส่วนเรื่องความมั่นคงก็มีรองนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบ กระทรวงมหาดไทยก็รับผิดชอบในหน้าที่ เมื่อมีอะไรเกิดขึ้นจะทำอย่างไร ก็ได้ตัดสินใจและคิดไว้หมดแล้ว ถ้าอยากจะสู้ก็สู่กันมาเลย ผู้สื่อข่าวถามว่าจะสุ้กับใคร นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ ใครหละ ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่แน่ใจว่าปี2559 เดือนกุมภาพันธุ์ จะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ ต้องถามประชาชนว่าจะเลือกตั้งหรือไม่ — ถูกแก้ไข มีนาคม 9, 2015 โดย ginger อ้างถึง แชร์โพสต์นี้ ลิงก์ไปโพสต์ แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
