ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ginger

ใบไม้ผลิบนดวงจันทร์

โพสต์แนะนำ

http://youtu.be/U6tV11acSRk

 

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

310266_10150392091337922_393085192921_9882045_1624705012_n.jpg

 

ตอนบ่ายที่ปราสาทอาเช่ เลอ ริโด

 

ทรงพระเจริญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แว่นตาชีวิ0271.gif

 

 

ใครรวยกว่าใคร ลองคิดดู…

อภิมหาเศรษฐีเกือบจะชราผู้หนึ่ง สุดแสนจะภูมิใจ ที่ลูกชายวันห้าขวบของเขา กำลังจะได้เข้าเรียนในโรงเรียนชื่อดัง ซึ่งระดับเศรษฐีอย่างพวกเขาเท่านั้น จึงจะมีปัญญาส่งลูกหลานเข้าเรียนในโรงเรียนนี้ได้ โดยส่วนตัวของเขาเอง

ก็อยากจะสอนให้ลูกชายรู้จักกับชีวิตจริงในโลกควบคู่ไปกับการสอนทฤษฏีในโรงเรียน

ในวันหยุดเขาจะตระเวนพาลูกชายคนเดียว ไปท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ แล้ววันหนึ่ง เขาก็คิดถึงหัวข้อการสอนเรื่องความยากจน เพราะเขามีความเชื่อว่า ลูกชายของเขาคงไม่มีวันรู้จักแน่นอน

เขาจึงพอลูกชายไปเยี่ยมครอบครัวชาวนาครอบครัวหนึ่ง และพักอยู่กับชาวนาเป็นเวลา 1 วัน 1 คืน กลับถึงคฤหาสน์ของเขาในวันต่อมา มหาเศรษฐีก็จะทดสอบว่าลูกชายได้อะไรบ้าง

จากการไปพักแรมกับชาวนาผู้ยากจน

ลูกชายตอบคำถามผู้เป็นบิดาว่า เขาขอขอบคุณเป็นอย่างมาก

ที่ได้พาเขาไปพบกับชาวนาและพักแรมที่นั่น ซึ่งทำให้เขาได้พบว่า….

….ชาวนามีที่ทำงานเป็นท้องนาที่กว้างใหญ่

ในขณะที่พ่อมีเพียงห้องสี่เหลี่ยมที่ว่ากว้าง แต่ก็ยังน้อยกว่าท้องทำงานของชาวนา

….อาหารที่ชาวนารับประทาน สามารถหาได้ตลอดเวลารอบๆ บริเวณบ้านโดยไม่ต้องซื้อหา

ในขณะที่บ้านของเรามีตู้เย็นเท่านั้นที่เป็นที่เก็บอาหาร

…….เวลารับประทานอาหารก็มีเพื่อนคุยอย่างพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก

ในขณะที่ตัวเองก็ต้องนั่งทานอาหารกับโต๊ะอาหาร ที่ยาวเกือบสิบเมตร

และมีเก้าอี้ว่างเปล่าทั้งสองด้าน

……ลูกชาวนาที่ซ้อนท้ายจักรยานของพ่อเขา ต้องกอดเอวพ่อให้แน่นเพื่อจะได้ไม่ตกจากจักรยาน

แต่เขาเองต้องนั่งในรถที่ใหญ่โตอยู่ข้างหลังเพียงลำพัง โดยมีคนขับรถพาไปทุกที่

………ชาวนามีแสงดาวแสงจันทร์เป็นโคมไฟส่องสว่างตลอดเวลาในเวลากลางคืน

โดยไม่ขาดแคลน

แต่เขาก็มีเพียงแสงจากโคมไฟที่ต้องซื้อด้วยเงิน

……..ชาวนามีรั้วบ้านเป็นแม่น้ำ ภูเขาที่กว้างสุดลูกหูลูกตา

แต่เขาเองกลับมีเพียงแค่กำแพงบล๊อคในพื้นที่ไม่กี่ไร่

………ลูกชาวนาได้มีเพื่อนเล่นเป็นจิ้งหรีด หิ่งห้อยนับร้อยนับพัน

แต่เขาเองกลับไม่มีใครเลย

ผู้เป็นพ่อฟังแล้วเงียบงัน

ลูกชายสบตาพ่อเต็มตาแล้วจบว่า

“ขอบคุณมากครับพ่อ ที่ช่วยให้ผมได้สำนึกว่า เราจนขนาดไหน”

คุณเห็นด้วยไหมว่า “แว่นตาชีวิต” นี่ช่างเป็นสิ่ง

น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก คิดดูสิว่าโลกจะเปลี่ยนไปสักเพียงใด

ถ้าเราทุกคนเปลี่ยนมา

เป็นปลื้มและพอใจในทุกสิ่งที่เรามี แทนที่จะดิ้นรน

ไขว่คว้าเพื่อสิ่งที่เรายังไม่ได้มา

ขอจงพอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อน

ชีวิตหนึ่งของเรานั้น สั้นนัก และเรามีเพื่อนได้น้อยมาก

งแบ่งปันความรู้สึกที่ดีๆให้เพื่อนของเรา เหมือนที่เราอยากได้

 

ขอบคุณผู้เขียน

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"การที่พระองค์ท่านทรงอุบัติมาในโลกนี้นั้น ทำให้โลกนี้ดีขึ้นเป็นแน่แท้" คำยืนยันที่เป็นจริงจากหนังสือ "120 ปี มหิดลอดุลเดช" gif.gif

gif.gif 17b1.gif

space.gif เนื่องในโอกาสครบ 120 ปี แห่งการพระราชสมภพ วันที่ 1 มกราคม 2555 สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลเดชวิกรม พระบรมราชชนก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับ ศิริราชมูลนิธิ, เครือซิเมนต์ไทย (SCG), ธนาคารไทยพาณิชย์ และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จัดทำหนังสือชื่อ "120 ปี มหิดลอดุลเดช" พระบิดาแห่งการแพทย์แผนปัจจุบันและการสาธารณสุขไทย เพื่อเผยแพร่ พระเกียรติยศให้เป็นที่ประจักษ์ เนื้อหาภายในหนังสือเล่มนี้ได้รวบรวมเอกสารสำคัญ ภาพวาด ลายพระหัตถ์ พร้อมภาพประกอบที่หาดูได้ยาก อาทิ พระราชประวัติ ซึ่งทรงบันทึกจากคำบรรยายโดยสมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนาฯ ทรงได้แสดงเหตุผลที่ยังเป็นข้อสงสัยว่าเหตุใดพระบรมราชชนกฯ จึงทรงตัดสินพระทัยมาเรียนแพทย์ ไว้ดังนี้ "...พระประวัติก็จบไปแล้ว แต่อยากตอบคำถามที่เราถามไว้ว่า ทำไมท่านถึงได้เป็นแพทย์ ทำไมท่านได้ใช้ชีวิตของท่านเป็นอย่างนั้น..."

 

space.gif โดยขณะทรงศึกษาวิชาแพทย์ที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ทรงมุ่งมั่นในการเรียนอย่างยิ่ง ลายพระหัตถ์และภาพวาดจากสมุดจดคำบรรยาย ส่วนพระองค์ อีกทั้ง ปริญญาบัตรที่นำมาแสดงในหนังสือเล่มนี้ จะเป็นตัวอย่างอันดีแก่นักศึกษา ทั้งหลาย ซึ่งเมื่อพระองค์ท่านจะกลับมาทำงานที่ประเทศไทย จึงได้รับคำชม จากอาจารย์ของท่าน

 

17b2.gif

space.gif "...In his fourth year, all of his work has been of honor grade, with the highest grade given at this school in Pediatrics, Helmintology, and Infectious Diseases... it is an especial pleasure to recommend him for an internship at the Siriraj Hospital..." W. Dr.Worth Hale, Assistant Dean.

 

space.gif นอกจากนี้ ยังมีบทความเฉลิมพระเกียรติในหนังสือที่รวบรวมจากผู้ใกล้ชิดหรืออีกนัยหนึ่ง คือจากลูกศิษย์ของพระองค์ท่าน ได้แสดงถึงพระจริยวัตร อันงดงามที่ทรงเอาใจใส่ข้าราชบริพาร จนเป็นที่เล่าขาน กันสืบมา อาทิ

 

space.gif "...ได้ทรงเปิดหีบบรรจุเครื่องแต่งตัวออกตรวจ และทรงแนะว่าควรจะจัดอย่างไรจึงจะเรียบร้อย แม้แต่ถุงเท้าที่วางแยกไว้กับรองเท้าก็ทรงนำมาม้วนแล้วบรรจุเข้าไปในรองเท้าอีกทีหนึ่ง..." คำกล่าวของ ศ.นพ.สวัสดิ์ แดงสว่าง

 

17b3.gif

space.gif "... ทรงเสด็จจ่ายตลาดเอง ทำครัวเอง แม้ที่สุดที่ถ้วยชามที่ต่างคนต่างกินแล้วก็ทิ้ง ทูลกระหม่อมฯ ก็ทรงก้มพระพักตร์เก็บล้างจนสิ้นด้วยพระองค์เอง..." จาก นพ.จำรัส ศิริสัมพันธ์

 

space.gif พระราชกรณียกิจที่สำคัญอีกอย่างคือ ทรงได้เป็นตัวแทนของประเทศไทย ไปเจรจากับมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ ในการปรับปรุงการศึกษาแพทย์ และส่งผลให้การอุดมศึกษาของไทยได้รับการพัฒนาขึ้นด้วย ถือเป็นการลงทุนของพระองค์ เพื่อสร้างรากฐานทางการแพทย์ และสาธารณสุขของประเทศไทย

 

space.gif "...การริเริ่มในการลงทุนของพระองค์ท่านเริ่มตั้งแต่ทรงศึกษาวิชาแพทย์และสาธารณสุขใหม่ๆ แล้วจึงประทานเงินส่วนพระองค์สร้างตึกศัลยกรรมชาย ให้แก่ศิริราช ต่อมาก็ทรงช่วยจัดหาที่ดินเพิ่มเติมสำหรับสร้างห้องทดลองวิทยาศาสตร์แล้ว ก็ยังประทานเรื่อยๆ...ตอนที่มูลนิธิร็อกกี้ เฟลเลอร์ ให้เงินมา ทูลกระหม่อมก็สละพระราชทรัพย์ของพระองค์ท่านร่วมไปกับเขา สมดังที่ว่าท่านให้ ฉันให้ ไม่ใช่ท่านให้ ฉันจะเอา..." จาก ศ.ทพ.สี สิริสิงห

 

space.gif นอกจากนี้ ยังมีคำกล่าวของสมเด็จพระบรมราชชนกฯ ที่ว่า "...เมื่อข้าพเจ้าสิ้นชีวิตลงเมื่อใด เงินนี้คือทุนเดิม 200,000 บาท ก็ขอให้ตกเป็นส่วนมรดกของข้าพเจ้าให้แก่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสิทธิ์ขาด..." ซึ่งเป็นที่มาของกองทุนพระราชมรดก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในหนังสือเล่มนี้ยังมีพระนิพนธ์ที่

 

17b4.gif

space.gif ผู้อ่านจะได้นำไปศึกษาค้นคว้า แม้กระทั่งใน ปัจจุบันพระนิพนธ์นี้ยังสามารถนำมาประยุกต์ ใช้ได้อย่างดี เช่น Siriraj Hospital plan 1925, Practical Sanitation : A lecture given in training for public health medical officers in 1924, พระนิพนธ์โรคทุเบอร์คุโลสิส สำหรับผู้ป่วยวัณโรค ซึ่งต่อมาพระราชทานให้กรมสาธารณสุข จัดพิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพ จอมพลสมเด็จพระอนุชาธิราชเจ้าฟ้า กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ และจากรากฐานที่พระองค์ท่านได้วางไว้ นำมาสู่ความสำเร็จได้อย่างไรนั้น ในช่วงท้ายของหนังสือเล่มนี้จะปรากฏบทความซึ่งเขียนโดยผู้ที่มีบทบาทสำคัญในวงการแพทย์ และสาธารณสุข อาทิ ศาสตราจารย์ นพ.เกษม วัฒนชัย องคมนตรี, ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นพ.ประเวศ วะสี กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล ผู้ทรงคุณวุฒิ ฯลฯ จึงนับว่า หนังสือ "120 ปี มหิดลอดุลเดช" ได้รวบรวมคุณความดีของพระองค์ มามอบให้กับผู้อ่านทุกท่าน

 

space.gif "...เราได้รับมรดกคือ ผลสำเร็จที่พระองค์ท่านได้ทรงประกอบไว้ และเราได้รับความทรงจำอันประเสริฐในบุคคลซึ่งทรงลักษณะอันเป็นที่ดูดดื่มชุ่มใจแก่ทุกๆ คน ที่ได้ทำการติดต่อกับพระองค์ท่าน การที่พระองค์ท่านทรงอุบัติมาในโลกนี้นั้น ทำให้โลกนี้ดีขึ้นเป็นแน่แท้ พระมหาบุรุษของเรานี้ได้ทรงอุบัติมาและเสด็จละโลกไปเสียแล้ว ขอจงเสวยพระเกษม สุขสำราญ เทอญ..." ซึ่งเป็นคำกล่าวโดย ศ.นพ.เอ จี เอลลิส อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์และผู้อำนวยการ โรงพยาบาลศิริราช จึงเป็นความจริงที่แน่นอน

 

space.gif ด้วยเหตุที่หนังสือเล่มนี้เปี่ยมไปด้วยคุณค่า ทางประวัติศาสตร์ ทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล พร้อมด้วยผู้สนับสนุน จึงได้จัดให้มีงานแถลงข่าวเปิดตัวหนังสือ "120 ปี มหิดลอดุลเดช" ในวันที่ 29 มีนาคม 2555 ในเวลา 15.00 น. ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน เขตปทุมวัน โดยผู้สนใจสามารถเข้าร่วมงาน และ สั่งจองหนังสือที่มีคุณค่า ได้ที่งานวิชาการ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โทร. 02-4197680-1 หรือ คลิกไปดูที่ www.si.mahidol.ac.th และที่ร้านขายหนังสือทั่วประเทศ รายได้จากการจำหน่าย จะนำเข้ากองทุนพระราชมรดก คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผลการวิจัยชี้ นอนมากไป-น้อยไปเสี่ยงโรคหัวใจทั้งคู่ blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 มีนาคม 2555 14:21 น. blank.gif 555000004013901.JPEG blank.gif เอเอฟพี - ผลการศึกษาชิ้นใหม่ในสหรัฐฯ พบผู้ที่นอนหลับพักผ่อนตอนกลางคืนน้อยกว่า 6 ชั่วโมง หรือมากกว่า 8 ชั่วโมง มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจมากกว่าผู้ที่นอนหลับระหว่าง 6-8 ชั่วโมงในหนึ่งคืน

 

ผลการศึกษาดังกล่าวเป็นเครื่องยืนยันการวิจัยก่อนหน้านี้ ที่เล็กกว่า แต่ก็อ้างอิงจากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นตัวแทนจากทั่วประเทศ รวม 3,000 คน ครอบคลุมอาการเจ็บป่วยด้วยโรคหัวใจ 5 ประเภท และความเชื่อมโยงกับระยะเวลาในการนอนเช่นเดียวกัน

 

ประชากรในการวิจัยครั้งนี้เป็นผู้ที่มีอายุมากกว่า 45 ปี ซึ่งเข้าร่วมในการสำรวจปัญหาสุขภาพในครัวเรือนอเมริกัน หรือเนชันนัล เฮลธ์ แอนด์ นูทริชัน เอ็กแซมมิเนชัน เซอร์เวย์

 

ประชากรกลุ่มนี้ถูกขอให้บรรยายลักษณะนิสัยการนอนของตัวเอง และเผยว่าเคยมีประสบการณ์ เช่น ภาวะหัวใจล้มเหลว หัวใจวาย หัวใจขาดเลือด หลอดเลือดหัวใจตีบ หรือหลอดเลือดสมองตีบ หรือไม่

 

สำหรับผู้ที่บอกว่านอนหลับพักผ่อนแต่น้อยนั้นมีโอกาสเป็นหลอดเลือดสมองตีบ หรือหัวใจวายมากกว่าผู้ที่นอนหลับ 6-8 ชั่วโมงในแต่ละคืน ถึง 2 เท่า และมีโอกาสภาวะหัวใจล้มเหลวสูงกว่า 1.6 เท่า คณะนักวิจัยเผย

 

“ขณะนี้เรามีข้อบ่งชี้ว่า การนอนหลับสามารถส่งผลกระทบต่อสุขภาพหัวใจได้ และน่าจะเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆ” โรฮิต อาโรรา ผู้วิจัยหลัก ซึ่งเป็นประธานภาควิชาหัวใจวิทยา และอาจารย์แพทย์ของวิทยาลัยการแพทย์ชิคาโก

 

“เมื่ออ้างอิงตามผลการศึกษาเหล่านี้ การนอนหลับ 6-8 ชั่วโมงในแต่ละวันน่าจะทำให้มีความเสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับหัวใจน้อยที่สุดในระยะยาว” เขาระบุ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

f8a696add6484ad1a778b5e14401f92d_372.jpg

ชาวเน็ตทึ่งนวัตกรรมรถกวาดถนนจีน

 

ทึ่งคลิปวิดีโอโชว์ไอเดียสุดสร้างสรรค์ของชาวจีนที่คิดค้นรถกวาดถนนแบบใหม่ ด้วยวิธีการไม่ซับซ้อน

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จงกล้าที่จะยืนอยู่บนเวที ยืนหยัด เปิดหัวใจให้เต็มที่

 

จงภูมิใจในตัวเอง ทุกคนมีสิ่งพิเศษในตัวเองเป็นหนึ่งเดียวในโลก ไม่มีใครเหมือนใคร

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

 

 

 

b42.gif b42.gif b42.gif อยู่ที่ใจ b42.gif b42.gif b42.gif

มีพระพุทธภาษิต

มโนปุพฺพงฺคมา ธมฺมา

มโนเสฏฺเฐน

มนสา เจ ปทุฎเฐน

ภาสติ วา กโรติ วา

ตโต นํ ทุกฺขมเนวติ

จกฺกํว วหโต ปทํ

ใจเป็นผู้นำสรรพสิ่ง

ใจเป็นใหญ่(กว่าสรรพสิ่ง)

สรรพสิ่งสำเร็จได้ด้วยใจ

ถ้าพูดหรือทำสิ่งใดด้วยใจชั่ว

ความทุกข์ย่อมติดตามตัวเขา

เหมือนล้อหมุนเต้าตามเท้าโค

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

“ข้าวก่ำ” อาหารบำรุงสมองภูมิปัญญาที่ถูกมองข้าม หนึ่งคำบอกเล่าจากชาว มข. blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 26 มีนาคม 2555 17:48 น. blank.gif ข้าวก่ำ (Purple Rice) เป็นข้าวพื้นเมืองของเอเชีย มีหลายชื่อ ชื่อที่ภาคกลางรู้จักกันดีคือ ข้าวเหนียวดำ (Black Sticky Rice) ภาคใต้เรียก เหนียวดำ บางที่ก็เรียกข้าวนิล ในประเทศจีนก็พบเช่นกันเรียกว่า ข้าวดำจีน (Chinese black rice) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Oryza sativa ข้าวก่ำนั้นนอกจากจะมีการนำมาบริโภคในรูปของอาหารแล้ว ยังมีการนำมาใช้ในรูปยารักษาโรคอีกด้วย โดยพบว่าในสมัยก่อนหากสตรีใดคลอดลูกและมีการตกเลือดมาก การรักษาก็คือการนำเอาต้นข้าวก่ำมาต้มเคี่ยวน้ำให้งวดลงเล็กน้อยแล้วให้รับประทาน

555000004026501.JPEG ข้าวก่ำ (Purple Rice) เป็นข้าวพื้นเมืองของเอเชีย สรรพคุณมากมาย blank.gif นอกจากนั้นยังมีการนำมาใช้ในการรักษาโรคท้องร่วง โดยจะนำเมล็ดข้าวก่ำมา "หลาม" (แช่น้ำในกระบอกไม้ไผ่แล้วอิงไฟจนสุก) รับประทาน อีกทั้งยังมีคำบอกเล่าว่าคนปักษ์ใต้ ใช้ ข้าวก่ำ รักษาโรคผิวหนังโดยเฉพาะ *โรคหิด* โดยใช้ข้าวก่ำปนกับดินสิว (น่าจะเป็นดินประสิว) เล็กน้อย (อัตราส่วนไม่ทราบชัด) นำไปหุงนึ่งจนสุกแล้วปั้นเป็นก้อนๆ เพื่อรับประทาน นอกจากนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงกล่าวไว้ในบทพระราชนิพนธ์ "ย่ำแดนมังกร" เมื่อปี 2528 ครั้งเสด็จฯเยี่ยมเมืองซีอานว่า ในประเทศจีนกำลังมีการวิจัยเกี่ยวกับศักยภาพในการรักษาโรคมะเร็งของข้าวพันธุ์นี้

 

นอกจากนี้ยังมีข้อมูลว่าในประเทศจีนสมัยราชวงศ์หมิงได้มีการใช้ข้าวก่ำใช้บำรุงหยินของไต บำรุงม้ามและตับซึ่งในการแพทย์แผนจีนเชื่อว่าจะมีผลต่อระบบเลือดและการควบคุมอารมณ์ของร่างกาย นอกจากนั้นยังพบว่าข้าวก่ำหรือข้าวดำจีนจะมีผลบำรุงเลือดและบำรุงสายตา และใช้เป็นอาหารต้านโรคเรื้อรัง บำรุงร่างกาย ต้านความชรา

555000004026502.JPEG blank.gif ข้าวก่ำที่พบในประเทศไทยนั้นข้าวสีม่วงกลุ่มอินดิก้า (indica type) มีสีแดงอมม่วงเนื่องจากมีสารในกลุ่มแอนโทไซยานิน (Anthocyanin)ได้แก่สาร cyanindin 3-glucoside ซึ่งมีรายงานว่าสามารถระงับยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งปอด (lung cancer) และมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระเนื่องจากมีสารที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดได้แก่ tocotrienols, ferulic acid, gamma oryzanol, และ phytosterols ซึ่งนอกจากจะมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระแล้วยังมีผลเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสลดไขมัน นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งของธาตุเหล็กที่สำคัญสามารถนำไปใช้ทดแทนการให้ธาตุเหล็กเพื่อลดปัญหาที่มักพบในเรื่องการให้ธาตุเหล็กแก้ผู้ป่วยที่ขาดเหล็กทั้งนี้เนื่องจากการให้ธาตุเหล็กทดแทนในลักษณะนั้นมักใช้ขนาดที่สูงและส่งผลกระทบให้มีการเพิ่มการสร้างอนุมูลอิสระในร่างกายเพิ่มขึ้นและเกิดอันตรายต่อเซลล์ต่างๆของร่างกาย ซึ่งการบริโภคข้าวก่ำจึงสามารถจะลดปัญหาดังกล่าวได้เนื่องจากในข้าวก่ำเองก็มีสารอื่นๆที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระอยู่เป็นจำนวนมากดังที่กล่าวข้างต้น

 

ล่าสุดกลุ่มวิจัยและพัฒนาการแพทย์ทางเลือกแบบบูรณาการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น(มข.) นำโดย "จินตนาภรณ์ วัฒนธร" กลุ่มวิจัยและพัฒนาการแพทย์ทางเลือกแบบบูรณาการ ได้ทำการศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดน้ำของข้าวก่ำของไทยพบว่า เมื่อให้หนูได้รับข้าวก่ำซึ่งมีปริมารสารประกอบในกลุ่มฟีนอลประมาณ 176.29±3.05 มิลลิกรัมของกรดแกลลิคต่อมิลลิกรัมข้าวกล่ำ ในขนาดต่างๆกันคือ 180, 360 และ 720 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัมน้ำหนักตัวแล้วนำมาเหนี่ยวนำให้เกิดความจำบกพร่องเช่นเดียวกับที่พบในความจำบกพร่องในผู้สูงอายุ และในโรคสมองเสื่อมหนูเหล่านี้จะมีความบกพร่องในการเรียนรู้และความจำน้อยกว่ากลุ่มที่ไม่ได้รับข้าวก่ำ

 

"หนูกลุ่มที่ได้รับข้าวก่ำนั้นจะมีความหนา แน่นของเซลล์ประสาทในสมองที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และความจำที่เรียกว่าฮิปโปแคมปัสเพิ่มขึ้น โดยกลไกส่วนหนึ่งน่าจะเกี่ยวข้องกับฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของข้าวก่ำ เนื่องจากพบว่าหนูกลุ่มที่ได้รับข้าวก่ำนั้นจะมีดัชนีแสดงการทำลายของเนื้อเยื่อจากอนุมูลอิสระในสมองบริเวณฮิปโปแคมปัสลดลงและมีการทำงานของเอนไซม์ต้านอนุมูลอิสระบริเวณฮิปโปแคมปัสเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกว่านั้นยังพบว่าหนูกลุ่มที่ได้รับข้าวก่ำจะมีการทำงานของเอนไซม์ที่ทำให้สารสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้และความจำที่สำคัญตัวหนึ่งคืออเซทิลโคลีนในสมองส่วนฮิปโปแคมปัสลดลง ดังนั้นจึงทำให้มีสารสื่อประสาทอเซทิลโคลีนเหลือเพิ่มขึ้นสามารถออกฤทธิ์กระตุ้นการเรียนรู้และความจำได้เพิ่มขึ้น"

blank.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

bc.gif ย้อนตำนานเจ้าพ่อกระทิงแดง 'เฉลียว อยู่วิทยา' มหาเศรษฐีหัวใจคุณธรรม bc.gif ทายาท "อยู่วิทยา" ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้น

 

 

เฉลียวเริ่มทำการค้าเล็กๆน้อยๆตั้งแต่อายุแค่ 10 กว่าปี และเนื่องจากขณะนั้นอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 เฉลียวจึงไปรับจ้างทำงานให้กับญี่ปุ่นด้วย แม้จะล้มลุกคลุกคลานการค้าเจ๊งไม่เป็นท่าหลายครั้งหลายหน แต่เฉลียวก็ไม่เคยย่อท้อ ตรงกันข้ามความล้มเหลวที่ผ่านมากลับทำให้เขาได้ข้อคิดและปรัชญาในการทำธุรกิจว่า “ ไม่ควรทำอะไรที่ตนเองไม่เชี่ยวชาญ”

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...