คู่มือ รับสถานการณ์น้ำท่วม :

[moddang 3,625]

ภาพบริเวณรอบ รพ.ศิริราช โดยศูนย์ประสานงานป้องกันและแก้ไขปัญหาน้ำท่วม รพ.ศิริราช

 

 

ตามลิงค์เลยค่ะ

 

 

http://www1.si.mahidol.ac.th/gallery/archives/50

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

อันนี้ไฟล์ใหญ่

 

http://www.taklong.com/pictpost/show-pictpost.php?No=495377

 

 

 

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 11, 2011 โดย moddang..

[moddang 3,625]

อยากเห็น วันนี้เพิ่งเจอ..มีอีกหลายคลิป คลิ๊กดูเองนะคะ

 

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 11, 2011 โดย moddang..

[moddang 3,625]

ฟรี !! ไบโอคลีน บำบัดน้ำเสีย น้ำใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วมขัง จาก มข.

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 11 พฤศจิกายน 2554 16:39 น.

 

 

 

 

ภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะเทคโนโลยี มข. จัดทำไบโอคลีนและปุ๋ยน้ำชีวภาพ เพื่อนำไปใช้ในการบำบัดน้ำเน่าเสีย โดยชุมชน หน่วยงาน หรือองค์กรใดที่ต้องการ ติดต่อขอรับได้ฟรีที่ งานประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น

 

หลายจังหวัดในประเทศไทยประสบกับปัญหาอุทกภัย เกิดสภาพการน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ ส่งผลให้เกิดภาวะน้ำเน่าเสีย จากปัญหาดังกล่าว รศ.ดร สิทธิ์ศักดิ์ อุปริวงค์ อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีชีวภาพ คณะเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยขอนแก่น จึงได้จัด "โครงการบริการเทคโนโลยีไบโอคลีนและปุ๋ยน้ำชีวภาพสู่ชุมชน" ขึ้นเพื่อช่วยคลี่คลายปัญหาดังกล่าว โดยการผลิตน้ำชีวภาพไบโอคลีน เพื่อใช้ในการบำบัดน้ำเสีย และส่งมอบให้กับมหาวิทยาลัยขอนแก่นไปใช้ในการช่วยเหลือด้านอุทกภัยต่อไป โดยมีเป้าหมายผลิตเพื่อนำไปช่วยเหลือในเบื้องต้นจำนวน 4,000 ลิตร

 

รศ.ดร. กัลปพฤกษ์ ผิวทองงาม รองอธิการบดีฝ่ายชุมชนสัมพันธ์และสื่อสารองค์กร มหาวิทยาลัยขอนแก่นและประธานคณะกรรมการดำเนินการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยปี 2554 กล่าวว่า ในการช่วยเหลือเบื้องต้นได้ส่งมอบน้ำชีวภาพไบโอคลีน เพื่อใช้ในการบำบัดน้ำเสียให้กับชุมชนโดยรอบจังหวัดขอนแก่นที่ประสบอุทกภัยไปแล้วในหลายพื้นที่ อาทิ บ้านพระคือ หมู่ที่ 18, อบต. ศิลา และ เทศบาล ต.พระลับ เป็นต้น

 

"สำหรับไบโอคลีน (BioClean) คือ ผลิตภัณฑ์น้ำหมักชีวภาพชนิดหนึ่งที่ผลิตจากกระบวนการหมักดอกไม้หลากหลายชนิดนานาพันธุ์ จำนวน 14 สายพันธุ์ อาทิ ดอกกุหลาบ ดอกดาวเรือง ดอกพุทธรักษา ดอกบัว ฯลฯ นำมาผ่านกระบวนการหมักผสมผสานกับแหล่งสารอาหาร เช่น กากน้ำตาล ฯลฯ ทำการหมักโดยใช้หัวเชื้อจุลินทรีย์ปุ๋ยชีวภาพ เช่น หัวเชื้อจุลินทรีย์ปุ๋ยน้ำชีวภาพ มข.1 (KKU.1) หรือ หัวเชื้อจุลินทรีย์ปุ๋ยน้ำชีวภาพไบโอเทค-1 (Biotech-1) เป็นต้น ส่วนการใช้งานสามารถนำน้ำชีวภาพไบโอคลีน เทลงในน้ำท่วมขัง ในอัตราส่วนน้ำชีวภาพไบโอคลีน1:น้ำท่วมขัง 2000 ลิตร"

 

ทางด้าน นาย บุญเพ็ง ศรีจันทร์ ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม อบต.ศิลา จ.ขอนแก่น ผู้แทนรับมอบจากตำบลศิลา กล่าวว่า มหาวิทยาลัยขอนแก่นได้ทำสิ่งที่มีคุณค่า คือการมีส่วนร่วมช่วยเหลือแก้ไขปัญหาให้ประชาชน แสดงให้เห็นถึงความมีน้ำใจของบุคลากรและนโยบายของการมีส่วนร่วมที่เป็นรูปธรรม ซึ่งความรู้ของอาจารย์นักวิชาการ คือ สิ่งที่มีคุณค่าที่ประชาชนหวังให้เป็นที่พึ่งในยามที่ต้องการผู้รู้ ขอให้มหาวิทยาลัยมีการพัฒนาด้านการผลิตกำลังคนที่ดีพร้อมสำหรับการทำงานเพื่อชุมชนสังคมต่อไป

 

ขณะเดียวกัน นาง สุจิตรา อุทธา ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อมเทศบาลตำบลพระลับ กล่าวว่า บทบาทมหาวิทยาลัยต่อสังคม คือ การเอาความรู้ที่มีอยู่มากมายมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นรูปธรรม สามารถนำไปแก้ไขปัญหา ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดียิ่งขึ้น อยากให้มหาวิทยาลัยเป็นผู้ให้ความรู้กับประชาชนในเรื่องต่างๆเพื่อการพัฒนาชีวิต และการแก้ปัญหาต่างๆ โดยให้มีการประชาสัมพันธ์คณะวิชาต่างๆว่ามีผู้รู้ในเรื่องอะไรบ้าง และชาวบ้านจะสามารถมาขอรับคำปรึกษาได้อย่างไร ในส่วนของการมอบผลิตภัณฑ์ครั้งนี้ต้องขอขอบคุณแทนชาวบ้านในชุมชนเป็นอย่างยิ่ง

 

**หากชุมชน หน่วยงาน หรือองค์กรใด ต้องการน้ำชีวภาพไบโอคลีนไปใช้ในการบำบัดน้ำเน่าเสียหลังน้ำลด สามารถติดต่อได้ที่ งานประชาสัมพันธ์ กองกลาง สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยขอนแก่น โทร 0-4320-2204 ในวันและเวลาราชการ

[moddang 3,625]

เก็บมาฝากลูกหลาน

 

 

อัพเดท!! สถาบันการศึกษาเลื่อนเปิดเทอม

 

 

 

พิษน้ำท่วมยังคงกระจายไปในหลายพื้นที่ของไทย บ้านเรือน องค์กร นิคมอุตสาหกรรมต่างก็อ่วมไปตามๆ กัน ไม่เว้นแม้แต่สถาบันอุดมศึกษาที่น้ำค่อยๆ ทะลักล้นเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยแต่ละแห่ง จนไม่สามารถที่จะเปิดทำการเรียนการสอนได้ตามปกติ

 

วันนี้ ไลฟ์ ออน แคมปัส ขออัพเดทข่าวสารการเลื่อนเปิดเทอมและการเลื่อนสอบมาให้ทราบกัน ดังนี้

 

มหาวิทยาลัยกรุงเทพ กำหนดวันเปิดเทอม 2/2554 ดังนี้ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 เปิด วันที่ 28 พฤศจิกายน 2554 ถึงวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2555 สอบปลายภาค วันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 3 มีนาคม 2555 สถานที่เรียน มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตกล้วยน้ำไท

 

และสำหรับนักศึกษาชั้นปีที่ 1, 2, และ 3 เปิดเรียน วันที่ 4 มกราคม 2555 ถึงวันที่ 7 เมษายน 2555 สอบปลายภาค วันที่18 ถึงวันที่ 25 เมษายน 2555 สถานที่เรียน มหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต (หมายเหตุ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์น้ำ ถ้าเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบ ) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://prbu.bu.ac.th/index.php/announcement2011

 

ม.กรุงเทพธนบุรี กำหนดเลื่อนวันเปิดเรียนในทุกชั้นปี เป็น วันที่ 21 พฤศจิกายน 2554 (ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงจะประกาศให้ทราบอีกครั้ง) สอบถามเพิ่มเติมโทร. โทร 02-800-6800-5 หรือติดตามรายละเอียดที่ http://www.bkkthon.ac.th

 

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (มก.) มีประกาศลงวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2554 เรื่อง เลื่อนการเปิด-ปิด ภาคเรียน ภาคปลาย ประจำปีการศึกษา 2554 และการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัดมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ดังนี้ วิทยาเขตบางเขน และ โครงการจัดตั้งวิทยาเขตสุพรรณบุรี เปิดภาคเรียน วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554 ปิดภาคเรียน วันจันทร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2555 สามารถติดตามรายละเอียดอื่นๆ ได้ที่ เว็บไซต์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

 

สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (เอไอที) หรือ Asian Institute of Technology วางแผนที่จะเปิดเรียนอีกครั้งในวันที่ 1 ธันวาคม โดยจะตั้งวิทยาเขตชั่วคราวที่มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด วิทยาเขตหัวหิน และมหาวิทยาลัยเว็บสเตอร์ ประเทศไทยวิทยาเขตชะอำ/หัวหิน นอกจากนั้นสถาบันเอไอทียังได้จัดตั้งสำนักงานชั่วคราวขึ้นสองแห่งในใจกลางกรุงเทพฯ ณ อาคาร AIS/INTOUCH Tower 1 ชั้น 25 เลขที่ 414 ถนนพหลโยธิน ซอย 8 (สายลม) และอาคารมหิตลาธิเบศร คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สอบถามเพิ่มเติมที่ โทร.02-687-4038 หรือที่ http://www.ait.ac.th

 

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ประกาศเลื่อนเปิดภาคเรียนที่ 2 ไปวันที่ 28 พ.ย.นี้ ซึ่งกำหนดการเปิดภาคเรียนนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โดยขึ้นอยู่กับสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้น ดังนั้นให้นักศึกษาติดตามข้อมูลข่าวสารจากเว็บไซต์ ของมหาวิทยาลัย http://www.ssru.ac.th หรือโทร. 02-160-1019,081-913-2513

 

มหาวิทยาลัยรังสิต กำหนดการเปิดการเรียนการสอน 5 มกราคม พศ. 2555 และกำหนดการพิธีประสาทปริญญาในเดือนกุมภาพันธ์ พศ. 2555 สำหรับเรื่องการลงเบียนเรียน การชำระค่าหอพัก การรับสมัครนักศึกษาใหม่ และการสอบเข้าคณะแพทย์และทันตแพทย์ โปรดรอฟังประกาศอีกครั้งหนึ่ง ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.rsu.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) เลื่อนการเปิดภาคการศึกษาทุกระดับ เป็นวันที่ 28 พ.ย. 54 กำหนดลงทะเบียนผ่าน web ปวช. ป.ตรี ตามกำหนดเดิม บัณฑิตศึกษาเลื่อนเป็น 28,29 พ.ย. และ 2 ธ.ค. 54 สอบถามข้อมูลได้ที่โทรศัพท์. 0-2913-2500 ต่อ 1621-1635 หรือที่ http://www.kmutnb.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (ABAC) เลื่อนเปิดเรียนในภาคการศึกษา 2/2554 จากเดิมไปเป็น 28 พฤศจิกายน 2554 โดยนักศึกษาสามารถติดตามข่าวสารของมหาวิทยาลัยได้ที่ http://www.au.edu/

 

มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว.) ขอเลื่อนเปิดเรียน ภาคการศึกษาที่ 2/2554 จากวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554 ไปก่อน และจะมีการประชุมวาระพิเศษในวันที่ 25 พ.ย. 54 โดยจะประเมินสถานการณ์อุทกภัยอีกครั้ง และจะแจ้งให้กับนิสิต บุคลากรและผู้ที่เกี่ยวข้องทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วัน สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2649-5000 ต่อ 5614 หรือติดตามข่าวสารได้ที่http://www.swu.ac.th/

 

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เลื่อนเปิดเทอมเป็นวันที่ 13 ธ.ค. 54 ทั้งนี้วันเปิดเรียนอาจเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์น้ำท่วมซึ่งจะประกาศให้ทราบต่อไป ติดตามรายละเอียดได้ที่ www.chula.ac.th หรือ http://goo.gl/evcHn

 

 

มหาวิทยาลัยมหิดล สำหรับกำหนดการเปิดภาคการศึกษาที่เคยประกาศไว้เป็นวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554 นั้น ทางมหาวิทยาลัยมหิดลอาจต้องพิจารณาอีกครั้ง โดยรอดูจากสถานการณ์น้ำท่วมต่อไป นอกจากนี้ วิทยาลัยดุริยางคศิลป์มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ย้ายที่ทำการชั่วคราวไปยัง โครงการศึกษาดนตรีสำหรับบุคคลทั่วไป (สยามพารากอน) ตั้งอยู่ห้องเลขที่ 4A5-6 ชั้น 4A อาคารศูนย์การค้าสยามพารากอน เลขที่ 991 ถ. พระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 โทร. 02-1294542-6 แฟกซ์ 02-1294547 หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ http://www.mahidol.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยศิลปากร (มศก.) ประกาศเลื่อนเปิดการศึกษาภาคปลายเป็นครั้งที่สอง จากเดิมในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554ไปเป็นวันที่ 28 พฤศจิกายน 2554 โดยสามารถติดตามข่าวสารหรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ http://www.su.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) ศูนย์รังสิต พร้อมจะเปิดภาคเรียนที่ 2/2554 ในวันที่ 9 ม.ค. 2555 และกำหนดการสอบของภาคเรียนที่ 1 /2554 ที่ยังค้างอยู่ประมาณ 300 วิชา ในช่วงเย็น คือ ตั้งแต่เวลา 17.00-20.00 น. ระหว่างวันที่ 9 -29 ม.ค. 2555 ทั้งนี้ได้กำหนดสอบภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2554 ในวันที่ 16 เม.ย. ถึง 4 พ.ค.2555 และจะเปิดสอนภาคฤดูร้อน ระหว่างวันที่ 15 พ.ค.ถึงวันที่ 21 มิ.ย. 2555 ด้วย ติดตามรายละเอียด และประกาศเพิ่มเติมได้ที่ http://www.tu.ac.th

 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.บางมด) เลื่อนเปิดภาคเรียน ภาคการศึกษาที่ 2/2554 จากเดิมในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2554 เป็น วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม 2554 แทน โดยสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www2.kmutt.ac.th หรือโทร. สอบถามได้ที่ 02-470-8000

 

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เลื่อนการเปิดภาคการศึกษาที่ 2/2554 สำหรับหลักสูตรที่เรียนวันเสาร์-อาทิตย์ เลื่อนเป็นวันที่ 19 พฤศจิกายน 2554 และหลักสูตรที่เรียนวันธรรมดา เลื่อนเป็นวันที่ 21 พฤศจิกายน 2554 แทนหรือโทร. สอบถามที่ 0-2329-8000

 

มหาวิทยาลัยรามคำแหง จากเดิมที่กำหนดเปิดเรียน ภาค 2/554 ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 นั้น มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขอเลื่อนการเปิดเรียนของนักศึกษาปริญญาตรี ภาค 2/2554 และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายประถมและฝ่ายมัธยม) ขอเลื่อนการเปิดเรียน ภาค 2/2554 เป็นวันที่ 6 ธันวาคม 2554 และเลื่อนลงทะเบียน ภาค 2/2554 เป็นวันที่ 17 - 21 ธันวาคม 2554 ภาค ซ.1/54 เป็นวันที่ 10 - 12 ธันวาคม 2554ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.ru.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยบูรพา ประกาศเลื่อนการเปิดภาคเรียน 2/54 จากวันที่ 7 พฤศจิกายน 2554 ไปเป็นวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554 สามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ http://www.buu.ac.th/ หรือติดต่องานทะเบียนและสถิตินิสิต โทรศัพท์ 038-102715-29

 

สถาบันบัณฑิตศึกษาจุฬาภรณ์ ประกาศเลื่อนการจัดงาน CGI Open House ในวันที่ 29 ตุลาคม 2554 ออกไปอย่างไม่มีกำหนด หรือติดตามประกาศได้ที่ http://www.cgi.ac.th/

 

กสพท. เลื่อนสอบตรงแพทย์-ทันตแพทย์ สอบวิชาเฉพาะ จากเดิมในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2554 เลื่อนไปเป็นวันที่ 25 ธันวาคม 54 แทน โดยผู้สมัครสอบสามารถตรวจสนามสอบและพิมพ์บัตรประจำตัวผู้เข้าสอบใหม่หลังวันที่ 15 พฤศจิกายน2554 หรือสอบถามการสมัครสอบ กสพท.ปีการศึกษา 2555 ได้ที่หมายเลข 0-2419-6446, 0-2419-6463 หรือที่www9.si.mahidol.ac.th

 

มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ (มธบ.) เลื่อนการเปิดภาคเรียน จากเดิมวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554 เลื่อนไปเป็น วันที่ 21พฤศจิกายน 2554 ทั้งนี้ สำหรับการประสาทปริญญาบัตรยังคงเป็นวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ เหมือนเดิม โดยจะมี การรับชุดครุยวันที่ 25-27 มกราคม และการซ้อมใหญ่ในวันที่ 28-29 มกราคม 2554 ติดตามความคืบหน้าได้ที่ www.dpu.ac.th

 

มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม (มจษ.) ประกาศเลื่อนเปิดภาคเรียน 2/2554 จากเดิมเปิดเรียนในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2554 เป็นวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554 โทรสอบถามได้ที่ 0-2942-6900 - 99 หรือ http://www.chandra.ac.th/ พร้อมเยียวยานักศึกษาผู้ประสบภัย โดยหารายได้จากการทำงานในหน่วยงานต่างๆ คิดรายได้เป็นชั่วโมง สามารถสมัครและลงชื่อได้ตั้งแต่วันนี้ - 15 พฤศจิกายน ที่ชั้น 5 กองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา อาคารจันทรา - กาญจนาภิเษก สอบถามเพิ่มเติมที่ งานประชาสัมพันธ์ มจษ. โทรศัพท์ 0 2942 6900 - 99 # 1110 -1113

 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (มทร.พระนคร) ประกาศเลื่อนการเปิดภาคเรียนในปีการศึกษาที่ 2/2554 จากวันที่ 7 พฤศจิกายน 2554 เป็นวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554 สอบถามรายละเอียดได้ที่ สำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียนมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร โทร. 02-282 9009-15 ต่อ 6409 ในวันและเวลาราชการ หรือhttp://www.rmutp.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยศรีปทุม เลื่อนการเปิดภาคเรียน ปีการศึกษา 2554 ระดับปริญญาตรี ภาคปกติ เป็นวันที่ 28 พฤศจิกายน 2554 ภาคเสาร์-อาทิตย์ เป็นวันที่ 26 พฤศจิกายน 2554 สำหรับระดับบัณฑิตศึกษาเลื่อนการเปิดภาคเรียน 2/54 เป็นวันที่ 28 พฤศจิกายน 2554 ตรวจสอบสถานการณ์ได้ที่ http://www.spu.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมธิราช (มสธ.) ประกาศเลื่อนกำหนดการสอบไล่ภาค 1/2554 ของนักศึกษาทุกระดับ และผู้เรียนโครงการสัมฤทธิบัตร รุ่นที่ 76 จากวันเสาร์ที่ 29 และวันอาทิตย์ที่ 30 ตุลาคม 2554 เป็นวันเสาร์ที่ 10 และวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม 2554 นอกจากนั้น ทาง มสธ.ยังงดจัดกิจกรรมเกี่ยวกับการเรียนการสอนของนักศึกษาทุกระดับ สอบถามรายละเอียดได้ที่ 02-504-7788

 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี (มทร.ธัญบุรี) กำหนดเปิดภาคเรียนในวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554 โทรสอบถามข้อมูลได้ที่ โทร. 02-549-3613-15 หรือที่ www.rmutt.ac.th/ หรือทวิตเตอร์ @pr_rmutt

 

มหาวิทยาลัยเกริก กำหนดเปิดภาคเรียนจากวันที่ 8 พฤศจิกายน 2554 เป็นวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554 สอบถามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 0-2552-3500-9 , 0-2970-5830

 

มหาวิทยาลัยเซนต์จอห์น กำหนดเปิดภาคเรียน 2/2554 ทุกแผนก (อนุบาล-สามัญประถม/มัธยม เทคโนโลยี โปลีเทคนิคคอมเมิร์ช ในวันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2554 http://www.stjohn.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร กำหนดเปิดภาคเรียน 2/54 ในวันที่ 12 พฤศจิกายน 2554 และมีมติให้มีการเปลี่ยนปลงเลื่อนการฝึกซ้อมย่อยและฝึกซ้อมใหญ่ การรับชุดครุย และวันพิธีประสาทปริญญาบัตร ออกไปเป็นเดือนมกราคม 2555 โดยจะแจ้ง วัน-เวลา และสถานที่ที่แน่นอนให้ทราบอีกครั้งในภายหลัง http://www.mut.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ กำหนดเปิดภาคเรียน 2/54 ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2554 กรณีนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยต้องการขอความช่วยเหลือสามารถติดต่อได้ที่เบอร์ (085)489-3711-13 หรือ http://www.hcu.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเชีย กำหนดเปิดภาคเรียน 2/54 ระดับปริญญาตรี ในวันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน 2554 และระดับบัณฑิตศึกษา ในวันเสาร์ที่ 3 ธันวาคม 2554 โดยมหาวิทยาลัยฯจะจัดการเรียนการสอนครบตามจำนวนชั่วโมงของแต่ละรายวิชา http://www.eau.ac.th/wp/

 

มหาวิทยาลัยเอเชียอาคเนย์ กำหนดเปิดภาคเรียน 2/54 ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2554 และเลื่อนกำหนดงานรับปริญญาไปโดยไม่มีกำหนด http://www.sau.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี กำหนดเปิดภาคเรียน 2/54 ภาคปกติ ภาคพิเศษวันธรรมดา และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สมุทรปราการ ในวันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน 2554 นักศึกษาภาคพิเศษ ระดับปริญญาตรี ทุกศูนย์ เปิดทำการสอนวันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน 2554 และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ประกอบไปด้วย ประกาศนียบัตรบัณฑิตและปริญญาโท เปิดทำการสอนวันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554 หรือ http://www.dru.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา กำหนดเปิดภาคเรียน 2/54 ในวันที่ 15 พฤศจิกายน 2554 สอบถามรายละเอียดได้ที่ 0-2473-7000 http://www.bsru.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยราชภัฎพระนคร กำหนดเปิดภาคเรียน 2/54 ในวันที่ 1 ธันวาคม 2554 ทั้งภาคปกติและภาคพิเศษทุกระดับการศึกษา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0-2544-8000 http://www.pnru.ac.th/

 

มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต (มสด.) กำหนดเปิดภาคเรียน 2/54 ทุกหลักสูตร เป็นวันที่ 14 พฤศจิกายน 2554 และงดการเข้าพักหอพักต่างๆ ดังนี้ - อาคารที่พักศูนย์วิทยาศาสตร์ 1, 2 - อาคารที่พักจินตนา - อาคารที่พักสิรินแมนชั่น - อาคารที่พักฟลูเฮาท์แมนชั่น - อาคารที่พักมิตรพัฒนา เพื่อความปลอดภัยของผู้พักใช้บริการจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 085-8306486 หรือ http://www.dusit.ac.th/

 

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) เลื่อนวันสอบข้อเขียนคัดเลือกนักเรียนทุนโครงการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) จากเดิมวันเสาร์ที่ 12 พฤศจิกายน 2554 ไปเป็นวันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม 2554 สอบถามโครงการพสวท. โทร 02-392-4021 ต่อ 2310 , 2314, หรือ 2316

 

**นอกจากนั้นยังสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการกระจายข่าวสาร และร่วมอัพเดทสถานการณ์การเปิด-ปิด ภาคเรียนของแต่ละมหาวิทยาลัยได้ที่เฟสบุ๊ค Life On Campus (Manager Online) หรือแสดงความคิดเห็นท้ายข่าวนี้ได้นะเลยนะค่ะ

 

update on 11 Nov 11 : 18.04 pm

 

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 12, 2011 โดย moddang..

[moddang 3,625]

บ้านลอยน้ำ ตามพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ

 

 

 

 

 

 

27 กันยายน พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับ “บ้านลอยน้ำ” ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของบ้านที่จะสามารถป้องกันภัยดังกล่าวได้ จึงได้เริ่มทำการศึกษาเพื่อการออกแบบ จากแหล่งต่างๆ ทั้งจากในและต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านท่าขนอน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งยังมีบ้านลอยน้ำภูมิปัญญาชาวบ้าน ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในพื้นที่

 

เมื่อ 27 กันยายน พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ได้เสด็จมายังกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อทรงเปิดพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ เมื่อได้ทอดพระเนตรนิทรรศการแบบบ้านเพื่อประชาชนของกรมฯ แล้ว ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับ “บ้านลอยน้ำ”

 

จากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย ได้ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประสบภัย กรมโยธาธิการและผังเมืองซึ่งมีภารกิจหลักประการหนึ่ง คือการให้บริการแบบบ้านเพื่อประชาชนที่มีอยู่อย่างหลากหลาย รูปแบบในระดับราคาต่างๆ กัน กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ออกแบบบ้านหลังนี้ขึ้น โดยปรับใช้แนวคิดจาก “บ้านลอยน้ำท่าขนอน” และเรือนแพของชาวบ้านในอดีต นำมาประยุกต์ ใช้กับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ซึ่งในฤดูแล้งตัวบ้านจะตั้งอยู่บนพื้นดินตามปกติ แต่เมื่อมีน้ำท่วมก็จะลอยขึ้นตามระดับน้ำได้ โดยจะมีการยึดตัวบ้านไว้กับเสาหลักทั้งสี่มุม เพื่อป้องกันการโคลงตัวหรือลอยไปตามกระแสน้ำ และเมื่อระดับน้ำลดลงตัวบ้านก็จะกลับมาตั้งอยู่บนพื้นดินตามเดิม

 

 

ขนาดของบ้านลอยน้ำที่ได้ออกแบบขึ้นนี้ ตั้งอยู่บนพื้นฐานของขนาดวัสดุสำเร็จรูปที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด เพื่อให้เป็นการใช้วัสดุที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้ ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้และทำการก่อสร้างได้ง่าย เนื่องจากมีระบบวิศวกรรมโครงสร้างเป็นรูปแบบอย่างง่าย ชาวบ้านที่มีความรู้ด้านช่างในระดับทั่วไปก็จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้เอง

 

บ้านหลังนี้มีขนาดพื้นที่รวม ประมาณ 60 ตารางเมตร ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่มาก เพื่อความสะดวกในการก่อสร้างและการลอยน้ำ แต่หากมีความต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น ก็อาจเชื่อมต่อหลายหลังเข้าด้วยกัน โดยใช้สะพานทางเชื่อม พาดระหว่างชานรอบตัวบ้าน

 

สำหรับราคาค่าก่อสร้างประมาณการได้ว่า กรณีดำเนินการก่อสร้างเองจะมีราคาประมาณหลังละ 719,000 บาท หากจ้างเหมาราคาประมาณหลังละ 915,000 บาท เนื่องจากต้องมีการคิดค่าดำเนินการ กำไรและภาษีด้วย

 

แบบบ้านลอยน้ำของกรมโยธาธิการและผังเมืองนี้ น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องอยู่อาศัยในพื้นที่ที่อาจต้องประสบภัยน้ำท่วมตามฤดูกาลได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อยู่อาศัยในบริเวณเที่เป็นที่ลุ่ม โดยอาจปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปแบบและพื้นที่ใช้สอย ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องตามความต้องการที่แท้จริงของตนเองต่อไป

 

สนใจสอบถามไปได้ที่ 0-2299-4471-72, 0-2299-4858, 0-2299-4877

หรือเข้าชมรายละเอียดที่เว็บไซท์ของกรมโยธาธิการและผังเมือง

http://subweb2.dpt.go.th/pip/floating_house/floatingH.html

 

 

 

ที่มา : http://wloveok.blogspot.com/2010/10/blog-post.html

 

 

รายละเอียดอ่านเพิ่มเติม

 

http://www.fwdder.com/topic/366182

 

 

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 12, 2011 โดย moddang..

[moddang 3,625]

เพิ่มเติม

 

บ้านลอยน้ำ

 

 

 

 

 

จากภาวะน้ำท่วมที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทย

ได้ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นอย่างมากทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ประสบภัย

กรมโยธาธิการและผังเมืองซึ่งมีภารกิจหลักประการหนึ่ง

คือการให้บริการแบบบ้านเพื่อประชาชนที่มีอยู่อย่างหลากหลาย

รูปแบบในระดับราคาต่างๆ กัน

 

ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของบ้านที่จะสามารถป้องกันภัยดังกล่าวได้

จึงได้เริ่มทำการศึกษาเพื่อการออกแบบ จากแหล่งต่างๆ ทั้งจากในและต่างประเทศ

โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่บ้านท่าขนอน อำเภอกาญจนดิษฐ์

จังหวัดสุราษฎร์ธานี ซึ่งยังมีบ้านลอยน้ำภูมิปัญญาชาวบ้าน

ได้รับการอนุรักษ์ไว้ในพื้นที่

 

 

เมื่อ 27 กันยายน พ.ศ. 2550 สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

ได้เสด็จมายังกรมโยธาธิการและผังเมือง

เพื่อทรงเปิดพระอนุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์

เมื่อได้ทอดพระเนตรนิทรรศการแบบบ้านเพื่อประชาชนของกรมฯ แล้ว

ได้พระราชทานพระราชดำริเกี่ยวกับ ?บ้านลอยน้ำ?

 

กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ออกแบบบ้านหลังนี้ขึ้น

โดยปรับใช้แนวคิดจาก ?บ้านลอยน้ำท่าขนอน?

และเรือนแพของชาวบ้านในอดีต นำมาประยุกต์

ใช้กับสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน

ซึ่งในฤดูแล้งตัวบ้านจะตั้งอยู่บนพื้นดินตามปกติ

แต่เมื่อมีน้ำท่วมก็จะลอยขึ้นตามระดับน้ำได้

โดยจะมีการยึดตัวบ้านไว้กับเสาหลักทั้งสี่มุม

เพื่อป้องกันการโคลงตัวหรือลอยไปตามกระแสน้ำ

และเมื่อระดับน้ำลดลงตัวบ้านก็จะกลับมาตั้งอยู่บนพื้นดินตามเดิม

 

ขนาดของบ้านลอยน้ำที่ได้ออกแบบขึ้นนี้

ตั้งอยู่บนพื้นฐานของขนาดวัสดุสำเร็จรูปที่มีขายอยู่ทั่วไปในท้องตลาด

เพื่อให้เป็นการใช้วัสดุที่คุ้มค่าที่สุดเท่าที่จะทำได้

ซึ่งสามารถประยุกต์ใช้และทำการก่อสร้างได้ง่าย

เนื่องจากมีระบบวิศวกรรมโครงสร้างเป็นรูปแบบอย่างง่าย

ชาวบ้านที่มีความรู้ด้านช่างในระดับทั่วไปก็จะสามารถดำเนินการก่อสร้างได้เอง

 

 

ทัศนียภาพกลุ่มอาคาร

 

บ้านหลังนี้มีขนาดพื้นที่รวม

ประมาณ 60 ตารางเมตร

ซึ่งเป็นขนาดที่ไม่ใหญ่มาก

เพื่อความสะดวกในการก่อสร้างและการลอยน้ำ

แต่หากมีความต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น

ก็อาจเชื่อมต่อหลายหลังเข้าด้วยกัน

โดยใช้สะพานทางเชื่อม

พาดระหว่างชานรอบตัวบ้าน

 

 

สำหรับราคาค่าก่อสร้างประมาณการได้ว่า

กรณีดำเนินการก่อสร้างเองจะมีราคาประมาณหลังละ 719,000 บาท

หากจ้างเหมาราคาประมาณหลังละ 915,000 บาท

เนื่องจากต้องมีการคิดค่าดำเนินการ กำไรและภาษีด้วย

 

แบบบ้านลอยน้ำของกรมโยธาธิการและผังเมืองนี้

น่าจะเป็นแนวทางหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน

ที่ต้องอยู่อาศัยในพื้นที่ที่อาจต้องประสบภัยน้ำท่วมตามฤดูกาลได้เป็นอย่างดี

โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้อยู่อาศัยในบริเวณเที่เป็นที่ลุ่ม

โดยอาจปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรูปแบบและพื้นที่ใช้สอย

ให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องตามความต้องการที่แท้จริงของตนเองต่อไป

 

สนใจสอบถามไปได้ที่ 0-2299-4471-72, 0-2299-4858, 0-2299-4877

หรือเข้าชมรายละเอียดที่เว็บไซท์ของกรมโยธาธิการและผังเมือง

http://subweb2.dpt.go.th/pip/floating_house/floatingH.html'>http://subweb2.dpt.go.th/pip/floating_house/floatingH.html

 

 

ขนาดพื้นที่ ประมาณ 60 ตารางเมตรประกอบด้วยพื้นที่อยู่อาศัย 23

ตารางเมตร ส่วนทำอาหารห้องน้ำและซักล้าง รวม 37 ตารางเมตร

 

ราคาค่าก่อสร้าง โดยประมาณ 719,000 บาท (กรณีปลูกสร้างเอง)

ไม่ต้องใช้ผู้รับจ้างเหมาและประมาณ 915,000 บาท (กรณีมีผู้รับจ้างเหมา)

 

 

 

 

วัสดุก่อสร้าง ใช้วัสดุก่อสร้างพื้นฐานทั่วไปที่สามารถหาได้ง่ายในท้องตลาด

ซึ่งสามารถดัดแปลงได้ตามความเหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ทุ่นลอยเป็นถังน้ำมัน

ขนาด 200 ลิตร หรือถังไฟเบอร์กลาสกรณีต้องการความทนทานเพิ่มขึ้น

 

ระบบสุขาภิบาล ใช้ระบบการย่อยสลายโดยมีถังบรรจุจุลินทรีย์ EM

ติดตั้งอยู่ใต้ห้องน้ำเพื่อย่อยสลายและเร่งการตกตะกอนของสิ่งปฎิกูล

 

ที่มาเว็บไซท์ของกรมโยธาธิการและผังเมือง

 

http://subweb2.dpt.go.th/pip/floating_house/floatingH.html

 

 

 

แนวคิดในการสร้างบ้านแบบที่ว่านี้

เกิดขึ้นมาจากเหตุการณ์น้ำท่วมโลกเมื่อ 4,000 ปีก่อน

ที่บันทึกไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิล

และชายคนหนึ่งชื่อโนอาก็สามารถรอดชีวิตได้

เนื่องจากเขาได้ต่อเรือไว้รับมือกับเหตุการณ์นี้

และใช้ชีวิตอยู่อาศัยบนเรือลำนี้เป็นระยะเวลานาน

จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่

ซึ่งก็เหตุการณ์ในครั้งนั้นก็ประจวบเหมาะกับเหตุการณ์ต่างๆ

ที่เกิดขึ้นกับโลกเราในปัจจุบัน

ไม่ว่าจะเป็นภาวะโลกร้อน แผ่นดินไหว ซึนามิ และอุทกภัยอย่างรุนแรง

 

 

อย่างที่เห็นล่าสุดก็คือ เหตุการณ์น้ำท่วมครั้งรุนแรงที่สุด

ในรอบ 60 ปีของประเทศอังกฤษ

ที่ส่งผลให้ประชากรกว่า 30,000 คนไร้ที่อยู่อาศัย

และทำให้บริษัทประกันภัยต่างๆ ต้องจ่ายค่าชดเชย

ไปกว่า 6 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ

 

 

นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์ฝนตกหนัก

โคลนถล่มที่ประเทศอินเดีย เนปาล และบังกลาเทศ

ที่คร่าชีวิตผู้คนและทำให้คนไร้ที่อยู่เป็นจำนวนมาก

 

 

ที่สำคัญได้มีผู้เชี่ยวชาญหลายท่านได้ทำนายไปในทิศทางเดียวกันว่า

ในอนาคตข้างหน้านี้ โลกของเรานั้นจะมีปริมาณน้ำที่มากขึ้น

ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น ทำให้น้ำไหลเข้าท่วม

บริเวณที่อยู่อาศัยของคนเป็นบริเวณกว้าง

จึงทำให้มีคนเกิดแนวคิดที่จะสร้างบ้านที่สามารถลอยตัวบนน้ำได้

เพื่อรองรับกับเหตุการณ์ทางธรรมชาติที่จะเกิดขึ้น

 

 

บ้านใน Maasbommel อยู่ห่างจาก Amsterdam ราว 60 ไมล์

 

 

สร้างด้วยโครงสร้างที่มีน้ำหนักเบาสามารถลอยน้ำได้

 

แนวคิดการสร้างบ้านแบบใหม่นี้จะต่างจากบ้านแบบธรรมดา

ตรงที่การออกแบบและวัสดุที่ใช้จะค่อนข้างยืดหยุ่นและลอยตัวได้

เมื่อน้ำท่วมหรือน้ำทะเลหนุนขึ้นสูงถึง 5 เมตร

ซึ่งบริษัทที่คิดค้นได้มีการพัฒนาแบบบ้านมาสองแบบ

 

 

 

โดยแบบแรกคือบ้านที่ปกติก็ลอยตัวอยู่บนน้ำเลยเหมือนเรือ

และแบบที่สองที่ในสภาวะปกติก็ทรงตัวบนผืนแผ่นดินธรรมดาเหมือนทั่วๆไป

แต่ถ้าเกิดกรณีน้ำท่วมขึ้นมา ตัวบ้านก็จะสามารถลอยตัวขึ้นเหนือน้ำเหมือนเรือ

 

 

ซึ่งวัสดุที่ใช้ในการสร้างจะใช้กล่องคอนกรีตสี่เหลี่ยมกลวงมาทำเป็นฐาน

เพื่อทำให้บ้านลอยตัวได้บนน้ำ และใช้เสาเหล็กกล้าเป็นโครงสร้างหลัก

และเสริมความมั่นคงของตัวบ้าน

 

ส่วนของสาธารณูปโภค เช่น น้ำและไฟนั้น

จะมีการส่งผ่านท่อที่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมาก

ต่อกระแสน้ำที่จะมาปะทะอีกด้วย

 

 

และในส่วนที่เหลือต่างๆ

ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์ภายในบ้าน

หรือแบบบ้านนั้นก็คล้ายกับบ้านปกติโดยทั่วไป

เช่น ต้องการที่จะมีระเบียงบ้านยื่นออกไป

หรือต้องการติดบานพับหน้าต่าง

และทาสีต่างๆ

 

 

ซึ่งบ้านแบบใหม่ที่ว่านี้นอกจากจะออกแบบและสร้างไว้

เพื่อรับมือกับน้ำท่วมแล้ว บ้านแบบนี้ก็ยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

 

 

 

โดยแนวคิดนี้ ได้ใช้เวลาในการพัฒนาและค้นคว้ามากว่าสามปี

โดยบริษัททางวิศวกรรมสถาปัตยกรรมชั้นนำในประเทศเนเธอร์แลนด์

ที่ชื่อว่า Dutch architectural form Factor Architecten

ซึ่งโครงการนี้เกิดขึ้นมาจากว่าที่ประเทศเนเธอร์แลนด์นั้น

พื้นที่ครึ่งหนึ่งของประเทศมีระดับอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำทะเล

จึ่งทำให้เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมอยู่เสมอ

ทางบริษัทจึงคืดหาทางแก้ไข

 

ซึ่งทางแก้นี้ดูเหมือนว่าจะเป็นประโยชน์อย่างมาก

สำหรับประชากรในประเทศ และทั่วโลกอีกด้วย

 

 

 

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.navy22.com/smf/index.php?topic=16111.0

[moddang 3,625]

บันทึกภาพน้ำท่วม เกษตรฯ-บางเขน

 

 

 

 

 

ดูตามลิงค์เลยค่ะ

 

http://hilight.kapook.com/view/64203

[moddang 3,625]

ฮาคลายเครียด! รักสามเส้า...จดหมายจากน้ำถึงพี่กรุง

 

 

จดหมายจากน้ำ…ถึง…พี่กรุง

น้ำรู้ว่าพี่กรุงไม่ต้องการน้ำแล้ว รู้แล้วว่าพี่มีความสุขดีโดยที่ไม่มีน้ำ แต่พี่กรุงจำได้หรือเปล่าว่าเราเคยมีความสุขกันมากขนาดไหน และน้ำรู้ว่าพี่ ไม่พอใจที่น้ำกลับมาหาพี่ ถึงแม้ที่ผ่านมา น้ำจะทำไม่ดีกับคนอื่นมา แต่น้ำอยากให้พี่รู้ไว้ น้ำใช้พวกเขาเป็นทางผ่านเพื่อมาหาพี่กรุง

 

ตอนนี้น้ำทำได้ดีที่สุดก็แค่รออยู่รอบ ๆ ตัวพี่กรุง แต่ให้พี่รู้เอาไว้ว่า สักวันหนึ่ง น้ำจะเข้าไปหาพี่กรุงให้ได้ เราจะมีเวลาอยู่ด้วยกันทั้งวันทั้งคืน น้ำอยากให้พี่กรุงรู้เอาไว้ว่า น้ำจะไม่ล้มเลิกความตั้งใจและตัดใจจากพี่กรุงเด็ดขาด ถึงแม้ผู้ใหญ่ของพี่จะพยายามผลักดันน้ำให้ออกห่างจากพี่กรุงก็ตาม แต่น้ำไม่แคร์ ถึงแม้ใครจะด่าน้ำว่าหน้าด้าน เบื่อน้ำ เกลียดน้ำก็ตาม น้ำก็จะไปอยู่กับพี่กรุงให้ได้ พี่กรุงคอยดูก็แล้วกัน

 

ป.ล. ฝากบอกอินังทรายด้วยนะ ว่า "น้ำไม่ยอมง่าย ๆ หรอก" …

 

"น้องน้ำ" ประกาศว่าจะไปหา "พี่กรุง" ให้ได้ถึงขนาดนี้ ไปดูว่า "พี่กรุง" ตอบกลับว่าอย่างไร

 

จดหมายจากพี่กรุง...ถึง...น้ำ

 

น้ำ...พี่อยากให้น้ำรู้ ทุกวันนี้พี่อยู่โดยไม่มีน้ำ พี่มีความสุขดีอยู่แล้ว น้ำจะมาอะไรตอนนี้ เชื่อเถอะ ยังไงพี่ก็ไม่มีความสุขหรอก น้ำไปตามทางของน้ำเถอะ พี่รู้ดีน้ำเป็นยังไง เอาเถอะนะ ถ้าน้ำดึงดันจะมา พี่ก็เข้าใจ จะมาก็มาเลย พี่รับได้...ฝันของพี่จะได้เป็นจริงสักที พี่จะได้ไม่ไปอยู่ไหน อยู่แต่กับน้ำนี่แหละ แต่ขอร้อง น้ำอย่าให้ความหวังพี่ว่าน้ำจะมา แล้วน้ำก็ไม่มา มัวแต่ไปขังอยู่กับคนอื่น ถ้าน้ำจะมา ขอให้มาเต็ม มาเคลียร์ให้มันจบ ๆ กันไปน้ำ ไม่ใช่ให้พี่คอยลุ้นว่าจะน้ำจะมาไม่มา มันทรมานนะน้ำ อย่าทำกับพี่เหมือนที่น้ำทำกับคนอื่นเลย พี่เข้าใจนะ ถึงแม้ชีวิตพี่ขาดน้ำไม่ได้ แต่เราต่างคนต่างอยู่เถอะ ถ้าพี่ต้องการน้ำเมื่อไหร่พี่จะเปิดก๊อกเอง...

 

ป.ล.ตอนนี้ ทราย เค้าดูแลพี่ดีอยู่แล้ว

 

"พี่กรุง" เล่นตัดเยื่อใยกันแบบนี้ แล้ว "น้ำ" จะยอมได้ยังไงล่ะ งานนี้ "น้ำ" ก็เลยต้องส่งจดหมายฉบับที่ 2 ถึง "พี่กรุง" อีกครั้ง

 

จดหมายตอบจากน้ำ

 

พี่จ๋า พี่ไม่รักน้ำแล้วหรอพี่หนีน้ำมาทำไม น้ำอุตส่าห์รอนแรมผ่าน....นครสวรรค์ อยุธยา ปทุมธานี เพื่อมาหาพี่ที่ กทม. แต่พี่ก็กีดกันน้ำทุกวิถีทาง ไม่ให้น้ำได้เจอกับพี่ แถมยังกันไม่ให้น้ำเข้าบ้านพี่อีก พี่ไม่นึกถึงวันเก่า ๆ ที่เราเคยเล่นสงกรานต์ด้วยกันอย่างมีความสุขเหรอ น้ำจำได้ดี วันที่พี่ต้องการน้ำมาก ต่อให้แพงแค่ไหนพี่ก็สู้ แต่ตอนนี้น้ำใกล้จะถึงบ้านพี่ แต่พี่ก็ขับรถหนีน้ำไปบนทางด่วนอีก

 

ป.ล.สุดท้ายนี้ น้ำจะรออยู่ที่บ้านพี่สัก 2 เดือนนะคะ

 

เล่นพูดกันขนาดนี้ มีหรือที่ "น้องทราย" กิ๊กใหม่ของ "พี่กรุง" จะยอม ขอลุกขึ้นมาเขียนถึง "น้ำ" บ้าง

 

จดหมายจากทรายถึงน้ำ

 

ถึง: นังน้ำ!

 

ทรายอยากให้น้ำรู้ไว้นะ ว่าน้ำเป็นเพียงอดีตของพี่กรุง! ทรายจะทำทุกวิถีทาง เพื่อกีดกันน้ำ..ไม่ให้พบกับพี่กรุง ผู้ใหญ่เค้าก็เห็นดีเห็นชอบกับทราย ..ให้ทรายคอยกันน้ำไปทางอื่น และถึงแม้ว่า ผู้ใหญ่เค้าจะบอกว่า "เอาอยู่" แต่น้ำก็ยังไม่ยอมหยุดที่จะทำลายทรายและพี่กรุง ขอร้องเถอะนะน้ำ อย่ามาทำให้ใครต่อใครต้องชอกช้ำ เพราะน้ำไปมากกว่านี้เลย T^T

 

"ทรายสัญญาจะดูแลพี่กรุงให้ดีที่สุด" และไม่ว่าน้ำจะลดละ หรือไหลบ่า ท่วมทุ่งซักกี่ลูกบาศ์กเมตรก็ตาม ทรายก็จะคอยหนุน และเปลี่ยนน้ำให้ไปทางอื่นให้ได้!

 

ทราย

 

งานนี้ต้องให้สุภาพบุรุษอย่าง "พี่กรุง" ออกมาปกป้อง "น้องทราย" เสียหน่อย ไหน ๆ ก็ลุกขึ้นมาประกาศจะต่อสู้กับ "น้ำ" ให้ถึงที่สุดแล้วนี่...

 

จดหมายจากพี่กรุงถึงทราย

 

ถึงพี่กับทรายเราจะรู้จักกันได้ไม่นาน ... แต่พี่ก็ขอบคุณจริง ๆ ทรายต้องเจอกับอะไรมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตพี่ ทั้งน้ำ ทั้งฝน ทั้งคลื่น ที่คอยมาก่อกวนทราย ขอบคุณที่เป็นที่พึ่งให้กับพี่

 

ป.ล.พี่กับน้ำใกล้จะเคลียร์กันจบแล้ว ขอให้ทรายอดทนอีกสักพักนะ

 

จาก พี่กรุง

 

ปล่อยให้ 3 คน คุยกันอยู่ฝ่ายเดียวก็กระไรอยู่ "พี่ทะเล" ซึ่งแอบรัก "น้องน้ำ" มาโดยตลอด ก็เลยส่งจดหมายถึง "น้ำ" เพื่อเรียกให้ "น้ำ" กลับมาบ้าง

 

จดหมายจากพี่ทะเลถึงน้ำ

 

ถึง...น้องน้ำ

 

พี่อยากจะบอกน้องน้ำว่า พี่ยังรอน้องน้ำอยู่ทุกลมหายใจ เมื่อเขารังเกียจไม่มีใครต้องการแล้วเราจะอยู่ทำไมให้เขาขับไล่ไสส่ง กลับมาอยู่ในที่ของเราเถอะ พี่กรุงเขากำลังหลงอยู่กับ แสง สี เสียง ก็ปล่อยเขาอยู่กับนังทรายต่อไปก็แล้วกัน กลับมาไว ๆ นะ พี่ทะเลรออยู่ และจะรอตลอดไป

 

"รักน้องน้ำสุดหัวใจ"

 

จาก ... พี่ทะเล

 

ดูท่าว่า ศึกรักสามเส้าครั้งนี้จะไม่จบง่าย ๆ เสียแล้ว เพราะชาวโลกไซเบอร์เขาครีเอทจดหมายโต้ตอบกันไปมาหลายเวอร์ชั่นเสียเหลือเกิน บทสรุปจะเป็นเช่นไร "น้องน้ำ" จะไปหา "พี่กรุง" ที่บ้านได้หรือไม่...แล้ว "น้องทราย" จะกีดกันทั้งคู่ได้แค่ไหน ชาวกรุงเทพมหานครต้องจับตาดูให้ดี...

 

 

 

 

 

http://www.youtube.com/watch?v=fvsO09EgBqc&feature=list_related&playnext=1&list=SPEC515F847865C319

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 13, 2011 โดย moddang..

[moddang 3,625]

โก๊ะตี๋ - จดหมายถึงนังน้ำ & น้องทราย

 

 

 

http://www.youtube.com/watch?v=Fc1tFTvfmyY&feature=BFa&list=SPEC515F847865C319&lf=list_related

[moddang 3,625]

เครือข่ายวิชาชีพสัตวแพทย์ฯ โครงการดี ๆ สำหรับสัตว์ประสบภัย

 

 

 

 

 

 

 

นาทีนี้ไม่มีเรื่องไหนเด่นเท่าสถานการณ์น้ำท่วมอีกแล้ว ที่ตอนนี้สถานการณ์ยังไม่มีทีท่าว่าจะคลี่คลาย เพราะหลังทะลักเข้าท่วมมาแล้วในหลายจังหวัด ทั้ง ลพบุรี นครสวรรค์ อยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์น้ำท่วมได้สร้างความตื่นตระหนกให้คนไทยเกือบทั้งประเทศ ล่าสุดมวลน้ำก้อนใหญ่จ่อทะลักเข้าท่วมเมืองหลวงของไทยแล้ว โดยมีเขตสายไหม-ดอนเมืองเป็นด่านแรก

 

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเหตุการณ์นี้จะสร้างความเสียหายอย่างมหาศาล แต่มนุษย์ก็ยังโชคดีที่มีเวลาได้เตรียมตัวรับมือภัยเหล่านี้ และได้รับความช่วยเหลือจากเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ต่างจากเพื่อนร่วมโลกของเราอย่างพวกสัตว์ต่าง ๆ ที่ปราศจากการช่วยเหลือ ด้วยเหตุนี้เอง โครงการ "เครือข่ายวิชาชีพสัตวแพทย์ช่วยน้ำท่วม" จึงเกิดขึ้น จากการประชุมสัตวแพทย์ทุกสถาบันการศึกษา กรมปศุสัตว์ สภาและสมาคมวิชาชีพต่าง ๆ ที่มองเห็นปัญหาและไม่เพิกเฉย

 

 

ซึ่งถ้าหากใครมีปัญหาก็สามารถแจ้งเครือข่ายได้ ทางเครือข่ายพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ แบ่งเป็นหัวข้อต่างๆ ได้ 6 ข้อดังนี้

 

 

1. เป้าหมายหลักของโครงการ แบ่งได้เป็นระยะแรกและระยะยาว ได้แก่

 

- ระยะแรก จะเข้าไปช่วยให้อาหารสัตว์ที่ขาดอาหารเพื่อลดความอ่อนแอ แต่ถ้าสัตว์มีเจ้าของจะให้ยาถ่ายพยาธิเพื่อลดความเสี่ยงในการติดต่อเข้าสู่คน

 

- ระยะยาว ตรวจรักษาและให้วัคซีนสัตว์เพื่อฟื้นฟูสุขภาพหลังน้ำลด

 

2. สัตวแพทย์ไม่มีนโยบายนำสัตว์ออกนอกพื้นที่ ยกเว้นสัตว์จะจมน้ำตาย สามารถเคลื่อนย้ายไปยังพื้นที่สูงได้

 

3. การให้ความช่วยเหลือเป็นไปได้ด้วยดี แต่ก็ยังมีปัญหาอยู่บ้าง คือ มี เพียงรถตู้กับรถปิ๊กอัพเป็นพาหนะ ทำให้เข้าถึงพื้นที่ต่าง ๆ ได้ลำบากหรือบางครั้งไม่สามารถเข้าได้เลย แถมบางครั้งเข้าไปในพื้นที่ แต่ไม่มีใครนำทางต่อ ก็ไม่สามารถเข้าถึงตัวสัตว์ได้

 

4. นอกจากนี้เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ประจำอื่น ๆ ด้วย จึงไม่สามารถช่วยเหลือสัตว์ทุกตัวที่ได้รับแจ้งมาทั้งหมดได้ แต่ทีมงานก็ยืนยันว่าจะพยายามทำงานอย่างเต็มที่

 

5. สำหรับผู้ที่โทรมาขอความช่วยเหลือกรุณาอย่าใช้ถ้อยคำที่บั่นทอนน้ำใจหรือชวนสงสัย เนื่องจากทุกคนที่ทำงานนี้มาด้วยจิตอาสา

 

6. สัตวแพทย์ที่มาทำงานด้วยจิตอาสา มีความรักสัตว์หมดทุกคน ฉะนั้นจะพยายามทำหน้าที่ให้ได้มากที่สุด แต่ก็ยอมรับว่าอาจจะไม่สามารถทำตามความต้องการของผู้ขอความช่วยเหลือได้ทุกคน

 

 

 

สำหรับท่านผู้อ่านที่สนใจบริจาคสิ่งของช่วยเหลือสัตว์ ทางเครือข่ายแจ้งมาว่าขอเน้นไปที่อาหารสัตว์เลี้ยง สุนัข แมว (อาหารปศุสัตว์ อาจต้องเป็นเงินบริจาคนำไปจัดหา) สามารถบริจาคได้ที่ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ถ.อังรีดูนังต์ ติดต่อ รศ.นสพ.ดร.สุดสรร ศิริไวทยพงศ์ หรือฝ่ายสารบรรณ 0-2218-9776

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 13, 2011 โดย moddang..

[moddang 3,625]

สกู๊ป..ช่วยสุนัขประสบภัย

 

ช่วยกันหน่อยนะคะ

 

 

http://www.krobkruakao.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7/47564/%E0%B8%AA%E0%B8%81%E0%B8%B9%E0%B9%8A%E0%B8%9B--%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%82%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%AA%E0%B8%9A%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2.html

[moddang 3,625]

ข่าว 3 มิติ-ช่วยสุนัขกลางน้ำท่วม

 

 

 

http://www.krobkruakao.com/video.php?type=videoDetail&video=43&path=7949&year=2011&month=11

[moddang 3,625]

CNN ตีข่าวสุนัขถูกทิ้งเพียบ หลังคนหนีน้ำท่วม

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

 

 

CNN ตีข่าว สุนัขถูกทิ้งหลังคนหนีน้ำท่วม หลายตัวต้องดิ้นรนเอาตัวรอด ขณะที่มูลนิธิเพื่อสุนัขเร่งเข้าช่วยเหลือสุนัขและแมวถูกทิ้ง

 

เหตุการณ์น้ำท่วมในครั้งนี้ไม่เพียงสร้างปัญหาให้แก่คน แต่ยังสร้างปัญหาให้สัตว์เลี้ยงที่ต้องดิ้นรนหนีน้ำท่วม ดังที่เว็บไซต์ CNN รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยขณะนี้ว่า ขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมในประเทศไทยกำลังขยายวงกว้างขึ้นเรื่อย ๆ แต่ที่แย่ที่สุด คือ น้ำได้ทะลักเข้าสู่เมืองหลวงของประเทศอย่างกรุงเทพฯ ในหลายพื้นที่แล้ว ซึ่งบางพื้นก็ต้องอพยพคนออกจากพื้นที่ออกไปหมด ทำให้สุนัขที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นเพื่อนคู่ใจของคน ต้องถูกทิ้งให้ต้องดิ้นรนเอาชีวิตรอดตามลำพัง เนื่องจากพวกมันเหมือนถูกทิ้งไว้ และต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก ทำให้มีสุนัขติดอยู่บนหลังคา และบางตัวพยายามว่ายน้ำหนีน้ำท่วม

 

โดยมูลนิธิ Soi Dog Foundation ซึ่งทำงานร่วมกับกรุงเทพฯ ในการเข้าช่วยเหลือสุนัขเหล่านี้ แม้พวกเขาจะไม่ได้เป็นหน่วยงานที่ใหญ่อะไรมาก แต่ก็พร้อมเข้าช่วยเหลือสุนัขที่กำลังดิ้นรนเอาชีวิตรอดจากภัยธรรมชาติอันโหดร้ายครั้งนี้ ก่อนที่มันจะสายเกินไป โดยเตรียมพร้อมเข้าช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นที่พักพร้อมทีมงานสัตวแพทย์ที่จะเข้าช่วยเหลือสุนัขเหล่านี้

 

ล่าสุด พื้นที่ฝั่งธนบุรี เป็นพื้นที่น้ำจากจังหวัดนนทบุรีกำลังทะลักเข้าท่วมอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลสั่งให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบทำการอพยพเป็นการด่วน แต่ในการอพยพนี้ กลับพบสุนัขที่ถูกทิ้งไว้ให้เผชิญชะตากรรมเอง ไม่สามารถทำอะไรได้ ตัวอย่างเช่น ล่าสุดที่ทางทีมช่วยเหลือไปพบสุนัขถูกทิ้งไว้ในโรงงานแห่งหนึ่ง หลังคนอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากน้ำท่วมสูง โดยสุนัขอยู่ในสภาพอ่อนแอ ไม่มีเรี่ยวแรง จนเกือบตาย แต่โชคดีที่มีทีมช่วยเหลือผ่านไปพบเห็นและสามารถเข้าช่วยเหลือได้ทัน ซึ่งขณะนี้ก็ทำการช่วยเหลือให้ปลอดภัยแล้ว แต่ก็ยังมีสุนัขจำนวนมากที่อยู่ข้างนอกและยังรอความช่วยเหลืออยู่

 

 

http://pet.kapook.com/view32726.html

 

 

 

 

มุมน่ารักๆ ในสถานการณ์ น้ำท่วม

 

 

[moddang 3,625]

P'Bee Hero ของหมาแมว : สัมภาษณ์@ThaiPBS

 

 

 

 

 

 

 

-----------------------------------------------------------------------------

 

ขอบคุณที่ไม่ทิ้งกัน

 

 

[moddang 3,625]

“คุณหมอสายด่วน” ฮอตไลน์ทางการแพทย์แก่ผู้ประสบภัย

 

 

 

 

“คุณหมอสายด่วน” ให้บริการปรึกษาทางการแพทย์ทางโทรศัพท์แก่ผู้ประสบภัย และประสานงานให้ความช่วยเหลือในกรณีฉุกเฉิน โทร.08-8686-5116 ถึง 45 และ 09-0410-7600 ถึง 19 ตั้งแต่ 08.00-20.00 น.

 

 

“คุณหมอสายด่วน” คือ กลุ่มแพทย์เฉพาะทางในสาขาต่างๆ ที่มีจิตอาสาในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม โดยมีศูนย์กลางการประสานงานที่โรงพยาบาลราชวิถี

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ แพร ศิริศักดิ์ดำเกิง ผู้ประสานงานกลุ่มฯ โทร.09-0563-3170

ทั้งนี้ “คุณหมอสายด่วน” จะดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1-15 พฤศจิกายน 2554 หรือจนกว่าจะมีการพิจารณาขยายเวลาต่อไป

 

ขณะที่ ร.พ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เปิดให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยนอก การทำผ่าตัดทุกระบบโรคและคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 54 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ในด้านการรักษาพยาบาล