ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

15941011_10154873887299547_7421722467529983585_n.jpg?oh=f0d9cda62d59e3facea09479d016baae&oe=59173893

ภาพแห่งความอบอุ่นเมื่อพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา ทรงกราบถวายความเคารพต่อ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี จากนั้นทรงเข้าสวมกอด อย่างอบอุ่น

เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๘ มกราคม ๒๕๖๐ เวลา ๐๘.๕๙ น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดการแข่งขัน Walk Rally ภายใต้ชื่องาน "Inspire run and ride by princess & friend" ณ.ไร่องุ่นซิลเวอร์เลค อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

ในการนี้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ

 

ขอบคุณข่าวในพระราชสำนัก.CH.7

 

15826086_10154919155252855_8406641910984232285_n.jpg?oh=ee6610625e27a01abd2d6593208d4e3c&oe=591D4E02

ทูลกระหม่อมหญิง อุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จออกมายังเต็นท์มูลนิธิโครงการทูบีนัมเบอร์วัน บริเวณสวนหย่อมตรงข้ามประตูเทวาพิทักษ์ เพื่อประทานพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และข้าวเหนียวหมูทอดแก่ประชาชนที่มากราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่8มกราคม2560

 

ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์ (Anant Chantarasoot)

 

15895082_10154918626837855_1753917430108444417_n.jpg?oh=5f0507fb4f2f74ed32142d52d5b070f7&oe=59113F37

พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จทรงปล่อยพันธุ์ปลา เพื่อบำเพ็ญพระกุศลเนื่องในวันคล้ายวันประสูติ โดยสำหรับพันธุ์ปลาน้ำจืดที่กรมประมงน้อมถวาย เป็นปลาไทยจำนวนเก้าชนิด ได้แก่ ปลาตะเพียนขาว ปลาตะเพียนทอง ปลาแก้มช้ำ ปลาสร้อยขาว ปลาหมอไทย ปลาเสือพ่นน้ำ ปลากราย ปลาโพงและปลาบึก รวมทั้งสิ้น สามแสนเก้าหมื่นตัว ณ ท่าวาสุกรี

ภาพธนาชัย ประมาณพาณิชย์ (Tanachai Pramarnpanich)

#NationPhoto #ธนาชัยประมาณพาณิชย์

 

15966145_10154918572357855_6819520224502688540_n.jpg?oh=0f0ed665d4a673038d7c29d85eff143a&oe=58E5FB20

ศูนย์น้ำใจไมตรี กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม สอนวิธีทำดอกไม้จันทน์จากเปลือกข้าวโพดฟรีให้กับประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เพื่อให้ความรู้กับประชาชนและเผยแพร่ให้กับผู้อื่นต่อไป โดยทำการสอนไปจนถึงวันที่19มกราคม2559 ที่สนามหลวง เต้นท์กระทรวงวัฒนธรรม ฝั่งตรงข้ามพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ เมื่อวันที่8มกราคม2560

ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์ (Anant Chantarasoot)

#NationPhoto

 

 

 

15895075_10154921082947855_5750016073297779294_n.jpg?oh=e69b6148a8765e3776e3c0d3a618177c&oe=59246F48

นางสมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เป็นประธานเปิดการเริ่มจำหน่ายบัตรภาพผนึกแสตมป์ ร.9 ซึ่งเป็นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่จัดทำขึ้นเพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ให้กับประชาชน 7 ล้านคนทั่วประเทศที่ลงทะเบียนในมาตรฐานเดียวกับบริการไปรษณีย์ด่วนพิเศษ (EMS) ในวันที่ 9 มกราคม 2560 ซึ่งเป็นวันแรกของการจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศ คาดว่าจะส่งถึงมือทุกคนภายใน 20 มกราคม นี้ ที่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร

ภาพ ชาลินี ถิระศุภะ (Chalinee Thirasupa)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

HSHsocial

 

 

 

YLGResearch

 

 

ข่าวเศรษฐกิจทีส่งผลต่อราคาทองคำและหุ้น 9/ธ.ค./2559

ข่าวเศรษฐกิจทีส่งผลต่อราคาทองคำและหุ้น 9/ธ.ค./2559

 

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

ราคาทองคำวันนี้ 9 ม.ค. 60

ราคาทองคำวันนี้ 9 ม.ค. 60

 

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า09-JAN-2017

ราคาทองวันนี้lรอบเช้า09-JAN-2017

 

AUSIRIS.CO.TH

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

 

NOW26

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 9 มกราคม 2560 06:18:44 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 ม.ค. 2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) ในขณะที่ดัชนี NASDAQ และ S&P500 ปิดที่ระดับสูงสุดทำสถิติใหม่ เนื่องจากนักลงทุนขานรับตัวเลขจ้างงานสหรัฐเดือนธ.ค. แม้ว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดการณ์

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,963.80 จุด เพิ่มขึ้น 64.51 จุด หรือ +0.32% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,521.06 จุด เพิ่มขึ้น 33.12 จุด หรือ +0.60% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,276.98 จุด เพิ่มขึ้น 7.98 จุด หรือ +0.35%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดขยับลงเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) โดยเป็นการลดช่วงลบจากการซื้อขายในช่วงแรก หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานเดือนธ.ค.

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดลบ 0.05% แตะที่ 365.45 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,909.84 จุด เพิ่มขึ้น 9.20 จุด หรือ +0.19% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,599.01 จุด เพิ่มขึ้น 14.07 จุด หรือ +0.12% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,210.05 จุด เพิ่มขึ้น 14.74 จุด หรือ +0.20%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการอ่อนค่าของเงินปอนด์เมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งส่งผลดีต่อบริษัทอังกฤษที่ดำเนินธุรกิจระหว่างประเทศและทำรายได้ในรูปดอลลาร์สหรัฐ

 

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 7,210.05 จุด เพิ่มขึ้น 14.74 จุด หรือ +0.20%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) โดยภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 7.9 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ 1,173.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 11.8 เซนต์ หรือ 0.71% ปิดที่ 16.519 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 5.40 ดอลลาร์ หรือ 0.6% ปิดที่ 970.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 20.15 ดอลลาร์ หรือ 2.7% ปิดที่ 758.35 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.

 

ยูโรอ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0561 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0599 ดอลลาร์สหรัฐ ปอนด์อ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2266 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2422 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าเทียบดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.7296 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7341 ดอลลาร์สหรัฐ

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเยนที่ระดับ 117.05 เยน จากระดับ 115.53 เยน แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0175 ฟรังก์ จากระดับ 1.0105 ฟรังก์ และแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3244 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3229 ดอลลาร์แคนาดา

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณว่ากลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เดินหน้าลดการผลิตตามข้อตกลง

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 53.99 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.37% ปิดที่ 57.10 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 19,963.80 จุด เพิ่มขึ้น 64.51 จุด, +0.32%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,521.06 จุด เพิ่มขึ้น 33.12 จุด, +0.60%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,276.98 จุด เพิ่มขึ้น 7.98 จุด, +0.35%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,909.84 จุด เพิ่มขึ้น 9.20 จุด, +0.19%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,599.01 จุด เพิ่มขึ้น 14.07 จุด, +0.12%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,210.05 จุด เพิ่มขึ้น 14.74 จุด, +0.20%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,759.23 จุด ลดลง 119.01 จุด, -0.44%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,675.49 จุด เพิ่มขึ้น 15.67 จุด, +0.94%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,962.63 จุด เพิ่มขึ้น 8.49 จุด, +0.29%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,347.02 จุด เพิ่มขึ้น 21.52 จุด, +0.40%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,503.01 จุด เพิ่มขึ้น 46.32 จุด, +0.21%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,248.20 จุด เพิ่มขึ้น 38.76 จุด, +0.54%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,154.32 จุด ลดลง 11.09 จุด, -0.35%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,049.12 จุด เพิ่มขึ้น 7.17 จุด, +0.35%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 19,454.33 จุด ลดลง 66.36 จุด, -0.34%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,372.22 จุด เพิ่มขึ้น 14.08 จุด, +0.15%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,755.60 จุด เพิ่มขึ้น 2.30 จุด, +0.04%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,809.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.90 จุด, +0.07%

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2581195

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำจันทร์ที่ 9 มกราคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 9 มกราคม 2560 09:42:13 น.

กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังมีสภาพการเคลื่อนไหวในกรอบแคบ เป็นการแกว่งตามเนื้อข่าวที่เข้ามา โดยที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงมาจากระดับ 103 จุด มาแถวระดับ 101 จุด และมีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดทองคำ และตลาดกลับมาเล่นตามข่าวตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯหลังจากที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯอันได้แก่ ข้อมูล Non-Farm Payrolls ออกมาแย่กว่าที่คาดแตะระดับ 156,000 ตำแหน่ง แต่ตลาดกลับให้น้ำหนักไปยังข้อมูลอัตราค่าจ้างที่ออกมาดีขึ้นเกินคาดแตะระดับ 0.4% มากกว่า จึงทำให้ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นมาแถวระดับ 102.26 จุด ด้านดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ที่ระดับ 19,999.63 จุด ในขณะที่เปิดตลาดเอเชียค่อยๆขยับขึ้นมาที่ระดับ 1,175 เหรียญ อย่างไรก็ดี SPDR เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาไม่ได้ทำอะไร โดยปัจจุบันถือครองที่ระดับ 813.59 ตัน ค่าเงินบาทเองอ่อนค่าขึ้นมาจากระดับ 35.58 บาท/ดอลลาร์ สู่ระดับ 35.78 บาท/ดอลลาร์ จึงจะเห็นได้ว่ามีการแกว่งตัวทั้งค่าเงินบาทและราคาทองคำ

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ทำให้โดยภาพรวมของตลาดเป็นการแกว่งตัวในกรอบขาขึ้นระยะสั้น โดยที่แนวรับขยับขึ้นมาที่ระดับ 1,170 เหรียญ แนวต้านสำคัญ 1,185 เหรียญ สำหรับวันนี้จะไม่มีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ ด้านราคาทองคำไทยจะมีแนวรับที่ 19,700 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 20,000 บาท/บาททองคำ ซึ่งในวันเสาร์ที่ผ่านมาราคาทองคำมีการปรับตัวลงเล็กน้อยประมาณ 50 บาท/บาททองคำ

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ในระยะสั้นยังมองว่าเป็นกรอบทิศทางขาขึ้น แต่หากหลุดระดับ 1,170 เหรียญลงมา ก็มีโอกาสจะปรับตัวกลับมาเป็นขาลงได้

 

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ลงซื้อขึ้นขายในกรอบระยะสั้น

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

เก็งกำไรระยะสั้น ปิดทำกำไรเป็นช่วงๆ เมื่อราคาย่อตัว

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ยังอยู่ในช่วงปรับพอร์ตการลงทุน จึงควรที่จะค่อยๆปรับพอร์ตการลงทุนของท่านให้สมดุลกับสภาวะตลาด เนื่องจากตลาดอยู่ในช่วง Inter-Change จึงอาจมีความผันผวนค่อนข้างสูง

 

Gold Futures G17 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,170 บาท

Gold Futures J17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,050 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,250 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2581460

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์หลังขึ้นไปมาก คาดรับแรงขายทำกำไรกองทุนในปท.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 9 มกราคม 2560 09:49:57 น.

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ จากแรงขายทำกำไรของกองทุนในประเทศที่เริ่มเห็นตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งก็คงจะเป็นผลจากการไถ่ถอนหน่วยลงทุนกองทุน LTF และตลาดฯก็ปรับตัวขึ้นไปมากแล้วด้วย

 

ส่วนราคาน้ำมันฟิวเจอร์มีการปรับฐานเล็กน้อย ซึ่งก็คงไม่กระทบหุ้นกลุ่มพลังงานมากนัก แต่เหตุการณ์น้ำท่วมภาคใต้ทำให้จะต้องติดตามผลกระทบที่ตามมาด้วย แต่ก็คงจะมีการโฟกัสหุ้นที่ได้รับประโยชน์ในแง่ของการซ่อมแซมภายหลังน้ำลด อย่าง SCC, SCCC, TPIPL, HMPRO, GLOBAL, DCC, DRT, BJC เป็นต้น

 

 

 

ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวก โดยปัจจัยนอกประเทศเวลานี้ต่างรอดูนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ ที่อาจส่งผลกระทบในด้านต่าง ๆ ของเศรษฐกิจโลก

 

พร้อมให้แนวรับ 1,564 จุด ส่วนแนวต้าน 1,575-1,580 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (6 ม.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,963.80 จุด เพิ่มขึ้น 64.51 จุด (+0.32%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,521.06 จุด เพิ่มขึ้น 33.12 จุด (+0.60%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,276.98 จุด เพิ่มขึ้น 7.98 จุด (+0.35%)

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 5.79 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 58.10 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 4.26 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.06 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 0.50 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 0.16 จุด

 

ส่วนตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการวันนี้ เนื่องในวัน Coming of Age Day

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (6 ม.ค.60) 1,571.48 จุด เพิ่มขึ้น 0.43 จุด (+0.03%)

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,911.91 ล้านบาท เมื่อวันที่ 6 ม.ค.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (6 ม.ค.60) ปิดที่ 53.99 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.43%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (6 ม.ค.60) ที่ 7.21 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 35.75/80 คาดทิศทางทรงตัวแคบถึงอ่อนค่าเล็กน้อย หลังไร้ปัจจัยสำคัญ

- รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 9 ม.ค.ได้เรียกประชุมหน่วยงานศูนย์ติดตามและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติการเกษตร เพื่อประเมินสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ ความเสียหายและผลกระทบการให้ความช่วยเหลือทั้งช่วงการเผชิญเหตุ และช่วงการฟื้นฟูเพื่อปรับสภาพพื้นที่การเกษตร การประกอบอาชีพเกษตรกรรมของเกษตรกรที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติ หรือพัฒนาให้ดีกว่าและปลอดภัยกว่าเดิม ขณะเดียวกันจะหารือถึงการเสนอ ครม.อนุมัติงบกลางปี 2560 วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท จัดทำโครงการบรรเทาอุทกภัย จ.นครศรีธรรมราช

 

- แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ทางสำนักงานคณะกรรมการใหมกฤษฎีกา ได้ตอบกลับร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ที่กระทรวงการคลังนำเสนอไปให้พิจารณา โดยเห็นว่าไม่ควรแยกเก็บภาษีที่ดินเปล่าที่ไม่ได้ใช้ประโยชน์ ควรรวมไว้กับการเก็บภาษีประเภทอื่น เพราะที่ดินเปล่านั้นมีทั้งเพื่อการเกษตรและเพื่อการพาณิชย์

 

- รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมเมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้รายงานให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ทราบถึงแนวโน้มและแผนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยปี 2560 เพื่อให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือจีดีพี ขยายตัวได้ 4% ภายใต้สมมติฐานจะมีการใช้งบประมาณผ่านโครงการและมาตรการต่างๆ เพื่ออัดฉีดวงเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจรวม 5.85 แสนล้านบาท

 

- กนอ.เผยยอดเช่านิคมปีงบ 59 พลาดเป้า เหลือ 2.5 พันไร่ จากหวังที่ 3 พันไร่ แต่ยังสูงกว่าปีงบ 58 ฟุ้งปี 60 ความต้องการเพิ่มสูงขึ้น หลังมีมาตรการกระตุ้นออกมาเพียบ ชี้อีอีซีได้ประโยชน์สูงสุด

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- TISCO (ฟินันเว๊ย ไซรัส"เป้าหมาย 72 เป็นหุ้นเด่นกลุ่มแบงก์แทน SCB และ KKP คาดกำไรสุทธิรวมของกลุ่มแบงก์ใน Q4/59 -12.5% Q-Q ชะลอเพราะค่าใช้จ่ายสูงในไตรมาสสุดท้าย แต่กำไรเพิ่มเล็กน้อย +4% Y-Y โดย TCAP น่าจะมีกำไรโดดเด่นสุด +15% Q-Q, +27% Y-Y จากสำรองที่ลดลง สำหรับปี 60 คาดกำไรกลุ่มแบงก์ +3% Y-Y ดีสุดในรอบ 3 ปีจากสินเชื่อฟื้นโต แต่แนวโน้ม H1/60 ยังถูกกดดันจากการตั้งสำรองสูงต่อไป TISCO มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดีลซื้อพอร์ตสินเชื่อรายย่อยในปีก่อนจะทำให้กำไรปี 60-61 โดดเด่น และคาด Dividend yield 5%

 

- BANPU (โกลเบล็ก) เป้า 21.75 บาท มองบวกงบ Q4/59 ต่อเนื่องถึงปี 60 กำลังจะตกลงราคาขายถ่านหินในปีหน้าซึ่งราคาปรับขึ้น 40-50% จากปี 59 ขณะที่คาดต้นทุนผลิตเพิ่มขึ้นเพียง 15-20% พร้อมคาดปี 59 พลิกกำไร 1,510 ลบ. (+198% YoY) จากโรงไฟฟ้า BLCP และหงสาผลิตครบทั้ง 3 หน่วย คาดกำไรปี 60 อยู่ที่ 9 พันล้านบาท +690%YoY จากราคาถ่านหินเพิ่มขึ้น ด้านลงทุนธุรกิจโรงไฟฟ้าผ่าน BPP (คิดเป็นมูลค่า 12.3 บาทต่อหุ้น) โดยดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้ากำลังการผลิต 1.9 GW และกำลังก่อสร้างอีก 550 MW รวม 2.45 GW

 

- BCP (ทรีนีตี้) "ซื้อ"เป้า 39 บาท ด้วยปัจจัยหนุนดังนี้ (1) มี Dividend Yield สูง ประเมินไว้ที่ 4.1% สำหรับปี 60 (2) ได้รับอานิสงส์มากสุดในกลุ่มจากอัตรากำไรน้ำมันเตาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น (3) เห็นสัญญาณบวกจากโครงการโซลาร์ญี่ปุ่น หลังเริ่มทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (4) คาดผลประกอบการ Q4/59 ฟื้นตัวจากแรงหนุนธุรกิจโรงกลั่น

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2581475

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เงินบาทเปิด 35.75/80 คาดทิศทางทรงตัวแคบถึงอ่อนค่าเล็กน้อยหลังไร้ปัจจัยสำคัญ

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 9 มกราคม 2560 09:21:58 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงเทพ เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.75/80 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า

 

 

 

จากเมื่อเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.69 บาท/ดอลลาร์

วันนี้เงินบาทคงจะเคลื่อนไหวทรงตัวอยู่กรอบแคบๆ เนื่องจากไม่มีข่าวที่เป็นปัจจัยสำคัญต่อค่าเงินมากนัก แต่ก็ยังมีโอกาส

 

เคลื่อนไหวในทิศทางที่อ่อนค่า

"วันนี้ไม่ค่อยมีข่าวอะไรที่จะมีผลกับค่าเงิน บาทคงทรงๆ และอาจเคลื่อนไหวไปในทิศทางอ่อนค่าได้เล็กน้อย" นักบริหาร

 

เงินระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 35.70-35.90 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 117.00/40 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 115.92 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0520/0560 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ระดับ 1.0600 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.715 บาท/ดอลลาร์

 

- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) หลังจากกระทรวง

 

แรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนธ.ค.

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) เนื่องจากเริ่มมีสัญญาณว่ากลุ่ม

 

ประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) เดินหน้าลดการผลิตตามข้อตกลง โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 23 เซนต์

 

หรือ 0.43% ปิดที่ 53.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.37% ปิดที่

 

57.10 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันศุกร์ (6 ม.ค.) โดยภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำได้รับแรงกดดันจากการ

 

แข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 7.9

 

ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ 1,173.40 ดอลลาร์/ออนซ์

- ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก เปิดเผยว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 1.94% ในไตรมาสแรก

 

ของปีนี้ ซึ่งเป็นอัตราที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับการประเมินในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.70% หลังมีการเปิดเผยตัวเลขการผลิตภาค

 

อุตสาหกรรมของสหรัฐที่แข็งแกร่ง นอกจากนี้ เฟดยังระบุว่า แบบจำลอง Nowcast แสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.89%

 

ในไตรมาส 4 ของปีที่แล้ว โดยสูงกว่าเมื่อเทียบกับการประเมินในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ระดับ 1.77%

 

- ผลสำรวจของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ระบุว่า ดัชนีภาคการผลิตของ ISM ปรับตัวขึ้น 1.5% สู่

 

ระดับ 54.7 ในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2014 โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 53.2 ในเดือน พ.ย.ทั้งนี้ ดัชนีอยู่

 

เหนือระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ภาวะขยายตัว ขณะที่คำสั่งซื้อใหม่พุ่งขึ้น 7.2% ในเดือน ธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน พ.ย.2014

 

ขณะที่การจ้างงานเพิ่มขึ้น 0.8% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2015

- กระทรวงแรงงานสหรัฐ รายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 156,000 ตำแหน่งในเดือนธ.ค.

 

ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.7% หลังร่วงลงสู่ระดับ 4.6% ในเดือน พ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบกว่า 9 ปี

 

ทั้งนี้ ภาคเอกชนมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 144,000 ตำแหน่งในเดือน ธ.ค.ขณะที่ภาครัฐจ้างงานเพิ่มขึ้น 12,000

 

ตำแหน่ง ขณะเดียวกัน ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อ

 

หาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือน ธ.ค. หลังจากลดลง 0.1% ในเดือนพ.ย.

 

--อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2581459

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีปีใหม่จ้า Gingerrrrrrr

 

:Hi :Hi :Hi

 

สวัสดีปีใหม่ wannnnnn nnnn

สดใส แข็งแรงทั้งกาย ใจ

ยิ้มละไมทุกวัน สบสิ่งสุขสันต์ด้วยยใจตน

โชคดี มีทอง+สตังงงงงงค์เบย

 

0b988a6a5d378284bb6598f65e6368e0.jpg

ใจอ่อนเยาว์ มีสุขง่าย

64d1eed4450bfcc8d38ccb89bd3ec126.jpg

ธรรมชาติ เรียบง่าย รอยยิ้ม มืต้องซื้อหา

248c0d77c759b9d11e38260b7415b817.jpg

หัวเราะ กระโดดโลดเต้นดีกะชีวิต

มีความสุข นะนะเพื่อน พี่น้อง

 

Cr Pinterest

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

NOW26

 

 

 

 

Ylg Bullion

 

 

ทีนิวส์ออนไลน์

 

 

Ylg Bullion

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วัน ที่ 09 มกราคม 2560 โดย YLG

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 9 มกราคม 2560 17:22:18 น.

กรุงเทพฯ--9 ม.ค.--พีอาร์ดีดี

สภาวะตลาดวันที่ 09 มกราคม 2560 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,171.78-1,178.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 19,950 บาทต่อบาททองคำ โดยราคาไม่มีการเปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,950 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFG17 อยู่ที่ 20,080 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,070 บาท

 

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.29 น.ของวันที่ 09/01/2560)

แนวโน้มวันที่ 10 มกราคม 2560

ผู้กำหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปี 2560 ทั้งนี้ นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธานเฟด สาขาชิคาโกกล่าวในวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ ซึ่งมากกว่าที่เขาเคยคาดไว้เมื่อไม่กี่เดือนก่อน ขณะที่นางลอเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟดสาขาคลีฟแลนด์ และนายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ ทั้งสองจะสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วกว่าเดิมเช่นกัน การดีดตัวขึ้นของค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของสหรัฐเพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนธันวาคม นั่นทำให้ค่าจ้างเมื่อเทียบรายปีเพิ่มขึ้น 2.9% ซึ่งเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2553 บ่งชี้ถึงแรงหนุนต่อเนื่องในตลาดแรงงาน ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น โดยข้อมูลนี้นักลงทุนใช้เพื่อขายทองคำทำกำไรออกมา หลังจากราคาขึ้นไปแตะจุดสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ 1,184.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในวันพฤหัสบดี และหากเทียบเป็นรายสัปดาห์ราคาทองคำปรับขึ้น 21.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1.75 % ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการปรับขึ้นรายสัปดาห์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 เดือน อย่างไรก็ตามราคาทองคำอ่อนตัวลงในกรอบจำกัด โดยนักลงทุนรอการการแถลงข่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐในวันพุธนี้ ในเรื่องนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐ และ นโยบายที่จะใช้กับจีน ทองคำยังคงได้แรงหนุนจากความกังวลกรณีความสัมพันธ์ระหว่างนายทรัมป์กับประเทศอื่นๆ อาจจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจการค้าและการเมืองในวงกว้าง รวมถึงถ้อยแถลงของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารเฟดในการประชุมกับนักการศึกษาจากทั่วประเทศผ่านทาง webcast ในวันวันศุกร์นี้ สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงเวลานี้ต้องเน้นไปที่การเก็งกำไรระยะสั้นพร้อมทั้งมีจุดตัดขาดทุนให้ชัดเจน หากต้องการเข้าซื้อทองคำให้รอจังหวะการอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,167 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า ในระยะสั้นหากราคาทองคำไม่สามารถผ่านแนวต้าน 1,185-1,188 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,167 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,158 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,158 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,167 (19,750บาท) 1,158 (19,600บาท) 1,145 (19,350บาท)

แนวต้าน 1,188 (20,100บาท) 1,197 (20,250บาท) 1,210 (20,450บาท)

GOLD FUTURES (GFG17)

แนวรับ 1,167 (19,900บาท) 1,158 (19,750บาท) 1,145 (19,550บาท)

แนวต้าน 1,188 (20,260บาท) 1,197 (20,400บาท) 1,210 (20,650บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999

 

ADVERTISEMENT

 

 

Facebook

Twitter

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

รมว.สาธารณสุขออสซี่ยอมลงจากตำแหน่ง หลังถูกสงสัยนำเงินภาษีจ่ายทริปส่วนตัว

คอลัมน์: ลดแลกแจกแถม: 'มินิครัมเบิ้ลรสบลูเบอร์รี่'

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วัน ที่ 06 มกราคม 2560 โดย YLG

เลอแปงแนะนำ “มินิครัมเบิ้ลรสบลูเบอร์รี่”

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่งและโกลด์ฟิวเจอร์ส วัน ที่ 05 มกราคม 2560 โดย YLG

หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

โกลด์ ภาวะตลาดทองคำ การเปลี่ยนแปลง ประเทศ ราคาทองคำแท่ง กรอบ ดอลลาร์

 

ทิสโก้ ระบุค่าเงินดอลล์ชะลอแข็งค่า หนุนราคาทองคำฟื้นตัวต่อเนื่องในม.ค.

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 9 มกราคม 2560 14:27:57 น.

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ กลุ่มทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นที่พุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง นับจากเดือน พ.ย. ปีที่แล้ว ที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่งผลกดดันราคาทองคำให้ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วจากราว 1,300 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ มาต่ำสุดที่ราว 1,130 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ในเดือน ธ.ค. ปีที่แล้ว

 

 

 

อย่างไรก็ดี ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินสกุลหลักอื่น ๆ เริ่มกลับมาแข็งค่า นำโดยค่าเงินยูโร ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ที่พุ่งสูงสุดในรอบ 5 ปี ส่วนค่าเงินหยวนก็กลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วหลังจากปีใหม่ เนื่องจากทางการจีนเข้าแทรกแซงค่าเงินเพื่อบรรเทาปัญหาเงินทุนไหลออก ซึ่งการพลิกกลับมาแข็งค่าของค่าเงินยูโรและหยวน ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าเร็วต่อเนื่อง มาตั้งแต่เดือน พ.ย. เริ่มพักฐาน และกลับมาอ่อนค่าลงบ้างในช่วงนี้

 

นอกจากนี้ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่เริ่มชะลอการแข็งค่า น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญซึ่งจะหนุนให้ราคาทองคำกลับมาฟื้นตัวขึ้นได้ นอกจากนั้นรายงานสถานะการลงทุนในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ยังชี้ว่านักเก็งกำไรถือครองสัญญาซื้อล่วงหน้าทองคำลดลงต่อเนื่อง 7 สัปดาห์ และอยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน ซึ่งสะท้อนว่าแรงเทขายทองคำน่าจะเริ่มเบาบางลง และอาจเริ่มเห็นแรงซื้อกลับมาในเร็ว ๆ นี้

 

ทั้งนี้ คาดว่าราคาทองคำจะฟื้นตัวต่อเนื่องในเดือน ม.ค. และแนะนำให้นักลงทุนซื้อทองคำเพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุน โดยในปีนี้ยังมีความเสี่ยงจากการเลือกตั้งในหลายประเทศในยุโรป เช่น การเลือกตั้งของเนเธอร์แลนด์ในเดือน มี.ค. ฝรั่งเศส ในเดือน เม.ย. และ เยอรมนี ในเดือน ต.ค. ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำต่อไป

 

--อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2581661

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2581792

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15940835_10154876205964547_9134209851373842826_n.jpg?oh=fe330633d037bc8f398780a83635e727&oe=58D68414

เมื่อวันเสาร์ที่ ๗ มกราคม ๒๕๖๐ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ไปในการพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏเขตภาคเหนือ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๗ - ๒๕๕๘ ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

ขอบคุณภาพ.FB_ข่าวสำนักงานรัฐมนตรี

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

===

15871778_10154921751172855_2811867774103531229_n.jpg?oh=bd8acf6e5a95eada548fb0f084d37801&oe=5913885C

หลังเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในตอนบ่ายของวันที่ 9 มกราคม 2560 ที่มีสายฝนโปรยปราย โดยบางคนยกมือไหว้พร้อมหันหน้าไปทางพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ก่อนจะเดินทางกลับบ้าน

ภาพ ชาลินี ถิระศุภะ (Chalinee Thirasupa)

====

15825951_10154868432734547_7118231969922351115_n.jpg?oh=f67dcf8bb03cb38584faaafd88b7a1c7&oe=59169373

ขอเชิญร่วมกับมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทยช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่ภาคใต้

ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเทเวศร์ ชื่อบัญชี มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก สภากาชาดไทย เลขที่ 020-2-53333-8

ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 31 มกราคม 2560

===

 

โรงพยาบาลศิริราชจัดงานแถลงข่าว “ศิริราชรักษามะเร็งเต้านมสำเร็จเทียบเท่ามาตรฐานโลก” โดยมี ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริาชพยาบาล,ศ.คลินิก.นพ.พันธุ์ศักดิ์ ลักษณบุญส่ง หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ และ ศ.ดร.นพ.พรชัย โอเจริญรัตน์ หัวหน้าสาขาวิชาศัลยศาสตร์ศีรษะคอและเต้านมวิชาศัลยศาสตร์ พร้อมคณะแพทย์ที่เกี่ยวข้องร่วมการแถลงข่าวพร้อมตอบข้อสักถามจากสื่อมวลชน ที่ ตึกอำนวยการ ชั้น 2 รพ.ศิริราช

 

ภาพ ธนาชัย ประมาณพาณิชย์ (Thanachai Pramarnpanich)

#NationPhoto #ธนาชัยประมาณพาณิชย์ #โรงพยาบาลศิริราช #รักษามะเร็งเต้านม

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีจ้า

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 มกราคม 2560 07:52:24 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 ม.ค.2560

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกือบ 4% ได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย อย่างไรก็ตาม ดัชนี NASDAQ ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มกลุ่มสุขภาพ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และแบงก์ ออฟ อเมริกา

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,887.38 จุด ลดลง 76.42 จุด หรือ -0.38% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,268.90 จุด ลดลง 8.08 จุด หรือ -0.35% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,531.82 จุด เพิ่มขึ้น 10.76 จุด หรือ +0.19%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) หลังจากบริษัทรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงสายการบินลุฟฮันซา ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกกอบการ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากการพุ่งขึ้นของหุ้นเฟียต ไครสเลอร์ หลังจากบริษัทประกาศทุ่มเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาโรงงานผลิตรถยนต์ในสหรัฐ

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 363.67 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,887.57 จุด ลดลง 22.27 จุด หรือ -0.45% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,563.99 จุด ลดลง 35.02 จุด หรือ -0.30% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,237.77 จุด เพิ่มขึ้น 27.72 จุด หรือ +0.38%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) โดยดัชนี FTSE 100 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 ด้วยแรงหนุนจากการที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง หลังจากนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อท้องถิ่นว่า อังกฤษพร้อมถอนตัวออกจากตลาดร่วมยุโรป ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเธอจะผลักดันกระบวนการ Brexit อย่างแข็งกร้าว

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเพิ่มขึ้น 27.72 จุด หรือ 0.38% แตะที่ 7,237.77 จุด

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงคืนนี้ (9 ม.ค.) หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันของสหรัฐรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 10 สัปดาห์ ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่า การที่สหรัฐเพิ่มการขุดเจาะและผลิตน้ำมัน จะส่งผลกระทบต่อความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการปรับลดกำลังการผลิต

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 2.03 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 51.96 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 2.16 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 54.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 11.5 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ระดับ 1,184.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 16.4 เซนต์ หรือ 0.99% ปิดที่ 16.683 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 12 ดอลลาร์ หรือ 1.24% ปิดที่ 982.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 12 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 982.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) หลังจากที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวอย่างชัดเจนว่า อังกฤษพร้อมถอนตัวออกจากตลาดร่วมยุโรป เพื่อให้รัฐบาลอังกฤษยังคงมีอำนาจในการควบคุมการเข้าเมืองของชาวต่างชาติ นอกจากนี้ นายกฯอังกฤษยังระบุด้วยว่า เธอเตรียมจะเปิดเผยยุทธศาสตร์ในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

 

ปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2164 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2266 ดอลลาร์ ในขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0570 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0561 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7364 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7296 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 116.13 เยน จากระดับ 117.05 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0154 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0175 ฟรังก์สวิส

 

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,268.90 จุด ลดลง 8.08 จุด, -0.35%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 5,531.82 จุด เพิ่มขึ้น 10.76 จุด, +0.19%

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 19,887.38 จุด ลดลง 76.42 จุด, -0.38%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,887.57 จุด ลดลง 22.27 จุด, -0.45%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,563.99 จุด ลดลง 35.02 จุด, -0.30%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,237.77 จุด เพิ่มขึ้น 27.72 จุด, +0.38%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 26,726.55 จุด ลดลง 32.68 จุด, -0.12%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,667.90 จุด ลดลง 7.59 จุด, -0.45%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 2,981.54 จุด เพิ่มขึ้น 18.91 จุด, +0.64%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,316.36 จุด ลดลง 30.66 จุด, -0.57%

 

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,558.69 จุด เพิ่มขึ้น 55.68 จุด, +0.25%

ดัชนี VN ตลาดหุ้นเวียดนามปิดที่ 682.57 จุด เพิ่มขึ้น 2.77 จุด, +0.41%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,276.34 จุด เพิ่มขึ้น 28.14 จุด, +0.39%

 

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 3,171.24 จุด เพิ่มขึ้น 16.92 จุด, +0.54%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,048.78 จุด ลดลง 0.34 จุด, -0.02%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,342.42 จุด ลดลง 29.80 จุด, -0.32%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,807.40 จุด เพิ่มขึ้น 51.80 จุด, +0.90%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,857.70 จุด เพิ่มขึ้น 48.70 จุด, +0.84%

 

*ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดทำการเนื่องในวัน Coming of Age Day

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq20/2581993

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ปอนด์ร่วงเทียบดอลล์ หลังนายกฯอังกฤษยืนกรานเดินหน้ากระบวนการ Brexit

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 มกราคม 2560 07:35:34 น.

ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) หลังจากที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวอย่างชัดเจนว่า อังกฤษพร้อมถอนตัวออกจากตลาดร่วมยุโรป เพื่อให้รัฐบาลอังกฤษยังคงมีอำนาจในการควบคุมการเข้าเมืองของชาวต่างชาติ นอกจากนี้ นายกฯอังกฤษยังระบุด้วยว่า เธอเตรียมจะเปิดเผยยุทธศาสตร์ในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้

 

 

 

ปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2164 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2266 ดอลลาร์ ในขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0570 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0561 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7364 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7296 ดอลลาร์

 

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 116.13 เยน จากระดับ 117.05 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0154 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0175 ฟรังก์สวิส

 

เงินปอนด์ได้รับแรงกดดันภายหลังจากนางเมย์กล่าวอย่างชัดเจนในการให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวสกายนิวส์ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เธอจะให้ความสำคัญเป็นอันดับแรกต่อการที่รัฐบาลอังกฤษยังคงมีอำนาจควบคุมการเข้าเมืองของชาวต่างชาติ มากกว่าการให้ความสำคัญต่อการที่อังกฤษสามารถเข้าสู่ตลาดร่วมยุโรป ทันทีที่อังกฤษถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (EU) ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความวิตกว่า นางเมย์จะผลักดันกระบวนการ Brexit ด้วยวิธีการที่ไม่ละมุนละม่อม (hard Brexit)

 

เมื่อเวลา 17.48 น.เมื่อวานนี้ตามเวลาไทย ปอนด์ดิ่งลง 1.01% สู่ระดับ 1.2156 ดอลลาร์ โดยหลุดระดับ 1.2200 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นแนวรับสำคัญของปอนด์ โดยแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนต.ค.ปีที่แล้ว

 

ที่ผ่านมา ภาคการเงินของอังกฤษได้พยายามรณรงค์ให้รัฐบาลยังคงรักษาสถานะของอังกฤษในการเข้าสู่ตลาดร่วมยุโรปต่อไป เนื่องจากวิตกว่า หากอังกฤษถูกตัดขาดจากตลาดร่วมดังกล่าว จะทำให้บรรดาธนาคารและผู้จัดการกองทุนพากันถอนตัวออกจากอังกฤษเพื่อย้ายฐานเข้าสู่ยุโรป

 

ทั้งนี้ ตลาดร่วมยุโรปเกิดจากข้อตกลงการค้าเสรีภายใน EU และถือว่ามีความสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะรถยนต์

 

นอกจากนี้ นางเมย์ยังย้ำจุดยืนว่าอังกฤษจะประกาศใช้มาตรา 50 ตามสนธิสัญญาลิสบอน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ประเทศสมาชิกจะถอนตัวออกจาก EU ในกรอบเวลา 2 ปี โดยอังกฤษจะเริ่มดำเนินการภายในเดือนมี.ค. ปีนี้

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนธ.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย คมปทิต สกุลหวง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2581888

 

เงินหยวนแข็งค่าแตะ 6.9234 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 มกราคม 2560 08:54:53 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนแข็งค่าขึ้น 0.28% แตะที่ 6.9234 หยวนต่อดอลลาร์สหรัฐในวันนี้

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่าในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

 

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย มลฑา ชัยธำรงค์กูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq21/2582090

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์อ่อน หนุนทองปิดพุ่ง 11.5 ดอลลาร์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 มกราคม 2560 07:31:04 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 11.5 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ระดับ 1,184.90 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 16.4 เซนต์ หรือ 0.99% ปิดที่ 16.683 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 12 ดอลลาร์ หรือ 1.24% ปิดที่ 982.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 12 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 982.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโรและเงินเยน ส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองเงินสกุลอื่น

 

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.24% แตะที่ 101.99 เมื่อคืนนี้

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้ ภายหลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงเกือบ 4% ซึ่งได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย

 

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนพ.ย., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ราคานำเข้าและส่งออกเดือนธ.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนพ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq31/2581887

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์คล้ายภูมิภาค เล็งแรงซื้อต่างชาติเข้าต่อเนื่องช่วยประคองตลาดฯ

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 มกราคม 2560 09:21:57 น.

นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์ คล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้เคลื่อนไหวในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ ๆ ทั้งนี้ วานนี้ตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงจากแรงขายของกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่ได้รับคำสั่งขายจากลูกค้าที่ครบกำหนดไถ่ถอนหน่วยลงทุน โดยเริ่มเห็นแรงขายมากขึ้นตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.แล้ว และสถาบันขายมากขึ้นในวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมา ดังนั้นวันนี้ก็คาดว่าน่าจะเริ่มชะลอคำสั่งขายบ้างแล้ว

 

อีกทั้งนักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อสุทธิอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็น่าจะยังเป็นบวกอยู่และช่วยประคองตลาดฯได้ นอกจากนี้ช่วงนี้ไม่ค่อยมีปัจจัยอะไร อาจมีก็แค่ตัวเลขดุลการค้าของญี่ปุ่นที่ต้องติดตามดูกัน ส่วนเงินดอลลาร์สหรัฐฯก็ต้องติดตามว่าจะถูกซื้อกลับเมื่อไร เพราะตอนนี้ยัง take อยู่ทำให้ค่าเงินสกุลอื่นแข็งค่าได้อยู่

 

พร้อมให้กรอบการแกว่งไว้ที่ 1,555-1,570 จุด

 

 

--อินโฟเควสท์ โดย พรเพ็ญ ดวงเฉลิมวงศ์/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2582107

 

น้ำท่วมเสียหาย1.5หมื่นล้านกกร.มั่นใจฟื้นตัวได้ใน1เดือน

 

 

ข่าวการเมือง หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อังคารที่ 10 มกราคม 2560 00:00:35 น.

นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) เปิดเผยผลประชุม กกร.นัดแรกของปี 2560 ว่า กกร.ได้คาดการณ์การส่งออกของไทยปี 2560 จะขยายตัวเพิ่มขึ้นโดยอยู่ในกรอบ 1-3% จากกรอบเดิมที่เคยคาดไว้ที่ 0-2% เนื่องจากทิศทางการส่งออกของปี 2559 ทั้งปีคาดว่าจะไม่ติดลบ ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจปี 2560 จะมีแนวโน้มที่ดี รวมถึงราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นจะส่งผลบวกต่อราคาสินค้าเกษตรบางรายการ

 

 

 

ทั้งนี้ กกร.ได้ทำหนังสือไปยังนายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง เพื่อขอพิจารณาขยายเวลามาตรการส่งเสริมการลงทุนในประเทศโดยให้บริษัทห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลหักรายจ่ายในลักษณะของค่าเสื่อมราคาได้ 2 เท่าของรายจ่ายเพื่อการลงทุนหรือต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้น ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับกิจกรรมโดยเป็นการลงทุนในทรัพย์สิน ซึ่งสิ้นสุดเมื่อวันที่ 31 ธ.ค.2559 โดยขอให้ยืดเวลาออกไปอีก 6 เดือนหรือสิ้นสุด มิ.ย.2560

 

สำหรับเศรษฐกิจปี 2560 ยังคงเผชิญความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกโลก ดังนั้นรัฐบาลมีแนวทางปฏิรูปเศรษฐกิจในประเทศให้มีความเข้มแข็งเพื่อให้สามารถรับมือกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในอนาคตได้ ภายใต้วงเงิน 1 แสนล้านบาท เพื่อนำไปจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติมให้กับ 18 กลุ่ม จังหวัดช่วง ก.พ.-ก.ย.2560 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เอกชนมีส่วนร่วมในการจัดทำงบประมาณรูปแบบประชารัฐ ซึ่งคาดว่าจะเข้าครม.ในวันที่ 16 ม.ค.2560 และเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) วันที่ 9 ก.พ.และสามารถเบิกจ่ายได้ในเดือนเม.ย.นี้ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้ประมาณ 0.3-0.5%

 

นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ที่เกิดขึ้นในขณะนี้นั้น ส่งผลกระทบเฉพาะเศรษฐกิจท้องถิ่นในวงจำกัดเพียงระยะสั้น คิดเป็นมูลค่าความเสียหายประมาณ 1-1.5 หมื่นล้านบาทเชื่อว่าสถานการณ์จะคลี่คลายภายใน 1 เดือน ไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมหภาค ทำให้กำลังซื้อฟื้นตัวกลับมา รวมถึงมีการซ่อมสร้างถนน สะพานและระบบสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายใหม่ซึ่งมองว่าจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการลงทุนตามมามากขึ้น

 

"ความเสียหายในพื้นที่ น้ำท่วมส่วนใหญ่เป็นบ้านเรือนที่อยู่อาศัย และถนน สะพาน ระบบสาธารณูปโภค ขณะที่ภาคธุรกิจหรือโรงงานอุตสหากรรมไม่ได้รับผลประทบมากนักอีกทั้งเมื่อเทียบกับเหตุการณ์ น้ำท่วมครั้งใหญ่ เมื่อปี 2554 แล้วถือว่าครั้งนี้อยู่ในวงจำกัดมากเพราะฉะนั้นโดยรวมจึงไม่น่าส่งผลกระทบให้เศรษฐกิจซบเซาหรือซึมยาวอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์" นายเจนกล่าว

 

ขณะที่ผลกระทบต่อภาคการท่องเที่ยวนั้นก็ไม่น่าได้รับผลกระทบเพราะพื้นที่น้ำท่วมส่วนใหญ่ไม่ใช่แหล่งท่องเที่ยวหลัก อาจส่งผกระทบต่อนักท่องเที่ยวในประเทศบางส่วนเท่านั้น ขณะที่คาดภาพรวมจำนวนนักท่องเที่ยวปีนี้อาจจะลดลงเล็กน้อยจากนโยบายการปราบปราม "ทัวร์ศูนย์เหรียญ" แต่ในแง่ของรายได้จากการท่องเที่ยวจะเพิ่มขึ้น 10% เป็น 2.77 ล้านบาท แบ่งเป็นรายได้จากต่างประเทศ 1.8 ล้านล้านบาท และรายได้ในประเทศ 9.5 แสนล้านบาท

 

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า ประเด็นในแง่ของผลกระทบเมื่อคิดเป็นเม็ดเงินขณะนี้คงไม่เกิน 1 หมื่นล้านบาท ซึ่งหากเทียบกับจีดีพีถือว่าน้อยมาก โดยในเร็วๆ นี้ สมาคมธนาคารจะได้หารือกันเพื่อหามาตรการช่วยเหลือด้านการเงินกับธุรกิจที่ถูกท่วมน้ำท่วม

 

บรรยายใต้ภาพ

อิสระ ว่องกุศลกิจ

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/nnd/2582076

 

ศาลอุทธรณ์พิพากษาลดโทษจำคุก 4 แกนนำกลุ่ม นปช.บุกบ้านสี่เสาฯ

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- จันทร์ที่ 9 มกราคม 2560 17:39:30 น.

ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุก นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์, นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, นายวิภูแถลง พัฒนภูมิไท, นพ.เหวง โตจิราการ คนละ 2 ปี 8 เดือน ปรับลดโทษลงจากที่ศาลชั้นต้นเคยพิพากษาให้จำคุกคนละ 4 ปี 4 เดือน เพื่อให้เหมาะกับพฤติการณ์ ส่วนนายนพรุจ หรือนพรุฒ วรชิตวุฒิกุล พิพากษายืนตามชั้นต้น

 

 

 

วันนี้ ศาลอุทธรณ์นัดฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งหมดในความผิดฐานมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำการให้เกิดความวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง กรณีนำกลุ่มผู้ชุมนุมปิดล้อมบ้านสี่เสาเทเวศร์เมื่อปี 50

 

ก่อนหน้านี้ ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.58 ว่า นายนพรุจ จำเลยที่ 1 มีความผิดฐานทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ฯ ให้จำคุก 4 ปี ส่วนนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 ให้จำคุกคนละ 6 ปี 6 เดือน แต่คำให้การเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาอยู่บ้างเห็นควรลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 คงจำคุกนายนพรุจ เป็นเวลา 2 ปี 8 เดือน ส่วนนายวีระกานต์, นายณัฐวุฒิ, นายวิภูแถลง และ นพ.เหวง จำเลยที่ 4-7 เหลือจำคุกคนละ 4 ปี 4 เดือน โดยให้ยกฟ้องนายวีระศักดิ์ เหมะธุลิน จำเลยที่ 2 และ นายวันชัย นาพุทธา จำเลยที่ 3 รวมทั้งให้ริบของกลางทั้งหมด

 

ล่าสุดทนายความกำลังดำเนินการยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เพื่อขอประกันตัวจำเลยเพื่อต่อสู้ในชั้นศาลฎีกาต่อไป

 

--อินโฟเควสท์ โดย ตรฦ/ธนวัฏ/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2581823

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พระบรมราโชวาทพระราชทานเนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๑๔

 

1393084399.jpg

 

 

===

 

ธนาคารมิตรภาพ - หนังสั้น "คำพ่อสอน"

 

 

HSHsocial

 

 

 

NationTV22

 

 

 

NOW26

 

 

 

 

 

 

NOW26

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15078791_1768773563384809_186211735267349180_n.jpg?oh=4ba739d42637aeb77818a72f2fbb3c6a&oe=5915189C

 

Ylg Bullion

 

กรมประชาสัมพันธ์

 

 

NationTV22

 

 

NationTV22

 

NationTV22

 

NationTV22

 

 

 

Nati

NationTV22

 

NationTV22

 

NationTV22

 

 

กรมประชาสัมพันธ์

 

NationTV22

 

คสช.มีมติใช้ ม.44 แก้ไข รธน.ฉบับชั่วคราวหมวดพระมหากษัตริย์ตามพระราชกระแสรับสั่ง

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 มกราคม 2560 16:41:55 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมร่วมคณะรัฐมนตรี (ครม.)และ คสช.วันนี้มีมติให้ใช้มาตรา 44 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว หมวดพระมหากษัตริย์ที่จำเป็นต้องแก้ไขให้เป็นไปตามพระราชอำนาจ ซึ่งเป็นไปตามที่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชกระแสรับสั่ง โดยไม่ใช่ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับสิทธิเสรีภาพของประชาชน คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน

 

 

 

"สำนักราชเลขาธิการ ได้ทำเรื่องมาที่รัฐบาลว่ามีประเด็นที่ต้องหารือกับรัฐบาลในเรื่องประเด็นรัฐธรรมนูญในหมวดพระมหากษัตริย์ ซึ่งองคมนตรีได้นำทูลเกล้าฯ ถวายไปแล้วว่ามีพระราชกระแสฯ ลงมาว่า 3-4 รายการที่จำเป็นต้องแก้ไขให้เป็นไปตามพระราชอำนาจของพระองค์ท่าน ซึ่งเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องของสิทธิเสรีภาพของประชาชนเลย

 

ทั้งนี้การจะทำได้ก็ต้องแก้รัฐธรรมนูญชั่วคราว ซึ่งใช้เวลาไม่นาน ไม่เกิน 1เดือน รัฐธรรมชั่วคราวจะแก้ได้ก่อน แก้ในสาระตรงนี้ เมื่อนำลงมา ก็แก้ไขฉบับใหม่ จะต้องแก้ไขและดำเนินการให้เร็วที่สุด เพราะฉะนั้นก็อยู่ในกรอบเวลาที่จะครบวันที่ 6 กุมภาพันธ์ เมื่อส่งลงมา แก้ไขให้รวดเร็วขึ้น ก็น่าจะเสร็จได้ไม่เกิน 2-3 เดือนข้างหน้าและจะนำขึ้นทูลเกล้าฯอีกครั้ง และเป็นเรื่องพระราชอำนาจของพระองค์ท่าน"นายกรัฐมนตรี กล่าว

 

--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/นิศารัตน์/ศศิธร

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2582508

 

นายกฯ เผยให้เคลื่อนไหวทางการเมืองได้ในช่วงปลายปี หลังพิธีพระบรมศพและพิธีราชาภิเษก

 

 

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 มกราคม 2560 16:46:48 น.

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า ช่วงปลายปีนี้หลังจากเสร็จสิ้นพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และพระราชพิธีบรมราชาภิเษกสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผ่านพ้นไปแล้ว รัฐบาลจะเปิดให้โอกาสให้ฝ่ายการเมืองได้ทำกิจกรรมทางการเมืองได้เพื่อเตรียมพร้อมเดินหน้าสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่

 

 

 

"ปลายปีนี้หลังพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ก็จะให้เดินการเมืองได้ จะไปเริ่มพูดคุย คัดคน เตรียมเลือกตั้งก็ว่าไป" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

 

นายกรัฐมนตรี กล่าวย้ำว่า รัฐบาล และ คสช.ไม่มีเจตนาให้โรดแมพต้องขยายออกไป ซึ่งการดำเนินการมีกรอบเวลากำหนดชัดเจนตามกฎหมาย และทุกอย่างจะเดินหน้าเมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับสมบูรณ์ ซึ่งในช่วงต้นปี 61 ก็จะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง แต่ทุกอย่างก็ต้องขึ้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงขั้นตอนต่าง ๆ

 

"ผมไม่เคยไปเลื่อนขั้นตอน ขั้นตอนมีเหมือนเดิมทุกประการ เวลาทุกอย่างมีหมดตามขั้นตอน 240 วัน 150 วันและ 90 วัน สุดแต่ว่าขั้นตอนไหนจะอยู่ตรงไหน ทำได้แค่ไหนก็อยู่ตรงนั้น ทุกอย่างจะไปสตาร์ทเมื่อมีรัฐธรรมนูญถาวรขึ้นมา เมื่อลงมาก็นับไป คุณจะไปเลือกเมื่อไหร่ก็เลือกไปตามนั้น แต่ผมถามว่า เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นมาแทรกในขั้นตอนที่ต้องเลือกตั้ง การหาเสียง การประชุมพรรค มีอะไรเกิดขึ้นมาในช่วงนั้น ก็คือ"พระราชพิธีพระบรมศพฯ พอทุกอย่างเรียบร้อยก็เดินต่อเท่านั้นเอง จะเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ผมไม่ได้ไปดึงยืด มีใครรู้มาก่อนหรือไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถ้าเกิดไปสู่การเลือกตั้งการหาเสียง จะตีกันอีกหรือไม่ ทะเลาะกันอีกหรือไม่ แล้วจะให้ผมตอบนี่โน้น ผมก็ยืนยันของผม"พล.อ.ประยุทธ กล่าว

 

--อินโฟเควสท์ โดย ฐานิสร์ ทองนอก/รัชดา/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq02/2582511

 

สรุปภาวะตลาดทองคำตลาดโลก by GT Wealth Management 10 ม.ค. 60 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 10 มกราคม 2560 12:50:51 น.

กรุงเทพฯ--10 ม.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำตลาดโลกปรับขึ้นมายืนเหนือระดับ US$1,180 ส่งสัญญาณปรับตัวขึ้นต่อ แต่ภาพทางเทคนิคค่อนข้างอ่อนแรง ซึ่งไม่สนับสนุนการทะยานขึ้นอย่างฉับพลันของราคา อย่างไรก็ตาม แรงบวกจากดัชนีภาวะตลาดแรงงานในสหรัฐฯที่ชะลอตัวลง และความเสี่ยงที่สูงขึ้นจากการที่อังกฤษจะออกจากสหภาพยุโรปในลักษณะ Hard Brexit ได้หนุนให้ตลาดทองคำเริ่มมีแรงซื้ออีกครั้ง โดยมีการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการไม่ผ่านแนวต้านบริเวณ 20,000 จุดของดัชนีดาวน์โจนส์ เป็นปัจจัยสนับสนุนให้เงินไหลเข้ามาเก็งกำไรราคาทองคำ แต่ควรจับตาการขายของกองทุน SPDR ที่ยังไม่ชะลอลง จึงอาจต้องระวังแรงขายในตลาดรวมเมื่อราคาปรับตัวขึ้นไปที่ระดับ US$1,200

 

 

 

ทั้งนี้ ราคาทองคำตลาดโลกช่วงเช้าเคลื่อนไหวระหว่าง US$1,179 – 1,187 ส่วนกองทุนทองคำ SPDR มียอดขายสุทธิ -8.59 ตัน ลดยอดการถือครองทองคำลงมาอยู่ที่ระดับ 805 ตัน

 

แนวต้าน Spot Gold : US$1,198 / US$1,207

แนวรับ Spot Gold : US$1,173 / US$1,165

แนะนำ : พอร์ตเล่นสั้นเน้น long เมื่ออ่อนตัว, พอร์ตเล่นรอบถือ long ต่อไป

GT Wealth Management

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2582299

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดเช้าบวก 4.37 จุด รับแรงหนุน Fund Flow ไหลเข้า-เก็งกำไรงบฯ Q4/59 กลุ่มแบงก์

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 10 มกราคม 2560 12:49:11 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,568.45 จุด เพิ่มขึ้น 4.37 จุด (+0.28%) มูลค่าการซื้อขาย 27,882.56 ล้านบาท

 

การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยแตะจุดสูงสุดของช่วงเช้าที่ 1,572.12 จุด และแตะจุดต่ำสุดของช่วงเช้าที่ระดับ 1,563.13 จุด

 

 

 

นายชัยยศ จิวางกูร ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวขึ้น เป็นผลมาจาก Fund Flow ไหลเข้ามาต่อเนื่อง ขณะที่ยังมีแรงเก็งกำไรในกลุ่มธนาคาร จากที่จะเริ่มทยอยประกาศผลการดำเนินงานในช่วงสัปดาห์นี้ ถึงสัปดาห์หน้า

 

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การแถลงอำลาตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ของนายบารัค โอบามา และการแถลงข่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ในวันพุธนี้ (11 ม.ค.) ก่อนการเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 ม.ค.

 

ส่วนตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบสลับกัน โดยมีปัจจัยในเรื่องของราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง ส่งผลกดดันในบางประเทศ

 

แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่าย นายชัยยศ กล่าวว่า ตลาดฯน่าจะยังยืนอยู่ในแดนบวกได้เล็กน้อย พร้อมให้แนวต้าน 1,575 จุด และแนวรับ 1,560 จุด

 

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

KTB มูลค่าการซื้อขาย 1,329.52 ล้านบาท ปิดที่ 18.80 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท

 

CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,316.02 ล้านบาท ปิดที่ 62.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง

 

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,198.88 ล้านบาท ปิดที่ 189.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท

 

BANPU มูลค่าการซื้อขาย 1,194.20 ล้านบาท ปิดที่ 19.90 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท

 

IRPC มูลค่าการซื้อขาย 1,151.66 ล้านบาท ปิดที่ 5.10 บาท ลดลง 0.15 บาท

 

--อินโฟเควสท์ โดย พชรธร ภูมิคำ/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2582319

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

สรุปราคาทองคำแท่งสมาคมวันนี้ 10 ม.ค. 60

http://bit.ly/2iaNGda

 

 

 

 

 

 

 

Ylg Bullion

 

 

NOW26

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15032707_1768773583384807_2664628907197572125_n.jpg?oh=09e1b90ee3e642b510ea67c275bec9f2&oe=58DFC8FB

 

 

 

 

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

 

 

กรมประชาสัมพันธ์

 

 

YLGResearch

 

 

HSHsocial

 

ราคาทองคำวันนี้ 11 ม.ค. 60

ราคาทองคำวันนี้ 11 ม.ค. 60

AUSIRIS.CO.TH

 

ข่าวเศรษฐกิจทีส่งผลต่อราคาทองคำและหุ้น 11/ม..ค./2560

ข่าวเศรษฐกิจทีส่งผลต่อราคาทองคำและหุ้น 11/ม..ค./2560

AUSIRIS.CO.TH

 

 

 

 

 

 

NOW26

 

 

ทีนิวส์ออนไลน์

 

 

 

 

 

 

 

NationTV22

 

สํานักข่าวไทย TNAMCOT

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ราคาทองคำและ Gold Futures โดยคุณณัฐพงศ์ หิรัณยศิริ ประจำพุธที่ 11 มกราคม 2560 (ภาคเช้า)

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 11 มกราคม 2560 09:53:51 น.

กรุงเทพฯ--11 ม.ค.--MTS Gold Group

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยสามารถทรงตัวเหนือ 1,180 เหรียญได้ ขณะที่ภาพรวมของตลาดเริ่มไม่มีข่าวใดๆออกมา สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ อันได้แก่ JOTS Job Openings ออกมาแย่กว่าคาดแต่ดีขึ้นจากเดิม ขณะที่ในค่ำคืนนี้จะมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ อันได้แก่ Crude Oil Inventories คาดว่าจะออกมาเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี ภาพรวมค่าเงินดอลลาร์ปรับอ่อนค่าลงมาเล็กน้อย โดยเช้านี้ทรงตัวแถวระดับ 102.01 จุด ด้านค่าเงินบาทก็ปรับแข็งค่าต่อเนื่องมาอยู่ที่ 35.60 บาท/ดอลลาร์ สำหรับวันนี้ ตลาดจะเฝ้าดูการแถลงข่าวของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ก่อนเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมนี้ โดยซึ่งตลาดคาดน่าจะเห็นความชัดเจนของนโยบายการเงินของนายทรัมป์มากขึ้น ซึ่งนายทรัมป์จะมีการแถลงข่าวในช่วงเวลาประมาณประมาณ 23.00น. บ้านเรา

 

 

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องทำให้ในระยะสั้นกลับมาเป็นทิศทางขาขึ้น รวมทั้งในระยะกลางเริ่มปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน จากการที่ราคาสามารถทดสอบ 1,185 เหรียญได้ โดยราคาทองคำจะมีแนวต้านถัดไปที่ระดับ 1,200 เหรียญ ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายปานกลางที่สนับสนุนการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำโดยตลอด และคาดราคาทองคำจะเคลื่อนตัวในทิศทางขาขึ้นอย่างช้าๆ โดยมีแนวรับ 1,180 เหรียญ และแนวต้านระยะสั้นวันนี้จะอยู่ที่ระดับ 1,195 เหรียญ สำหรับราคาทองคำไทยจะมีแนวรับ 19,850 บาท/บาททองคำ และแนวต้าน 20,150 บาท/บาททองคำ โดยทองคำไทยน่าจะเคลื่อนไหวในทิศทางขาขึ้นได้ช้ากว่าจากการแข็งค่าของเงินบาท

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

เก็งกำไรในกรอบขาขึ้น

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

เปิดสถานะบริเวณแนวรับ และปิดทำกำไรเมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นบริเวณแนวต้าน

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ปิดสถานะเมื่อราคาย่อตัว เพื่อลดความเสี่ยงจากภาพขาขึ้นระยะสั้น

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

ปรับสภาพพอร์ตการลงทุนเพื่อรองรับสถานะการปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องของราคาทองคำ

Gold Futures G17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,040 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,240 บาท

Gold Futures J17 จะมีแนวรับที่ระดับ 20,110 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20,310 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/prg/2582830

 

(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับขึ้นลุ้นทดสอบ 1,575 จุด จาก Fund Flow หนุน,เก็งกำไรงบฯ Q4/59 กลุ่มแบงก์

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 11 มกราคม 2560 09:45:56 น.

นักวิเคราะห์ฯคาดตลาดหุ้นไทยเช้านี้ปรับขึ้นทดสอบระดับ 1,575 จุด และน่าจะทะลุผ่านไปได้ จากแรงหนุนของเงินทุนไหลเข้า อีกทั้งยังมีแรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 4/59 และงวดปี 59 ของกลุ่มแบงก์เข้ามาต่อเนื่องจากวานนี้ แม้จะมีปัจจัยกดตลาดจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ก็ตาม ขณะที่ตลาดยังจับตาการแถลงนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ม.ค. พร้อมให้แนวต้านที่ระดับ 1,575 และ 1,580 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ระดับ 1,564 จุด

 

 

 

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะปรับขึ้นต่อเนื่อง ตามแรงซื้อของ Fund Flow ที่เข้ามาต่อเนื่อง และภาพรวมตลาดหุ้นภูมิภาคเช้านี้ก็สดใส โดยดัชนีมีโอกาสทดสอบระดับ 1,575 จุดและน่าจะสามารถผ่านไปได้ แม้วันนี้อาจมีปัจจัยกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้ อาจจะส่งผลให้มีแรงขายทำกำไรหุ้นกลุ่มพลังงานออกมาบ้าง

 

แต่เชื่อว่าตลาดจะมีแรงเก็งกำไรผลประกอบการไตรมาส 4/59 และงวดปี 59 ของกลุ่มแบงก์ ที่บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) จะประกาศผลประกอบการออกมาในวันนี้เป็นแห่งแรก โดยภาพรวมของกลุ่มแบงก์แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 4/59 จะทรงตัวเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน และจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ในอนาคตจะดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ รวมถึงแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่จะสูงขึ้นด้วย

 

นอกจากนี้ตลาดน่าจะยังคงมีแรงเก็งกำไรในหุ้นที่เกี่ยวข้องกับวัสดุก่อสร้าง ที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากการซ่อมแซมสาธารณูปโภคที่ได้รับความเสียหายจากสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้

 

อย่างไรก็ตามตลาดยังคงจับตาการแถลงนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ ที่จะสาบานตนเข้ารับตำแหน่งและแถลงนโยบายในวันที่ 20 ม.ค.นี้

 

พร้อมให้แนวต้านที่ระดับ 1,575 จุด และ 1,580 จุด ส่วนแนวรับอยู่ที่ 1,564 จุด

ประเด็นการพิจารณาการลงทุน

- ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (10 ม.ค.60) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,855.53 จุด ลดลง 31.85 จุด (-0.16%), ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,551.82 จุด เพิ่มขึ้น 20.00 จุด (+0.36%), ดัชนี S&P500 ปิดทรงตัวที่ 2,268.90 จุด

 

- ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 57.20 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ ลดลง 4.98 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 71.16 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 20.53 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 2.96 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 3.71 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ เพิ่มขึ้น 0.75 จุด

 

- ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (10 ม.ค.60) 1,572.10 จุด เพิ่มขึ้น 8.02 จุด (+0.51%)

- นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,030.53 ล้านบาท เมื่อวันที่ 10 ม.ค.60

- ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (10 ม.ค.60) ปิดที่ 50.82 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.14 ดอลลาร์ หรือ 2.2%

 

- ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 ม.ค.60) ที่ 6.76 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล

 

- เงินบาทเปิด 35.59 แข็งค่าต่อเนื่องจากวานนี้ ตลาดรอดูทิศทางนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯของ"ทรัมป์"

 

- สศค.เผยเอ็นพีแอล 6 แบงก์รัฐในช่วงไตรมาส 3/59 ปรับเพิ่มขึ้น 4.6 หมื่นล้านบาท หรือกว่า 22% มาอยู่ที่ระดับ 2.53 แสนล้านบาท ส่งผลยอดคงค้างคิดเป็น 6.4% ของสินเชื่อรวม พบกลุ่มเกษตรหนี้เสียเพิ่มขึ้นสูงที่สุด ไตรมาสเดียวขยับ 2.77 หมื่นล้านบาท มาอยู่ที่ 5.9 หมื่นล้านบาท

 

- ธปท.ชี้กำลังซื้อครัวเรือนหด ทำธุรกิจบัตรเครดิตแผ่ว เผยยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตโดยรวมเพิ่มขึ้นแค่ 2.55 พันล้านบาท พบการเพิ่มขึ้นของยอดใช้จ่ายในประเทศน้อยกว่าใช้จ่ายในต่างประเทศและใกล้เคียงเบิกเงินสดล่วงหน้า แต่ยอดขอสินเชื่อและจำนวนบัตรยังทะยานต่อ ด้านธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลและนาโนไฟแนนซ์สินเชื่อเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

 

- ก.ล.ต.ย้ำบริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุนรวม วิเคราะห์ประเมินเข้มตั๋ว B/E เหมาะสมกับลูกค้ามากน้อยเพียงใดแจงลูกค้าที่ลงทุนได้ ต้องไม่ใช่นักลงทุนรายย่อย หลังพบการบันทึกบัญชีผิดปกติแฝงเงื่อนงำ

 

- ครม.เห็นชอบแนวทางการดำเนินงานโครงการตามความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (CoST) โดยตั้งคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (CoST Committee) ระดับประเทศ มีหน้าที่ในการวางแนวทางตรวจสอบโครงการก่อสร้างภาครัฐ โครงสร้างพื้นฐาน และโครงการที่กระทบกับประชาชนในวงกว้างของทั้งหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ที่มีขนาดโครงการตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป

 

- คลังลุยถกสรรพากร ต่ออายุมาตรการกระตุ้นลงทุนหลังเอกชนเรียกร้อง แย้มมีแนวโน้มที่ดี รับมีตีกรองเงื่อนไขเพิ่มเติม แตะเบรกมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ แจงของเดิมเพิ่งหมดเมื่อเม.ย.59

 

- ครม.ไฟเขียวมาตรการภาษีช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ลดย่อนเงินภาษีได้ 1.5 เท่า ให้กับผู้บริจาค ทั้งบุคคลธรรมดา-นิติบุคคล ระหว่าง 1 ม.ค.- 31 มี.ค.60 พร้อมขยายระยะเวลา ยื่นแบบภาษีในพื้นที่ถึง 31 มี.ค. "กอบศักดิ์" คาดรัฐบาลใช้เวลา 1 สัปดาห์ประเมินความเสียหาย ก่อนออกมาตรการเพิ่ม ขณะคลังเตรียมหารือแบงก์เฉพาะกิจ ออกมาตรการช่วยเหลือเพิ่ม

 

*หุ้นเด่นวันนี้

- BIG (กสิกรไทย) แนะ"ซื้อ"ให้ราคาพื้นฐาน 6.40 บาท โดยคาดว่า BIG จะรายงานกำไรสุทธิไตรมาส 4/2559 ที่ 245 ล้านบาท โต 23% YoY และ 94.5% QoQ โดยมีแรงหนุนจากอุปสงค์ที่เลื่อนจากไตรมาส 3/2559 มาในไตรมาส 4/2559 จากความล่าช้าของการเปิดตัวสินค้าใหม่ ขณะเดียวกันคาดว่าบริษัทจะรายงานรายผลกำไรสุทธิปี 2559 ที่ 790 ล้านบาท เติบโต 71.9% โดยคาดรายได้ในไตรมาส 4/2559 ที่ 1.6 พันล้านบาท โต 10.5% YoY และ 46.2% QoQ

 

- BBL (ทรีนีตี้) ให้ราคาเป้าหมายที่ 186 บาท โดยคาดกำไร 4Q59 ที่ 8,350 ล้านบาท ดีขึ้น 4% QoQ และ 9% YoY โดยค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้นในช่วงปลายปีอาจเป็นปัจจัยกดดันกำไร แต่มีปัจจัยที่เข้ามาชดเชย คือ ค่าใช้จ่ายสำรองหนี้สูญที่คาดว่าจะลดลงจากไตรมาสก่อนที่ธนาคารได้ตั้งสำรองในระดับสูงไปแล้ว สำหรับปี 60 อาจเห็นสินเชื่อกระเตื้องขึ้นบ้างจากลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ และการก่อตัวของ NPL ใหม่จะไม่รุนแรงเท่ากับปีก่อน

 

- TISCO (ฟินันเซีย ไซรัส) ให้ราคาพื้นฐานที่ 72 บาท โดย TISCO จะนำร่องประกาศงบ 4Q59 เย็นนี้ ซึ่งคาดกำไรสุทธิ 4Q16 เพิ่มขึ้น 5.6% Q-Q และเพิ่มขึ้น 6.1% Y-Y และน่าจะทำให้กำไรทั้งปี 59 เพิ่มขึ้น 18.4% Y-Y หากกำไรออกมาดีไม่น่ามี sell on fact มากนักเพราะยังมี synergy จากการซื้อพอร์ตรายย่อยจาก StanChart และ dividend yield 5% ทีรออยู่ข้างหน้า และจะช่วยหนุน sentiment หุ้นในกลุ่มแบงก์ให้ดีขึ้นด้วย TISCO เป็น Top pick ในกลุ่มแบงก์

 

- KSL (ฟินันเซีย ไซรัส) แนะ"ซื้อ"จากเดิม"ซื้อเมื่ออ่อนตัว" และปรับราคาพื้นฐานขึ้นเป็น 8.30 บาทจากเดิม 4.80 บาท จากการเพิ่มกำไรปกติปี 59/60 ขึ้น 18% เป็นฟื้นอย่างโดดเด่น 167% Y-Y และโตต่อเนื่อง 13% Y-Y ในปีหน้าจากแนวโน้มราคาน้ำตาลที่ยังเป็นขาขึ้นในปีนี้ ทำให้บริษัทสามารถล็อคราคาขายของปีหน้าได้สูงขึ้น แลยังทำให้ธุรกิจต่อเนื่องทั้งโรงไฟฟ้าและเอธานอลดีตามด้วย และทำให้ธุรกิจน้ำตาลที่ลาวและกัมพูชาน่าจะพลิกเป็นกำไรเป็นครั้งแรก และได้ re-rate PE ขึ้นให้สอดคล้องกับกำไรที่โตกว่าเดิม

 

--อินโฟเควสท์ โดย วิลาวัลย์ พงษ์พิทักษ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq05/2582844

 

ภาวะตลาดเงินบาท: เปิด 35.59 แข็งค่าต่อเนื่องจากวานนี้ ตลาดรอดูทิศทางนโยบายเศรษฐกิจสหรัฐฯของทรัมป์

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 11 มกราคม 2560 09:18:56 น.

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 35.59 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่า

 

 

 

จากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 35.61 บาท/ดอลลาร์ หลังมีแรงเทขายดอลลาร์ออกมา

"เงินบาทแข็งค่าจากช่วงท้ายตลาดเย็นวานนี้เล็กน้อย หลังมีแรงเทขายดอลลาร์ทำกำไร ขณะที่ค่าเงินภูมิภาคเคลื่อนไหว

 

แบบผสม" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 35.55-35.65 บาท/ดอลลาร์

 

"วันนี้บาทน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยตลาดรอฟังนโยบายของทรัมป์" นักบริหารเงิน กล่าว

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 116.08 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 115.97/98 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0551 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 1.0597/0599 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.6060 บาท/

 

ดอลลาร์

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้กำกับในเดือน พ.ย. 2559 ว่า ทั้งระบบมี

 

จำนวนบัญชีสินเชื่อทั้งสิ้น 13.64 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน 8.5 แสนบัญชี หรือ 6.65% มียอดสินเชื่อคงค้างรวม

 

3.38 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.3 หมื่นล้านบาท หรือ 4% ในจำนวนนี้เป็นการปล่อยกู้ของผู้ประกอบธุรกิจที่มิใช่สถาบันการเงิน (นัน

 

แบงก์) เป็นหลัก

- ธปท.ชี้กำลังซื้อครัวเรือนหด ทำธุรกิจบัตรเครดิตแผ่ว เผยยอดใช้จ่ายบัตรเครดิตโดยรวมเพิ่มขึ้นแค่ 2.55 พันล้าน

 

บาท พบการเพิ่มขึ้นของยอดใช้จ่ายในประเทศน้อยกว่าใช้จ่ายในต่างประเทศและใกล้เคียงเบิกเงินสดล่วงหน้า แต่ยอดขอสินเชื่อและ

 

จำนวนบัตรยังทะยานต่อ ด้านธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลและนาโนไฟแนนซ์สินเชื่อเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

 

- ธนาคารธนชาต เปิดเผยว่า ทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในภาวะขาขึ้นอย่างชัดเจน โดยธนาคารคาดว่าปีนี้คณะกรรมการ

 

นโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% จึงจำเป็นต้องวางแผนบริหารจัดการต้นทุนการเงินอย่างรอบคอบ เพื่อ

 

รักษาความสามารถในการทำกำไร เพราะสินเชื่อส่วนใหญ่ของธนชาตเป็นสินเชื่อรถยนต์ที่มีดอกเบี้ยคงที่

 

- สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต. ได้วาง 4 ยุทธศาสตร์

 

ในการขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์ ก.ล.ต. 3 ปี (60-62) เพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในตลาดทุน, การเพิ่มคุณภาพและช่องทางของ

 

ผู้ระดมทุน, เพิ่มโอกาสแก่ธุรกิจรูปแบบใหม่ให้สอดคล้องกับพัฒนาการของเทคโนโลยีทางการเงิน (ฟินเทค) และพฤติกรรมผู้บริโภคยุค

 

ใหม่ และสนับสนุนให้ประชาชนส่งเสริมการออมหรือการลงทุนในช่องทางที่เหมาะสม รองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ เพราะปัจจุบัน

 

หลักประกันทางรายได้คนกลุ่มนี้ยังไม่เพียงพอ

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยสต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งประจำเดือนพ.ย.พุ่งขึ้น 1.0% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุด

 

นับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2014 และบ่งชี้ว่าการลงทุนในสินค้าคงคลังได้ช่วยหนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 4 ของปีที่แล้ว

 

- สกุลเงินดอลลารสหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆเกือบทั้งหมด ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (10

 

ม.ค.) ก่อนที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะเปิดการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเป็นครั้งแรกในวันพุธที่ 11 ม.ค. ตาม

 

เวลาสหรัฐ โดยยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0559 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0570 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์อ่อน

 

ค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 115.75 จากระดับ 116.13 เยน

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (10 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็น

 

สินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการ

 

- นายเดวิด โฟลเกิร์ต-แลนดอ หัวหน้านักวิเคราะห์ของดอยซ์แบงก์ ระบุในรายงานว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ

 

ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ จะช่วยหนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐเป็นอย่างมาก ซึ่งจะส่งผลบวกต่อ

 

เศรษฐกิจโลก

- ธนาคารโลกได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (Global Economic Prospects) ฉบับล่าสุด โดยคาด

 

การณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.7% ในปี 2560 และขยายตัว 2.9% ในปี 2561

การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2560 นั้น มีอัตราที่รวดเร็วกว่าปี 2559 ที่ขยายตัวเพียง 2.3% แต่ก็น้อยกว่าที่

 

ธนาคารโลกได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2560 จะขยายตัว 2.8%

- นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์,

 

ราคานำเข้าและส่งออกเดือนธ.ค., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค., ยอดค้าปลีกเดือนธ.ค., สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ

 

เดือนพ.ย. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน

--อินโฟเควสท์ โดย รัชดา คงขุนเทียน/วิลาวัลย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: wilawan@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq03/2582821

 

Xinhua world news summary: เวิลด์แบงก์คาดเศรษฐกิจโลกขยายตัว 2.7% ในปี 2560

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 11 มกราคม 2560 09:47:20 น.

ธนาคารโลกได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (Global Economic Prospects) ฉบับล่าสุด โดยคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจโลกจะขยายตัว 2.7% ในปี 2560 และขยายตัว 2.9% ในปี 2561

 

 

 

การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปี 2560 นั้น มีอัตราที่รวดเร็วกว่าปี 2559 ที่ขยายตัวเพียง 2.3% แต่ก็ต่ำกว่าที่ธนาคารโลกได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจโลกในปี 2560 จะขยายตัว 2.8%

 

-- ผู้เชี่ยวชาญประจำสถาบันแห่งอนาคตการท่องเที่ยวยุโรปเปิดเผยว่า ปัญหาความขัดแย้ง การก่อการร้าย ผู้อพยพ และลัทธิประชานิยมส่งผลกระทบอย่างรุ่นแรงต่อแผนการท่องเที่ยวในยุโรป แอฟริกาเหนือ และตะวันออกกลาง

 

-- เจ้าหน้าที่ในกรุงอังการา เมืองหลวงของตุรกี ประกาศห้ามชุมนุมในที่สาธารณะเป็นเวลา 1 เดือน มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หลังประชาชนต่อต้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อมอบอำนาจให้แก่ประธานาธิบดี

 

-- กองทัพอิรักเปิดเผยว่า กองกำลังรักษาความมั่นคงอิรักได้เคลื่อนกำลังพลเข้าไปยังพื้นที่ทางตะวันออกของเมืองโมซูลที่ถูกกลุ่มรัฐอิสลาม (IS) ยึดครอง ขณะที่การโจมตีอย่างดุเดือดเพื่อต่อต้านกลุ่มหัวรุนแรงยังดำเนินต่อไป สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สกาวรัฐ บัวสำลี/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com/s/iq29/2582846

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...