ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

อ.นัน

 

แนวโน้มราคาทองคำ30.04.13 “Event ใหญ่ Event แรก ลุ้น FOMC พรุ่งนี้“

 

$Fundamental &Event Analysis

 

@Event ใหญ่ Event แรก ลุ้นท่าทีเฟด ในการประชุม FOMC ในวันพรุ่งนี้

 

-สิ่งที่นักลงทุนส่วนใหญ่ จับตาก็คือ สัญญาณจากเฟด ถึงมาตรการอัดฉีดเงิน หรือQE จำนวน8.5หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนของเฟด ทางเฟดจะมีการส่งสัญญาณอย่างไร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ มีกระแสเสียงจากคณะกรรมการเฟดบางส่วนมที่ออกมา ส่งสัญญาณว่าทางเฟดควรจะต้องมีการลดเม็ดเงินอัดฉีดลงหรือ กำหนดจุดสิ้นสุดการดำเนินมาตรการQE นั่นเอง ส่วนในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยยังไงทางเฟดก็น่าจะยังคงไว้ที่0.25% เท่าเดิม

 

***ในประเด็นนี้ ผมมองว่ามีอยู่สองเงื่อนไขหลักที่ทางคณะกรรมการเฟด ส่วนใหญ่จะเห็นพร้องต้องกันให้มีการลดเม็ดเงินอัดฉีด หรือยกเลิกมาตาการ ก็คือ 1) ตัวเลขเงินเฟ้อเกินระดับ2% ซึ่งณ ปัจจุบันต้องบอกว่า ระดับ PCE inflation index ยังอยู่ในระดับที่ตำกว่า2% อยู่พอสมควร 2) คือตัวเลขอัตราผู้ว่างงานหรือ Unemployment Rate ลงมาใกล้ระดับ6.5% ซึ่งปัจุบันก็อยู่ที่7.6% ก็ถือว่ายังห่างไกลอยู่พอสมควร

 

262321_640885582604461_1660696298_n.jpg

 

***ดังนั้นถ้าหากให้ผมเดา ก็คาดว่าทางFOMC น่าจะยังไม่มีการส่งสัญญาณเรื่องลดเม็ดเงินอัดฉีดลงแต่อย่างไร เพราะอย่างน้อยก็น่าจะรอดูตัวเลขการจ้างงานในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ก่อนนั่นเอง แต่ถ้าหากมีการส่งสัญญาณในเชิงว่าจะมีการลดการอัดฉีด ก็ต้องบอกจะเป็นการ เซอร์ไพร์ซ ตลาดได้มากพอสมควรครับ

 

 

@ยอดหนี้คงคลังของสหรัฐ ลดลงครั้งแรกในรอบ6ปี นับตั้งแต่สหรัฐเกิดวิกฤติซับไพร์ม

 

-มีการรายงานยอดหนี้คงคัลงของสหรัฐเมื่อวานที่ผ่านมา ผลก็คือยอดหนี้มีการลดลงเป็นครั้งแรกในรอบ6ปี ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ ทางรัฐบาลเริ่มมีการเก็บภาษีเงินเดือนและภาษีของคนรวย นั่นเองส่งผลให้ยอดหนี้ คงคลังของสหรัฐจึงปรับตัวลดลง

 

***ประเด็นนี้นับว่าเป็นปัจจัยหนุนค่าเงินดอลลาร์ในระยะยาว Long term เพราะที่ผ่านมา สหรัฐถูกมองว่ามีปัญหาเรื่องก่อหนี้ จนจะเต็มเพดานหนี้ ตามกฎหมายของสหรัฐแล้วนั่นเอง ดังนั้นหากทิศทางการบริหารหนี้คงคลังเป็นไปได้ตามแผน ก็จะทำให้ สหรัฐปลดล็อคในเรื่องขยายเพดานหนี้คลังได้นั่นเอง ล่าสุดในเรื่องนี้ ที่ทางรัฐบาลของโอบามาจะเดินหน้าต่อเนื่องก็คือ การเก็บภาษีมรดกของคนอเมริกา เพื่อมาช่วยชดเชยการชาดดุลเงินคลังอีกด้วย

 

***โดยรวมแม้ว่า ผมจะมองว่างเฟดน่าจะยังไม่มีการลดเม็ดเงินอัดฉีดในมาตรการQE ในเร็ววันนี้ แต่จากการแนวโน้มทางด้านจัดการ เรื่องขาดดุลเงินคลัง น่าจะทำให้ดอลลาร์ยิ่งเป็นสินทรัพย์ที่กองทุนน่าจะหันมาหาในระยะlong term ครับ แต่Sentiment การลงทุนในระยะสั้น ยังคงต้องดูที่ตัวเลขการจ้างงานในวันศุกร์นี้เป็นหลักครับ ว่าจะทำให้ดอลลาร์และทองคำมีทิศทางเป็นไปอย่างไร โดยวันนี้มีตัวเลขของสหรัฐที่น่าติดตามช่วงสามทุ่มก็คือ Consumer Confidence ครับ

 

 

$Technical Analysis

 

@ราคาทองคำปรับตัวขึ้นมาได้ต่อเนื่อง ราวสองสัปดาห์ติด ล่าสุดขึ้นมาทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย21 วันแล้ว ระวังแรงเทขายสลับลงมาอีกครั้ง

 

-ราคาทองคำขึ้นมาทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย21 วัน และแนวต้าน Fibonacci number 38.2% แถวเขต 1480-1486 แต่ยังไม่ผ่าน ล่าสุดเคลื่อนไหวในลักษณะ Consolidate sideway ออกด้ายข้าง ในรูปแบบ สามเหลี่ยม ที่มี lower high และ upper low นั่นเอง การเคลื่อนไหวแบบนี้ เป็นการรอปัจจัยใหม่ที่จะมาช่วยให้ราคา break out ทางด้านด้านหนึ่งนั่นเอง

 

-หากให้ผมเดา ผมก็ยังมุมมองว่า ให้ระวังการตกปรับฐานอีกรอบ เพราะผมมองว่าการที่ราคาดีดขึ้นมาในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา น่าจะเป็นการซื้อกลับในลักษณะเก็งกำไรจากการที่ราคาในระยะสั้นตกแรงและเร็วเกินไปนั่นเอง แต่การที่ราคาเด้งขึ้นมาจากจุดต่ำสุดของรอบกว่า150จุดแล้ว ก็ควรระมัดระวังแรงขายที่อาจจะออกมาได้อีกครั้ง เพราะในแนวโน้มหลักของราคาทองหลังจากที่หลุดแนวรับสำคัญที่1530ลงมา ก็ยังคงเป็นแนวโน้มในทางลงอยู่นั่นเอง

 

$Strategy

ยังแนะนำหาจังหวะเปิด sell มากกว่า buy ครับ วันนี้ มีแนวต้านที่อาจจะเสี่ยงเปิด sell ได้ที่ 1478+/- แนวรับเป้าหมายด่านแรก 1462-1460 ถัดไป 1455-1453 โดยมีจุดstop loss หากราคาขึ้นเกิน 1490

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อ้าทองหลุดแล้วหร๋อกดขายเลยได้1464.95cut1470เป้า1450ก่อนละกัน :57

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

373084_108774412508965_90792495_q.jpg

 

 

 

 

 

 

 

 

ทองคำ กลับเป็นขึ้นแล้ว หรือยังลงต่อได้อีก

 

 

โดย
(
) เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2013 เวลา 23:37 น.

เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมได้แวะไปทำธุระแถวเยาวราช. และก็ได้สัมผัสปรากฏการณ์ "ตื่นทอง" แผงแขวนสร้อยทองงี้โล่งเลย. อดประหลาดใจไมได้ว่าทำไมต้องขนาดนี้. อะไรคือบรรทัดฐานที่ทำให้คนคิดว่าต่ำกว่า 20,000/บาท คือ ถูก. มันใช่เหรอ? และจุดนี้ที่ซื้อคือการซื้อเก็บยาว อีก 10 ปีค่อยว่ากัน หรือซื้อเก็งกำไรระยะสั้น หรือยังไง

 

บทวิเคราะห์ออกมาเพียบ ส่วนใหญ่จะในเชิง Technical ว่าแนวรับ-ต้านที่มีนัยยะสำคัญอยู่ตรงไหน ที่ Extreme หน่อยก็คือ การมองว่า ทองคำ ไม่ใช่สินทรัพย์ปลอดภัย หรือ Safe haven อีกต่อไป. จะเหลือ $800 อีกครั้ง ฯลฯ รับข้อมูลไปไม่พิจารณาให้ดีอ่วมแหงๆ

 

ผมว่าก่อนคิดว่ายังไงต่อไป เราต้องพิจารณาที่มากันก่อน. ราคาทองคำเลี้ยงข้างในกรอบ $300-500 อยู่ 20 ปี (ช่วงปี 1980-2001+/-) และหลังจากนั้นก็ดีดขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกเกือบทศวรรษที่ผ่านมาจนกระทั่งไป Peak @ $1,921 จะบอกว่าเพราะประธานาธิบดี Richard Nixon การยกเลิก Gold standard ใน US dollar (เรียกเหตุการณ์นี้ว่า Nixon shock) ก็ไม่เชิง เพราะประกาศยกเลิกไปตั้งแต่ปี 1971 (และก็ต้องศึกษาเพิ่มเติมเข้าไปอีกว่าทำไมต้องยกเลิก. นั่นเพราะสมัยก่อนธนบัตร US dollar มีเขียนว่า"Redeemable in gold หรือสามารถนำไปขึ้นเป็นทองคำได้" ที่ต้องทำก็เพื่อให้ธนบัตรนั้นมีมูลค่า ไม่งั้นมันก็คือกระดาษเปล่าๆ Link: http://goo.gl/qTXS) แต่กว่าจะได้เปลี่ยนเป็นเรื่องเป็นราว (คือเลิกผูกธนบัตรกับทองคำอย่างเป็นทางการ) ก็ปี 1976 ซึ่งทำให้ทองดีดขึ้นจากระดับที่ผูกไว้ที่ $35 ต่อ Ounce เป็นหลักร้อย

 

แต่ก็ไม่ยังไม่สามารถอธิบายได้ว่าทำไมราคาทองถึงนิ่งอยู่เป็น 20 ปีหลังจากนั้น และจะบอกว่าจากการวินาศกรรมอาคาร World trade center (รึเปล่า?) ในปี 2001 *คนเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยในชีวิต* ซึ่งเป็นเหตุให้ประเทศสหรัฐฯ ตัดสินใจบุกประเทศอัฟกานิสถาน และอีรัก และ FED จำเป็นปั๊มเงินออกมาจำนวนมากเพื่อ Finance สงครามอ่าวเปอเซีย ผลคือเงินเฟ้อสูงขึ้น นักลงทุนเริ่มเล็งเห็นว่าเงิน US dollar มีแต่จะด้อยค่า *คนเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยในทรัพย์สิน* เลยแห่ไปซื้อทอง. ก็ไม่ถูกเสียทีเดียว เพราะในปี 1991 ประเทศสหรัฐก็ประกาศสงครามกับอีรัก โทษฐานที่ไปบุกคูเวต ราคาทองก็ยังนิ่งๆ อยู่ที่ระดับ $350+/- อีกเป็น 10+ ปี มันน่าคิดนะ.

 

สังเกตุดีๆ มักเกิดเหตุการณ์หรือภาวะบางอย่างที่ไปสร้าง "จุดเปลี่ยน" หรือ Trigger ให้ทองคำจากที่ออกข้างมา 20 ปีเริ่มเป็น Uptrend อะไรเป็นเหตุที่แท้จริง ไม่มีคำตอบที่ชัดเจน มีแต่สมมุติฐานทั้งนั้น พอที่จะมีทฤษฏีอธิบายเหมือนกัน เขาเรียกว่า Black swan effect เขียนไว้ในหนังสือชื่อเดียวกันโดย Nassim Nicholas Taleb - Link: http://goo.gl/MxYT7 สรุปไว้ว่า "บทมันจะมาก็มา บทมันจะไปก็ไป" เมื่อทองคำเริ่มสร้างฐานที่ระดับ $450 อีกครั้งในปี 2005 ก็ไล่ราคาขึ้นไปและไม่เคยลงมาที่ระดับนั้นอีกเลย.

 

ในบรรดาสมมุติฐานทั้งหลาย ผม "เชื่อ" วาการที่ราคาทองจะเปลี่ยนได้ระดับ $500 ไป $1,900 (เกือบ 4 เด้ง) ได้นั้น บทบาทในตลาดทุนโลกต้องเปลี่ยน. มันไม่ใช่แค่สกุลเงิน US dollar เท่านั้นที่ลดมูลค่าแต่มันกับสกุลเงินทั่วโลก ไม่ว่าถือสกุลอะไรก็เงินเฟ้อหมด วิธีการรับมือกับเงินเฟ้อในระยะยาวกว่าคือต้องโยกไปในสินทรัพย์อื่นๆ ที่ถ้าดีที่สุด ต้องเป็นสินทรัพย์ไม่สามารถสร้าง Supply เพิ่มขึ้นได้อีก เช่น ที่ดินแปลว่า เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ 2 เท่าตัวที่ดินมีเท่าเดิม ผลคือ ราคาที่ดินเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว (Ok ในความเป็นจริงมันไม่ได้เป๊ะขนาดนั้น มันมีเรื่องทำเล กรรมสิทธิ์ ฯลฯ แต่สำหรับการเปรียบเทียบนี้ก็น่าจะใช้ได้อยู่) ที่รองลงมาคือ ทองคำ เพราะหาได้ยาก และทุกวัฒนธรรมมองทองคำเป็นโลหะมีค่า (มีผลนะครับ) ถามว่าพวกเพชร หรือหินมีค่าได้มั้ยก็ได้เหมือนกัน แต่มันเริ่มเฉพาะเจาะจงละ. มีรายละเอียดพวกคุณภาพ สี ความใส ฯลฯ ทองคำเป็น สินค้าที่แพร่หลายมากกว่า และมาตรฐานทองคำก็ค่อนข้างนิ่ง อย่างบ้านเราก็ 96.5%

 

ก็ไม่แปลกว่าทำไมนักลงทุนถึงมองทองคำเป็น Safe haven ก็เพราะมีมูลค่าในทุกวัฒนธรรม ขึ้นเงินที่ไหนก็ได้ สภาพคล่องเหลือเฟือ แต่อย่างที่บอก นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ และ Gold standard ก็ถูกยกเลิกไปกว่า 20 ปี เพิ่งจะมาขึ้น ผม "เชื่อ" ว่ามันเกิด Triggering events คนเริ่มหวั่นใจในความปลอดภัยของชีวิต (และทรัพย์สิน) จากการก่อการร้าย ทองคำเริ่มซื้อขายได้สะดวก Gold ETF เปิดตัวในปี 2003 และสกุลเงินสุดท้ายที่ยกเลิก Gold standard คือ Swiss Franc ยกเลิกในปี 2000 เหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งอาจไม่สร้างกระแสมากพอให้ทองคำดีดตัวขึ้น แต่เมื่อเกิดขึ้นช่วงเวลาใกล้ๆ กัน แม้จะไม่ได้เกี่ยวกัน มันสร้าง Black swan effect ซึ่งไปเตะตานักลงทุน.

 

นี่แหละ ตัวเร่งปฏิกริยา

 

บทบาทของทองคำเปลี่ยนตั้งแต่ปี 1971 แล้ว แต่เพราะไม่มีตัวเร่ง ไม่มี "เหตุ" ราคาก็ไม่ไปไหน วิ่งในกรอบ. พอเกิดเหตุการณ์ (ที่อ้างมาข้างต้น) เท่านั้น มุมมองนักลงทุนเปลี่ยนเริ่มโยกเงินมาเป็นทองคำ ราคาทองคำขึ้น มีการเก็งกำไรเข้ามาเอี่ยว. พอเริ่มเก็งกำไร ราคาทำ New high หรือสร้าง All time high คนก็ยิ่งซื้อ ยิ่งซื้อก็ยิ่งเก็งกำไร ฯลฯ จนทำให้ราคาขึ้นในช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมา

 

แล้วการที่ราคาทองคำลงในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาละ จะกลับขึ้นขาขึ้นแล้วหรือยังลงต่อได้อีก? ก็ต้องทวนเงื่อนไขว่า บทบาทของทองคำยังเป็น Safe haven อยู่มั้ย. ทุกประเทศทั่วโลกหยุดปั๊มเงินอัดเข้าระบบเศรษฐกิจแล้วใช่มั้ย. มีการสร้าง Supply ทองคำเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ? คำตอบคือ "ไม่"ครับ. ตราบใดที่ยังมีการปั๊มเงินพิมพ์แบงค์ ทองคำก็จะยังเป็น Safe haven ไม่เปลี่ยนแปลงครับ

 

อ้าว! แล้วที่ราคาลงหนักสุดในรอบ 30 ปีละ? คำถามนี้ต้องตอบ 2 ส่วน; 1) เวลาเราคำนวณการลงในขาขึ้น เราต้องคำนวณเป็นสัดส่วน (%) นะครับ ไม่ควรคำนวณเป็นส่วนต่าง.

 

Sub-prime crash ทองขึ้นไปสูงสุด @ $1,033.90 และลงมาต่ำสุด @ $681.0 ลงมา $352.9 หรือ34.14% และ

ช่วง Sideway ใหญ่ยักษ์ที่ผ่านมา ทองขึ้นไปทำจุดสูงสุด @ $1,923.7 และลงมาต่ำสุด @ $1,321.5 ลงมา $602.2 หรือเพียง 31.30% มองแบบนี้ทองราคาลงช่วง Sub-prime "รุนแรง" กว่าตอนนี้เสียอีก.

 

และ 2) (ผมเชื่อว่า) เป็นเพียงการทำกำไรในขาขึ้นช่วงที่ผ่านมาเท่านั้น.

48041_489145304471872_611776343_n.png

ชัดเจนว่าราคาสร้างฐานที่ระดับ $1,550+/- และก็ยังเป็น "แนวรับสุดท้าย" ของขาขึ้นด้วย. ถ้าซื้อทองเพื่อเก็งกำไร นี่คือราคาสุดท้ายที่ต้องปิดสถานะซื้อ.. และที่บอกๆ กันว่าทองกลับตัวแล้ว ด้วยภาพนี้"ยากครับและไม่เร็ว" สังเกตุว่าราคาออกข้างอยู่กว่า 18 เดือนก่อนที่จะกลับตัวจาก Uptrend และหลุดลงมา อย่าเพิ่งประมาทว่า Reversal pattern จะลงแค่นี้ครับ. รอให้เห็น Bullish reversal ชัดๆ เสียก่อน ยังไงก็ซื้อทันครับ.

 

เพราะทองคำยังเป็น Safe haven อยู่ สำหรับการออม (ผมซื้อทองคำแท่งเพื่อออมเท่านั้น) ยังไม่มีความจำเป็นต้องขาย. แต่ควรใช้ Hedging techniques พวก Gold futures/option เพื่อลดแรงกดดันหากทองคำลงต่อ สำหรับการเก็งฯ ผมว่า Technical play บน TF day ก็น่าจะ Bias short ต่อได้ หลุด $1,400 ก็น่าจะเห็น $1,200

*** มุมมอง Technical ส่วนตัว: Reversal pattern มักไม่จบที่ 161.8% มักจะได้เห็น 261.8% ลองไป Backtest ดู

 

-Freedom trader-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอาบทความมาฝากจากidolของผม

ป๋าหยงfreedom traderครับ (เป็นหนังสือหุ้นเล่มแรกที่ซื้อมาอ่าน)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อ้าทองหลุดแล้วหร๋อกดขายเลยได้1464.95cut1470เป้า1450ก่อนละกัน :57

 

คุณบาสเปิด short นำไปแล้วนะคะ ตามวิเคราะห์กราฟที่ให้ไว้เป๊ะๆเลย

ส่วนพี่กบรอย่อแล้วเปิด long ตามคุณบาส 55 แล้วทีนี้ต้องวัดเป้า long อีกครั้งหรือเปล่าคะ?

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอาบทความมาฝากจากidolของผม

ป๋าหยงfreedom traderครับ (เป็นหนังสือหุ้นเล่มแรกที่ซื้อมาอ่าน)

 

อ่านบทความแล้วนะคะ มีอะไรดีๆคุณบาสก็นำมาเผื่อแผ่กันอีกเรื่อยๆนะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณวิเคราะห์ทอง อ นัน ด้วยมากๆค่ะน้องลินคนเก่ง^____^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีซะงั้น โดน sl เลยผม :32

 

cut ไปแล้ว ก็สบายใจแล้ว ดช เม่า

รอรอบใหม่ค่า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณบาสเปิด short นำไปแล้วนะคะ ตามวิเคราะห์กราฟที่ให้ไว้เป๊ะๆเลย

ส่วนพี่กบรอย่อแล้วเปิด long ตามคุณบาส 55 แล้วทีนี้ต้องวัดเป้า long อีกครั้งหรือเปล่าคะ?

ติดแนวรับแฝงซะแล้วแถวๆ1460ลุ้นให้หลุดจะได้ไปลุ้นต่อแถวๆ1450/1440 :17 หลุด1440ไปเจอโน่นเลย1420 :ghostแต่ถ้าไม่หลุดค่อยเสี่ยงซื้อคืนอิอิ :57

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อ้าไม่ทันระวังจากลำใยกลายเป็นคืนเจ้าเเทน :_02 โดนไป5.05

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...