ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

Gold : บทแปล website + วิเคราะห์ ทองคำ ประจำวัน ที่ 16-May-2013 (10:00 am)

-----------------------------------------------------

News schedule จาก ForexFactory.com

วันนี้มีกำหนดการออกข่าว สำคัญ ดังนี้ :

@7:30pm CAD Core CPI m/m

@8:55pm USD Prelim UoM Consumer Sentiment

@10:00pm USD Fed Chairman Bernanke Speaks

-----------------------------------------------------

Elliot Wave จาก RTFX.com

ภาพใหญ่ : ถึงจุดกลับตัวสำคัญ

ภาพย่อย : ราคาไม่ควรจะลงไปต่ำกว่า 1391.04 - 1377.73, หลังจากการลงชุดนี้ ราคาน่าจะเด้งกลับขึ้นสู่บริเวณ 1412.01 - 1419.68

คำเตือน : ใกล้สิ้นสุดเทรน : ใกล้สิ้นสุดการลงชุดนี้

------------------------------------------------------

ด่านสำคัญ จาก Forexyard.com

Pivot (ด่านหลัก): 1431.00

ทางเลือกหลัก : Short ถ้าราคายังอยู่ต่ำกว่า 1431.00 เป้าขาลง 1385 ตามด้วย 1365

ทางเลือกที่สอง : Long ถ้าราคาอยู่สูงกว่า 1431.00 เป้าขาขึ้น 1449 ตามด้วย 1462

ข้อสังเกต : ราคาถูกกดไว้จาก Down Trend Line

ด่านสำคัญ

1462

1449*** Previous high

1431** Intraday pivot point

1396.2 Last (ราคาล่าสุด)

1385** Fib retracement (50%)

1365** Fib retracement (61.8%)

1346** Fib projection

-------------------------------------------------------

3-Time-Frame Gold Analysis by ROJER cmFX

428501_454178004670230_646893295_n.png

D1 : [Price Action] เมื่อวานเกิดแท่งเทียนสีแดงค่อนข้างใหญ่มีใส้ล่างน้อย วิ่งลงล่างมาโดยหลุดออกมาจาก Low เดิม จึงดูแล้วน่าจะยังลงต่อได้อีก, [indicator] MACD histo และ signal ตัดลงทั้งคู่แล้ว แปลว่าน่าจะอยู่ในชุดการเดินทางลงชุดใหม่, Super STO ขาลงยังอยู่ แปลได้ว่าหลังจากพักพอแล้วน่าจะลงไปเห็น new Low,Time Frame นี้ ดูเหมือนกำลังเริ่มต้นวิ่งลงอีกครั้ง

 

H4 : [Price Action] กลุ่มแท่งเทียนวิ่งไต่ขอบ Bollinger ลงล่างมาเรื่อยๆ โดยยังไม่มีท่าทีจะกลับตัว คาดว่ายังลงไม่สุด, [indicator] MACD มุดลงมาต่ำกว่า 0 แล้ว มีโอกาสเป็นช่วงแรกของคลื่นขาลงชุดใหม่ , STO กองอยู่ด้านล่าง อยู่ใกล้เขต Super STO แล้ว, Time Frame นี้ดูเหมือนยังลงไม่สุด

 

H1 : [Price Action] เมื่อวานหลังจากหลุด Low เดิมลงล่างมา ราคาก็วิ่งลงมาอีกสองระลอกคลื่น โดยยังไม่มีท่าทีจะกลับตัวขึ้น, [indicator] เนื่องจากเมื่อวานลงอย่างหนัก MACD histo ยังไม่เกิด Div ขาขึ้น น่าจะยังลงต่อได้อีก, STO ทำ Super STO ขาลงไว้, Time Frame นี้ ค่อนข้างชัดว่ายังลงต่อได้อีก

 

Time Frame ที่ชัดที่สุด : Day ชัดที่สุด : การลงชุดนี้ดูเหมือนเพิ่งจะเริ่มต้นการลง คาดว่ายังลงต่อได้อีกเรื่อยๆ แม้ว่าจะมีการพักตัวระหว่างทางบ้าง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลงมานอนนิ่งเลยหาจุดรอเด้งระยะสั้น(เน้นระยะสั้น)

หลังจากราคาหลุดแนวรับระดับแนวรับ1420.00/1405.00/1400.00$ ลงมาเมื่อวานราคาได้ค่อยๆลดลงมาเรื่อยๆและทำราคาต่ำสุดระดับ1387.00$ สัญญาณทางเทคนิคของกราฟระยะสั้น1-4ชั่วโมงอยู่ในเขตOver sold ทั้งหมดในขณะที่สัญญาณRSIของกราฟDaily ก็อยู่ใกล้ๆเขตOversold ราคาอาจจะมีการปรับตัวขึ้นตามเทคนิคระยะเป็นช่วงๆ(สำหรับคนรอขาย(S)ส่วนคนที่จะรอชื้อ(L )เพื่อรอราคาเด้งตามเทคนิคต้องใจเย็นๆรอราคาทำNew lowรายวันทุก20$ราคาน่าจะมีเด้งระยะสั้นครับ

971620_294059500728803_1711193487_n.jpg

สำหรับแนวรับแนวต้านรายชั่วโมงมีดังต่อไปนี้ครับ

 

แนวต้าน1400.00$/1405.00$/1418.00$

 

แนวรับ 1385.00$/1380$/1370.00$/1350.00$

 

ราคาปัจจุบัน1393.45$(08.52น.)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวโน้มราคาทองคำ 16.05.13 "ราคาทองคำลงมาถึงเป้าหมาย ล่าสุดราย H1 เกิด Bullish Divergenc"

 

Fundamental & Event Analysis

 

*ราคาทองคำ ร่วงลงมาแรง หลังจากนักลงทุนเก็งประเด็นเฟด เตรียมประกาศแผนลดการอัดฉีดเงินเข้าระบบ

 

-เมื่อวา่นนี้ ราคาทองคำมีแรงเทขายลงมาอย่างแรง หลังจากที่หลุดกรอบแนวรับสำคัญแถวเขต 1420+/- ทั้งนี้ก็น่าจะเกิดจากการที่ คนในตลาดส่วนใหญ่ เริ่มมีความเชื่อว่า มีโอกาสูงที่ทางเฟด จะประกาศลดการอัดฉีดเม็ดเงินในมาตรการQEลงนันเอง

 

-โดยในวันนี้่ จะมีการแถลงการณ์ของ คณะกรรมการเฟด ถึงสองคน และตัวของเบอร์นันเก้ประธานเฟด ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ด้วย จึงน่าจะทำให้นักลงทุนมีความกังวลกับสถานการณ์ดังกล่าวและมีการเทขายออกมาเพื่อลดความเสี่ยงจากประเด็นดังกล่าว นั่ีนเอง

 

-อย่างไรก็ตาม ตามที่ผมได้ พูดไว้เสมอว่า นี่เป็นเพียงการเก็งว่าจะมีข่าวจริงออกมาจากทางเหดนะครับ ดังนั้น หากในวันนี้ ทางคณะกรรมการเฟดยังไม่ได้มีการส่งสัญญาณถึงประเด็นนี้ หรือพูดในเชิงที่ว่ายังจะคง มาตรการQE (ถึงแม้ว่าสุดท้ายยังไงก็ต้องลด) ก็อาจจะทำให้ราคาทองวันนี้ ดีดสลับกลับขึ้นไปได้ก่อนนั่นเอง

 

-แต่อย่างไรเสีย Highlight น่าจะไปอยู่ที่คำพูดของเบอร์นันเก้ ที่จะมีคิวแถลงการณ์ ในวันเสาร์ มากกว่า เพราะที่ผ่านมา ในการแถลงการณ์ของเบอร์นันเก้ เค้าเองได้ปฏิเสธกระแสข่าว และยังส่งสัญญาณในเชิงที่ว่า ยังคงมาตรการเดิมไปก่อน จนกว่าจะเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของศก.สหรัฐอย่างมีเสถียรภาพก่อน

 

-แต่ผมก็แนะนำว่า ไม่ควรมีposition ติดมือกลับไปถึงวันเสาร์นะครับ ถ้าเคลียร์ตั๋วได้ แนะนำว่าเคลียร์ก่อน ดีกว่า โดยเฉพาะท่านที่ เล่นทางbuy เพราะหากอยู่ๆ ทางเบอร์นันเก้ ดันส่งสัญญาณว่า เออออห่อหมกไปกับกระแสเสียงจากทาง คณะกรรมการเฟดบางส่วนที่ ต้องการให้ลดการอัดฉีดเม็ดเงิน ก็โอละพ่อ..ราคาทองล่ะครับ

 

Techniacl Analysis

 

*ราคาทองคำลงมาถึงเป้าหมายตามเทคนิค แถวเขต 1385+/- เกือบจะเป๊ะเลย(เมื่อตอนเช้าตรู่นี่เอง) และล่าสุดหากพิจารณาในชาร์ต รายh1 ก็จะพบว่า ราคาทองคำเกิดสัญญาณ Bullish Divergence ถึงสองครั้ง สองครา...(ครั้งแรก Bull ไม่พอ ขออีกสักที) ก่อนที่จะเริ่มมีการดีด สลับกลับตัวขึ้นมาได้บ้าง ล่าสุดตอนที่ผมเขียนนี้ ราคาอยูแถว 1394

 

* ความยากในวันนี้ก็คือ ตามชาร์ตทางเทคนิค บอกว่าน่า buy เพื่อลุ้นรีบาวน์จากสัญญาณBullish Divergence แต่ก็อย่างไรก็ตาม ตามที่ผมเน้นย้ำมาตลอดว่า แนวโน้มหลักในระยะยาวตอนนี้ ทองคำยังเป็นทางลงนะครับ (แถมถ้าดู ปัจจัยทางพื้นฐานก็เหมือนจะกดให้ทองยังเป็นทางลงต่อไป โดยเฉพาะการเก็งประเด็นที่ทางเฟดจะยกเลิกหรือลดการอัดฉีดเม็ดเงินในมาตรการQE เป็นปัจจัยหลักนั่นเอง)

 

* ดังนั้น ก็คงต้องแนะนำแบบนี่้นะครับ สำหรับท่านที่รับความเสี่ยงได้น้อย ผมแนะนำว่าช่วงนี้ ใช้กลยุทธ์ รอดูความชัดเจน ให้ทางเบอร์นันเก้ พูดในเสาร์ก่อน

 

*ส่วนใครที่ รับความเสี่ยงได้สูง วันนี้คงต้องหันมาสลับเล่น buy สั้นๆ ตามสัญญาณเทคนิคไปก่อนล่ะครับ เพราะว่า ราคาโซนนี้ ยังไม่น่าเล่น sell ครับด้วยครับ เพราะในระยะสั้นถือว่า ราคาพึงลงมาถึงแนวรับเป้าหมายแถว 1385+/- แล้วด้วย ดังนั้น น่าจะมีการดีด สลับขึ้นไปก่อนนั่นเอง แต่ก็เน้นย้ำ นะครับว่า การเข้าตั๋วทุกครั้ง คุณจะต้องมีจุดยอมแพ้ หรือ stop loss ทุกครั้งด้วยครับ เพราะอย่าลืมว่า มีตัวแปร ก็คือการพูดของคณะกรรมเฟดในช่วงเย็นด้วยนั่นเอง เพราะใครจะไปเดาใจ เค้าถูกล่ะครับ ว่าเค้าจะพูดว่ายังไง?

 

943451_648808258478860_537445106_n.jpg

 

Strategy

*หาจังหวะเล่น buy โดยต้องมีจุด ถอยจุดยอมแพ้ ทุกครั้งครับ หากให้ผมช่วยเดาให้ ก็ หาจังหวะเข้า buy แถวแนวรับ 1390+/- โดยมีแนวต้านเป้าหมายแรก แถว 1400-1405 ถัดไป 1408-1410 โดยมีเป้าหมายกรณีเด้งดีเว้อ..ก็คือแถว 1418-1420 นั่นเองครับ แต่หากราคาไหลหลุด เกิน 1385+/- ต้องบอกเลิกศาลา ไปก่อนครับ

 

ปล.เขียนจบราคาดีดขึ้นมา 1397 ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะ คุณกบ เจ้าป้า น้องลิน น้องแพท และเพื่อนๆ

 

เมื่อคืนเห็นแต่ลูกหมี เพราะไฟมาเร็วไปหน่อย เลยรีบอาบน้ำ 55555

 

เสี่ยงเอสไปไม้นึง 730 ตั้งซื้อหมีเล็กไว้ 680 เพราะเห็นแต่ลูกหมี

 

เช้านี้ยังไม่กล้าเปิดดูราคาเลย เห็นค่าเงินบาทแล้วเซ็ง ไม่น่ารีบซื้อเลยตรู

 

วันนี้ขอให้ทุกคนโชคดีมีลำใยเยอะๆ นะคะ เล่นทางไหนก็ขอให้ได้ลำใย สาธุๆๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณณัฐฑี รายการ Get SET 16 May 2013 By classicgoldfutures

 

 

http://youtu.be/8Y445SFVZ5w

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

CGF : วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย คลาสสิกโกลด์ฯ (16-05-13 | 09:32)

 

Submitted by admin on Thu, 05/16/2013 - 10:19

 

 

goldbar33_19.jpg

Today Strategy:

Gold หากตั้งฐานเหนือแนวรับ 1,385 ยังมีโอกาสดีดขึ้นทดสอบ 1,405 ขณะที่การหลุด 1,385 ราคาจะอ่อนตัวไปทดสอบ 1,360

 

SET50 หากดัชนียังไม่หลุด 1,075/1,065 ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านที่บริเวณ 1,090/1,095

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปรับลดลงแรง หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปออกมาย่ำแย่ จะเห็นได้จากตัวเลขจีดีพีของเยอรมนีและฝรั่งเศสออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก และอุปสงค์โลหะ ส่งผลกดดันต่อค่าเงินยูโร และราคาทองคำ ขณะเดียวกัน การที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐโดยรวมยังอยู่ในแนวโน้มเชิงบวก หนุนให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งสูงขึ้นทำ New High อีกครั้ง แสดงให้เห็นถึงการโยกเงินของนักลงทุน ไปยังสินทรัพย์เสี่ยง และกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนั้น ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงในตลาด Physical หลังจากอินเดียเริ่มจำกัดปริมาณการนำเข้าเพื่อปรับลดยอดขาดดุลการค้า ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวร่วงลงมา และเมื่อหลุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,420 ยิ่งกระตุ้นแรงขายเข้ามา และทำให้ราคาอ่อนตัวลงกว่า 30 เหรียญ เมื่อคืนวานนี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ราคาเข้าสู่แนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,385 ซึ่งอาจพบการดีดกลับขึ้นมาได้ แต่หากราคายังไม่สามารถกลับขึ้นทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1,420 ราคาทองคำยังมีโอกาสอ่อนตัวลงมาได้อีกครั้ง

 

• ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 15,275.69 จุด เพิ่มขึ้น 60.44 จุด ดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี

• USD/THB เงินบาทวันนี้แข็งค่าขึ้น จากการอ่อนค่าของค่าเงิน US Dollar ขณะที่ รัฐบาลยังไม่มีสัญญาณการเข้าแทรกแซงค่าเงินบาท

• Oil ราคาน้ำมันดิบ Nymexปรับลดลงแรงในช่วงแรก จากตัวเลขเศรษฐกิจในยุโรป แสดงถึงภาวะเศรษฐกิจยูโรโซนอยู่ในช่วงถดถอยที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขสต็อกน้ำมันของสหรัฐที่ลดลง เป็นแรงหนุนให้ราคาน้ำมันกลับขึ้นมาปิดบวกได้

 

Market Movement

• Goldปิดที่ 1,392.29 USDต่อออนซ์ ลดลง 33.10 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,388 – 1,429 USDต่อออนซ์ ในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,394 USDต่อออนซ์ โดยวันนี้ มีแนวต้านบริเวณ 1,405/1,415และแนวรับ 1,385/1,360

• USD/THBปิดที่ 29.77 บาทต่อUSD เช้านี้ทรงตัวบริเวณ 29.65 วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 29.85/30 แนวรับบริเวณ 29.45/29.3

• ICE Brentปิดที่บริเวณ 103.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 104.7/106/108 และแนวรับบริเวณ 101/98.8

 

Recommendations

ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ1,360– 1,415 แนะนำ Trading ในกรอบ

ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,320 –1,540แนะนำ รอ Short เมื่อราคา Rebound เข้าแนวต้าน

ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,300 – 1,600 แนะนำ ทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเข้าใกล้ 1,300

 

Technical Commentary

• ภาพกราฟทางเทคนิคภาพกราฟทางเทคนิคในรายวัน ระดับแนวรับ 1,385 เป็นแนวรับสำคัญ ดังนั้น หากไม่หลุดแนวรับดังกล่าว ราคามีโอกาสกลับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,405/1,415 อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การหลุดแนวรับ 1,385 จะกดดันให้ราคาปรับลดลงไปฐานรับถัดไปที่บริเวณ 1,360

• Strategy : Trading ในกรอบ

 

Key Point

Positive View( + )

• แนวโน้มการดำเนินมาตรการ QE ต่อเนื่อง

• แรงซื้อจากธนาคารกลางรัสเซีย ตุรกี และคาซัคสถา

• ECB ลดอัตราดอกเบี้ยตามคาด

• เข้าใกล้เทศกาลซื้อทองของอินเดีย

• เงินบาทแข็งค่า

 

Negative View( - )

• ค่าเงิน USD แข็งค่า ค่าเงินยูโรอ่อนค่า

• ความกังวลในเศรษฐกิจยุโรป

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• แนวโน้มค่าเงินบาท

• 15-19 พ.ค. – นายกกรีซ เยือนจีน เพื่อหาแหล่งระดมทุนเพิ่ม

 

Spot Silver

โลหะเงินร่วงหลุดกรอบสามเหลี่ยม แต่ยังลงไม่ถึงจุดต่ำสุดเดิมที่ 22.07 โดย rsi ชะลอตัวในเขต oversold จึงยังมีโอกาสที่ราคาจะอ่อนตัวได้อีก

ให้แนวต้านบริเวณ 23 / 23.15

ให้แนวรับบริเวณ 22.1 / 22

 

Strategy : ถือ short รอปิดทำกำไร

USD/THB

เงินบาทยังคงแกว่งผันผวนเหนือ 29.5 โดย rsi แกว่งตัว sideway ยังไม่เข้าเขต overbought จึงยังมีแนวโน้มอ่อนค่าได้อีก แต่หากแข็งค่าต่ำกว่าระดับเส้น moving average จะเป็นสัญญาณการกลับมาแข็งค่าต่อเนื่อง

ให้แนวต้านบริเวณ 29.85 / 30

ให้แนวรับบริเวณ 29.45 / 29.3

Strategy : trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน

 

Key Point

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- พ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

- 29 พ.ค. การประชุมกนง.ครั้งที่ 4 อาจพิจารณาลดดอกเบี้ย

 

ข่าวในประเทศ

- ผู้ประกอบการและนักลงทุนในธุรกิจโรงแรมทั่วโลก ที่ได้เข้าร่วมประชุมสุดยอดด้านการลงทุนธุรกิจโรงแรมแห่งภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิกในไทย ราว 200 ราย ลงความเห็นให้ไทยเป็นประเทศที่น่าสนใจ และเป็นเป้าหมาย

- หุ้นบมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก โดยขาย IPO ที่หุ้นละ 6.30 บาท

- เวียดนาม อนุมัติ PTT ตั้งโรงกลั่น-ปิโตรเคมี ที่ 'บินห์ดินห์' มูลค่าลงทุน 8 แสนล้านบาท

- EARTH กำไรไตรมาสแรกพุ่งขึ้น 368 ล้านบาท โต 49% รับยอดขายถ่านหินพุ่ง 1.8 ล้านตัน

 

Exclusive News

เศรษฐกิจสหรัฐ สหรัฐคืบหน้าลดยอดขาดดุลงบประมาณได้ตามเป้า คาดปีนี้ขาดดุลลดเหลือ 4% ของ GDP เทียบกับปีก่อนที่ขาดดุล 7% โดยคาดว่าตัวเลขขาดดุลงบประมาณในปีนี้จะลงมาเหลือ 6.42 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2555 โดยได้แรงหนุนจากรัฐจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย และธุรกิจที่รับความช่วยเหลือจากวิกฤติเมื่อปี 2551 ชำระหนี้คืนให้กับรัฐบาล

 

เศรษฐกิจสหรัฐ การถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐโดยต่างชาติ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในเดือน มี.ค.ที่ 5.7584 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.พ.ที่ 5.7188 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกัน บ่งชี้ถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ท่ามกลางวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ยืดเยื้อ โดยจีนเป็นประเทศที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากที่สุด ได้ลดการถือครองลงจาก 1.2519 ล้านล้านดอลลาร์ ในเดือน ก.พ. มาสู่ระดับ 1.2505 ล้านล้านดอลลาร์ ในเดือน มี.ค.

 

เศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมในเขตนิวยอร์ค, นิวเจอร์ซีย์ และคอนเนคติกัต (Empire State Index) เดือน พ.ค.ลดลงผิดคาดแตะ -1.4 โดยดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ลดลง 3 จุด สู่ระดับ -1.2 ขณะที่ดัชนีการส่งออกแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 0 ซึ่งส่งสัญญาณว่าการส่งออกอยู่ในภาวะทรงตัว ส่วนดัชนีแนวโน้มทางธุรกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวลงโดยทั่วไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามุมมองบวกเกี่ยวกับภาวะทางธุรกิจในอนาคตได้อ่อนแรงลง

เศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือน พ.ค.ปรับขึ้นแตะ 44 จาก 41 ในเดือน เม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แม้ว่าดัชนีจะยังคงต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้สร้างบ้านมีมุมมองต่อตลาดในเชิงลบมากกว่าในเชิงบวก และดัชนียังไม่เคยปรับตัวเหนือระดับ 50 มานับตั้งแต่เดือน เม.ย.2549 แต่ดัชนีก็กระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมกับตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวม โดยเพิ่มขึ้น 16 จุดจากปีที่แล้ว

 

เศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง 0.5% ในเดือน เม.ย. ร่วงหนักกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยการผลิตของโรงงานหดตัวลง 0.4% แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ส่วนการผลิตสาธารณูปโภคร่วงลง 3.7% และการผลิตของเหมืองแร่ขยับขึ้นเพียง 0.9% ทั้งนี้ อัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมร่วงลงแตะ 77.8% สำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน มี.ค.ถูกปรับทบทวนเป็นขยายตัวเพียง 0.3% จากเดิมที่รายงานว่าขยายตัว 0.4% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมเดือน มี.ค.ถูกปรับลดเหลือ 78.3% จากเดิมที่รายงานว่าอยู่ที่ 78.5%

 

เศรษฐกิจยุโรป EU เห็นพ้องให้ความคุ้มครองบัญชีเงินฝากที่มียอดไม่เกิน 100,000 ยูโร หากธนาคารอยู่ในภาวะล้มละลาย ซึ่งจะ

ควรได้รับสิทธิยกเว้นและเป็นรายสุดท้ายที่จะสูญเสียเงินต่อจากผู้ถือ พันธบัตรรายใหญ่ โดยมีเสียงสนับสนุนให้สิทธิดังกล่าวครอบคลุมถึงผู้ฝากเงินเกิน 100,000 ยูโรด้วย แต่ทั้งนี้ ควรขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการฝาก และควรจัดให้อยู่ในกลุ่มท้าย ๆ ของการให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุมัติการเพิ่มงบใช้จ่ายของ EU ในปีนี้ที่ 7.3 พันล้านยูโร

 

เศรษฐกิจเอเชีย ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(real GDP) ของญี่ปุ่นในไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 3.5% ต่อปี ทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและยอดการส่ง ออก ทั้งนี้ เศรษฐกิจมีการขยายตัวสูงกว่าการคาดการณ์โดยเฉลี่ยของตลาดที่คาดว่าจะขยายตัว เพียง 2.8% ต่อปี ซึ่งเพิ่มมุมมองที่เป็นบวกว่า นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลเริ่มส่งผลดีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยรายงานระบุว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคขยายตัว 0.9% ยอดส่งออกขยายตัว 3.8% เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส แต่การลงทุนภาคธุรกิจปรับตัวลง 0.7% ทำสถิติลดลงติดต่อกัน 5 ไตรมาส

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

GTWM : วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย จีทีเวลธ์ฯ (16-05-13 | 09:57)

 

Submitted by admin on Thu, 05/16/2013 - 11:08

 

 

goldbar34_23.jpg

 

แนวโน้มอ่อนตัวต่อ Rebound ไม่ผ่าน US$1,405 Short

Strategy Summary: ราคาทองคำอ่อนตัวลงหนักเมื่อวานหลังจากหลุดแนวรับสำคัญ US$1,420 การแข็งค่าของเงินดอลล่าร์เทียบสกุลเงินหลักยังคงกดดันราคาทองคำ ขณะการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องของตลาดทุนลดความน่าสนใจในการถือครองสินทรัพย์ เสี่ยงต่ำ

 

SPDR ถือครองทองคำลดลง 4.52 ตัน มาถือครองที่ระดับ 1,047.13 ตัน ทางเทคนิคอ่อนตัวหลุดแนวรับ US$1,420

และ หลุดแนว Retracement 61.8% ที่ระดับ US$1,398 ทำให้มีแนวโน้มย่อตัวต่อ

แนวรับถัดไป US$1,380-1,385

แนวต้าน US$1,405

 

แนะนำ นักลงทุนที่ถือข้าง Short ตามแนะนำถ้า Rebound ไม่ผ่านต้าน US$1,405 ถือต่อรอลุ้นรับถัดไป

เน้นลงทุนในสัญญาสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2556 (GFM13,GF10M13)

 

Technical Page

Gold Spot : ราคาทองคำปรับตัวลงหลุดแนวรับ US$1,420 ที่ให้ไว้เมื่อวานทำให้อ่อนตัวลงแรง และลงต่ำกว่า US$1,400 โดยยังมีแนวโน้มอ่อนตัวหลังปรับตัวหลุดระดับ Retracement 61.8% บริเวณ US$1,398 ขณะที่ MACD ในกราฟรายวันตัดลงต่ำกว่าเส้น Signal เป็นสัญญาณเชิงลบ กลยุทธ์ นักลงทุนที่ถือข้าง Short ตามที่แนะนำ วันนี้ถ้า Rebound ไม่ผ่าน US$1,405 ถือต่อรอเป้าหมาย US$1,380-85 เน้นลงทุนในสัญญาสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2556 (GFM13, GF10M13)

 

GFM13 : ราคาสัญญาซื้อขายล่วงหน้าอ้างอิงราคาทองคำสัญญาสิ้นสุดเดือนมิถุนายน 2556 อ่อนตัวลงมายืนต่ำกว่าแนวรับ 19,950 บาท และ 19,800 บาท ทำให้มีแนวโน้มย่อตัวต่อมีแนวรับหลัก 19,650 บาท แนวต้าน 19,800 บาท ซึ่งเป็นแนวรับเดิม

 

Fundamental Page

Market Summary

ราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลง US$33.10 ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับ US$1,392.29 ต่อออนซ์ (Gold spot) สกุลเงินดอลล่าร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยปรับตัวขึ้นใกล้ 84 จุด (US Dollar Index) หลังจากการรายงานตัวเลข GDP ของประเทศสำคัญในยูโรโซนไม่ว่าจะเป็นเยอรมนี ฝรั่งเศสและอิตาลี ซึ่งเติบโตในระดับใกล้ศูนย์ ขณะที่อิตาลีติดลบ 0.5% ทำให้เงินยูโรอ่อนค่าเทียบดอลล่าร์สหรัฐฯ ขณะที่ตลาดหุ้นยังปรับบวกต่อเนื่องทำให้ความน่าสนใจในการถือครองสินทรัพย์ ปลอดภัยลดลง นอกจากนี้ทองคำยังได้รับผลกระทบจาก Demand ในเอเชียหลังอินเดียจำกัดปริมาณการนำเข้าทองคำเพื่อปรับลดยอดขาดดุลการค้า

 

ค่าเงินบาทอ่อนค่าใกล้ระดับ 29.80 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ

กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำลดลงอย่างต่อเนื่อง 4.52 ตัน ที่ระดับ 1,047.13 ตัน

 

News Feeder

ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นสู่สถิติสูงสุดใหม่ และการคาดการณ์ในทางบวกต่อเศรษฐกิจทำให้นักลงทุนลดความต้องการซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

การผลิตในภาคอุตสาหกรรมลดลงเกินคาด 0.4% และอัตราการใช้กำลังการผลิต ร่วงลงสู่ 77.8 ในเดือนเม.ย. กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ร่วงลง 0.7% ในเดือนเม.ย.ซึ่งเป็นการร่วงลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2010 ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย.

 

ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดขยับขึ้นเล็กน้อยในวันพุธ ในขณะที่ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นสู่สถิติสูงสุดใหม่ และมีสัญญาณบ่งชี้ว่า การเจรจา นิวเคลียร์กับอิหร่านเผชิญกับทางตัน โดยในช่วงแรกราคาน้ำมันดิบดิ่งลงกว่า 2 ดอลลาร์ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผย ตัวเลขสต็อกน้ำมันในคลังออกมา

 

ดอลลาร์ปรับตัวลงจากระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 4 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับเยน ในการซื้อขายช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากพุ่งแตะระดับดังกล่าวเมื่อวานนี้ หลังข้อมูลภาคอุตสาหกรรมที่น่าผิดหวังของสหรัฐทำให้ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ พุ่ง ขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 1 สัปดาห์ ส่วนดอลลาร์ทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

MTS : วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย เอ็มทีเอส โกลด์ฯ (16-05-13 | 10:06)

 

Submitted by admin on Thu, 05/16/2013 - 11:14

 

 

goldbar35_28.jpg

สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futuresภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2556เวลา 09.00 น.

ราคา ทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,426 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,391 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 29.79 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20,050 บาท กับ 20,150 บาท และกลับมาปิดที่ 19,900 บาท กับ 20,000 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 2,524 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 7,640 คู่สัญญา Silver Futures อยู่ที่- คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 0.2% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.7% GFM13 ปิด 19,760 บาท และ GFQ13 ปิด 19,850 บาท GF10M13 ปิด 19,760 บาท GF10Q13 ปิด 19,840 บาท

 

สัญญา Comex ปิดลดลง 28.3 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,396.2 ดอลลาร์/ออนซ์ สัญญา Silver ลดลง 72.1 เซนต์ ปิดที่ 22.658 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,047.13 ตัน (ขายออก 4.52 ตัน ) น้ำมัน NYMEX เพิ่มขึ้น 9 เซ็นต์ ปิดที่ 94.3 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 60.44 จุด ปิดที่ 15,275.69 จุด

ข่าวที่สำคัญ

เมื่อ คืนนี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเป็นวันที่5 ลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบสี่สัปดาห์บริเวณ 1,390 เหรียญ จากแรงเทขายทางเทคนิคตั้งแต่ช่วงบ่ายโมงวานนี้เป็นต้นมา

มีคำสั่ง กระตุ้นให้เกิดการใช้ Sell Stop Orders กดดันให้สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สหลุดระดับแนวรับสำคัญทางเทคนิคและทางจิตวิทยา ที่ 1,400 เหรียญ

SPDR กลับมาขายอีกครั้ง โดยเมื่อวานขายออก 4.51 ตัน หรือ 0.43% เหลือการถือครองทองคำอยู่ 1,047.14 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบสี่ปี นับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2009

 

ดอลลาร์ อินเด็กซ์ แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบ 9.5 เดือนเมื่อวานนี้ ในขณะที่เมื่อเทียบกับยูโร ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 สัปดาห์

สกุลเงินยูโรอ่อนค่าลงไปทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ จากตัวเลข GDP ที่ผิดหวังของฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี และยุโรปเองก็ตาม

ในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา GDP ยุโรปหดตัว 0.2% ส่งผลให้ GDP ของยุโรปหดตัว 6 ไตรมาสติดต่อกัน

 

มีการรายงานผลสำรวจของผู้จัดการกองทุนเพื่อการลงทุนชี้ให้เห็นว่า Money Manager ส่วนใหญ่กำลังหลบเลี่ยงการลงทุนในทองคำ

มี รายงานเมื่อคืนว่า ในไตรมาสที่ 1 กองทุน โซรอส ฟันด์ เมเนจเมนท์ ถอนหุ้นออกจากธนาคารใหญ่ๆ อย่างเจพี มอร์แกน เชส และมอร์แกน สแตนลีย์ออกจนหมด และลดสถานะการลงทุนในซิตี้กรุ๊ป อิงค์, แอปปิ้ล รวมไปถึงกองทุน SPDR

 

โดยรวมในไตรมาสที่ 1 มูลค่าการถือครองต่างๆ ของนายโซรอสเพิ่มขึ้น 2.4% สู่ระดับ 8.6 พันล้านดอลลาร์ จาก 8.4 พันล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 4 โดยขนาดของ Portfolio ของเขาเพิ่มขึ้น 15% สู่ระดับ 209 สถานะ

 

ข้อมูลจนถึงวันที่ 31 มีนาคม นายโซรอสลดหุ้นในกองทุน SPDR Gold Trust ลง 12% หรือ 69,100 หุ้น สู่ระดับ 530,900 หุ้น โดยมีมูลค่าหุ้น 82 ล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ตามนายโซรอ สได้เพิ่มการลงทุนในกลุ่มเหมืองทอง โดยซื้อหุ้นจากมาร์เก็ต เวคเตอร์ โกลด์ ไมน์เนอร์ อีทีเอฟ 1.1 ล้านหุ้น โดยตอนนี้มีหุ้นอยู่ 2.7 ล้านหุ้น มูลค่า 101 ล้านดอลลาร์

 

นอกจากรายงานของนายโซรอสแล้ว เฮดจ์ ฟันด์ เมเนเจอร์ อีกคนที่น่าติดตามไม่แพ้กันก็คือ นายจอห์น พอลสัน โดยในไตรมาสที่ 1 พอลสัน แอนด์ โค ถือครองหุ้นใน SPDR Gold Trust เท่าเดิมที่ระดับ 21.837552 ล้านหุ้น และถือหุ้น call option ในแบร์ริค โกลด์ 360,000 หุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนที่ 915,000 หุ้น นอกจากนี้ พอลสันซื้อหุ้นในซิตี้กรุ๊ป 1 ล้านหุ้น

จะเห็นได้ว่า นายโซรอส และนายพอลสัน สวนทางกัน

 

นัก วิเคราะห์ต่างๆ มองว่า การที่ทองคำหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,400 เหรียญอาจกระตุ้นให้เกิดแรงเทขายต่อเนื่อง และอาจไปทดสอบจุดต่ำสุดในรอบ 2 ปีที่ระดับ 1,322 เหรียญที่ทำไว้เมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมาได้

 

ความต้องการทองคำที่น่าผิดหวังจากอินเดียก็เป็นอีกปัจจัยที่เป็นผลลบต่อราคาทองคำ

ค่า พรีเมี่ยมสำหรับทองคำแท่งในอินเดียเพิ่มขึ้นอย่างมากในสัปดาห์นี้ เนื่องจากการผลิตที่มีอย่างจำกัด หลังจากธนาคารกลางอินเดียจำกัดการนำเข้าเพื่อป้องกันยอดขาดดุลบัญชีที่อยู่ ในระดับสูงสุด

 

HSBC กล่าวว่า ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ แต่ยังคงมีแรงเข้าซื้อทองคำแท่งในการยันการตกเอาไว้ โดยราคาทองคำปรับหลุดระดับ 1,400 เหรียญเนื่องจากตลาดวิเคราะห์ว่า มีมุมมองเป็นบวกจากสำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสว่ายอดขาดดุลของสหรัฐจะลดลง

 

นาย ไมเคิล โนโวกราทซ์ หัวหน้าการลงทุนจากฟอร์ทเทรส มาโคร ฟันด์ ส่วนหนึ่งของเฮดจ์ฟันด์มูลค่า 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์ กล่าวกับ CNBC เมื่อวานนี้ว่า ทองคำเป็น "classic bubble" และอาจลงไปถึงระดับ 500 เหรียญต่อออนซ์ได้ โดยเราทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,900 เหรียญเมื่อสองปีที่ผ่านมาไปแล้ว

สหรัฐจะบังคับใช้บทลงโทษอย่างเข้ม งวดโดยไม่มีความเกรงกลัว เพื่อสั่งห้ามรัฐบาลหรือบริษัทเอกชนต่างๆ ไม่ให้ขายทองคำให้กับอิหร่าน โดยบทลงโทษจะเริ่มต้นใช้ในวันที่ 1 กรกฎาคม

 

เช้านี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเป็นวันที่ 6 ติดต่อกัน ซึ่งเป็นระยะยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2009

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน

 

- PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.6% คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.6% ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ -0.7%

- Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ 0.1%

- Empire State Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 3.1 คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 3.6 ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ -1.4

- TIC Long-Term Purchases ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -17.8B คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 33.8B ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ -13.5B

- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2M คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.5M ตัวเลขจริงอยู่ที่ระดับ -0.6M

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม

- Building Permits ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.91M คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.94M

- Housing Starts ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.04M คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.98M

- Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.2%

- CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -0.2% คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.3%

- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 323K คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 332K

- Philly Fed Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.3 คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 2.5

 

ทิศทางราคาทองคำ

ราคา ทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องเมื่อวานนี้ โดยปรับตัวหลุดระดับ 1,425 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับแรกในระยะสั้น รวมทั้งหลุดระดับ 1,400 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับทางจิตวิทยา หลุดลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 1,392 เหรียญ วิเคราะห์ได้ว่า ภาพรวมของการปรับตัวลดลงของทองคำมาจากการที่ค่าเงินดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่า ขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเงินเยนและยูโร โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจของเยอรมนีออกมาไม่ดี กดดันทำให้ค่าเงินยูโรปรับตัวลดลงมาที่ระดับ 1.2873 ดอลลาร์/ยูโร หลุดระดับ 1.2900 ดอลลาร์/ยูโรลงมา จึงเกิดแรงเทขายต่อเนื่องในทองคำ หลังจากลงไปทำจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 1,392 เหรียญ ก็กลับมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,396 เหรียญ วันนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจออกมาซึ่งดูจะทรงๆ ตัวเท่านั้น คือ Building Permits และภาคการผลิตที่คาดว่าจะดีขึ้น ในขณะที่ตัวเลข Housing Starts และการขอรับสวัสดิการว่างงานคาดว่าแย่ลงเล็กน้อย

 

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคา ทองคำยังอยู่ในทิศทางแนวโน้มขาลง หลังจากที่ปรับตัวขึ้นไปไม่สามารถฝ่าทะลุแนวต้านสำคัญ 1,450 เหรียญขึ้นไปได้ แรงซื้อในตลาด Physical เองก็ดูค่อนข้างจำกัด ทำให้ราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,400 เหรียญลงมา ในเชิงเทคนิคราคามีโอกาสลงไปทดสอบจุดต่ำสุดเดิมที่ 1,325 เหรียญได้ จึงยังแนะนำให้ลงทุนในทิศทางขาลงเป็นหลัก

 

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

แนะ นำให้ลดสถานะ Long Position และเปิด Short Position ตามจังหวะและโอกาสที่ราคาเด้งขึ้นมาบริเวณแนวต้านที่สำคัญ

โดยคาดว่าวันนี้จะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,380 – 1,400 เหรียญ ถ้าหลุดระดับ 1,380 เหรียญก็จะมีแนวรับถัดไปที่ 1,350 เหรียญ

- นักลงทุนถือ Long Position

ยังคงแนะนำให้ปิดสถานะ Long Position และพยายามหาจังหวะเปิด Short Position เพื่อเก็งกำไรในทิศทางขาลง

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

Take Profit เป็นช่วงๆ และเปิดสถานะ Short Position เมื่อราคาปรับตัวสูงขึ้นเช่นเดียวกัน

 

Gold Futures M13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,650 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,850 บาท

Gold Futures Q13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,740 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,940 บาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

AFC : วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย ออสสิริสฯ (16-05-13 | 10:45)

 

Submitted by admin on Thu, 05/16/2013 - 11:20

 

 

goldbar36_18.jpg

Previously...

• ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ได้เป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ ได้แก่ ดัชนีราคาผู้บริโภครายเดือนของฝรั่งเศสที่ได้ประกาศ -0.1% จาก 0.8% ดัชนีรายได้เฉลี่ย รายไตรมาสของอังกฤษที่ 0.4% จาก 1.8% ตัวเลขดัชนีตลาดบ้านในสหรัฐฯที่ 44 จาก 42 เป็นต้น [Forexfactory]

• ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญที่ได้เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ ได้แก่ ตัวเลขผลผลิตมวลรวมในประเทศเบื้องต้นของเยอรมัน และอิตาลีรายไตรมาสที่ได้ประกาศ 0.1% จาก -0.7%, -0.5% จาก -0.9% ตามลำดับ ตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตรายเดือนในสวิตฯที่ 0.2% จาก 0% ตัวเลขผลผลิตมวลรวมในประเทศรายไตรมาสของยุโรปโดยรวมที่ -0.2% จาก -0.6% ดัชนีภาคการผลิตและการผลิตภาคอุตสาหกรรมรายเดือนในสหรัฐฯที่ -0.7% จาก -0.6% และ -1.4 จาก 3.1 ตามลำดับ เป็นต้น [Forexfactory]

 

• กองทุน SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 1,047.13 ตัน ลดลง 4.52 ตัน [spdrgoldshares]

 

Outlook…

• ระยะกลางถึงยาว ภาพหนี้สินในยุโรปดูมีทางออกที่ดีถ้าได้รับความร่วมมืออย่างจริงใจ ขณะที่นโยบายการเงินสหรัฐฯในปัจจุบันที่มีแนวโน้มผ่อนคลายเพิ่มขึ้นอย่างต่อ เนื่องก็เอื้อต่อการเก็งกำไร ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ย LIBOR อยู่ในระดับต่ำลงเป็นสัญญาณบวกที่ดีต่อการลงทุน ขณะเดียวกันก็จำเป็นต้องจับตาความเคลื่อนไหวต่างๆอย่างใกล้ชิดโดยเฉพาะความ จริงใจและความเต็มใจในการแก้ปัญหาของฝ่ายต่างๆ

 

• ระยะสั้น เราเริ่มให้ภาพบรรยากาศการลงทุนในเชิงลบ โดยเราให้น้ำหนักกับมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐเป็นประเด็นหลักที่กำหนดทิศ ทางการซื้อขายเช่นเดิม ซึ่งถึงแม้มาตรการกระตุ้นจากภูมิภาคต่างๆจะยังสามารถสร้างความหวังได้ แต่มาตรการต่างๆที่ไม่ชัดเจนและยืดเยื้อยาวนานเกินไปโดยเฉพาะจากภาครัฐยุโรป เริ่มทำให้เกิดแรงกดดันที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับทิศทางเศรษฐกิจโลกโดยตรง

 

Look Out…

• ติดตามตัวเลขที่มีแนวโน้มเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ ได้แก่ ตัวเลขดุลการค้าของอิตาลีที่จะประกาศประมาณ 15.00 น. ตัวเลขจำนวนคนว่างงานที่มาขอสวัสดิการภาครัฐ ดัชนีราคาผู้บริโภครายเดือน และตัวเลขบ้านในสหรัฐฯประมาณ 19.30น. เป็นต้น [Forexfactory]

 

• ติดตามตัวเลขที่มีแนวโน้มเป็นปัจจัยลบต่อราคาทองคำ ได้แก่ ตัวเลขดุลการค้าของยุโรปที่จะประกาศประมาณ 16.00 น. ใบอนุญาตการก่อสร้างและดัชนีภาคการผลิตในสหรัฐฯประมาณ 19.30 น. เป็นต้น [Forexfactory]

 

• ระวังแรงเทขายทำกำไร นักลงทุนควรมีวินัยในการลงทุน

 

Technical

ราคาทองคำปรับตัวลงเมื่อคืนที่ผ่านมา หลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้นสวนทางกับค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลง เนื่องจาก สำนักงานสถิติแห่งชาติของยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร ลดลง 0.2% ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว และเมื่อเทียบกับช่วงไตรมาส 1 ปี 2555 เศรษฐกิจยูโรโซนหดตัวลง 1.0%

 

ส่วนจีดีพีของกลุ่มประเทศสหภาพยุโรป (อียู) ในช่วงไตรมาสแรก ลดลง 0.1% จากไตรมาสก่อนหน้า และอ่อนแรงลง 0.7% เมื่อเทียบรายปี ขณะเดียวกันสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนีเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศเบื้องต้นของเยอรมนีในไตรมาส 1 ปีนี้ ขยายตัว 0.1% จากระดับไตรมาส 4 ปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าการคาดการณ์

 

จากปัจจัยข้างต้น ที่ค่าเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐแข็ง ส่งผลให้มีการโยกย้ายเงินจากทองคำเข้าสู่ตลาดหุ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 พ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากรายงานที่ระบุว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านของสหรัฐ ปรับตัวขึ้นเกินคาด แม้ข้อมูลด้านอื่นๆบ่งชี้ถึงภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจสหรัฐ รวมถึงการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่หดตัวลง

 

อีกทั้งยอดการถือของทองคำของกองทุน SPDR ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก และโดยภาพรวมนั้นเป็นการลดการถือครองอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นปัจจัยให้ราคาทองคำยังไม่สามารถปรับตัวรีบาวด์ขึ้นมาเพื่อเปลี่ยนแนว โน้มเป็นขาขึ้นอย่างมีนัยยะได้

 

ทาง Ausiris ยังคงมองแนวโน้มระยะกลางของราคาทองคำยังเป็นขาลงอยู่ ทั้งนี้ราคาที่ปรับตัวขึ้นมาก่อนหน้าจากจุดต่ำสุดที่ 1321 นั้น เกิดจากแรงซื้อจาก Physical Demand จากทางฝั่งเอเซียเช่น จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และ อินเดีย ส่วนภาพรวมระยะสั้นๆนั้นเรามองว่าจากปัจจัยที่กล่าวมา ยังส่งผลให้ราคาทองคำยังสามารถปรับตัวลงได้อีก โดยมีแนวรับที่สำคัญของวันนี้ประมาณ 1385 ซึ่งหากราคาหลุดแนวรับดังกล่าว อาจส่งผลให้ราคาสามารถปรับตัวลงได้อีก

 

กลยุทธ์ในวันนี้หากราคารรีบาวด์สูงๆ นลท.สามารถลงทุนฝั่งขายได้ โดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 1404

เมื่อราคาปรับตัวลงมา ก็สามารถทำกำไรสั้นๆตามแนวรับ

 

Fundamental

ภาพระยะสั้นถึงกลาง

วันนี้ ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่น่าจะส่งผลลบต่อราคาทองคำมี 5 ตัวบวก 4 ตัว [Forexfactory]

 

Trading ($/oz)

กรอบ 1355-1430

แนวต้าน 1404 1413 1430

แนวรับ 1385 1377 1361 1355

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เดารายวัน

 

สวัสดีไฮโซชาวดอยทั้งหลาย เมื่อวานนี้ทองเปิดตลาดที่ 1425 และลงไปทำ low ที่ 1388 ก่อนที่จะมาปิดที่ 1393 ลงมาทั้งหมด 32 เหรียญ สรุปอาทิตย์นี้ทองลงมาจาก 1448-->1393 = -55 USD ยังห่างจากที่คาดหวังอีกครึ่งทางคือ 1320 ตอนนี้มาถึงจุดวัดใจว่าจะลงต่อหรือกลับลำเป็นขาขึ้น

 

เมื่อวานนี้ทองได้ลงมาจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ยอดแย่ของทาง Europe ซึ่งส่งผลให้ค่าเงิน US แข็งขึ้นประกอบกับมารายงานเรื่องค่าเงิน rupee ที่อ่อนและรัฐบาลออกมาตราการเพิ่มสำหรับการซื้อขายทองเพื่อลดดุลทางการค้าที่เกิดปัญหากับประเทศอย่างหนักในคราวที่ทองลงครั้งที่แล้วจึงทำให้ Physical หดตัวลงและอาจจะมีการทบทวนนโยบายเพิ่มภาษีทองอีกครั้ง และในเรื่องของจีนลิมบอกไปว่าในอาทิตย์ที่แล้วมีการสัมภาษณ์รัฐมนตรีการคลังของจีนซึ่งท่านให้ความคิดเห็นเรื่องอัตราเงินเฟ้อที่สูงว่าท่านยอมแลกที่จะชลอเศรษฐกิจดีกว่าที่จะปล่อยเงินเฟ้อเป็นปัญหาในประเทศเพราะการลงทุนที่ไหลมาจากต่างประเทศจึงมองภาพว่าจีนจะชลอทางเศรษฐกิจซึ่งนั่นก็ไม่ได้ช่วยในด้าน Physical เช่นกัน อย่างไรก็ตามเมื่อคืนนี้ก็ไม่ได้ลงมากดั่งคาดเพราะตัวเลขเศรษฐกิจของ US ก็ไม่ได้ประกาศดีมากเลยทำให้ทองมาหยุด ณ จุดที่ผมเรียกว่าจุดเปลี่ยนตรงนี้

 

วันนี้มีตัวเลข CPI และประธาน FED หลายท่านแถลงซึ่งเชื่อว่าจะเป็นโอกาสที่ดีสำหรับ US ถ้าจะทุบทองราคาทองอีกครั้งในคืนนี้เพราะทุกอย่างนั้นสนับสนุนไปในทางนั้น ด้วยตัวเลข CPI คนขอสวัสดิการณ์ ความเห็นที่อาจจะเป็น 2:1 ว่าหยุด QE

 

สรุปในด้า Fund พื้นฐานก่อนว่ายังมีแนวโน้มกดดันทองในทางลบต่อไป

 

ในด้าน Technical วันนี้คงยาวนิดนึง สำหรับท่านที่ติดตามมาตลอดคงจะเข้าใจวันนี้เรามามองภาพใหญ่ TF1H กันก่อน อาทิตย์ที่แล้วเราพยายามจะหาว่าตอนนี้เราอยู่จุดไปนของกราฟ ซึ่งข้อสัณนิฐาน เราได้ว่าเราอาจจะเป็น C or 3 ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็คงฟันธงไปแล้วว่าคือ 3 หมายถึงลงต่อ แต่ประสบการณ์สอนว่าอย่าทิ้งความเป็นไปได้ที่มันจะเป็น C เพราะในภาพ TF ใหญ่นั้นก็มองดูเหมือนว่ามันอาจจะเป็น C เช่นกัน จะเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง

 

Option 1 ถ้าตรงนี้คือ C (ในภาพวาดสีฟ้า) จะเกิดการ rebound สร้างกราฟ Elliott 1-5 โดยมองที่กราฟ 1 ประมาณแนวต้าน 1420 แล้วกราฟ 3 จะข้าม 1487 เป็นขาขึ้น

 

Option 2 ถ้าตรงนี้คือ 3 (ในภาพวาดสีขาว) จะเกิด corrective pattern ที่อาจจะเป็น Hamonic คล้ายในวงกลมครั้งที่แล้วหรือ Pattern อื่นๆ โดยมีกรอบสูงต่ำที่ 1420-1388 เป็นในลักษณะของ Side way ประมาณ 1-2 วันก่อนจะลงทำกราฟ 5 ต่อไป

 

Option 3 ถ้าตรงนี้คือ 3 (ในภาพสีเหลือง) จะเกิด extension แล้วกราฟลงไปทำกราฟ 5 โดยทันที และ extension ไม่น่าเกิน 1420

 

ความคิดส่วนตัว

ที่เรายืนอยู่นี้ไม่ใช่กราฟ 3 เพราะเราโดนบังคับที่กราฟใหญ่กว่าว่าถ้าจะเป็น 3 ต้องลงถึง 1322 หรือ low เดิมเป็นอย่างต่ำ ดังนั้นมองว่า option ที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ 2 และ 3 โดยไม่ว่า 2 หรือ 3 เป็นการก่อตัวเพื่อลงโดยรอข่าวหรือตัวเลขสนับสนุนเท่านั้น แล้วจะเป็น option ที่ 1 ได้หรือไม่ ส่วนตัวคิดว่าเป็นไปได้ยากมากเพราะต้องมี Fund สนับสนุน ซึ่งตอนนี้ไม่เห็นนอกจากว่าทองราคาถูก ดังนั้นสรุปได้ว่าอาจจะมีแรงดีดขึ้นนิดๆ แต่เตรียมตัวเพื่อจะ "ลง"

 

แนวต้าน 1401/ 1408/1420

แนวรับ 1377 / 1362 / 1335

 

สำหรับทองแท่งติดดอย นี่คือสิ่งที่ท่านต้องคิดอย่างจริงจังว่าท่านสมควรทำอย่างไร

 

ขอให้มีความสุขในการลงทุน ขอพระเจ้าอวยพร ^^

936295_535868103119283_2078537876_n.png

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

CGF : วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย คลาสสิกโกลด์ฯ (16-05-13 | 09:32)

 

Submitted by admin on Thu, 05/16/2013 - 10:19

 

 

goldbar33_19.jpg

 

Today Strategy:

Gold หากตั้งฐานเหนือแนวรับ 1,385 ยังมีโอกาสดีดขึ้นทดสอบ 1,405 ขณะที่การหลุด 1,385 ราคาจะอ่อนตัวไปทดสอบ 1,360

 

SET50 หากดัชนียังไม่หลุด 1,075/1,065 ยังมีโอกาสปรับขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านที่บริเวณ 1,090/1,095

 

Key Factors

• Gold ราคาทองคำปรับลดลงแรง หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจของยุโรปออกมาย่ำแย่ จะเห็นได้จากตัวเลขจีดีพีของเยอรมนีและฝรั่งเศสออกมาต่ำกว่าคาดการณ์ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลก และอุปสงค์โลหะ ส่งผลกดดันต่อค่าเงินยูโร และราคาทองคำ ขณะเดียวกัน การที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐโดยรวมยังอยู่ในแนวโน้มเชิงบวก หนุนให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กพุ่งสูงขึ้นทำ New High อีกครั้ง แสดงให้เห็นถึงการโยกเงินของนักลงทุน ไปยังสินทรัพย์เสี่ยง และกระตุ้นให้นักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย นอกจากนั้น ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงในตลาด Physical หลังจากอินเดียเริ่มจำกัดปริมาณการนำเข้าเพื่อปรับลดยอดขาดดุลการค้า ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ กดดันให้ราคาทองคำปรับตัวร่วงลงมา และเมื่อหลุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,420 ยิ่งกระตุ้นแรงขายเข้ามา และทำให้ราคาอ่อนตัวลงกว่า 30 เหรียญ เมื่อคืนวานนี้ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ ราคาเข้าสู่แนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,385 ซึ่งอาจพบการดีดกลับขึ้นมาได้ แต่หากราคายังไม่สามารถกลับขึ้นทดสอบแนวต้านที่บริเวณ 1,420 ราคาทองคำยังมีโอกาสอ่อนตัวลงมาได้อีกครั้ง

 

• ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 15,275.69 จุด เพิ่มขึ้น 60.44 จุด ดัชนีดาวโจนส์ปรับขึ้น จากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี

• USD/THB เงินบาทวันนี้แข็งค่าขึ้น จากการอ่อนค่าของค่าเงิน US Dollar ขณะที่ รัฐบาลยังไม่มีสัญญาณการเข้าแทรกแซงค่าเงินบาท

• Oil ราคาน้ำมันดิบ Nymexปรับลดลงแรงในช่วงแรก จากตัวเลขเศรษฐกิจในยุโรป แสดงถึงภาวะเศรษฐกิจยูโรโซนอยู่ในช่วงถดถอยที่ยาวนานที่สุดเป็นประวัติการณ์ อย่างไรก็ตาม จากตัวเลขสต็อกน้ำมันของสหรัฐที่ลดลง เป็นแรงหนุนให้ราคาน้ำมันกลับขึ้นมาปิดบวกได้

 

Market Movement

• Goldปิดที่ 1,392.29 USDต่อออนซ์ ลดลง 33.10 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวในกรอบระหว่าง 1,388 – 1,429 USDต่อออนซ์ ในช่วงเช้าวันนี้ราคาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,394 USDต่อออนซ์ โดยวันนี้ มีแนวต้านบริเวณ 1,405/1,415และแนวรับ 1,385/1,360

• USD/THBปิดที่ 29.77 บาทต่อUSD เช้านี้ทรงตัวบริเวณ 29.65 วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 29.85/30 แนวรับบริเวณ 29.45/29.3

• ICE Brentปิดที่บริเวณ 103.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล วันนี้มีแนวต้านบริเวณ 104.7/106/108 และแนวรับบริเวณ 101/98.8

 

Recommendations

ระยะสั้น : อยู่ในกรอบ1,360– 1,415 แนะนำ Trading ในกรอบ

ระยะกลาง : อยู่ในกรอบ 1,320 –1,540แนะนำ รอ Short เมื่อราคา Rebound เข้าแนวต้าน

ระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,300 – 1,600 แนะนำ ทยอยเข้าซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเข้าใกล้ 1,300

 

Technical Commentary

• ภาพกราฟทางเทคนิคภาพกราฟทางเทคนิคในรายวัน ระดับแนวรับ 1,385 เป็นแนวรับสำคัญ ดังนั้น หากไม่หลุดแนวรับดังกล่าว ราคามีโอกาสกลับขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,405/1,415 อีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การหลุดแนวรับ 1,385 จะกดดันให้ราคาปรับลดลงไปฐานรับถัดไปที่บริเวณ 1,360

• Strategy : Trading ในกรอบ

 

Key Point

Positive View( + )

• แนวโน้มการดำเนินมาตรการ QE ต่อเนื่อง

• แรงซื้อจากธนาคารกลางรัสเซีย ตุรกี และคาซัคสถา

• ECB ลดอัตราดอกเบี้ยตามคาด

• เข้าใกล้เทศกาลซื้อทองของอินเดีย

• เงินบาทแข็งค่า

Negative View( - )

• ค่าเงิน USD แข็งค่า ค่าเงินยูโรอ่อนค่า

• ความกังวลในเศรษฐกิจยุโรป

 

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

• แนวโน้มค่าเงินบาท

• 15-19 พ.ค. – นายกกรีซ เยือนจีน เพื่อหาแหล่งระดมทุนเพิ่ม

 

Spot Silver

โลหะเงินร่วงหลุดกรอบสามเหลี่ยม แต่ยังลงไม่ถึงจุดต่ำสุดเดิมที่ 22.07 โดย rsi ชะลอตัวในเขต oversold จึงยังมีโอกาสที่ราคาจะอ่อนตัวได้อีก

ให้แนวต้านบริเวณ 23 / 23.15

ให้แนวรับบริเวณ 22.1 / 22

Strategy : ถือ short รอปิดทำกำไร

 

USD/THB

เงินบาทยังคงแกว่งผันผวนเหนือ 29.5 โดย rsi แกว่งตัว sideway ยังไม่เข้าเขต overbought จึงยังมีแนวโน้มอ่อนค่าได้อีก แต่หากแข็งค่าต่ำกว่าระดับเส้น moving average จะเป็นสัญญาณการกลับมาแข็งค่าต่อเนื่อง

ให้แนวต้านบริเวณ 29.85 / 30

ให้แนวรับบริเวณ 29.45 / 29.3

Strategy : trading ในกรอบแนวรับแนวต้าน

 

Key Point

ปัจจัยที่ต้องติดตาม

- พ.ร.บ. เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จะขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

- 29 พ.ค. การประชุมกนง.ครั้งที่ 4 อาจพิจารณาลดดอกเบี้ย

 

ข่าวในประเทศ

- ผู้ประกอบการและนักลงทุนในธุรกิจโรงแรมทั่วโลก ที่ได้เข้าร่วมประชุมสุดยอดด้านการลงทุนธุรกิจโรงแรมแห่งภูมิภาค เอเชีย-แปซิฟิกในไทย ราว 200 ราย ลงความเห็นให้ไทยเป็นประเทศที่น่าสนใจ และเป็นเป้าหมาย

- หุ้นบมจ.โรงพยาบาลจุฬารัตน์ เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก โดยขาย IPO ที่หุ้นละ 6.30 บาท

- เวียดนาม อนุมัติ PTT ตั้งโรงกลั่น-ปิโตรเคมี ที่ 'บินห์ดินห์' มูลค่าลงทุน 8 แสนล้านบาท

- EARTH กำไรไตรมาสแรกพุ่งขึ้น 368 ล้านบาท โต 49% รับยอดขายถ่านหินพุ่ง 1.8 ล้านตัน

 

Exclusive News

เศรษฐกิจสหรัฐ สหรัฐคืบหน้าลดยอดขาดดุลงบประมาณได้ตามเป้า คาดปีนี้ขาดดุลลดเหลือ 4% ของ GDP เทียบกับปีก่อนที่ขาดดุล 7% โดยคาดว่าตัวเลขขาดดุลงบประมาณในปีนี้จะลงมาเหลือ 6.42 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ในปีงบประมาณ 2555 โดยได้แรงหนุนจากรัฐจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้นเกินความคาดหมาย และธุรกิจที่รับความช่วยเหลือจากวิกฤติเมื่อปี 2551 ชำระหนี้คืนให้กับรัฐบาล

 

เศรษฐกิจสหรัฐ การถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐโดยต่างชาติ พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดครั้งใหม่ในเดือน มี.ค.ที่ 5.7584 ล้านล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากเดือน ก.พ.ที่ 5.7188 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 15 ติดต่อกัน บ่งชี้ถึงความต้องการที่แข็งแกร่งสำหรับพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ท่ามกลางวิกฤตหนี้ยูโรโซนที่ยืดเยื้อ โดยจีนเป็นประเทศที่ถือครองพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐมากที่สุด ได้ลดการถือครองลงจาก 1.2519 ล้านล้านดอลลาร์ ในเดือน ก.พ. มาสู่ระดับ 1.2505 ล้านล้านดอลลาร์ ในเดือน มี.ค.

 

เศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวมในเขตนิวยอร์ค, นิวเจอร์ซีย์ และคอนเนคติกัต (Empire State Index) เดือน พ.ค.ลดลงผิดคาดแตะ -1.4 โดยดัชนีคำสั่งซื้อใหม่ลดลง 3 จุด สู่ระดับ -1.2 ขณะที่ดัชนีการส่งออกแทบไม่เปลี่ยนแปลงที่ระดับ 0 ซึ่งส่งสัญญาณว่าการส่งออกอยู่ในภาวะทรงตัว ส่วนดัชนีแนวโน้มทางธุรกิจในช่วง 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวลงโดยทั่วไป ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามุมมองบวกเกี่ยวกับภาวะทางธุรกิจในอนาคตได้อ่อนแรงลง

 

เศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้สร้างบ้านเดือน พ.ค.ปรับขึ้นแตะ 44 จาก 41 ในเดือน เม.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ แม้ว่าดัชนีจะยังคงต่ำกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งชี้ว่ากลุ่มผู้สร้างบ้านมีมุมมองต่อตลาดในเชิงลบมากกว่าในเชิงบวก และดัชนียังไม่เคยปรับตัวเหนือระดับ 50 มานับตั้งแต่เดือน เม.ย.2549 แต่ดัชนีก็กระเตื้องขึ้นอย่างต่อเนื่องพร้อมกับตลาดที่อยู่อาศัยโดยรวม โดยเพิ่มขึ้น 16 จุดจากปีที่แล้ว

 

เศรษฐกิจสหรัฐ ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง 0.5% ในเดือน เม.ย. ร่วงหนักกว่าที่ตลาดคาดการณ์ โดยการผลิตของโรงงานหดตัวลง 0.4% แย่ที่สุดนับตั้งแต่เดือน ต.ค.ปีที่แล้ว ส่วนการผลิตสาธารณูปโภคร่วงลง 3.7% และการผลิตของเหมืองแร่ขยับขึ้นเพียง 0.9% ทั้งนี้ อัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมร่วงลงแตะ 77.8% สำหรับการผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือน มี.ค.ถูกปรับทบทวนเป็นขยายตัวเพียง 0.3% จากเดิมที่รายงานว่าขยายตัว 0.4% ส่วนอัตราการใช้กำลังการผลิตโดยรวมเดือน มี.ค.ถูกปรับลดเหลือ 78.3% จากเดิมที่รายงานว่าอยู่ที่ 78.5%

 

เศรษฐกิจยุโรป EU เห็นพ้องให้ความคุ้มครองบัญชีเงินฝากที่มียอดไม่เกิน 100,000 ยูโร หากธนาคารอยู่ในภาวะล้มละลาย ซึ่งจะ

ควรได้รับสิทธิยกเว้นและเป็นรายสุดท้ายที่จะสูญเสียเงินต่อจากผู้ถือ พันธบัตรรายใหญ่ โดยมีเสียงสนับสนุนให้สิทธิดังกล่าวครอบคลุมถึงผู้ฝากเงินเกิน 100,000 ยูโรด้วย แต่ทั้งนี้ ควรขึ้นอยู่กับเงื่อนไขในการฝาก และควรจัดให้อยู่ในกลุ่มท้าย ๆ ของการให้ความช่วยเหลือ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังอนุมัติการเพิ่มงบใช้จ่ายของ EU ในปีนี้ที่ 7.3 พันล้านยูโร

 

เศรษฐกิจเอเชีย ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ(real GDP) ของญี่ปุ่นในไตรมาสแรกปีนี้ ขยายตัว 3.5% ต่อปี ทำสถิติขยายตัวติดต่อกัน 2 ไตรมาส เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคและยอดการส่ง ออก ทั้งนี้ เศรษฐกิจมีการขยายตัวสูงกว่าการคาดการณ์โดยเฉลี่ยของตลาดที่คาดว่าจะขยายตัว เพียง 2.8% ต่อปี ซึ่งเพิ่มมุมมองที่เป็นบวกว่า นโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลเริ่มส่งผลดีต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยรายงานระบุว่า การใช้จ่ายของผู้บริโภคขยายตัว 0.9% ยอดส่งออกขยายตัว 3.8% เป็นครั้งแรกในรอบ 4 ไตรมาส แต่การลงทุนภาคธุรกิจปรับตัวลง 0.7% ทำสถิติลดลงติดต่อกัน 5 ไตรมาส

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เก็บแท่งเข้าพอรืท 1 ก้อนได้ราคาเปิด19700 บาทครับเมื่อเช้า :17 งานงอกทุกวันเลยไปกินข้าวก่อนน้าเดี๋ยวบ่ายมาเคลียร์ต่อ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณวิเคราะห์ทองจากกูรูต่างๆมากๆๆค่ะน้องลิน ดช เม่า คุณ mint คุณ ginger และทุกท่าน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เก็บแท่งเข้าพอรืท 1 ก้อนได้ราคาเปิด19700 บาทครับเมื่อเช้า :17 งานงอกทุกวันเลยไปกินข้าวก่อนน้าเดี๋ยวบ่ายมาเคลียร์ต่อ

 

เก็บแท่งแล้วนะคะคุณบาส ทานข้าวให้อร่อยน้า

 

คุณบาสคะ

ตอนนี้มองราคาจะติดแนวต้านที่ 1420 หรือเท่าไหร่ เพราะพี่กบก็มองทองเป็นขาลงตามอย่างคุณบาสและหลายๆท่านวิเคราะห์

เลยอยากจะ cut ไปก่อนแล้วค่อยซื้อกลับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...