ทิศทางทอง--ตอน thaigold2

[jiin 1]

สวัสดี เช้าวันเสาร์ค่ะ

วันนี้ไม่ต้องรีบ ลูกหยุดโรงเรียน

รอ อาจารย์ทองใหม่ค่ะ

[ทองใหม่ 7,435]

-

[ทองใหม่ 7,435]

กราฟตาแป๊ะทองรายวัน ตาแป๊ะเขาเปิดให้ดูฟรีเฉพราะวันอังคารกับพฤหัสฯจ้า มีบางวันหากเขาลืมปิดก็ได้ดูเพิ่มครับ

กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว 卖 ---ขาย ตัวหนังสือสีแดง买----ซื้อ เส้นหักมุม(เส้นเส้นคู่เล็กบางสีขาง+เหลืองอ่อน)ขึ้น—ลง ตามมุมที่หัก(ให้ผลระยะกลางยาว)

ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้อมากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง

ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน

ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้

[ทองใหม่ 7,435]

กราฟตาแป๊ะดอลล์รายวัน ตาแป๊ะเขาเปิดให้ดูฟรีเฉพราะวันอังคารกับพฤหัสฯจ้า มีบางวันหากเขาลืมปิดก็ได้ดูเพิ่มครับ

กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว 卖 ---ขาย ตัวหนังสือสีแดง买----ซื้อ เส้นหักมุม(เส้นเส้นคู่เล็กบางสีขาง+เหลืองอ่อน)ขึ้น—ลง ตามมุมที่หัก(ให้ผลระยะกลางยาว)

ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้อมากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง

ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน

ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้

[ทองใหม่ 7,435]

กราฟตาแป๊ะน้ำมันรายวัน ตาแป๊ะเขาเปิดให้ดูฟรีเฉพราะวันอังคารกับพฤหัสฯจ้า มีบางวันหากเขาลืมปิดก็ได้ดูเพิ่มครับ

กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว 卖 ---ขาย ตัวหนังสือสีแดง买----ซื้อ เส้นหักมุม(เส้นเส้นคู่เล็กบางสีขาง+เหลืองอ่อน)ขึ้น—ลง ตามมุมที่หัก(ให้ผลระยะกลางยาว)

ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้อมากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง

ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน

ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้

[ทองใหม่ 7,435]

ETF

[ทองใหม่ 7,435]

ดาวโจนส์ปิดบวก 57.90 จุด-น้ำมันปรับขึ้นปิดที่82.66ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

วันเสาร์ที่ 09 ตุลาคม 2010 เวลา 07:57 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ

 

 

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดเมื่อคืนนี้ (8 ส.ค.) ดัชนีดาวโจนส์บวก 57.90 จุด หรือ 0.53% ปิดที่ 11,006.48 จุด เป็นการปิดบวกเหนือระดับ 11,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ดัชนีเอสแอนด์พี 500ปิดบวก 7.09 จุด หรือ 0.61% ปิดที่ 1,165.15 จุด และดัชนีแนสแดค เพิ่มขึ้น 18.24 จุด หรือ 0.77% ปิดที่ 2,401.91 จุด

 

ตลาดหุ้นปิดบวกได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร เดือนกันยายนลดลง 95,000 ตำแหน่ง ซึ่งลดลงเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน โดยภาคเอกชนจ้างงานเพิ่มขึ้นน้อยเกินคาดเพียง 64,000 ตำแหน่ง ขณะที่ภาครัฐลดพนักงานลง 159,000 ตำแหน่ง ส่วนอัตราว่างงานทรงตัวที่ระดับ 9.6%

 

นักวิเคราะห์ชี้ว่าตัวเลขดังกล่าวสะท้อนว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังฟื้นตัวอย่างเชื่องช้า ซึ่งมีผลให้นักลงทุนคาดการว่าการประชุมเฟด 2-3 พ.ย.นี้ เฟดจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่ออัดฉีดสภาพคล่องสู่ระบบเศรษฐกิจ

 

นอกากนี้ การทะยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทเอกชนหลาย จะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อทิศทางของตลาดในช่วงหลายสัปดาห์ต่อจากนี้

 

ด้านตลาดน้ำมันไนเม็กซ์ของสหรัฐ ราคาน้ำมันดิบ ไลท์สวีต ครูด งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 99 เซนต์ ปิดที่ 82.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วน เบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 60 เซนต์ ปิดที่ 84.03 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

 

 

ขณะที่ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบ เดือนธันวาคม เพิ่มขึ้น 10.30 ดอลลาร์สหรัฐ ปิดที่ระดับ 1,345.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์

[ทองใหม่ 7,435]

ไทยออยล์คาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันรอบสัปดาห์

วันเสาร์ที่ 09 ตุลาคม 2010 เวลา 05:31 น. กอง บก.ออนไลน์ ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์สรุปสถานการณ์น้ำมันวันที่ 28 ก.ย. – 4 ต.ค. 53 และคาดการณ์แนวโน้มราคาน้ำมันวันที่ 5 - 11 ต.ค. 53

น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส: ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาปิดที่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 สัปดาห์ ที่ 81.58 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากปัจจัยพื้นฐานของราคาน้ำมันที่ปรับตัวดีขึ้น หลังปริมาณน้ำมันคงคลังรวมของสหรัฐฯ ปรับลดลงจากระดับที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ ประกอบกับ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลงไปมาก จากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้เงินลงทุนไหลเข้ามาในตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ ตลาดกังวลต่อปริมาณการผลิตน้ำมัน จากเหตุการณ์การประท้วงในฝรั่งเศสและความวุ่นวายในประเทศเอกวาดอร์

 

ประมวลสถานการณ์ที่มีผลต่อราคาน้ำมันดิบในช่วงวันที่ 28 ก.ย. – 4 ต.ค. 53

 ปริมาณน้ำมันคงคลังของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังและปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับลดลงมากถึง 3.5 และ 1.3 ล้านบาร์เรล ตามลำดับ จากการที่มีการนำเข้าลดลง และโรงกลั่นกำลังอยู่ในช่วงปิดซ่อมบำรุงประจำปี ประกอบกับการใช้น้ำมันในประเทศปรับตัวสูงขึ้น

 นักลงทุนเข้ามาลงทุนในตลาดน้ำมันเพิ่มขึ้น หลังเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 6 เดือน เมื่อเทียบกับเงินยูโร จากการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ น่าจะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งจากการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์ ส่งผลให้สินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เช่น ทองคำ และเงิน ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากด้วย

 ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ประกาศในช่วงปลายสัปดาห์ออกมาดีขึ้น โดยยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานประจำสัปดาห์ปรับลดลงมากกว่าคาด การเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไตรมาส 2/53 ขยายตัว 1.7% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากที่ได้รายงานไว้ในเดือนก่อน เนื่องจากยอดการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคขยายมากถึง 2.2% ซึ่งสูงสุดในรอบ 3 ปี นอกจากนี้ ยอดสัญญาซื้อขายบ้านรอปิดการขายปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.3% ในเดือน ส.ค.

 ตัวเลขเศรษฐกิจของจีนออกมาในทิศทางที่ดีขึ้นเช่นกัน โดย PMI (Purchasing Manager Index) ซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของจีนในเดือน ก.ย.ปรับตัวเพิ่มขึ้น มาอยู่ที่ 53.8 จาก 51.7 ในเดือน ส.ค. ส่งผลให้ตลาดมีความมั่นใจต่อการขยายตัวของจีนที่เป็นไปอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้สถานีโทรทัศน์แห่งชาติของจีน คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของจีนปีนี้น่าจะขยายตัว 9.5% จากที่โต 9.1% ในปี 2552

 อย่างไรก็ตาม ตลาดเพิ่มความกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ในยุโรป หลังเครดิตเรตติ้งมูดี้ปรับอันดับความน่าเชื่อถือของธนาคารพาณิชย์ของไอร์แลนด์ Anglo Irish Bank ลดลงถึง 3 ลำดับ มาอยู่ที่ Baa3 และมีข่าวว่า ธนาคารพาณิชย์หลายแห่งในยุโรปมีความจำเป็นต้องปรับเพิ่มเงินทุนสำรองอีกครั้ง รวมทั้ง มีการปรับประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในยุโรป เช่น กรีซ ที่คาดว่าน่าจะหดตัวอีก 2.6% ในปีหน้า

 การประท้วงของคนงานในฝรั่งเศสเกี่ยวกับการปฏิรูประบบบำเหน็จบำนาญกลับมาอีกครั้ง ส่งผลให้มีการปิดท่าเรือขนส่งน้ำมันหลักทางตอนใต้ของประเทศ ทำให้เรือน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปไม่สามารถเข้าเทียบท่าได้ ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตของโรงกลั่นน้ำมันดิบ 7 แห่งของฝรั่งเศสที่ใช้ท่าเรือดังกล่าวในการรับส่งน้ำมัน

 เกิดเหตุความวุ่นวายขึ้นในเอกวาดอร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศสมาชิกของกลุ่มโอเปก หลังจากทหารและตำรวจออกมาประท้วงเพื่อคัดค้านการปรับลดสิทธิประโยชน์ที่จะได้รับจากรัฐบาล ส่งผลให้ตลาดกังวลว่า จะกระทบต่อการผลิตและการส่งออกน้ำมันดิบของเอกวาดอร์ ซึ่งส่งออกน้ำมันดิบกว่า 300,000 บาร์เรลต่อวัน

 

ปัจจัยที่น่าจับตามองในระยะนี้

 ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ดัชนีภาคการบริการ รายงานสถานการณ์ตลาดแรงงาน และอัตราการว่างงาน และตัวเลขอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของยุโรปในวันพุธ

 การประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ สำหรับไตรมาส 3/53 โดยบริษัท อัลโค จะเป็นบริษัทแรกในกลุ่มอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่จะประกาศผลประกอบการในวันที่ 7 ต.ค. นี้

 การประท้วงของคนงานท่าขนส่งน้ำมันหลักของฝรั่งเศส ซึ่งถ้ายังยืดเยื้อต่อไป จะส่งผลให้โรงกลั่นน้ำมัน 7 แห่งในประเทศอาจจะต้องปรับลดการผลิต เนื่องจากเรือขนน้ำมันดิบไม่สามารถเข้าเทียบท่าได้

 ธนาคารกลางสหรัฐฯ เตรียมตัวที่จะอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบระลอก 2 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ไม่ให้อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจช้าลงไปกว่านี้ ซึ่งคาดว่าจะทราบผลในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย. นี้

 การประชุมโอเปกในวันที่ 14 ต.ค. นี้ ที่กรุงเวียนนา ออสเตรีย ซึ่งคาดว่า โอเปกน่าจะตัดสินใจคงโควตาการผลิตน้ำมันดิบไว้ที่ระดับเดิมที่ 24.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่อาจจะเรียกร้องให้สมาชิกปฏิบัติตามโควตาเดิมที่วางไว้

 พายุเฮอริเคนในบริเวณมหาสมุทรแอตแลนติกที่ยังมีโอกาสก่อตัวขึ้นในเดือน ต.ค. แต่น่าจะลดปริมาณลง ปัจจุบัน มีเฮอริเคนเกิดขึ้นแล้วทั้งสิ้น 6 ลูก จากที่มีการพยากรณ์จำนวนพายุเฮอริเคนในปีนี้ไว้ที่ 8-12 ลูก

แนวโน้มราคาน้ำมันในช่วงวันที่ 5 - 11 ต.ค. 53

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้น่าจะแกว่งตัวอยู่ในช่วง 77-84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยเฉพาะ ตัวเลขการจ้างงานและอัตราการว่างงาน รวมทั้งผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่จะเริ่มประกาศในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ และการตัดสินใจลงทุนของนักลงทุนในตลาด นอกจากนี้ ติดตามสถานการณ์การประท้วงในฝรั่งเศสว่าจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันอย่างที่ตลาดกังวลกันหรือไม่

[ทองใหม่ 7,435]

หยวนแข็งค่าก่อนประชุมไอเอมเอฟ

วันเสาร์ที่ 09 ตุลาคม 2010 เวลา 05:53 น. ถิรัต คุณานิธิพงศ์ ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ

 

เมื่อวันที่ 8 ต.ค.ค่าเงินหยวนของจีนแข็งค่าขึ้นที่สุดนับตั้งแต่จีนประกาศจะผ่อนคลายการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยนในเดือนมิถุนายน ในช่วงเวลาเดียวกับที่เหล่าผู้นำเศรษฐกิจโลกกำลังรวมตัวกันที่กรุงวอชิงตันเพื่อพยายามป้องกันปัญหาสงครามค่าเงิน

 

โดยเมื่อวานนี้ธนาคารกลางของประเทศจีนกำหนดค่ากลางของอัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนไว้ที่ 6.6830 ต่อ 1 ดอลลาร์ ก่อนจะปรับขึ้นไปอีกที่ 6.6710 ต่อ 1 ดอลลาร์ สูงที่สุดตั้งแต่ที่จีนได้ทำสัญญาว่าจะปฏิรูประบบอัตราแลกเปลี่ยน โดยนับเป็นการแข็งค่าขึ้น 2.3%

 

ค่ากลางของอัตราแลกเปลี่ยนนั้นเป็นอัตราที่กำหนดไว้โดยทางการจีนจะให้ปรับขึ้นหรือลงได้ไม่เกิน 0.5% ใน 1 วันของการค้าขาย

 

โดยก่อนหน้านี้จีนก็เคยปรับค่าเงินหยวนให้แข็งค่าขึ้นก่อนจะมีเหตุการณ์การประชุมสำคัญซึ่งจีนคาดว่าจะต้องโดนกดดันอย่างหนักในเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนจากทางสหรัฐฯและยุโรป สำหรับในครั้งนี้ก็เช่นกันที่จีนปรับขึ้นก่อนที่จะมีการประชุมของรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของ 187 ประเทศเข้าร่วมประชุมประจำปีกับทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ

[ทองใหม่ 7,435]

ราคาทองขึ้น 150 บาท ทองแท่งขายที่ 19,050บ./รูปพรรณ 19,450บ.

วันเสาร์ที่ 09 ตุลาคม 2010 เวลา 09:31 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

 

สมาคมค้าทองคำประกาศราคาซื้อขายทองคำแท่งและทองรูปพรรณวันนี้ (9 ต.ค.) ทองคำแท่งราคารับซื้อที่บาทละ 18,950บาท และขายที่ 19,050 บาท ทองรูปพรรณ รับซื้อที่ 18,677.12 บาท และขายที่ 19,450 บาท

 

 

 

ราคาทองวันนี้ปรับเพิ่มขึ้น บาท เมื่อเทียบกับราคาซื้อขายเมื่อวานนี้ (8 ต.ค.) โดยวานนี้ ทองคำแท่งขายที่บาทละ 18,900 บาท ส่วนทองรูปพรรณขายที่บาทละ 19,300 บาท

 

ทางด้านทองคำตลาดต่างประเทศปิดเมื่อคืนนี้ (8 ต.ค.) ทองคำโคเม็กซ์ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่ง 10.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,345.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคทองคำปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,347.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมื่อวันพุธ 6 ต.ค.

[ทองใหม่ 7,435]

หุ้นไทยสัปดาห์หน้าดัชนียังแกว่งตัวอยู่ในช่วงปรับฐานระยะสั้น

วันเสาร์ที่ 09 ตุลาคม 2010 เวลา 09:48 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

 

บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย และบริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย สรุปภาวะตลาดทุนสัปดาห์ที่ผ่านมา (4-8 ต.ค.)ตลาดหุ้นไทย “ดัชนี SET ปรับตัวลดลง จากความกังวลเกี่ยวกับทิศทางค่าเงินบาท”ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 963.19 จุด ปรับตัวลดลง 1.57% จาก 978.58 จุด ในสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ปรับขึ้น 31.13% จากสิ้นปี 2552 ขณะที่ มูลค่าการซื้อขายรวมทั้งสัปดาห์ลดลง 7.84% จาก 199,032.66 ล้านบาท ในสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 183,420.79 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ลดลงจาก 39,806.53 ล้านบาทในสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 36,684.16 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิที่ 3,111.20 ล้านบาท ขณะที่นักลงทุนรายย่อย บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ และนักลงทุนสถาบันขายสุทธิที่ 1,675.28 ล้านบาท 840.94 ล้านบาท และ 594.98 ล้านบาท ตามลำดับ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 248.89 จุด ปรับลดลง 0.77% จาก 250.81 จุด ในสัปดาห์ก่อนหน้า แต่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.60% จากสิ้นปีก่อน

 

ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลดลง จากความกังวลเกี่ยวกับท่าทีของ ธปท.ในการรับมือกับการแข็งค่าของเงินบาท ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงในวันจันทร์ จากแรงขายทำกำไรของนักลงทุน ขณะที่ตลาดระมัดระวังและรอดูท่าทีของทางการในการรับมือกับการแข็งค่าของเงินบาท อย่างไรก็ตาม ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นในวันอังคาร จากแรงซื้อหุ้นกลับที่นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน อสังหาริมทรัพย์ และธนาคาร หลังจากยังไม่มีการออกมาตรการควบคุมเงินทุนไหลเข้าและมาตรการชะลอการแข็งค่าของเงินบาทจากทางการ จากนั้น ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในวันพุธ ตามทิศทางตลาดหุ้นต่างประเทศ และการปรับขึ้นของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่หนุนแรงซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน กระนั้นก็ดี ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับแรงขายทำกำไรในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ท่ามกลางการชะลอการซื้อขายของนักลงทุน เนื่องจากยังรอความชัดเจนเกี่ยวกับมาตรการดูแลเงินบาทที่แข็งค่า รวมถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยด้วย

 

สำหรับแนวโน้มในสัปดาห์หน้า (11-15 ต.ค. 2553) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทยและบริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีอาจยังแกว่งตัวอยู่ในช่วงของการปรับฐานระยะสั้น ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทของทางการ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ท่าทีของ ธปท.และกระทรวงการคลังต่อประเด็นค่าเงิน ซึ่งรวมถึงการพิจารณามาตรการในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 12 ต.ค. และการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ตลอดจนการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญโดยเฉพาะของสหรัฐฯ อาทิ ยอดค้าปลีก และบันทึกการประชุมเฟด ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 952 และ 940 จุด ขณะที่ แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 982 และ 992 จุด ตามลำดับ

[innocent 5]

ขอบคุณค่ะอาจารย์ทองใหม่ +1กำลังใจค่ะ !thk

[puk_pook 25]

สวัสดียามเช้าค่ะ ท่าน อ.ทองใหม่

วันหยุด ยังหาข้อมูลข่าวสาร มาให้อ่านอีก !10

พักผ่อนมาก ๆ นะค่ะ ขอให้มีสุขภาพแข็งแรง ทุก ๆ วันค่ะ !30

ให้กำลังใจ +1 ด้วยค่ะ !thk !10 !031 !gd

[patcharin 51]

กราฟตาแป๊ะน้ำมันรายวัน ตาแป๊ะเขาเปิดให้ดูฟรีเฉพราะวันอังคารกับพฤหัสฯจ้า มีบางวันหากเขาลืมปิดก็ได้ดูเพิ่มครับ

กราฟตาแป๊ะซ้ายบน ตัวหนังสือสีเขียว 卖 ---ขาย ตัวหนังสือสีแดง买----ซื้อ เส้นหักมุม(เส้นเส้นคู่เล็กบางสีขาง+เหลืองอ่อน)ขึ้น—ลง ตามมุมที่หัก(ให้ผลระยะกลางยาว)

ขวาบน เส้นสีแดง---เสนอซื้อมากกว่าเสนอขาย เส้นสีเขียว---เสนอขายมากกว่าเสนอซื้อ ส่วนช่วงกลางที่มีแท่งสีแดงกับเขียวนั้น แท่งแดง---แรงซื้อขึ้น แท่งเขียว---แรงขายลง

ขวาช่องสอง แท่งเหลืองคู่เส้นแดง---ขาขึ้น แท่งฟ้าคู่เส้นเขียว---ขาลง โดยปกติ ช่องนี้จะเปลี่ยนแนวโน้มช้ากว่าเพื่อน หากเปลี่ยนแนวโน้มเมื่อไหร่ เขาให้ขายออกหรือซื้อเข้าได้ทันที่ ยกเว้นมีปัจจัยพื้นฐานแรงๆแทรกเข้ามา จึงจะทำให้แนวโน้มกลับเปลี่ยนได้โดยกะทันหัน

ซ้ายช่องสอง หน้าเหลืองแป๊ะยิ้ม---ขาขึ้น หน้าแดงแป๊ะร้องไห้---ขาลง แท่งสีเขียว---เพดาน แท่งสีแดง---พื้นดินโดยปกติ ช่องนี้จะส่งสัญญาณว่า กำลังจะเปลี่ยนแนวทางแล้วนะ แต่ยังไม่เต็มร้อย อาจมีการเปลี่ยนแปลงโดยกะทันหันก็ได้ ต้องดูซ้ายบนและขวาช่อง๒ประกอบด้วย จึงจะให้ความมั่นใจได้

ขอบคุณคร้าอ.ทองใหม่ ดูหน้าตาแป๊ะแล้วขำจังค่ะ เจอแบบนี้ทำหน้าไม่ถูก อิอิ จายิ้มหรือจาร้องไห้ดีน๊า สับสนจัง ดูน่ารักดีคร้าจารย์ !01 !01 !01 !57

อุ๊ยจารย์คร้า ดูผิดกราฟ เดี๋ยวไปดูกราฟทองดีกว่า กราฟทองหน้ายังหงิกอยู่เลยคร้า อยากให้ยิ้มจัง

ถูกแก้ไข ตุลาคม 9, 2010 โดย Arpat

[Yvelines 6]

+1 ขอบคุณค่ะ คุณทองใหม่