ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณสำหรับข้อมูลคะ

 

ขอให้อาจารย์สุขภาพแข็งแรง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอาสรุปของอาจารย์ก็ไ้ด้คะ !10 !10

วันนี้มามาตรใหม่ ทิศทางสรุปจากกราฟของผม เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบดูกราฟ เป็นทิศทางระยะกลางยาว อาจช่วยผู้ที่เล่นทองแท่งและทองฟิวเจอร์และทองกองทุนได้ ขอบอกไว้ก่อนว่า ทิศทางนี้ไม่อาจขายได้ในราคาสูงสุดและซื้อได้ในราคาต่ำสุด หากเปรียบเป็นปลา เราไม่อาจทานหัวปลาและหางปลาได้ แต่เราจะเลือกทานที่ลำตัวปลาเท่านั้น ทิศทางนี้โอกาสผิดพลาดน้อย ปลอดภัยมากกว่ากันเยอะเลย ผมมีบทสรุปให้4แนว ตั้งแต่ผู้มีทุนน้อยถึงทุนมาก จากทิศทางกลางสั้นถึงยาว (เล่นยาวอาจต้องทนต่อการเคลื่อนไหวขึ้นลงที่มากน้อย ต้องมีทุนสำรองกันพอร์ตแตก) ให้เพื่อนๆพิจารณาตามสถานะของตัวเองได้เลยครับ

สรุปทิศทางระยะกลางสั้นถึงยาวจากกราฟ

30นาที ทิศทางทองลงเมื่อวันที่12 ตค. ช่วงราคาที่ 1348ยังไม่มั่นคง อาจมีการกลับขึ้น-ลง ก็ได้

1ชม. ทิศทางทองขึ้นเมื่อวันที่8 ตค. ช่วงราคาที่ 1345.70

4ชม. ทิศทางทองขึ้นเมื่อวันที่13 กย. ช่วงราคาที่ 1265.2

1วัน ทิศทางทองขึ้นเมื่อวันที่12 สค. ช่วงราคาที่ 1213.70

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
:lol: :lol: ขอบคุณค่ะคุณทองใหม่ ตอนนี้รอน้องทองย่ออย่างเดียวเลยค่ะแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ :( :(

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้มามาตรใหม่ ทิศทางสรุปจากกราฟของผม เหมาะกับผู้ที่ไม่ชอบดูกราฟ เป็นทิศทางระยะกลางยาว อาจช่วยผู้ที่เล่นทองแท่งและทองฟิวเจอร์และทองกองทุนได้ ขอบอกไว้ก่อนว่า ทิศทางนี้ไม่อาจขายได้ในราคาสูงสุดและซื้อได้ในราคาต่ำสุด หากเปรียบเป็นปลา เราไม่อาจทานหัวปลาและหางปลาได้ แต่เราจะเลือกทานที่ลำตัวปลาเท่านั้น ทิศทางนี้โอกาสผิดพลาดน้อย ปลอดภัยมากกว่ากันเยอะเลย ผมมีบทสรุปให้4แนว ตั้งแต่ผู้มีทุนน้อยถึงทุนมาก จากทิศทางกลางสั้นถึงยาว (เล่นยาวอาจต้องทนต่อการเคลื่อนไหวขึ้นลงที่มากน้อย ต้องมีทุนสำรองกันพอร์ตแตก) ให้เพื่อนๆพิจารณาตามสถานะของตัวเองได้เลยครับ

สรุปทิศทางระยะกลางสั้นถึงยาวจากกราฟ

30นาที ทิศทางทองลงเมื่อวันที่12 ตค. ช่วงราคาที่ 1348ยังไม่มั่นคง อาจมีการกลับขึ้น-ลง ก็ได้

1ชม. ทิศทางทองขึ้นเมื่อวันที่8 ตค. ช่วงราคาที่ 1345.70

4ชม. ทิศทางทองขึ้นเมื่อวันที่13 กย. ช่วงราคาที่ 1265.2

1วัน ทิศทางทองขึ้นเมื่อวันที่12 สค. ช่วงราคาที่ 1213.70

 

อาจารย์คะ แอบบอกความจริงว่า งงๆนิดๆคะ คือ บอกว่า แนวโน้ม ทองวันนี้ 30 นาทีลงใช่ไหมคะ แต่ยังไม่แน่นอน อาจมีการกลับทิศได้ ถูกหรือเปล่าคะ

 

ปล ขอบคุณคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อาจารย์คะ แอบบอกความจริงว่า งงๆนิดๆคะ คือ บอกว่า แนวโน้ม ทองวันนี้ 30 นาทีลงใช่ไหมคะ แต่ยังไม่แน่นอน อาจมีการกลับทิศได้ ถูกหรือเปล่าคะ

 

ปล ขอบคุณคะ

ใช่แล้วครับ เพราะทิศทางเพิ่งแตะแนวโน้มลง จึงยังไม่มั่นคงแข็งแรง อาจกลับเป็นขึ้นใหม่ก็ได้ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณค่ะ คุณทองใหม่ ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะคะ

 

วันนี้มา +2 ให้กราฟตาแป๊ะค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักวิเคราะห์คาด ค่าเงินเอเชียมีแนวโน้มอ่อนค่าหลังนักลงทุนชะลอแรงขายดอลลาร์สหรัฐ

 

Posted on Tuesday, October 12, 2010

อุสรา วิไลพิชญ์ นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) กล่าวว่า ค่าเงินเอเชียเริ่มมีทิศทางที่เสถียรภาพมากขึ้น หลังจากที่มีแรงขายค่าเงินดอลลาร์สหรัฐออกมามากเกินไปแล้ว (Over Sold) ประกอบกับการยังไม่ได้มีการทำข้อตกลงที่ชัดเจนระหว่างกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลกในการจัดการกับความขัดแย้งในตลาดการเงินโลก ทำให้นักลงทุนเริ่มชะลอการขายเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐและซื้อค่าเงินเอเชีย ส่งผลให้ค่าเงินเอเชียสัปดาห์นี้เริ่มนิ่ง และค่าเงินบางสกุลก็อ่อนค่าลงบ้าง สะท้อนให้เห็นว่าเงินทุนไหลเข้าระยะสั้นในเอเชียเริ่มชะลอตัวลงในอนาคตอันใกล้นี้

 

ปัจจุบันธนาคารกลางของแต่ละประเทศในเอเชียมีแนวคิดการออกมาตรการสกัดกั้นเงินทุนต่างชาติ เช่น ไทย และเกาหลี ออกมาบ้างแล้ว ซึ่งแม้ว่ายังไม่ได้ประกาศเป็นมาตรการออกมาอย่างชัดเจน แต่ก็เริ่มทำให้ค่าเงินเอเชียอ่อนค่าลงแล้ว ประกอบกับนักลงทุนต่างชาติได้รับกำไรจากการลงทุนในสินทรัพย์และอัตราแลกเปลี่ยนที่เพิ่มขึ้นมาก ทำให้กรอบการแข็งค่าของค่าเงินเอเชียเริ่มมีจำกัดขึ้น จึงเชื่อว่าค่าเงินเอเชียน่าจะมีแสถียรภาพมากขึ้นหรืออ่อนค่าลงในช่วงที่เหลือของปีนี้

 

อุสรายังแนะนำให้นักลงทุนติดตามปริมาณเงินที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะประกาศมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (Quantitative Easing : QE) ออกมา ซึ่งหากเป็นจำนวนที่มาก ในขณะที่อัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ยังทรงตัวในระดับต่ำ ก็จะกระตุ้นให้มีเม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าเอเชียอีกครั้งในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2554 แต่หากใช้เม็ดเงินที่น้อยมาก ก็จะทำให้นักลงทุนผิดหวังและอาจชะลอการเข้าลงทุนออกไป

 

สำหรับกรอบค่าเงินบาทในวันนี้ มีแนวรับสำคัญที่ 30.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และให้แนวต้านไว้ที่ 30.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ โดยเชื่อว่าค่าเงินบาทจะแกว่งตัวในกรอบแคบ ๆ ไปจนกว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะประกาศผลการประชุมที่เกี่ยวข้องกับมาตรการเข้ามาดูแลค่าเงินบาทออกมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาน้ำมันดิบอ่อนตัว หลังดอลลาร์สหรัฐแข็งและจีนปรับเพิ่มสำรองของธนาคารพาณิชย์

 

Posted on Tuesday, October 12, 2010

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน พ.ย. ปรับลดลง 0.45 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 82.21 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ปัจจัยบวกที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

 

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งค่าขึ้นเมื่อคืนเทียบเคียงกับค่าเงินยูโร โดยสาเหตุหลักมาจากการคาดการณ์ของบรรดานักค้าเงินว่าในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงมากและเร็วเกินไป ประกอบกับทางประธานกลุ่มยูโรได้แสดงความเห็นว่า ค่าเงินดอลลาร์ไม่ควรจะอ่อนค่าเกินระดับ 1.40 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร ในช่วงสั้นจึงมีความเป็นไปได้ที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐจะดีดตัวกลับขึ้นบ้าง ส่งผลให้เมื่อคืนนักลงทุนบางส่วนกลับมาซื้อดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งขายน้ำมันออกมา

 

- ทางการจีนออกมาตรการเพิ่มสำรองของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ 6 แห่งในประเทศจีนประมาณ 2 เดือน ก่อนจะปรับลงสู่ระดับเดิมโดยครั้งนี้เพิ่มขึ้นอีก 0.5% ส่งผลให้อัตราเงินทุนสำรองสำหรับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ในจีนปัจจุบันอยู่ที่ 17.5% โดยนักวิเคราะห์คาดว่าสาเหตุหลักที่ทางการจีนออกมาตรการดังกล่าวเพิ่มเติมเนื่องจากกังวลว่ายอดปล่อยกู้ของธนาคารพาณิชย์ทั้งปีจะเกินเป้าหมายที่ทางการจีนกำหนดไว้ คือ 7.5 ล้านล้านหยวน ผลจากมาตรการดังกล่าวส่งผลให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของความต้องการใช้สินค้าโภคภัณฑ์ รวมทั้งน้ำมันของจีนว่าจะขยายตัวมากอย่างที่คาดไว้ตอนแรกหรือไม่

 

- บริษัทเอนบริดจ์ เปิดเผยว่าท่อส่งน้ำมันดิบสาย 6A ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างแคนาดาและสหรัฐฯ กลับมาให้บริการได้ตามปกติแล้ว หลังจากต้องหยุดซ่อมบำรุงชั่วคราวตั้งแต่เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังตรวจพบปัญหาที่จะเป็นความเสี่ยงทำให้น้ำมันดิบรั่วซึมได้

 

ปัจจัยบวกที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

 

+ การปิดท่าเรือประท้วงของคนงานในฝรั่งเศสที่เนื่องเข้าวันที่ 14 ส่งผลให้โรงกลั่นน้ำมันหลายแห่งต้องปิดดำเนินการ รวมทั้งลดกำลังการผลิตลง เนื่องจากขาดแคลนน้ำมันดิบเข้ากลั่น ส่งผลให้ปริมาณน้ำมันสำเร็จรูปในทวีปยุโรป รวมถึงปริมาณที่ส่งไปยังประเทศแถบเมดิเตอร์เรเนียน และแอฟริกาปรับลดลง ถือเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ราคาน้ำมันสำเร็จรูปในยุโรปปรับตัวสูงขึ้น โดยเฉพาะเบนซิน

 

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน พ.ย. ปรับลดลง 0.31 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 83.72 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันดิบดูไบ ตลาดสิงคโปร์ ส่งมอบเดือน พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 1.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 80.60 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 2.37 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 91.01 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากได้รับปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันเบนซินในยุโรปที่ยังยืนอยู่ในระดับสูง จากผลกระทบของการปิดท่าเรือประท้วงของคนงานฝรั่งเศส

 

ราคาน้ำมันดีเซลสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 1.56 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 93.61 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ประกอบกับได้รับแรงหนุนจากความต้องการในภูมิภาคที่มีอย่างต่อเนื่องจากอินโดนีเซีย และศรีลังกา

 

- สนับสนุนข้อมูลโดยบมจ. ไทยออยล์ -

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและธนาคารกลางทั่วโลกล้มเหลวแก้ปัญหาค่าเงิน

 

Posted on Tuesday, October 12, 2010

ที่ประชุมรัฐมนตรีคลังและธนาคารกลางทั่วโลกล้มเหลวแก้ปัญหาค่าเงิน

 

ประเทศผู้นำทางเศรษฐกิจทั้งหลายยังคงสะท้อนให้เห็นถึงความไม่ลงรอยกันในเรื่องนโยบายอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ ซึ่งอาจกลายเป็นอุปสรรคต่อเศรษฐกิจโลก โดยสำนักข่าวชื่อดังหลายแห่งพาดหัวประจานความล้มเหลวของการประชุมผู้บริหารภาคการเงินและการคลังนัดล่าสุด

 

สำนักข่าว Bloomberg ชูประเด็นในเรื่องความล้มเหลวของเหล่าบรรดารัฐมนตรีกระทรวงการคลังของประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำที่ไม่สามารถประนีประนอมในเรื่องความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับนโยบายทางด้านค่าเงินได้

 

แถมยังมีท่าทีที่จะหันหลังให้กับความพยายามของทางกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่อยากจะให้ทุกฝ่ายลดความขัดแย้ง ที่ตอนนี้ยกระดับกลายเป็นเรื่องการกีดกันทางการค้าไปแล้วทั่วโลก

 

รายงานข่าวระบุว่า เรื่องค่าเงินที่ถูกหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นหลักสำหรับการประชุมประจำปีของ IMF ในปีนี้ ไม่ได้ช่วยลดความขัดแย้งระหว่างรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ นาย Timothy Geithner และผู้ว่าการแบงก์ชาติของจีน นาย จ้าว เสี่ยวฉวน

 

นอกจากนี้ยังรวมถึงประเทศที่เป็นคู่ค้ากันอีกหลายราย ที่ต่างมองว่านโยบายของตนถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจโลก

 

ในตอนนี้จีนกำลังถูกกล่าวหาว่าทำการกดค่าเงินของตนให้อยู่ที่ระดับต่ำเกินจริง ขณะที่การกดดอกเบี้ยไว้ให้ต่ำจากทางสหรัฐฯ ก็ถูกวิจารณ์จากทางฝั่งประเทศตลาดเกิดใหม่ทั้งหลายว่า มีผลทำให้เงินทุนเคลื่อนย้ายไหลเข้ามาท่วมเศรษฐกิจตนมากยิ่งขึ้น

 

นักวิเคราะห์กลยุทธ์ค่าเงินของ Citigroup ในนิวยอร์กมองว่า แม้ผู้ดำเนินนโยบายแสดงท่าทีถึงความพยายามที่จะลดความกังวลของตลาดในเรื่องสงครามค่าเงิน แต่กลับไม่มีอะไรที่บ่งชี้ว่าประเทศที่มีส่วนเกี่ยวข้องจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนแต่อย่างใด ซึ่งในเรื่องทิศทางค่าเงินดอลลาร์ก็ไม่มีอะไรที่จะชัดเจนมากไปกว่าแนวโน้มการอ่อนค่าล

 

 

BOJ เรียกร้องรัฐบาลปฏิรูปเศรษฐกิจเชิงโครงสร้าง

 

นายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เรียกร้องให้รัฐบาลสนับสนุนการปฏิรูปเศรษฐกิจเชิงโครงสร้าง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นเรื่องการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

 

พร้อมกับเตือนว่า การใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้วอาจจะทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ในระบบเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ได้ เนื่องจากสถานการณ์ดังกล่าวจะกระตุ้นให้กระแสเงินทุนไหลเข้าประเทศจำนวนมาก

 

ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น ซึ่งได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมระดับนานาชาติในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังย้ำด้วยว่า นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเพียงอย่างเดียวนั้น ไม่สามารถแก้ปัญหาทุกอย่างได้ แต่นายชิรากาว่าไม่ได้ระบุหรือแสดงความคิดเห็นถึงการที่ธนาคารกลางญี่ปุ่นประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า นายชิรากาว่า กล่าวว่า การปฏิรูปเศรษฐกิจในเชิงโครงสร้างนั้น เป็นเรื่องที่จำเป็น เพราะจะช่วยกระตุ้นการผลิตให้ขยายตัวผ่านการพัฒนาในรูปแบบต่างๆ ขณะที่ประเทศอยู่ในระหว่างการกระตุ้นเศรษฐกิจ

 

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินรอบใหม่เพื่อพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนโยบายดังกล่าวประกอบด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยลงมาอยู่ที่ 0 - 0.1% รวมทั้งการจัดตั้งกองทุนซื้อพันธบัตรเพื่อกระตุ้นสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจ

 

ความเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่รัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านพยายามกดดันแบงค์ชาติญี่ปุ่นให้ดำเนินการมากกว่านี้ เพื่อแก้ปัญหาเงินฝืดและผลกระทบอันเนื่องมาจากเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นมาก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่ต้องพึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก

 

ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นยังเตือนด้วยว่า การใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในญี่ปุ่น สหรัฐ ยุโรปอย่างต่อเนื่องนั้น หากมีการใช้นโยบายดังกล่าวต่อไปอีกเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดผลกระทบรุนแรงได้

 

 

เกาหลีใต้ห่วงข้อพิพาทด้านค่าเงินอาจกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

 

นายลี เมียง บัค ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ได้แสดงความวิตกกังวลว่า ความขัดแย้งเรื่องค่าเงินอาจจะส่งผลกระทบในด้านลบต่อความพยายามในการพยุงเศรษฐกิจให้ฟื้นตัวขึ้นของประเทศต่างๆทั่วโลก

 

นายลีกล่าวในที่ประชุมผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่กรุงโซลเมื่อวานนี้ว่า "เศรษฐกิจโลกจะตกอยู่ภายใต้ลัทธิปกป้องผลประโยชน์ทางการค้าภายในประเทศของตนเอง หากแต่ละประเทศคำนึงถึงแต่สถานะและผลประโยชน์ของตนเองโดยไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องนโยบายต่างๆ รวมถึงนโยบายค่าเงิน

 

นอกจากนี้ ปธน. เกาหลีใต้ยังเชื่อว่าลัทธิปกป้องการค้าภายในประเทศของตนเองจะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกเผชิญกับภาวะเลวร้ายในที่สุด"

 

การแสดงความคิดเห็นของนายลีมีขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ที่ว่า ความขัดแย้งด้านค่าเงินระหว่างกลุ่มประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอาจกลายเป็นประเด็นหลักในที่ประชุมสุดยอด G20 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11-12 พ.ย.ที่กรุงโซล

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ประเทศในกลุ่มมหาอำนาจทางเศรษฐกิจ รวมถึงจีน ถูกมองว่า พยายามกดค่าเงินในประเทศให้อ่อนค่าลงเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านการส่งออก ซึ่งความพยายามดังกล่าวกำลังส่งผลให้เกิดข้อพิพาททางการค้า

 

 

นักเศรษฐศาสตร์คาด GDP จีน Q3 ต่ำกว่า 10%

 

ผลการสำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันการเงิน 22 แห่งของจีนชี้ว่า นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าอัตราการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนจะชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำกว่า 10% ในไตรมาส 3 โดยคาดว่า GDP จะขยายตัวอยู่ที่ 9.4%

 

นอกจากนี้ นักเศรษฐศาสตร์เหล่านี้ยังคาดการณ์ด้วยว่า การขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ย.อาจจะเทียบเท่าหรือเท่ากับอัตราการขยายตัวเมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา โดยมีการคาดการณ์การขยายตัวของ CPI โดยเฉลี่ย จะอยู่ที่ 3.5% เมื่อเทียบเป็นปีต่อปี

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ส่วนการขยายตัวของดัชนีราคาผู้ผลิตหรือ PPI อาจจะลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 ในเดือนก.ย. เนื่องจากตัวเลขการลงทุนที่อยู่ในระดับต่ำและยอดการขยายตัวด้านการส่งออกและนำเข้าที่ลดลง โดยนักเศรษฐศาสตร์คาดว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) จะขยายตัว 4.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี

 

นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่มองว่า นโยบายเศรษฐกิจมหภาคของจีนจะยังคงมีเสถียรภาพ

 

หลี่ ซุนเหล่ย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกัวไถ่ จูหนาน ซิเคียวริตีส์ กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยของจีนคงจะยังอยู่ที่ระดับปัจจุบันต่อไป แม้ว่าจะมีแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในระยะใกล้นี้

 

ขณะที่อัตราดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับที่เป็นลบเป็นเวลานาน อาจจะเป็นปัจจัยที่ทำให้จีนใช้นโยบายการเงินที่มีความเข้มงวดมากยิ่งขึ้น

 

 

เอกชนในเอเชียแปซิฟิกเพิ่มการใช้จ่ายด้านไอทีหลังเศรษฐกิจสดใส

 

ผลสำรวจความคิดเห็นซึ่งจัดทำโดยการ์ทเนอร์ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยที่ตั้งอยู่ในสิงคโปร์ ระบุว่า บริษัทในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีแนวโน้มที่จะเพิ่มงบประมาณด้านไอที แม้บริษัทในสิงคโปร์มีแนวโน้มที่จะปรับลดงบประมาณดังกล่าวลงก็ตาม

 

หนังสือพิมพ์บิสิเนส ไทม์สของสิงคโปร์รายงานเมื่อวานนี้ว่า การ์ทเนอร์ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของบริษัทชั้นนำด้านไอทีกว่า 1,500 แห่งใน 40 ประเทศและในหลายภูมิภาค ซึ่งพบว่า บริษัทเอกชนกำลังดำเนินการ เพื่อเพิ่มปริมาณการจัดตั้งศูนย์ข้อมูล การใช้ซอฟท์แวร์รุ่นใหม่ และอัพเกรดแอพพลิเคชั่นที่มีการใช้งานอยู่ในปัจจุบัน

 

งบประมาณการใช้จ่ายด้านไอทีโดยเฉลี่ยของบริษัทที่ตอบรับการสำรวจในเอเชียแปซิฟิกมีอยู่ราว 16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยผลการสำรวจพบว่ามีบริษัทกว่า 85% จัดสรรงบประมาณการใช้จ่ายในด้านนี้

 

นอกจากนี้ ผลสำรวจของการ์ทเนอร์ระบุว่า งบประมาณด้านไอทีของบริษัทในสิงคโปร์ถูกจัดสรรไปใช้ในโครงการซอฟท์แวร์สำหรับวิสาหกิจประมาณ 27% และ 32% ที่ถูกนำไปใช้ในการขอใบอนุญาตซอฟท์แวร์รุ่นใหม่

 

ส่วนการสำรวจในระดับโลกพบว่า 39% ขององค์กรทั่วโลกคาดการณ์ว่า งบประมาณด้านไอทีจะเพิ่มขึ้นในปี 2554 เมื่อเทียบกับงบประมาณที่ 44% ในเอเชียแปซิฟิก

 

 

ริโอ ทินโต ยืนยันไม่ล้มโครงการร่วมทุนสินแร่เหล็กกับบีเอชพี

 

แซม วอลช์ ซีอีโอของบริษัท ริโอ ทินโต เปิดเผยว่า โครงการร่วมทุนสินแร่เหล็กกับบริษัท บีเอชพี บิลลิตัน ยังไม่ล้ม แม้ว่าจะมีรายงานข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า ริโอ ทินโต มีแนวโน้มว่าจะยกเลิกโครงการร่วมทุนดังกล่าว

 

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โครงการร่วมทุนซึ่งจะสามารถผลิตแร่เหล็กได้ถึง 310 ล้านตันในอนาคตนั้น จะคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 3 ของยอดการส่งออกสินแรเหล็กทั่วโลก หากโครงการนี้ได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกำกับดูแลในญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สหภาพยุโรป ออสเตรเลีย เยอรมนี และไต้หวัน

 

อย่างไรก็ตาม วงในคาดว่า ข้อตกลงในโครงการดังกล่าวจะถูกยกเลิกภายในช่วงสิ้นปีนี้ เนื่องจากทั้ง 2 บริษัทน่าจะให้ความสำคัญกับโครงการอื่นที่มีแนวโน้มที่ดีกว่า

 

ผู้บริหารริโอ ทินโต กล่าวว่า โครงการร่วมทุนนี้ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นง่ายๆ เราต้องดูเรื่องมูลค่าของข้อตกลง และความเห็นของหน่วยงานกำกับดูแลด้วย โดยโครงการนี้มีมูลค่าสูงมาก ดังนั้นบริษัทคงจะไม่ถอยหลัง จนกว่าจะได้พยายามเดินหน้าอย่างเต็มที่แล้ว

 

 

CNOOC ซื้อหุ้นในโครงการน้ำมันของ Chesapeake Energy

 

บริษัท ไชน่า เนชั่นแนล ออฟชอร์ ออยล์ คอมพานี ลิมิเต็ด หรือซีนู้ค เปิดเผยว่า บริษัทตกลงซื้อหุ้น 33% มูลค่า 1,080 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในโครงการอีเกิ้ล ฟอร์ด ซึ่งเป็นโครงการน้ำมันและแก๊สธรรมชาติของบริษัท Chesapeake Energy Corp (เชซาพีคค์) ของสหรัฐ โดยมอบหมายให้บริษัท ซีนู้ค อินเตอร์เนชั่นแล ซึ่งเป็นบริษัทในเครือและผู้ผลิตน้ำมันและแก็สนอกชายฝั่งรายใหญ่ที่สุดของจีนเป็นผู้รับหน้าที่ในการซื้อหุ้นดังกล่าว แต่คาดว่าจะปรับราคากันอีกรอบ และคาดว่าการซื้อหุ้นครั้งนี้จะแล้วเสร็จก่อนสิ้นปีนี้

 

นอกจากนี้ ซีนู้คยังตกลงซื้อหุ้น 75% ในโครงการขุดเจาะน้ำมันของ Chesapeake โดยบริษัทเหล่านี้วางแผนที่จะพัฒนาแหล่งพลังงานซึ่งคิดเป็นสัดส่วนน้ำมันถึง 4 พันล้านบาร์เรลในอนาคต

 

ในฐานะที่ Chesapeake เป็นผู้บริหารโครงการนั้น บริษัทจะเป็นผู้ดำเนินการเรื่องการปล่อยเช่า การขุดเจาะ การดำเนินงาน และกิจกรรมทางการตลาดของโครงการ ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนใต้ของรัฐเท็กซัส

 

ออเบรย์ เค แมเคลนดอน ซีอีโอของ Chesapeake กล่าวว่า การซื้อหุ้นครั้งนี้จะเป็นการเปิดโอกาสด้านการจัดหาเงินทุนเพื่อเร่งโครงการขุดเจาะแหล่งน้ำมันและแก็สธรรมชาติขนาดใหญ่ในประเทศ ซึ่งจะทำให้สหรัฐลดปริมาณการนำเข้าในอนาคต อีกทั้งยังช่วยสร้างงานจำนวนมากในประเทศ

 

บริษัท Chesapeake Energy Corp ป็นบริษัทผู้ผลิตแก็สธรรมชาติรายใหญ่อันดับ 2 ของสหรัฐ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่โอกลาโฮมา ซิตี้ และยังดำเนินการขุดเจาะบ่อน้ำมันในสหรัฐอย่างแข็งขัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...