ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management 23 ส.ค. 53 (ภาคเช้า)

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 23 สิงหาคม 2553 12:18:38 น.

กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกช่วงเช้าปรับตัวเพิ่มขึ้นจากราคาปิดเมื่อวันศุกร์เล็กน้อย โดยเคลื่อนไหวระหว่าง 1,227-1,229 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ ปรับตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดใกล้ระดับ 1,223 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ในช่วงคืนวันศุกร์หลังจากดอลล่าร์ปรับแข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก โดยยูโรปรับอ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางยุโรปคงนโยบายแบบผ่อนคลายทำให้มีแรงขายยูโรออก ขณะความต้องการทองคำของผู้ผลิตเครื่องประดับเพิ่มขึ้นเนื่องจากช่วงใกล้เทศกาลแต่งงานของอินเดีย ส่วนกองทุน SPDR คงการถือครองหลังจากซื้อต่อเนื่อง โดยถือครองที่ระดับ 1,299.47 ตัน ค่าเงินบาทเช้าวันนี้ยังคงปรับแข็งค่าก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงินในช่วงวันพุธหน้า โดยลงมาเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 31.50 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม (GFQ10) เปิดตลาดปรับลดลงจากราคาปิดเมื่อวันศุกร์ (20 ส.ค. 53) โดยเปิดที่ระดับราคา 18,440 บาท ราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 18,250 บาท ราคาเสนอขาย 18,350 บาท

 

ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนบริษัทจีที เวลธ์แมเนจเมนท์ จำกัดกล่าวว่า เรายังคงมองทิศทางราคาทองคำในเชิงบวก แม้จะมีการปรับตัวลดลงจากความผันผวนของตลาดการลงทุน แต่จากความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจ รวมถึงความผันผวนของค่าเงินจะส่งให้ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ยังมีความน่าสนใจ โดยกรอบการเคลื่อนไหวจะยังคงอยู่ในกรอบกว้าง ๆ ระหว่าง 1,200-1,245 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ โดยสิ่งที่นักลงทุนยังคงต้องติดตามคือค่าเงินบาทที่กดดันราคาทองคำในประเทศในช่วงที่ผ่านมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 23 ส.ค. 53

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 23 สิงหาคม 2553 11:15:42 น.

กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

คำแนะนำการลงทุน Gold Futures

DAY TRADER

GFM10 ซื้อในช่วงราคา 18430 — 18450 ขายในช่วงราคา 18510 — 18540

GFQ10 ซื้อในช่วงราคา 18510 — 18530 ขายในช่วงราคา 18600 — 18630

SWING TRADER

ทิศทางราคาทองคำโลก(Gold Spot)เป็นแนวโน้มขาขึ้นแต่มีแรงเทขายทำกำไรและระวังค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น โดยมีแนวรับและแนวต้านที่1220และ1245เหรียญ คำแนะนำนักลงทุนรายวันให้เก็งกำไรในภาวะแกว่งตัวของตลาด คำแนะนำนักลงทุนรายสัปดาห์คงทยอยสะสมLONG POSITIONประมาณ 50% ของPORTFOLIO ระวังGold Futures series Q จะหมดอายุวันที่30/08/10แนะนำนักลงทุนรายสัปดาห์ทยอยเปลี่ยนเป็น Gold Futures series V

 

GFQ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 18420 รอขายที่ระดับ 18580

ปัจจัยสำคัญ

เงินดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนวันศุกร์ (20 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในยามที่ตลาดมีความวิตกกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ หลังทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.34% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 85.630 เยน จากระดับของวันพฤหัสบดี (19 ส.ค.) ที่ 85.340 เยน และแข็งค่าขึ้น 0.31% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0350 ฟรังค์ จากระดับ 1.0318 ฟรังค์

 

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำที่1299.468ตันในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ วันที่ 20 ส.ค. ซึ่งเท่าเดิม จากระดับของวันที่ 19 ส.ค.

 

GOLD Market Recap : 20/08/2010

MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,232 $ ส่วน Gold Future Q10 เปิดที่ 18,500 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 18,400 ไม่เปลี่ยนแปลงจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำอยู่ในทิศทางขาขึ้น แต่ค่าเงินบาทแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ 31.50 บาท ต่อดอลล่าร์สหรัฐ ในช่วงเช้าราคาทองคำแกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,230 - 1,233 $ สำหรับช่วงบ่าย ราคาทองคำแกว่งตัว Side way ปิดตลาด Gold Future Q10 ปิดตลาดที่ 18,460 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำแท่ง ไม่เปลี่ยนแปลง ปิดตลาดอยู่ที่ 18,400 บาท นักลงทุนซื้อขายทำกำไรอย่างเบาบาง เนื่องจาก ราคาทองคำไม่สามารถขึ้นได้ตามค่าเงินบาทที่แข็งค่า

 

NIGHT RECAP: ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1232 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1229 - 1233 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1230 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1221 - 1232 เหรียญ และมาปิดตลาดที่ 1227.8 เหรียญ

Facebook Twitter พิมพ์ข่าวนี้ ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งค่า ฉุดทองคำปิดลบ $6.60ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 20 ส.ค. 53ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองคำปิดบวก $4 หลังข้อมูลศก.อ่อนแอหนุนนักลงทุนซื้อทองเลี่ยงความเสี่ยงสรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 19 สิงหาคม 2553ภาวะตลาดทองคำ ประจำวันที่ 19 ส.ค. 53หัวข้อที่เกี่ยวข้อง

ภาวะตลาดทองคำ ราคาทองคำ gold futures การลงทุน ค่าเงินบาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไทยออยล์รายงานสถานการณ์น้ำมัน วันที่ 23 สิงหาคม 2553

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม 2010 เวลา 10:51 น. กอง บก.ออนไลน์ ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์น้ำมัน วันที่ 23 สิงหาคม 2553 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ กดดัน WTI ดิ่งลงต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์

 

ปัจจัยที่มีผลต่อราคาน้ำมัน ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ที่ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ส.ค. ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดสัญญา ปรับลดลง 0.97 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 73.46 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล (ส่วนสัญญาซื้อขายเดือน ต.ค. ปรับลดลง 0.95 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 73.82 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล) เนื่องจาก

 

 

- ดัชนีชี้นำการเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ (ECRI – weekly leading index) ในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ส.ค. ปรับลดลงมาอยู่ที่ 120.8 จุด นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯฟื้นตัวช้าลง

- นอกจากนี้ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ประกาศในช่วงสัปดาห์ที่แล้ว ออกมาไม่ดีอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะ ตัวเลขตลาดบ้าน ตลาดแรงงาน และภาคอุตสาหกรรม ซึ่งอาจจะส่งผลให้มีการการปรับลดความต้องการใช้น้ำมัน ทำให้นักลงทุนเริ่มไม่มั่นใจในตลาดน้ำมันและหันกลับไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำเช่น เงินดอลลาร์สหรัฐฯ และพันธบัตรรัฐบาลแทน

- ด้านตลาดทุนซึ่งได้รบผลกระทบเช่นกัน โดยดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับลดลง 57.59 จุด มาปิดตลาดที่ 10213.62 จุด เนื่องจากสัญญาณการฟื้นตัวที่ช้าลงของเศรษฐกิจสหรัฐฯสะท้อนถึงความเป็นไปได้ที่การเติบโตของผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดจะทรงตัวหรือปรับลดลงในช่วงไตรมาสหน้า

- ประกอบกับที่มีการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรปน่าจะยังคงมาตรการการเงินแบบผ่อนปรนต่อไปอีกระยะหนึ่ง ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ เมื่อเทียบกับเงินยูโร ที่ 1.2711

+ ล่าสุดหย่อมความกดอากาศต่ำทางตะวันตกเฉียงใต้ของหมู่เกาะ Cape Verde ได้เพิ่มกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อนดีเปรสชั่นเดเนียล (Danielle) มุ่งหน้าไปยังทิศเหนือ ซึ่งคาดการณ์ว่าการเคลื่อนตัวของพายุดังกล่าวจะไม่เข้าสู่อ่าวเม็กซิโก

 

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน ต.ค. ปรับลดลง 1.04 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาปิดที่ 74.26 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบดูไบ ที่ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลง 1.35 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 72.53 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

 

าคาน้ำมันสำเร็จรูปที่ตลาดสิงคโปร์:

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ตามตลาดได้รับแรงหนุนจากความต้องการของประเทศมาเลเซียในช่วงฤดูกาลวันหยุด อีกทั้งอุปทานที่ปรับลดลง

 

ทิศทางราคาน้ำมันระยะสั้น

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มแกว่งตัวในกรอบ 72 - 78 เหรียญสหรัฐฯ ต้องจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และ จีดีพีในไตรมาสที่ 2 ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะกดดันราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้

 

 

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

ตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ ได้แก่

วันอังคาร : ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯ

วันพุธ : ยอดขายสินค้าคงทน และยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐฯ

วันพฤหัสบดี : ผู้ขอเข้ารับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานของสหรัฐฯ อัตราการว่างงาน และดัชนีราคาผู้บริโภคของประเทศญี่ปุ่น

วันศุกร์ : อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ที่จะประกาศเป็นครั้งที่สอง และความรู้สึกของผู้บริโภคต่อสภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

• ติดตามความคืบหน้ารายงานสถานการณ์ปริมาณน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปคงคลังซึ่งอยู่ในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์ จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) ที่จะประกาศในวันพุธ

• ฤดูกาลเฮอริเคนในมหาสมุทรแอตแลนติกที่จะเริ่มมีความรุนแรงขึ้นในช่วงตั้งแต่กลางเดือน ส.ค. ไปจนถึงเดือน ต.ค. ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปของสหรัฐฯ ในบริเวณอ่าวเม็กซิโก โดยล่าสุด หน่วยงานด้านอุตุนิยมวิทยาของรัฐบาลสหรัฐฯ (NOAA) พยากรณ์ว่า ในปีนี้จะมีพายุเฮอริเคนอยู่ที่ประมาณ 8-12 ลูก ซึ่งปรับลดลงจากที่ประมาณการไว้เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ 8-14 ลูก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มา+1พลังให้ คุณทองใหม่ก่อน แล้วจะกลับมเก็บข้อมูลกร๊าบบบบบบบบบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคะอาจารย์ทองใหม่ แวะมาอ่านทุกเช้า ไม่มีเวลาโพสขอบคุณ ต้องมาตอนเย็น จัดบวกให้อาจารย์ด้วยคะ5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มา+1พลังให้ คุณทองใหม่ก่อน แล้วจะกลับมเก็บข้อมูลกร๊าบบบบบบบบบ

 

 

ขอบคุณคะอาจารย์ทองใหม่ แวะมาอ่านทุกเช้า ไม่มีเวลาโพสขอบคุณ ต้องมาตอนเย็น จัดบวกให้อาจารย์ด้วยคะ5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif5fc0f220.gif

post-237-008209600 1282559353.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

YLGแนะหาจังหวะทำกำไรราคาทองคำที่ระดับ 1,243 ดอลลาร์/ออนซ์

วันจันทร์ที่ 23 สิงหาคม 2010 เวลา 15:39 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

 

นางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาการรายงาน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ของญี่ปุ่นที่มีการขยายตัว เพียง 0.4% ต่อปี หรือ 0.1% ต่อไตรมาส ซึ่งต่ำกว่าที่คาดว่า จะขยายตัว 2.3% ต่อปี และ 0.6% ต่อไตรมาส ได้กลายเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ข้อมูลเศษฐกิจของฝั่งสหรัฐที่ออกมาล่าสุดยังสะท้อนถึงความอ่อนแออย่างต่อเนื่องของตลาดแรงงาน ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจให้ฟื้นตัว หากสหรัฐยังไม่สามารถแก้ปัญหาการว่างงานที่มีอยู่ในระดับสูงได้แล้ว คงเป็นเรื่องยากที่เศรษฐกิจสหรัฐจะกลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง

 

 

 

ดังนั้นหากสถานการณ์ของตลาดแรงงานสหรัฐยังเป็นเช่นนี้ความเสี่ยงต่อการเกิดสภาวะถดถอยอีกครั้งของเศรษฐกิจสหรัฐ ก็ยังคงมีอยู่ ซึ่งก็จะเป็นปัจจัยหนุนที่สำคัญของทองคำในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยให้สามารถขยับตัวเพิ่มสูงขึ้นในระยาวต่อไป นอกจากนี้แล้วเริ่มมีประเด็นการสะสมทองคำเพื่อรองรับช่วงเทศกาลแต่งงานในประเทศอินเดียเข้ามาจึงกลายเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นในระยะนี้

 

 

 

สำหรับสัปดาห์นี้ทางวายแอลจีแนะนำให้นักลงทุนระยะกลางที่ได้ซื้อทองคำไว้แล้วให้หาจังหวะทำกำไรบริเวณแนวต้านสำคัญ 1,243 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อออกมาดูความชัดเจนของตลาดก่อนเข้าลงทุนอีกครั้ง แต่หากราคาทองคำมีการย่อตัวลงมาก่อนก็ยังคงแนะนำให้นักลงทุนเข้าสะสมทองคำเพิ่มเติมได้ ในส่วนของกรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในสัปดาห์นี้ทางวายแอลจีคาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,200 – 1,265 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คัมภีร์ไร้เทียมทาน ที่ไม่เคยบอกใครมาก่อน ไม่ห่วงไม่รักไม่บอกนะเนี่ย ฮาฮา แหย่เล่นจ้า

 

แนวหนุนต้านระยะกลางยาว จุดยุทธศาสตร์ที่สำมะคัน

 

ต้าน๓1300.00-----------จุดจิตรวิทยาที่สำคัญ หากถึงและมีแรงต้าน ผู้ซื้อขึ้นจะเทขาย

ต้าน๒1265.10-----------จุดสูงของวันที่21 มิย. หากแตก ซื้อขึ้น หากไม่แตก ซื้อลง

ต้าน๑1243.70-----------จุดสูงของวันที่01 กค. หากถึงและมีแรงต้าน ผู้ซื้อขึ้นจะเทขาย หากแตก ให้ซื้อขึ้น

 

วันที่ 23 สค. 2010

 

หนุน๑1218.70--------เส้นค่าเฉลี่ย10วัน หากถึงและมีแรงต้าน ให้ซื้อขึ้น หากด่านแตกทะลวงลง ให้ซื้อลง

หนุน๒1199.83--------เส้นค่าเฉลี่ย20วัน หากถึงและมีแรงต้าน ให้ซื้อขึ้น หากด่านแตกทะลวงลง ให้ซื้อลง

หนุน๓1156.70--------จุดต่ำของวันที่28 กค. หากถึงและมีแรงต้าน ให้ซื้อขึ้น หากด่านแตกทะลวงลง ให้ซื้อลง

 

เวลาอ่านแล้วต้องรู้จักคิดด้วยนะครับ เช่น"หากถึงและมีแรงต้าน ผู้ซื้อขึ้นจะเทขาย" ต้องรู้จักคิดกลับ---"หากถึงและมีแรงส่งขึ้นต่อ ผู้ซื้อขึ้นก็ถือต่อ ผู้ซื้อลงให้ตัดเนื้อขายออกเสีย " อะไรทำนองนี้เป็นต้นนะครับ

วิธีดูทิศทางทอง เอาแนวดูวิธีทองรายวันมาลงโดยไม่ได้แก้ เวลาดูให้ทำความเข่าใจเองนะครับ

วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในช่วงนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ

ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง จดจำเป็นคติเตือนใจว่า เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ

กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

SET50 Futures พรุ่งนี้อ่อนแรง

Monday, 23 August 2010 18:02

นายพงศ์ภัทร สิริพิพัฒน์ ผู้ช่วยผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) KGI เปิดเผยถึงการซื้อขายสินค้า SET50 Futures ในตลาดอนุพันธ์แห่งประเทศไทย (TFEX) วันนี้ว่า ดัชนีฯ เคลื่อนไหวผันผวน โดยมีแรงขายออกมาเป็นระยะๆ แต่อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาสัญญาณเทคนิคยังไม่ส่งสัญญาณว่าเป็นขาลง ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนเข้ามาเปิดซื้อช่วยพยุงไม่ให้ดัชนีฯ ปรับตัวลดลงแรง

 

โดยระหว่างการซื้อขายในช่วงเช้า ดัชนีฯ เริ่มรีบาวน์หลังจากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) เปิดเผยตัวเลข GDP ประจำไตรมาสที่ 2/2553 ออกมาอยู่ที่ระดับ 9.1% ซึ่งดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์

 

แต่อย่างไรก็ดีระหว่างการซื้อขายในช่วงบ่ายดัชนีฯ เริ่มปรับตัวลดลงในแดนลบอีกครั้ง เพราะที่ประชุมคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้เห็นชอบตัด 3 กิจการออกจาก 18 กิจการประเภทรุนแรง โดยให้มีการปรับปรุงประเภทบัญชีกิจการเพิ่มเติมในรายละเอียดบางโครงการของบริษัทในเครือ PTT เช่น โครงการปิโตรเลียมต้นน้ำที่มีการขยายกำลังการผลิตเกิน 100 ตัน โดยให้ไปทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ซึ่งส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุนในดัชนีฯ

 

นอกจากนี้เมื่อพิจารณาดัชนี SET ยังไม่สามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นเหนือระดับแนวต้านทางจิตวิทยาที่ 900 จุดได้อย่างชัดเจน จึงเป็นปัจจัยกดดันจิตวิทยาการลงทุนอีกทาง

 

แนวโน้มในวันพรุ่งนี้คาดว่าดัชนี SET50 Futures ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างจำกัด หลังจากดัชนี SET ไม่สามารถยืนเหนือระดับจิตวิทยาที่ 900 จุดได้ นอกจากนี้ให้จับตาค่าเงินบาท หากเริ่มเคลื่อนไหวทรงตัวหรืออ่อนค่าลง อาจเป็นปัจจัยที่สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนต่างชาติเริ่มขายทำกำไรออกมาได้

 

'ภาพรวมของค่าเงินในภูมิภาคส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้น ซึ่งเม็ดเงินนักลงทุนต่างชาติไหลเข้ามา แต่ตอนนี้ดัชนี SET เริ่มติดแนวต้านจิตวิทยาที่ 900 จุด จึงกลัวว่าหลังจากนี้ดัชนีฯ อาจจะปรับตัวลดลงได้ ให้ติดตามค่าเงินบาทเป็นหลัก ' นายพงศ์ภัทรกล่าว

 

ในส่วนของราคาน้ำมันตลาดโลกมองว่าไม่เป็นปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อจิตวิทยาการลงทุน

 

โดยกลยุทธ์การลงทุน แนะนำนักลงทุนที่มีสถานะซื้อ (Long) หาจังหวะปิดสถานะเพื่อทำกำไร ในสัญญา S50U10 เดือนกันยายน 2553 ให้แนวรับ 599 จุด แนวรับถัดไปที่ 595 จุด ส่วนแนวต้านประเมินที่ 610-613 จุด ด้าน SET50 ประเมินแนวรับที่ 605-600 จุด แนวต้าน 615 จุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management 23 ส.ค. 53 (ภาคบ่าย)

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- จันทร์ที่ 23 สิงหาคม 2553 17:31:46 น.

กรุงเทพฯ--23 ส.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกวันนี้ในกรอบแคบ โดยเคลื่อนไหวระหว่าง 1,226-1,229 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ หลังจากปรับตัวขึ้นมาจากจุดต่ำสุดใกล้ระดับ 1,223 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ในช่วงคืนวันศุกร์หลังจากดอลล่าร์ปรับแข็งค่าเทียบสกุลเงินหลัก โดยยูโรปรับอ่อนค่าลงหลังจากธนาคารกลางยุโรปคงนโยบายแบบผ่อนคลายทำให้มีแรงขายยูโรออก ขณะความต้องการทองคำของผู้ผลิตเครื่องประดับเพิ่มขึ้นเนื่องจากช่วงใกล้เทศกาลแต่งงานของอินเดีย ส่วนกองทุน SPDR คงการถือครองหลังจากซื้อต่อเนื่อง โดยถือครองที่ระดับ 1,299.47 ตัน ค่าเงินบาทเช้าวันนี้ยังคงปรับแข็งค่าก่อนการประชุมคณะกรรมการนโยบายทางการเงินในช่วงวันพุธ โดยเคลื่อนไหวใกล้ระดับ 31.48 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ ราคาทองคำในประเทศราคาเสนอซื้อ 18,250 บาท ราคาเสนอขาย 18,350 บาท ส่วนโกลด์ฟิวเจอร์วันนี้

 

สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม (GFQ10) ปิดที่ระดับ 18,400 ปริมาณการซื้อขาย 1,205 สัญญา

 

สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคม(GFV10) ปิดที่ระดับ 18,480 บาท ปริมาณการซื้อขาย 909 สัญญา

 

สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนธันวาคม (GFZ10) ปิดที่ระดับ 18,570 บาท ปริมาณการซื้อขาย 329 สัญญา

 

สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคมขนาด 10 บาท (GF10Q10) ปิดที่ระดับ 18,400 ปริมาณการซื้อขาย 322 สัญญา

 

สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคมขนาด 10 บาท (GF10V10) ปิดที่ระดับ 18,480 ปริมาณการซื้อขาย 503 สัญญา

 

สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนธันวาคมขนาด 10 บาท (GF10Z10) ปิดที่ระดับ 18,580 ปริมาณการซื้อขาย 178 สัญญา

 

ปริมาณการซื้อขายรวมทั้งตลาด 3,446 สัญญา

ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุนบริษัทจีที เวลธ์แมเนจเมนท์ จำกัดกล่าวว่า เรายังคงมองทิศทางราคาทองคำในเชิงบวก แม้จะมีการปรับตัวลดลงจากความผันผวนของตลาดการลงทุน แต่จากความอ่อนไหวทางเศรษฐกิจ รวมถึงความผันผวนของค่าเงินจะส่งให้ทองคำยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ยังมีความน่าสนใจ โดยกรอบการเคลื่อนไหวจะยังคงอยู่ในกรอบกว้าง ๆ ระหว่าง 1,200-1,245 ดอลล่าร์ต่อออนซ์ โดยสิ่งที่นักลงทุนยังคงต้องติดตามคือค่าเงินบาทที่กดดันราคาทองคำในประเทศในช่วงที่ผ่านมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากครับ คืนนี้ ไม่รู้ว่า น้องทองจะลงได้ถึงระดับเท่าไหร่กัน รอด้วยความหวังในการขึ้นรถครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...