ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

อรุณสวัสดิ์ อารมร์ดีทั้งวันของวันนี้ เริ่มต้นจากคำกล่าว อรุณสวัสดิ์ของผมเป็นต้นไป

post-237-054737900 1282690589.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อคืนทองสวนกระแสกราฟ เหตุเพราะดอลล์เมกาลง น้ำมันลง หุ้นลง ทองเลยเนื้อหอม กลายเป็นแหล่งลี้ภัย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กราฟGold 1

ช่อง1 เส้นแดงอยู่เหนือเส้นเขียว---ทิศทางขึ้น ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง—ทิศทางลง สีขาว—กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นเขียวอยู่เหนือเส้นแดง---ทิศทางลง ผู้เล่นออนไลน์ให้ดูเส้นปะ(เส้นปะสีขาว---เส้นแนวต้านและหนุน)และเส้นแนวโน้ม(เส้นแนวโน้ม---สีฟ้า---ทิศทางขึ้น สีเหลืองทอง—ทิศทางลง สีขาว—กำลังหาทิศใหม่)ประกอบ ตั้งจุดกำไรและขาดทุน เส้นแดงและเขียวประสานเป็นกากะบาด ---กำลังจะเปลี่ยนทิศ ให้ดูเส้นแนวโน้มประกอบ หากเส้นแดงและเขียวกำลังจะประสาน แต่ไม่ทันได้ประสานก็หันหันหัวกลับขึ้นหรือลง แสดงว่ากำลังมีเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนี่งเกิดขึ้น หากขึ้นทะลุเส้นปะแนวต้าน ให้ดูเส้นปะแนวต้านเส้นต่อไป หากลงทะลุเส้นปะแนวหนุน ให้ดูเส้นแนวหนุนเส้นต่อไป ส่วนจุดกลมเหลืองทอง---ทิศทางลง จุดกลมฟ้า---ทิศทางขึ้น หากกราฟวิ่งในยามปกติ พอเชื่อถือได้ หากกราฟวิ่งขึ้นลงแรงๆ คือยามไม่ปกติ ไม่อาจเชือถือได้

ช่อง2 ให้ดูเส้นสีม่วง ประกอบกับเส้นแนวโน้มในช่อง1 หากหันหัวไปในทิศทางเดียวกัน โอกาสที่จะผิดพลาดก็มีน้อย ส่วนเส้นปะสีเหลืองทองและฟ้า หากขึ้นเหนือเลข80 เข้าสู่เขตซื้อเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ทุกเมื่อ หากลงต่ำกว่าเลข20 เข้าสู่เขตขายเกิน ระวังจะเปลี่ยนทิศได้ตลอดเวลา

ช่อง3 ให้ดูทั้ง2เส้น คือเหลืองทองและฟ้า หันหัวไปทิศทางเดียวกันหรือไม่ เท่านั้นยังไม่พอ ให้ดูประกอบทิศทางในช่อง1ว่าเป็นทิศทางเดียวกันหรือไม่ หากทิศทางหันหัวในแนวเดียวกัน ทิศทางนั้นเชื่อถือได้

ดูกราฟทุกครั้งให้ดูที่หัวมุมซ้ายบน จะบอกเวลา H4=4ชม. H1=1ชม. D1=1วัน และบอกชนิดของกราฟด้วย เช่น goldหรือset50เป็นต้น

post-237-037134800 1282691707.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เส้นปากถุง (BollingerBandsเส้นสีขาวทั้ง๓เส้น)แบบง่ายๆ ไม่ปวดเศียรเวียนเกล้า

เส้นบน---แนวต้าน

เส้นกลาง---แนวโน้ม(สำคัญสุด)

เส้นล่าง---แนวหนุน

ลักษณะที่๑---ทิศทางขึ้นเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวขึ้น เส้นล่างหันหัวลง

ลักษณะที่๒---ทิศทางขึ้นเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวขึ้น

เมื่อเจอลักษณะทั้ง๒นี้ ราคาระหว่างวันที่ขึ้นๆลงๆ เมื่อเจอจุดที่เห็นว่าต่ำแล้วให้ซื้อเข้าได้เลยครับ ขอเพียงเส้นกลาง(แนวโน้ม)ยังหันหัวขึ้นอยู่ แม้ราคาเแท่งเทียนจะอยู่ต่ำกว่าเส้นกลาง ก็ยังซื้อเข้าได้ หากเส้นบนเดินขวางเมื่อไหร่ ให้ทยอยลดพอร์ตได้เลยครับ

ลักษณะที่๓---เลือกทิศทาง---เส้นบนหันหัวลง เส้นล่างหันหัวขี้น ปากถุงแคบลง ถึงช่วงนี้ ให้ใช้ความสงบสยบความเคลื่อนไหว หากใครยังคิดอยากเคลื่อนไหว ก็จงเคลื่อนไหวไปหน้าทีวี จงอย่าทำการอย่างอื่นใด หากใครเป็นจอมยุทธ์ ก็ชิงเคลื่อนไหวก่อนใครได้

ขอแถมอีกนิด จงโฟกัสที่เส้นกลาง หากเส้นกลางเริ่มขยบหัวหัวขึ้นหรือลง ทิศทางอาจขึ้นหรือลงตามเส้นกลางแนวโน้มนั้น

ลักษณะที่๔---เคลื่อนไหวในกรอบแคบ---เส้นบน กลาง ล่าง เดินขวางทั้ง๓เส้น หากใครเล่นออนไลน์ สามารถเล่นได้เล็กน้อยอย่ามาก เมื่อราคาแท่งเทียนใกล้เส้นบน จงขาย ใกล้เส้นล่าง จงซื้อ ต้องเข้าออกให้ทันการณ์ หาไม่แล้วจากกำไรอาจขาดทุนได้นา ขอบอก

ลักษณะที่๕---ทิศทางลงเบื้องต้น---เส้นบนหันหัวขึ้น เส้นกลางหันหัวลง เส้ยล่างหัวหัวลง

ลักษณะที่๖---ทิศทางลงเต็มตัว---เส้นบน กลาง ล่าง ล้วนหันหัวลง เมื่อเส้นล่างเดินขวางเมื่อไหร่ ผู้ที่ใจกล้าที่เล่นออนไลน์ เริ่มทยอยซื้อเข้าได้ที่ละนิด อัตราเสี่ยงยังมีอยู่บ้างนะครับ สิบอกไห่

วิธีดูเส้นปากถุงที่กล่าวมานี้ .....ไม่ใช่ตำราของฝรั่ง แบบของฝรั่งผมเคยอ่านมาบ้างแล้ว ยาวมาก ปวดหัว ทำความเข้าใจได้ยากมากๆๆๆๆ ...........เหมาะเฉพาะกราฟราย๔ชม.และช่วงปกติเท่านั้นนะครับ (บางครั้งตลาดจงใจคึงขึ้นลงอย่าแรงๆ แทบหัวใจวายสำหรับผู้มีทองในมือและผิดทิศทางของตัวเอง เรียกว่า ช่วงไม่ปกติครับ)

ดูกราฟทุกครั้งให้ดูที่หัวมุมซ้ายบน จะบอกเวลา H4=4ชม. H1=1ชม. D1=1วัน และบอกชนิดของกราฟด้วย เช่น goldหรือset50เป็นต้น

post-237-052725200 1282691777.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คัมภีร์ไร้เทียมทาน ที่ไม่เคยบอกใครมาก่อน ไม่ห่วงไม่รักไม่บอกนะเนี่ย ฮาฮา แหย่เล่นจ้า

 

แนวหนุนต้านระยะกลางยาว จุดยุทธศาสตร์ที่สำมะคัน

 

ต้าน๓1300.00-----------จุดจิตรวิทยาที่สำคัญ หากถึงและมีแรงต้าน ผู้ซื้อขึ้นจะเทขาย

ต้าน๒1265.10-----------จุดสูงของวันที่21 มิย. หากแตก ซื้อขึ้น หากไม่แตก ซื้อลง

ต้าน๑1243.70-----------จุดสูงของวันที่01 กค. หากถึงและมีแรงต้าน ผู้ซื้อขึ้นจะเทขาย หากแตก ให้ซื้อขึ้น

 

วันที่ 25 สค. 2010

 

หนุน๑1204.40--------เส้นค่าเฉลี่ย20วัน หากถึงและมีแรงต้าน ให้ซื้อขึ้น หากด่านแตกทะลวงลง ให้ซื้อลง

หนุน๒1192.30--------จุดต่ำของวันที่11 สิงหาคม หากถึงและมีแรงต้าน ให้ซื้อขึ้น หากด่านแตกทะลวงลง ให้ซื้อลง

หนุน๓1175.00--------จุดต่ำของวันที่2 กค. หากถึงและมีแรงต้าน ให้ซื้อขึ้น หากด่านแตกทะลวงลง ให้ซื้อลง

 

เวลาอ่านแล้วต้องรู้จักคิดด้วยนะครับ เช่น"หากถึงและมีแรงต้าน ผู้ซื้อขึ้นจะเทขาย" ต้องรู้จักคิดกลับ---"หากถึงและมีแรงส่งขึ้นต่อ ผู้ซื้อขึ้นก็ถือต่อ ผู้ซื้อลงให้ตัดเนื้อขายออกเสีย " อะไรทำนองนี้เป็นต้นนะครับ

วิธีดูทิศทางทอง เอาแนวดูวิธีทองรายวันมาลงโดยไม่ได้แก้ เวลาดูให้ทำความเข่าใจเองนะครับ

วิธีดูทิศทางทอง ต้าน๓----หนุน๓เป็นทิศทางทองที่จะเคลื่อนไหวในช่วงนี้ หากพุ่งทะลุต้าน๓หรือดิ่งทะลวงหนุน๓ แสดงถึงวันนั้นทองเคลื่อนไหวแรงเกินปกติ เส้นแดนเป็นเส้นที่จะแบ่งแยกทิศทางของทองที่จะขึ้นหรือลง หากทองเคลื่อนไหวอยู่ในทิศทางใดมากและนาน นั่นหมายถึงโอกาสเป็นไปได้มากที่ทองจะเคลื่อนไปในทิศทางนั้นๆ ในช่วงเวลานั้น (ยังต้องแบ่งออกในช่วงเวลาตลาดเอเซีย ยุโรป เมกาด้วย) ต้าน๑และหนุน๑หากถูกทดสอบแบบมีผล(ขึ้นลงมากกว่า๑ครั้ง)แล้วยืนอยู่ได้ นั่นคือทิศทางทองที่จะเดินต่อไปในช่วงเวลานั้น หากการวิเคราะเกิดขัดแย้งกันเมื่อไหร่ ให้หยุดมองดูอย่างเดียว ไม่ควรซื้อ-ขายในช่วงเวลานั้น แนวทางนี้เหมาะกับการเล่นสั้นมาก (เล่นแบบออนไลน์ในอนาคต) มีความแม่นยำถึง80%ครับ อีกอย่างข่าวปัจจัยพื้นฐานอาจเปลี่ยนทิศทางทองได้กะทันหันนะครับ

ข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับการลงทุนแบบถัวเฉลี่ย ถัาติดดอยเมื่อทองต่ำลงมา หากยังมีเงินเหลืออยู่ ควรซื้อเพิ่ม เพิ่มที่ละนิด ต่ำอีกซื้ออีก เพื่อดึงต้นทุนที่สูงให้ต่ำลงมา ใครที่ยังไม่มีทองในมือควรทยอยซื้อเข้าอย่ามากนัก หากทองลงอีก เราก็ซื้ออีก ดีกว่าเวลาทองขึ้นเราไปไล่ซื้อในราคาที่สูง จดจำเป็นคติเตือนใจว่า เรามิอาจซื้อได้ในราคาที่ต่ำสุด และขายได้ในราคาที่สูงสุด ไม่มีการลงทุนใดที่ไม่เสี่ยง การบริหารพอร์ตให้ได้จังหวะ จะลดความเสี่ยงลงได้ครับ

กราฟสำคัญ ปัจจัยพื้นฐานก็สำคัญ จิตวิทยาการโน้มเอียงของคนก็สำคัญ สิ่งเหล่านี้หากเป็นไปในแนวเดียวกัน ก็จะมุ่งไปทางนั้น หากแย้งกันก็ต้องดูฝ่ายไหนเหนือกว่า.....ด้วยเหตุนี้ไม่มีนักวิเคราะห์คนใดที่จะทำนายได้แม่นยำตลอดกาลได้ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดีคุณทองคำตื่นเช้ามาวิเคราะห์นำสิ่งดีๆมาให้กันเลย เสี่ยเสี่ยหนิง

 

04a97f13.gif cd08785a.gif em0009.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อรุณสวัสดิ์กร๊าบบ คุณทองใหม่ มา+1พลังให้ก่อน เดี๊ยวจะกลับมาอ่านข้อมูลกร๊าบบบบบบบบ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักลงทุนหันซื้อทองคำปิดบวก 4.90ดอลลาร์สหรัฐ

วันพุธที่ 25 สิงหาคม 2010 เวลา 07:35 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวต่างประเทศ

 

 

ทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (24 ส.ค.) ปิดบวก 4.90 ดอลลาร์ โดยทองโคเม็กซ์ส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 1,233.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,211.70 - 1,237.50 ดอลลาร์ โดยนักลงทุนเข้าซื้อทองคำพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง แต่การซื้อขายเป็นไปอย่างซบเซา เพราะสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น ประกอบกับนักลงทุนกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผย ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.ร่วง27.2% จากเดือนมิ.ย. มาอยู่ที่ระดับ 3.83 ล้านยูนิตต่อปี หรือต่ำสุดในรอบ 15 ปี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณอาจารย์ทองใหม่ สำหรับข้อมูลทุกเช้าครับ !01http://

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาน้ำมันดิบร่วงไม่หยุด รับตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐฯ

 

Posted on Wednesday, August 25, 2010

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน ต.ค. ปรับลดลง 1.47 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 71.63 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

 

- ตัวเลขยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐฯในเดือนกรกฏาคมปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 15 ปี หรือปรับลดลง 27.2 % เมื่อเทียบกับเดือนมิถุนายน ผิดกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 12 % ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อนักลงทุนในความกังวลต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯว่ามีแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะหดตัวอีกครั้ง สอดรับกับดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ที่ปรับลดลง 133.96 จุด มาปิดตลาดที่ 10,040.45 จุด ซึ่งต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์

 

- ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องเมื่อเทียบกับเงินยูโร หลังจากที่นักลงทุนได้หันมาถือครองสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ประกอบกับ การอ่อนตัวลงของเงินสกุลยูโรจากการที่ S&P ปรับลดระดับความน่าเชื่อถือของประเทศไอร์แลนด์ลดจาก AA เป็น AA-

 

- เฮอริเคนแดเนียลบริเวณตอนกลางของมหาสมุทรแอตแลนติกปรับลดกำลังลง และคาดการณ์ว่าไม่น่าจะมุ่งสู่แหล่งขุดเจาะน้ำมันดิบบริเวณอ่าวแมกซิโก (ล่าสุดเช้านี้ได้ปรับลดกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนแล้ว)

 

ปัจจัยบวกที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

 

+ รอยเตอร์คาดการณ์ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ในขณะที่หลังปิดตลาด ทางสถาบันปิโตรเลียมของสหรัฐฯ (API) ออกมาประกาศตัวเลขปริมาณน้ำมันคงคลังสวนทางดังนี้

 

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล

ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลัง เพิ่มขึ้น 0.69 ล้านบาร์เรล

ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลัง เพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน ต.ค. ปรับลดลง 1.24 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาปิดที่ 72.38 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันดิบดูไบ ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลง 1.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 70.41 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลง 1.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 78.34 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการซื้อในตลาดลดลง ส่วนหนึ่งมาจากอุปสงค์ที่ลดลงในตลาดยุโรป

 

ราคาน้ำมันดีเซลสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับลดลง 1.00 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 83.13 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล น้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีอุปสงค์ในตลาดอย่างต่อเนื่องจากทั้ง อินโดนีเซีย พม่า เวียดนาม และ ฮ่องกง รวมทั้งมีความต้องการในส่วนของเรือประมงที่กลับมาจับปลาได้อีกครั้งในทะเลจีนใต้หลังจากเสร็จสิ้นฤดูวางไข่

 

- สนับสนุนข้อมูลบมจ. ไทยออยล์ -

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดาวโจนส์ปิดร่วงกว่า 130 จุด ตามยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯต่ำสุดในรอบ 15 ปี

 

Posted on Wednesday, August 25, 2010

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตลาดหุ้นนิวยอร์กร่วงลงทันทีที่สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐฯ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.ร่วงลงหนักสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 27.2% จากเดือนมิ.ย. มาอยู่ที่ระดับ 3.83 ล้านยูนิตต่อปี ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.2548 หรือในรอบ 15 ปี และร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 12% เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ซบเซา

 

ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯยังคงอยู่ในภาวะซบเซาเพราะผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยหลักฐานล่าสุดคือดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนมิ.ย.ที่ร่วงลง 2.6% มาอยู่ที่ระดับ 75.7 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2544 จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 77.7 จุด และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 4% เนื่องจากนโยบายการลดหย่อนภาษีสำหรับผู้ซื้อบ้านหมดอายุลง ซึ่งส่งผลให้ดีมานด์การทำสัญญาในกลุ่มผู้ซื้อลดลงไปด้วย

 

ลอว์เรนซ์ ยุน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ NAR กล่าวว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซาลงเมื่อนโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์หมดอายุลง และการชะลอตัวของเศรษฐกิจยังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วย โดยจีดีพีไตรมาส 2/53 ของสหรัฐฯ ขยายตัวเพียง 2.4% ต่อปี ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อทียบกับจีดีพีไตรมาส 1/53 ที่ขยายตัว 3.7% และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.5% ต่อปี

 

Davis Wyss หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Standard & Poor’s บอกว่า มีความเป็นไปได้ที่ สหรัฐฯ จะเจอกับสภาวะเศรษฐกิจตกต่ำเหมือนอย่างเช่นที่ญี่ปุ่น นั่นคือ การที่สภาวะราคาหดตัวลงต่อเนื่องและดีมานด์ซบเซา (Stagnation)

 

อย่างไรก็ดี ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ยังพอจะมีแรงซื้อเข้ามาได้บ้างจากกลุ่มบริษัทผู้รับสร้างบ้าน หลังจากนักวิเคราะห์ของ Citigroup บอกว่า ตัวเลขตลาดบ้านที่ออกมาล่าสุด น่าจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วที่ถูกกระทบโดยการหมดอายุของมาตรการจูงใจทางภาษี ซึ่งก็ส่งผลให้หุ้นในกลุ่มอย่าง Lennar Corp. ปรับตัวขึ้น 1.4% และ KB Home บวกได้ถึง 2.5%

 

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากกระแสความวิตกกังวลเรื่องทิศทางเศรษฐกิจญี่ปุ่นที่กำลังถูกกระทบอย่างหนักจากการแข็งค่าของเงินเยน ขณะที่นายนาโอโตะ คัง นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น และนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังไม่ได้แสดงท่าทีใดๆว่าจะใช้มาตรการแทรกแซงตลาดเพื่อสกัดการแข็งค่าของเงินเยนในระยะนี้

 

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารร่วงลง 2.2% ขณะที่หุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่อแนวโน้มเศรษฐกิจร่วงลงหลังจากสหรัฐฯเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองร่วงลงอย่างหนัก โดยหุ้นโบอิ้งปิดร่วง 3.7% และดัชนีหุ้นกลุ่มสร้างบ้านดิ่งลง 1.1%

 

- Dow Jones ปิดที่ 10,040.45 จุด (-1.32%)

- S&P 500 ปิดที่ 1,051.87 จุด (-1.45%)

- Nasdaq ปิดที่ 2,123.76 จุด (-1.66%)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...