ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณค่ะ พร้อมบวกเพื่อกำลังใจพวกพวกเราค่ะ !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดาวโจนส์ปิดลบ หลังจำนวนคนว่างงานสหรัฐฯพุ่ง-วิตกภาคธนาคาร

 

Posted on Friday, October 15, 2010

หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มการเงินร่วงลงอย่างหนักหลังจากมีรายงานว่าอัยการใน 50 รัฐของสหรัฐฯกำลังตรวจสอบว่าธนาคารพาณิชย์ดำเนินการอย่างถูกต้องตามขั้นตอนหรือไม่ ก่อนที่จะยึดบ้านที่หลุดจำนองของประชาชนที่ผิดนัดชำระหนี้ โดยหุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา ปิดร่วง 5.1% หุ้นเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ปิดลบ 1.1% หุ้นซิตี้กรุ๊ปปิดร่วง 4.4% และหุ้นเวลส์ ฟาร์โก ปิดดิ่งลง 4.2%

 

ReatyTrac บริษัทวิจัยทางด้านอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยว่า ตัวเลขสินทรัพย์ที่ถูกยึดจำนองโดยผู้ปล่อยกู้ในเดือนที่แล้วอยู่ที่ 102,134 แห่ง ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดนัจากที่เริ่มเก็บข้อมูลในปี 2548 โดยจำนวนเอกสารที่ยื่นขอยึดจำนอง เพิ่มขึ้น 3% เมื่อเทียบกับเดือนสิงหาคม อีกทั้งยังมีข้อมูลที่แปลงเป็นอัตราส่วนได้ว่า บ้านทุกๆ 1 ใน 371 หลัง จะได้รับการยื่น notice ดังกล่าว

 

นักวิเคราะห์ของ Credit Suisse Group ในนิวยอร์กมองว่า ข้อสงสัยที่เกี่ยวกับการฉ้อโกงของผู้ที่ทำการออกหลักทรัพย์ อาจนำไปสู่การปฏิเสธที่จะขอระงับการยึดจำนองได้

 

เดือนที่แล้วสมาคมผู้รับประกันทางการเงินแห่งสหรัฐฯ ก็ออกจดหมายถึง Bank of America ด้วยการแนะนำให้ธนาคารดำเนินการซื้อคืนสินเชื่อบ้าน ที่มีมูลค่ารวมกันกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังติดปัญหาการอ้างอิงเอกสารที่ผิดพลาดหรือมีไม่ครบถ้วน

 

นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 9 ต.ค. พุ่งขึ้น 13,000 ราย แตะระดับ 462,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 445,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯยังคงซบเซา ซึ่งทำให้รัฐบาลสหรัฐฯกังวลว่าอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายโดยรวมในตลาดยังคงได้ปัจจัยหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ด้วยการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินผ่านการเข้าซื้อพันธบัตรและตราสารหนี้มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยรองรับ (MBS) ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ย.นี้ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะกระตุ้นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ หลังจากมีข้อมูลบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงอ่อนแอ โดยเฉพาะในตลาดแรงงาน

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.4% เนื่องจากต้นทุนราคาอาหารและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2% ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้น 0.1% เนื่องจากต้นทุนราคายานยนต์ปรับตัวสูงขึ้น

 

- Dow Jones ปิดที่ 11,094.57 จุด (-0.01%)

- S&P 500 ปิดที่ 1,173.81 จุด (-0.36%)

- Nasdaq ปิดที่ 2,435.38 จุด (-0.24%)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอกชน ชงรัฐยกสกัดบาทแข็งเป็นวาระเร่งด่วน

 

Posted on Thursday, October 14, 2010

นายพงษ์ศักดิ์ อัสสกุล รองประธานหอการค้าไทย บอกว่า หอการค้าไทยจะเสนอรัฐบาลให้กำหนดการแก้ไขปัญหาเงินบาทแข็งค่า เป็นวาระเร่งด่วนของชาติ เพราะการแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็วของค่าเงินบาท กำลังเป็นปัจจัยลบที่ทำร้ายขีดความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยในตลาดโลก และอาจส่งผลให้ผู้ประกอบการไทย ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ซึ่งจะฉุดเศรษฐกิจไทยให้ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วในปี 2554 โดยขอให้นายกรัฐมนตรี หรือผู้ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย มาเป็นประธานและเป็นผู้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งหมด

 

นอกจากนี้ หอการค้าไทย จะเสนอมาตรการเพิ่มเติมให้แก่รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แก้ปัญหาเงินบาทแข็งค่า โดยดำเนินการเป็น 2 ระยะ คือ มาตรการระยะสั้น 3-6 เดือน ธปท. ควรปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงิน โดยให้ความสำคัญในการกำกับดูแลอัตราแลกเปลี่ยนเป็นอันดับแรก และให้ความสำคัญกับเป้าหมายเงินเฟ้อเป็นอันดับรอง รวมถึงเข้ามาแทรกแซงตลาด ด้วยวิธีการที่มีประสิทธิภาพและได้ผลมากกว่าปัจจุบัน พร้อมกับการลดหรือชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

 

ส่วนมาตรการแก้ปัญหาในระยะยาว จะต้องสนับสนุนให้รัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนไทยออกไปลงทุนในต่างประเทศและส่งเสริมให้มีการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศผ่านการลดภาษีการนำเข้าเครื่องจักร เพื่อปรับปรุงคุณภาพสินค้าและศักยภาพการผลิตของประเทศ

 

ด้านนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท). บอกว่า 3 มาตรการที่รัฐบาลประกาศออกมาถือเป็นการส่งสัญญาณที่ดีในการดูแลผู้ประกอบการ แต่เห็นว่ารัฐบาลและธปท.ควรออกมาตรการเพิ่มอีก

 

ขณะที่นายอดิศักดิ์ โรหิตะศุน รองประธานกรรมการบริหารระดับสูง บริษัท เอเชี่ยนฮอนด้า มอร์เตอร์ บอกว่า กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ได้รับผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดคือผู้ประกอบการชิ้นส่วนยานยนต์เพื่อส่งออก เนื่องจากเป็นกลุ่ม SMEs ขนาดเล็กมีเงินทุนหมุนเวียนน้อยและไม่มีอำนาจในการต่อรองราคากับผู้ค้าต่างประเทศมากนัก และหากปล่อยให้เงินบาทยิ่งแข็งค่าขึ้นอาจทำให้มีการย้ายฐานการผลิตไปประเทศอื่น

 

ส่วนนายรุจจน์ ทรัพย์นิรันดร์ ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย ระบุว่า ปัจจุบันไทยส่งออกข้าวไปยังต่างประเทศประมาณ 8-9 ล้านตัน มีมูลค่า 1.5-1.7 แสนล้านบาทต่อปี แต่เงินบาทที่แข็งค่าขึ้นทำให้ไทยเสียเปรียบประเทศคู่แข่งโดยเฉพาะเวียดนามที่ปรับลดค่าเงินดองไปแล้วประมาณ 5% ส่วนมาตรการรัฐที่ประกาศออกมาคงสายเกินไปที่จะดูแลค่าเงินบาท

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อน หนุนราคาทองคำปิดพุ่งทำนิวไฮที่ 1,377.60 เหรียญ

 

Posted on Friday, October 15, 2010

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า การอ่อนค่าลงของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงเป็นปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้นักลงทุนทุ่มซื้อสัญญาทองคำอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ตัวเลขว่างงานรายสัปดาห์ที่พุ่งขึ้นเกินคาดของสหรัฐยังกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงด้วย

 

ดัชนี Dollar Index ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินของประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ ดิ่งลง 0.5% มาอยู่ที่ระดับ 75.69 จุดเมื่อวานนี้ หลังจากธนาคารกลางสิงคโปร์ประกาศคุมเข้มนโยบายการเงิน ด้วยการปล่อยให้ค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยและค่อยเป็นค่อยไป โดยธนาคารกลางสิงคโปร์คุมเข้มนโยบายการเงินด้วยวิธีบริหารจัดการค่าเงินดอลลาร์สิงคโปร์ แทนการใช้วิธีกำหนดอัตราดอกเบี้ยเหมือนธนาคารกลางในประเทศอื่นๆ

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังแห่ถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 9 ต.ค. พุ่งขึ้น 13,000 ราย แตะระดับ 462,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 445,000 ราย ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐยังคงซบเซา

 

- ทองคำ ส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดที่ 1,377.60 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+7.10 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)

- เงิน ส่งมอบเดือนธันวาคม ปิดที่ 24.435 ดอลลาร์สหรัฐ/ออน. (+0.50 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตัวเลขแรงงานกดราคาน้ำมันดิบร่วงเล็กน้อย แม้ดอลลาร์สหรัฐดิ่งต่อ

 

Posted on Friday, October 15, 2010

ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ส่งมอบเดือน พ.ย. ปรับลดลง 0.32 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 82.69 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ปัจจัยลบที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

 

- ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานเพิ่มขึ้น 13,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว มาอยู่ที่ 462,000 ราย ในขณะที่ยอดเฉลี่ยในช่วง 4 สัปดาห์ย้อนหลัง ก็ปรับเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์ ส่งผลให้นักลงทุนบางส่วนกลับมากังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดแรงงานของสหรัฐฯ อีกครั้งหนึ่ง

- ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐในเดือน ส.ค. ก็ปรับตัวสูงขึ้นไปอีก 8.8% หลังมีการนำเข้าสินค้าจากจีนสูงเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ยอดการขาดดุลการค้าที่สหรัฐฯ มีกับจีน เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 2.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

ปัจจัยบวกที่มีผลต่อราคาน้ำมัน

 

+ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้อ่อนค่าลงไปสู่ระดับต่ำสุดของปี เมื่อเทียบกับเงินสกุลหลัก และอ่อนค่าลงที่ระดับต่ำที่สุดในรอบกว่า 8 เดือน เมื่อเทียบกับเงินสกุลยูโร หลังนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารสหรัฐฯจะมีมาตรการอัดฉีดเงินเข้ามาในระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในการประชุมช่วงต้นเดือนหน้า และ หลังจากทางการสิงคโปร์ได้ขยายกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินที่ให้ซื้อขายได้ ส่งผลนักลงทุนบางส่วนขายดอลลาร์สหรัฐและหันมาถือดอลลาร์สิงคโปร์แทน

 

+ สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ ออกมารายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสวนความคาดหมาย เนื่องจากการนำเข้าลดลง อันสืบเนื่องมาจากการปิดช่องทางการเดินเรือบริเวณฮุสตันเป็นเวลา 3 วัน จากอุบัติเหตุเรือลางจูงชนกับเสาไฟฟ้า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง ลดลง 0.4 ล้านบาร์เรล

ปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลัง ลดลง 0.3 ล้านบาร์เรล

ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลัง ลดลง 1.8 ล้านบาร์เรล

 

+ การปิดท่าเรือประท้วงของคนงานในฝรั่งเศสยังคงดำเนินต่อไปเป็นวันที่ 18 และการประท้วงหยุดงานทั่วประเทศที่เริ่มมาตั้งแต่วันที่ 12 ต.ค. ก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะยุติ ส่งผลให้โรงกลั่น 7 จาก 12 โรงเตรียมหยุดการผลิตชั่วคราวแล้ว

 

+/- โอเปกเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ได้ตัดสินใจคงโควต้าการผลิตของกลุ่มไว้ที่ระดับ 24.84 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งใช้มาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว ซึ่งก็เป็นไปตามที่ได้มีการคาดการณ์กันเอาไว้ก่อนหน้า

 

ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือน พ.ย. ปรับลดลง 0.11 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 84.53 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันดิบดูไบ ตลาดสิงคโปร์ ส่งมอบเดือน พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 0.49 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล มาอยู่ที่ 81.39 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 

ราคาน้ำมันเบนซินสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 0.87 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 91.97 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล และปัจจัยหนุนจากเหตุการณ์ประท้วงในฝรั่งเศสที่ส่งผลต่ออุปทานน้ำมันในฝั่งยุโรป นอกจากนี้ยังมีแรงบวกจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิงคโปร์ ที่ปรับลดลงถึง 10% อีกด้วย

 

ราคาน้ำมันดีเซลสำเร็จรูป ตลาดสิงคโปร์ ปรับเพิ่มขึ้น 0.81 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล ปิดที่ 94.76 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล หลังมีการคาดการณ์ว่าญี่ปุ่นจะส่งออกน้อยลง หลังทางโรงกลั่นในญี่ปุ่นหันไปผลิตและเก็บน้ำมันดีเซลเพื่อทำความร้อนมากขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับความต้องการในช่วงฤดูหนาว

 

- สนับสนุนข้อมูลโดยบมจ. ไทยออยล์ -

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures Insight

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 15 ตุลาคม 2553 09:50:26 น.

กรุงเทพฯ--15 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์

คำแนะนำการลงทุน Gold Futures

DAY TRADER

GFV10 ซื้อในช่วงราคา 19450 — 19480 ขายในช่วงราคา 19530 — 19550

GFZ10 ซื้อในช่วงราคา 19510 — 19530 ขายในช่วงราคา 19600 — 19620

SWING TRADER

ทิศทางราคาทองคำโลก(Gold Spot) อยู่ในช่วงทิศทางขาขึ้นโดยมีแนวรับและแนวต้านที่1360และ1400เหรียญ ระวังค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นและGold Futures series V จะหมดอายุสัญญาวันที่29/10/2010 คำแนะนำนักลงทุนรายวันให้เก็งกำไรตามภาวะแกว่งตัวในทิศทางขาขึ้น นักลงทุนรายสัปดาห์แนะนำหาจังหวะปิดสถานะ LONG POSITIONเพื่อขายทำกำไรบางส่วน และอาจจะหาโอกาสเปิดสถานะบริเวณแนวรับที่ให้ไว้

 

GFV10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 19400 รอขายที่ระดับ 19550

GFZ10 รอเข้าซื้อที่ระดับ 19470 รอขายที่ระดับ 19630

ปัจจัยสำคัญ

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการระหว่างว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 9 ต.ค. พุ่งขึ้น 13,000 ราย แตะระดับ 462,000 ราย มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ 445,000 ราย ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ พุ่งขึ้น 2,250 ราย แตะระดับ 459,000 ราย

 

กระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐ เปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนสิงหาคมของสหรัฐเพิ่มขึ้น 8.8% จากเดือนกรกฎาคม แตะระดับ 4.63 หมื่นล้านดอลลาร์ เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าสินค้าของสหรัฐปรับตัวสูงขึ้น รายงานของกระทรวงระบุว่า มูลค่าการนำเข้าสินค้าเดือนสิงหาคมพุ่งขึ้น 2.1% สู่ระดับ สู่ระดับ 2.002 แสนล้านดอลลาร์ เนื่องจากการนำเข้าอาหาร เคมีภัณฑ์ และ ผลิตภัณฑ์อื่นเพิ่มสูงขึ้น

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 0.4% เนื่องจากต้นทุนราคาอาหารและพลังงานปรับตัวสูงขึ้น มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยับขึ้นเพียง 0.2% ส่วนดัชนี PPI พื้นฐานที่ไม่นับรวมราคาในหมวดอาหารและพลังงาน ขยับขึ้น 0.1% เนื่องจากต้นทุนราคายานยนต์ปรับตัวสูงขึ้น

 

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองคำที่1304.342ตันในช่วงเวลาที่สิ้นสุด ณ วันที่ 14 ต.ค. เพิ่มขึ้น19.142ตันจากระดับ1285.200ของวันที่ 13ต.ค.

 

GOLD Market Recap : 14/10/2010

MORNING RECAP : ราคาทองคำต่างประเทศเปิดที่ระดับ 1,377 $ ส่วน Gold Future V10 เปิดที่ 19,500 สมาคมค้าทองแท่งเปิดที่ 19,400 ปรับขึ้น 200 บาทจากวันทำการก่อน ตลาดทองคำ ( ราคาต่างประเทศ ) อยู่ในทิศทางขาขึ้น โดยเมื่อคืนที่ผ่านมาราคาทองคำทำจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลที่ระดับ 1,380 $ และค่าเงินบาทยังอยู่ในทิศทางแข็งค่า โดยล่าสุดอยู่ที่ 29.86 บาท ต่อดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงเช้าราคาทองคำวิ่งอยู่ในกรอบ 1,376 - 1,380 $ สำหรับช่วงบ่าย ราคาทองคำต่างประเทศปรับตัวขึ้น แต่ไม่ผ่าน 1,387 $ และ Spot Gold ทำจุดสูงสุดใหม่อีกครั้งหนึ่งที่ระดับ 1,386 $ Gold Future V10 ปิดตลาดที่ 19,520 ในขณะที่ราคาทองคำแท่งของสมาคมค้าทองคำแท่ง ปรับขึ้นลง 50 บาท 3 ครั้ง ปิดตลาดอยู่ที่ 19,450 บาท นักลงทุนซื้อขายทำกำไรอย่างหนาแน่น เนื่องมาจาก Spot Gold ทำ New high อีกครั้ง

 

NIGHT RECAP: ราคาทองคำเปิดตลาดในประเทศไทยที่ระดับ 1378 เหรียญ โดยราคาเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1377 - 1387 เหรียญ ก่อนกลับมาปิดตลาดที่ 1380 เหรียญ ในเวลาประเทศไทย ต่อมาในตลาดลอนดอนและนิวยอร์ก ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวอยู่ระหว่าง 1370 - 1380 เหรียญ และกลับมาปิดตลาดที่ 1380 เหรียญ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...