ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

วางกลยุทธ์

ตลาดอนุพันธ์-09/12/53

 

SZ – 101209 ดัชนีตลาด TFEX สัญญาเดือน ธันวาคมที่จะสิ้นสุดเดือนนี้ การเคลื่อนไหวเริ่มถูกแรงขายทำกำไรอีกครั้งจากความกังวลประเด็นการเมืองในประเทศและปัจจัยบางประเด็นทางต่างประเทศสะท้อนออกทางดัชนีตลาดต่างประเทศ ราคาดัชนีจึงยังไม่สามารถยืนเหนือเส้นกรอบด้านล่างและถดถอยย้อนลงมายืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 13 วันอีกครั้ง สัญญาณ MACD อ่อนแอตามคาด แต่ยังอยู่ในแดนบวก เครื่องมือแกว่งสโตร์ขึ้นไปได้เพียงระดับ 80%เศษ และเริ่มวกกลับ กลยุทธ์ยังเป็นการซื้อขายระยะสั้น 1-2 วันเพื่อติดตามทิศทางระยะสั้นโดยอาศัยเครื่องมือระยะสั้น ซึ่งดิ่งลงไปที่ระดับ 16.82%แล้วและพยายามดีดตัวกลับ ทำให้เปิดโอกาสในการเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง สรุป - ดัชนียังแกว่งในกรอบด้านข้าง เข้าสู่ช่วงของการถดถอยระยะสั้น สถานะ - มีสถานะตามเครื่องมือแกว่งระยะสั้น ที่กล่าวถึง

post-237-049450600 1291863545.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วางกลยุทธ์

Gold Futures-09/12/53

ภาพทางเทคนิคแสดงให้เห็นแท่งราคายังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง หลังจากที่ไต่ระดับทำยอดสูงใหม่ สัญญาณ MACD ปรับตัวลงเข้าหาเส้นศูนย์อยู่ในแดนบวก การปรับฐานยังมีความต่อเนื่อง โดยการปรับตัวลงแรงลงเร็วจะมีการดีดตัวตามมา แต่การดีดตัวเป็นเพียงระลอกย่อยและมีโอกาสสูงที่จะไม่ทำยอดสูงใหม่ แต่เป็นโอกาสที่ดีในการขายอีกครั้ง แนวรองรับมีที่ 1,370 / 1,355 / 1,335 $/oz. แนวปะทะระยะสั้นมีที่ 1,392 / 1, 400 / 1,418 $/oz. สรุป – การปรับฐานยังมีความต่อเนื่อง โดยการดีดตัวเป็นเพียงระลอกย่อยและไม่ควรทำยอดสูงใหม่

post-237-096297000 1291864453.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาพทางเทคนิคแสดงให้เห็นแท่งราคาได้ปรับตัวลงมายืนที่เส้นค่าเฉลี่ย หลังจากที่ดีดตัวทำยอดสูงใหม่ สัญญาณ MACD ชะลอตัวอยู่ในแดนบวกเกิดสัญญาณ Divergence การปรับฐานยังคงมีความต่อเนื่องตาม RTXGL แต่ในระยะสั้นมีโอกาสเกิดการดีดตัวและเป็นโอกาสที่ดีในการปิดสถานะ Long อีกครั้ง หรือรอเปิดสถานะ Short ในช่วงที่มีการดีดตัว แนวรองรับมีที่ 19,800 / 19,680 / 19,530 บ. แนวปะทะระยะสั้นมีที่ 20,030 / 20,100 / 20,180 บ.สรุป – การปรับฐานยังมีความต่อเนื่องตาม RTXGL โดยการดีดตัวเป็นโอกาสที่ดีในการเปิดสัญญา Shortกลยุทธ์การลงทุน (เล่นรอบสั้น)1. ผู้มีสถานะ Long แนะนำ ให้ “ปิดทำกำไร” 2. ผู้มีสถานะ Short แนะนำให้ “ถือ” 3. นักลงทุนใหม่ แนะนำให้เปิดสถานะ “Short” โดยมีจุด Stop Loss ที่ 20,100 บ.

post-237-013047800 1291864499.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กราฟวิเคราะห์ ให้ดูกราฟประกอบ

ก่อนเปิดสถานะควรดูแนวโน้มว่าขึ้นหรือลง หากแนวโน้มขึ้นเปิดสถานะL หากราคาขึ้นถึงH3 หากต้านอยู่ ให้ปิดสถานะL เปลี่ยนเปิดสถานะS แต่หากราคาทะลุด่าน

H3แตก ให้ถือLต่อ ถ้าราคาถึงH4ให้ทยอยออกหรือปิดL แต่ถ้าชอบเสี่ยงก็ให้ถือต่อ โดยมีเป้าหมายที่H5

หากเปิดSไว้ก่อน ราคาไปที่L3 หากรับไว้อยู่ ให้ปิดSแล้วเปิดL หากL3แตกให้ถือSต่อ ราคาถึงL4ให้ทยอยปิดS แต่ถ้าชอบเสี่ยงให้ถือSต่อ โดยมีเป้าหมายที่L5

post-237-073839200 1291869777.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กราฟวิเคราะห์ ให้ดูกราฟประกอบ

ก่อนเปิดสถานะควรดูแนวโน้มว่าขึ้นหรือลง หากแนวโน้มขึ้นเปิดสถานะL หากราคาขึ้นถึงH3 หากต้านอยู่ ให้ปิดสถานะL เปลี่ยนเปิดสถานะS แต่หากราคาทะลุด่าน

H3แตก ให้ถือLต่อ ถ้าราคาถึงH4ให้ทยอยออกหรือปิดL แต่ถ้าชอบเสี่ยงก็ให้ถือต่อ โดยมีเป้าหมายที่H5

หากเปิดSไว้ก่อน ราคาไปที่L3 หากรับไว้อยู่ ให้ปิดSแล้วเปิดL หากL3แตกให้ถือSต่อ ราคาถึงL4ให้ทยอยปิดS แต่ถ้าชอบเสี่ยงให้ถือSต่อ โดยมีเป้าหมายที่L5

post-237-047407600 1291869804.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

n6037.gif ทันมื้อกลางวันไม๊คะ

 

4untitled.png

ถูกแก้ไข โดย ohani

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประเมิน Stress Test ยุโรปล้มเหลว ไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นได้

 

Posted on Thursday, December 09, 2010

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ (พ. 8 ธ.ค. 53)

• สต็อกน้ำมันสำรองประจำสัปดาห์ ลดลง 3.8 ล้านบาร์เรล

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯที่จะประกาศออกมาวันนี้ (พฤ. 9 ธ.ค. 53)

• ผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ โดย กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ

• ยอดค้าส่ง (ต.ค.) โดย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ

 

 

ประเมิน Stress Test ยุโรปล้มเหลว ไม่สามารถเรียกความเชื่อมั่นได้

 

ระยะเวลา 5 เดือนหลังจากที่สหรัฐฯ มีการเปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤติ (Stress Test) ของธนาคารพาณิชย์ ในปี 2552 ดัชนี S&P 500 ของสหรัฐฯ ขยับขึ้นถึง 25%

 

อย่างไรก็ดี หากมีการเปรียบเทียบระหว่างการทดสอบระหว่างสหรัฐฯ กับ ยุโรปนั้น จะพบว่า ระยะเวลา 5 เดือน หลังจาก EU มีการรายงานผลการทดสอบภาวะวิกฤติ (Stress Test) นั้น ดัชนี Bloomberg Europe Banks and Financial Services กลับปรับตัวลดลง 4%

 

ทั้งนี้ตัวเลขดังกล่าวนั้น ชี้ให้เห็นว่า การทดสอบ Stress Test ของยุโรปนั้นประสบความล้มเหลวในการเรียกความเชื่อมั่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเดือนที่แล้ว ไอร์แลนด์ ได้ให้ผู้ปล่อยสินเชื่อรายใหญ่ในประเทศต้องเพิ่มทุนอีก แม้ทั้งสองธนาคารจะสามารถสอบผ่านการทดสอบ Stress Test ก็ตาม

 

อ้างอิงจากข้อมูลที่รวบรวมโดยสำนักข่าวบลูมเบิร์ก ปรากฎว่า นับตั้งแต่ที่ผลการทดสอบของยุโรปได้รับการเผยแพร่ไปเมื่อเดือน 23 ก.ค. ที่ผ่านมา ต้นทุนการรับประกันการผิดนัดชำระหนี้ของแบงก์ในยุโรป 110 แห่งนั้นเพิ่มขึ้น 1.13% ขณะที่ credit-default swaps ของ 34 แบงก์ใหญ่ในสหรัฐฯ กลับไม่เปลี่ยนแปลง

 

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับดูแลภาคการธนาคารของสหภาพยุโรป (CEBS) ได้เปิดเผยผลการทดสอบภาวะวิกฤติธนาคารพาณิชย์ 91 แห่งในยุโรป โดยระบุว่ามีธนาคารเพียง 7 ที่ไม่ผ่านการทดสอบ ซึ่งได้แก่ธนาคารไฮโป เรียลเอสเตท โฮลดิ้ง ของเยอรมนี ธนาคารเอทีอีของกรีซ ส่วนธนาคารอีก 5 แห่งเป็นของสเปน แต่ไม่มีธนาคารของไอร์แลนด์รวมอยู่ด้วย ซึ่งทำให้นักวิเคราะห์บางกลุ่มตั้งข้อสังเกตุว่า การทดสอบภาวะวิกฤตในครั้งนี้อาจต่ำกว่ามาตรฐาน

 

ล่าสุด ท่ามกลางความกังวลต่อการลุกลามของวิกฤติหนี้ในยุโรป ผู้กำหนดนโยบายจาก 27 ชาติสมาชิก EU ต่างพยายามหาแนวทางในการปรับปรุงการทดสอบ Stress Test ซึ่งจะมีการนำมาใช้ทดสอบความแข็งแกร่งของแบงก์พาณิชย์ในยุโรปอีกครั้งในปี 2555

 

นักเศรษฐศาสตร์ได้แสดงความคิดเห็นว่า การทดสอบครั้งใหม่จะไม่ง่ายเหมือนเดิม ตราบใดที่ ผู้นำของชาติสมาชิก EU และ ผู้ว่าการธนาคารกลางประเทศต่างๆ ไม่ต้องการจะให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก

 

อย่างไรก็ดี คำแนะนำจากนักวิชาการระบุว่า ถ้ายุโรปต้องการให้การทดสอบมีความน่าเชื่อ การทดสอบครั้งต่อไปจำเป็นที่จะต้องนำความเสี่ยงจากการผิดนัดชำระหนี้ของภาครัฐเข้ามาคำนวณในการทดสอบด้วย

 

มิเชล บาร์นิเยร์ โฆษกฝ่ายกิจการตลาดต่างประเทศของคณะกรรมาธิการยุโรปเปิดเผยว่า สหภาพยุโรป (อียู) จะทำการทดสอบภาวะวิกฤต (stress test) ธนาคารพาณิชย์ในยุโรปเป็นรายปี โดยจะเริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป

 

และจะดำเนินการทดสอบโดยสำนักงานกำกับดูแลด้านการธนาคารแห่งยุโรป (European Banking Authority) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เพิ่งตั้งขึ้นใหม่ เพื่อรับผิดชอบในการกำกับดูแลสถาบันการเงิน โดยบาร์นิเยร์ระบุว่า ขั้นตอนการทดสอบภาวะวิกฤตรายปีจะได้รับการปรับปรุงให้มีความเหมาะสมมากขึ้น

 

 

ยอดส่งออกเยอรมนีร่วงจากดีมานด์ยุโรปซบเซา

 

สำนักงานสถิติกลางของเยอรมนีเผยยอดส่งออกเดือนต.ค. ร่วงลง 1.1% จากผลกระทบของวิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป และภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวที่ทำให้อุปสงค์ซบเซา

 

ยอดส่งออกที่ร่วงลงในเดือนต.ค. สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากที่ขยายตัว 3% ในเดือนก.ย. ซึ่งยอดส่งออกที่ปรับตัวลงดังกล่าวส่งผลให้เยอรมนีมียอดเกินดุลการค้าลดลงเหลือ 14,200 ล้านยูโร (18,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนต.ค. จากระดับ 16,800 ล้านยูโรในเดือนก.ย. ขณะที่ยอดเกินดุลบัญชีเดินสะพัด ซึ่งเป็นมาตรวัดมูลค่าการค้าทั้งหมด โดยรวมทั้งสินค้าและบริการ อยู่ที่ 11,700 ล้านยูโร ลดลงจากระดับ 14,500 ล้านยูโรในเดือนก.ย.

 

อย่างไรก็ตาม หากเทียบเป็นรายปีพบว่า ยอดส่งออกเดือนต.ค. ขยายตัวขึ้น 19.8% จากปีก่อน โดยยอดส่งออกไปยัง 16 ประเทศในยูโรโซน เพิ่มขึ้น 12.7% ขณะที่ยอดส่งออกไปยังประเทศนอกสหภาพยุโรปขยายตัว 28.4%

 

สำหรับการนำเข้าของเยอรมนีในเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้น 0.3% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบเป็นรายปี

 

ทั้งนี้ มาตรการรัดเข็มขัดในกลุ่มประเทศยุโรปส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ของตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของเยอรมนี โดยยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานจากกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่สอง อย่างไรก็ดี อัตราว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำของเยอรมนีได้ช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งทำให้เยอรมนียังมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและช่วยหนุนการฟื้นตัวของระบบเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปได้

 

ด้านธนาคารกลางเยอรมนีคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจในประเทศจะสามารถขยายตัวได้ 3.6% ในปีนี้ เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากการใช้จ่ายภายในประเทศ อันเนื่องมาจากตลาดแรงงานฟื้นตัว ที่ผ่านมา

 

 

ผู้บริหาร Yahoo ยอมรับ Facebook ขึ้นแท่นคู่แข่งชั้นเอก

 

ผู้บริหารของ Search engine ชื่อดังเอ่ยปากยอมรับว่า การรุกอย่างหนักของยักษ์ใหญ่ที่ให้บริการเว็บสังคมออนไลน์กำลังกลายมาเป็นคู่แข่งเบอร์หนึ่งของตนเสียแล้ว ยิ่งเมื่อเห็นการเปิดตัว feature ใหม่ๆ ในระยะหลัง

 

Carol Bartz ซีอีโอหญิงแห่งบริษัท Yahoo ที่เป็นผู้ให้บริการค้นหาทางอินเตอร์เน็ตรายใหญ่ กล่าวว่า ผู้นำแห่งวงการ social network อย่าง Facebook ได้ผงาดขึ้นมาเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับบริษัทแล้ว ซึ่งดูยิ่งน่าเกรงขามยิ่งกว่าขาใหญ่ในธุรกิจ อย่าง บริษัท Google ไปแล้วด้วย

 

Bartz บอกว่า Facebook เป็นเว็บไซท์ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก และมีโอกาสที่จะเติบโตได้มากกว่าธุรกิจออนไลน์ประเภทอื่นๆ ขณะเดียวกัน ก็ยอมรับด้วยว่า ครั้งหนึ่งเขาเคยพิจารณาที่จะเข้าไปซื้อ Facebook ที่จดทะเบียนอยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ ในมูลค่าราวๆ 1,000 ล้านเหรียญ ภายใต้แผนกลยุทธ์ที่ต้องการควบรวมเพื่อครอบครองฐานลูกค้า ตัวเนื้อหาบนเว็บไซท์ วิศวกร ตลอดจนเทคโนโลยีที่ใช้ในการโฆษณา

 

สำหรับภารกิจของ Bartz ในตอนนี้ก็คือ การเพิ่ม feature ใหม่ๆ เพื่อหวังดึงผู้ใช้งานให้ยังอยู่กับตน ก่อนที่จะตีจากหันไปหาผู้ให้บริการ social network อย่างเช่น Facebook หรือแม้แต่ Twitter ที่ผู้ใช้งานมีความสะดวกสบายในการสื่อสารกันในหมู่เพื่อนฝูง

 

ในช่วงที่ผ่านมา Bartz ที่นั่งบนเก้าอี้ผู้นำของ Yahoo มาได้สองปีแล้ว ได้เดินหน้าแผนปรับลดต้นทุน และกำจัดผลิตภัณฑ์ที่ดูเหมือนจะเป็นส่วนเกินออก และหันไปเน้นที่เว็บไซท์ Yahoo ด้วยเรื่องข่าว เนื้อหาทางด้านกีฬา และอื่นๆ นอกจากนั้น เขายังมีดีลการเป็นพันธมิตรร่วมกับบริษัท Microsoft ในการสร้างกลไกค้นหาทางอินเตอร์เน็ต ขณะที่ Yahoo ดูแลทางด้านงานขายโฆษณา

 

ปัจจุบันมีเสียงวิจารณ์ว่า ซีอีโอหญิงของ Yahoo ผู้นี้ ไม่ค่อยประสบความสำเร็จในเรื่องของการฟื้นธุรกิจ และการประคับประคองให้บริษัทก้าวทันไปกับสภาพแวดล้อมบนโลกออนไลน์ ที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปด้วยความรวดเร็วและมีบริษัทใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

 

 

นักวิเคราะห์คาดตลาดหุ้นเอเชียแนวโน้มสดใสปีหน้า

 

หนังสือพิมพ์บิสิเนส ไทมส์ของสิงคโปร์รายงานว่า นักวิคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตลาดหุ้นเอเชียมีแนวโน้มสดใสในปี 2554 โดยล่าสุดนักวิเคราะห์จากธนาคารยูบีเอสได้แนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อหุ้นในตลาดหุ้นจีน อินเดีย และฮ่องกง

 

ลิม จิท ซุน นักวิเคราะห์จากโนมูระ สิงคโปร์ คาดว่ามูลค่าการซื้อขายในตลาดหุ้นสิงคโปร์จะพุ่งขึ้นราว 10-15% ในปี 2554 นอกจากนี้ ลิมกล่าวว่า ปัจจัยที่คาดว่าจะช่วยกระตุ้นการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียมาจากความแข็งแกร่งของสกุลเงิน มูลค่าหุ้นที่น่าดึงดูดใจ และอัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างต่ำ

 

ทั้งนี้ ลิมกล่าวว่า การที่รัฐบาลเอเชียใช้มาตรการเพิ่มอัตราเงินหมุนเวียนในประเทศจะเป็นอีกปัจจัยที่กระตุ้นให้การซื้อขายเป็นไปอย่างคึกคักในปี 2554 โดยคาดว่ามาตรการดังกล่าวจะเป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มธนาคาร หุ้นกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับสินค้าโภคภัณฑ์ และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์

 

ขณะที่แคทเธอรีน เหยียง ผู้อำนวยการฝ่ายการลงทุนตลาดหุ้นเอเชียแปซิฟิกจากบริษัท Fidelitya คาดว่า แนวโน้มการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียปี 2554 จะแข็งแกร่งเช่นกัน เนื่องจากงบดุลของรัฐบาลและภาคเอกชนในเอเชียมีความแข็งแกร่งมาก นอกจากนี้ แคทเธอรีนยังกล่าวกับ AsianInvestor.net ว่า เรื่องเงินเฟ้อไม่ใช่ความเสี่ยงหลักๆของตลาดหุ้นเอเชียในปี 2554

 

 

จิม โรเจอร์ส เห็นด้วยที่จีนขึ้นดอกเบี้ยสกัดเงินเฟ้อ

 

จิม โรเจอร์ส ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินระดับแนวหน้าของโลกและประธานบริษัท โรเจอร์ส โฮลดิ้งส์ กล่าวแสดงความคิดเห็นว่า การที่จีนควบคุมภาวะเงินเฟ้อด้วยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเพิ่มเพดานสำรองสภาพคล่องของธนาคารพาณิชย์นั้น ถือเป็นการดำเนินการที่ถูกต้องแล้ว เพราะทุกคน ต่างก็รู้ว่าจีนกำลังเผชิญปัญหาเงินเฟ้อที่รุนแรง

 

โรเจอร์สกล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้จีนเผชิญปัญหาเงินเฟ้อมาจากสภาพคล่องส่วนเกินในตลาด ซึ่งเป็นผลมาจากกระแสเงินทุนที่มีอยู่เป็นจำนวนมากทั้งภายในประเทศและเงินที่ไหลเข้ามาจากต่างประเทศ จนเป็นเหตุให้ราคาสินค้าของจีนพุ่งขึ้นด้วย

 

นอกจากนี้ จิมยังได้วิพากษ์วิจารณ์มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบสอง หรือ QE2 ของสหรัฐ ว่า การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พยายามกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการอัดฉีดเงินจำนวนมากเข้าสู่ตลาดการเงินนั้น ถือเป็นการดำเนินการที่ผิดอย่างสิ้นเชิง

 

จิม โรเจอร์ส กล่าวว่า การที่สหรัฐฯ ตัดสินใจ พิมพ์เงินเพิ่มเข้าไปในระบบมากขึ้น มีแต่จะทำให้สถานการณ์ในระบบการเงินและเศรษฐกิจเลวร้ายลง

 

จิมกล่าวว่า มาตรการ QE2 ของเฟดทำให้ปัญหาเงินเฟ้อของจีนย่ำแย่ลงไปอีก โดยระบุว่า กระแสคาดการณ์ที่ว่าจีนจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และส่วนต่างระหว่างอัตราดอกเบี้ยของจีนและสหรัฐที่เพิ่มขึ้นนั้น จะดึงดูดเม็ดเงินเก็งกำไรให้ไหลบ่าเข้าสู่ตลาดหุ้นหรือตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีน ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดภาวะเงินเฟ้อด้วย

 

อย่างไรก็ตาม จิมยังคงมีความเชื่อมั่นในเศรษฐกิจและสกุลเงินหยวนของจีน โดยเขากล่าวว่า "โดยส่วนตัวเขาได้ถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เงินเยน ดอลลาร์ออสเตรเลีย ดอลลาร์แคนาดา และเงินหยวน แต่เขาเองก็ไม่ค่อยมั่นใจในสกุลเงินอื่นๆ แต่ผมมั่นใจในเงินหยวนว่าเป็นสกุลเงินที่แข็งแกร่ง และอาจจะเป็นสกุลเงินที่ปลอดภัยที่สุดในขณะนี้ก็ว่าได้"

 

 

ราคาอสังหาฯ จีนอาจสูงขึ้นหากรัฐผ่อนคลายมาตรการคุมเข้ม

 

สถาบันสังคมศาสตร์ของจีน (CASS) คาดการณ์ว่า ราคาที่อยู่อาศัยในประเทศจีนจะเพิ่มขึ้น 15% ในปีนี้ ซึ่งลดลงจากปี 2552 ที่ทะยานขึ้น 25% อย่างไรก็ตาม CASS เตือนว่าราคาที่อยู่อาศัยจะดีดตัวขึ้นในปี 2554 หากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมในช่วงที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ขยายตัวอย่างร้อนแรง

 

รายงาน 2011 Economic Blue Paper ของ CASS ระบุ ว่า "แม้ราคาที่อยู่อาศัยโดยเฉลี่ยปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลงในปีนี้ แต่ราคาก็อาจจะดีดตัวขึ้นราว 20-25% ในปี 2554 หากรัฐบาลผ่อนคลายมาตรการควบคุมการขยายตัวของราคาที่อยู่อาศัย ด้วยเหตุนี้รัฐบาลต้องไม่ผ่อนคลายมาตรการดังกล่าว"

 

นอกจากนี้ CASS กล่าวว่า "ในการควบคุมราคาที่อยู่อาศัยนั้น ทางการจีนจะต้องเพิ่มการจัดหาที่ดิน ใช้มาตรการด้านภาษี และการสร้างความเชื่อมั่นว่ารัฐบาลมีเสถียรภาพในการจัดเก็บภาษีเงินได้จากภาคอสังหาริมทรัพย์ โดยไม่ทำให้ราคาที่อยู่อาศัยปรับตัวสูงขึ้น"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...