ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ที่มา bisnews

 

สภาวะตลาดวันที่ 8 ธันวาคม 2553 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ ที่ระดับ $1,390 – $1,403.4 ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ10 อยู่ที่ 20,000 บาท โดยราคาเปลี่ยนแปลงลดลง 240 บาท จากวันก่อนหน้า ที่ระดับ 20,240 บาทออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 9 ธันวาคม 2553

 

การปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรก่อนหน้านี้ทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวหลุดระดับ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์และได้ไหลลงต่อเนื่องเข้าสู่บริเวณแนวรับหลักที่ระดับ 1,380 (19,650 บาท)ดอลลาร์ต่อออนซ์ซึ่งถือว่าเป็นระดับแนวรับที่มีความสำคัญต่อการดีดตัวกลับของราคาทองคำค่อนข้างมากหากราคามีการขยับลงมาใกล้บริเวณดังกล่าวแล้วไม่หลุดลงไปนักลงทุนสามารถที่เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรในช่วงของการดีดตัวได้ทั้งนี้หากราคาหลุดระดับแนวรับดังกล่าวแล้วไม่สามารถดีดตัวขึ้นมายืนได้นักลงทุนจำเป็นที่จะต้องชะลอการเข้าซื้อเพื่อถอยออกมาดูสถานการณ์สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการเทขายออกมาค่อนข้างมากจากระดับ 1,430 ดอลลาร์สู่ระดับต่ำกว่า 1,390 ดอลลาร์ นั้นเบื้องต้นทางวายแอลจีประเมินว่าเป็นเพียงการเทขายทำกำไรของนักลงทุนเนื่องจากก่อนหน้านี้ราคาทองคำได้มีการดีดตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็วบวกกับการดีดตัวของเงินสกุลดอลลาร์ก็ยิ่งเพิ่มแรงกระตุ้นให้เกิดการเทขายทำกำไรดังกล่าว

 

สำหรับการแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลดอลลาร์นั้นเกิดจากการที่นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโอบามาและแกนนำพรรครีพับลิกันตกลงที่จะขยายโครงการลด หย่อนภาษีที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้ริเริ่มเอาไว้ พร้อมทั้งขยายขอบข่ายโครงการให้สวัสดิการแก่ผู้ไม่มีงานทำ ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นผลผลักดันให้ Dollar index ขยับขึ้นยืนเหนือระดับ 80 จุดและส่งผลกดดันให้เกิดการขายทำกำไรนั่นเอง อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของดอลลาร์ยังมีข้อจำกัดอยู่เนื่องจากฐานะการคลังที่อ่อนแอลงและความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของรัฐบาลในการชำระหนี้ในอนาคตอาจฉุดให้ดอลลาร์อ่อนตัวลงมาอีกในระยะต่อไปซึ่งนั่นก็จะกลายเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ ในส่วนของเป้าหมายทำกำไรนั้นเบื้องต้นทางวายแอลจียังคงเป้าหมายเดิมไว้ที่ระดับ 1,435(20,350 บาท) หรือ 1,450 (20,550 บาท) ดอลลาร์ต่อออนซ์ เช่นเดิม ทั้งนี้ปัจจัยเสี่ยงต่อการปรับขึ้นที่ยังคงเน้นย้ำให้นักลงทุนติดตามอย่างใกล้ชิดก็คือมาตรการควบคุมเงินเฟ้อและสภาวะฟองสบู่ของจีนที่เคยกล่าวไว้แล้วก่อนหน้านี้สำหรับการขายทำกำไรของกลุ่มเฮดจ์ฟันด์นั้นให้จับตาแนวรับบริเวณ 1,380 ดออลลาร์ต่อออนซ์เป็นหลักหากราคาหลุดแนวรับดังกล่าวให้สันนิษฐานไว้ก่อนเบื้องต้นว่าแรงขายดังกล่าวน่าจะเกิดจากการเทขายทำกำไรของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ซึ่งหากเกิดกรณีนี้ทางวายแอลจีก็ได้เน้นย้ำแล้วว่าให้นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อออกไปก่อน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

+1ค่ะสำหรับข่าวรอบเย็น อาจารย์ทองใหม่ขยันจริงๆ พักผ่อนบ้างนะคะ ขอบคุณค่ะ !thk !30

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทอ่อนค่าปิดตลาด30.13/30.15บาทต่อดอลลาร์

วันพุธที่ 08 ธันวาคม 2010 เวลา 17:55 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

นักบริหารเงินธนาคารซีไอเอ็มบีไทย กล่าวว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ (8 ธ.ค.) ที่ระดับ 30.13/30.15 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าจากเปิดตลาดช่วงเช้าที่ระดับ 30.05/30.07 บาทต่อดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันกับสกุลเงินในภูมิภาค และมีสัญญาณธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่เข้ามาดูแลเป็นระยะๆ

 

สำหรับความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 83.86/90 เยน/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 83.67/70 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3218/3220 ดอลลาร์/ยูโร ปรับตัวอ่อนค่าจากระดับ 1.3268/3271 ดอลลาร์/ยูโร

 

 

 

โดยวันนี้ นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวในการปาฐกถาพิเศษ "ทิศทางนโยบายการเงินของประเทศไทยในทศวรรษหน้า"ว่า ขณะนี้ระดับความผันผวนค่าเงินบาทอยู่ที่ 3.4% ต่ำเป็นอันดับ 2 รองจากค่าเงินหยวนที่อยู่ในระดับ 1.2% ขณะที่ ธปท.จะใช้นโยบายดูแลเงินบาทตามการเคลื่อนไหวของกลไกตลาด โดยมีเงื่อนไขว่าระดับความผันผวนจะอยู่ในระดับที่เศรษฐกิจรับได้ และสอดคล้องกับพื้นฐานด้านเศรษฐกิจ เพื่อนำไปสู่ความสมดุลด้านเศรษฐกิจและความสามารถในการแข่งขันระยะยาว โดยจะพิจารณาจากดัชนีค่าเงินบาทที่แท้จริง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

YLG : มาตรการคุมเงินเฟ้อของจีนเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการปรับขึ้นของราคาทองคำ

วันพุธที่ 08 ธันวาคม 2010 เวลา 17:32 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - ข่าวในประเทศ

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 8 ธันวาคม 2553 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบ ที่ระดับ $1,390 – $1,403.4 ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ10 อยู่ที่ 20,000 บาท โดยราคาเปลี่ยนแปลงลดลง 240 บาท จากวันก่อนหน้า ที่ระดับ 20,240 บาท

 

แนวโน้มวันที่ 9 ธันวาคม 2553 การปรับตัวลงจากแรงขายทำกำไรก่อนหน้านี้ทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวหลุดระดับ 1,400 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และได้ไหลลงต่อเนื่องเข้าสู่บริเวณแนวรับหลักที่ระดับ 1,380 (19,650 บาท)ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งถือว่าเป็นระดับแนวรับที่มีความสำคัญต่อการดีดตัวกลับของราคาทองคำค่อนข้างมาก หากราคามีการขยับลงมาใกล้บริเวณดังกล่าวแล้ว ไม่หลุดลงไป นักลงทุนสามารถที่เข้าซื้อเพื่อเก็งกำไรในช่วงของการดีดตัวได้ ทั้งนี้ หากราคาหลุดระดับแนวรับดังกล่าวแล้วไม่สามารถดีดตัวขึ้นมายืนได้ นักลงทุนจำเป็นที่จะต้องชะลอการเข้าซื้อเพื่อถอยออกมาดูสถานการณ์

 

 

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดการเทขายออกมาค่อนข้างมากจากระดับ 1,430 ดอลลาร์สู่ระดับต่ำกว่า 1,390 ดอลลาร์ นั้น เบื้องต้นทางวายแอลจีประเมินว่าเป็นเพียงการเทขายทำกำไรของนักลงทุน เนื่องจากก่อนหน้านี้ราคาทองคำได้มีการดีดตัวขึ้นมาค่อนข้างเร็ว บวกกับการดีดตัวของเงินสกุลดอลลาร์ก็ยิ่งเพิ่มแรงกระตุ้นให้เกิดการเทขายทำกำไรดังกล่าว

 

 

 

สำหรับการแข็งค่าขึ้นของเงินสกุลดอลลาร์นั้นเกิดจากการที่นักลงทุนเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีโอบามาและแกนนำพรรครีพับลิกันตกลงที่จะขยายโครงการลด หย่อนภาษีที่อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช ได้ริเริ่มเอาไว้ พร้อมทั้งขยายขอบข่ายโครงการให้สวัสดิการแก่ผู้ไม่มีงานทำ ซึ่งทำให้นักลงทุนเชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ ขยายตัวต่อเนื่องเป็นผลผลักดันให้ Dollar index ขยับขึ้นยืนเหนือระดับ 80 จุดและส่งผลกดดันให้เกิดการขายทำกำไรนั่นเอง

 

 

 

อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของดอลลาร์ยังมีข้อจำกัดอยู่เนื่องจากฐานะการคลังที่อ่อนแอลงและความกังวลเกี่ยวกับความสามารถของรัฐบาลในการชำระหนี้ในอนาคตอาจฉุดให้ดอลลาร์อ่อนตัวลงมาอีกในระยะต่อไปซึ่งนั่นก็จะกลายเป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำ ในส่วนของเป้าหมายทำกำไรนั้นเบื้องต้นทางวายแอลจียังคงเป้าหมายเดิมไว้ที่ระดับ 1,435(20,350 บาท) หรือ 1,450 (20,550 บาท) ดอลลาร์ต่อออนซ์ เช่นเดิม

 

 

 

ทั้งนี้ ปัจจัยเสี่ยงต่อการปรับขึ้นที่ยังคงเน้นย้ำให้นักลงทุนติดตามอย่างใกล้ชิด ก็คือ มาตรการควบคุมเงินเฟ้อและสภาวะฟองสบู่ของจีนที่เคยกล่าวไว้แล้วก่อนหน้านี้ สำหรับการขายทำกำไรของกลุ่มเฮดจ์ฟันด์นั้นให้จับตาแนวรับบริเวณ 1,380 ดออลลาร์ต่อออนซ์เป็นหลัก หากราคาหลุดแนวรับดังกล่าวให้สันนิษฐานไว้ก่อนเบื้องต้นว่าแรงขายดังกล่าวน่าจะเกิดจากการเทขายทำกำไรของกองทุนเฮดจ์ฟันด์ ซึ่งหากเกิดกรณีนี้ทางวายแอลจีก็ได้เน้นย้ำแล้วว่าให้นักลงทุนชะลอการเข้าซื้อออกไปก่อน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากครับ สำหรับข่าวคราวรายวันของ อ.ทองใหม่ ครับ

วันนี้ วายแอลจี แทงกั๊ก ทั้งขึ้นและลง สรุปแสดงว่า ตื่นเช้ามา ราคาก็คงอยู่ที่เดิมเหมือนเช้าวันนี้ 1,390.55 ฮิ ฮิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...