การลงทุนด้วยระบบ

[Yai Carmungwed 104]

ผมขอตามระบบอาจารย์เสม 1600แค่เบื้องต้น ผมขอรอครับ

 

ใครใจถึง ขอตบมือให้ครับOne thousand six hundred dollars US

ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 3, 2010 โดย Yai Carmungwed

[kathy 14]

ขอตามระบบไปด้วยคนค่ะ

[ส้มโอมือ 4,910]

'ภัทร'หวั่นหุ้นไทยแรงจัด บีบธปท.ออกมาตรการคุมทุนไหลเข้า

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 3 พฤศจิกายน 2553 23:03 น.

 

 

 

 

 

บล.ภัทร ชี้ ดัชนีหุ้นขึ้นสูงเกินปัจจัยพื้นฐาน พร้อมเกิดฟองสบู่ในตลาดหุ้นไทย จากเม็ดเงินลงทุนไหลเข้า คาดธปท.ออกมาตรการคุมค่าเงินบาทเพิ่ม หลังมาตการเก็บภาษีบอนด์ 15% ชี้แม้กระทบตลาดหุ้นก็ต้องยอมรับสภาพ ระบุนักลงทุนต้องเสี่ยงลงทุนเองจากราคาหุ้นเต็มมูลค่าแล้ว ล่าสุดวานนี้ดัชนีบวกเพิ่ม 8.62 จุด ตามตลาดภูมิภาค ส่วนวันนี้จับตาเม็ดเงินอัดฉีดเข้าระบบ จะมากหรือน้อย

 

นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ PHATRA เปิดเผยว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยขณะนี้มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นเกินปัจจัยพื้นฐาน ซึ่งพร้อมที่จะเกิดฟองสบู่ในตลาดหุ้น จากเม็ดเงินลงทุนต่างประเทศที่ไหลเข้ามาจากสภาพคล่องในระบบที่สูง เพราะธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะมีการพิมพ์เงินเข้ามาในระบบที่เพิ่มขึ้นอีก 5 แสนล้านเหรียญสหรัฐเพื่อเข้ามาซื้อพันธบัตรรัฐบาลของสหรัฐในอีก 6 เดือน ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยยังสามารถที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งจะทำให้ค่าเงินมีการแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆตราบที่สหรัฐอเมริกามีการพิมพ์เงินเพิ่มขึ้น

 

ทั้งนี้คาดว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะมีการออกมาตรการควบคุมค่าเงินบาท ซึ่งหากกระทบการลงทุนในหุ้นนั้นต้องยอมรับสภาพจาก ค่าเงินบาทที่มีการแข็งค่าขึ้น แต่ไม่ทราบว่าจะเป็นเมื่อไร หลังจากที่มีการออกมาตรการเก็บภาษีกำไรจากเงินลงทุนในตราสารหนี้ของนักลงทุนต่างประเทศ 15% นั้นได้ผลน้อยมาก ซึ่งแนวทางที่จะมีการดำเนินการคุมค่าเงินที่แข็งค่านั้นมี 3 แนวทาง คือ ออกฎหมายใหม่หากมีการเก็บภาษี หากมีการใช้มาตรการเหมือนกับทางชิลีที่มีการเก็บภาษีในตราสารหนี้ 6% เก็บภาษีการลงทุนในหุ้น 2% 2.ใช้มาตรการเดิมคือนำมาตรการกันสำรอง 30%แต่ไม่เข้มเหมือนกับครั้งก่อนและ3ออกมาตรการแบบเฉพาะเจาะจง

 

“ขณะนี้P/Eตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 15เท่า ซึ่งเป็นระดับเดียวกับประเทศในภูมิภาคจากปกติที่P/E ตลาดหุ้นไทยจะต่ำกว่าตลาดหุ้นในภูมิภาค 20% โดยถือว่าการปรับขึ้นของดัชนีนั้นไม่มีปัจจัยพื้นฐานรองรับ ทำให้ตลาดหุ้นไทยพร้อมที่จะเกิดฟองสบู่ แต่เมื่อไรนั้นยังไม่สามารถตอบได้ เพราะบางครั้งฟองสบู่ที่จะพองขึ้นนั้นใช้เวลาถึง 2 ปี ซึ่งนักลงทุนหากจะมีการลงทุนนั้นจะต้องมีการเสี่ยง จากดัชนีหุ้นเกินปัจจัยพื้นฐานไปแล้ว ”นายศุภวุฒิ กล่าว

 

สำหรับในปี 2554นั้นถือว่าเป็นปีที่มีความท้าทายมาก จากการที่สหรัฐอเมริกาจะมีการใช้นโยบายการขอแบ่งการเติบโตเศรษฐกิจในประเทศกำลังการพัฒนาโดยการทำให้ค่าเงินดอลลาร์มีการอ่อนค่า เพื่อที่ทำให้มีการส่งออกมากขึ้น มีผลทำให้นำเข้าลดลง จึงทำให้เศรษฐกิจสหรัฐมีการเติบโตแต่การเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐในปีหน้าจะโต 1.8% ซึ่งต่ำกว่าประเทศเกิดใหม่ที่เศรษฐกิจจะโต 7.7% ทำให้เม็ดเงินทุนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่มากขึ้นเพื่อที่จะได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า

 

นายยรรยง ไทยเจริญ ผู้อำนวยการ สถาบันวิจัยเพื่อตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยขณะนี้ที่อยู่ระดับ 1,000 จุด นั้น มีโอกาสที่จะสามารถปรับตัวเพิ่มขึ้นได้แต่ไม่มาก ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดัเพราะตลาดหลักทรัพย์นหวังที่จะให้ตลาดหุ้นไทยมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมั่นคงแต่หากมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงกว่าก็อาจที่จะเกิดฟองสบู่ได้ ซึ่งจะต้องมีมาตรการดูแล โดยตลาดหุ้นไทยขณะนี้ยังไม่เห็นสัญญาณการเกิดฟองสบู่ จากค่าP/Eขณะนี้อยู่ที่ 14-15 เท่า ซึ่งถือว่ายังอยู่ในระดับปกติ เมื่อเทียบกับช่วงวิกฤตนั้นP/E ตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 30 เท่า

 

“ดัชนีตลาดหุ้นไทยที่มีความคึกคัก จากเม็ดเงินต่างประเทศไหลเข้ามาลงทุน และการเมืองในประเทศสงบทำให้นักลงทุนสนใจเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทยมากขึ้น ”นายยรรยง กล่าว

 

*หุ้นไทยบวกตามภูมิภาค

 

ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย วานนี้(3พ.ย.) ปิดที่ 1,014.20 จุด เพิ่มขึ้น 8.62 จุด หรือ 0.86% มูลค่าการซื้อขาย 50,900.70 ล้านบาท โดยเป็นการปรับตัวขึ้นตามตลาดภูมิภาค และตลาดสหรัฐฯที่ปรับขึ้นทั่วหน้า หลังพรรครีพับลิกันชนะการเลือกตั้ง

 

นางศศิกร เจริญสุวรรณ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย)กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับตัวขึ้นดี ตามตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดสหรัฐฯที่ขยับตัวขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมา ภายหลังจากพรรครีพับลิกันได้ที่นั่งมากขึ้นในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรกลางเทอม เพราะต่างมองว่าน่าจะเป็นผลดีต่อระบบธุรกิจในสหรัฐฯ

 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังเฝ้าจับตาดูมาตรการ QE#2 ของสหรัฐฯ โดยคาดการณ์เม็ดเงินอัดฉีดเข้าระบบ 5 แสนล้านเหรียญฯ ถึง 1.5 ล้านล้านเหรียญฯ ซึ่งหากคืนนี้ตัวเลขออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์กันไว้ ก็จะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลง และช่วงสั้นก็จะมีเม็ดเงินเข้าตลาดภูมิภาคได้อีก ทำให้ แนวโน้มการลงทุนในวันนี้(4 พ.ย.) จะต้องรอดูมาตรการ QE#2 เป็นหลักก่อน ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร พร้อมให้แนวรับไว้ที่ 1,009-1,003 จุด แนวต้าน 1,020-1,026 จุด

 

[ohmygold 0]

ผล FED เป็นอย่างไรบ้างครับใครทราบบ้าง

[ส้มโอมือ 4,910]

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดสูงสุดของปีนี้ หลัง เฟด ประกาศปั๊มเงินอีก 6 แสนล้านดอลลาร์ฯ

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2553 04:12 น.

 

 

 

 

 

หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯประกาศอัดฉีดเงินเข้าระบบ โดยจะเข้าซื้อพันธบัตรอีก 6 แสนล้านดอลลาร์ ด้วยการทะยอยซื้อจนถึงกลางปีหน้า ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดของปีนี้ ที่ 11,215.13 เพิ่มขึ้น 26.41 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.24%

ดัชนีแนสแด็ค ปิดที่ 2,540.27 เพิ่มขึ้น 6.75 หรือเพิ่มขึ้น 0.27%

ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,197.96 เพิ่มขึ้น 4.39 หรือเพิ่มขึ้น 0.37

ขณะที่ดัชนีฝั่งยุโรปปิดลดลง

ดัชนีปิดที่ 5,748.97 ลดลง 8.46 จุด หรือลดลง 0.15%

ดัชนีปิดที่ 6,617.80 ลดลง 36.51 จุด หรือลดลง 0.55%

ดัชนีปิดที่ 3,842.94 ลดลง 22.78 จุด หรือลดลง 0.59%

[ohmygold 0]

ขอบคุณครับ

[ส้มโอมือ 4,910]

http://www.chaloke.com/article/861-2010-11-03-17-58-44.html

[wisthawat 2]

มากกว่าคาดแฮะ ตอนแรกผมนึกว่าอาจจะซักห้าแสนล้าน

[farerex 13]

อรุณสวัสดิ์จารย์เสมและคุณส้มโอมือ มาเสริฟข่าวกันให้แต่เช้ารับอรุณรุ่งเลย ต้องขอขอบคุณจริงๆ ทองเล่นซะมึนตึบ ถ้าไม่ตามระบบจะมึนมากว่านี้อีก รอดูต่อจะแหวี่ยงไปถึงไหน หะหะ ถูกแก้ไข พฤศจิกายน 3, 2010 โดย farerex

[iamshah 4]

อรุณสวัสดิ์ ครับ

ราคาเมื่อคืนขึ้น ลงแรง ครับ

!uu !uu

[ปุยเมฆ 2,791]

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดสูงสุดของปีนี้ หลัง เฟด ประกาศปั๊มเงินอีก 6 แสนล้านดอลลาร์ฯ

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤศจิกายน 2553 04:12 น.

 

 

 

 

 

หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐฯประกาศอัดฉีดเงินเข้าระบบ โดยจะเข้าซื้อพันธบัตรอีก 6 แสนล้านดอลลาร์ ด้วยการทะยอยซื้อจนถึงกลางปีหน้า ส่งผลให้ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ระดับสูงสุดของปีนี้ ที่ 11,215.13 เพิ่มขึ้น 26.41 จุด หรือเพิ่มขึ้น 0.24%

ดัชนีแนสแด็ค ปิดที่ 2,540.27 เพิ่มขึ้น 6.75 หรือเพิ่มขึ้น 0.27%

ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 1,197.96 เพิ่มขึ้น 4.39 หรือเพิ่มขึ้น 0.37

ขณะที่ดัชนีฝั่งยุโรปปิดลดลง

ดัชนีปิดที่ 5,748.97 ลดลง 8.46 จุด หรือลดลง 0.15%

ดัชนีปิดที่ 6,617.80 ลดลง 36.51 จุด หรือลดลง 0.55%

ดัชนีปิดที่ 3,842.94 ลดลง 22.78 จุด หรือลดลง 0.59%

 

ขอบคุณสำหรับข่าวค่ะ คุณส้มโอมือ

[boom_b-b 6]

เมื่อคืนขึ้นลงรวมกันเกือบร้อยแหนะจารย์

วันนี้นังงัยดีครับ นอนดึกเลยเมือวาน

[linjong 0]

เมื่อคืนเล่นเอามึน !ghost วันนี้เอางัยต่อดีค่ะ GF ยังเขียวอยู่เป่าค่ะ

[kathy 14]

เมื่อคืนเล่นเอาพวกเรา มึนตึบเลย วันนี้เอาไงต่อดีค๊า จารย์เสม.....

[kathy 14]

สงสัยจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่งั้นจารย์เสม คง เข้ามาบอกพวกเราแล้วแหละ......