ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

มีใครชิงปิดสัญญา L ไปก่อน เมื่อเช้าวันนี้แล้วบ้าง โชคดีจริงๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองลงแล้วค่า ทำไงดี เพิ่งเก็บแท่งไปเอง มันจะติดดอยมั้ยคะ !_10 !_10 !_10

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปีนกลับมาใหม่ได้แล้วน่ะครับ ตอนนี้อยู่ 1196

ปีนขึ้นมาได้เร็วด้วย

 

สงสัย ข่าวเฟด จะไปในทิศทางที่ไม่ค่อยดี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นขึ้น เร่งเข้ามาลงทุนได้แล้ว ?

คอลัมน์ ระดมสมอง โดย เพสซิมิสต์ ประชาชาติธุรกิจ วันที่ 09 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 34 ฉบับที่ 4234

 

1 เดือนที่ผ่านมาหุ้นปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วโลก ในประเทศไทยเองราคาหุ้นก็ปรับเพิ่มขึ้นกว่า 10% และต่างชาติทยอยซื้อหุ้นไทยพร้อมกับคำเตือนของทางการไทยว่ากลัวเงินต่างชาติจะทะลักเข้ามาลงทุนในเอเชียและในไทย เพราะเศรษฐกิจเราจะขยายตัวสูงกว่าเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรป

 

แปลว่านักวิเคราะห์หุ้นคงจะออกมาให้ข่าวว่า หุ้นไทยน่าจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง คงจะมีการปรับเป้าดัชนีตลาด หลักทรัพย์ฯให้สูงขึ้นเป็นการเชื้อเชิญอีก ด้านหนึ่งให้เข้ามาลงทุนซื้อหุ้น ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องนี้ Wall Street Journal ได้ลงบทความเตือนใจนักลงทุน (วันที่ 27 กรกฎาคม 2010 หน้า 11) 10 ข้อ ดังต่อไปนี้

 

1."ตอนนี้ควรซื้อหุ้นได้แล้ว" จริงหรือ ? ควรถามโบรกเกอร์ของคุณว่าเขาได้เตือนคุณให้ขายหุ้นเมื่อเดือนตุลาคม 2007 ก่อนที่หุ้นจะเริ่มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องหรือเปล่า และในต้นปี 2000 (ก่อนฟองสบู่ อินเทอร์เน็ตแตก) เขาได้เตือนคุณให้ขาย หรือไม่ ? อาจเปรียบเทียบได้ว่านาฬิกาที่ไม่เดินนั้นจะตรงเวลา 2 ครั้งใน 24 ช.ม. แต่ก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะใช้นาฬิกาดังกล่าวบอกเวลา ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่าการถามโบรกเกอร์ว่าตอนนี้ควรซื้อหุ้นหรือยัง ก็เหมือนกับการถามแม่ค้าว่าอาหารที่ขายอยู่อร่อยหรือไม่

 

2."หุ้นให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10% ต่อปี" สถิติที่ว่านี้เป็นการอ้างตัวเลขย้อนหลังไป 200 ปี ซึ่งข้อมูลสมัยก่อนน่าจะมีความคลาดเคลื่อนมากและต้องเข้าใจอีกด้วยว่า 3% เป็นเพราะอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าผลตอบแทนจากหุ้นนั้น น่าจะประมาณ 5% ต่อปี (ไม่รวมเงินเฟ้อ) ที่สำคัญคือหากซื้อผิดจังหวะคือซื้อหุ้นตอนหุ้นราคาแพงก็จะไม่สามารถ ได้ผลตอบแทนดังที่กล่าวอ้างกัน เช่น หุ้นไทยนั้นดัชนีสูงถึง 1,700 จุดในต้นปี 1994 จนบัดนี้ดัชนีก็ยังอยู่ที่ 850 จุดเท่านั้น หรือกรณีของดัชนีตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นซึ่งเคยสูงถึง 30,000 จุด แต่ปัจจุบันไต่ระดับมาถึงแค่ 9,500 จุดเท่านั้น

 

3."นักเศรษฐศาสตร์ของเรา คาดการณ์ว่า..." ตรงนี้ให้ถามได้เลยว่า นักเศรษฐศาสตร์ของคุณเคยคาดการณ์ และตักเตือนว่าเศรษฐกิจจะถดถอยหรือไม่ (เพราะนักเศรษฐศาสตร์ไม่เคยคาดการณ์ความตกต่ำหรือวิกฤตเศรษฐกิจได้ก่อนเลย) แม้แต่ปี 2008 นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ก็ยังปฏิเสธไม่ยอมเชื่อว่าภัยอันตรายจากความตกต่ำทางเศรษฐกิจกำลังใกล้ตัว ทั้งนี้ นักเศรษฐศาสตร์มักจะบอกว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง แต่จะไม่ถึงกับตกต่ำลง Warren Buffet เคยกล่าวเสียดสีนักเศรษฐศาสตร์ว่าเป็นผู้ที่ทำให้หมอดู"ดูดี"

 

4."การลงทุนในหุ้นทำให้คุณมีส่วนร่วมในการขยายตัวของเศรษฐกิจ" ตรงนี้ให้กลับไปดูประสบการณ์ของญี่ปุ่นซึ่งเศรษฐกิจขยายตัวประมาณ 25% ในช่วง 22 ปีที่ผ่านมา แต่ตลาดหุ้นได้ปรับตัวลงจาก 30,000 จุด เหลือไม่ถึง 10,000 จุด ในกรณีของสหรัฐนั้นในปี 1969 จีดีพีสหรัฐมูลค่า 1 ล้านล้านเหรียญ และดัชนีดาวโจนส์ก็ประมาณ 1,000 จุด อีก 13 ปีต่อมา (1982) จีดีพีสหรัฐปรับขึ้นไปที่ 3.3 ล้านล้านเหรียญ แต่ดัชนีดาวโจนส์ก็ยังอยู่ที่ 1,000 จุดเท่าเดิม

 

5."หากคุณต้องการผลตอบแทนสูงก็ต้องรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้น" การซื้อหุ้นให้มีกำไรจะต้องซื้อหุ้นที่ราคาถูก ดังนั้นนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จสูงอย่าง Buffet จึงเน้นการค้นหาหุ้นราคาถูกเมื่อเปรียบเทียบกับความสามารถในการทำกำไรในอนาคต ดังนั้นความเสี่ยงที่กล่าวถึงน่าจะหมายความถึงความเสี่ยงที่ราคาหุ้นอาจปรับขึ้นลงได้มากในระยะสั้น แต่ไม่ใช่ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นจากการล้มละลายทางธุรกิจ ซึ่งหมายถึงการสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด

 

6."ขณะนี้หุ้นราคาถูกมากเพราะพี/อีเพียง 13 เท่า" พี/อีหรือราคาหุ้นต่อกำไรต่อหุ้นนั้นอาจทำให้ไขว้เขวได้ เพราะกำไรต่อหุ้นอาจผันผวนได้อย่างมาก เช่น พี/อีอาจสูงเพราะเกิดความเชื่อมั่นเกินควรว่าสถานการณ์เอื้ออำนวยอย่างมาก (หรือเมื่อขาดความมั่นใจพี/อีอาจต่ำมากเพราะไม่เชื่อว่าบริษัทจะทำกำไรได้มากในอนาคต) ดังนั้นจึงควรถามถึงข้อมูลอื่น ๆ ประกอบการพิจารณาด้วย เช่น อัตราการจ่ายเงินปันผลหรือพี/อีเฉลี่ยในระยะยาว หรือราคาหุ้นเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าสินทรัพย์ของบริษัท ซึ่งข้อมูลดังกล่าวโดยรวมจะสะท้อนได้ว่าราคาหุ้นถูกจริงหรือไม่

 

7."คุณกะจังหวะของตลาดไม่ได้จึงต้องลงทุนเต็มที่ตลอดเวลา" จริงที่การคาดการณ์ว่าตลาดจะปรับขึ้นหรือลงแบบ วันต่อวันนั้นทำได้ยาก แต่ก็ไม่ได้หมาย ความว่าจะไม่พิจารณาในภาพรวมว่าขณะนี้หุ้นค่อนข้างถูกหรือแพง หากซื้อหุ้นเมื่อหุ้นราคาถูก (เมื่อเทียบกับกระแสเงินสดและสินทรัพย์ของบริษัท เป็นต้น) ก็จะช่วยให้สามารถซื้อหุ้นในราคาที่ถูกและได้กำไรงาม แต่หากซื้อพร้อมกับคนอื่นในช่วงที่ทุกคนมองหุ้นในแง่ดีด้านเดียวก็อาจขาดทุนนานหลายปี

 

8."เราเสนอให้กระจายการลงทุนในกองทุนรวมหลายกอง" หากโบรกเกอร์ให้กระจายการลงทุนระหว่างเงินสด พันธบัตร หุ้นและกองทุนทางเลือก เช่น ทองและน้ำมัน ก็ถือว่าเป็นคำแนะนำที่ถูกต้องตามหลักวิชาการ แต่ในหลายกรณีโบรกเกอร์จะแนะนำให้ซื้อกองทุนหุ้น (ประเภทเดียวกัน) มีแต่เพียงกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่างกัน เช่น ลงทุนหุ้นประเภท "เติบโตเร็ว" "ราคาถูก" "ขนาดกลาง" ฯลฯ ซึ่งเป็นเพียงกลยุทธ์ในเชิงของการตลาดมากกว่าการกระจายความเสี่ยงจริง ยิ่งหากแนะนำให้ซื้อหุ้นหลายตัวเพื่อกระจายความเสี่ยงก็ไม่ถือว่าเป็นการกระจายความเสี่ยงที่แท้จริงเพราะราคาหุ้นมักจะปรับขึ้นลงไปพร้อมกัน

 

9."ตลาดอย่างนี้ต้องเน้นการเลือกซื้อหุ้นเป็นรายตัว" ในความเป็นจริงนั้นกำไรจากการลงทุนส่วนใหญ่ (80%) มาจากการเลือกประเภทสินทรัพย์ที่จะลงทุน กล่าวคือ เลือกการลงทุนระหว่างหุ้น ตราสารหนี้ เงินสด และการลงทุนทางเลือกใหม่ (asset allocation) ให้สัดส่วนถูกต้องจะทำกำไรให้กับนักลงทุน เช่นหากเลือกลงทุนในหุ้นเป็นสัดส่วนสูงของการลงทุนทั้งหมดในปี 2008 ก็จะขาดทุนอย่างมากไม่ว่าจะเลือกหุ้นตัวใด แต่หากเลือกลงทุนในหุ้นน้อยแต่ลงทุนในตราสารหนี้รัฐบาลมาก (และหลีกเลี่ยงการลงทุนในตราสารซีดีโอ)ก็จะทำกำไรดีในปี 2008 เป็นต้น

 

10."หุ้นให้ผลตอบแทนสูงกว่าในระยะยาว" ดังที่กล่าวมาแล้วข้างต้น บางครั้งระยะยาวอาจจะต้องยาวมาก (เช่น กรณีของญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1989 หรือไทยตั้งแต่ 1994) ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ John Maynard Keynes กล่าวว่า "ในระยะยาวเราก็ตายกันหมดแล้ว"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สัญญาณแห่งความรุ่งเรือง

โลกในมุมมองของ Value Investor : ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร กรุงเทพธุรกิจ วันอังคารที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2553

 

ตัวเลขการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่ประกาศออกมาแต่ละไตรมาสนั้น มีประโยชน์น้อยในการพิจารณาการลงทุน เหตุผลก็เพราะมันเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว นักลงทุนต้องการรู้ว่าอนาคต หรือการประกาศตัวเลขในไตรมาสที่จะถึง เศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรมากกว่า

 

การที่จะรู้ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไรนั้น บ่อยครั้งผมจะดูจาก "สัญญาณ" ที่เกิดขึ้น จากสิ่งที่ผมเห็นและสัมผัสในชีวิตประจำวัน อย่างเช่น ในช่วงนี้ผมรู้สึกว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยคงจะรุ่งเรืองพอสมควรทีเดียว เพราะผมได้เห็นและรู้สึกว่ามีการเปลี่ยนแปลงในกิจกรรมทางเศรษฐกิจในเรื่องต่างๆ ต่อไปนี้

 

สัญญาณแรก ซึ่งผมเริ่มรู้สึกเล็กน้อยมาได้หลายเดือนแล้ว ก็คือ ร้านสะดวกซื้อมีคนเดินหยิบสินค้าและเข้าคิวจ่ายเงินมากขึ้น ร้านสะดวกซื้อนั้น จริงๆ แล้ว เป็นสัญญาณที่ไม่แรงหรือเป็นสัญญาณอ่อน เพราะจำนวนคนในแต่ละช่วงเวลานั้นมีไม่มาก การรอจ่ายเงินก็ไม่นาน

 

อย่างไรก็ตาม มันเป็นสิ่งที่ผมเห็นทุกวัน บางวันเห็นมากกว่าหนึ่งครั้ง และส่วนใหญ่เห็นหลายร้าน เนื่องจากในซอยบ้านผม มีร้านสะดวกซื้อหลายร้านที่ผมต้องเดินผ่านเกือบทุกวัน การมีคนเข้าร้านสะดวกซื้อมากขึ้น เป็นสัญญาณว่าคนชั้นกลาง-ล่าง มีเงินมากขึ้นในการซื้อสินค้า เครื่องดื่มและอาหารบริโภคในชีวิตประจำวัน ดังนั้น นี่เป็นสัญญาณว่าเศรษฐกิจในระดับรากหญ้าน่าจะดีขึ้น

 

สัญญาณที่สอง ที่ผมเห็น ก็คือ ห้างสรรพสินค้าขนาดเล็กที่ให้บริการคนใน “ท้องถิ่น” และคนชั้นกลางที่เป็นพนักงานออฟฟิศ ที่มาต่อรถแถวๆ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดยปกติผมจะเป็น “ลูกค้าประจำ” เพราะต้องเดินจากบ้านไปรับประทานอาหารเย็นสัปดาห์ละหลายๆ วัน หรือแม้แต่ช่วงกลางวัน บ่อยครั้งผมต้องแวะไปรับประทานอาหารและซื้อสินค้าจิปาถะ พูดง่ายๆ นี่แทบจะเป็น “ห้องครัว” ของผม ก่อนหน้านี้ ผมสามารถเลือกร้านอาหารและไม่ต้องรอนานกว่าจะได้รับประทาน เพราะคนมีไม่มาก แต่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผมเริ่มรู้สึกว่า ร้านอาหารที่มีอยู่หลายร้านต่างเริ่มมีคิว เมื่อสั่งอาหารแล้วก็ต้องรอนานขึ้นกว่าที่อาหารจะมาเสิร์ฟ นอกจากนั้น ในช่วงเกือบบ่ายสองโมง ซึ่งในอดีตมักจะเป็นช่วงที่ร้านมักจะว่างก็กลายเป็นว่าคนก็ยังเต็มร้านอยู่ นี่เป็นสัญญาณว่าคนชั้นกลางมีเงินมากขึ้น และอาหารเป็นสิ่งแรกที่พวกเขาจะใช้เงินเพิ่ม

 

สัญญาณที่สาม ที่ผมเห็น ก็คือ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่และหรูหรากลางเมือง นี่คือสถานที่ที่ผมจะต้องเข้าไปซื้อหาสินค้าและอาหาร เพื่อที่จะรับประทานตลอดสัปดาห์ ดังนั้น ผมต้องเข้าไปจับจ่ายสินค้าและหา “ความบันเทิง” สัปดาห์ละครั้ง และแน่นอน ผมต้องสังเกตว่าอะไรเป็นอะไร

 

สิ่งแรกที่ผมเริ่มรู้สึก ก็คือ เรื่องที่จอดรถ ก่อนหน้านี้ การหาที่จอดรถก็ไม่ง่ายอยู่แล้ว แต่ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมานั้น การหาที่จอดรถก็ยากขึ้นเรื่อยๆ บางวันต้องถูกปัดให้ไปจอดรถในจุดที่อยู่ใกล้เคียงเนื่องจากที่จอดรถเต็มเกินไป สร้างความยุ่งยากให้กับผมที่ต้องขนอาหารจำนวนมากในแต่ละครั้ง และนี่เป็นสัญญาณว่า “คนรวย” กำลังใช้จ่ายมากขึ้น

 

ไม่ใช่เฉพาะห้างสรรพสินค้าหรูเท่านั้น ที่ผมรู้สึกว่าคนมีรายได้สูงจะเข้าใช้บริการมากขึ้น โรงพยาบาลเอกชนระดับสูงที่ผมใช้บริการอยู่เป็นประจำ และผมต้องไปตรวจสุขภาพทุก 2-3 เดือน ก็มีคนเข้าใช้บริการหนาตาขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

 

เดี๋ยวนี้ การใช้บริการโรงพยาบาลเอกชนนั้นคงไม่ใช่แค่เป็นเรื่องของความเจ็บป่วยเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องที่เป็น “ทางเลือก” มากขึ้น นั่นก็คือ ถ้ามีรายได้ดีขึ้น คนก็จะเลือกใช้บริการของโรงพยาบาลเอกชนมากขึ้น ในขณะที่ถ้าเศรษฐกิจไม่ดีพวกเขาอาจจะไปโรงพยาบาลน้อยลง ดังนั้น นี่ก็เป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่ผมเห็นในช่วงเร็วๆ นี้

 

สัญญาณที่ผมเริ่มเห็นล่าสุด และผมคิดว่ามันเป็นสัญญาณที่แรงมาก มันเป็นสัญญาณที่ผมเคยเห็นเมื่อสมัยก่อนปี 2540 ที่เศรษฐกิจไทยยังเติบโตสูงมาก ก็คือ “รถป้ายแดง” ที่วิ่งอยู่ในท้องถนน ในยุคนั้น รถป้ายแดงที่วิ่งอยู่บนท้องถนนนั้นมีจำนวนมากจนเป็นที่สังเกตได้ชัดเจน

 

หลังจากวิกฤติเศรษฐกิจ ยอดขายรถใหม่ก็ลดลงจนเราไม่รู้สึกว่ามีรถป้ายแดงเป็นเรื่องเป็นราวเป็นเวลานับสิบปี จวบจนกระทั่งถึงช่วงนี้ที่ผมรู้สึกว่ามีรถป้ายแดงมากขึ้นจนรู้สึกได้ รถป้ายแดงเป็นสัญญาณที่บอกว่าคนมีรายได้สูงและคนชั้นกลางระดับสูง มีความมั่นใจและมีเงินหรือมีปัญญาที่จะซื้อรถมาใช้ได้มากขึ้น นั่นหมายความว่า เศรษฐกิจกำลังร้อนแรง และก็คงเติบโตสูงมากอย่างที่มีการคาดกันว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้ อาจจะโตถึงเกือบ 10% ได้

 

สัญญาณสุดท้าย ที่ผมไม่ได้สัมผัสด้วยตนเองแต่ก็เริ่มมานานพอสมควร ก็คือ การซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยเฉพาะคอนโดมิเนียม นี่เป็นสัญญาณที่แรงมากในช่วงก่อนวิกฤติปี 2540 ที่มีการซื้อขายเก็งกำไรและราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

แต่ในช่วงหลังนี้ อาจจะเป็นเพราะความต้องการบ้านจริงๆ ของคนไทยอาจจะไม่สูงมาก เนื่องจากการเกิดที่น้อยลงและสต็อกบ้านเก่ามีมาก ดังนั้น สัญญาณทางด้านการซื้ออสังหาริมทรัพย์จึงไม่ชัดเจนนัก อย่างไรก็ตาม การซื้อบ้านและคอนโดก็อยู่ในระดับที่ดีมาตลอดหลายปีที่ผ่านมา และเป็นการแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจไทยแข็งแรงดี คนระดับกลางและสูงมีเงินและพร้อมที่จะซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่ออยู่อาศัยและลงทุนจำนวนมาก

 

สัญญาณทั้งหลายที่กล่าวมาดูเหมือนว่าจะสอดคล้องและยืนยันอย่างชัดเจนว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงนี้ค่อนข้างจะดีมาก และน่าจะดีต่อไปอย่างน้อยอีกระยะหนึ่ง หน้าที่ของเรา ก็คือ หาหุ้นที่จะได้ผลดีจากภาวะเศรษฐกิจแบบนี้

 

แน่นอน กิจการจำนวนมากหรือส่วนใหญ่น่าจะได้รับประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าทุกบริษัทจะต้องมีผลประกอบการดีขึ้น ส่วนตัวผมเองนั้นคิดว่า การที่เศรษฐกิจดีไม่ใช่เงื่อนไขของการเข้าลงทุน มันเป็นเพียง “โบนัส” ที่ผมจะได้จากการลงทุนในหุ้นของกิจการที่อยู่และเติบโตได้แม้ว่าเศรษฐกิจจะไม่ดี เพราะผมคิดว่า เศรษฐกิจปีนี้อาจจะดี แต่ปีหน้า ทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนได้ สำหรับนักลงทุนระยะยาวแบบที่ถือหุ้นร้อยเปอร์เซ็นต์ตลอดชีวิต ไม่มีอะไรสำคัญกว่าการลงทุนในบริษัทที่ “อยู่ได้ในทุกฤดูกาล”

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณครับ

คือว่าผมจะเปิดดูหุ้นตัวหนี่ง แต่มันไม่มีใน DATA ก็เลย PM ไปถามคุณเสมครับ

แล้วก็ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงไม่มี ก็ในเมื่อ Load DATA มาจากที่เดียวกัน

เป็นสมาชิก CDC และ มีโปรแกรม Metastock อยู่แล้วครับ

ถ้ารู้วิธิเอาหุ้นตัวที่ไม่มี เข้ามาอยู่ใน DATA ได้ก็สอนผมด้วยนะครับ

ขอบคุณอีกครั้งครับ !01

 

อันนี้ ชื่อหุ้นอยู่ ใน folder SET ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มีใครชิงปิดสัญญา L ไปก่อน เมื่อเช้าวันนี้แล้วบ้าง โชคดีจริงๆ

 

โชคดีจริงหรอครับ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองลงแล้วค่า ทำไงดี เพิ่งเก็บแท่งไปเอง มันจะติดดอยมั้ยคะ !_10 !_10 !_10

 

ความลับในการเล่น ทอง ,หุ้น ,FUTURE ,OPTION ต่างๆ เค้าพูดกันว่า

"คนที่ประสบความสำเร็จทางด้านนี้ คือ นักจิตวิทยาเสียส่วนใหญ่ ไม่ใช่นักการเงิน"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นขึ้น :mellow: :mellow: :mellow: ทองจะลงรึเปล่าคะ !_09

 

ต้องดู กระดานราคาทองครับ กระดานราคาทองไม่เคยหลอกใคร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...