ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

USดอลลาร์อ่อนค่าดันราคาทองขยับ กูรูแนะทยอยเก็บกองทุนทองคำพิ่ม

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 สิงหาคม 2553 08:43 น.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

โบรกเกอร์กองทุนรวม แนะทยอยเก็บกองทุนทองคำเข้าพอร์ต หลังค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าดันราคาทองคำขยับขึ้น พร้อมเชียร์กองทุน "ทหารไทย China Equity Index" น่าลงทุนหลังเศรษฐกิจจีนมาแรงหลังได้ปัจจัยบวกที่รัฐบาลใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากขึ้น

 

นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงเริ่มกลับไปให้น้ำหนักกับภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ อีกครั้งหลังตัวเลขทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฯอ่อนแออย่างต่อเนื่อง ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมาและยังไม่เห็นสัญญาณที่ดีขึ้นต่อภาพรวมเศรษฐกิจของสหรัฐฯ โดยตลาดยังคงรอความหวังจากแถลงการณ์ของ FED ว่าจะมีนโยบายอะไรเพื่อช่วยพยุงเศรษฐกิจในระยะต่อไปทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯรวมถึงน้ำมันจะยังคงมีความไม่แน่นอนสูง จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงและแนะนำขายกองทุนน้ำมัน

 

อย่างไรก็ตาม เรายังคงมุมมองในเชิงบวกต่อภูมิภาคเอเชียและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะตลาดหุ้นจีนเซี่ยงไฮ้ A-Share Index ที่แม้ว่าจะเห็นการพักฐานบ้างแต่เรายังคงคำแนะนำเดิม เก็งกำไร โดยให้ทยอยสะสมเมื่อดัชนีอ่อนตัวหลังจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของจีนทีคาดว่าจะชะลอตัวจากมาตรการลดความร้อนแรง แต่ได้ปัจจัยบวกจากการที่รัฐบาลจะยังคงดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายและชะลอการออกมาตรการใหม่ๆทั้งนี้สำหรับกองทุนที่แนะนำยังคงเป็นกองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index ของ บลจ. ทหารไทย ซึ่งไปลงทุนในกองหลักคือ iShares FTSE/Xinhua China A50

 

ทั้งนี้แม้ว่าราคาน้ำมันจะได้รับผลกระทบจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐฯ แต่ทองคำกลับได้รับความสนใจมากขึ้นในฐานะของสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยในภาวะที่มีความไม่แน่นอนสูง โดยจะเห็นได้จากกองทุน SPDR ที่กลับมาถือทองคำแท่งเพิ่มขึ้นอีกครั้ง ทำให้ราคาทองคำไม่หลุดแนวรับที่ 1,150 US$/oz. และกลับขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านที่ 1,200 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ ได้เมื่อปลายสัปดาห์ผ่านมา

 

โดยลักษณะเช่นนี้ทำสัญญาณทางเทคนิคดูดีขึ้นและมีลุ้นสำหรับการเข้าสะสมเพื่อทำกำไรรอบใหม่"เราจึงปรับคำแนะนำจาก wait and see ในสัปดาห์ก่อนเป็น สะสม ทองคำเข้าพอร์ตในสัปดาห์นี้ โดยเราคาดว่าจะเห็นราคาทองคำกลับขึ้นไปทดสอบราคาสูงสุดเดิมที่ทำไว้แถวๆ 1,260 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์ กองทุนทองคำที่แนะนำยังคงเป็น K-GOLD ของ บลจ. กสิกรไทย

 

นายสานุพงศ์ กล่าวต่อว่า ช่วงที่ผ่านมาตลาดสหรัฐปรับตัวอย่างไร้ทิศทางตามรายงานทางเศรษฐกิจที่ออกมาอ่อนแอ เริ่มต้นจากตัวเลข GDP Growth ไตรมาส 2/53 ที่ขยายตัวเพียง 2.4%YoY ใกล้เคียงกับคาดการณ์ที่ 2.5% แต่ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนที่โต 3.7%ในส่วนของตลาดแรงงานซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดจับตามากที่สุดก็ยังคงให้ภาพที่น่าผิดหวังโดยตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 19,000 ราย สวนทางกับตลาดที่คาดว่าจะลดลง 5,000 ราย

 

ขณะที่ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรลดลงมาถึง131,000 ตำแหน่งในเดือนก.ค. ส่วนการจ้างงานภาคเอกชนเพิ่มขึ้นเพียง 71,000ตำแหน่งจากที่คาดว่าจะเพิ่มได้ที่ 90,000 ตำแหน่ง ในภาพรวมอัตราการว่างงานยังทรงตัวในระดับสูงที่ 9.5% เทียบกับ 9.6% ที่ตลาดมองไว้

 

ขณะเดียวกันเราเริ่มเห็นการปรับฐานของดัชนีเซี่ยงไฮ้ A-Share และการชะลอการซื้อ-ขายหลังมีข่าวเกี่ยวกับการทดสอบภาวะวิกฤตของภาคธนาคารและเพื่อรอดูตัวเลขเศรษฐกิจหลายตัวที่จะประกาศในสัปดาห์นี้โดยรวมตลาดคาดว่าตัวเลขน่าจะออกมาชะลอตัวจากผลของมาตรการชะลอความร้อนแรงทางเศรษฐกิจ ส่วนดัชนีฮ่องกง Heng Sang ยังได้แรงหนุนจากการประกาศผลประกอบการที่แข็งแกร่ง

 

อย่างไรก็ตามภาพเศรษฐกิจที่อ่อนแอกดให้ Dollar Index ลงมายู่ที่ 80.41 (-0.66%) อ่อนตัวลงมากสุดในรอบกว่า 3 เดือน ผลของการอ่อนค่าช่วยหนุนราคาน้ำมันให้ทรงตัวได้ในระดับสูงแม้จะได้รับแรงกดดันจากภาพเศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่ ขณะที่ราคาทองคำได้รับอานิงสงค์จากดอลล่าร์ที่อ่อนค่าเช่นกัน อีกทั้งเริ่มเห็นการเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอีกครั้งของกองทุน SPDR Gold Trust หลังที่ก่อนหน้าลดการถือทองลงอย่างต่อเนื่องโดย SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นอีก 0.912 ตันในวันที่ 5 ส.ค. สู่ระดับ 1,282.746 ตันจากที่เคยถือสูงสุดที่ 1,320.436 ตันในเดือนมิ.ย.

 

ขอบคุณนักข่าว..คร้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำ ไปเรื่อยๆ ยังกะทิงอย่างไม่หยุดยั้ง รอทดสอบ $1233 ได้อย่างสบายๆ

Bullish ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำ ไปเรื่อยๆ ยังกะทิงอย่างไม่หยุดยั้ง รอทดสอบ $1233 ได้อย่างสบายๆ

Bullish ครับ

!thk !thk !thk ขอบคุณคะ !thk !thk !thk

แล้วน้ำมันกองทุนแดงหรือเขียวคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองคำ ไปเรื่อยๆ ยังกะทิงอย่างไม่หยุดยั้ง รอทดสอบ $1233 ได้อย่างสบายๆ

Bullish ครับ

 

ขอบคุณมากๆๆครับคุณเสม :D :D :D :D :D +1 +1 +1 +1 +1

post-929-087900400 1281941931.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ครูเสมครับ set50 ไม่ทราบเป็นอย่างไรบ้างครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณมากครับอาจารย์เสม ทองแท่งถือต่อไปเรื่อยๆตามระบบ :rolleyes: :rolleyes: :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศก.'ญี่ปุ่น'ไตรมาส2ชะลอน่าวิตกแถม'เยน'ยังแข็งส่อทำส่งออกลดอีก

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 สิงหาคม 2553 22:27 น.

 

 

 

 

 

เอเจนซี/ เอเอฟพี - เศรษฐกิจแดนปลาดิบเติบโตชะลอตัวลงในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ มิหนำซ้ำบรรดานักวิเคราะห์ยังคาดการณ์ด้วยว่าสภาพที่ไร้ความเข้มแข็งเช่นนี้จะปรากฏมากขึ้นต่อเนื่องไปอีก ขณะเดียวกันก็ทำให้รัฐบาลต้องกุมขมับหนักเข้าไปใหญ่ หลังจากที่พวกเขารับศึกสองด้านอยู่ก่อนแล้วจากปัญหาภาวะเงินฝืดที่ยังคงแก้ไม่ตก และค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นชนิดที่ไม่เป็นผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจซึ่งพึ่งพาการส่งออกอย่างยิ่งยวดแห่งนี้

 

สืบเนื่องจากการขยายตัวของภาคการส่งออกไปยังประเทศคู่ค้าสำคัญ อย่าง สหรัฐฯ และจีนชะลอตัวลง ส่งผลให้ภาพรวมเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในภาวะอึมครึม ขณะที่บรรดาผู้กำหนดนโยบายกำลังพยายามอย่างหนักในการทำให้ค่าเงินเยนอ่อนตัวลง หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินเยนแข็งค่าขึ้นสูงสุดในรอบ 15 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์

 

ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของญี่ปุ่นประจำไตรมาสที่ 2 ขยายตัวเพียง 0.1 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่หากคิดคำนวณเป็นรายปีจะเติบโตอยู่ที่ 0.4 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ต่ำกว่าโพลสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ซึ่งจัดทำโดยดาวโจนส์ นิวส์ไวร์ส ที่คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 2.3 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังต่ำกว่าตัวเลขการขยายตัวในไตรมาสแรกที่สูงถึง 4.4 เปอร์เซ็นต์ต่อปีอันเป็นผลจากภาคส่งออกและพลังการฟื้นตัวจากมาตรการกระตุ้นภาคบริโภค

 

เนื่องจากในช่วงไตรมาสที่ 2 (1 เม.ย.-30 มิ.ย.) ผลของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้จางคลายไปแล้ว ดังนั้นจึงมีเพียงภาคการส่งออกเป็นหัวจักรขับเคลื่อนการขยายตัวเพียงหนึ่งเดียว

 

ทั้งนี้เป็นที่คาดหมายว่านายกรัฐมนตรีนาโอโตะ คัง และมาซาอากิ ชิรากาวะ ผู้ว่าการแบงก์ชาติญี่ปุ่นจะพบหารือกันช่วงปลายสัปดาห์นี้ในประเด็นเรื่องค่าเงินเยน และมาตรการต่างๆ ที่อาจกระทำได้ ถึงแม้ว่าพวกนักวิเคราะห์จะบอกว่ามีทางเลือกไม่มากที่พวกเขาจะสามารถทำได้ก็ตาม

 

เหล่านักวิเคราะห์ยังให้ทัศนะเพิ่มเติมว่า การที่เงินเยนแข็งค่า ซึ่งไต่ขึ้นไปถึงระดับ 84.72 เยนต่อดอลลาร์ อาจเริ่มเป็นอุปสรรคต่อการขยายตัวของภาคการส่งออกในช่วงครึ่งหลังของปีงบประมาณนี้ (ต.ค.2010 - มี.ค.2011)

 

เยนแข็งค่าขึ้นนับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมเป็นต้นมา จนกระทั่งปรับตัวสูงกว่า 10 เปอร์เซ็นต์และก้าวข้ามระดับที่แข็งค่าที่สุดนับตั้งแต่ปี 1995 ณ ระดับ79.75 เยนต่อดอลลาร์ ซึ่งนำไปสู่การคาดเดาจากตลาดว่ารัฐบาลโตเกียวจะต้องทำอะไรสักอย่าง

 

อย่างไรก็ตามการแทรกแซงตลาดเงินตราดูจะเป็นเรื่องที่ยากลำบาก ไม่ว่าจะเป็นมาตรการร่วมกันหลายฝ่ายหรือญี่ปุ่นกระทำโดยลำพังก็ตาม ตัวละครต่างๆ ในตลาดได้เตือนว่า มาตรการเพียงฝ่ายเดียวจะทำให้เกิดความเสี่ยงที่เงินเยนจะขยับเข้าใกล้ระดับ 80 ต่อดอลลาร์ได้เร็วขึ้น และดีไม่ดีอาจรวดเร็วกระทั่งแข็งค่าขึ้น 2 - 3 เยนต่อวันเลยทีเดียว

 

ด้วยเหตุนี้บรรดานักลงทุนจึงเห็นว่านโยบายการเงินจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) น่าจะได้ผลมากกว่ามาตรการแทรกแทรงตลาดเงินของรัฐบาล

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...