ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

เยี่ยมครับ ความอดทน เป็นหัวใจของระบบครับ ส่วนรูปกราฟเป็นแบบไหนนั้น เป็นเพียงท่าร่างภายนอกเท่านั้น

เมื่อบรรลุแล้ว เพียงชายตาดูกราฟไหนก็ได้ แวบเดียว ก็สามารถลงทุนด้วยระบบได้ครับ

--สุดยอดกระบวนท่า คือไร้กระบวนท่า

--สุดยอดวิชากระบี่ คือไร้กระบี่ ทุกอย่างรอบตัวใช้เป็นอาวุธแทนกระบี่ได้หมด

อรหันต์ฝ่าด่านทองคำช่ายป่าวคะ :gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อวานเกือบแล้วราคาลงถึง 1542คิดว่าจะหนีแล้ว แต่ไม่เอาตัดสินใจตามระบบแล้วไม่ดูเลย แล้วก้อกลับลำจนได้ ถือตามระบบต่อไป

ขอบคุณครับคุณเสม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อวานเกือบแล้วราคาลงถึง 1642คิดว่าจะหนีแล้ว แต่ไม่เอาตัดสินใจตามระบบแล้วไม่ดูเลย แล้วก้อกลับลำจนได้ ถือตามระบบต่อไป

ขอบคุณครับคุณเสม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เตรียมถีบขยะดอลลาร์พ้นอาหรับ!!! จีนลงนามสวอปหยวนกับ UAE

 

 

Yuan%20rivals%20Dollar%20-%20Reuters.jpg

 

รูป ภาพ : ธนบัตร 100 หยวน และ 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ ปัจจุบันจีนกำลังผลักดันเงินหยวนเป็นเงินสกุลสำคัญของโลกแข่งกับเงินดอลลาร์ และได้มีการทำสัญญาสวอปเงินหยวนกับเงินสกุลท้องถิ่นกับคู่ค้าหลักทั่วโลก

 

ที่มาภาพ : Reuters

จีนและ UAE ได้ลงนามในสัญญาสวอปสกุลเงินท้องถิ่น ระหว่างกันมูลค่า 35,000 ล้านหยวน (5,540 ล้านดอลลาร์) วานนี้ (วันอังคารที่ 17 มกราคม 2012) ธนาคารกลางจีนระบุ โดยเสริมว่า ข้อตกลงนี้มีผลบังคับใช้เป็นเวลา 3 ปีและจะช่วยเพิ่มการค้าและการลงทุนระหว่างกันอีกด้วย

การประกาศการลงนามในข้อตกลงสวอปฉบับล่าสุดในนครดูไบวานนี้มีขึ้นขณะที่นายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าของจีนได้เยือนภูมิภาคตะวันออกกลางซึ่งรวมถึงประเทศ UAE ด้วย และนี่ก็ถือเป็นความพยายามล่าสุดของจีนในการขยายการใช้เงินหยวนในด้านการค้าระหว่างประเทศ

ธนาคารกลางจีนแถลงเรื่องข้อตลงฉบับนี้ในเว็บไซต์ www.pbc.gov.cn และกล่าวว่าสัญญานี้มีมูลค่า 20,000 ล้านเดอร์แฮมสำหรับฝั่งของ สกุลเงิน UAE

ใน ช่วง 11 เดือนแรกของปี 2011 การค้าระหว่างจีนกับ UAE เติบโตขึ้นมาอยู่ที่ 32,000 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 38.2% จากช่วง 11 เดือนแรกของปี 2010 จากข้อมูลของสำนักงาานศุลกากรของจีน การส่งออกของจีนไปยัง UAE มีมูลค่า 24,300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งครอบคลุมปริมาณการค้าส่วนใหญ่ระหว่าง 2 ประเทศ

ด้าน UAE ก็มีมีการส่งออกน้ำมันดิบไปยังจีนพอสมควร โดยในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2011 UAE ส่งออกน้ำมันดิบไปยังจีนเป็นจำนวน 6.4 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเดียวกันในปี 2010

จีนได้ลงนามในสัญญาสวอปสกุลเงินท้องถิ่นกับเงินหยวนมากมายหลายฉบับกับหลายๆประเทศที่เป็นคู่ค้าหลักในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยเป็นหนึ่งในความพยายามที่จะดันการใช้เงินหยวนในการชำระเงินในการค้าระหว่างประเทศ ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมาประเทศอื่นๆที่ลงนามสัญญาสวอปกับจีนนั้นก็มี ไทย และ เกาหลีใต้

ความทะเยอทะยานในระยะยาวของจีนคือการเขี่ยเงินดอลลาร์ให้พ้นทางจากการเป็นหน่วยหลักในการชำระค่าสินค้าและบริการข้ามพรมแดน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้จีนเป็นประเทศที่ส่งออกมากที่สุดในโลกและนำเข้ามากเป็นอันดับ 2 ของโลก

การดันเงินหยวนให้เป็นที่นิยมในภาคการค้าระหว่างประเทศจะช่วยเสริมฐานะของเงินหยวนในกรณีที่ต้องการให้เงินหยวนเป็นส่วนหนึ่งของตะกร้าเงินสกุลหลักที่ไอเอ็มเอฟใช้ในบัญชีสิทธิถอนเงินพิเศษหรือ SDR (Special Drawing Right) ด้วย

นอกเหนือจากสัญญาสวอปเงินแล้ว ธนาคารกลางต่างๆตั้งแต่ญี่ปุ่นไปจนถึงไนจีเรียได้ต่างหารือหรือตกลงกับจีนว่าจะถือครองสินทรัพย์หยวนในฐานะส่วนหนึ่งของทุนสำรอเงินตราต่างประเทศของทางการด้วย

ที่มา ข่าว Real Time จากโปรแกรม Reuters 3000 Xtra

ไอดีข่าว nL3E8CH45J

แปลและเรียบเรียงโดย เบ๊นซ์ สุดตา ฝ่ายข่าวเศรษฐกิจและการเงินระหว่างประเทศ Mtoday

thumb_article_Yuan%20rivals%20Dollar%20-%20Reuters3450.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แบงก์จีนบุกหนักให้สินเชื่อ'เอเชีย'ปล่อยกู้พ่วงขายของ'เมดอินไชน่า' blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 20 มกราคม 2555 00:25 น.

 

 

Share

blank.gif

เอเจนซี/ASTVผู้จัดการออนไลน์ - จีนเติมเต็มสุญญากาศทางการเงินในเอเชีย ภายหลังที่แบงก์ยุโรปแบกเงินทุนกลับไปรักษาตัวที่บ้าน โดยที่ธนาคารแดนมังกรจะมุ่งเน้นปล่อยกู้โดยดูจากผลประโยชน์ของผู้ผลิตและผู้ ส่งออกชาติเดียวกันเป็นหลัก แม้กระทั่งเมื่อต้องแลกกับการได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าที่ควรจะเป็นก็ตาม

 

ธุรกิจที่มีปัญหาสภาพคล่องและต้องการกู้เงินกับแบงก์จีน ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนพิเศษบางอย่างตอบแทน เพราะในสายตาของแบงก์จีนนั้น การปล่อยกู้ให้บริษัทต่างชาติไม่เพียงเป็นเรื่องการส่งเสริมพอร์ตสินเชื่อ ของตนเองเท่านั้น แต่ยังต้องช่วยพัฒนาตลาดส่งออกสำหรับสินค้าแดนมังกรด้วย

 

กรณีตัวอย่างคือ รีไลแอนซ์ คอมมิวนิเคชันส์ของอานิล อัมบานี มหาเศรษฐีอินเดีย ที่สัปดาห์นี้ตกลงกู้เงิน 1,180 ล้านดอลลาร์จากจีนเพื่อไถ่ถอนหุ้นกู้แปลงสภาพที่จะถึงกำหนดในเดือนมีนาคม

 

แหล่งข่าววงใน 2 รายเผยว่า เงินกู้ร่วมจากอินดัสเทรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า, ไชน่า ดิเวลอปเมนท์ แบงก์, เอ็กซ์พอร์ต อิมพอร์ต แบงก์ ออฟ ไชน่า ฯลฯ ได้รับอนุมัติภายใต้ “ความเข้าใจร่วมกัน” ว่า รีไลแอนด์จะซื้ออุปกรณ์โทรคมนาคมจากหัวเหว่ย เทคโนโลยีส์ และแซดทีอี

 

สำหรับผู้กู้ชาวอินเดีย การกู้เงินในบ้านเกิดมีแนวโน้มต้องจ่ายดอกเบี้ยแพงมาก ขณะที่ดูเหมือนแบงก์แดนมังกรยินยอมเสียสละดอกเบี้ยบางส่วนเพื่อแลกกับผล ประโยชน์ที่เศรษฐกิจของประเทศจะได้เพิ่มมากขึ้น

 

ปีที่ผ่านมา อานิล อัมบานิ น้องชายของมูเกช อัมบานิ ผู้เป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเอเชีย ยังได้ขอกู้เงิน 3,000 ล้านดอลลาร์จากแบงก์จีนมาอัดฉีดบริษัทโทรศัพท์มือถือและบริษัทในเครืออีก แห่งของรีไลแอนซ์ โดยบรรลุข้อตกลงด้วยการสัญญาว่า จะนำเงินที่ได้ส่วนหนึ่งกลับไปซื้ออุปกรณ์สื่อสารและพลังงานของจีน

 

จีนนั้นเป็นที่รู้กันว่า การค้ากับการทูตแทบจะกลมกลืนเป็นสิ่งเดียวกัน และปักกิ่งต้องการหลีกเลี่ยงประวัติศาสตร์ซ้ำรอยจากปี 2010 ที่บริษัทอุปกรณ์โทรคมนาคมจีนถูกอินเดียแบนเพราะแดนภารตะกลัวเข้าไปสอดแนม ส่งผลให้รายได้ของทั้งหัวเหว่ยและแซดทีอีเสียหายเป็นอันมาก

 

นอกจากนั้น การสั่งซื้ออุปกรณ์พลังงานจากเซี่ยงไฮ้ อิเล็กทริกมูลค่า 10,000 ล้านดอลลาร์ของรีไลแอนซ์ก่อนหน้านี้ ก็เป็นเงินที่กู้มาจากธนาคารแดนมังกรเช่นเดียวกัน

 

ไม่เฉพาะประเทศเศรษฐกิจตลาดเกิดใหม่อย่างอินเดีย ในชาติอุตสาหกรรมก้าวหน้า ธนาคารจีนก็ใช้ยุทธศาสตร์ในทำนองเดียวกัน

 

เดือนพฤศจิกายน แบงก์ ออฟ ไชน่า, ไอซีบีซี และไชน่า เมอร์แชนต์ส แบงก์ เป็นส่วนหนึ่งของแบงก์ 30 แห่งที่ร่วมกันปล่อยกู้ให้ดุ๊ก อิเนอร์จี้ ที่เข้าซื้อโปรเกรส อิเนอร์จี้เพื่อก้าวขึ้นเป็นบริษัทไฟฟ้าใหญ่สุดในอเมริกา

 

เงื่อนไขพิเศษสำหรับเงินกู้ก้อนนั้นคือ ดุ๊กต้องเป็นพันธมิตรกับบริษัทจีน เช่น อีเอ็นเอ็น อิเนอร์จี้ ฯลฯ เพื่อร่วมพัฒนาโครงการต่างๆ อาทิ เมือง “นิเวศ” และแผนการริเริ่มพลังงานแสงอาทิตย์

 

นายแบงก์อาวุโสในฮ่องกงคนหนึ่งที่ทำงานร่วมกับแบงก์พาณิชย์ในการ ปล่อยกู้ร่วม บอกว่า ไม่คิดว่าแบงก์จีนกำลังพยายามช่วยเหลือเอเชีย แต่จุดสนใจสำคัญของแบงก์จีนอยู่ที่ลูกค้าที่กู้เงินจะซื้อสินค้าจากจีนหรือ ไม่

 

แบงก์จีนเริ่มเข้าไปปักหลักปล่อยกู้ในสหรัฐฯ และยุโรปจริงจังในปี 2008 หลังจากเลห์แมน บราเธอร์ล้ม โดยไชน่า คอนสตรักชัน แบงก์, ไชน่า เมอร์แชนต์ส แบงก์ และไอบีซี เข้าไปตั้งสาขาในอเมริกาในปีดังกล่าว

 

ขณะเดียวกัน แบงก์ ออฟ ไชน่าเป็นผู้นำธุรกิจปริวรรตเงิน และวนเวียนอยู่ในท็อป 5 ของตารางการปล่อยกู้ต่อเนื่อง โดยนับจากปี 2008 ปล่อยสินเชื่อในเอเชีย-แปซิฟิก ไม่รวมญี่ปุ่น ปีละกว่า 13,00 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เงินกู้ร่วมในเอเชียเพิ่มขึ้นราว 42% แต่การปล่อยกู้นอก “เกรตเทอร์ ไชน่า” อันรวมถึงไต้หวัน, ฮ่องกงและมาเก๊าด้วยนั้น ขยายตัวเพียง 8% เท่านั้น ทั้งนี้ จากข้อมูลของธอมป์สัน รอยเตอร์

 

เกรซ วู หัวหน้าฝ่ายวิจัยธนาคารฮ่องกงและจีนของไดวา แคปิตอล มาร์เก็ตส์ บอกว่า แบงก์จีนกระตือรือร้นปล่อยกู้นอกประเทศมากขึ้น และอาจพูดได้ว่า แบงก์เหล่านั้นจะยินดีปล่อยกู้มากขึ้นอีก ถ้าผู้กู้มีความสัมพันธ์ปัจจุบันกับลูกค้าในจีนของแบงก์หนึ่งแห่งขึ้นไป

 

อย่างไรก็ตาม ธนาคารแดนมังกรยังลังเลที่จะทำตัวเป็นผู้ปล่อยกู้แหล่งสุดท้าย เพราะไม่อยากเป็นแบบแบงก์ญี่ปุ่นและยุโรปที่ที่สุดแล้วต้องถอนตัวจากการ ปล่อยกู้ร่วมเมื่อตลาดในประเทศระส่ำระสายหนัก

 

การควบคุมทางการเงินอย่างเข้มงวด และความไม่พอใจในหมู่ธุรกิจขนาดกลางและเล็กที่ต้องการสินเชื่อ ยังทำให้การปล่อยกู้ขนาดใหญ่ในต่างแดนของบริษัทจีนไม่ได้รับความนิยมภายใน ประเทศ

 

ธนาคาจีนเกำลังร่งรุกใหญ่ ขณะที่แบงก์ในยุโรปพากันถอนตัวกลับบ้าน และธนาคารในชาติอื่นๆ ใช้ท่าทีที่ระมัดระวังตัว

 

ทาเคฮิโกะ นากาโอะ รัฐมนตรีช่วยคลังของญี่ปุ่น กล่าวในสัปดาห์นี้ว่า ธนาคารญี่ปุ่นเต็มใจปล่อยกู้ แต่ต้องเป็นไปอย่างรอบคอบมาก เพราะมีประสบการณ์จากช่วงปลายทศวรรษ 1980 เมื่อราคาสินทรัพย์ในประเทศทรุดลงกะทันหัน

 

แต่สำหรับธนาคารเครดีต์ อะกริโกลของฝรั่งเศส ที่ดำเนินการแบบบุกแหลกในเอเชียมาตลอดจนกระทั่งถึงกลางปีที่แล้ว ขณะนี้กลับกำลังประกาศขายหนี้กว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ในภูมิภาคนี้ เช่นเดียวกับบีเอ็นพี ปาริบาส์ และโซซิเอเต้ เจเนราล แบงก์สัญชาติเดียวกัน

 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ถ้าผมเป็นจีนนะ การปล่อยกู้ของผมจะเป็นในรูปดอลลาร์เพื่อระบายดอลลาร์ออกไปและเป็นการลดการถือครองดอลลาร์ลง แต่1ในเงื่อนไขการคืนเงินกู้คือคืนเงินสกุลอื่นที่ไม่ใช่ดอลลาร์มากขึ้น(คืนเป็นเงินสกุลของผู้กู้ เงินหยวนหรือสกุลอื่นที่จะตกลงกัน)

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อเมริกา...น่ากลัวซะยิ่งกว่าฮิซบุลเลาะห์

 

 

 

17 มกราคม 2555 - 00:00

 

ก็ถูกแล้ว...ที่เราไม่จำเป็นที่จะต้องไปเต้นตามเรื่อง ฮิซบุลเลาะห์ หรือว่า

ฮิ ซบุลเลอะ ของอเมริกาและอิสราเอล ให้ต้องเมื่อยแข้ง เมื่อยขา โดยใช่เหตุ เพราะไม่ว่าจะมีอะไรตูมตามขึ้นมาในประเทศไทย หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทั้งอเมริกาและอิสราเอลนั้น เค้าก็พร้อมที่จะเลอะ พร้อมที่จะเขย่าขวัญสั่นประสาท ให้โลกทั้งโลก ต้องอกสั่นขวัญผวามาโดยตลอด เพื่อสนองตอบผลประโยชน์และนโยบายของตัวเองเป็นสำคัญ...

-----------------------------------------------

และอันที่จริง เรื่องที่เลอะกว่า น่าหวาดผวาซะยิ่งกว่าเรื่องผู้ก่อการร้าย ที่ยังไม่รู้ว่าใครเป็นใครกันแน่ นั่นก็คือเรื่องที่อเมริกาเค้ากำลังพยายามเล่นงานประเทศคู่กัดอย่าง อิหร่าน ให้อยู่หมัดให้จงได้ หรือเรื่องความพยายามบอยคอตใครก็ตาม ที่คิดเข้าไปค้าขาย ทำธุรกิจ ธุรกรรม กับธนาคารกลางแห่งอิหร่าน ที่นับวันจะบานปลาย สร้างผลกระทบแผ่ซ่าน ไปในระดับโลกทั้งโลกเอาเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น หรืออินเดีย ที่แทบไม่ได้เกี่ยวอะไรด้วย แต่ต่างต้องวิ่งหน้าตั้ง กระหืดกระหอบ หาน้ำมันเอามาซด เอามาเติม เพื่อดับกระหาย หรือเพื่อประคับประคองระบบเศรษฐกิจของตัวเอง ไม่ให้ต้องหยุดชะงัก เพียงเพราะข้อกล่าวหาเลื่อนๆ ลอยๆ ของสหรัฐ และพรรคพวกบริวาร ที่มีต่ออิหร่านเท่านั้น...

----------------------------------------------

สำหรับจีนนั้นโดนไปเรียบโร้ยย์ย์แล้ว บริษัทค้าน้ำมันอันดับ 4 จูไห่ เจินหรง คอร์เปอเรชั่น ที่ยังคงซื้อ-ขายน้ำมันกับอิหร่านมาโดยตลอด ถูกประกาศสั่งห้ามไม่ให้ออกใบอนุญาตส่งออกใดๆ ไปยังสหรัฐ ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา รวมทั้งบริษัท กั๊วะ ออยล์ ของสิงคโปร์ และบริษัทค้าพลังงานอิสระ เอฟ เอ แอล ออยล์ ของยูเออี ต่างก็โดนไล่เรียงเป็นลูกระนาดไปตามๆ กัน แถมยังหันไปยุยงบรรดาประเทศผู้ผลิตน้ำมันในอ่าวเปอร์เซียให้เพิ่มการผลิต เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งตลาดน้ำมันของอิหร่าน อันไม่ต่างไปจากการยุแยง ตะแคงรั่ว เพื่อให้ประเทศโลกอาหรับหันมาตีกันเองนั่นเอง...

-----------------------------------------------

แม้ว่าการกระทำในลักษณะเช่นนี้...คุณพ่ออเมริกาท่านจะอ้างว่า เพื่อกดดันอิหร่านให้กลับเข้ามาสู่โต๊ะเจรจา หารือกันในเรื่องนิวเคลียร์ก็ตาม แต่โดยลักษณะอาการที่ออกไปทางกระเหี้ยนกระหือรือเอามากๆ ไม่ว่านักสังเกตการณ์ต่างประเทศรายใดก็ตาม ล้วนแต่เห็นพ้องต้องกันว่า มันไม่ได้เป็นการกดดันเพื่อให้เกิด การเจรจา ใดๆ เอาเลย แต่เป็นการกดดัน ที่มุ่งไปสู่ความพยายามจะ ล้มระบอบการปกครองอิหร่าน ให้สิ้นซากลงไปซะมากกว่า และด้วยลักษณะอาการทำนองนี้นี่เอง กลับยิ่งกลายเป็นการกระตุ้นให้อิหร่าน ต้องเร่งหาทางสร้างภูมิคุ้มกันให้กับตัวเองให้มากๆ เข้าไว้ และเร็วๆ เข้าไว้ หรือมีแต่จะต้องยิ่งเร่งเดินหน้าหาทางผลิตขีปนาวุธนิวเคลียร์ เพื่อเอาไว้ตอบโต้ ต่อรอง กับการคุกคามของสหรัฐและอิสราเอลให้จงได้...

-------------------------------------------------

ทัศนะของทางการอิหร่าน ที่มีต่อการลงนามในกฎหมายบอยคอตประเทศตัวเอง โดยประธานาธิบดี โอบามา เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว ด้วยการสรุปว่า ไม่ต่างไปจาก การลงนามประกาศสงครามกับอิหร่านอย่างเป็นทางการ จึงเป็นทัศนะที่ฟังดูมีเหตุมีผลอยู่ไม่น้อย และถ้าหากสหรัฐอเมริกาและอิสราเอล มุ่งหวังที่จะบรรลุเป้าหมายเช่นนั้นจริงๆ เรื่องราวมันคงไม่จบอยู่แค่ระหว่างอเมริกา-อิสราเอล กับรัฐบาลอิสลามแห่งอิหร่านเท่านั้น ล่าสุดเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา รองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย นาย ดมิตรี โรโกซิน ผู้เคยมีฐานะเป็นตัวแทนทางการทูตประจำนาโตได้ออกมาให้ทัศนะเอาไว้ว่า อิหร่านนั้น...คือ เพื่อนบ้านที่ใกล้ชิด ของรัสเซีย ทางด้านใต้ของเทือกเขาคอเคซัส การแทรกแซงทางการเมือง และการทหารใดๆต่ออิหร่าน จึงถือเป็น ภัยคุกคาม ต่อความมั่นคงแห่งชาติของรัสเซียโดยตรง...

-------------------------------------------------

พูดง่ายๆ ก็คือ...เรื่องราวต่างๆ มันคงไม่จบลงแค่ระหว่างอเมริกา-อิสราเอลกับอิหร่านเท่านั้น แต่มันกำลังบานปลายและปลายบาน ไปสู่การฉุดกระชาก ลากเอาชาติต่างๆ เข้ามาร่วมวงซิมโฟนีออเคสตร้า เพื่อบรรเลงเพลงนรก ต้อนรับปีค.ศ.2012 อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นทุกที ไล่มาตั้งแต่จีน อินเดีย ญี่ปุ่น รัสเซีย ฯลฯ ที่ต่างก็ได้รับผลกระทบหนักบ้าง เบาบ้าง จากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน โดยสหรัฐอเมริกา อิสราเอล และบรรดาพันธมิตรในยุโรป ด้วยเหตุนี้...เมื่อเทียบกับกรณี

ฮิซบุลเลาะห์ ฮิซบุลเลอะแล้ว ต้องเรียกว่า...จิ๊บๆ จ๊อยๆ หรือกระจอกงอกง่อยเอามากๆ เนื่องจากไม่ว่าอะไรก็ตาม ที่สหรัฐอเมริกาต้องการแล้ว คุณพ่อรายนี้ก็สามารถสร้างเรื่อง สร้างราว ปั้นเรื่อง ปั้นราว เสกสรรปั้นแต่ง ไปในลักษณะต่างๆได้เสมอๆ...

-------------------------------------------------

เมื่อไหร่ก็ตาม ที่ยังมองไม่เห็นประโยชน์ ก็พร้อมที่จะถีบ จะกระทืบ กล่าวหา ด่าว่า โดยไม่ได้คิดจะสนใจมารยาท ประเพณี กฎ กติกา ใดๆ เอาเลยแม้แต่น้อย แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่เห็นประโยชน์ลอยมาอยู่ตรงหน้า ไอ้ที่เคยด่าๆ เคยทั้งถีบ ทั้งกระทืบ ก็สามารถโน้มคอมาจูบปากได้โดยทันที ดังเช่นที่กำลังกระทำต่อพม่าเป็นต้น ดังนั้น...อย่าถึงกับต้องไปถือสาหาความ อะไรกันมากมายเลย ขึ้นชื่อว่าสันดานอเมริกา มันก็ดูจะเป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เกิด ในฐานะประเทศเล็กๆ ที่ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นสะดุดตาในแผนที่โลก ก็มีแต่จะต้องกล้ำกลืน ฝืนทน และเฉยๆ เข้าไว้นั่นแหละดีที่สุด แทนที่จะมาอกสั่น ขวัญผวา กับใครก็ไม่รู้ ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็น ผู้ก่อการร้าย ในเมืองไทย สู้หันไปมองโลกทั้งโลก มองไปถึง สงครามครั้งใหม่ ที่มันกำลังจะอุบัติขึ้นมา ในอีกไม่นานไม่ช้า เพื่อเตรียมตัว เตรียมใจ เตรียมรับมือ กับผลกระทบต่างๆ นานา จะมิดีกว่าหรือ...

-------------------------------------------------

ปิดท้ายด้วยวาทะวันนี้ จาก เซเนคา...ในเรื่องของสงคราม คนมักถามถึงผล ไม่ถามถึงเหตุ...

-------------------------------------------------

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 17:13:48 น.

อังกฤษเตรียมดัน "ลอนดอน" เป็นศูนย์กลางค้าเงิน "หยวน"

 

 

Share

 

 

 

 

บีบีซี รายงานว่า กระทรวงการคลัง อังกฤษ ประกาศแผนผลักดันให้ ลอนดอน เป็นศูนย์กลางการค้าเงินหยวนชั้นนำ

จอร์จ ออสบอร์น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งเพิ่งมาถึงฮ่องกงในวันนี้ตามแผนการเยือนเอเชีย กล่าวว่า เขาเตรียมพูดคุยเรื่องการตั้งลอนดอนเป็นศูนย์กลางตลาดเงินตราเหรินหมินปี้

"ลอนดอนเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบในการเป็นประตูสู่การธนาคารและการลงทุนในเอเชียของยุโรป" ออสบอร์นกล่าว

สำหรับสาเหตุนั้น ออสบอร์นชี้ว่า ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการค้าเงินตราต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ลอนดอนจึงได้รับเลือกในการช่วยพัฒนาตลาดที่น่าสนใจนี้

นักการธนาคารกล่าวว่า แผนนี้จะดึงดูดเม็ดเงินหลายพันล้านปอนด์เข้าสู่ลอนดอน

ทั้งนี้ จีนเริ่มผ่อนคลายนโยบายควบคุมค่าเงินและการหมุนเวียนของเงินทุนมากขึ้นในปัจจุบัน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันเสาร์ที่ 21 มกราคม 2555

 

19.45 น. นอริช ซิตี้ - เชลซี ทรูสปอร์ต 1

22.00 น. ฟูแล่ม - นิวคาสเซิ่ล ทรูสปอร์ต 1

22.00 น. เอฟเวอร์ตัน - แบล็คเบิร์น ทรูสปอร์ต 2

22.00 น. สโต๊ค ซิตี้ - เวสต์บรอมวิช ทรูสปอร์ต 5

22.00 น. ควีนส์ปาร์ค - วีแกน ทรูสปอร์ต เอ๊กซ์ตร้า

00.30 น. โบลตัน - ลิเวอร์พูล ทรูสปอร์ต 3

 

พรีเมียร์ลีก อังกฤษ คืนวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม 2555

 

20.30 น. แมนฯ ซิตี้ - สเปอร์ส ทรูสปอร์ต 1

23.00 น. อาร์เซน่อล - แมนฯ ยูไนเต็ด ทรูสปอร์ต 1

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเสมครับ เล่นหุ้นใช้ ATR Trailing Stop หรือเปล่าแล้วมีการตั้งค่าอย่างไร ขอบคุณครับ

ได้คำตอบแล้วครับ ไม่เป็นไรครับ

ถูกแก้ไข โดย Kenny_a

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เก็บมาเขียน - SOPA เรื่องไกลจากคองเกรส แต่ กระทบถึงกทม.

posted on 18 Jan 2012 20:55 by luck2521

หลายwebsiteในวันที่18มกราคมได้รวมตัวกันประท้วงสภาคองเกรสของสหรัฐอย่างเต็มตัว

ด้วยการคาดแถบสีดำ(สัญลักษณ์สื่อถึงการเซนเซอร์)

หรือไม่ก็เพิ่มแถบคาดสีดำต่อต้านSOPAเข้ามาในเว็บ

การแสดงออกครั้งนี้มีเพื่อกดดันไม่ให้สภาคองเกรสผ่านร่างกฏหมาย SOPA

ซึ่งเราคนไทยทั้งหลายอาจจะสงสัยว่า

"ไอ้SOPAนี่มันอะไรล่ะ?"

 

 

sopagoogle.gif"

**google.comจัดเต็มด้วยการคาดแถบสีดำที่โลโก้สื่อถึงการปิดกั้นเสรีภาพทางInternet**

 

 

SOPA ย่อมาจาก Stop Online Piracy Act

ร่างกฏหมายนี้มีไว้เพื่อให้อำนาจรัฐบาลและเอกชนในการจัดการกับการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

ถาม : ...ฟังดูก็ดีนะ แล้วมันมีปัญหาตรงไหนล่ะ?

ตอบ :ตรงตัวกฏหมายที่ให้อำนาจกว้างสุดๆครับ เราลองมาไล่ดูทีละข้อ

 

ภายใต้กฏหมายนี้ ให้อำนาจไว้กับรัฐและเอกชนไว้สามส่วนใหญ่ๆ

  • Section 102: ให้อัยการสามารถขออำนาจศาล เพื่อประกาศแบนเว็บไซต์ใดเว็บไซต์หนึ่ง จากเว็บค้นหา, บริการ DNS, เซิร์ฟเวอร์ใดๆ, บริการจ่ายเงิน, และการโฆษณา

ถ้าเวบมีส่วนในการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาและถูกแบนจากกม.นี้ เราจะไม่มีทางหามันเจออีกเลย

เพราะ โดนขุดรากถอนโคนตั้งแต่ลบทิ้งจากเซิฟเวอร์ เซิจหาก็ไม่เจอ แม้กระทั่งลิ้งโฆษณาที่เกี่ยวข้องก็จะถูกลบล้างให้หายออกไปจากสารบบจนหมด สิ้น

  • Section 103: ให้อำนาจเจ้าทุกข์ในการยื่นคำร้องไปยังบริการจ่ายเงิน เพื่อให้บริการ เช่น Paypal หรือ VISA เพื่อหยุดให้บริการแก่เว็บที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เมื่อผู้ให้บริการจ่ายเงินได้รับคำร้องจะมีหน้าที่ต้องติดต่อเว็บไซต์ที่ ถูกกล่าวหาเอง เพื่อรอรับการอุทธรณ์คำร้อง และกระบวนการทั้งหมดต้องเสร็จสิ้นภายในห้าวัน

เช่น เวบEbay/amazon มีคนขายของละเมิดลิขสิทธิ์ หากเจ้าทุกข์ร้องขอไปยังอัยการ ทุกระบบการจ่ายเงินของเวบไม่ว่าจะเป็นทางไหนก็ตามจะถูกระงับ ...เว็บขายของโอน/จ่ายเงินไม่ได้ก็เหมือนถูกสั่งแช่แข็งนั่นแหละ

 

แล้ว ผู้ให้บริการทางการเงินที่หยุดให้บริการเพราะถูกร้องขอมีหน้าที่ต้องติดต่อ กับเวบที่มีปัญหาทางลิขสิทธิ์เพื่อรอการอุทธรณ์ต่อไป ...คือถ้าเคลียกันไม่ลงก็เสียหายกันระนาวทั้งเวบขายของและผู้ให้บริการทาง การเงิน เพราะค่าธรรมเนียมโอน/จ่ายผ่านอินเตอร์เนทนี่วันนึงไม่ใช่น้อยเหมือนกัน

  • Section 104: บริการจ่ายเงินสามารถหยุดให้บริการเองได้ แม้จะไม่ได้รับคำร้องใดๆ หากพิจารณาว่าเว็บไซต์หนึ่งๆ ทำความผิดฐานละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาก็สามารถไม่ให้บริการได้โดยไม่มีความ ผิด

อันนี้คล้ายอันบนเพียงแต่ให้อำนาจผู้ให้บริการทางการเงินสามารถถอนตัวหนี ปัญหาได้เลย หากสงสัยว่าเวบที่ตนเป็นตัวกลางจ่าย/โอนเงินมีความเกี่ยวข้องกับการละเมิด ลิขสิทธิ์ทางปัญญาได้ด้วยตัวเอง

ถาม : อ่านดูแล้ว ถ้าไม่ทำผิดกฏก็ไม่เป็นไรไม่ใช่เหรอ?

ตอบ : เวบต้นทางสรุปไว้ว่า

กฏหมายฉบับนี้ให้อำนาจรัฐไว้กว้างมากถึงขนาดที่สามารถห้ามการ "ลิงก์"

ไปยังเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา

จุดที่เป็นปัญหาน่าจะเริ่มจาก section102

เพราะการทำ"ลิงค์"ใดๆก็ตามมีผลให้เวบนั้นๆมีส่วนในความผิดด้วย

หมายความว่าถ้าเซิจกูเกิลแล้วเจอเวปดาวโหลดฟรี กูเกิลก็มีส่วนผิดเพราะทำ"ลิงค์"

ใครโพส"ลิงค์"ในเฟซบุ๊คแล้วเป็นเพลงหรือหนัง

หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเฟซบุ๊คก็ผิด

หากกม.นี้ผ่าน ทุกเวปต้องคอยลบ"ลิงค์"ที่น่าจะผิดออกไปให้หมด

...แล้วใครมันจะไปทำได้วะ?

แถมในข้อกม.การให้ข้อมูลหรือความรู้ต่างๆที่ละเมิดลิขสิทธิ์เป็นความผิดร้ายแรง

ดังนั้นวิกิพีเดียที่มีข้อมูลหลากหลายแจกฟรี ก็รับเคราะห์ไปเต็มๆ

ตัวอย่างเช่น ผมทำวีดีโอสอนเทคนิคการทำอาหารแล้วมีคนเอาข้อมูลในวีดีโอไปโพสในวิกิ

หากผมฟ้องร้องวิกิมีสิทธิ์โดนปิดได้เพราะละเมิดลิขสิทธิ์ทางปัญญาของผม

(เท่าที่อ่านมาจากหลายๆที่ก็น่าจะประมาณนี้)

*เพิ่มเติมจากที่เพื่อนเล่ามา*

หากท่านถ่ายวีดีโอแล้วมีเสียงเพลงมีลิขสิทธิ์อยู่ในวีดีโอ อันนั้นก็ผิด

หากร้องเพลงCOVER นั่นก็ผิด

เซฟรูปจากเวปอื่นแล้วเอามาโพสลงในเวปตัวเอง FB Twitter ก็ถือว่าผิดหมด

...ดังนั้นเรื่องนี้ถึงเป็นปัญหามากๆ

sopawiki.gif

***ถ้าโลกนี้ไม่มีความรู้ที่ฟรี แล้วพวกเด็กรุ่นใหม่จะทำวิทยานิพนธ์ไงฟะ?***

(รายละเอียดสรุปความและคัดลอกบางส่วนมาจาก:http://www.blognone.com/news/27842

ส่วนใดที่คัดลอกมาจะทำตัวหนังสือสีน้ำเงินไว้)

 

ถาม : แล้วมันกระทบคนไทยอย่างเราด้วยเหรอ?

ตอบ : ลองคิดถึงโลกทื่ไม่มี Google facebook wikipedia ฯลฯดูละกันครับ

โลกเราจะย้อนหลังไปกี่ปี - -"

 

sopafirefox.gif

***FireFoxก็ไม่ยอมน้อยหน้าด้วยเช่นกัน***

 

ถาม : แล้วมีอะไรที่เราพอจะทำได้ไหม?

ตอบ : ภาวนาให้กม.นี้ไม่ผ่านสภาคองเกรสครับ

หรือถ้าอยากเทคแอคชันมากกว่านี้ก็แชร์ข้อมูลเหล่านี้ลงFacebook

มากกว่านั้นก็เข้าไปที่ลิงค์นี้ แล้วลงชื่อร่วมคัดค้านก็ได้

http://sopastrike.com/

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...