ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

วอชิงตัน ดี.ซี. (เอพี/บีบีซี นิวส์)-กองทุนการเงินระหว่างประเทศระบุว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเข้าสู่ "ระยะอันตรายครั้งใหม่" แล้ว เนื่องจากยังไม่สามารถฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ ขณะที่อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างรวดเร็ว โดยไอเอ็มเอฟเตือนว่าความขัดแย้งทางการเมืองและความอ่อนแอของเศรษฐกิจในสหรัฐ รวมถึงกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร หรือยูโรโซน อาจทำให้ 2 ภูมิภาคนี้เข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง

 

นอกจากนี้ ไอเอ็มเอฟยังระบุด้วยว่า สภาพเศรษฐกิจในประเทศพัฒนาแล้วมีความอ่อนแอและขยายตัวอย่างไร้ความแน่นอน และคาดการณ์ว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพีจะขยายตัวแค่ร้อยละ 1.5 ในปีนี้ นอกจากนี้ไอเอ็มเอฟยังเชื่อว่าอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกจะเติบโตเพียงร้อยละ 4 ในปีนี้ และปีหน้าจากร้อยละ 5 เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งเป็นผลมาจากปัญหาการเงินที่เลวร้ายในกลุ่มยูโรโซน แต่ยังคงได้รับแรงกระตุ้นจากการขยายตัวอย่างรวดเร็วของจีน อินเดียและบราซิล

 

ขณะเดียวกัน ไอเอ็มเอฟยังได้ปรับลดตัวเลขการคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจในกลุ่มยูโรโซนซึ่งมีสมาชิก 17 ประเทศ ให้เหลืออยู่ที่ร้อยละ 1.6 ในปีนี้ ลดลงจากร้อยละ 2 ซึ่งคาดการณ์ไว้เมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนปีหน้าอัตราการเติบโตจะยิ่งเลวร้ายลงโดยอยู่ที่ร้อยละ 1.1 เท่านั้น จากที่คาดการณ์ไว้ที่ร้อยละ 1.7 ซึ่งเป็นผลมาจากความวิตกว่ากรีซอาจผิดนัดการชำระหนี้ อย่างไรก็ตาม ล่าสุดการเจรจาระหว่างกรีซและผู้ตรวจสอบหนี้จากธนาคารกลางยุโรปและไอเอ็มเอฟมีความคืบหน้าเป็นอย่างดี และจะมีการหารือกันอีกครั้งในต้นสัปดาห์หน้า

 

ขณะที่สหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกก็จะขยายตัวอย่างไม่ดีนักเป็นเวลาต่อไปอีกหลายปี และมองว่าข้อเสนอของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ที่ให้ปรับลดภาษีแรงงานชาวอเมริกันบางกลุ่มและกระตุ้นงบประมาณรายจ่ายด้านสาธารณูปโภคอาจช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐได้ในระยะสั้น โดยเห็นว่าสหรัฐควรดำเนินการในเรื่องดังกล่าวควบคู่ไปกับการลดหนี้ของรัฐบาลในระยะยาว

 

ไอเอ็มเอฟยังเชื่อว่า มีเพียงเยอรมนีและแคนาดาเท่านั้นที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะสูงกว่าร้อยละ 2 ในปีนี้ ส่วนจีนซึ่งคาดว่าจะเติบโตร้อยละ 9 ในปีหน้าจะเป็นผู้นำการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อไป ส่วนอินเดียจะเติบโตร้อยละ 7.5 และเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะฟื้นตัวได้จากปีนี้ หลังจากประเทศประสบภัยแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง (วันที่ 24 กันยายน 2554)

 

[namchiang 468]

คาดราคาทองคำพุ่งขึ้นต่อเนื่อง นักลงทุนหนีความเสี่ยง ดอลลาร์-น้ำมัน-หุ้น

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 25 กันยายน 2554 21:07 น.

 

“เลขาฯสมาคมค้าทองคำ” ประเมินทิศทางราคาทองคำ ยังโอกาสปรับตัวเพิ่มขึ้น จากปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐฯที่ยังไม่ดี รวมถึงในยูโรโซน กดดันให้นักลงทุนหนีเงินสกุลดอลลาร์ น้ำมัน และ หุ้น หันมาลงทุนในทองคำเพิ่มเติม แม้ปัจจุบันมีการปรับฐานลงไปบ้างแล้ว

 

นายพิชญา พิสุทธิกุล เลขาธิการสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยถึงแนวโน้มราคาทองคำ ว่า ปัญหาเศรษฐกิจในสหรัฐฯยังไม่มีท่าทางจะฟื้นในช่วง 2-3 ปีนี้แน่นอน เนื่องจากนโยบายในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของสหรัฐฯในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมาไม่สามารถลดตัวเลขคนว่างงานในประเทศลงได้

 

ขณะที่ปัญหาการบริโภคภายในประเทศก็ไม่กระเตื้องขึ้น ประกอบกับนักลงทุนไม่มีความเชื่อมั่นในสกุลเงินดอลลาร์ จึงได้เปลี่ยนจากการถือครองดอลลาร์, น้ำมัน และหุ้น มาที่ทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความมั่นคงและปลอดภัยสูง ดังนั้น ทำให้ทองคำจึงเป็นสินทรัพย์ที่มีความต้องการสูงทั้งจากธนาคารกลางของประเทศต่างๆ และนักลงทุน ส่งผลให้ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าจะมีการปรับฐานลงมาบ้างแต่ยังคงสามารถที่จะยืนได้เหนือระดับที่ 1,800 เหรียญ/ออนซ์ได้

 

นอกจากนี้ ยังต้องติดตามความวิตกกังวลถึงประเด็นหนี้สินรัฐบาลในประเทศกลุ่มยูโรโซนที่ทั่วโลกกำลังจับตามองว่ารัฐบาลเยอรมันและฝรั่งเศส ซึ่งเป็นแกนสำคัญนั้น จะมีนโยบายใหม่ๆ ออกมาเพื่อยับยั้งปัญหาไม่ให้ลุกลามไปยังประเทศสมาชิกอื่นๆในแถบยูโรโซนได้หรือไม่

ส่วนในอีกหลายๆ ประเทศของกลุ่ม เริ่มออกมาตราการเพื่อป้องกันปัญหาที่อาจส่งผลกระทบต่อประเทศของตน โดยกำหนดให้ธนาคารพาณิชย์ในประเทศต้องเพิ่มสัดส่วนการกันสำรองเผื่อหนี้สูญ รวมทั้งลดการก่อหนี้สาธารณะเพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อการชำระหนี้คืนในอนาคต และเพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนในเศรษฐกิจโลก

 

ปัจจัยเหล่านี้ มีผลทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในเอเชียเพิ่มมากขึ้น เพราะมีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง เช่น จีน, อินเดีย, เกาหลีใต้, ไทย, มาเลเซีย, อินโดนิเซีย, เวียดนาม เป็นต้น ซึ่งส่งผลให้แต่ละประเทศมีเงินไหลเข้าจำนวนมาก และไปซื้อทองคำเพิ่มมากขึ้นจนอุปสงค์ต่อทองคำมีมากกว่าปริมาณที่ผลิตได้ หมายถึงยิ่งทำให้ราคาทองคำให้สูงขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตาม การที่แต่ละประเทศจะเปลี่ยนสัดส่วนจากสกุลเงินตราต่างประเทศมาเป็นทองคำนั้น ธนาคารกลางแต่ละชาติต้องคำนวณถึงสภาพคล่องด้วย เพราะถ้านำเงินที่มีอยู่มาซื้อทองคำจำนวนมาก เมื่อเกิดปัญหาการเงินภายในประเทศขึ้น สภาพคล่องที่จะเปลี่ยนทองคำมาเป็นเงินนั้น อาจมีความคล่องตัวน้อยกว่าการถือเงินสด ซึ่งอาจจะกระทบต่อปริมาณเงินหมุนเวียนในประเทศได้

[kimenyi 257]

ธนาคารยุโรปวิ่งวุ่นหาทุนใหม่ในเอเชีย (26/09/2554)

ธนาคารยุโรปหายใจไม่ทั่วท้องกับสภาวะไร้ทางออกหนี้สาธารณะ ขณะรัฐบาลยุโรปแต่ละประเทศดิ้นรนหาหนทางการจัดการทางนโยบายให้เข้ารูปเข้ารอย ธนาคารพาณิชย์จึงต้องเริ่มวิ่งหาทางออกด้วยการหาแหล่งทุนใหม่

...............

 

มันกลับกันแล้ว เมื่อสิบปีก่อนเราต้องวิ่งหาแหล่งทุนยุโรปให้วุ่น โลกเราไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ

[Pete 15,187]

หลังบ่าย 3 โมงวันนี้ ถ้าทางยุโรป ไม่ยอมดันราคาทองขึ้นมา

เด็กขายของ คงต้องไปเปิดหน้าที่ 1 ห้อง ป. 4 ของอาจารย์ซีซ่าร์ เพื่อใช้มาตราการ " ลืมราคาที่ซื้อ "

แล้ว " ตั้งราคาใหม่ " แหง่มเลย เพราะถึงแม้มูลค่าราคาทอง จะลดลง แต่จะไม่ตัดขาย โดยไม่มี

แผนการมารองรับไว้ หุหุ

[Pisan 124]

หลังบ่าย 3 โมงวันนี้ ถ้าทางยุโรป ไม่ยอมดันราคาทองขึ้นมา

เด็กขายของ คงต้องไปเปิดหน้าที่ 1 ห้อง ป. 4 ของอาจารย์ซีซ่าร์ เพื่อใช้มาตราการ " ลืมราคาที่ซื้อ "

แล้ว " ตั้งราคาใหม่ " แหง่มเลย เพราะถึงแม้มูลค่าราคาทอง จะลดลง แต่จะไม่ตัดขาย โดยไม่มี

แผนการมารองรับไว้ หุหุ

 

สวัสดีครับ คุณเด็กขายของ หุหุหุหุหุหุหุ

 

ตลาดยุโรปเปิดคงจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนขึ้นสำหรับวันนี้ใช่ป่ะครับ

 

"ขอความเห็นคุณเด็กขายของและทุกๆ คนหน่อยนะครับ ว่าวันนี้ผมคงจะต้องตัดใจกระโดดลงจากดอยสักช่วงเวลาหนึ่งเพราะทุนผม ค่อนข้างตึงมากๆ ออกมาตั้งหลักก่อนผมควรจะเสี่ยงรอลุ้นกับตลาดยุโรปเปิดดีไหมอ่ะครับ ว่ามันจะดันหรือมันจะทุบ TT"

 

ขอบคุณครับ การลงทุนมีความเสี่ยงคงจะต้องตัดสินใจหนักๆละ งานนี้

[Pete 15,187]

มันกลับกันแล้ว เมื่อสิบปีก่อนเราต้องวิ่งหาแหล่งทุนยุโรปให้วุ่น โลกเราไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ

"อยากให้คิดให้ดีว่า การตกหรือขึ้น ของราคาทองคำ ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะแรงหรือเบา มันไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เพราะ ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยได้เสมอ ดังนั้น การตกในวันนี้ ว่าแรงแล้ว ก็จะมีแรงกว่า หรือ การขึ้นที่เคยว่าสูงแล้ว ก็จะมีสูงกว่านี้

 

ประเด็นที่ต้องเรียนรู้จากวิกฤตคือ ได้ออกแบบการลงทุนให้พร้อมกับ วิกฤตและโอกาสหรือเปล่า หรือ เพียงแค่เข้ามาเล่นซื้อขายทองและลงทุนตามกระแส

หรือเขียนเอามัน ช่วงขึ้นก็หลับหูหลับตาซื้อ

 

เพราะคิดดีๆนะครับ คนที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาวจากตลาดทองคำ คือ คนที่เรียนรู้จากวิกฤต ที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และสามารถ Survive ตัวเองอยู่ในตลาดได้นั่นเอง

และเด็กขายของก็ได้เห็นแล้วว่า อะไรคืออะไร ในเวป

[Harnsin 362]

"อยากให้คิดให้ดีว่า การตกหรือขึ้น ของราคาทองคำ ในครั้งนี้ ไม่ว่าจะแรงหรือเบา มันไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เพราะ ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยได้เสมอ ดังนั้น การตกในวันนี้ ว่าแรงแล้ว ก็จะมีแรงกว่า หรือ การขึ้นที่เคยว่าสูงแล้ว ก็จะมีสูงกว่านี้

 

ประเด็นที่ต้องเรียนรู้จากวิกฤตคือ ได้ออกแบบการลงทุนให้พร้อมกับ วิกฤตและโอกาสหรือเปล่า หรือ เพียงแค่เข้ามาเล่นซื้อขายทองและลงทุนตามกระแส

หรือเขียนเอามัน ช่วงขึ้นก็หลับหูหลับตาซื้อ

 

เพราะคิดดีๆนะครับ คนที่จะประสบความสำเร็จในระยะยาวจากตลาดทองคำ คือ คนที่เรียนรู้จากวิกฤต ที่เข้ามาอย่างสม่ำเสมอ และสามารถ Survive ตัวเองอยู่ในตลาดได้นั่นเอง

และเด็กขายของก็ได้เห็นแล้วว่า อะไรคืออะไร ในเวป

 

 

ขอบคุณครับ เป็นคำแนะนำที่ดีจริงๆ

[มานะ 14]

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกท่าน คงต้องทำใจลืมราคาที่ซื้อดอยไว้สักพัก ติดราคาเก็บซ่อนไว้

และคงต้องคิดแบบเด้กขายของเหมือนกัน เริ่มใหม่อีก เป็นกำลังใจให้ทุกท่านนะค่ะ

[Pete 15,187]

สวัสดีครับ คุณเด็กขายของ หุหุหุหุหุหุหุ

 

ตลาดยุโรปเปิดคงจะเห็นทิศทางที่ชัดเจนขึ้นสำหรับวันนี้ใช่ป่ะครับ

 

"ขอความเห็นคุณเด็กขายของและทุกๆ คนหน่อยนะครับ ว่าวันนี้ผมคงจะต้องตัดใจกระโดดลงจากดอยสักช่วงเวลาหนึ่งเพราะทุนผม ค่อนข้างตึงมากๆ ออกมาตั้งหลักก่อนผมควรจะเสี่ยงรอลุ้นกับตลาดยุโรปเปิดดีไหมอ่ะครับ ว่ามันจะดันหรือมันจะทุบ TT"

 

ขอบคุณครับ การลงทุนมีความเสี่ยงคงจะต้องตัดสินใจหนักๆละ งานนี้

อยากเรียนอีกครั้งว่า เด็กขายของ ซื้อขายทองแท่งจริงที่ร้านทองตู้แดงย่านเยาวราช

วิกฤติครั้งนี้ เกิดขึ้น ของอยู่ครบ แต่มูลค่าลดลง พยายามคิดในแง่ดีว่า เดี๋ยวก็กลับมา มันแค่ไปเที่ยว ไม่เหมือนกับ GF

 

เพราะฉะนั้น. อย่าว่ากันถ้าจะเขียนว่า "คนที่จะก้าวขึ้นมารวย และสำเร็จ" มันไม่ได้มาจากที่คนๆนั้น นั่งคิดเฉยๆ ..เช่นคิดว่า ยังไงตลาดต้องลงต่อ แล้วก็นั่งเฉยๆ ..พอตลาดลงต่อก็ มาบอกว่า "ผมเก่งมากเลย ผมรู้ว่าตลาดจะลงหรือขึ้น" ...คือ แล้วไงล่ะ รู้แล้วไง ..มันไม่ช่วยทำให้คุณรวยหรือจนเพิ่มขึ้นเพียงแค่นั่งคิดเฉยๆ ...ถูกต้อง!! หากคุณเชื่อมั่นในส่ิงที่คุณคิด คุณควรกล้าที่จะใช้เงินของคุณ Bet กับความเชื่อนั้นๆ มันจะช่วยทำให้เราหลุดกรอบที่คนส่วนใหญ่เป็นคือ "ถ้ารู้อย่างงี้..." อ่ะนะ หาจังหวะและจุดยืน ในการทำกำไรของตัวเองได้ ...แต่ความ "ถูกแพง ก็ไม่ได้แปลว่า ทองคำ ถูกแล้วจะต้องขึ้น หรือ ทองแพงแล้วจะต้องลง ..เพราะเวลาถูกมันก็ถูกได้อีก เวลาแพง มันก็แพงไปได้อีก ... ดังนั้น สิ่งที่สำคัญมันไม่ใช่การวิ่งหาราคาขายที่สูงที่สุด หรือ มองหาจุดซื้อที่ต่ำที่สุด เพราะทั้งสองจุดนั้น มันเป็นความเพ้อฝัน และไร้สาระที่สุด

 

..ผมถามจริงๆ ใครกล้าฟันธง โดยเอาชีวิตของตัวเองเป็นประกันไหมว่า พรุ่งนี้ราคาจะต้องลงต่อ หรือ ราคาจะต้องขึ้นแล้ว ..ถูกต้อง!! ไม่มีครับ หรืออาจมี แต่ความจำสั้นว่า เมื่อวานพูดอะไรออกไป เพราะ เวลาถูกก็ถูกได้อีก ..เวลาแพง ก็แพงได้อีก -- ประเด็นของ การแทงขึ้นลงในทิศทางแนวโน้ม มันจึงเป็นการที่เราเข้าใจ มูลค่า และ ทิศทาง ที่เรารับได้ "ไม่ใช่ซื้อใน ทิศทาง ที่คนอื่นบอกว่า ขึ้นต่อหรือลงแรง (เพราะขึ้นของคุณอาจมีจุด

มุ่งหมายที่สูงกว่าคนอื่นๆ จึงไม่ Make Sense เลยที่จะมาค้นหาคำตอบจากคนอื่นที่ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ซึ่งอาจจะแค่เขียนเอามัน แต่ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย

 

ประเด็นมันอยู่ที่คุณต้องมองหา จุดซื้อหรือขาย ที่คุณรับความเสี่ยงได้

ถูกแก้ไข กันยายน 26, 2011 โดย เด็กขายของ

[เศษรฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน 97]

ผู้ยิ่งใหญ่ เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ

ถูกแก้ไข กันยายน 26, 2011 โดย เศรษฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน

[เศษรฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน 97]

กรุงเทพฯ--26 ก.ย.--คลาสสิกโกลด์ ฟิวเจอร์ส

Price Movement

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดลดลง 101.90 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,639.80 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงมากติดต่อกันเป็นวันที่ 2 อีก 5.85% เมื่อนักลงทุนกังวลในเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง

 

 

 

Key Points in Gold Market

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดลดลง 101.90 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,631.70 – 1,757.90 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงมากอีก 5.85% เมื่อนักลงทุนกังวลในเรื่องเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปจะเข้าสู่ภาวะถดถอยอีกครั้ง ในการประชุม FED ล่าสุดได้ระบุว่า มีความเสี่ยงหลายด้านที่จะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐเผชิญกับช่วงขาลง ซึ่งความเสี่ยงดังกล่าวนั้นรวมถึงความผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลก

ทองคำถูกขายหนักพร้อมกับความผันผวนในตลาดหุ้นและตลาดการเงิน ดาวโจนส์ปรับลดลง 775.2 จุดหรือ 6.7%ภายใน 1 สัปดาห์ นักลงทุนได้เทขายสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหนัก หักลงทุนหันไปซื้อเงิน USD และพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นมาก ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์ขึ้นมาที่ระดับ 78.5 ในช่วงเช้าวันนี้ และเทียบกับเงินยูโรที่ระดับ 1.34 USDต่อยูโร

ราคาน้ำมันดิบ Nymex 79.85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ลดลง -0.66 ดอลล่าร์ต่อบาร์เรล ในขณะที่นักลงทุนกังวลในเรื่องการชะลอตัวของเศรษฐกิจ ( - )

ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงมากมาอยู่ที่ระดับ 30.97 บาทต่อUSD ( + )

IMF เผยเงินทุนสำหรับการปล่อยกู้ที่มีอยู่อาจจะไม่เพียงพอสำหรับการปล่อยกู้กับผู้กู้ทุกราย หากเศรษฐกิจโลกย่ำแย่มากไปกว่านี้ ( - )

แนวโน้มราคาทองคำปรับลดลงแรงมาก และยังมีแนวโน้มจะทำทำ low ใหม่ต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีการ rebound ขึ้นมามาบ้างแต่ยังเป็นแนวโน้มขาลง เส้นค่าเฉลี่ย 34 วันตัดเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน แสดงถึงว่าเป็นแนวโน้มขาลงอย่างชัดเจน กรอบความเคลื่อนไหววันนี้ คาดว่ามีแนวรับบริเวณ 1,580 ส่วนแนวต้านบริเวณ 1,690/1,704 แนะนำ นักลงทุนที่เปิด Long ไว้ปิดสถานะป้องกันความเสี่ยง ส่วนผู้ยังไม่มีสถานะให้เปิด short และถือข้ามวัน

ราคาโลหะเงินปิดลดลง 6.48 USDต่อออนซ์ หรือ -17.71% ปิดที่ 30.10 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 29.85 – 36.68 USDต่อออนซ์ คาดว่าวันนี้มีแนวรับบริเวณ 27.0 USDต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านบริเวณ 33.2 มีแนวโน้มเป็นขาลงชัดเจน ราคาหลุดต่ำกว่าเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน แนะนำ เปิด short และถือข้ามวัน ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,868.49 ตัน

SPDR ถือครองทองคำจำนวนเท่าเดิม 1,252.21 ตัน

Technical Analysis:

++ ราคาทองคำมีแนวรับที่ 1,580 1,560 แนวต้านที่ 1,690 - 1,704 แนวโน้มราคาราย Day Mov 34 ตัด Mov 75 เป็นสัญญาณทางเทคนิคที่ไม่ดี คาดราคาจะ ลงไปทดสอบแนวรับที่ 1,580 แนวรับในอดีต และ 1,560 Mov 200 ส่วนระยะสั้น Rebound ขึ้นเพื่อลงต่อ แนวโน้มราคายังอยู่ขาลงชัดเจน

 

++ ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 27.6 27 และแนวต้านที่ 33.2 35.6 เคลื่อนไหวหลุดกรอบ Mov 200 ลงมา แนวโน้มราคาไม่ดีตามเทคนิค เป็นขาลงชัดเจน ระยะสั้นอาจ rebound ได้

ถูกแก้ไข กันยายน 26, 2011 โดย เศรษฐีน้อย จากร้อยสู่ล้าน

[Pete 15,187]

ตลาดซื้อขายดอลลาร์/เยน:ยูโรปรับตัวผันผวนเช้านี้ (26/09/2554)

ยูโรปรับตัวผันผวนในการซื้อขายช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย ขณะที่นักลงทุน ระมัดระวังในการซื้อขาย ขณะที่มีข่าวที่ไร้ทิศทางจากยุโรปเกี่ยวกับการรับมือกับ วิกฤติหนี้ที่ลุกลาม    

        ยูโรแตะระดับสูงถึง 1.3585 ดอลลาร์ในช่วงเริ่มต้นการซื้อขายผ่าน ระบบ EBS ขณะที่มีข่าวว่าผู้นำอียูกำลังพิจารณามาตรการปกป้องกรีซ, ไอร์แลนด์ และโปรตุเกส 

        อย่างไรก็ตาม การขาดรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการดังกล่าวถ่วง ยูโรลงสู่ราว 1.3521 ดอลลาร์ แต่สูงกว่าระดับปิดตลาดนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์

        ยูโรยังคงอยู่ใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 8 เดือนที่ 1.3382 ดอลลาร์ที่ เข้าทดสอบเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่ยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับเยนที่ 103.55 เยน หลังร่วงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปีที่ 102.20 เยนในสัปดาห์ที่ผ่านมา 

        ดัชนีดอลลลาร์ปรับตัวลง 0.4% สู่ 78.157 จากระดับสูงสุดที่  78.618 ดอลลาร์ของเมื่อวันศุกร์

        ดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับเยนที่ 76.60 โดยยังคงปรับตัวในช่วง  76.30/77.85 นับตั้งแต่เดือนที่แล้ว 

        ตลาดมุ่งความสนใจไปที่สหรัฐและประเด็นงบประมาณในระยะสั้น  ขณะที่สภาคองเกรสจะอภิปรายเกี่ยวกับร่างงบประมาณรายจ่ายในวันนี้ หาก ร่างดังกล่าวไม่ผ่านการอนุมัติ โครงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยอาจจะไม่เหลือ เงินสดภายในวันอังคารนี้

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ทันหุ้น (วันที่ 26 กันยายน 2554)

 

[Pete 15,187]

ดร.กอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ ได้บอกกับ Money Channel ว่า ปัญหาของกรีซมีทางออก 3 ทาง ทางแรกคือดำเนินการต่อไปตามแผนที่ตกลงกันไว้กับ IMF และ EU ทางที่สอง – ผิดนัดชำระหนี้, หยุดชำระหนี้ หรือ ขอลดหนี้

 

และทางเลือกสุดท้าย คือ ผิดนัดชำระหนี้แล้วขอออกจากยูโรโซน ซึ่งแต่ละทางนั้นก็มีความยากลำบากเหมือนกันทุกทาง แต่ทางออกสุดท้ายในการออกจากยูโรโซน ดูเหมือนจะเป็นทางเลือกที่มีโอกาสเกิดน้อยมากที่สุด เพราะนักวิเคราะห์มองว่า การที่กรีซออกจากยูโรโซน ก็อาจจะยังไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหาของกรีซได้

 

 

 

ที่มา : money channel (วันที่ 26 กันยายน 2554)

 

ถูกแก้ไข กันยายน 26, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pisan 124]

อยากเรียนอีกครั้งว่า เด็กขายของ ซื้อขายทองแท่งจริงที่ร้านทองตู้แดงย่านเยาวราช

วิกฤติครั้งนี้ เกิดขึ้น ของอยู่ครบ แต่มูลค่าลดลง พยายามคิดในแง่ดีว่า เดี๋ยวก็กลับมา มันแค่ไปเที่ยว ไม่เหมือนกับ GF

 

เพราะฉะนั้น. อย่าว่ากันถ้าจะเขียนว่า "คนที่จะก้าวขึ้นมารวย และสำเร็จ" มันไม่ได้มาจากที่คนๆนั้น นั่งคิดเฉยๆ ..เช่นคิดว่า ยังไงตลาดต้องลงต่อ แล้วก็นั่งเฉยๆ ..พอตลาดลงต่อก็ มาบอกว่า "ผมเก่งมากเลย ผมรู้ว่าตลาดจะลงหรือขึ้น" ...คือ แล้วไงล่ะ รู้แล้วไง ..มันไม่ช่วยทำให้คุณรวยหรือจนเพิ่มขึ้นเพียงแค่นั่งคิดเฉยๆ ...ถูกต้อง!! หากคุณเชื่อมั่นในส่ิงที่คุณคิด คุณควรกล้าที่จะใช้เงินของคุณ Bet กับความเชื่อนั้นๆ มันจะช่วยทำให้เราหลุดกรอบที่คนส่วนใหญ่เป็นคือ "ถ้ารู้อย่างงี้..." อ่ะนะ หาจังหวะและจุดยืน ในการทำกำไรของตัวเองได้ ...แต่ความ "ถูกแพง ก็ไม่ได้แปลว่า ทองคำ ถูกแล้วจะต้องขึ้น หรือ ทองแพงแล้วจะต้องลง ..เพราะเวลาถูกมันก็ถูกได้อีก เวลาแพง มันก็แพงไปได้อีก ... ดังนั้น สิ่งที่สำคัญมันไม่ใช่การวิ่งหาราคาขายที่สูงที่สุด หรือ มองหาจุดซื้อที่ต่ำที่สุด เพราะทั้งสองจุดนั้น มันเป็นความเพ้อฝัน และไร้สาระที่สุด

 

..ผมถามจริงๆ ใครกล้าฟันธง โดยเอาชีวิตของตัวเองเป็นประกันไหมว่า พรุ่งราคาจะต้องลงต่อ หรือ ราคาจะต้องขึ้นแล้ว ..ถูกต้อง!! ไม่มีครับ เพราะ ถูกก็ถูกได้อีก ..เวลาแพง ก็แพงได้อีก -- ประเด็นของ การแทงขึ้นลงในทิศทางแนวโน้ม มันจึงเป็นการที่เราเข้าใจ มูลค่า และ ทิศทาง ที่เรารับได้ "ไม่ใช่ซื้อใน ทิศทาง ที่คนอื่นบอกว่า ขึ้นต่อหรือลงแรง (เพราะขึ้นของคุณอาจมีจุด

มุ่งหมายที่สูงกว่าคนอื่นๆ จึงไม่ Make Sense เลยที่จะมาค้นหาคำตอบจากคนอื่นที่ไม่รู้จัก ไม่เคยเห็นหน้า ซึ่งอาจจะแค่เขียนเอามัน แต่ไม่ได้ลงทุนอะไรเลย

 

ประเด็นมันอยู่ที่คุณต้องมองหา จุดซื้อหรือขาย ที่คุณรับความเสี่ยงได้

 

ขอบคุณ คุณเด็กขายของ ครับ ที่ให้แนวคิดดีๆ

 

^^

[pookun 5]

ขอบคุณครับพี่เด็กขายของ