ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ถูกแก้ไข สิงหาคม 19, 2011 โดย เด็กขายของ

[chai3034 66]

ไปก่อนละกัปตันผมไม่รอแล้ว

 

ถูกแก้ไข สิงหาคม 18, 2011 โดย foo

[Pete 15,187]

ถูกแก้ไข สิงหาคม 19, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

ถูกแก้ไข สิงหาคม 19, 2011 โดย เด็กขายของ

[NadingNarak 2]

โอ้ววว จรวดตอนนี้แรงมากๆๆ

ร่ำรวยๆๆๆ ทุกคนนะคะ

[puru_econ 4]

ได้ตัวเลข เป็นทางการเมื่อไหร่ บอกด้วยนะครับ

[DonJuan 4,685]

เติมเชื้อเพลิงจรวดอยู่ครับ

[Pete 15,187]

ถูกแก้ไข สิงหาคม 19, 2011 โดย เด็กขายของ

[Nattida 2]

โอ้ววว จรวดตอนนี้แรงมากๆๆ

ร่ำรวยๆๆๆ ทุกคนนะคะ

 

 

ปล่อยหมูไปแล้ว เกาะจรวดไม่ทันแล้ว เจ็บใจจิงจิง :mad:

[nuchaba 987]

เติมเชื้อเพลิงจรวดอยู่ครับ

แสดงว่า ยังสู้ตาย อยู่ใช่มั๊ยคร้าาาา สู้ สู้ สู้ตาย

 

!57 !K2 !_06

ถูกแก้ไข สิงหาคม 18, 2011 โดย nuchaba

[ห้างทองน่ำเชียง 1,443]

TFEX เพิ่มมาร์จินเริ่ม19ส.ค.

TFEX เผย สำนักหักบัญชีเตรียมปรับเพิ่มอัตราหลักประกันสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาด เริ่ม 19 ส.ค.นี้

 

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตลาดอนุพันธ์ (ประเทศไทย) หรือ TFEX เปิดเผยว่า สำนักหักบัญชีเตรียมปรับเพิ่มอัตราหลักประกันสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือมาร์จิน สำหรับฟิวเจอร์ส ของดัชนี SET50 (SET50 Index Futures) และโกลด์ฟิวเจอร์ส เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพตลาดที่มีความผันผวนเพิ่มขึ้น โดยจะเริ่มใช้อัตราหลักประกันใหม่ในวันศุกร์ที่ 19 ส.ค.2554

"จากปัญหาเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกาและยุโรปในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ผู้ลงทุนเกิดความไม่มั่นใจและมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนโดยหันมาถือครองทองคำซึ่งจัดเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยสูงขึ้น ส่งผลให้การซื้อขายหลักทรัพย์และทองคำมีความคึกคักแต่ผันผวนอย่างมาก "นางเกศรากล่าว

 

ทั้งนี้ การปรับหลักประกันดังกล่าวจะส่งผลให้ผู้ลงทุนทั่วไปต้องวางหลักประกันของฟิวเจอร์สของดัชนี SET50 เพิ่มขึ้นจาก 38,000 บาทต่อสัญญา เป็น 53,200 บาทต่อสัญญา โกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 50 บาททองคำ จาก 47,500 บาทต่อสัญญา มาเป็น 62,700 บาทต่อสัญญา และโกลด์ฟิวเจอร์สขนาด 10 บาททองคำ จาก 9,500 บาทต่อสัญญา มาเป็น 12,540 บาทต่อสัญญา สำหรับอัตราหลักประกันของซิลเวอร์ฟิวเจอร์สของผู้ลงทุนทั่วไปนั้น จะปรับลดลงจาก 29,450 บาทต่อสัญญามาเป็น 21,850 บาทต่อสัญญาในขณะที่ฟิวเจอร์สของหุ้นรายตัวมีทั้งการปรับเพิ่มและลดอัตราหลักประกันในบางหุ้นอ้างอิง

 

การปรับเปลี่ยนอัตราหลักประกันนั้น เป็นวิธีการที่สำนักหักบัญชีดำเนินการเป็นปกติ โดยจะปรับอัตราหลักประกันขึ้นหากราคาฟิวเจอร์สมีความผันผวนสูงขึ้น ในทางตรงข้าม หากความผันผวนของราคาฟิวเจอร์สลดลงก็จะปรับลดอัตราหลักประกันลง ซึ่งที่ผ่านมาก็ได้มีการปรับขึ้นและปรับลดอัตราหลักประกันของฟิวเจอร์สทั้ง 2 ประเภทมาแล้ว อย่างไรก็ดี การปรับหลักประกันในครั้งนี้ มีการเปลี่ยนแปลงในอัตราที่ค่อนข้างสูง จึงต้องการให้ผู้ลงทุนรับทราบข้อมูลและเตรียมการในเรื่องเงินประกันไว้เป็นการล่วงหน้า

ถูกแก้ไข สิงหาคม 18, 2011 โดย ห้างทองน่ำเชียง

[Pete 15,187]

ถูกแก้ไข สิงหาคม 19, 2011 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

U.S. jobless claims up 9,000 to 408,000

[Pete 15,187]

July core CPI up 0.2% as expected

U.S. July CPI up 0.5% vs 0.4% expected

 

[raty 151]

ที่มา bisnews

 

สภาวะตลาดวันที่ 18 สิงหาคม 2554 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ $1,783.99 – $1,796.38 ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ11 อยู่ที่ 25,510 บาท โดยราคาเพิ่มขึ้น 40 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 25,470 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVQ11 อยู่ที่ 1,211 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,206 บาท

 

(หมายเหตุ:ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.50 น.ของวันที่ 18/08/11)

แนวโน้มวันที่ 19 สิงหาคม 2554

 

ราคาทองคำยังคงทรงตัวในระดับสูงหลังจากความตรึงเครียดของปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐยังคงไม่จางหายไปกลับถูกซ้ำเติมด้วยปัญหาหนี้ของยุโรป ที่มีแนวโน้มว่าจะลุกลามออกไป ทำให้นักลงทุนตื่นกลัวแห่เข้าซื้อทองคำอย่างมากมายไม่เว้นแม้กระทั่งธนาคารกลางของประเทศต่างๆ รวมถึงธนาคารกลางแห่งประเทศไทยที่ได้เข้าซื้อทองคำด้วยเหมือนกัน ในขณะที่กองทุน พอลสันซึ่งเป็นใหญ่ที่สุดในกองทุน SPDR Gold Trust ยังคงลงทุนในทองในไตรมาส 2 ยิ่งช่วยสร้างมุมมองเชิงบวกให้กับนักลงทุนมากยิ่งขึ้น สำหรับวายแอลจีมีมุมมองว่าการปรับตัวขึ้นของราคาในรอบนี้เกิดจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง แต่นักลงทุนต้องไม่ลืมว่าการขายทำกำไรจะเกิดขึ้นเมื่อราคาปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้นักลงทุนต้องคอยระมัดระวังแรงขายทำกำไร เบื้องต้นวายแอลจีเชื่อว่าหากราคายืนในบริเวณ 1,795 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งราคาน่าจะขึ้นทดสอบจุดสูงสุดเดิมที่ทำไว้ที่บริเวณ 1,814 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

สำหรับกลยุทธ์การลงทุนวายแอลจีในระยะนี้ยังคงแนะนำให้เล่นในกรอบ โดยให้รอจังหวะซื้อเก็งกำไรบริเวณแนวรับสำคัญและขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัว หรือหากนักลงทุนรับความเสี่ยงได้บ้างแนะนำให้ถือข้างซื้อเป็นหลัก แต่หากยังไม่มีทองคำในพอร์ตช่วงนี้แนะนำให้ชะลอการลงทุนไปก่อน เบื้องต้นประเมินแนวรับแนวต้านไว้ดังนี้

 

 

ทองคำแท่ง

 

แนวรับ 1,780 (25,170บาท) 1,772 (25,060บาท) 1,765 (24,960บาท)

แนวต้าน 1,810 (25,600บาท) 1,821 (25,760บาท) 1,830 (25,880บาท)

 

!Hi !30 !thk