ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[ariya 1,481]

สวัสดีเช้าวันอังคารค่ะทุกๆ

น้องทองยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย วันนี้ลุ้นกันต่อ

คุณเกี้ยมอี๋ ลองน้ำผึ้งผสมมะนาวเหยาะเกลือนิดหน่อยผสมน้ำจิบก็จะช่วยให้ชุ่มคอดีนะคะ

 

ขอบไจ แต่พี่ว่าเพราะขัดตู้ที่น้ำท่วมเชื้อราอื้อคงสูดเชื้อราผสมน้ำส้มที่ต้องฉีดฆ่าเชื้อ( ลืมปิดจมูก ) ช่วงนี้นอนเร็วไม่ได้ลุ้นเดี๋ยวก็หาย

[แมวหลวง 8]

สว่ัสดี อาเฮีย กัปตัน ป้าเกี้ยมอี๋ และทุกๆคนในห้องนี้ครับ

 

ป้าเกี้ยมอี๋ไม่สบายหรอครับ ขอให้ป้าหายไวไวนะครับ ขอให้แข็งแรงๆคราฟ

[jumbo A 163]

สวัสดีชาวโลก.....เมือคืนเผลอหลับตื่นอีกทีเช้าและน้องทองไงอยู่ที่เดิมละ......หว้าาาาาา เซ็งเป็ด

[ariya 1,481]

สว่ัสดี อาเฮีย กัปตัน ป้าเกี้ยมอี๋ และทุกๆคนในห้องนี้ครับ

 

ป้าเกี้ยมอี๋ไม่สบายหรอครับ ขอให้ป้าหายไวไวนะครับ ขอให้แข็งแรงๆคราฟ

 

หลานแมวมาสาย เมื่อวานป้าเผยตัวจริงอดเห็นคนสวยเลย

[แมวหลวง 8]

 

 

หลานแมวมาสาย เมื่อวานป้าเผยตัวจริงอดเห็นคนสวยเลย

หว้าาาา เสียดายจัง แลิวจะมีโอกาสอีกไหมครับป้าเกี้ยมอี๋ 5555+

[Pete 15,187]

สวัสดียามเช้าวันอังคาร เพื่อนๆ ทุกๆคน

อากาศช่างร้อนเหลือหลาย ยิ่งทำให้ต้องระวังพายุลมกรรโชกแรงฤดูร้อนจะมาเยือนภายใน 2-3 วันข้างหน้า เช้านี้ราคาทองป้วนเปี้ยนระดับด่านแนวต้าน $1,706 ถึงแม้จะดูว่า ราคาเป็นแบบ Sideway Down ก็จริง แต่หลังจากหลุด $1,700 ก็สามารถกลับขึ้นมาเหนือ $1,700 ได้ไม่ยาก ( หุหุ ถ้าขึ้นยาก รากงอกแน่ๆ แท่งทองที่ใครบางคนฝังดินเอาไว้ ) ผ่านไป 1 วัน เหลืออีก 2 วัน ก็ต้องลุ้นน้องทอง สู้กับแรงขายของพวกขาใหญ่ ต่อไป

[Pasaya 499]

อรุณสวัสดิ์คร้าาาาาาา. ทุกคน

แข็งแรงๆ กันนะคะ จะได้มีแรงลุ้นต่อค่ะ

[Pete 15,187]

ที่มา สุทธิชัยหยุ่น

เศรษฐกิจจีน'Soft Landing'ฉุดหุ้นทั่วโลกร่วง

วันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2555AAAขนาดตัวอักษร| |

 

ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงเฉลี่ย 1% ในวันนี้ ขณะที่ดาวโจนส์ ฟิวเจอร์ส ติดลบล่าสุด 46 จุด รงมทั้งตลาดหุ้นเอเชียซื้อขายในแดนลบเกือบทุกตลาด เหตุจากนักลงทุนเทขายสินทรัพย์เสี่ยงออกมา หลังจากจีนประกาศปรับลดเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจรายปีที่ต่ำที่สุดในรอบ 8 ปีมาอยู่ที่ 7.5% จากเป้าเดิมที่ 8% รวมทั้งความไม่แน่นอนในเรื่องการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่กรีซ

 

 

ดัชนี STOXX Europe 50 ร่วงลงเฉลี่ย 1% หลังดัชนีหุ้นหลักทั้ง FT100 ลอนดอนลบ 0.51% CAC40 ฝรั่งเศส ร่วง 0.76% และ DAX เยอรมัน ร่วง 1.12%

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนประกาศปรับลดเป้าหมายอัตรา การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนลงสู่ 7.5% สำหรับปี 2555 เพื่อที่เศรษฐกิจ จะได้มีโอกาสชะลอตัวลงมากยิ่งขึ้นถ้าหากมีความจำเป็น. โดยการที่เศรษฐกิจจีนชะลอการเติบโตลงจะส่งผลกระทบในทางลบ ต่อตลาดสินค้าโภคภัณฑ์และตลาดโลก ซึ่งในระยะสั้นนั้น ปัจจัยนี้อาจส่งผลลบต่อสินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะราคาทองดิ่งลงหนักต่ำกว่า 1,700 ดอลลาร์ต่ออนซ์มาอยู่ที่ 1,695 ดอลลาร์ต่อออนซ์เมือเวลา 17.00 น.ตามเวลาในไทย

 

"แต่ในอีกทางหนึ่งนั้น ปัจจัยนี้จะช่วยปรับลดภาวะไม่สมดุลอย่างมากในทางการค้า ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ส่งผลบวกในระยะยาว" นักวิเคราะห์รายหนึ่งกล่าว

 

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ระบุว่ายูโรโซนยังคงเผชิญปัจจัยเสี่ยงหลายประการ แม้ว่ายูโรโซนอาจจะรอดพ้นจากวิกฤติขั้นร้ายแรงมาได้ในระดับหนึ่งแล้ว แต่ยูโรโซนอาจจะอยู่ในภาวะอ่อนแอเป็นเวลายาวนาน แทนที่จะฟื้นตัวขึ้นได้อย่าง

 

รวดเร็ว ขณะนี้ปัญหาสำคัญที่ยุโรปเผชิญในขณะนี้คือการหลีกเลี่ยงจากความชะล่าใจในการแก้ไขปัญหา การกระตุ้นเศรษฐกิจพร้อมกับปรับลดหนี้สินลง และการป้องกัน ไม่ให้ปัจจัยทางการเมืองในแต่ละประเทศส่งผลให้ยูโรโซนล่มสลาย

 

เหตุการณ์สำคัญที่สุดก็คือการที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ปล่อยกู้

 

ดอกเบี้ยต่ำระยะยาว (LTRO) ขนาดใหญ่สองครั้ง ซึ่งช่วยสกัดกั้นภาวะสินเชื่อ

 

หดตัว โดยภาวะดังกล่าวอาจส่งผลให้ธนาคารพาณิชย์ล้มละลาย มีการแห่ถอนเงินออกจากธนาคาร หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนและอิตาลีพุ่งสูง ซึ่งนายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบีได้รับคำชมอย่างมากในเรื่องนี้ เนื่องจากเขาสามารถหาหนทางในการทำหน้าที่เป็นผู้ปล่อยกู้แหล่งสุดท้ายแก่ธนาคารพาณิชย์ได้โดยที่อีซีบีไม่ได้ฝ่าฝืนสนธิสัญญาของอียูที่ห้ามการให้ทุนแก่รัฐบาลโดยตรง

 

หลังจากที่ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ประเทศสมาชิกอียูจำเป็นต้องตัดสินใจเรื่องวิธีการเสริมความแข็งแกร่งให้แก่เกราะคุ้มกันทางการเงินของตนเอง และตัดสินใจว่าจะลงโทษสเปนหรือไม่สำหรับการไม่ปฏิบัติตามเป้าหมายในการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ หรือว่าจะให้เวลาแก่สเปนมากยิ่งขึ้นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ

 

และนางแองเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเผชิญกับการตัดสินใจครั้งสำคัญในช่วงสิ้นเดือนมี.ค.ว่า เขาจะอนุญาตให้ยูโรโซนรวมกองทุนคุ้มครองชั่วคราวเข้ากับกองทุนคุ้มครองถาวรหรือไม่ เพื่อจะได้ปรับเพิ่มขนาดทุนทรัพย์ที่สามารถนำมาใช้ในการรับมือกับเหตุการณ์ฉุกเฉิน

 

ขณะเดียวกับที่ทั้งสหรัฐ จีน ญี่ปุ่น และแลุ่มจึ-20 บางประเทศกำลังกดดันยุโรปให้ปรับเพิ่มขนาดกองทุนคุ้มครองของตนเอง ไม่เช่นนั้นประเทศนอกยุโรปจะไม่ยอมจัดสรรเงินเพิ่มเติมให้แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เพื่อใช้ในการรับมือกับวิกฤติหนี้ยูโรโซน

 

ปัญหาที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือความขัดแย้งกันระหว่างความจำเป็นในการปรับลดหนี้สินและการส่งเสริมอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ โดย สเปนถือเป็นกรณีทดสอบในเรื่องนี้ ในขณะที่รัฐบาลสเปนต้องการเวลามากกว่าเดิมในการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณ โดยยอดขาดดุลของสเปนอยู่ที่ระดับ 8.5% ของจีดีพีในปีที่แล้ว แต่สเปนอาจจะเผชิญกับเหตุการณ์จลาจล เนื่องจากอัตราการว่างงานในสเปนสูงถึง 23.3% และแรงงานอายุน้อยราวครึ่งหนึ่งอยู่ในภาวะตกงาน

 

ขณะที่ฝรั่งเศสกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนในช่วงนี้ เพราะชาวฝรั่งเศสอาจเลือกนายฟรังซัวส์ ออลลองด์ จากพรรคสังคมนิยมให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีในเดือนพ.ค. ซึ่งอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมนี

 

ส่วนเยอรมนีก็กำลังจะจัดการเลือกตั้งในปี 2013 แต่สมาชิกพรรคร่วมรัฐบาลบางรายของเยอรมนีเริ่มแสดงความเห็นในเชิงคัดค้านการให้ความช่วยเหลือแก่ยุโรป

 

และถ้าหากกรีซไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขในมาตรการให้ความช่วยเหลือทางการเงินอีกครั้ง เยอรมนี ฟินแลนด์ และเนเธอร์แลนด์ก็อาจจะกดดันให้มีการตัดความช่วยเหลือสำหรับกรีซ ซึ่งจะส่งผลให้กรีซผิดนัดชำระหนี้ และอาจต้องออกจากยูโรโซนในที่สุด

 

หุ้นจีนปิดร่วงหลังปรับลดเป้าจีดีพี

 

ตลาดหุ้นจีนปิดร่วงลง 0.6% ในวันนี้ หลังจากนายกรัฐมนตรีเหวิน

 

เจียเป่าของจีนปรับลดเป้าหมายจีดีพีปี 2555 ลงสู่ 7.5% จากระดับ 8% ที่ใช้อ้างอิงมาเป็นเวลานานหลายปี ซึ่งเป้าใหม่นี้ถือเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 8 ปี และทำให้นักลงทุนกังวลว่าอุปสงค์อาจอยู่ในระดับอ่อนแอ

 

ดัชนีคอมโพสิตของตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ปิดร่วงลงสู่ 2,445 ในวันนี้ หลัง

 

จากปิดตลาดที่ระดับปิดสูงสุดรอบ 3 เดือนครึ่งในวันศุกร์ที่ผ่านมา

 

หั่งเส็งปิดร่วงกว่า 296 จุด

 

ทั้งนี้ ดัชนีหั่งเส็งปิดร่วงลง 296.95 จุด หรือ 1.38% สู่ระดับ 21,265.31 นำโดยหุ้นกลุ่มการเงินของจีน และหุ้นที่มีความอ่อนไหวต่อเศรษฐกิจร่วงลง หลังจากนายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนได้ปรับลดเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้ลงสู่ระดับ 7.5% จาก 8% เพื่อให้มีอิสระในการปฏิรูปทางเศรษฐกิจและสวัสดิการก่อนการเปลี่ยนแปลงผู้นำในปีนี้

 

ขายทำกำไรกดนิคเคอิปิดลบ0.8%

 

ขณะที่นักลงทุนในญี่ปุ่นพากันขายกำไรมากขึ้นในขณะที่ดัชนีอยู่ใกล้ระดับทางเทคนิคที่สำคัญ และตลาดหุ้นเอเชียร่วงลง ทั้งนี้ดัชนีนิคเคอิปิดตลาดลดลง 78.44 จุด หรือ 0.8% สู่ 9,698.59

 

หุ้นไทยปิดร่วงตามภูมิภาค0.62%

 

ดัชนีหุ้นไทย ปิดลบ 0.62% โดยมาจากการขายหุ้นขนาดใหญ่ จึงทำให้ดัชนีปรับตัวลงมาต่ำกว่าระดับ 1,160 นักวิเคราะห์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ทั้งนี้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ ปิดลบ 7.20 จุด มาที่ 1,157.95 ดัชนีสูงสุดอยู่ที่ 1,163.95 ดัชนีต่ำสุดอยู่ที่ 1,157.27 โดยมีมูลค่าการซื้อขาย 2.523 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต่างชาติยังเป็นผู้ซื้อสุทธิ 1.83 พันล้านบาท

 

ชณะที่ตลาดหุ้นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ปรับตัวไร้ทิศทางในวันนี้ โดยตลาดหุ้นอินโดนีเซียและไทยร่วงลง ในขณะที่ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปรับขึ้นเล็กน้อยท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง โดยความกังวลเรื่องการเติบโตทางเศรษฐกิจในจีนกระตุ้นให้นักลงทุนหลายรายเทขายทำกำไรหุ้นที่เคยพุ่งขึ้นในช่วงก่อนหน้านี้

 

โดยดัชนี MSCI สำหรับตลาดหุ้นเอเชีย-แปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่นดิ่งลง 1.3% ทั้งนี้ ด้ชนีสเตรทไทมส์ของสิงคโปร์ขยับลง 0.06% แต่ดัชนีหุ้นมาเลเซียปิดตลาดปรับขึ้น 0.34% ดัชนีหุ้นฟิลิปปินส์บวกขึ้น 0.28% และขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ ส่วนดัชนีหุ้นโฮจิมินห์ของเวียดนามพุ่งขึ้น 4% สู่จุดสูงสุดในรอบเกือบ 6 เดือน

[Pete 15,187]

อรุณสวัสดิ์คร้าาาาาาา. ทุกคน

แข็งแรงๆ กันนะคะ จะได้มีแรงลุ้นต่อค่ะ

สวัสดีครับ คุณ Pasaya

เด็กขายของหยุดพัก Long Weekend กับน้องทองมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วมา 4 วัน นับจากวันที่ทองร่วง $100 วันจันทร์ก็คอยหาจังหวะเข้าแบบร้อนรนเพราะชาร์ทแบตฯ มาอย่างเต็มที่ พร้อมเงินทุนเพิ่มเติม เนื่องจาก ครบเงินฝากขั้นบันได 11 เดือนของ ธนาคารออมสิน จึงทะยานจากจามจุรีแสควร์ มุ่งหน้าตรงไปเยาวราชในทันใดเพื่อทยอยเข้าเพิ่มอีกบางส่วน แบบต้องกล้าเสี่ยง ครับ

 

ปล. เพื่อนท่านใดที่มีการฝากเงินแบบนี้ วันครบกำหนดแล้วไปปิดบัญชี อย่าลืมขอหนังสือหักภาษี ณ. ที่จ่ายด้วยนะ เขาออกให้ได้ทันที แต่ใช้ในการยื่นภาษี ปีหน้านะครับ

[Pete 15,187]

หวั่นจีนชะลอตัวฉุดหุ้นสหรัฐ-ยุโรปร่วงทุกตลาด

วันที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2555| |

 

ทุกตลาดหุ้นหลักในสหรัฐ-ยุโรปปิดในแดนลบ รวมทั้งแรงขายสินทรัพย์เสี่ยงฉุดทองร่วงตาม แต่พยายามไต่ระดับทรงตัวเหนือ 1,703 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังร่วงลงไปถึง 1,695 ดอลลาร์ช่วงต้นตลาด เพราะนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจจีน จะชลอตัว หลังรัฐบาลปักกิ่งปรับลดเป้าหมายอัตราการเติบโตจีดีพีปีนี้ลงเหลือ 7.5% เพื่อรักษาความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สวนทางราคาน้ำมันดิบสหรัฐ ปิดตลาดบวก16 เซนต์ปิดที่ 106.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพราะตลาดกังวลสถานการณ์อิหร่านขณะผู้นำสหรัฐหารือกับผู้นำอิสราเอลเกี่ยวกับการตอบโต้โครงการนิวเคลียร์อิหร่าน

 

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ขยับลง 16.04 จุดหรือ 0.12% ปิดที่ 12,961.53 ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วงลง 5.37 จุดหรือ 0.39%ปิดที่ 1,364.26 และดัชนีแนสแด็ก ลบ 25.84 จุดหรือ 0.87%ปิดที่ 2,950.35

 

ด้านฟากฝั่งยุโรปร่วงลงใน 3 ตลาดหลัก โดย FT100 ลอนดอน ลบ 0.61% CAC40 ฝรั่งเศส ลบ 0.34% และ DAX ร่วงลง 0.79%

 

ทั้งนี้ นอกจากกังวลเรื่องการขยายตัวทางเศรษฐกิจจีนแล้ว ปัจจัยที่ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดในแดนลบเพราะตลาดหวั่นเกรงว่า การสว็อปพันธบัตรของกรีซอาจไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้

 

นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ประกาศปรับลดเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ ลงมาอยู่ที่ระดับ 7.5% จากเป้าหมายเดิมที่วางไว้ที่ 8% ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐบาลจีน ปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจภายในประเทศ หลังจากที่ได้คงเป้าหมายเอาไว้ที่ 8% มาเป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน

 

ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนกล่าวในงานเปิดการประชุมประจำปีของรัฐสภาจีนในวันนี้ว่า จีนตั้งเป้าที่จะทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโต 7.5 % ในปี 2555 ซึ่งอยู่ต่ำกว่าเป้าหมาย 8% ที่ใช้กันมานาน โดยมีจุดประสงค์เพื่อเปิด

 

โอกาสให้จีนมากยิ่งขึ้นในการปฏิรูปสวัสดิการและเศรษฐกิจก่อนการเปลี่ยนตัวผู้นำจีนในช่วงต่อไปในปีนี้

 

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลที่ว่า อาจมีนักลงทุนภาคเอกชนเพียงไม่กี่รายที่เข้าร่วมในแผนสวอปพันธบัตรของกรีซ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้น ก็อาจทำให้กรีซผิดนัดชำระหนี้และจะยิ่งทำให้วิกฤตหนี้ในยุโรปเลวร้ายลงไปอีก

 

รัฐบาลกรีซประกาศแผนสว็อปพันธบัตรอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ 24 ก.พ. ซึ่งภายใต้แผนดังกล่าว นักลงทุนภาคเอกชน ที่ถือครองพันธบัตรของกรีซต้องยินยอมรับการขาดทุนเพื่อให้ความช่วยเหลือกรีซ ด้วยการยอมรับเงื่อนไขการปรับลดมูลค่าหน้าตั๋วพันธบัตรของรัฐบาลกรีซลง 53.5% ในขณะที่การขาดทุนที่แท้จริงอาจสูงถึงราว 75%

 

อย่างไรก็ตาม แผนการดังกล่าวส่งผลให้สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของพันธบัตรรัฐบาลกรีซ ลงมาอยู่ที่ระดับ "ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน" จากระดับ CC เมื่อวันจันทร์ที่ 27 ก.พ. ตามด้วยมูดีส์ ที่ตัดสินใจปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรสกุลเงินในประเทศและต่างประเทศของกรีซ ลงจากระดับ Ca สู่ระดับ C ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในระบบการจัดอันดับของมูดีส์

 

ปัญหาอิหร่านหนุนน้ำมันดิบปิดบวก

 

ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ตลาดไนเม็กซ์ สหรัฐ ส่งมอบเดือนเมษายน ปรับตัวขึ้น 16 เซนต์ ปิดที่ราคา 106.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ตลาดลอนดอน ส่งมอบเดือนเมษายน ขยับขึ้น 59 เซนต์ ปิดที่ 124.24 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาดูผลการประชุมระหว่างนายเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล และประธานาธิบดีบารัก โอบามา แห่งสหรัฐว่าในวันนี้ ซึ่งผู้นำทั้งสอง จะหารือกันเกี่ยวกับการตอบโต้ โครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน หลังจากนายโอบามาแถลงในที่ประชุมคณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการสาธารณะอเมริกัน-อิสราเอลว่า สหรัฐไม่ลังเลที่จะใช้กำลังทางทหารกับอิหร่านหากจำเป็น แต่นายโอบามา กล่าวว่า ยังพอมีเวลาที่สหรัฐจะใช้วิธีการทางการทูตและการคว่ำบาตรต่ออิหร่าน

 

นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ ซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (อีไอเอ) จะเปิดเผยในวันพุธนี้เวลา 22.00 น.ด้วย

 

อย่างไรก็ตาม ในช่วงเปิดตลาดซื้อขาย ราคาน้ำมันดิบไลท์สวีท ดิ่งลง 1.20 ดอลลาร์ เพราะนักลงทุนกังวลว่า การอุปโภคบริโภคของจีนจะชะลอตวลง หลังจากที่รัฐบาลจีนปรับลดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้

 

ทองคำปิดร่วงเกือบ6ดอลลาร์

 

ราคาทองคำตลาดสหรัฐ ปิดตลาดปรับตัวลง 5.90 ดอลลาร์เพราะแรงกดดันจากการที่จีนลดเป้าจีดีพีและดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบเงินสกุลหลักๆ

 

ราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ สหรัฐ ส่งมอบล่วงหน้าเดือนเมษายน ปรับตัวร่วงลง 5.90 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,703.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากที่ร่วงลง 12.40 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1,709.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

 

ส่วนสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ยกเว้นเยน ก่อนที่สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ไอเอสเอ็ม) จะเปิดเผยดัชนีภาคบริการ เดือนก.พ.ซึ่งโดยทั่วไป เงินดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้สินค้าโภคภัณฑ์ที่ซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงทองคำ มีราคาแพงขึ้นสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ

 

ในส่วนของเงินเยน แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลัก หลังจากที่จีน ปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจสู่ระดับ 7.5% ในปีนี้

 

นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังได้ตั้งเป้าที่จะควบคุมการขยายตัวของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นดัชนีวัดเงินเฟ้อ ให้อยู่ที่ระดับ 4% ในปี 2555 หลังจากที่ดัชนีซีพีไอขยายตัวที่ระดับ 5.4% เมื่อเทียบเป็นรายปี ในปี 2554

 

โดยนักวิเคราะห์ ให้ความเห็นว่า ราคาทองคำ ได้รับแรงกดดันจากสินค้าโภคภัณฑ์หลักอื่นๆ ซึ่งปรับตัวลดลงในวันนี้ เพราะความวิตกกังวลเกี่ยวกับการปรับลดเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีน หลังจากที่ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาทองคำร่วงลงถึง 66.60 ดอลลาร์ หรือ 3.7% หลังจากที่เบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ส่งสัญญาณว่าจะมีการใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (QE3)

 

ที่มา สุทธิชัยหยุ่น

ถูกแก้ไข มีนาคม 6, 2012 โดย เด็กขายของ

[DonJuan 4,685]

สวัสดีครับ เฮียนายห้างฯ คุณ เด็กขายของ คุณ nuchaba คุณ ปุยเมฆ คุณ NongRee คุณ GB2514 คุณ Raty คุณ Mr.Li คุณ Aiya คุณfoo คุณ พลอยสีสวย คุณ ต้องกล้า(เกี้ยมอี๋) คุณ พวงชมพู คุณ Racha คุณ arthas คุณ กระต่ายทอง คุณ ขาใหม่ คุณ Jumbo A คุณ nene81 คุณ modtanoiy คุณ kimenyi คุณ Kero. Kero คุณ noijaa คุณ kaykee คุณ ท่านตี๋ คุณ แมวหลวง คุณ Pasaya คุณ nufirst คุณ ดาวเหนือ คุณ noonoon_ja คุณ Madee คุณ khaiped คุณ forgame และทุกๆท่านครับ

 

น้องทองหลุด 1700 ลงไปแต่ขึ้นมาได้ตลอด แสดงถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนว่า ยังไงก็เป็นขาขึ้นต่อไปได้ ไม่งั้นคงไม่ผ่าน 1700 มายืนสบายคลายสยอง(สงสัย อ้ายกัน กลัวว่าเกลอเก่าจะไม่ได้ลงดอย) วันนี้มาลุ้น 171X-172X กัน น่าจะมีแรงดันไปถึง(สักทีนะ) เพราะกระทุ้งยังไงก็ขึ้นมายิ้มได้ที่ 1700

 

ถ้าวันนี้ไม่ลงไปต่ำกว่า 1700 แล้วดันยืนได้ที่ 172X พุธนี้มีฮาเฮ มีแววไปต่อแบบไซค์เวย์อัพ ประทับใจ ไปรับดอย ที่คอยอีกไม่นาน สำราญใจเอ่ย

 

แต่ถ้ามีแรงกระทุ้ง ชนิดที่ว่าแดงยาวๆหลุด 1690 ลงไป เห็นทีคงต้องพายเรือวนในอ่าง รอคอยการลงดอยไปอีกสักระยะ ทองที่ฝั่งดินไว้คงได้งอกสมใจ

 

แต่ทั้งหมดทั้งปวง เดาอย่างแรงๆว่า ไม่หลุด 1700 อีกแล้ว ไปต่อยืน 172X ให้ได้เมื่อปิดตลาดคืนนี้ เพื่อหนทางอันสดใสครับ

[Madee 24]

สวัสดีค่ะ คุณเด็กขายของ และพี่น้องชาวไทยโกลด์

 

การที่ได้เห็น 1780 ทำให้ดีใจและมีความหวัง เพราะติดดอยตั้งแต่ตุลา-พ.ย ปีที่แล้ว แต่มาวันนี้ พี่ทองก็เล่นตลก ตกลงมาอีกทั้งๆที่รู้ว่ามีขึ้นก็มีลงทำให้ทำใจลำบาก เลยหายไปหลายวัน ที่จริงก็เข้ามาอ่านข่าวสารทุกวัน แต่จุกอกคิดไม่ตก มาวันนี้เริ่มทำใจได้แล้วค่ะ ขอติดตามข่าวสารและขอบคุณกูรูทุกท่านที่มาโพสให้ค่ะ

เมื่อวานได้ดูคุณเกี๋ยมอี่ แล้ว ก็สมดั่งที่คุณกระต่ายบอกชมรมคนสวยเลยนะค่ะ ดีใจที่ได้รับสิ่งดีจากห้องนี้ค่ะ

[Pete 15,187]

 

ยืนบนภูรอดูสัญญาณ

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 6 มีนาคม 2555 07:28 น.

 

Share

 

 

 

       ยืนบนภูรอดูสัญญาณ

       บรรยากาศการซื้อขายหุ้นเมื่อวันจันทร์เป็นไปอย่างเงียบเหงา และเกิดขึ้นทั่วย่านเอเชีย รวมทั้งยุโรปและสหรัฐ ซึ่งดัชนีตลาดปรับตัวลงเล็กน้อย ปัจจัยภายนอกจึงไม่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นไทย ทำให้แนวโน้มการลงทุนวันนี้ อาจไม่คึกคัก หรือไม่แตกต่างจากเมื่อวาน โดยราคาหุ้นเคลื่อนไหวขึ้นลงในช่วงแคบๆ

       ตลาดหลักทรัพย์ได้ประกาศผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนปี2554ออกมาแล้ว บริษัทจดทะเบียน461บริษัท หรือ97.86%ของบริษัทจดทะเบียนทั้งหมดรวม471บริษัท มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 625,362 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี2553 จำนวน4.3% โดยกำไรที่เติบโตต่ำ เกิดจากผลกระทบน้ำท่วม ทำให้กำไรบริษัทจดทะเยนไตรมาสที่4 ลดวูบกว่า50%

       สำหรับข่าวที่สั่นสะเทือนขวัญรายย่อยคือ การประกาศเพิ่มทุนของบริษัท แนเชอรัล พาร์ค จำกัด หรือเอ็น-าร์ค โดยแจ้งตลาดหลักทรัพย์ถึงการขายหุ้นบริษัท เคมปิน สยาม จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ และเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก60.43 ล้านบาท เป็น 120.86 ล้านบาท โดยออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 6.04 หมื่นล้านหุ้น ราคาพาร์1 บาท ขายผู้ถือหุ้นเดิมสัดส่วน1 หุ้นเดิมต่อ1หุ้นใหม่ ราคาหุ้นละ 2 สตางค์ วัตถุประสงค์การเพิ่มทุน เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ชำระหนี้ โครงการของบริษัทในอนาคต และสำรองเพื่อหนี้สินที่อาจเกิดขึ้นจากคดีต่างๆ

       หุ้นเอ็น-พาร์ค ถือเป็นหุ้นตายซาก หลังจากกินนักลงทุนรายย่อยจนหมดเนื้องหมดตัวเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน เมื่อกลับมาซื้อจายใหม่ ในนามหุ้นกลุ่มรีแฮปโก้ หรือหุ้นที่ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้เรียบร้อย แต่เมื่อได้กลับเข้ามาซื้อขายใหม่ ก็มีการสร้างข่าว ขยายการลงทุน วาดฝันผลประกอบการไว้สวยหรู ตามด้วยการระดมทุน ทำให้นักลงทุนรายย่อยตามแห่เข้าไปเก็งกำไรกันอย่างร้อนแรง

       ราคาหุ้นเอ็น-พาร์คเคยขยับขึ้นไปสูงสุดใกล้10 บาท แต่หลังจากระดมเงินจากตลาดหุ้นไปแล้วนับหมื่นล้าน ราคาหุ้นถูกลากขึ้นไปสู่ยอดดอย และเจ้ามือแห่ทิ้งหุ้น ฟาดกำไรไปเต็มกระเป๋าแล้ว ราคาหุ้นก็ถูกปล่อยให้รูดลงสู่เหว ขณะที่ผลประกอบการก็ไม่เป็นไปตามที่ผู้บริหารคุยโม้ไว้

       ก่อนการประกาศเพิ่มทุนครั้งนี้ หุ้นเอ็น-พาร์คเคลื่อนไหวอยู่ประมาณ 2-3 สตางค์ เมื่อวานปิดที่2 สตางค์ หุ้นเพิ่มทุนขายในราคาหุ้นละ 2 สตางค์ จึงไม่มีแรงจูงใจให้ผู้ถือหุ้นเดิมใช้สิทธิ หรือแม้จะขายหุ้นใหม่ในราคาที่จูงใจ ก็ไม่ควรจะใช้สิทธิจองซื้อหุ้น เพราะอดีตหุ้นตัวนี้สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้นักลงทุนรายย่อย ขณะที่ผู้บริหารบริษัท ก็ยังคงเป็นชุดเดิมๆ เจ้ามือก็ยังเป็นหน้าเดิมๆ

       เอ็น-พาร์คอยู่ในสภาพที่ตายซากมานานแล้ว การเพิ่มทุนครั้งนี้ เป็นการหาเงินก้อนใหม่เพื่อให้ผู้บริหารนำไปหมุนกันเพลินๆ ผู้ที่เคยใส่หุ้นเพิ่มทุนให้หุ้นตัวนี้ในอดีต ตกอยู่ในสภาพ “เจ้าทรัพย์ “ตาย แต่ “เจ้ามือ”รวย

       ไม่จำเป็นอย่ายุ่งกับหุ้นตัวนี้ เพราะเป็นหุ้นมหาภัย

       สำหรับยุทธศาสตร์การลงทุนวันนี้ ต้องบังคับใจให้เย็นๆไว้นะโยม เพราะสัญญาณการพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงไม่มี และแนวโน้มน่าจะมีลักษณืการประคับประคองตัวมากกว่า แต่สิ่งที่พอลุ้นได้อยู่คือ แรงซื้อจากนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งยังไม่ถดถอย และค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นเล็กเมื่อคืนวันจันทร์ที่ตลาดซื้อขายนิวยอร์ค ก็ยังเป็นปัจจัยหนุนให้ต่างชาติขนเงินเข้ามาต่อ

       แต่เพดานขาขึ้นแคบลงแล้ว ช่องว่างทำกำไรระยะสั้นก็แคบตามไปด้วย ยังไม่มีแรงเย้ายวนในการเก็งกำไรระยะสั้นเท่าไหร่ เว้นแต่หุ้นตัวเล็กหลาย ซึ่งเจ้ามือกำลังปลุกผีอยู่ แต่ก็มีความเสี่ยงสูง เพราะเดาไม่ได้ว่า เกมลากราคาจะปิดฉากเมื่อไหร่

       วันนี้ ยืนอยู่บนภูต่ออีกสักวันดีไหม รอดูสัญญาณบ่งชี้ทิศทางให้ชัดก่อน

 

[Pete 15,187]

 

ปตท.ฉุดดัชนี

 

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 มีนาคม 2555 20:12 น.

 

Share

 

 

 

       ปันผลปตท.ฉุดดัชนี

       ประเดิมรับสัปดาห์ใหม่ด้วยบรรยากาศที่ซบเซา ดัชนีปรับตัวลง7.20 จุด ถอยมาตั้งหลักที่1157.95 จุด ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นย่านเอเชียที่ลดลงเฉลี่ยประมาณ 1% เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปก็เคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ

       ความหวังที่จะเห็นดัชนีทะลุ1200 จุดในรอบนี้ เลือนรางลงทุนที เพราะแม้นักลงทุนต่างชาติยังซื้อสุทธิอีก 1,833 ล้านบาท แต่ก็เป็นเพียงผู้ซื้อรายเดียว นอกจากนั้นแรงซื้อก็เริ่มแผ่วลง และหากแรงซื้อจากต่างชาติอ่อน ตลาดหุ้นคงจะหมดรอบ เนื่องจากวิ่งมารอบนี้ประมาณ100 จุด เกิดจากแรงหนุนของฝรั่งล้วนๆ

 

       แม้ว่าหุ้นไทยจะปรับตัวลง 7 จุด แต่เทียบกับย่านเอเชีย ถือว่าสัดส่วนการลงน้อยกว่า และยังถูดกฉุดจากหุ้นปตท. ซึ่งขึ้นเครื่องหมายเอ็กซ์ดีวันแรกด้วย โดยราคาทรุดลง 7 บาท เท่ากับอัตราเงินปันผลที่จ่ายหุ้นละ 7 บาท คนที่ต้องการเก็งกำไรเงินปันผล จึงแห้วไป เพราะหักกลบระหว่างเงินปันผลกับราคาหุ้นที่ตกลงเท่ากันพอดี แต่การลงของปตท. ทำให้ดัชนีถูกฉุดลงประมาณ 2.80 จุด ซึ่งหากปตท.ไม่ลง ดัชนีวันนี้จะลดลงประมาณ 4 จุดเศษเท่านั้น

 

       ประเมินแนวโน้มตลาดหุ้นวันพรุ่งนี้ ยังไม่มีสัญญาณดีๆเกิดขึ้น เพราะตลาดหุ้นยุโรปในช่วงเย็น เป็นไปอย่างเงียบเหงา ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ล่วงหน้า ปรับตัวลงเล็กน้อย ราคาทองคำหลุดจาก1,700 ดอลลาร์ต่อออนส์ ราคาน้ำมันอ่อนตัวลงเล็กน้อยมายืนแถวระดับ105 ดอลลาร์ต่อบาเรลล์ ปัจจัยภายนอกจึงยังไม่เป็นบวก ส่วนปัจจัยภายใน ขาดแคลนข่าวดีมาพักใหญ่แล้ว จึงมีความเป็นไปได้ว่า ในระยะสั้น หุ้นจะมีลักษณะการประคับประคองตัว ดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบที่จำกัด

       แต่จะมีการปลุกหุ้นรายตัวขึ้นมาเล่น โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็ก ซึ่งถ้าไม่ว่องไวจริง ไม่แน่จริง ไม่ควรตามแห่ เพราะหลายตัววิ่งมาไกลแล้ว ไม่เกือบยอดดอยก็สุดยอดดอยแล้ว พลาดพลั้งอาจ “ติด”ของแพงได้

 

[Pete 15,187]

โซนร้อนถล่มมาดากัสการ์ มีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 65 คน

 

หน่วยงานด้านภัยพิบัติของมาดาร์กัสการ์ รายงานว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 65 คน และสูญหายอีก 3 คน หลังพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศถูกพายุโซนร้อนไอรีนาพัดถล่มอย่างรุนแรงเมื่อสัปดาห์ก่อน ต่อจากนั้นพายุลูกเดียวกันได้มุ่งหน้าพัดกระหน่ำชายฝั่งแอฟริกาใต้และโมซัมบิก ทำให้เกิดคลื่นสูงกว่า 3 เมตร และมีรายงานผู้เสียชีวิต 1 คน ทั้งนี้ โซนร้อนไอรีนา ถือเป็นพายุรุนแรงลูกที่ 2 ที่พัดเข้ามาดากัสการ์ในปีนี้ หลังจากที่เพิ่งถูกพายุหมุนจีโอวานนา ถล่มอย่างหนักจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 35 คน และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก .

 

 

 

ยูเอ็น เผยภัยพิบัติปี 54 สร้างความสูญเสียเกือบ 4 แสนล้านดอลลาร์

 

นางมาร์กาเรตา วาห์ลสตรอม ผู้แทนพิเศษด้านการบรรเทาความเสี่ยงจากภัยพิบัติของสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น ระบุว่าภัยพิบัติร้ายแรงทางธรรมชาติที่เกิดขึ้นทั่วโลกเมื่อปีที่แล้ว สร้างความเสียหายมากเป็นประวัติการณ์ถึงกว่า 380,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่าสถิติเดิมเมื่อครั้งที่สหรัฐถูกเฮอร์ริเคนแคทรินาพัดถล่มเมื่อปี 2548 โดยเหตุภัยพิบัติที่สร้างความเสียหายมากที่สุดกว่า 210,000 ล้านดอลลาร์ ได้แก่ แผ่นดินไหวและสึนามิในญี่ปุ่น ตามมาด้วยอุทกภัยใหญ่ในไทย ที่มีมูลค่าความเสียหายสูงกว่า 40,000 ล้านดอลลาร์ ขณะที่เหตุแผ่นดินไหวที่นครไครสต์เชิร์ช ของนิวซีแลนด์ มีความเสียหายราว 25,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ผู้แทนพิเศษของยูเอ็นยังชี้ด้วยว่าทุกวันนี้ราวร้อยละ 50 ของประชากรโลก 7,000 ล้านคน มีโอกาสเผชิญกับภัยพิบัติ เนื่องจากอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยง . 

ข้อมูลข่าวและที่มา

 

ผู้สื่อข่าว : จีรธิดา คำสวน / สวท   Rewriter : จีรธิดา คำสวน / สวท

สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th

 วันที่ข่าว : 06 มีนาคม 2555