ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

"ซาอุฯ" พระเอกตัวจริงตลาดน้ำมัน? (05/04/2555)

ราคาน้ำมันเคลื่อนไหวเหนือเลข 3 หลัก โดยได้แรงผลักจากความท้าทายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แม้แต่ "ซาอุดิอาระเบีย" ก็อาจช่วยกู้วิกฤตินี้ไม่ได้

 

ความท้าทายระยะสั้นในตลาดน้ำมัน มีทั้งภาวะตลาดที่ตึงตัว การผลิตที่สะดุด และความกังวลเรื่องอิหร่าน ส่วนปัจจัยในระยะยาวที่ผลักเทรนด์ราคาน้ำมันให้สูง ได้แก่ อุปทานที่ยังขาดแคลน สวนทางกับอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นทั้งจากจีนและเขตเศรษฐกิจเกิดใหม่ต่างๆ

 

แม้ว่า "ซาอุดิอาระเบีย" พี่บิ๊กกลุ่มโอเปก จะมีกำลังการผลิตสำรองเพียงพอต่อปริมาณที่ขาดหายไปจากการคว่ำบาตรอิหร่าน และเป็นความหวังสำคัญที่ช่วยพยุงเสถียรภาพในตลาดน้ำมัน พร้อมทั้งยืนยันหนักแน่นว่าจะเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงปั๊มน้ำมันให้เพียงพอต่อความต้องการ เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆ ในอ่าวเปอร์เซียที่สามารถเพิ่มกำลังผลิตรวมกันได้นับล้านบาร์เรลต่อวัน

 

แต่ "อีโคโนมิสต์" ตั้งข้อสังเกตว่า บทบาทพระเอกของชาติผู้ผลิตน้ำมันเป็นเพียงแนวคิดเดิมๆ ที่ยังไม่ได้นับรวมการบริโภคน้ำมันของประเทศเหล่านี้เข้าไปด้วย

 

เพราะหากพิจารณาข้อมูลระหว่างปี 2543-2553 นอกเหนือจากจีนที่บริโภคน้ำมันเพิ่มอย่างหิวกระหาย 4.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือพุ่งพรวด 90% และคิดเป็นสัดส่วนกว่า 10% ของการบริโภคน้ำมันทั้งโลก ที่น่าสังเกต คือ "ซาอุฯ " เป็นชาติที่บริโภคน้ำมันเพิ่มมากเป็นอันดับ 2 โดยบริโภคน้ำมันเพิ่ม 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน และตัวเลขการบริโภคที่ 2.8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปัจจุบัน ทำให้ซาอุฯ เป็นผู้บริโภคน้ำมันรายใหญ่อันดับ 6 ของโลก หรือคิดเป็นกว่า 1 ใน 4 ของปริมาณการผลิตที่อยู่ที่ 10 ล้านบาร์เรลต่อวัน

 

ที่สำคัญ ซาอุฯ ไม่ได้เป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันเพียงรายเดียวที่บริโภคสินค้าที่ตัวเองผลิต ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ที่ตั้งของสมาชิกโอเปก 6 ราย มีการบริโภคน้ำมันเพิ่ม 55.8% ในช่วง 10 ปีแรกของศตวรรษที่ 20 หรือคิดเป็น 4 เท่าเมื่อเทียบกับอัตราการบริโภคเพิ่มรวมทั้งโลก 14.1% และมากกว่าเกือบ 2 เท่าหากเทียบกับภูมิภาคเอเชีย 28.9%

 

ส่วนการใช้พลังงานต่อหัวเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ข้อมูลจากบีพี ระบุว่า ในปี 2513 ตะวันออกกลางบริโภคพลังงานเพียงครึ่งหนึ่งของตลาดเกิดใหม่ แต่พอถึงปี 2553 กลับมากกว่าถึง 3 เท่า ในระหว่างปี 2543-2553 การบริโภคน้ำมันทั่วโลกต่อคนต่อปีอยู่ที่ 4.6 บาร์เรลต่อปี ขณะที่อิหร่านและซาอุฯ บริโภคมากกว่าราว 30% ภายในปลายทศวรรษดังกล่าว โดยซาอุฯ บริโภค 35.1 บาร์เรลต่อคน คิดเป็นสัดส่วนการบริโภคพลังงานโดยเปรียบเทียบกับปริมาณพลังงานที่ได้จากการเผาน้ำมันดิบจำนวน 1 ตัน อยู่ที่ 7.3 ตันน้ำมันดิบ (Ton of oil equivalent) หรือเท่าๆ กับสหรัฐที่ร่ำรวยกว่า

 

มี 3 สาเหตุหลักๆ ที่อธิบายเรื่องนี้ ประการแรก คือ โครงสร้างประชากรในแถบอ่าวเปอร์เซีย และในกลุ่มโอเปก ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว เฉพาะประเทศเล็กๆ อย่างกาตาร์ จำนวนประชากรเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าในระหว่างปี 2543-2553 ส่วนซาอุฯ เพิ่มขึ้น 37% จาก 20 ล้านคน เป็น 27.4 ล้านคน ทำให้ความต้องการพลังงาน น้ำและน้ำมันเพิ่มขึ้น อย่างกรณีซาอุฯ กำลังการผลิตพลังงานเพิ่มขึ้น 2 เท่าในทศวรรษที่ผ่านมา เช่นเดียวกับเครื่องปรับอากาศที่เพิ่มขึ้นคิดเป็นครึ่งหนึ่งของพลังงานที่ผลิตขึ้นในช่วงเวลาที่ต้องการใช้สูงสุด

 

สาเหตุต่อมา คือ โครงสร้างเศรษฐกิจ ซึ่งในการผลิตพลังงานก็ต้องใช้พลังงาน อย่าง "อารามโค" บริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่ของซาอุฯ ก็ใช้พลังงานราว 10% ของที่ผลิตได้ทั้งประเทศ ขณะที่ทางการริยาดห์พยายามจะสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ นอกเหนือจากการพึ่งน้ำมัน ก๊าซ และปิโตรเคมี แต่ยังไม่คืบหน้ามากนัก

 

สาเหตุที่ 3 การบริโภคพลังงานในประเทศอย่างไม่มีประสิทธิภาพ โดยราว 65% ของไฟฟ้าที่ใช้ในซาอุฯ ผลิตโดยใช้น้ำมัน การใช้น้ำมันอย่างสุรุ่ยสุร่ายเป็นเพราะรัฐให้การอุดหนุนมหาศาล เม็ดเงินอุดหนุนเรื่องน้ำมันทั่วโลกอยู่ที่ 1.92 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2553 เฉพาะประเทศในกลุ่มโอเปกอุดหนุนรวมกันถึง 1.21 แสนล้านดอลลาร์ แม้ประเทศผู้ผลิตน้ำมันเหล่านี้จะให้คำมั่นว่าจะลดการอุดหนุน แต่คงทำได้ยากเพราะต้องแลกกับความไม่สงบที่อาจเกิดขึ้นจากความไม่พอใจของประชาชน

 

สิ่งเหล่านี้ สร้างความตึงเครียดในตลาดน้ำมัน แม้ในระยะสั้น กำลังการผลิตส่วนเกินของซาอุฯ อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อราคาน้ำมัน แต่เมื่อความต้องการบริโภคในซาอุฯ เพิ่มมากขึ้น ก็จะส่งแรงกดดันต่อความสามารถในการส่งออกน้ำมัน และพยุงราคาน้ำมันให้ไม่สูงเกินไป เมื่อประกอบกับความต้องการโลกที่คาดว่าจะเพิ่มเป็นกว่า 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน ภายในปี 2573 ขณะที่อิหร่านไม่สามารถช่วยแบกรับเพราะมาตรการคว่ำบาตร ส่วนอิรักก็จมอยู่กับปัญหาการเมืองและความมั่นคงภายใน ทำให้ผลิตน้ำมันได้เพียง 3 ล้านบาร์เรลต่อวันในขณะนี้

 

ประเทศแถบอ่าว ที่เคยถูกมองเป็นพระเอกช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตน้ำมันในทุกๆ ครั้ง กำลังถูกตั้งคำถามว่า จะยังเป็นพระเอกตัวจริงได้ต่อไปหรือไม่

 

ที่มา :หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 5 เมษายน 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หุ้นยุโรปดิ่งหนักหลังสเปนขายพันธบัตรต่ำกว่าเป้า

 

หุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อวันพุธ ถือเป็นการปิดลบ 2 วันติดหลังรัฐบาลสเปนขายพันธบัตรได้น้อยกว่าเป้าหมาย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย

 

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.2% ปิดที่ 258.50 จุด ซึ่งเป็นสถิติที่ร่วงลงหนักสุดในรอบเกือบ 1 เดือน

 

ส่วนดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,313.47 จุด ลดลง 93.31 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 6,784.06 จุด ลดลง 198.22 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นอังกฤษปิดที่ 5,703.77 จุด ลดลง 134.57 จุด

 

การประมูลพันธบัตรรัฐบาลสเปนครั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกหลัง จากที่รัฐบาลสเปนได้แถลงงบประมาณประจำปี 2555 เมื่อวันที่ 30 มี.ค. ซึ่งเผยให้เห็นถึงการตัดลดรายจ่ายของรัฐบาลลงมากที่สุดในรอบ 30 ปี และมีขึ้นหลังจากที่วานนี้ กระทรวงการคลังสเปนเพิ่งเปิดเผยว่า หนี้สาธารณะของประเทศจะพุ่งขึ้นจาก 68.5% ไปอยู่ที่ 79.8% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ปีนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2523 ถึงแม้ว่ารัฐบาลได้เดินหน้าใช้มาตรการรัดเข็มขัดขั้นรุนแรงก็ตาม

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (วันที่ 5 เมษายน 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวคาดการณ์ของวันนี้

 

 

"น้ำมันดิบร่วง เหตุน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐพุ่ง และเงินดอลลาร์เทียบยูโรแข็ง"

เวสต์เท็กซัสปรับลดลง 2.54 เหรียญฯ/บาร์เรล ปิดที่ 101.47 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ปรับลดลง 2.52 เหรียญฯปิดที่ 122.34 เหรียญฯ

- นักลงทุนคลายความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบจะไม่เพียงพอ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มี.ค. ปรับเพิ่มขึ้นมากถึง 9 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 362.4 ล้านบาร์เรล สูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 54 และมากกว่าคาดที่ 2.2 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมาณการผลิตและการนำเข้าที่ปรับเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน

- ราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร เนื่องจากประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) แสดงถึงความกังวลถึงปัยจัยเสี่ยงต่างๆที่อาจส่งผลกระทบด้านลบต่อสถานภาพทางการเงินของกลุ่มประเทศยุโรป ประกอบกับนักลงทุนกังวลว่าสเปนจะสามารถบรรลุเป้าหมายลดงบประมาณขาดดุลให้เหลือ 5.3% ของจีดีพีได้หรือไม่ ขณะที่การออกพันธบัตรระยะกลางขายได้เพียง 2.6 พันล้านยูโร โดยอัตราดอกเบี้ยปรับสูงขึ้นมาที่ 5.34% มากกว่าคาดไว้ที่ 5.20% นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันต่อจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) เมื่อวันอังคารที่ระบุว่าอาจยังไม่ใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE3)ในระยะนี้

+ดัชนีภาคบริการสหรัฐฯเดือนมี.ค. ปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้า 1.3จุด มาที่ 56จุด อย่างไรก็ดีถือว่าภาคบริการยังคงขยายตัว ส่วนตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐฯในเดือนมี.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่ง ดีกว่าคาดการณ์ที่ 200,000 ตำแหน่ง ส่งสัญญาณว่าตลาดแรงงานในสหรัฐฯกำลังฟื้นตัวต่อเนื่อง

 

ราคาน้ำมันเบนซินสิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากอุปสงค์ด้านแถบภูมิภาคเอเชียที่แข็งแกร่ง ประกอบกับราคาในสหรัฐฯและยุโรปปรับตัวสูงขึ้นมากในช่วงก่อนเข้าฤดูกาลท่องเที่ยวหน้าร้อน ด้านราคาน้ำมันดีเซลปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความกังวลเรื่องราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับสูงจะทำให้ผู้บริโภคลดการใช้น้ำมัน อย่างไรก็ดียังมีความต้องการภายในภูมิภาคจากฤดูกาลเก็บเกี่ยวพืชผลทางการเกษตร

ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง

 

กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบเบรนท์ 120 - 127 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 100 - 108 เหรียญฯ  

 

ภาวะอุปทานน้ำมันดิบปรับลดลงจากมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านและความไม่สงบในประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบ อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อปัญหาหนี้ยุโรป การที่สหรัฐฯ กำลังพิจารณาปล่อยน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ออกมาเพื่อแก้ปัญหาราคาน้ำมันแพง และการประชุมระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกน่าจะกดดันราคาน้ำมันไม่ให้ปรับเพิ่มขึ้นมากนัก

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตาม ได้แก่

วันพฤหัสฯ:  ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ วันศุกร์: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานของสหรัฐฯ

- ติดตามการประชุมของกลุ่ม จี 20 ในวันที่ 19-20 เม.ย. และการประชุมไอเอ็มเอฟในวันที่ 20-22 เม.ย. นี้ ว่าจะมีการเพิ่มวงเงินเข้าในกองทุนช่วยเหลือหนี้ยุโรปหรือไม่ หลังสหภาพยุโรปมีการตกลงขยายกองทุนช่วยเหลือไปแล้ว 700 ล้านยูโร ในการประชุมเมื่อวันที่ 30-31 มี.ค. ที่ผ่านมา

- การเจรจาระหว่าง 6 ประเทศแกนนำหลักของโลกและอิหร่านในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านที่คาดว่าจะมีขึ้นในวันที่ 13-14 เม.ย. นี้ ที่ประเทศตุรกี รวมทั้งอิหร่านจะยอมให้สำนักงานปรมาณูสากลเข้าตรวจสอบพื้นที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์หรือไม่ ซึ่งเป็นหนึ่งในเงื่อนไขของชาติตะวันตกในการยอมเปิดเจรจาครั้งนี้

- สถานการณ์ความไม่สงบในประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ ได้แก่ ไนจีเรีย ซีเรีย อิรัก เยเมน  ลิเบีย และซูดานใต้

 

 

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจ (วันที่ 5 เมษายน 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แนวโน้มราคาทองคำวันนี้ คาดกรอบลงทุน 1,620-1,650 เหรียญ/ออนซ์ (05/04/2555)

“โกลเบล็ก” ระบุราคาทองคำวานนี้ (4 เม.ย.) ราคาทองคำในระหว่างชั่วโมงการซื้อขายในประเทศมีการปรับตัวลดลงตลอดทั้งวัน หลังจากที่นักลงทุนผิดหวังจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ แถลงการณ์ว่าเฟดยังคงไม่มีความจำเป็นที่จะดำเนินนโยบาย QE3 เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี ส่งผลให้เกิดแรงขายในตลาดทองคำจากการทำกำไรของนักลงทุน

       

       สำหรับแนวโน้มราคาทองคำวันนี้ คาดกรอบการลงทุน 1,620-1,650เหรียญ/ออนซ์ โดยแนะนำนักลงทุนรอซื้อเก็งกำไรระยะสั้นเมื่อราคาทองคำปรับตัวลงบริเวณ1,620 เหรียญเพื่อรอขายบริเวณ 1,645-1,655 เหรียญ/ออนซ์ และตัดขาดทุนหากราคาทองคำปรับตัวลงไปต่ำกว่า 1,610 เหรียญ/ออนซ์ แนวโน้มราคาทองคำช่วงนี้ยังคงมีโอกาสปรับตัวลงต่อ ดังนั้น หากราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นแนะนำนักลงทุนขายทองคำเพื่อทำกำไรออกไปก่อน

       

       ด้าน “วายแอลจี” ระบุสภาวะตลาดวันที่ 4 เมษายน 2555 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,632.30-1,647.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFJ12 อยู่ที่ 24,200 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 440 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 24,640 บาท ขณะที่ซิลเวอร์ฟิวเจอร์ SVJ12 อยู่ที่ 1,018 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 1,018 บาท

       

       แนวโน้มวันที่ 5 เมษายน 2555 ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 13 มีนาคม โดยถ้อยแถลงดังกล่าวถือเป็นการส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังไม่ใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบที่ 3 หรือ QE3 เมื่อพิจารณาจากสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ส่งผลให้ราคาทองคำถูกเทขายอย่างรุนแรง กดดันราคาทองคำให้ร่วงลงอย่างหนักกว่า 30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากการไม่ใช้มาตรการดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น และจะเป็นแรงกดดันให้นักลงทุนออกมาเทขายทองคำ อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสามารถติดตามการประชุมครั้งหน้าที่จะมีขึ้นในวันที่ 24-25 เมษายนนี้

       

       ขณะที่รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ความต้องการทองคำจากอินเดียยังคงอยู่ในภาวะซบเซา เนื่องจากการปรับเพิ่มภาษีนำเข้าทองของทางการอินเดียทำให้เกิดความกังวลว่าความต้องการทองคำของอินเดียจะทรุดตัวลง ยิ่งกดดันให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงอีกทาง แม้จะมีปัจจัยเกี่ยวกับความขัดแย้งของอิหร่านกับชาติตะวันตกที่คอยหนุนราคาทองคำอยู่ก็ตาม

       

       เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำสามารถยืนเหนือ 1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ประเมินว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้ในลักษณะ Technical Rebound โดยการดีดตัวประเมินแนวต้านที่บริเวณ 1,655-1,666 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้จะเกิดการย่อตัวเพื่อลงมาสร้างฐานของราคาอีกครั้ง

       

       กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำสำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ เบื้องต้นหากราคาสามารถยืนเหนือ 1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง แนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไร แนะนำให้รอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากราคาทองคำปรับตัวลงค่อนข้างมาก ทำให้มีโอกาสเห็นการดีดตัวในลักษณะ Technical Rebound แต่หากราคาหลุดโซน 1,620 ดอลลาร์ต่อออนซ์ลงไปให้ชะลอการลงทุนออกไปก่อน โดยแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,612 หรือ 1,587 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,655 หรือ 1,666 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ

       

       ทองคำแท่ง (96.50%) แนวรับ 1,620 (23,740 บาท) 1,612 (23,620บาท) 1,587 (23,260 บาท) แนวต้าน 1,655 (24,260 บาท) 1,666 (24,420 บาท) 1,673 (24,520 บาท)

       GOLD FUTURES (GFJ12) แนวรับ 1,620 (24,010 บาท) 1,612 (23,890 บาท) 1,587 (23,530 บาท) แนวต้าน 1,655 (24,530 บาท) 1,666 (24,690 บาท) 1,673 (24,790 บาท)

       SILVER FUTURES (SVJ12) แนวรับ 31.80 (988 บาท) 31.20 (969 บาท) 30.97 (962 บาท) แนวต้าน 33.00 (1,025 บาท) 33.60 (1,043 บาท) 34.10 (1,059 บาท)

 

ที่มา : ASTVผู้จัดการออนไลน์ (วันที่ 5 เมษายน 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures (05/04/2555)

กรุงเทพฯ--5 เม.ย.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

- จ้างงานสหรัฐดีกว่าคาด ส่วนภาคบริการยุโรปชะลอตัวลง

 

- ทองแท่งยังแนะนำถือครองฝั่งขายในฟิวเจอร์สบริหารความเสี่ยง

 

- ตลาดอนุพันธ์ปิดทำการถึงวันจันทร์ ส่วนทองแท่งซื้อขายตามปกติ

 

มีแรงขายกลับออกมามากในการซื้อขายช่วงบ่ายวานนี้ โดยคาดว่าเป็นผลจากรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่ทำให้ตลาดประเมินว่ามีความเป็นไปได้น้อยลงที่ธนาคารกลางสหรัฐจะมีการประกาศมาตรการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติม จนทำให้ราคาทองปรับตัวลงไปต่ำสุดในระหว่างวันที่บริเวณ 1,610 ดอลลาร์ ก่อนที่จะเริ่มดีดตัวลดช่วงการติดลบลง โดยนักลงทุนยังรอติดตามรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรและระดับอัตราการว่างงานเดือนมีนาคมของสหรัฐที่จะรายงานออกมาในช่วงค่ำวันศุกร์ และมีแนวโน้มว่าการจ้างงานจะออกมาดีต่อเนื่องจากเดือนกุมภาพันธ์ และจะเป็นปัจจัยลบกดดันราคาทองคำผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ต่อไป เงินดอลลาร์ของสหรัฐในช่วงนี้ยังมีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้น ทั้งจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดี รวมทั้งเงินยูโรที่อ่อนค่าลงเนื่องจากรายงานตัวเลขเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกส่วนใหญ่ยังสะท้อนถึงภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง โดยเมื่อคืนนี้รายงานการจ้างงานภาคเอกชนของสหรัฐเดือนมีนาคมออกมาดีกว่าที่ตลาดประเมิน ส่วนรายงานตัวเลขในภาคบริการของยุโรปและการประมูลพันธบัตรรัฐบาลของสเปนออกมาในลักษณะที่ทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจต่อการถือครองเงินยูโร จึงมีแรงขายกลับออกมามากในสินทรัพย์เสี่ยง และกดดันราคาทองคำผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์ ประกอบกับการปิดทำการของตลาดการเงินหลายประเทศในวันพรุ่งนี้ต่อเนื่องไปจนถึงวันจันทร์ ทำให้นักลงทุนบางส่วนต้องการถือครองเงินสดที่มีความปลอดภัยกว่า โดยในส่วนของตลาดอนุพันธ์ของไทยจะปิดทำการในวันพรุ่งนี้และต่อเนื่องไปจนถึงวันจันทร์ ส่วนการซื้อขายทองคำแท่งในระบบปกติยังคงเปิดทำการทั้งในวันพรุ่งนี้และวันจันทร์ แต่ระบบ Gold Online และ Call Center จะปิดทำการในวันพรุ่งนี้ และเปิดทำการตามปกติในวันจันทร์ การเคลื่อนไหวของราคาทองที่ยังมีแนวโน้มที่จะปรับฐานลงอีก ทำให้การเก็งกำไรผ่านทองคำแท่งยังสามารถถือครองสถานะขายในสัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อบริหารความเสี่ยง ในระหว่างวันหากราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับระยะสั้นบริเวณ 1,610 ดอลลาร์ได้ คาดว่าจะมีแรงขายออกมามากจนราคาอ่อนตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 1,600 ดอลลาร์ ต่อไป และหากราคาดีดตัวกลับคาดว่าคงยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,630 และ 1,640 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ ส่วนราคาโลหะเงินคาดว่าราคาจะปรับฐานลงไปยังแนวรับที่ 31 และ 30.50 ดอลลาร์ การดีดตัวที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้นคาดว่าคงจะมีแรงขายกลับออกมาในช่วงที่ราคาฟื้นตัวเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 31.80-32.0 ดอลลาร์

 

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนเม.ย.55

 

Close   chg.  Support        Resistance

 

24,210  -430  24,000/23,900  24,300/24,400

 

หากมีสถานะขายจากช่วงที่ราคาปรับฐานลงต่ำกว่าแนวรับบริเวณ 1,640 ดอลลาร์ ควรปิดสถานะลดความเสี่ยงเนื่องจากตลาดอนุพันธ์ของไทยจะปิดทำการไปจนถึงวันจันทร์ และคาดว่าราคาทองซึ่งปรับฐานลงมาแรงอาจเริ่มมีการดีดตัวกลับ ส่วนการเก็งกำไรในระหว่างวันหากราคาดีดตัวขึ้นเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 1,630 หรือ 1,640 ดอลลาร์ ยังคงสามารถเลือกเก็งกำไรฝั่งขายต่อไป เช่นเดียวกันกับกรณีที่ราคาปรับตัวลงหลุดแนวรับระยะสั้นบริเวณ 1,610 ดอลลาร์ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,650-1,655 ดอลลาร์

 

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนเม.ย.55

 

Close  chg.  Support  Resistance

 

993    -25   970/960  1,000/1,010

 

คาดว่าราคาโลหะเงินจะเริ่มฟื้นตัวกลับหลังจากปรับฐานลงมาแรง หากถือครองฝั่งขายอยู่ควรปิดสถานะลดความเสี่ยง แล้วรอเปิดสถานะใหม่ในช่วงที่ราคาเข้าใกล้แนวต้านบริเวณ 31.80-32.0 ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าราคาคงยังไม่สามารถผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ อย่างไรก็ตามตลาดอนุพันธ์ของไทยจะปิดทำการไปจนถึงวันจันทร์ และจะเปิดทำการอีกครั้งในวันอังคาร หากไม่ต้องการรับความเสี่ยงอาจเลือกวิธีการซื้อสเปรด หรือปิดสถานะออกไปก่อน แล้วรอเปิดสถานะใหม่อีกครั้งในสัปดาห์หน้า

 

ที่มา : ThaiPR.net (วันที่ 5 เมษายน 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียร่วงลงถ้วนหน้าในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามข้อวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสเปนขายพันธบัตรได้น้อยกว่าเป้าหมาย

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ร่วงลง 0.5% ณ เวลา 9:46 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดที่ 4,323.70 จุด ลดลง 10.16 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 2,006.27 จุด ลดลง 12.34 จุด ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 9,737.50 จุด ลดลง 82.49 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,603.31 จุด ลดลง 157.54 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,595.66 จุด ลดลง 3.61 จุด ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,979.56 จุด ลดลง 5.48 จุด ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,479.27 จุด ลดลง 311.71 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,258.03 จุด ลดลง 4.76 จุด

 

ตลาดหุ้นเอเชียได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า สเปนขายพันธบัตรระยะกลางได้ 2.6 พันล้านยูโร (3.4 พันล้านดอลลาร์) ในการประมูลวันนี้ ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ไว้ที่ 3.5 พันล้านยูโร ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งผลการประมูลครั้งนี้ยิ่งจุดปะทุความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้สินของสเปน หลังจากที่รัฐบาลเพิ่งเปิดเผยว่า หนี้สาธารณะของประเทศมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอีกในปีนี้

 

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.จะเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมี.ค.จะทรงตัวที่ 8.3%

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 5 เมษายน 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นลท.ต่างชาติถือครองบอนด์เกาหลีใต้เพิ่มใน มี.ค. เหตุคาดวอนแข็งเทียบดอลล์ (05/04/2555)

สำนักงานกำกับดูแลการเงินของเกาหลีใต้ (FSS) เปิดเผยว่า ยอดถือครองพันธบัตรของเกาหลีใต้โดยนักลงทุนต่างประเทศได้พุ่งทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมีนาคม เนื่องจากนักลงทุนต่างประเทศได้เพิ่มการถือครองพันธบัตรเกาหลีใต้อันเป็นผลมาจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการแข็งค่าของเงินสกุลวอนเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์

 

รายงานของ FSS ระบุว่า มูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศในตราสารหนี้ของบริษัทจดทะเบียนเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 88.5 ล้านล้านวอน (7.845 หมื่นล้านดอลลาร์) หรือคิดเป็นสัดส่วน 7.2% ของการถือครองพันธบัตรทั้งหมด ณ สิ้นเดือนมีนาคม ทำลายสถิติสูงสุดที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ที่ 86.7 ล้านล้านวอนในเดือนพฤศจิกายน 2554

 

ทั้งนี้ นักลงทุนจากยุโรปมีสัดส่วนการถือครองพันธบัตรสูงที่สุดที่ 25 ล้านล้านวอน หรือ 28.2% ของยอดถือครองพันธบัตรทั้งหมดโดยนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นเดือนมีนาคม ในขณะที่สหรัฐตามมาเป็นอันดับที่ 2 ด้วยมูลค่าการลงทุน 18.2 ล้านล้านวอน, ลักเซมเบิร์ก 14 ล้านล้านวอน และจีน 10.4 ล้านล้านวอน

 

นักลงทุนจากจีนมียอดลงทุนสุทธิเพิ่มขึ้นเป็น 1.543 แสนล้านวอนในเดือนมีนาคม จาก 7.1 พันล้านวอนในระหว่างเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ในขณะที่นักลงทุนจากนอร์เวย์ยังคงระดับการลงทุนเอาไว้ที่ 2.37 พันล้านวอนในเดือนมีนาคม

 

ในทางตรงกันข้าม เม็ดเงินลงทุนสุทธิจากอังกฤษและฮ่องกงปรับตัวลดลง 2.923 แสนล้านวอน และ 9.3 หมื่นล้านวอนตามลำดับในเดือนมีนาคม และลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

 

ในขณะเดียวกัน นักลงทุนต่างประเทศยังคงซื้อสุทธิในตลาดหุ้นเกาหลีใต้เป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันในเดือนมีนาคม แต่ยอดซื้อสุทธิได้ปรับตัวลดลงท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวลงของเศรษฐกิจโลกและการปรับฐานทางเทคนิค หลังจากที่ตลาดหุ้นได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ

 

อย่างไรก็ตาม นักลงทุนสหรัฐกลายเป็นผู้ขายสุทธิ หลังจากที่ได้ซื้อหุ้นจำนวนมากในเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ อันเนื่องมาจากการเก็งกำไร โดยนักลงทุนสหรัฐเป็นผู้ขายสุทธิรายใหญ่สุดในเดือนมีนาคม ด้วยมูลค่า 5.027 แสนล้านวอน ตามมาด้วยนักลงทุนจากสิงคโปร์ 2.822 แสนล้านวอน และนักลงทุนจากอังกฤษ 2.145 แสนล้านวอน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 4 เมษายน 2555)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

05  เมษายน 2555

 

หุ้นเอเชียร่วงเช้านี้ เหตุวิตกข่าวสเปนขายพันธบัตรได้ต่ำกว่าเป้าหมาย

 

 

ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียร่วงลงถ้วนหน้าในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามข้อวิกฤตหนี้ยุโรป หลังจากมีรายงานว่ารัฐบาลสเปนขายพันธบัตรได้น้อยกว่าเป้าหมาย

 

ดัชนี MSCI Asia Pacific Index ร่วงลง 0.5% ณ เวลา 9:46 น.ตามเวลาโตเกียวในวันนี้

 

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียเปิดที่ 4,323.70 จุด ลดลง 10.16 จุด ดัชนีคอมโพสิตตลาดหุ้นโซลเปิดวันนี้ที่ 2,006.27 จุด ลดลง 12.34 จุด ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดวันนี้ที่ 9,737.50 จุด ลดลง 82.49 จุด ดัชนีเวทเต็ดตลาดหุ้นไต้หวันเปิดวันนี้ที่ 7,603.31 จุด ลดลง 157.54 จุด ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียเปิดวันนี้ที่ 1,595.66 จุด ลดลง 3.61 จุด ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์เปิดวันนี้ที่ 2,979.56 จุด ลดลง 5.48 จุด ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดวันนี้ที่ 20,479.27 จุด ลดลง 311.71 จุด ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดวันนี้ที่ 2,258.03 จุด ลดลง 4.76 จุด

 

ตลาดหุ้นเอเชียได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า สเปนขายพันธบัตรระยะกลางได้ 2.6 พันล้านยูโร (3.4 พันล้านดอลลาร์) ในการประมูลวันนี้ ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ไว้ที่ 3.5 พันล้านยูโร ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งผลการประมูลครั้งนี้ยิ่งจุดปะทุความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้สินของสเปน หลังจากที่รัฐบาลเพิ่งเปิดเผยว่า หนี้สาธารณะของประเทศมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอีกในปีนี้

 

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนมี.ค.จะเพิ่มขึ้น 201,000 ตำแหน่ง หลังจากเพิ่มขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และคาดว่าอัตราว่างงานเดือนมี.ค.จะทรงตัวที่ 8.3%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดตลาดภาคเช้าร่วงลง 92.00 จุด หรือ 0.94% แตะที่ 9,727.99 จุดในวันนี้ (5 มี.ค.) ซึ่งก่อนที่ตลาดจะปิดภาคเช้านั้น ดัชนีนิกเกอิดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าวิกฤตหนี้ยุโรปจะส่งผลกระทบต่อระบบการเงินทั่วโลก

 

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นดตเกียวได้รับผลกระทบจากการที่นักลงทุนผิดหวังต่อผลการประมูลพันธบัตรสเปน โดยสเปนขายพันธบัตรระยะกลางได้ 2.6 พันล้านยูโร (3.4 พันล้านดอลลาร์) ในการประมูลวันนี้ ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายสูงสุดที่วางไว้ไว้ที่ 3.5 พันล้านยูโร ขณะที่ต้นทุนการกู้ยืมปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งผลการประมูลครั้งนี้ยิ่งจุดปะทุความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์หนี้สินของสเปน หลังจากที่รัฐบาลเพิ่งเปิดเผยว่า หนี้สาธารณะของประเทศมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นอีกในปีนี้

 

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หุ้นกลุ่มขนส่งทางทะเล กลุ่มประกัน และกลุ่มอุปกรณ์การขนส่ง ร่วงลงในช่วงเช้านี้ ขณะที่หุ้นกลุ่มไฟฟ้าและก๊าซ กลุ่มกระดาษและเยื่อกระดาษ และกลุ่มขนส่งทางบก ปรับตัวขึ้น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

HSBC CHINA SERVICES PMI

Actual: 53.3Cons.: Previous:  53.9

 

The HSBC China Services PMI™, released by Markit Economics, is based on data compiled from monthly replies to questionnaires sent to purchasing executives in over 400 private service sector companies. The panel has been carefully selected to accurately replicate the true structure of the services economy.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

China: HSBC Services PMI down to 53.3; signals continued expansion

Thu, Apr 05 2012, 02:46 GMT | FXstreet.com

 

FXstreet.com (San Francisco) - The HSBC China Services PMI remained in expansionary territory in March with a reading of 53.3, that’s down slightly from 53.9 in February, Markit Economics reported Thursday. The reading comes in line with economists’ median expectations. Any reading below 50.0 signals industry contraction, while above signals industry expansion.

 

Hongbin Qu, Chief Economist, China & Co-Head of Asian Economic Research at HSBC said: “Growth of services activity remains steady. However, combined with the further slowdown of manufacturing output, the overall economic growth is losing some steam as export orders are weakening. While this is likely to drag on industrial production growth, it also has started to slacken the job markets. All these call for further easing measures, while inflationary pressures should remain relatively contained in the coming months.”

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สองวันนี้ คงเล่นตลาดแรงงาน เมกา อย่างเดียว หรือ เปล่า พี่ใหญ่ ข่าวจีน ขยายตัวจะหนุนได้บ้างไหมน๊ะ

 

แต่ ราคา 1620 ก็ต้องเก็บไว้บ้าง :57 :57 :57

ถูกแก้ไข โดย arthas

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้มาทายใจขาใหญ่ อ้ายกันเพื่อนรักหักเหลี่ยมโฉด กับ ลอนดอยคอยชาติหน้า กันดีกว่าครับ ก่อนไปถึงบทเดา ขอบ่นๆหน่อยว่า พวกเราชาวหัวดำ(ตอนนี้ขาวแระเพราะเครียดทอง อิ อิ) ตั้งหน้าตั้งตาหาเงิน เก็บเงิน ซื้อทองกันยากลำบาก ราคาขึ้นก็ดีใจ ขายกำไรแล้วก็รอซื้อกลับ เป็นไปตามวัฏจักร แต่ไอ้พวกเวรนี่ ไม่ต้องทำงานหนักแลกเงิน แถมพิมพ์แบงค์ออกมาได้เอง แล้วเอามาปั่นขึ้น ปั่นลงทองเป็นว่าเล่น แสบจริงๆ ทองและน้ำมัน กว่าจะหาได้มา ต้องขุดเจาะลงไปลึกขนาดไหน ยากลำบากขนาดไหน ราคากลับไม่เป็นไปตามสมควร แต่เศษกระดาษที่ออกมาจากแท่นพิมพ์ ทำไมมันมีคุณค่ามากมายเหลือเกิน จากปากคำพูดคนไม่กี่คน ...... ว่าแล้วเรามาพิมพ์แบงค์แล้วไปซื้อทองกันบ้างดีไหม หรือเจ้าของเหมืองอาจจะลุกขึ้นมาบอกว่า กรูไม่ขาย กรูเหนื่อย กรูขุดกว่าจะได้ แต่มึนพิมพ์ง่ายๆมาช็อตซื้อของถูก :023 นอกเรื่องไปไกล มาต่อเดาใจขาใหญ่กันดีกว่าครับ :uu

 

ขาใหญ่คงมองแล้วว่า ราคาทองยังมีให้เล่นอีกนานพอสมควร ยังไม่ควรทุบลงไปกองติดดิน ใครหลายคน รวมทั้งธนาคารกลางชาติต่างๆคงไม่ชอบแน่ที่ทรัพย์สินมีมูลค่าลดลง ทั้งที่มันควรจะมากค่ากว่านี้ ฉะนั้น นี่จึงเป็นการ ทุบ ทุบ เพื่อเก็บของถูก โดยให้นักลงทุน ขี้ตกใจ เทขายออกไปก่อน หรือพวกที่ เบื่อหน่าย ใจไม่แข็ง เงินร้อน ช่วยเทขายออกไปเช่นกัน เมื่อราคาลงถึงระดับพอใจแล้ว ขาใหญ่คงเก็บของต่อ เมื่อมันเก็บของได้มากและครบแล้ว ก็จะปั่นราคาขึ้นไปให้แพงๆ ถึงตอนนั้น เราคงไม่กล้าซื้อตอนถูก คงไปซื้ออีกทีแพงๆเลย :17

 

เดาว่าขาใหญ่น่าจะลากไป(เก็บของ) 164X จากนั้นทำให้ดูว่าจะหลุด เพื่อไม่ให้พวกเราตามไป หรือจะเทขายออกมาอีก เพื่อช่วยให้ขาใหญ่ซื้อของถูกอีกรอบ น่าจะ 163X ต้นๆ จากนั้นคงลากขึ้นอีก(เก็บของ) แถวๆ 165X ซึ่งขาใหญ่คงไม่กล้าเก็บตามเพราะคิดว่า มันจะไปหรือลากไปทุบ จากนั้นมันคงลากต่อให้พ้น 1700 แล้วหยุด พวกขาย่อยมั่นใจว่าไปรอดแน่แล้วก็ตามๆๆๆๆ ช่วยกันผสมโรง มีย่อบ้างอะไรบ้าง เที่ยวนี้น่าจะเลย 1800 เชื่อว่าทั้งหมดคงเกิดในต้นไม่ถึงกลางเดือน พ.ค. ครับผม :57

ถูกแก้ไข โดย DonJuan

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วันนี้มาทายใจขาใหญ่ อ้ายกันเพื่อนรักหักเหลี่ยมโฉด กับ ลอนดอยคอยชาติหน้า กันดีกว่าครับ ก่อนไปถึงบทเดา ขอบ่นๆหน่อยว่า พวกเราชาวหัวดำ(ตอนนี้ขาวแระเพราะเครียดทอง อิ อิ) ตั้งหน้าตั้งตาหาเงิน เก็บเงิน ซื้อทองกันยากลำบาก ราคาขึ้นก็ดีใจ ขายกำไรแล้วก็รอซื้อกลับ เป็นไปตามวัฏจักร แต่ไอ้พวกเวรนี่ ไม่ต้องทำงานหนักแลกเงิน แถมพิมพ์แบงค์ออกมาได้เอง แล้วเอามาปั่นขึ้น ปั่นลงทองเป็นว่าเล่น แสบจริงๆ ทองและน้ำมัน กว่าจะหาได้มา ต้องขุดเจาะลงไปลึกขนาดไหน ยากลำบากขนาดไหน ราคากลับไม่เป็นไปตามสมควร แต่เศษกระดาษที่ออกมาจากแท่นพิมพ์ ทำไมมันมีคุณค่ามากมายเหลือเกิน จากปากคำพูดคนไม่กี่คน ...... ว่าแล้วเรามาพิมพ์แบงค์แล้วไปซื้อทองกันบ้างดีไหม หรือเจ้าของเหมืองอาจจะลุกขึ้นมาบอกว่า กรูไม่ขาย กรูเหนื่อย กรูขุดกว่าจะได้ แต่มึนพิมพ์ง่ายๆมาช็อตซื้อของถูก :023 นอกเรื่องไปไกล มาต่อเดาใจขาใหญ่กันดีกว่าครับ :uu

 

ขาใหญ่คงมองแล้วว่า ราคาทองยังมีให้เล่นอีกนานพอสมควร ยังไม่ควรทุบลงไปกองติดดิน ใครหลายคน รวมทั้งธนาคารกลางชาติต่างๆคงไม่ชอบแน่ที่ทรัพย์สินมีมูลค่าลดลง ทั้งที่มันควรจะมากค่ากว่านี้ ฉะนั้น นี่จึงเป็นการ ทุบ ทุบ เพื่อเก็บของถูก โดยให้นักลงทุน ขี้ตกใจ เทขายออกไปก่อน หรือพวกที่ เบื่อหน่าย ใจไม่แข็ง เงินร้อน ช่วยเทขายออกไปเช่นกัน เมื่อราคาลงถึงระดับพอใจแล้ว ขาใหญ่คงเก็บของต่อ เมื่อมันเก็บของได้มากและครบแล้ว ก็จะปั่นราคาขึ้นไปให้แพงๆ ถึงตอนนั้น เราคงไม่กล้าซื้อตอนถูก คงไปซื้ออีกทีแพงๆเลย :17

 

เดาว่าขาใหญ่น่าจะลากไป(เก็บของ) 164X จากนั้นทำให้ดูว่าจะหลุด เพื่อไม่ให้พวกเราตามไป หรือจะเทขายออกมาอีก เพื่อช่วยให้ขาใหญ่ซื้อของถูกอีกรอบ น่าจะ 163X ต้นๆ จากนั้นคงลากขึ้นอีก(เก็บของ) แถวๆ 165X ซึ่งขาใหญ่คงไม่กล้าเก็บตามเพราะคิดว่า มันจะไปหรือลากไปทุบ จากนั้นมันคงลากต่อให้พ้น 1700 แล้วหยุด พวกขาย่อยมั่นใจว่าไปรอดแน่แล้วก็ตามๆๆๆๆ ช่วยกันผสมโรง มีย่อบ้างอะไรบ้าง เที่ยวนี้น่าจะเลย 1800 เชื่อว่าทั้งหมดคงเกิดในต้นไม่ถึงกลางเดือน พ.ค. ครับผม :57

 

1800 ให้เวลา1เดือนนะกับตันทำให้ได้ด้วย ไม่งั้นจะปรดออกจากตำแหน่ง นะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1800 ให้เวลา1เดือนนะกับตันทำให้ได้ด้วย ไม่งั้นจะปรดออกจากตำแหน่ง นะ

 

บังอาจ มาปลดที่รักของเจ้ได้ง่าย วอนสะแล้ว :061

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...