ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิก ดีดขึ้น 67 เซนต์ แตะที่ 102.14 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงเช้าวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มความต้องการพลังงานในสหรัฐ หลังจากมีข้อมูลที่บ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการและภาคการผลิต

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคบริการเดือนมี.ค.ขยายตัวที่ระดับ 56.0 จุด ขณะที่ดัชนีภาคการผลิตเดือนมี.ค.ขยายตัวที่ระดับ 53.4 จุดในเดือนมี.ค. ซึ่งดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 จุดบ่งชี้ว่าภาคการผลิตและภาคบริการยังคงขยายตัวได้ดี

ข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐสามารถชดเชยปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของรัฐบาลกลางสหรัฐ (EIA) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 30 มี.ค.พุ่งขึ้น 9.01 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 362.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว และมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 2.1 ล้านบาร์เรล

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่มา สำนักวิจัย CIMB

 

 

สรุปประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายสัปดาห์ - ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย

 

 

สรุปและวิเคราะห์สถานการณ์เศรษฐกิจและการเงินรายสัปดาห์ จากการ Conference Call ของ ดร.บันลือศักดิ์ และทีมงานสำนักวิจัย กับบริษัท หลักทรัพย์ ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) จำกัด

 

สรุปข่าวในรอบสัปดาห์ 2-5 เมษายน 2555

 

สหรัฐอเมริกา

ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญที่ทยอยประกาศออกมาในรอบสัปดาห์นี้ พบว่าส่วนใหญ่ส่งสัญญาณเชิงบวก โดยทั้งภาคการผลิตและภาคแรงงานสหรัฐฯ ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น พิจารณาได้จากการเพิ่มขึ้นของยอดการจ้างงานภาคเอกชนที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ยอดสั่งซื้อสินค้าภาคโรงงาน รวมถึงการเพิ่มขึ้นของดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น และอยู่สูงกว่าระดับ 50 ซึ่งบ่งบอกถึงการขยายตัวของภาคการผลิตได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ แม้ว่าดัชนี PMI ในภาคบริการจะลดลงแต่ก็ยังสูงกว่าระดับ 50 นั้น แสดงมุมมองบวกของภาคบริการ ขณะเดียวกันหากพิจารณาจากการที่การบริโภคส่วนบุคคลขยายตัวในอัตราสูงสุดในรอบ 7 เดือน ก็นับว่าเป็นสัญญาณบวกต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เนื่องจากการใช้จ่ายผู้บริโภคมีสัดส่วนใหญ่ที่สุดในระบบเศรษฐกิจของประเทศถึง 70% หรือ 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐฯ นอกจากนี้ การเพิ่มขึ้นของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ก็เป็นการสะท้อนมุมมองของชาวสหรัฐฯ ที่ดีขึ้นต่อสถานการณ์ทางการเงิน รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ซึ่งจะส่งผลให้อุปสงค์ภายในประเทศขยายตัวได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การลดลงของยอดการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างภายในประเทศก็สะท้อนให้เห็นว่า ยังต้องใช้เวลากว่าที่ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและที่อยู่อาศัยจะกลับมามีเสถียรภาพ อนึ่ง ตลาดการเงินได้ให้ความสนใจในรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ที่ยังไม่มีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ Fed ได้ประเมินว่า ภาวะตึงเครียดในตลาดการเงินทั่วโลกได้ผ่อนคลายลงแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ภาวะตึงเครียดที่ยังคงเกิดขึ้นในขณะนี้ยังคงทำให้เศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลงอย่างมีนัยสำคัญ

 

๏ ภาคการผลิตและภาคแรงงานสหรัฐฯ ปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น

- ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตที่จัดทำโดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐฯ (ISM) ในเดือนมีนาคมปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 53.4 จากระดับ 52.4 ในเดือนกุมภาพันธ์ ทั้งนี้ การที่ดัชนีมากกว่าระดับ 50 บ่งบอกว่าภาคการผลิตได้ขยายตัว ขณะที่ตัวเลขต่ำกว่า 50 สะท้อนถึงภาวะหดตัวในภาคการผลิต

- ยอดสั่งซื้อสินค้าของโรงงาน (Factory orders) ในเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.3% หลังจากที่ลดลง 1.1% ในเดือนมีนาคม สำหรับยอดสั่งซื้อสินค้าทุน ซึ่งไม่นับรวมภาคขนส่ง เช่นเครื่องบิน ปรับตัวขึ้น 0.9% จากที่หดตัว 1.5% ในเดือนก่อน ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าที่ไม่รวมยุทโธปกรณ์เพิ่มขึ้น 1.1% จากที่หดตัว 1.3% ในเดือนก่อน สำหรับยอดการส่งมอบสินค้าใหม่ของโรงงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.4%

- ยอดการจ้างงานภาคเอกชนที่จัดทำโดย ADP Employer Services ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้น 209,000 ตำแหน่ง จากที่เพิ่มขึ้น 230,000 ตำแหน่งในเดือนกุมภาพันธ์และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 200,000 ตำแหน่ง

 

๏ แม้ว่าดัชนี PMI ในภาคบริการจะลดลงแต่ก็ยังสูงกว่าระดับ 50 นั้น แสดงมุมมองบวกของภาคบริการ ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการที่จัดทำโดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) ในเดือนมีนาคมลดลงสู่ระดับ 56.0 จากระดับ 57.3 ในเดือนกุมภาพันธ์

 

๏ อุปสงค์ภายในประเทศขยายตัวได้ดี ขณะที่ชาวสหรัฐฯ มีมุมมองที่ดีขึ้นต่อสถานการณ์ทางการเงิน รวมถึงภาวะเศรษฐกิจโดยรวม

- การบริโภคส่วนบุคคลในเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.8% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบ 7 เดือนหรือนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว ขณะที่รายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.2% เท่ากับเดือนมกราคม

- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่จัดทำโดย รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 76.2 จากระดับ 74.3 ในช่วงต้นเดือนมีนาคม และจากระดับ 75.3 ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2554 และเป็นการขยายตัวเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน

๏ ยังต้องใช้เวลากว่าที่ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างและที่อยู่อาศัยจะกลับมามีเสถียรภาพ

- ยอดการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างภายในประเทศในเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 1.1% (m-o-m: annual rate) มาอยู่ที่ระดับ 8.0886 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หลังจากที่ปรับตัวลง 0.8% ในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นการลดลงในอัตรามากที่สุดในรอบ 7 เดือนและเป็นการลดลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

 

๏ ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) ยังไม่มีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

- ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เปิดเผยรายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนนดโยบายการเงิน (FOMC) ประจำวันที่ 13 มีนาคมว่า คณะกรรมการกำหนดโยบายการเงินของ Fed (FOMC) ยังไม่มีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยสมาชิกบางคนของ FOMC ส่งสัญญาณว่า การใช้มาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติมจะเป็นสิ่งจำเป็นก็ต่อเมื่อเศรษฐกิจหดตัวลง หรืออัตราเงินเฟ้อยังคงเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ 2.5% ในระยะกลาง ทั้งนี้ Fed ระบุว่าการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนและการลงทุนในภาคธุรกิจยังคงมีการขยายตัว แต่ตลาดที่อยู่อาศัยยังอยู่ในภาวะซบเซา ส่วนอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงในระดับหนึ่งแล้ว อย่างไรก็ตาม การที่ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินได้ปรับตัวขึ้นในระยะนี้ อาจจะหนุนเงินเฟ้อให้สูงขึ้นชั่วคราว แต่ถึงกระนั้นก็ตาม Fed คาดว่าเงินเฟ้อจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับหรือต่ำกว่าระดับเป้าหมายของเฟดที่ 2% ในวันข้างหน้า นอกจากนี้ Fed ยังประเมินว่า ภาวะตึงเครียดในตลาดการเงินทั่วโลกได้ผ่อนคลายลงแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ภาวะตึงเครียดที่ยังคงเกิดขึ้นในขณะนี้ยังคงทำให้เศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับภาวะขาลงอย่างมีนัยสำคัญ

 

สหภาพยุโรป

เอสแอนด์พีเตือนว่ากรีซอาจจะต้องปรับโครงสร้างหนี้อีกครั้ง ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป ซึ่งนักวิเคราะห์เชื่อว่าปัญหาดังกล่าวได้แพร่กระจายหรือลุกลามไปยังประเทศสเปนแล้วที่ประสบ ทั้งปัญหาการว่างงานสูง การประท้วงของสหภาพแรงงานที่มีต่อมาตรการรัดเข็มขัดของรัฐบาล ตลอดจนการเร่งปรับลดงบประมาณปี 2555 ลง 2.7 หมื่นล้านยูโร ทางด้านอิตาลีก็ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากเช่นเดียวกับสเปนขณะที่รัฐมนตรีคลังยูโรโซนเห็นชอบให้เพิ่มขนาดกองทุนช่วยเหลือภูมิภาคจาก 5 แสนล้านยูโรเป็น 8 แสนล้านยูโร ทางด้านนโยบาย ประธานอีซีเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีในการทำธุรกรรมทุกประเภทในปี 2557 และอีซีบียังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1% ต่อไป

 

๏ ปัญหาวิกฤตหนี้ยุโรปมีแนวโน้มลุกลามไปยังสเปน

- เอสแอนด์พีเตือนว่ากรีซอาจจะต้องปรับโครงสร้างหนี้อีกครั้ง ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการลุกลามของวิกฤตหนี้ยุโรป

- อัตราการว่างงานของสเปนอยู่ที่ระดับ 23.6 % ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มอียูคิดเป็นคนว่างงานถึง 4.75 ล้านคน มากที่สุดนับตั้งแต่เก็บรวบรวมข้อมูลนี้ตั้งแต่ปี 2539

- สหภาพแรงงานในสเปนรวมตัวประท้วงทั่วประเทศเพื่อต่อต้านนโยบายปฏิรูปแรงงานของรัฐฯที่เสนอให้บริษัทต่างๆสามารถปลดคนงานได้ง่ายขึ้น

- รัฐบาลสเปนปรับลดงบประมาณปี 2555 ลง 2.7 หมื่นล้านยูโร ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการรัดเข็มขัด ซึ่งประกอบด้วยการตรึงเงินเดือนข้าราชการ การลดงบประมาณหน่วยต่างๆลง 16 .9% การปรับขึ้นค่าไฟฟ้า 7 % และการปรับขึ้นภาษีเงินได้นิติบุคคล โดยมีเป้าหมายเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณให้อยู่ที่ 5.3 % ของจีดีพี จาก 8.5 % ในปี 2554

 

๏ ด้านอิตาลีก็ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากเช่นเดียวกับสเปน

- อัตราการว่างงานของอิตาลีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับจากปี 2544 ที่ 9.3 % ในเดือนกุมภาพันธ์ จาก 9.1 % ในเดือนมกราคมโดยมีจำนวนคนว่างงาน 2.3 ล้านคนซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2547

- รัฐบาลอิตาลีกำลังดำเนินมาตรการลดรายจ่ายและขึ้นภาษี รวมทั้งการลดสัญญาการทำงานชั่วคราว การเพิ่มความยืดหยุ่นในการไล่พนักงานออก ซึ่งมาตรการเหล่านี้จะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) คาดว่าเศรษฐกิจอิตาลีจะหดตัว 1.3 % ในปีนี้

 

๏ ประเด็นการเพิ่มเงินกองทุนช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาหนี้

- OECD เปิดเผยว่า ขณะนี้ยูโรโซนต้องการเงินทุนช่วยเหลืออย่างน้อยที่สุด 1 ล้านล้านยูโร (1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ)เพื่อยับยั้งวิกฤติหนี้ที่กำลังลุกลามไปยังสเปนและประเทศอื่นๆอย่างไรก็ตาม ผลสรุปการหารือของคณะรัฐมนตรีคลังยูโรโซนเห็นชอบให้มีการเพิ่มวงเงินจาก 5 แสนล้านยูโรเป็น 8 แสนล้านยูโร ซึ่งตรงกับตัวเลขที่นักวิเคราะห์คาดว่าเงินกองทุนดังกล่าวทั้งหมดจะอยู่ที่ 700-940 พันล้านยูโร

 

๏ ประเด็นเศรษฐกิจอื่นๆ

- อัตราการว่างงานในกลุ่มยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะสูงสุดในรอบ 15 ปีที่ 10.8 % ในเดือนกุมภาพันธ์จาก 10.7 % ในมกราคมฅยอดค้าปลีกของเยอรมนีร่วงลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 โดยร่วงลง 1.1 % (m-o-m) ในเดือนกุมภาพันธ์จากที่ลดลง 1.2 % ในเดือนมกราคม

- ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ยูโรโซนปรับตัวขึ้น 0.6 % (m-o-m) ในเดือนกุมภาพันธ์ ขณะที่เพิ่มขึ้น 0.8 % ในอียู 27 ประเทศฅPMI ภาคบริการของยูโรโซนปรับตัวลดลงสู่ระดับ 49.1 ในเดือนมีนาคม จากระดับ 49.3 ในเดือนกุมภาพันธ์๏ทางด้านนโยบาย

- นายโฮเซ มานูเอล บาโรโซ ประธานอีซี เสนอให้มีการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำในการทำธุรกรรมการเงินระหว่างสถาบันการเงินประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ธนาคาร บริษัทลงทุน บริษัทประกัน กองทุนเฮดจ์ฟันด์ ซึ่งภายใต้แผนดังกล่าวจะจัดเก็บภาษีสำหรับหุ้นและพันธบัตร 0.1% ภาษีอนุพันธ์ทางการเงินจะเก็บที่ 0.01% ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่าแผนดังกล่าวจะสร้างรายได้ให้แก่อียู 7.8 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี คาดว่า ร่างกฎหมายดังกล่าวจะเริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2557

- ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1% เนื่องจากอีซีบีให้น้ำหนักกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ แม้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังเปราะบาง

 

เอเชีย

- ดัชนี PMI ของทางการจีนชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวสูงในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนี PMI เดือนมีนาคมของ HSBC ที่เปิดเผยก่อนนั้นชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมจีนหดตัวจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดีโดยภาพรวมมีแนวโน้มที่เศรษฐกิจจีนปีนี้จะขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าในปี 2554 ดังนั้นธนาคารกลางจีนจึงมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินลง แต่การผ่อนคลายจะดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไปเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อและความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์

- ดัชนี PMI ภาคอุตสาหกรรมของทางการจีนเดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่สูงที่สุดในรอบ 1 ปี โดย China“s logistics federation และ สำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่าดัชนี PMI เดือนมีนาคมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 53.1 ซึ่งดัชนีที่สูงกว่า 50 ชี้ถึงภาวะขยายตัว อย่างไรก็ดีข้อมูลดังกล่าวขัดแย้งกับดัชนี PMI ของ HSBC Holdings Plc and Markit Economics เดือนมีนาคมที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ซึ่งลดลงมาอยู่ที่ระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือน และดัชนีต่ำกว่า 50 ซึ่งชี้ถึงภาวะหดตัว ทั้งนี้นักวิเคราะห์ของ HSBC กล่าวว่าดัชนี PMI ของทางการจีนค่อนข้างมีน้ำหนักโน้มเอียงไปทางกลุ่มผู้ประกอบการขนาดใหญ่อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากเรื่องของ seasonality มากกว่า โดยดัชนี PMI ของทางการจีนมักสูงขึ้นหลังหลังช่วงวันหยุดยาวช่วงตรุษจีน

- นายโจว เสี่ยวฉวน ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน กล่าวย้ำในการประชุมว่าด้วยเศรษฐกิจเอเชียฯประจำปี 2555 ว่าจีนจะใช้เครื่องมือทางการเงินหลากหลายประเภทเพื่อจัดการกับภาวะเงินเฟ้อ และทำให้เศรษฐกิจจีนชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยเขาคิดว่าสำหรับจีนและประเทศอื่นๆ เป้าหมายด้านนโยบายคือการทำให้อัตราเงินเฟ้อค่อยๆลดลงเพื่อให้เศรษฐกิจชะลอตัวลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้เขากล่าวอีกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ควรคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศอื่นๆ ขณะที่ทำการกำหนดนโยบายที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงจากสภาพคล่องต่อประเทศตลาดเกิดใหม่ ทั้งนี้คาดว่าธนาคารกลางจีนจะมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบาย ขณะที่เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญกับแรงกดดันจากเศรษฐกิจโลก แต่จนถึงขณะนี้ ธนาคารกลางก็ยังคงดำเนินนโยบายค่อยเป็นค่อยไป เนื่องจากมีความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อ และความเสี่ยงในภาคอสังหาริมทรัพย์

ดัชนี Tankan ชี้ว่าจำนวนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นที่มองแนวโน้มในแง่ลบยังมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มองแนวโน้มในแง่บวก ซึ่งสอดคล้องกับการที่ดัชนีเศรษฐกิจของญี่ปุ่นโดยรวมที่ชี้ถึงความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

- ดัชนี Tankan ของธนาคารกลางญี่ปุ่นชี้ว่าความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นเดือนมีนาคมไม่ดีขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการคาดการณ์ว่าค่าเงินเยนจะกลับมาแข็งขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งจะส่งผลลบต่อยอดขายและกำไรของผู้ส่งออก โดยดัชนี Tankan รายไตรมาสเดือนมีนาคมอยู่ที่ -4 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับเดือนธันวาคม ซึ่งแย่กว่าที่นักเศรษฐศาสตร์จากการสำรวจโดย Bloomberg คาดการณ์ไว้ที่ -1 โดยดัชนีที่ติดลบชี้ว่าจำนวนผู้ที่มองในแง่ลบมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มองในแง่บวก

- การผลิตภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงอย่างไม่คาดหมายซึ่งเป็นสัญญาณที่ชี้ถึงความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยกระทรวงการค้าญี่ปุ่นแถลงว่าผลผลิตโรงงานในญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ลดลง 1.2% จากเดือนก่อน หลังจากที่ในเดือนมกราคมเพิ่มขึ้น 1.9% โดยจากการสำรวจโดย Bloomberg นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.3%

- กระทรวงกิจการภายในและการสื่อสารของญี่ปุ่นรายงานว่าอัตราการว่างงานของญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์ลดลงมาอยู่ที่ 4.5% ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 4.6% ซึ่งเป็นระดับของอัตราการว่างงานในเดือนมกราคม ขณะที่อัตราส่วนของ Jobto-applicant อยู่ที่ 0.75 ดีกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 0.74 หลังจากในเดือนมกราคมอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 0.73 ซึ่งตัวเลขข้างต้นชี้ให้เห็นถึงการปรับตัวในทางบวกของตลาดแรงงานญี่ปุ่นในเดือนกุมภาพันธ์

- ดัชนีราคาผู้บริโภคญี่ปุ่นเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดหมาย โดยสำนักงานสถิติของญี่ปุ่นรายงานว่าดัชนีราคาผู้บริโภคซึ่งไม่รวมราคาสินค้าหมวดอาหารสดในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 0.1% จากเดือนเดียวกันปีก่อน ซึ่งต่างจากที่นักเศรษฐศาสตร์จากการสำรวจโดย Bloomberg คาดการณ์ว่าจะลดลง 0.1% ทั้งนี้เศรษฐกิจญี่ปุ่นในช่วงที่ผ่านมาประสบกับปัญหาจากภาวะเงินฝืดมาอย่างต่อเนื่องซึ่งส่งผลให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นต้องดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินมากขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง

- ฐานเงินของญี่ปุ่นในเดือนมีนาคมลดลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี ซึ่งจะเป็นปัจจัยกระตุ้นให้นักการเมืองญี่ปุ่นกดดันให้ธนาคารกลางดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อยุติภาวะเงินฝืด โดยธนาคารกลางญี่ปุ่นรายงานว่าฐานเงินของญี่ปุ่นในเดือนมีนาคมลดลง 0.2% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน หลังจากในเดือนกุมภาพันธ์เพิ่มขึ้น 11.3%

 

ไทย

ภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนมกราคมเนื่องจากผลกระทบจากอุทกภัยคลี่คลายลง ขณะที่การส่งออกกลับมาขยายตัวแต่อัตราการขยายตัวยังต่ำ ส่วนอัตราเงินเฟ้อโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงเกินไปในขณะนี้ อย่างไรก็ดีแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในอนาคตอาจเพิ่มขึ้นจากผลของราคาพลังงานที่สูงขึ้น

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่าภาวะเศรษฐกิจในเดือนกุมภาพันธ์ 2555 ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนมกราคม โดยทั้งการบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนกลับมาสู่ระดับปกติ ก่อนเกิดอุทกภัย สอดคล้องกับการนำเข้าสินค้าอุปโภคบริโภคและสินค้าทุนที่เร่งตัวขึ้น และการผลิตที่ปรับดีขึ้นเป็นลำดับ โดยดัชนีการอุปโภคบริโภคภาคเอกชนในเดือนกุมภาพันธ์ขยายตัว 6.6% (yo-y) ตามความต้องการใช้จ่ายที่มีอย่างต่อเนื่อง หลังผลกระทบของอุทกภัยได้คลี่คลายลงเป็นลำดับ สำหรับดัชนีการลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 8.8% (y-o-y) ส่วนหนึ่งเนื่องจากภาคธุรกิจกลับมาลงทุนอีกครั้ง หลังจากความมั่นใจในภาวะเศรษฐกิจที่ปรับดีขึ้นหลังปัญหาอุทกภัยคลี่คลายลง และอีกส่วนหนึ่งมาจากการเร่งลงทุนเพื่อชดเชยและซ่อมแซมส่วนที่เสียหายจากอุทกภัย พร้อมระบุว่าการส่งออกเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว แม้การขยายตัวยังอยู่ในระดับต่ำ ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจอยู่ในเกณฑ์ดี การจ้างงานเพิ่มขึ้น และอัตราเงินเฟ้อเดือนกุมภาพันธ์ทรงตัวจากเดือนก่อน ส่วนผลการสำรวจการคาดการณ์เงินเฟ้อข้างหน้า 12 เดือน ปรับตัวเร่งขึ้น จากราคาพลังงานที่เพิ่ม

- ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(CPI) ในเดือนมีนาคมอยู่ที่114.30 เพิ่มขึ้น 3.45% (y-o-y) จากที่เพิ่มขึ้น 3.35% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะขยายตัว 3.25% อันเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของราคาอาหาร ตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และต้นทุนที่สูงขึ้นขณะที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่รวมหมวดอาหารสดและพลังงานอยู่ที่ระดับ 107.73 เพิ่มขึ้น 2.77% (y-o-y) สำหรับในไตรมาสแรกปีนี้ CPI เพิ่มขึ้น 3.39% และ Core CPI เพิ่มขึ้น 2.74% (y-o-y) ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ ยังคงคาดการณ์ว่า CPI ปี 2555 จะเพิ่มขึ้น 3.3-3.8%

 

สรุป

- รายงานการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ระบุคณะกรรมการกำหนดโยบายการเงินฯ ยังไม่มีแนวโน้มที่จะใช้มาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในการกระตุ้นเศรษฐกิจ

- การบริโภคส่วนบุคคลของสหรัฐฯ ในเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวเพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดในรอบ 7 เดือนหรือนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว

- ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1% เนื่องจากอีซีบีให้น้ำหนักกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ แม้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังเปราะบาง

- อัตราการว่างงานของสเปนอยู่ที่ระดับ 23.6% ในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งสูงที่สุดในกลุ่มอียู

- สหภาพแรงงานในสเปนรวมตัวประท้วงทั่วประเทศเพื่อต่อต้านนโยบายปฏิรูปแรงงานของรัฐฯ

- อัตราการว่างงานของอิตาลีปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดนับจากปี 2544 ที่ 9.3% ในเดือนกุมภาพันธ์

- คณะรัฐมนตรีคลังยูโรโซนเห็นชอบให้มีการเพิ่มวงเงินกองทุนต้านวิกฤตหนี้จาก 5 แสนล้านยูโรเป็น 8 แสนล้านยูโร

- อัตราการว่างงานในกลุ่มยูโรโซนพุ่งขึ้นแตะสูงสุดในรอบ 15 ปีที่ 10.8% ในเดือนกุมภาพันธ์

- ประธานอีซีเสนอให้มีการจัดเก็บภาษีในการทำธุรกรรมทุกประเภทในปี 2557

- ดัชนี PMI ของทางการจีนชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมของจีนขยายตัวสูงในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ขณะที่ดัชนี PMI เดือนมีนาคมของ HSBC ที่เปิดเผยก่อนนั้นชี้ว่าภาคอุตสาหกรรมจีนหดตัวจากเดือนก่อนหน้า อย่างไรก็ดีโดยภาพรวมมีแนวโน้มที่เศรษฐกิจจีนปีนี้จะขยายตัวในอัตราที่ต่ำกว่าในปี 2554 ดังนั้นธนาคารกลางจีนจึงมีแนวโน้มผ่อนคลายนโยบายการเงินลง แต่การผ่อนคลายจะดำเนินอย่างค่อยเป็นค่อยไป

- ดัชนี Tankan ชี้ว่าจำนวนผู้ประกอบการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของญี่ปุ่นที่มองแนวโน้มในแง่ลบยังมีจำนวนมากกว่าผู้ที่มองแนวโน้มในแง่บวก ซึ่งสอดคล้องกับการที่ดัชนีเศรษฐกิจของญี่ปุ่นโดยรวมที่ชี้ถึงความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ

- ภาวะเศรษฐกิจไทยเดือนกุมภาพันธ์ปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องจากเดือนมกราคมเนื่องจากผลกระทบจากอุทกภัยคลี่คลายลง ขณะที่การส่งออกกลับมาขยายตัวแต่อัตราการขยายตัวยังต่ำ ส่วนอัตราเงินเฟ้อโดยรวมยังอยู่ในระดับที่ไม่สูงเกินไปในขณะนี้ อย่างไรก็ดีแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อในอนาคตอาจเพิ่มขึ้นจากผลของราคาพลังงานที่สูงขึ้น

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เจ้ฯ ครับ ! เด็กขายของเข้าใจว่า มนุษย์เรามี 20 นิ้ว ไม่ใช่เหรอ ? นิ้วมือ 10 นิ้ว นิ้วเท้า 10 นิ้ว รวมเป็นทั้งหมด 20 นิ้ว แล้วทำไมถึงกล่าวว่า นิ้วที่ 11 ถึงพิการ เพราะถ้ามีแค่ 10 นิ้ว ก็พิการแต่กำเนิดแล้ว เพราะขาด้วน งง ! ครับ ( แกล้งโง่ รอเจ้ฯ ตอบให้เข้าใจ )

 

อันนี้ ต้องถามเจ้าของอวัยวะ แต่วิธีการบำบัดเจ้ตอบได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ที่มา สุทธิชัยหยุ่น

 

 

ชาวกรีซวัยเกษียณยิงตัวตายชนวนประท้วงรุนแรง

วันที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2555| |

 

รูปอื่นๆ :

Tweet ชายกรีซวัยเกษียณอดีตเภสัชกรวัย 77 ปี ได้ใช้ปืนจ่อศีรษะปลิดชีพตนเอง กลายเป็นชนวนเหตุให้เกิดการประท้วงรุนแรงล่าสุด

 

 

เกิดเหตุสลด! ชายชาวกรีซวัยเกษียณคนหนึ่ง ยิงตัวตายที่จตุรัสใจกลางกรุงเอเธนส์ และยังทิ้งจดหมายลาตายที่มีข้อความประนามนักการเมืองอย่างรุนแรง ต่อวิกฤติการเงินของประเทศ ซึ่งได้กลายเป็นการจุดชนวนความรุนแรงจากการปะทะกันครั้งล่าสุดนานหลายชั่วโมง ระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงที่ต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัด

 

ตำรวจปราบจลาจล ได้ยิงแก๊สน้ำตาและขว้างระเบิดแสงเพื่อสลายผู้ประท้วงราว 1,500 คน ที่ไปชุมนุมกันเมื่อวันพุธ แต่ได้บานปลายกลายเป็นเหตุรุนแรง และพวกวัยรุ่นได้ขว้างก้อนหินและระเบิดเพลิงโจมตีด้านนอกอาคารรัฐสภา แต่ไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือผู้ถูกจับกุม

 

ต้นเหตุแห่งความรุนแรงล่าสุด เกิดขึ้นเมื่ออดีตเภสัชกรชายวัย 77 ปี ได้ใช้ปืนจ่อศีรษะปลิดชีพตนเอง ในบริเวณใกล้กับทางออกสถานีรถไฟใต้ดิน ที่จตุรัสซินแท็กม่า ที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คนที่ไปใช้บริการรถโดยสารใต้ดิน และจตุรัสแห่งนี้อยู่ตรงข้ามกับอาคารรัฐสภา ที่เคยเป็นจุดรวมตัวประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดเป็นเวลา 2 ปี ของกรีซหลายครั้งก่อนหน้านี้

 

การที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาเร่งด่วน ได้ส่งผลให้ได้รับความเห็นใจจากสาธารณชน และกลายเป็นประเด็นร้อนในการอภิปรายทางการเมือง

 

นายวาสิลิส ปาปาดูปูลอส โฆษกกลุ่มเคลื่อนไหว "ไอโว้นท์ เพย์" ระบุว่า เภสัชกรผู้นี้ สามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบายด้วยเงินเกษียณ แต่การที่เขาตัดสินใจฆ่าตัวตายเพราะความแร้นแค้นทางเศรษฐกิจ มันเป็นการตีแผ่ให้เห็นโครงการของสร้างของสังคม

 

กรีซต้องพึ่งพาเงินกู้ช่วยเหลือจากนานาชาติ มาตั้งแต่เดือนพ.ค. 2553 เพื่อเป็นหลักประกัน กรีซจะต้องใช้มาตรการรัดเข็มจขัดที่เคร่งครัด ทั้งตัดเงินบำนาญ เงินเดือนและขึ้นภาษีอย่างต่อเนื่อง แต่มาตรการรัดเข็มขัดยิ่งทำให้ภาวะถดถอยเลวร้ายกว่าเดิม ประชาชนหลายพันคนต้องตกงาน และตัวเลขคนว่างงานในปัจจุบันคือ 1 ใน 5

 

นายแพทย์คนหนึ่งที่เข้าร่วมการประท้วง ระบุว่า เขาเป็นชาวกรีกและรู้สึกช็อคที่รัฐบาลทำลายเกียรติภูมิของประชาชน และสิ่งเดียวที่รัฐบาลสนใจคือบัญชีในธนาคาร

 

ตำรวจระบุว่า จดหมายลาตายที่เขียนด้วยมือ ที่พบอยู่ที่ศพ ระบุว่า เขาตัดสินใจลาโลกเพราะปัญหาหนี้สิน ทั้งนี้จากรายงานของสื่อมวลชน ระบุว่า ชายผู้นี้ได้ตำหนิรัฐบาลว่า ทำให้เกิดความเป็นไปไม่ได้สำหรับเขาที่จะอยู่รอดด้วยเงินบำนาญเป็นเวลา 35 ปี เขาไม่มีทางออกอื่นนอกจากจบชีวิตอย่างมีเกียรติ ก่อนจะต้องหันไปคุ้ยอาหารในถังขยะ แต่ตำรวจไม่ได้ยืนยันว่า จดหมายฉบับนี้เป็นของจริงหรือไม่

 

การฆ่าตัวตายในกรีซกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากวิกฤติเศรษฐกิจที่กำลังทำให้ประเทศกำลังจวนเจียนที่ตกอยู่ในภาวะล่มสลายทางเศรษฐกิจ ซึ่งเมื่อเย็นวันพุธได้มีคนนำข้อความ ไปติดไว้ที่ต้นไม้ตรงจุดที่เภสัชกรฆ่าตัวตาย บางแผ่นเขียนว่า นี่เป็นการฆาตกรรมไม่ใช้ฆ่าตัวตาย และอีกแผ่นหนึ่งเขียนว่า เป็นฝีมือของมาตรการรัดเข็มขัด

 

ผู้ประท้วงหลายร้อยคน ได้เดินในเส้นทางจากจตุรัสไปยังหน้าอาคารรัฐสภา และสุสานทหารนิรนาม พร้อมกับร้องตะโกนประนามมาตรการรัดเข็มขัด โดยมีตำรวจปราบจลาจลประจำการนับร้อยนาย และแม้ว่าจะถูกสลายการประท้วง แต่ก็คาดว่าจะพวกเขาจะกลับมารวมตัวกันอีกในวันนี้

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:downstrong: ลง ลง และก็ลง แบบนี้

 

ต่อไปต้องขุดทองกินแทนข้าวแล้ว

 

:Wt

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:downstrong: ลง ลง และก็ลง แบบนี้

 

ต่อไปต้องขุดทองกินแทนข้าวแล้ว

 

:Wt

 

เดี๋ยวก็ชิน ห้องนี้ติดกัน 7-8 เดือน ทั้งนั้น

 

 

:21

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เจ้ฯ ครับ ! เด็กขายของเข้าใจว่า มนุษย์เรามี 20 นิ้ว ไม่ใช่เหรอ ? นิ้วมือ 10 นิ้ว นิ้วเท้า 10 นิ้ว รวมเป็นทั้งหมด 20 นิ้ว แล้วทำไมถึงกล่าวว่า นิ้วที่ 11 ถึงพิการ เพราะถ้ามีแค่ 10 นิ้ว ก็พิการแต่กำเนิดแล้ว เพราะขาด้วน งง ! ครับ ( แกล้งโง่ รอเจ้ฯ ตอบให้เข้าใจ )

อันนี้ ต้องถามเจ้าของอวัยวะ แต่วิธีการบำบัดเจ้ตอบได้

 

ด้วยความเคารพต่อทั้ง 2 ท่าน เกรงว่าจะมีความเข้าใจที่ผิดไปจากนี้ ขอบอกว่า นิ้วที่ 11 นั้น ไม่มีแต่อย่างใด คงเป็นการฟังความมาแบบผิด แล้วนำมาเขียนบอกกล่าวอีกทีหนึ่ง ความที่ถูกจากต้นฉบับแล้วนั้น 11 นิ้ว ขอรับ :32

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

เดี๋ยวก็ชิน ห้องนี้ติดกัน 7-8 เดือน ทั้งนั้น

 

 

:21

ไม่เอา ไม่ชอบ ขอเรียงความใหม่นะ เจ้ฯ " ห้องนี้ ทองแท่งจริงชุดใหญ่เก็บยาว ส่วนชุดเล็กเอามาหมุนหาค่าเป็ดฯ กับค่าปลาฯ " ตอนที่เขียน ทำอาการปากเบี้ยว คือ ปากไม่ตรงกับใจ เพราะใจจริงอยาก..........

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ด้วยความเคารพต่อทั้ง 2 ท่าน เกรงว่าจะมีความเข้าใจที่ผิดไปจากนี้ ขอบอกว่า นิ้วที่ 11 นั้น ไม่มีแต่อย่างใด คงเป็นการฟังความมาแบบผิด แล้วนำมาเขียนบอกกล่าวอีกทีหนึ่ง ความที่ถูกจากต้นฉบับแล้วนั้น 11 นิ้ว ขอรับ :32

 

 

รับทราบจ๋า พ่อ 11 นิ้ว :32

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ไม่เอา ไม่ชอบ ขอเรียงความใหม่นะ เจ้ฯ " ห้องนี้ ทองแท่งจริงชุดใหญ่เก็บยาว ส่วนชุดเล็กเอามาหมุนหาค่าเป็ดฯ กับค่าปลาฯ " ตอนที่เขียน ทำอาการปากเบี้ยว คือ ปากไม่ตรงกับใจ เพราะใจจริงอยาก..........

 

 

อ่านแล้วต๊ก กะ ใจ นึกว่า ป๋าเป็นโรค ปากเบี้ยว ที่ดารากำลังฮิตเป็นกัน เจ้ก็รักษาได้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

ด้วยความเคารพต่อทั้ง 2 ท่าน เกรงว่าจะมีความเข้าใจที่ผิดไปจากนี้ ขอบอกว่า นิ้วที่ 11 นั้น ไม่มีแต่อย่างใด คงเป็นการฟังความมาแบบผิด แล้วนำมาเขียนบอกกล่าวอีกทีหนึ่ง ความที่ถูกจากต้นฉบับแล้วนั้น 11 นิ้ว ขอรับ :32

รับทราบเลยครับ พ่อเจ้าประคุณ 11 นิ้ว แหน่ะ !

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเด็กขายของครับ 23,950 เข้าเก็บหรีอยัง ช่วยบ่นให้ฟังด้วยครับ เหลือทุนอีกก้อนไม่กล้าเข้า จนกว่าได้ยินเสียงบ่นให้แน่ใจ ถึงจะเข้าครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ยูโรขึ้น ทองขึ้น มีข่าวอะไรดีครับเฮีย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผ่าน 1629 ได้จะไป 1638 มีแววไปถึงนะครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผ่าน 1629 ได้จะไป 1638 มีแววไปถึงนะครับ

 

ไว้เข้าซื้ออีกเมือ่ไหร่ กระซิบบอกหนูด้วยนะคะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...