ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดบวก 48.92 จุด หลังประเทศยักษ์ใหญ่เผยข้อมูลศก.สดใส

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556 06:48:00 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) ขณะที่ดัชนี S&P และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 6 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว เพราะได้ปัจจัยหนุนจากข้อมูลการค้าที่เป็นบวกจากบรรดาประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลก ซึ่งเพิ่มความหวังว่าเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัวขึ้น

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 48.92 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 13,992.97 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 8.54 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 1,517.93 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2550 หรือในรอบ 5 ปี และดัชนี Nasdaq พุ่ง 28.74 จุด หรือ 0.91% ปิดที่ 3,193.87 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 12 ปี

 

 

 

สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ขยับลง 0.1% S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.3% และ Nasdaq เดินหน้า 0.5%

 

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นสหรัฐดีดตัวคึกคักกันถ้วนหน้าตั้งแต่เปิดตลาด ขานรับข้อมูลการค้าที่แข็งแกร่งจากทั่วโลก โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานวานนี้ว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนธ.ค.ปรับตัวลดลงเกินคาด โดยทำสถิติลดลงหนักสุดในรอบเกือบ 4 ปี เนื่องจากยอดนำเข้าปิโตรเลียมร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 10 ปี

 

ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐร่วงลง 20.7% มาอยู่ที่ระดับ 3.85 หมื่นล้านดอลลาร์จากระดับที่ได้รับการปรับทบทวนที่ 4.86 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนก่อนหน้านี้ และร่วงลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงมาอยู่ที่ 4.55 หมื่นล้านดอลลาร์

 

สำหรับยอดขาดดุลการค้าตลอดทั้งปี 2555 ลดลง 3.5% มาอยู่ที่ระดับ 5.404 แสนล้านดอลลาร์ จากระดับ 5.599 แสนล้านดอลลาร์ในปี 2554

 

ข้อมูลล่าสุดนี้บ่งชี้ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจปรับทบทวนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 4/2555 เป็นขยายตัว จากที่หดตัวลง 0.1% ในการรายงานตัวเลขประมาณการครั้งแรกเมื่อช่วงปลายเดือนที่แล้ว

 

นอกจากนี้ หุ้นสหรัฐยังได้แรงหนุนจากข้อมูลการค้าที่แข็งแกร่งเกินคาดของจีน ซึ่งส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจจีนซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกกำลังขยายตัวดีขึ้น โดยสำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยในวันเดียวกันว่า ยอดส่งออกเดือนม.ค.ขยายตัว 25% และยอดนำเข้าเดือนม.ค.ปรับขึ้น 28.8% เมื่อเทียบเป็นรายปี ส่งผลให้จีนมียอดเกินดุลการค้าต่างประเทศลดลงมาอยู่ที่ 2.92 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนม.ค. จาก 3.16 หมื่นล้านดอลลาร์ในเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว

 

ขณะเดียวกัน ยอดเกินดุลการค้าของเยอรมนีในปี 2555 ทะยานขึ้นทำสถิติสูงสุดอันดับ 2 ในรอบกว่า 60 ปี สะท้อนว่าประเทศเศรษฐกิจใหญ่สุดของยุโรปสามารถตั้งรับวิกฤตในภูมิภาคได้ดี โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติของเยอรมนี (Destatis) เปิดเผยว่า การส่งออกของเยอรมนีในเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากที่ร่วงลง 2.2% ในเดือนพ.ย. ส่วนการนำเข้าในเดือนธ.ค.ลดลง 1.3% เมื่อเทียบรายเดือน

 

สำหรับตลอดปี 2555 มูลค่าการส่งออกขยายตัว 3.4% แตะ 1.097 ล้านล้านยูโร ซึ่งทำสถิติใหม่เหนือ 1 ล้านล้านยูโร ขณะที่การนำเข้าเพิ่มขึ้น 0.7% สู่ระดับ 9.092 แสนล้านยูโร ซึ่งเป็นระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์เช่นกัน

 

มูลค่าการส่งออกที่ทะยานขึ้นแซงหน้าการนำเข้าในปี 2555 ส่งผลให้เยอรมนีมียอดเกินดุลการค้าในปีดังกล่าวที่ 1.881 แสนล้านยูโร ซึ่งสูงสุดเป็นอันดับ 2 ที่เคยทำไว้

 

ทั้งนี้ ดัชนีหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆเมื่อวานนี้ ขณะที่ปริมาณการซื้อขายเบาบางเพราะได้รับผลกระทบจากพายุหิมะที่พัดถล่มแถบชายฝั่งตะวันออกของสหรัฐ

 

หุ้นแอปเปิลดีดขึ้น 1.44% แตะ 474.98 ดอลลาร์ ซึ่งช่วยหนุนให้ดัชนี Nasdaq ปรับตัวขึ้นแซงหน้าดัชนีหลักอีกสองดัชนี จากข่าวที่ว่าแอปเปิลอาจจะเพิ่มเงินปันผล

 

นอกจากนี้ดัชนี Nasdaq ยังได้แรงบวกจากหุ้นลิงค์อินที่ทะยานขึ้นถึง 21.22% แตะ 150.42 ดอลลาร์ หลังจากที่วันก่อนบริษัทได้ประกาศผลกำไรไตรมาส 4 ที่สูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้

 

ด้านหุ้นไมโครชิพ เทคโนโลยี พุ่ง 7.2% แตะ 36.39 ดอลลาร์ เป็นแกนนำหุ้นบวกในดัชนี S&P 500 หลังจากที่บริษัทผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ปรับเพิ่มคาดการณ์ผลประกอบการในไตรมาสปัจจุบัน ด้านดัชนีดาวโจนส์ได้แรงหนุนจากหุ้นฮิวเลตต์-แพคการ์ดที่บวกขึ้น 43 เซนต์ แตะ 16.87 ดอลลาร์

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหรัฐเตรียมรับมือกับพายุฤดูหนาวแห่งศตวรรษ

 

 

ชาวอเมริกันต่างก็เตรียมตัวรับมือกับพายุฤดูหนาวลูกใหญ่ ในขณะที่ถนนหนทางทั้งใน

นครนิวยอร์กและบอสตันต่างก็อยู่ในสภาพโล่ง ในช่วงที่พายุฤดูหนาวพัดเข้าถล่มเขต

ชายฝั่งด้านตะวันออกของสหรัฐ หลังเจ้าหน้าที่ออกมาเตือนให้ประชาชนรีบกลับบ้าน

และพำนักอยู่แต่ในบ้านเรือนของตนเอง

 

ทั่วเขตตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ซึ่งมีประชากรอยู่อาศัยราว 40 ล้านคน การจรา

จรทั้งทางบก ทางอากาศ และรถไฟต่างก็อยู่ในสภาพที่เกือบเป็นอัมพาต ในการเตรียม

รับมือกับพายุฤดูหนาวที่ทางการบอกว่า เป็นพายุลูกใหญ่ที่สุดในรอบศตวรรษ

 

พายุลูกนี้ มีชื่อเล่นว่า นีโม ตามชื่อของปลาการ์ตูนในภาพยนตร์แอนิเมชั่นชื่อดัง โดย

ในช่วงบ่ายวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นมีหิมะตกแค่เพียงเล็กน้อย แต่ในช่วงค่ำ ไปจนถึง

ช่วงเที่ยงวันของวันเสาร์ ซึ่งเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ตามเวลาประเทศไทย คาดว่าพายุ

จะโหมกระหน่ำอย่างเต็มกำลัง ตั้งแต่เมืองฟิลาเดลเฟีย ไปจนถึงนิวยอร์กและบอสตัน

 

ตามเมืองอย่างนิวเจอร์ซี่ คอนเนคติกัต และนครนิวยอร์ก คาดว่าจะเจอกับหิมะสูง 30

เซนติเมตร ส่วนบอสตันเจอหนักถึงมากกว่า 1 เมตร ก่อนที่พายุจะพัดออกมหาสมุทร

แอตแลนติกไป

 

สำหรับนิวยอร์กและนิวเจอร์ซี่ ที่ประชาชนเพิ่งจะเจอกับพิษของพายุแซนดี้เมื่อเดือน

ตุลาคม ก็ต้องเตรียมตัวรับมือกับพายุใหญ่อีกครั้ง ซึ่งนายไมเคิล บลูมเบิร์ก นายก

เทศมนตรีนิวยอร์ก บอกว่า พายุลูกนี้อาจก่อให้เกิดน้ำท่วมปานกลางในบางพื้นที่ แต่

ก็ทางการและประชาชน เตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้แล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีปีใหม่จีนครับ ขอให้พี่ๆชาวห้อง ขอเดาฯ ทุกท่าน มีความสุขมากๆ ร่ำรวยเงินทอง สุขภาพแข็งแรงครับ

 

恭喜发财 (กงซีฟาไฉ)

 

f58f7df17e.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Happy ตรุษจีน รำ่รวยความคิด คิดสิ่งใดสมปาารถนาตลอดปี ตลอดไป

 

http://www.youtube.com/watch?v=I-KkccDNy5Y&feature=youtube_gdata_player

ปล. ขอให้ป๋า สุขภาพแข็งแรง เป็นหลักที่มั่นคงให้ห้องเดาไปนานแสนนาน อิอิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผู้นำอียูบรรลุข้อตกลงงบประมาณ 7 ปีแล้ว ลดรายจ่ายเหลือ 9.59 แสนล้านยูโร

 

 

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556 11:56:00 น.

บรรดาผู้นำสหภาพยุโรป (อียู) สามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับงบประมาณสำหรับช่วง 7 ปีข้างหน้าแล้วในการประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม ในวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งครอบคลุมถึงการลดรายจ่ายลงหลายหมื่นล้านยูโรเมื่อเทียบกับงบประมาณฉบับปัจจุบัน

 

นายเฮอร์มาน แวน รอมปุย ประธานสภายุโรป เปิดเผยว่า ร่างงบประมาณปี 2557-2563 ของกลุ่มเศรษฐกิจยุโรปซึ่งประกอบด้วย 27 ชาติสมาชิก ได้กำหนดให้มีการจำกัดรายจ่ายที่ 9.59 แสนล้านยูโร (1.3 ล้านล้านดอลลาร์) ลดลงจากข้อเสนอเดิมที่ 1.047 ล้านล้านยูโร และน้อยกว่าวงเงิน 9.94 แสนล้านยูโรในงบประมาณฉบับปัจจุบันอยู่ 3%

 

รายงานข่าวระบุว่า การตัดสินใจลดงบประมาณรายจ่ายดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่กำลังเกิดวิกฤตหนี้และเศรษฐกิจทั่วยุโรป ซึ่งหากร่างงบประมาณนี้ได้รับอนุมัติจากรัฐสภายุโรป ก็จะถือเป็นการลดรายจ่ายลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เริ่มมีการจัดทำงบประมาณของกลุ่มอียูขึ้น

 

นายแวน รอมปุยกล่าวในการแถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนัดพิเศษเป็นเวลา 2 วันว่า งบประมาณฉบับนี้มุ่งสู่อนาคต ปฏิบัติได้จริง และถูกผลักดันจากความกังวลเร่งด่วนต่างๆ โดยเขาเรียกร้องให้รัฐสภายุโรปอนุมติข้อตกลงดังกล่าว

 

"การประชุมยืดเยื้อ แต่ก็ประสบความสำเร็จ" ประธานสภายุโรปกล่าวถึงการเจรจาที่กินระยะเวลาถึง 24 ชั่วโมงตั้งแต่ช่วงบ่ายวันพฤหัสบดี เนื่องจากมีความเห็นขัดแย้งกันในหมู่ผู้นำเกี่ยวกับผลประโยชน์ของแต่ละชาติสมาชิก

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บล.กสิกรไทยคาดสัปดาห์หน้าดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับฐานช่วงสั้น

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556 11:32:10 น.

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด คาดการณ์แนวโน้มดัชนีตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์หน้า(11-15 ก.พ.)ว่า ดัชนีจะมีแนวรับที่ 1,487 และ 1,454 จุด ขณะที่แนวต้านคาดว่าจะอยู่ที่ 1,524 และ 1,550 จุด ตามลำดับ โดยดัชนีมีโอกาสที่จะปรับฐานช่วงสั้น ทั้งนี้ต้องจับตาแรงขายของต่างชาติ รวมถึงการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ เช่น ยอดค้าปลีก, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม และความเชื่อมั่นผู้บริโภค(เบื้องต้น)

 

ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา(4-8 ก.พ.) ดัชนี SET ปรับลดลงจากแรงขายทำกำไรของนักลงทุนต่างชาติ โดยดัชนีหุ้นไทยปิดที่ระดับ 1,497.30 จุด ลดลง 0.13% จากสัปดาห์ก่อน ด้านมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลง 4.51% จากสัปดาห์ก่อน มาอยู่ที่ 56,087.32 ล้านบาท โดยนักลงทุนรายย่อย นักลงทุนสถาบัน และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ ขณะที่นักลงทุนต่างชาติ ขายสุทธิ ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 452.44 จุด ลดลง 0.57% จากสัปดาห์ก่อน

 

ตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวในระดับ 1,500 จุด โดยดัชนีปรับเพิ่มขึ้นในวันจันทร์นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่ได้รับแรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ออกมาดี ก่อนที่จะปรับลดลงในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ โดยมีแรงขายทำกำไรจากต่างชาติ รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับประเด็นด้านคอรัปชั่นที่อาจกระทบเสถียรภาพของรัฐบาลสเปน

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์ โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กสิกรไทยคาดเงินบาทสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบ 29.70-29.90

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556 11:24:51 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์แนวโน้มเงินบาทในสัปดาห์หน้า(11-15 ก.พ.)ว่า เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 29.70-29.90 บาทดอลลาร์ฯ โดยต้องติดตามสัญญาณการติดตามดูแลค่าเงินบาทของทางการไทย ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลสำรวจภาวะธุรกิจโดยรวมของเฟดสาขานิวยอร์ก ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภครายงานโดยรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน (เบื้องต้น) เดือนก.พ. ยอดค้าปลีก ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค. สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจ ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิสู่ตลาดการเงินสหรัฐฯเดือนธ.ค. รวมถึงจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

 

ทั้งนี้ ในรอบสัปดาห์ทีผ่านมา(4-8 ก.พ.) เงินบาทแข็งค่าขึ้น ก่อนทยอยลดช่วงบวกมาปิดตลาดที่ระดับใกล้สัปดาห์ก่อน โดยเงินบาทได้รับแรงหนุนช่วงต้นสัปดาห์จากกระแสเงินลงทุนไหลเข้า ก่อนจะทยอยอ่อนค่าลงในช่วงกลาง-ปลายสัปดาห์ สอดคล้องกับสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้นและตลาดพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ

 

อย่างไรก็ดี การเคลื่อนไหวของเงินบาทในภาพรวมยังคงอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากตลาดยังคงระมัดระวังต่อสัญญาณของการใช้มาตรการเพื่อบรรเทาการแข็งค่าของเงินบาทจากทางการไทย โดยเมื่อวันศุกร์(8 ก.พ.) เงินบาทอยู่ที่ 29.77 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับระดับปิดตลาดในวันศุกร์ก่อนหน้า(1 ก.พ.) ที่ระดับ 29.78 บาท/ดอลลาร์

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์ โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กิตติรัตน์จี้ธปท.ควรชัดเจนเรื่องดอกเบี้ย จวกไร้คำตอบแก้ภาระขาดทุนสะสม

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556 11:06:37 น.

นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ระบุว่า ในระยะสั้นที่ผ่านมานี้การแข็งค่าของเงินบาทมีสาเหตุสำคัญมาจากเงินทุนไหลเข้า อันเนื่องจากมีความมั่นใจในเศรษฐกิจของประเทศ แต่ส่วนหนึ่งก็เกิดจากการกำหนดอัตราดอกเบี้ยในประเทศไว้สูง จนทำให้เกิดการเก็งกำไร ซึ่งอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปัจจุบันที่ 2.75% นั้น มีความแตกต่างที่ทำให้เกิดการไหลเข้าของเงินทุน เพราะถ้าดอกเบี้ยไม่ต่างกันมาก เงินจากต่างประเทศคงไม่ไหลเข้ามาลงทุนในตราสารมากอย่างที่ผ่านมา

 

 

"หากเราจะทบทวนนโยบายนี้ จะเป็นประโยชน์หรือไม่ ผมฝาก กนง.และธปท.พิจารณาเรื่องนี้ เพราะไม่ใช่เรื่องใหม่ ผมฝากเรื่องนี้มาตั้งแต่ช่วงที่ดอกเบี้ยนโยบายสูงกว่า 3% และตอนนี้เห็นชัดมากขึ้นว่ามีเงินไหลเข้ามาลงทุนเพื่อหวังส่วนต่างตรงนี้(ดอกเบี้ย)มากขึ้น" รองนายกฯและรมว.คลัง ระบุ

 

นายกิตติรัตน์ ยังเสนอด้วยว่าจากการที่ประเทศไทยมีการกู้เงินจากต่างประเทศนั้น หากสามารถชำระคืนเงินกู้ได้ก่อนกำหนดในช่วงระยะเวลานี้ก็จะเป็นส่วนหนึ่งในการลดการแข็งค่าของเงินบาทลงได้ ซึ่งขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังประสานกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจหลายแห่งเพื่อให้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว และจะได้นำเข้าสู่การพิจาณาอนุมัติจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

 

"เรามีเงินกู้ต่างประเทศอยู่จำนวนหนึ่ง ซึ่งถ้าเราชำระคืนก่อนกำหนดได้ โดยใช้เงินกู้บาทมาแทนก็จะทำให้อุปสงค์อุปทานของเงินตราต่างประเทศสวนทางกันกับการไหลเข้า ทำให้ค่าเงินไม่แข็งค่ามากเท่าที่เป็นอยู่กระทรวงการคลังกำลังขออนุมัติจากคณะรัฐมนตรี และประสานกับรัฐวิสาหกิจหลายแห่งที่มีเงินตราต่างประเทศว่าถ้าอนุมัติจากครม.แล้ว และด้วยความเห็นชอบจากรัฐวิสหกิจเหล่านั้นกระทรวงการคลังในฐานะที่ดูแลหนี้ของหน่วยงานเหล่านั้นก็พร้อมให้ความร่วมมือ" นายกิตติรัตน์กล่าว

 

พร้อมมองว่า การที่ธนาคารกลางของแต่ละประเทศจะต้องประสบกับภาวะขาดทุนจากการเข้าไปดูแลนโยบายต่างๆ ทางการเงิน เป็นเรื่องที่เป็นไปได้และถือเป็นหน้าที่ แต่สิ่งที่ต้องคำนึงคือ ถ้าดูแลแล้วเป็นภาระ เป็นจำนวนมากขึ้น และเป็นระยะเวลาที่ยาวนานขึ้น โดยที่ยังไม่มีคำตอบว่าจะดำเนินการเพื่อไม่ให้ภาระนั้นสะสมมากขึ้นจนกลายเป็นปัญหาได้อย่างไรนั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องดูแล

 

"การออกพันธบัตรที่ต้องจ่ายดอกเบี้ยตอบแทนผู้ถือพันธบัตรไว้แทนและส่งเงินมาให้ธปท.นำไปเก็บรักษาก็มีดอกเบี้ย ถ้าดอกเบี้ยสูงต้นทุนก็สูง ในขณะที่ผลตอบแทนจากเงินตราต่างประเทศที่อยู่ในความดูแลนั้น อัตราดอกเบี้ยต่ำ จึงเกิดส่วนต่าง ซึ่งปี 55 มีส่วนต่างที่เป็นผลขาดทุนเกิน 1 แสนล้านบาท ปีก่อนนั้นก็มีแต่น้อยกว่า สิ่งที่ผมกังวลคือ เมื่อมีนานขึ้นอีกปีและมีจำนวนมากขึ้น ผลขาดทุนสะสมจะมากขึ้นตามลำดับ หากคิดตั้งแต่ตอนนี้จะไม่เป็นปัญหารุนแรง แต่หากปล่อยให้ปี 56 มีปัญหาเดียวกัน มียอดขาดทุนสะสมเพิ่มอีก ก็จะกลายเป็นปัญหา" นายกิตติรัตน์ กล่าว

 

พร้อมระบว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลนโยบายการเงิน และการกำหนดดอกเบี้ยนโยบาย จำเป็นจะต้องพิจารณาและไตร่ตรองในเรื่องนี้ เพราะหากดำเนินการแล้วเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจก็ควรต้องรับผิดชอบ แต่หากทำแล้วเป็นผลดี แม้จะเสียบ้างแต่คุ้มค่าก็ไม่ต้องรับผิด

 

นายกิตติรัตน์ ยืนยันว่า การที่ตนทำหนังสือเพื่อแสดงความเป็นห่วงในเรื่องดังกล่าวไปถึงธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)อย่างเป็นทางการนั้น ไม่ใช่เป็นการเข้าไปแทรกแซง แต่เป็นการดำเนินการตามสิทธิและหน้าที่ของรมว.คลังตาม พ.ร.บ.ธนาคารแห่งประเทศไทย

 

ในการประชุม กนง.ที่จะมีขึ้นในวันที่ 20 ก.พ.นี้ นายกิตติรัตน์ ระบุว่า สิ่งที่รัฐบาลอยากเห็นคือการดำเนินนโยบายที่พิจารณาข้อดีข้อเสีย พิจารณาประโยชน์ต่อเศรษฐกิจควบคู่ไปกับความเข้มแข็งขององค์กรที่มีหน้าที่กำกับนโยบายทางการเงิน

 

"ถ้าหากคำนึงแล้วมีคำตอบชัดเจนว่าการดำเนินงานจะใช้เวลาเท่านี้ เป็นจำนวนเท่านี้ และสามารถดูแลได้ ผมก็สบายใจขึ้น แต่ขณะนี้ผมไม่มีคำตอบ และตั้งแต่ที่ผมได้แสดงความกังวลไปทางวาจา ปัญหานั้นก็ยังไม่ลดลง ดูจะเพิ่มมากขึ้น ทิศทางที่เคยเป็นห่วงว่าส่วนต่างของดอกเบี้ยที่มากจะเป็นตัวดึงดูดเงินตราต่างประเทศเข้ามา ก็เกิดขึ้นจริงเห็นชัดขึ้น" รองนายกฯ และรมว.คลัง กล่าว

 

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์ โทร.02-2535000 อีเมล์: kasamarporn@infoquest.co.th--

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

53585.gif53589.gif

 

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถ้าถามว่า ซืีื้อทองแท่ง ดีไหมวันนี้ ?

คำตอบ อาแปะตั้งราคาสูงกว่าราคาแฟร์ + ไม่มีส่วนลด = ไม่ซื้อ เที่ยว + ดูหนัง + หาของทาน + แจกแต๊ะอั๋ง แล้ววันจันทร์ค่อยมาคุยหาแผนฯ เล่นเกมฯ ต่อ นะจ๊ะ

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ถ้าถามว่า ซืีื้อทองแท่ง ดีไหมวันนี้ ?

คำตอบ อาแปะตั้งราคาสูงกว่าราคาแฟร์ + ไม่มีส่วนลด = ไม่ซื้อ เที่ยว + ดูหนัง + หาของทาน + แจกแต๊ะอั๋ง แล้ววันจันทร์ค่อยมาคุยหาแผนฯ เล่นเกมฯ ต่อ นะจ๊ะ

 

ต้องขอตัวไปหาแจกแต๊ะอั๋งตามป๋า ซะแล้วครับ 555

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ต้องขอตัวไปหาแจกแต๊ะอั๋งตามป๋า ซะแล้วครับ 555

มาจิเจ้กะลังต้องการเลย อยากให้มีหนุ่มๆมาจับบ้าง :uu

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ซินเจียยู่อี่ซินนี้ฮวดใช้ ทุกๆ คนนะคะ

เฮงๆ ตลอดปีค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เฮงๆ ๆ วันตรุษจีนจ๊า ซื้อกลับไปแล้วเสียว 20 ก็เอา

 

แก้ระบบเรียบร้อยแล้วเหรอเจ้ ถึงคันได้แล้วเนี่ย อิอิ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...