ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

ธนาคารกลางออสเตรเลียปรับลดคาดการณ์จีดีพีและเงินเฟ้อปี 2556 (11/02/2556)

ธนาคารกลางออสเตรเลียได้ปรับลดการคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) และเงินเฟ้อลง เนื่องจากการลงทุนนอกธุรกิจเหมืองยังคงไม่มีความชัดเจน ขณะที่ตลาดแรงงานอ่อนตัว และเงินดอลลาร์ออสเตรเลียยังคงส่งผลกระทบต่อราคา

 

แถลงการณ์นโยยบายเงินตรารายไตรมาสของธนาคารกลางออสเตรเลียที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ระบุว่า แนวโน้มที่อ่อนตัวลงในปีหน้านั้น สะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยหลายประการ การลงทุนในอุตสาหกรรมเหมืองคาดว่า จะขยายตัวขึ้นมาก ขณะที่ความแข็งแกร่งทางการคลังและดอลลาร์ออสเตรเลียที่แข็งค่าจะส่งผลต่อการขยายตัว โดยมีสัญญาณการฟื้นตัวในระยะใกล้ที่น้อยมากสำหรับการลงทุนของธุรกิจนอกกลุ่มเหมือง

 

ธนาคารกลางออสเตรเลียระบุว่า แนวโน้มทั่วโลกนั้นเป็นบวกมากขึ้นในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เศรษฐกิจจีนก็มีเสถียรภาพ ธนาคารกลางออสเตรเลียคาดการณ์ว่า การขยายตัวของปี 2556 จะอยู่ที่ประมาณ 2.5% ซึ่งต่ำกว่าการคาดการณ์เมื่อเดือนพ.ย.ที่ 2.75% ส่วนราคาผู้บริโภคคาดว่า จะเพิ่มขึ้น 3% จนถึงเดือนมิ.ย. 2556 เมื่อเปรียบเทียบกับการคาดการณ์ในไตรมาสก่อนหน้าที่ 3.25%

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556)

 

[Pete 15,187]

http://www.forex-fx-4x.com/gold-technical-analysis-outlook-february-11th-2013-11-2-13/

[Pete 15,187]

http://www.forex-fx-4x.com/eurusd-technical-analysis-wc-11th-february/

 

ปล. อย่าคิดนะครับว่า เมื่อยูโรร่วง จะทำให้ราคาทองปรับเพิ่มขึ้นใน Spot

[Pete 15,187]

เงินบาทเปิด 29.78/80 คาดแกว่งแคบรอปัจจัยใหม่ มองกรอบ 29.75-29.85

 

 

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 29.78/80 บาท/ดอลลาร์ ทรงตัวจากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ระดับเดียวกันที่ 29.78/80 บาท/ดอลลาร์

 

 

ทิศทางของค่าเงินบาทวันนี้น่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบๆ เนื่องจากวันนี้ยังไม่มีปัจจัยใหม่ที่จะมีผลต่อตลาด ซึ่งนักลงทุนยังให้ความสนใจกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายในสัปดาห์หน้าที่จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ว่าจะมีมติปรับลดหรือยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมที่ 2.75%

 

 

"บางส่วนก็บอกว่าการลดอัตราดอกเบี้ยไม่ช่วยมาก แต่บางส่วนก็อยากให้ลด มีหลายมุมมอง ครั้งนี้ไม่แน่ใจว่าจะไปในทางไหน ตลาดก็รอดูอยู่ แต่ถ้าลดดอกเบี้ยจริงๆ บาทคงจะอ่อนค่าลงไปบ้าง แต่น่าจะเป็นช่วงสั้นๆ เพราะการที่เงินไหลเข้าในประเทศ มาจากปัจจัยเศรษฐกิจเราค่อนข้างโอเค นักลงทุนก็ยังสนใจเข้ามาลงทุนอยู่ดี" นักบริหารเงินระบุ

 

 

ส่วนความเคลื่อนไหวของค่าเงินสกุลหลักต่างประเทศช่วงเปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 92.49/52 เยน/ดอลลาร์ ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3370/3372 ดอลลาร์/ยูโร

 

 

นักบริหารเงิน คาดว่า เงินบาทวันนี้จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 29.75-29.85 บาท/ดอลลาร์

 

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures (11/02/2556)

ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

- ทองปิดตลาดทรงตัว

 

- SPDR ถือทองลดลง 3.01 ตัน

 

- ทองแกว่งตัวแคบตลาดการเงินหลายประเทศในเอเชียปิดทำการ

 

- ราคาทองคำปิดตลาดสัปดาห์ก่อนค่อนข้างทรงตัวจากระดับปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า โดยมีการแกว่งตัวขึ้นลงอยู่ระหว่างกรอบแนวรับแนวต้านในทางเทคนิค และมีการปรับตัวลงในการซื้อขายวันศุกร์ หลังจากมีรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวของหลายประเทศ จนมีแรงขายสินทรัพย์ปลอดภัยกลับออกมา และคาดว่าจะส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรในสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่องในต้นสัปดาห์นี้

 

- รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของจีนช่วงเช้าวันศุกร์โดยรวมแล้วออกมาค่อนข้างดี ทั้งการส่งออกเดือนมกราคมที่ขยายตัวมากกว่าคาด และเงินเฟ้อในเดือนเดียวกันเพิ่มขึ้นเพียง 2.0% ลดลงจากระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน ในเดือนธันวาคม ส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง และในด้านหนึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นปัจจัยบวกที่ทำให้คาดว่าจะมีความต้องการซื้อทองเพิ่มมากขึ้น

 

- สัปดาห์นี้ตลาดการเงินของหลายประเทศในเอเชียจะปิดทำการ โดยจีนจะปิดทำการทั้งสัปดาห์ ส่วนประเทศอื่นๆทั้ง ฮ่องกง ญี่ปุ่น มาเลเชีย และสิงคโปร์ จะปิดทำการช่วงต้นสัปดาห์ การเคลื่อนไหวของราคาทองและตราสารทางการเงินอื่นๆจึงมีแนวโน้มทีจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบ โดยมีประเด็นเรื่องการประชุมของธนาคารกลางญี่ปุ่นระหว่างวันพุธและพฤหัสเป็นประเด็นที่ตลาดให้ความสนใจ

 

- ราคาทองคำยังไม่สามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,680-1,685 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ จึงทำให้ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองยังคงมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวระหว่างแนวรับและแนวต้านบริเวณ 1,650-1,680 ดอลลาร์ ต่อไป แต่หากราคาดีดตัวผ่านแนวต้านหรืออ่อนตัวลงไปต่ำกว่าแนวรับ คาดว่าจะมีแรงซื้อขายเข้ามามากจนราคาแกว่งตัวในกรอบที่กว้างมากขึ้น ส่วนราคาโลหะเงินซึ่งปรับตัวลงในวันศุกร์ หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 31.0-31.30 ดอลลาร์ คาดว่าจะปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 30.50 ดอลลาร์ ต่อไป

 

โกลด์ฟิวเจอร์สเดือนก.พ.56

 

Close chg. Support Resistance

 

23,710 -40 23,650/23,500 23,850/23,950

 

ราคาทองอ่อนตัวลงมายังแนวรับบริเวณ 1,660-1,665 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดเปิดสถานะซื้อเก็งกำไรการดีดตัวกลับ โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 1,655-1,660 ดอลลาร์

 

ซิลเวอร์ฟิวเจอร์สเดือนก.พ.56

 

Close chg. Support Resistance

 

949 - 940/920 955/960/965

 

ราคาโลหะเงินอ่อนตัวลงในการซื้อขายวันศุกร์ โดยที่แนวรับบริเวณ 31.0-31.30 ดอลลาร์ ยังเป็นระดับที่สามารถเปิดสถานะซื้อเก็งกำไร โดยมีจุดปิดสถานะตัดขาดทุนอยู่ที่บริเวณ 30.70 ดอลลาร์

 

ที่มา : ThaiPR.net (วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556)

 

[Pete 15,187]

ภาวะตลาดทองคำ Gold Futures by Classic Gold Futures (11/02/2556)

คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส

 

Price Movement

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดที่ 1,666.90 USDต่อออนซ์ลดลง 4.40 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบระหว่าง 1,665.80 — 1,674.30 USDต่อออนซ์ ราคาถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี เช่น ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐที่ลดลงและยอดส่งออกพุ่งขึ้น ทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้นมาก ราคาทองคำในสัปดาห์ที่แล้วแกว่งตัวระหว่าง 1,661.39 — 1,684.50 โดยมีราคาปิดของสัปดาห์ใกล้เคียงกับสัปดาห์ก่อน สำหรับในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบ 1,650 — 1,695 มีแนวรับบริเวณ 1,655/1,640 แนวต้านบริเวณ 1,685/1,695 โดยมีประเด็นที่ทำให้ราคาทองคำไม่สามารถปรับตัวขึ้นได้มากนัก จากการอ่อนค่าของเงินยูโร เมื่อปธ.ธนาคารกลางยุโรปได้กล่าวว่า ค่าเงินยูโรได้แข็งค่ามากเกินไปและจะเป็นอุปสรรคต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้การที่ญี่ปุ่นดำเนินนโยบายที่จะทำให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่องจะทำให้ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น และในสัปดาห์นี้เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีนและตลาดจีนปิดทำการ อาจทำให้ความต้องการจากจีนลดลง ในสัปดาห์นี้นักลงทุนจับตาการประชุม G 20 วันที่ 15 — 16 ก.พ.ที่มอสโคว์ ส่วนการประชุมยูโรโซนในสัปดาห์ที่แล้วที่ประชุมพิจารณาเรื่องการให้เงินช่วยเหลือแก่กรีซและไซปรัส การเมืองในอิตาลี การแกว่งตัวยังไม่บอกทิศทางที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,655 มีแนวโน้มจะลดลงไปที่ 1,640 ได้ คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,685/1,695 แนวรับบริเวณ 1,660/1,655 แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

 

Spot Gold

 

Technical Analysis

 

ภาพกราฟทางเทคนิค ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบเดิมแต่ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม การปรับตัวลดลงต่ำกว่า 1,655 มีแนวโน้มจะลดลงไปที่ 1,640 ได้ ส่วนการปรับขึ้นมีแนวต้านที่บริเวณ 1,685/1,695 ถ้าหากสามารถผ่าน 1,700 ได้มีโอกาสขึ้นไปที่บริเวณ 1,710 — 1,715 คาดว่าวันนี้มีแนวต้านบริเวณ 1,685/1,695 แนวรับบริเวณ 1,660/1,655 แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

 

Key Point in Precious Market

 

- ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาทองคำ ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น ( - ) ราคาน้ำมันทรงตัว ( +/- ) เงินบาทอ่อนค่าลงเล็กน้อย ( + ) เฟดคงอัตราดอกเบี้ยต่ำและอัดฉีดเงินเข้าระบบ ( + ) ECB คงอัตราดอกเบี้ยเท่าเดิม (+/-) เงินเยนแข็งค่าขึ้น ( - )

 

- ประเด็นที่ต้องติดตาม การใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน และ ญี่ปุ่น IAEA ประชุมกับอิหร่านเรื่องอาวุธนิวเคลียร์ 13 ก.พ. การประชุม G 20 วันที่ 15 — 16 ก.พ.

 

- การรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐ วันจันทร์ ไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ วันอังคาร งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนม.ค. วันพุธ ราคานำเข้าและส่งออกเดือนม.ค. ยอดค้าปลีกเดือนม.ค. ตัวเลขสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเดือนธ.ค. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ วันศุกร์ ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) เดือนก.พ. ข้อมูลเงินทุนไหลเข้าสุทธิและปริมาณการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐของต่างชาติเดือนธ.ค. ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมและอัตราการใช้กำลังผลิต เดือนม.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนก.พ.

 

- SPDR ขาย 3.01 ตัน ถือทองจำนวน 1,326.89 ตัน

 

Spot Silver

 

ราคาโลหะเงินปิดที่ 31.44 USDต่อออนซ์ มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 31.33 — 31.70 USDต่อออนซ์ ภาพกราฟทางเทคนิค ราคาแกว่งตัวผันผวนเพิ่มขึ้น และได้ลงมาทดสอบกรอบล่างของสามเหลี่ยม ถ้าหากร่วงลงหลุดแนวรับบริเวณ 31.3/31.1 จะปรับลดลงไปที่บริเวณ 30.7 ส่วนการปรับขึ้นหากผ่าน 32.0 ได้มีโอกาสไปที่ 32.2/32.4 สำหรับวันนี้ คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 31.7/31.8 มีแนวรับบริเวณ 31.3/31.1 แนะนำ Trading ในกรอบแนวรับ แนวต้าน

 

ที่มา : ThaiPR.net (วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556)

 

[Pete 15,187]

[ณ. สถานการณ์แบบนี้ คงตัองรออาแปะขายทองแท่งออกบาทละ 23,500 บาท ก็จะซื้อ ตอนนี้ ( ไม่ได้ไปเยาวราช ) คงขายประมาณ 23,560-23,570 บาท ก็ขอฝากไว้ที่ร้านฯ ก่อน น่าจะดี ราคาอ้างอิงประกาศที่ 1669 เช้านี้ก็ยังไม่เห็นเลย มาตอนไหนหว่า

ถูกแก้ไข กุมภาพันธ์ 11, 2013 โดย เด็กขายของ

[Pete 15,187]

ที่ประชุมรมว.คลังยูโรโซนเตรียมถกแนวทางช่วยเหลือไซปรัสและกรีซวันนี้ (11/02/56)

รมว.คลังยูโรโซนเตรียมหาทางออกเพื่อหาทางฝ่าฟันวิกฤต หลังจากที่ตลาดส่งสัญญาณเมื่อสัปดาห์ที่แล้วให้เห็นว่า วิกฤตหนี้ที่เกิดขึ้นมาเป็นเวลา 3 ปีนั้น ยังไม่สิ้นสุดลง

 

รมว.คลังยูโรโซนจะประชุมที่กรุงบรัสเซลส์ในวันนี้ เพื่อหารือแนวทางการให้ความช่วยเหลือไซปรัสและกรีซ ขณะที่การเลือกตั้งในอิตาลีใกล้เข้ามา และเหตุอื้อฉาวทางการเมืองในสเปน

 

ทั้งนี้ รมว.คลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่ม G-20 จะประชุมร่วมกันในวันที่ 15-16 ก.พ.นี้

 

ผู้นำสหภาพยุโรปซึ่งบรรลุข้อตกลงเรื่องงบประมาณเรื่องการลดค่าใช้จ่ายลงเป็นครั้งแรกในการประชุมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนั้น ต่างจับตาการเลือกตั้งในอิตาลีซึ่งตรงกับวันที่ 24-25 ก.พ. ซึ่งผลการสำรวจความคิดเห็นเบื้องต้นชี้ว่า การลงคะแนนเสียงครั้งนี้อาจจะทำให้อิตาลีไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมากได้

 

ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลงมาติดต่อกัน 2 สัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับอุปสรรคด้านนโยบายในอิตาลีและสเปน

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11/02/56)

 

[namchiang 468]

จิตติชี้ตรุษจีนปีนี้ยอดซื้อขายทองคำพุ่ง 10% ​เหตุราคา​ไม่ผันผวน

ข่าว​เศรษฐกิจ สำนักข่าวอิน​โฟ​เควสท์ (IQ) -- ​

นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าว​ถึงสถาน​การณ์ซื้อขายทองคำ​ในช่วง​เทศกาลตรุษจีนปีนี้ ​โดยคาดว่ายอดขายทองคำ​ในปีนี้จะ​เพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา​ไม่ต่ำกว่า 10% ​เพราะตั้ง​แต่ปี​ใหม่​เป็นต้นมาราคาทองคำอยู่​ในระดับทรงตัวมาตลอด​และ​ไม่มี​ความผันผวน ​ซึ่ง​ทำ​ให้​เชื่อว่า​เป็นช่วง​เวลา​เหมาะสม​ใน​การ​เลือกซื้อทองคำ​เพื่อสำหรับ​เป็นของขวัญ​ในช่วง​เทศกาลตรุษจีน​และ​เทศกาลอื่นๆ ด้วย

 

พร้อมกันนี้ยังคาดว่า สัปดาห์หน้าราคาทองคำตลาด​ในประ​เทศจะปรับตัวขึ้นลง​เพียงบาทละ 200 บาท​เท่านั้น ​เนื่องจากช่วงนี้ยัง​ไม่มีข่าว​ความน่าผันผวนที่ต้องจับตามอง

 

http://www.ryt9.com/s/iq03/1586421

[namchiang 468]

11 กุมภาพันธ์ 2556 10:09

ห่วงฟองสบู่หุ้น แนะถือเงินสดลดความเสี่ยง

 

โดย : วรินทร์ ตริโน

นายกสมาคมบล.ห่วงหุ้นเล็กฟองสบู่แตกตลาดหุ้นซึมยาว แถมดัชนีถึงเป้าหมายทั้งปีเร็วกว่าคาด อาจทำตลาดพักฐาน แนะขายหุุ้นเก็งกำไร ถือเงินสดลดเสี่ยง

 

นางภัทธีรา ดิลกรุ่งธีระภพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) ในฐานะนายกสมาคมบริษัทหลักทรัพย์ ให้สัมภาษณ์ "กรุงเทพธุรกิจ" ว่า โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มองดัชนีเป้าหมายปีนี้อยู่ที่ระดับ 1,500-1,600 จุด ซึ่งยอมรับว่าดัชนีปรับขึ้นไปแตะเป้าหมายเร็วเกินไป แม้ว่าเม็ดเงินลงทุนต่างชาติจะไหลเข้าสูง แค่ม.ค.เดือนเดียวซื้อสุทธิ 1.6 หมื่นล้านบาท คิดเป็น 20% ยอดรวมปีที่แล้ว ที่ต่างชาติซื้อสุทธิ 7.6 หมื่นล้านบาท แต่วอลุ่มที่เพิ่มขึ้นมาจากนักทุนรายย่อย ส่วนใหญ่ลงทุนในหุ้นเล็ก เล่นรอบ และการซื้อขายแบบหักกลบในวันเดียว (เน็ต เซทเทิลเมนต์) โดยปัจจุบันนักลงทุนรายย่อยมีสัดส่วนในตลาดถึง 60% ขณะที่สัดส่วนนักลงทุนต่างชาติลดลงมาเหลือ 20% ซึ่งใกล้จุดต่ำสุดเดิมที่อยู่ระดับ 18%

 

"ต้องวิเคราะห์ตลาดให้ดี ดูให้ถี่ถ้วน เพราะตลาดขึ้นเร็วเกินไป โดยเฉพาะหุ้นเล็ก 30-40 ตัว ขึ้นแรงมาก ต้องระมัดระวัง เพราะจากสถิติในอดีตหุ้นกลุ่มนี้พอขึ้นมาสักพักจะปรับฐานลงและลงยาว เพราะสภาพคล่องไม่มี โอกาสที่นักลงทุนจะติดหุ้นมีสูง และติดในราคาแพง ต่างจากต่างชาติที่ลงทุนในหุ้นใหญ่ มีสภาพคล่องสูง หากเกิดปัญหาก็ออกได้ ซึ่งหากเงินทุนไหลออก ดัชนีมีโอกาสปรับฐาน จะทำให้รายย่อยเจอ 2 เด้ง แนะนำว่าควรออกจากหุ้นเล็ก มาถือเงินสดดีที่สุด"

 

@ห่วงฟองสบู่หุ้นเล็กทำตลาดซึมยาว

 

เธอกล่าวต่อว่า แม้ว่านักลงทุนรายย่อยจะทำให้วอลุ่มการซื้อขายสูงถึงวันละ 6 หมื่นล้านบาท แต่โบรกเกอร์ก็ไม่ได้สบายใจกับวอลุ่มที่สูงขึ้น เป็นห่วงว่าราคาหุ้นที่ปรับขึ้นเร็วเกินไป เวลาเกิดปัญหาจะทำให้ตลาดซึมยาว ซึ่งไม่เป็นผลดีกับการทำธุรกิจ หากเป็นไปได้อยากให้วอลุ่มอยู่ในระดับเฉลี่ย 4 หมื่นล้านบาทต่อวันทั้งปี ดีกว่า 6 หมื่นล้านบาท แค่ 2 เดือน โดยขณะนี้มีความเป็นห่วงภาวะฟองสบู่ในหุ้นขนาดเล็ก เพราะราคาหุ้นปรับขึ้นไปเกินพื้นฐานค่อนข้างมาก หากปล่อยไว้จนฟองสบู่แตก จะเป็นปัญหาทั้งตลาด เพราะเมื่อนักลงทุนติดหุ้นในราคาสูง สภาพคล่องที่เคยมีก็จะหายไปนาน

 

"ตอนนี้ต้องช่วยกันแตะเบรก เตือนสตินักลงทุน ให้ดูประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา เพราะไม่อยากให้เจ็บตัว การลงทุนต้องดูข้อมูลพื้นฐานประกอบ สิ่งที่ทุกฝ่ายอยากเห็นคือให้ฟองสบู่ในหุ้นเล็กค่อยๆ แฟบลง มาอยู่ในระดับที่มีพื้นฐานรองรับ ไม่ใช่ปล่อยให้โป่งไปเรื่อยๆ จนแตก"

 

 

สำหรับมาตรการที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำนั้น ในส่วนของก.ล.ต.และสมาคมบล.ได้กำชับให้โบรกเกอร์ระมัดระวังเรื่องการให้วงเงินซื้อขายหุ้น หรือ มาร์จินที่ให้กับลูกค้า เพราะลูกค้า 1 รายอาจจะได้วงเงินจากหลายโบรกเกอร์ นอกจากนี้ต้องดูหลักประกันว่ายังอยู่ครบหรือไม่ เพราะอาจมีการโอนหลักทรัพย์ที่เป็นหลักประกันข้ามบัญชีได้ ทำให้นักลงทุนมีอำนาจในการลงทุนเกินความเหมาะสม

 

ทั้งนี้ยอมรับว่าวงเงินมาร์จินในอุตสาหกรรมโบรกเกอร์เพิ่มขึ้นสูงมาก ณ สิ้นเดือนม.ค.วงเงินมาร์จินทั้งหมดอยู่ที่ 4.9 หมื่นล้านบาท จากสิ้นปีที่ผ่านมาอยู่ที่ระดับ 4.1 หมื่นล้านบาท แค่เพียง 1 เดือน เพิ่มขึ้นเกือบ 1 หมื่นล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นวงเงินของโบรกเกอร์ เพราะบริษัทหลักทรัพย์ เพื่อธุรกิจหลักทรัพย์ (TSFC) ปล่อยมาร์จินค่อนข้างน้อย เพราะอยู่ในช่วงการปรับธุรกิจ โดยขณะนี้การปล่อยมาร์จินของโบรกเกอร์ ใกล้จะเต็มวงเงินที่สามารถปล่อยได้แล้ว โดยหากโบรกเกอร์จะเพิ่มวงเงิน อาจจะต้องเพิ่มทุนจดทะเบียน หรือกู้จากธนาคาร อย่างไรก็ตามธนาคารพาณิชย์เองก็ระมัดระวังในการปล่อยกู้ในส่วนนี้

 

@สมาคมฯเร่งปรับแผนแตะเบรกหุ้นร้อน

 

เธอกล่าวต่อว่า ในส่วนของสมาคมฯเอง ยอมรับว่าแผนงานต่างๆ ในปีนี้ ตอนแรกเน้นไปทางการขยายฐานนักลงทุน เพราะไม่ได้มองว่าตลาดจะร้อนแรงขนาดนี้ จึงต้องมีการปรับเปลี่ยนบ้าง โดยให้ความสำคัญกับการรักษาเสถียรภาพของตลาดฯเป็นสิ่งแรก เพราะหากเกิดปัญหาขึ้น ก็จะกระทบทั้งอุตสาหกรรม

 

โดยสิ่งที่จะดำเนินการนอกจากมาตรการดูแลลูกค้าตามที่ก.ล.ต.กำชับแล้ว จะเร่งเรื่องออกบทวิเคราะห์หุ้นขนาดเล็กเพื่อให้นักลงทุนมีข้อมูลในการตัดสินใจลงทุน โดยจ้างบริษัทข้างนอก หรือ Third Party ทำข้อมูลบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ลำดับ 100-150 ในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้โบรกเกอร์นำข้อมูลไปในการออกบทวิเคราะห์ต่อไป

 

นอกจากนี้ ยังจะประสานให้ตลาดหลักทรัพย์ รวบรวมการชี้แจงข้อมูลของบจ.ที่มีผลต่อราคาหุ้นแล้วสรุปทำเอกสารข่าวต่อไป จากปัจจุบันที่ให้แต่ละบริษัทที่ราคาหุ้นขึ้นแรง ชี้แจงข้อมูลแล้วก็จบ ทั้งนี้เพื่อให้นักลงทุนรับทราบอย่างทั่วถึง

 

http://www.bangkokbiznews.com/

[namchiang 468]

10 กุมภาพันธ์ 2556 12:38

ทองถูกคนแห่ซื้อเป็นของขวัญช่วงตรุษจีน

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

ตรุษจีนปีนี้คึกคัก!ทองถูกคนแห่ซื้อเป็นของขวัญ นายกสมาคมค้าทองคำคาดปีนี้ผันผวนแกว่งในกรอบ 1,500-1,900 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ ให้สัมภาษณ์กับ “กรุงเทพธุรกิจทีวี” ถึงแนวโน้มยอดขายทองคำในช่วงเทศกาลตรุษจีนว่า ปีนี้คาดการณ์ว่าน่าจะดี ตั้งแต่เมื่อวานนี้วันไหว้รู้สึกคึกคักดีเหมือนกัน วันนี้เป็นวันเที่ยว ตอนเช้าฝนตกนิดหน่อย คิดว่าสายๆ หน่อยมีคนออกมาซื้อทอง ราคาทองปีนี้ถ้าเทียบกับปีที่แล้วถูกกว่า 1,350 บาท ดังนั้นตนคิดว่าเป็นจังหวะจูงใจให้คนที่ได้รับอั่งเปาเฮงๆ แล้วมาซื้อทอง

 

"ตั้งแต่ปีใหม่ที่ผ่านมารู้สึกจะคึกคักขึ้นมา โดยเฉพาะทองรูปพรรณ แต่ก่อนหน้านี้ถ้าขายดีก็เป็นทองแท่ง ปีนี้เป็นทองรูปพรรณด้วย ทำให้คึกคักขึ้นมา"

 

นายกสมาคมค้าทองคำ มองว่า แนวโน้มราคาทองคำในปีนี้คาดว่าจะผันผวนมากว่าปีที่ผ่านมา โดยประเมินว่าจะแกว่งตัวในระดับ 1,500-1,900 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สาเหตุที่ทำให้ราคาทองผันผวนเนื่องจากเศรษฐกิจของโลกยังมีปัญหา โดยเฉพาะฝั่งอเมริกา เชื่อว่านักลงทุนอาจจะมาเก็งกำไรทองคำ หรือเก็งกำไรหุ้น หรือน้ำมัน อาจจะเพิ่มขึ้น จึงทำให้ราคาจะขึ้นลงเยอะหน่อย

 

ส่วนกลยุทธ์การลงทุนทองในปีนี้ นายจิตติ แนะนำว่า อยากจะฝากนักลงทุนว่าราคาปีนี้อาจจะผันผวน เพราะฉะนั้นนักลงทุนถ้ามีกำไร น่าจะแบ่งขาย อย่าหวังว่าจะเอากำไรเยอะๆ และต้องระมัดระวังข่าวสารต่างๆ ที่ออกมา เพราะว่าข่าวบางทีอาจจะเป็นของจริงหรือของปลอมก็ได้

 

http://www.bangkokbiznews.com

[namchiang 468]

11 กุมภาพันธ์ 2556 10:38

รัสเซียตุนทอง รับมือดอลลาร์-ยูโรล่มสลาย

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

 

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ทำให้รัสเซีย ผงาดขึ้นเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก รับมือเงินดอลลาร์ ยูโร ปอนด์ ล่มสลาย

 

ตอนที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย บอกว่า สหรัฐเป็นอันตรายต่อเศรษฐกิจโลก ใช้ฐานะเจ้าของเงินสกุลดอลล่าร์ ที่เป็นสกุลเงินสำรองในหลายประเทศทั่วโลกในทางที่ผิด เขาไม่ได้แค่พูด แต่เขากำลังเดิมพันในเรื่องนี้ด้วย

 

ปูตินไม่เพียงทำให้รัสเซียกลายเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลก แต่ยังทำให้รัสเซีย กลายเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ธนาคารกลางภายใต้การกำกับดูแลของเขา มีทองคำเพิ่มขึ้น 570 เมตริกตัน มียอดซื้อมากกว่าคู่แข่งอย่างจีนถึง 1 ใน 4 ส่วน

 

จากข้อมูลของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ ชี้ว่า ทองคำที่เพิ่มขึ้่นของรัสเซีย มีน้ำหนักมากเกือบ 3 เท่า ของอนุสาวรีย์เทพีเสรีภาพของสหรัฐ

 

นายอีฟเชนี เฟโดรอฟ ส.ส.ในพรรคยูไนเต็ด รัสเซีย ของปูติน ให้สัมภาษณ์ว่า ยิ่งประเทศมี ทองคำมากขึ้นเท่าไหร่ ก็จะยิ่งมีอำนาจอธิปไตยมากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เกิดหายนะขึ้นกับค่าเงินสกุลดอลล่าร์ ยูโร ปอนด์ หรือสกุลเงินสำรองอื่น ๆ

 

ทองคำ เป็นสุดยอดปรารถนาของเหล่าผู้ปกครองรัสเซียมาหลายยุคหลายสมัย รวมทั้งพระเจ้าซาร์ นิโคลัส ที่ 2 และนายวลาดิมีร์ อิลยิซ เลนินผู้นำกลุ่มบอลเชวิค ที่ปลงพระชนม์ชีพของพระองค์ และการซื้อทำคำของปูติน ทำให้รัสเซียมีทองคำเพิ่มกว่ายุคดังกล่าว เกือบ 400% บรรดาธนาคารกลางทั่วโลก พากันพิมพ์ธนบัตรเพื่อหลีกเลี่ยงวิกฤติการเงิน

บั่นทอนความกระหายเงินสกุลดอลลาร์และสกุลยูโร ของเหล่านักลงทุนที่ตะเกียกตะกายเอาตัวรอด

 

เมื่อปี 2541 ซึ่งเป็นปีที่รัสเซียผิดนัดชำระหนี้มูลค่า 4 หมื่นล้านดอลล่าร์ ทำให้ต้องเอาน้ำมันดิบไปแลกทองคำ28 บาร์เรลต่อ 1 ออนซ์ และเป็นช่วงปีแรกของการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยแรกของปูติน ต่อมาในปี 2548 เขาก็สั่งให้ธนาคารกลางรีบซื้อทองคำ ซึ่งราคาไม่ถึงครึ่งของปัจจุบัน ไปเก็บสะสมไว้

 

ตอนนั้น ทองคำมีราคาทำสถิติสูงสุดในรอบ 18 ปี อยู่ที่ออนซ์ละ 95 ดอลล่าร์ ธนาคารกลางรัสเซียมีทองคำสำรองอยู่ 387 ตัน หรือ 22 เปอร์เซ็นต์ ของเงินสำรองมูลค่า 165,000 ล้านดอลลาร์ เมื่อราคาทองคำพุ่งขึ้นไปที่ออนซ์ละ 1,670 ดอลลาร์ รัสเซียก็มีทองคำเพิ่มอีก 7% และจากการสำรวจของผู้สันทัดกรณี พบว่า ในปีนี้ ราคาทองคำจะพุ่งถึงออนซ์ละ 1,825 ดอลลาร์

 

บรรดาผู้นำโลกคนอื่น ๆ มีแต่สวนทางกับปูติน นายกอร์ดอน บราวน์ รัฐมนตรีคลังอังกฤษ

ในรัฐบาลชุดเก่า ได้จายทองคำเกือบ 400 ตัน เมื่อเดือนมีนาคม ปี 2545 ตอนที่ราคาตกต่ำ

ในรอบสองทศวรรษ เรียกเสียงวิจารณ์จากสื่อในประเทศอย่างมาก / ขณะที่ปัจจุบัน รัสเซีย

และจีน ต่างแย่งกันกว้านซื้อทองคำเป็นเก็บไว้จำนวนมาก

 

ขณะที่ปูตินเป็นผู้นำในการสะสมทองคำ หลายชาติต้องขายทองคำเพื่อชำระหนี้ สวิตเซอร์แลนด์

ต้องทะยอยเอาทองคำออกขายไปแล้ว 877 ตัน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา คิดเป็นมูลค่า 48,000 ล้าน

ดอลล่าร์ ตามด้วยฝรั่งเศส 589 ตัน ขณะที่สเปน เนเธอร์แลนด์ และโปรตุเกส ขายไปกว่า 200 ตัน

 

คณะกรรมการทองคำโลก ระบุในรายงานว่า แม้ว่าปูตินจะกว้านซื้อทองคำเป็นจำนวนมาก ทำให้

รัสเซียเป็นผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก และมีทองคำสำรองอยู่ 958 ตัน แต่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็น

ผู้ครอบครองทองคำ อยู่ในอันดับที่ 8 ของโลก / อันดับที่ 1 ยังคงเป็นของสหรัฐ ที่มีประมาณ 8,134

ตัน ตามด้วยเยอรมนี 3,391 ตัน , ไอเอ็มเอฟ ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่วอชิงตัน 2,814 ตัน , อิตาลี

อันดับ 4 , ฝรั่งเศส อันดับ 5 , จีน อันดับ 6 และสวิตเซอร์แลนด์ อันดับ 7

 

http://www.bangkokbiznews.com

[สาวโคราช 10]

โปรดระวังหมายเลข 081-7189697 แล้วจะพบวิธีทำมาหากิน กลโกง หลายรูปแบบค่ะ ติดต่อซื้อบ้าน รถ สุนัข

ต้องดูน่ะค่ะ เพื่อไม่เกิดความเสียหายแก่ธุรกิจท่านค่ะ

[Pete 15,187]

French Industrial Production (MoM)

Actual:-0.1%

Forecast:-0.2%

Previous:0.5%

Importance: Currency:EURSource Of Report:INSEE (Release URL)

OverviewChartHistory

French Industrial Production measures the change in the total inflation-adjusted value of output produced by French manufacturers, mines, and utilities.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the EUR, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the EUR.

[Pete 15,187]

ฝรั่งวิเคราะห์ยามบ่าย วันเที่ยวแห่งตรุษจีน 2556 บอกเล่าว่า " จากข้อมูลด้านข่าวสารที่เป็นผลบวกต่อราคาทอง ก็อย่าไปเชื่อหรือยึดถือกับสิ่งนั้น เพราะเป็นแค่ภาพลวงตา และ พยายามปั้นข่าวเพื่อสร้างกระแส รวมถึงสัญญานฯ ทางเทคนิคที่ออกมา ตัวนั้นดีบ้าง ตัวนี้ไม่ดี ผสมกันมั่วไปหมด เพราะอย่างไรก็ตาม ราคาทองไม่สามารถยืนเหนือ 1676 ได้เมื่อปิดตลาดวันศุกร์ แต่มาอยู่ที่ 1666 มันบ่งบอกได้อย่างมากว่า ต้องลงไปหาแรงดันข้างล่างก่อน

 

จึงสรุปได้ประมาณว่า ระวังให้ดีๆ 1656 อาจจะได้เห็นในวันนี้ หรือ พรุ่งนี้ นักเล่นที่ต้องมีเวลามาเกี่ยวข้อง จะทำมาหากินยาก ถ้าไม่ติดตามตลอด รอจนวันอังคาร หรือ วันพฤหัส ของชัวร์