ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

สวัสดีวันพุธ : ต๊กใจ ราคาทองขึ้นมากว่า $44 จากเช้าวันเสาร์ ไอ้ตัวเราหลบไปพักผ่อนบนเกาะมัลดีฟส์ กลางมหาสมุทรอินเดีย สวรรค์แห่งหนึ่งบนโลกจริงๆ ทั้งแดด น้ำทะเลใสแจ๋ว หาดทรายขาว ที่พัก รวมถึงการเดินทางแบบสนุกสุดเหวี่ยง สมกับราคาที่จ่ายไปจริงๆ เลยต้องขออภัยที่ไม่ได้มาบ่นข่าวสารฯ ให้ฟัง คือ เพลิดเพลินกับสิ่งแวดล้อม และ กิจกรรมต่างๆ ที่ทางนั้นจัดมาให้แบบเต็มเวลา 3 คืน 4 วัน เต็มเอี๊ยด

 

คิดถึงครับ ไปเที่ยวไกลเลยนะป๋า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

สวยจัง มีโอกาส ไปมั่ง

ต้องเลือกเดินทางไปที่พักแบบนี้ ด้วยนะ สุดยอดเลยล่ะ

matcombined.gif

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะ คุณDkk ซ้อ เจ๊ คุณอาร์ต คุณนั่มเชียง คุณอลัน คุณป้าข้างบ้าน ทุกท่านค่ะ

:uu คุณDkk จะไม่โชว์รูปหน่อยหรือค่ะ :10

have agood day

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีค่ะคุณป๋า สวยมากค่ะ อยากไปตั้งนานแล้ว ยังไม่มีโอกาสสักที

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันขึ้นหลังคาดสต๊อกน้ำมันลด หุ้นมะกัน-ทองคำทรงตัว

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 24 กรกฎาคม 2556 05:30 น.

556000009519201.JPEG

เอเอฟพี - น้ำมันวานนี้(23) กลับมาขยับขึ้นอีกครั้ง ตามความคาดหมายว่าสต๊อกเชื้อเพลิงสหรัฐฯน่าจะลดลงจากอุปสงค์อันแข็งแกร่ง ส่วนวอลล์สตรีทปิดในกรอบแคบๆท่ามกลางรายงานผลประกอบการที่ผสมผสาน ขณะที่ทองคำปรับลด หลังมีข่าวอินเดีย ออกมาตรการจำกัดการนำเข้ารอบใหม่

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 29 เซนต์ ปิดที่ 107.23 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ ปิดที่ 108.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันมีขึ้นหลังจากนักลงทุนพากันคาดหมายว่าคลังน้ำมันดิบสำรองสำหรัฐฯที่จะเปิดเผยข้อมูลช่วงกลางสัปดาห์ จะลดลงต่อเนื่อง หลังจากก่อนหน้านี้ปรับลดมา 3 สัปดาห์ติด บ่งชี้ถึงอุปสงค์อันแข็งแกร่งในชาติผู้บริโภครายใหญ่ของโลก

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯวานนี้(23) ปิดผสมผสาน โดยแม้บริษัทชั้นนำจะเผยรายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ที่ดีเกินคาดหมาย แต่ก็มีอีกหลายแห่งที่ผลดำเนินงานไม่น่าประทับใจนัก

 

ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 23.96 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,569.51 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 3.00 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,692.53 จุด แนสแดก ลดลง 21.11 จุด (0.59 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,579.27 จุด

 

บริษัทชั้นนำหลายแห่งอย่างดูปองท์, ยูไนเต็ด เทคโนโลยีส์ และทราเวเลอร์ส ต่างมีผลกระกอบการช่วงระหว่างเดือนเมษายนถึงมิถุนายนดีเกินคาดหมาย แต่นักลงทุนก็ยังมองทิศทางของเศรษฐกิจไม่แน่ชัด หลังมีอีกหลายบริษัทที่ผลดำเนินงานไม่เป็นไปตามเป้าหมาย

 

ส่วนราคาทองคำวานนี้(23) ปิดลบเล็กน้อย ท่ามกลางข่าวอินเดีย ชาติผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ออกข้อกำหนดรอบใหม่เกี่ยวกับการจำกัดการนำเข้าโลหะมีค่าชนิดนี้ในความพยายามลดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดซึ่งทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดตลอดกาล โดย ราคาทองคำตลาดโคเมกซ์ ลดลง 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,334.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

http://manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9560000090603

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อินเดียจำกัดนำเข้าทองคำหลังขาดดุลบัญชีเดินสะพัดมโหฬาร blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 23 กรกฎาคม 2556 22:26 น.

 

blank.gif 556000009513201.JPEG blank.gif เอเอฟพี - อินเดีย ชาติผู้ซื้อทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ออกข้อกำหนดรอบใหม่เกี่ยวกับการจำกัดการนำเข้าโลหะมีค่าชนิดนี้ในความพยายาม ลดขาดดุลบัญชีเดินสะพัดซึ่งทะยานขึ้นไปแตะระดับสูงสุดตลอดกาล

 

ธนาคารกลางอินเดีย(อาร์บีไอ) แถลงว่ากฎข้อบังคับใหม่นี้กำหนดเงื่อนไขว่าทุกการนำเข้าทองคำในแต่ละเที่ยว จะต้องจัดสรรไว้สำหรับไว้ผลิตและประกอบเครื่องประดับ และจำหน่ายในต่างประเทศอย่างน้อยที่สุด 1 ใน 5 ขณะที่เครื่องประดับอัญมณี ถือเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของอินเดีย โดยคิดเป็นประมาณร้อยละ 16 ของการส่งออกรวม หรือราวๆ 70 ตันในแต่ละปี

 

โดยธนาคารกลางอินเดียระบุว่าบรรดาผู้นำเข้าทองคำที่ได้รับอนุญาต เช่น ธนาคารพาณิชย์ และบริษัทห้างร้านค้าทองคำ จะต้องกันทองคำอย่างน้อยร้อยละ 20 ของการนำเข้าทองคำแต่ละครั้ง เพื่อจุดประสงค์ในการส่งออกโดยเฉพาะ

 

ค่าเงินอินเดียแข็งค่าขึ้นแตะ 59.35 รูปีต่อหนึ่งดอลลาร์ทันทีเมื่อเช้าวันอังคาร(23) หลังจากธนาคารกลางออกมาตรการล่าสุดต่อทองคำ อย่างไรก็ตามในช่วงท้ายของการซื้อขายก็อ่อนค่าลงสู่ 59.72 รูปีต่อดอลลาร์

 

ด้าน วิโนด ฮายากริฟ คณะกรรมการสมาพันธ์การค้าอัญมณีและเครื่องประดับแห่งอินเดีย ตำหนิมาตรการใหม่ของธนาคารกลางว่าเป็นวิสัยทัศน์ที่แคบมาก โดยระบุข้อจำกัดต่างๆเหล่านั้นจะทำให้ทองคำขาดตลาด

 

การนำเข้าทองคำและน้ำมันคือปัจจัยสำคัญต่อระดับการขาดดุลบัญชีเดิน สะพัดอย่างมโหฬารในปัจจุบันของอินเดีย ซึ่งแตะระดับสูงสุดตลอดกาลคิดเป็นร้อยละ 4.8 ของจีดีพีในปีงบประมาณสิ้นสุดเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สืบเนื่องจากการนำเข้าที่เลยเถิด

 

ความเคลื่อนไหวของธนาคารกลางครั้งนี้มีขึ้นหลังจากทางการอินเดีย เพิ่มอากรนำเข้าทองคำมาแล้ว 2 รอบในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ขณะที่นายฮายากริฟ บอกว่ามาตรการต่างๆเหล่านั้น "ดูเหมือนว่าจะเป็นกรณีการกำลังถูกต้อนให้จนมุมและแกว่งดาบอย่างบ้าคลั่ง แต่ไม่รู้ว่าศัตรูนั้นคือใคร"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปตท.– บางจาก ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 60 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น อี85 ปรับลด 40 สตางค์ต่อลิตร ส่วนดีเซลคงเดิม มีผลวันพรุ่งนี้(25 ก.ค.)ตั้งแต่เวลา 05.00 น.

 

 

 

 

ปตท.– บางจาก ปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 60 สตางค์ต่อลิตร ยกเว้น อี85 ปรับลด 40 สตางค์ต่อลิตร ส่วนดีเซลคงเดิม มีผลวันพรุ่งนี้(25 ก.ค.)ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

 

 

บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน)และบริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน)ประกาศปรับลดราคาขายปลีกน้ำมันเบนซิน และแก๊สโซฮอล์ทุกชนิด 0.60 บาทต่อลิตร ยกเว้นอี 85 ปรับลด 0.40 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซลคงเดิม มีผลวันพรุ่งนี้(25 ก.ค.)ตั้งแต่เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

 

 

ทั้งนี้ ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันหน้าสถานีบริการใหม่ ดังนี้ เบนซิน 95 ลิตรละ 47.95 บาท // แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 40.43 บาท //แก๊สโซฮอล์ 91 ลิตรละ 37.98 บาท//E20 ลิตรละ 35.48 บาท //E85 ลิตรละ 23.78 บาท และดีเซล ลิตรละ 29.99 บาท

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**กนง.มองตลาดเงิน-เงินทุนเคลื่อนย้ายเสี่ยงกระทบบาท-เสถียรภาพศก.ไทย

 

 

ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) ครั้งที่ 5 /2556 ในการประชุมวันที่ 9-10 ก.ค.56 ระบุว่า คณะกรรมการฯ ส่วนใหญ่มีความเห็นสอดคล้องกันว่า ภาวะตลาดการเงินและเงินทุนเคลื่อนย้ายยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความผันผวนของค่าเงินบาทตลอดจนเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินได้ จึงควรติดตามอย่างใกล้ชิดต่อไป

 

 

ดังนั้น ที่ประชุม กนง.จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ 2.50 ต่อปี

ธปท.ระบุว่า จากการหารือของ กนง.ถึงทางเลือกที่เหมาะสมในการดำเนินนโยบายการเงิน สรุปว่าเศรษฐกิจโลกโดยรวมขยายตัวต่ำกว่าคาดจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นสำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของภาคการส่งออกของเศรษฐกิจเอเชียรวมทั้งไทย แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐและญี่ปุ่นจะปรับดีขึ้นบ้าง

 

 

ขณะที่เศรษฐกิจไทยขยายตัวชะลอลงจากทั้งอุปสงค์ในประเทศและการส่งออก ส่วนหนึ่งเพราะครัวเรือนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นจากภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นและนโยบายกระตุ้นภาครัฐที่ทยอยหมดลง โดยอุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอตัวลง อาจส่งผลให้การลงทุนภาคเอกชนบางส่วนล่าช้าออกไป ทั้งนี้ การปรับประมาณการการขยายตัวทางเศรษฐกิจล่าสุด สืบเนื่องมาจากตัวเลข GDP ในไตรมาสแรกที่ต่ำกว่าคาดรวมถึงเครื่องชี้ทางเศรษฐกิจล่าสุดที่ชะลอตัว ซึ่งแนวโน้มการชะลอลงนี้ คณะกรรมการฯ ได้นำมาพิจารณาแล้วในการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งที่ผ่านมา

 

 

สำหรับนโยบายการเงินและการคลังอยู่ในระดับที่ผ่อนคลายเพียงพอต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สะท้อนจากการขยายตัวของสินเชื่อและการขาดดุลการคลังอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับสถาบันการเงินยังคงมีการแข่งขันกันสูงทั้งด้านสินเชื่อและระดมเงินฝาก และความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม แม้สินเชื่อในช่วงที่ผ่านมาจะขยายตัวชะลอลงบ้าง แต่ยังอยู่ในระดับที่สูง โดยเฉพาะภาระหนี้ครัวเรือนในปัจจุบันที่หากเพิ่มขึ้นอีกจะเป็นการเพิ่มความไม่สมดุลทางการเงิน

 

 

"การดำเนินนโยบายที่เหมาะสม คณะกรรมการฯ ประเมินว่าขณะนี้การขยายตัวของเศรษฐกิจไทยอยู่ในช่วงพักฐาน เนื่องจากได้เร่งใช้จ่ายไปมากจากนโยบายกระตุ้นของภาครัฐในช่วงก่อนหน้า แต่น่าจะเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราวและกลับมาขยายตัวในระดับปกติได้ในระยะต่อไป เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี เช่น การจ้างงาน และรายได้ประชาชน แม้ว่าเศรษฐกิจโลกจะมีสัญญาณการฟื้นตัวบ้าง แต่ยังคงมีความเปราะบางอยู่ นโยบายการเงินในระดับปัจจุบันยังคงผ่อนปรนเพียงพอและสามารถเอื้อให้เศรษฐกิจไทยกลับมาขยายตัวในอัตราปกติได้"รายงาน ระบุ

 

 

จากการพิจารณาภาวะตลาดการเงิน กนง.มีความเห็นว่าค่าเงินดอลลาร์ สรอ. มีแนวโน้มแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินสกุลหลักและสกุลภูมิภาค จากคาดการณ์ของตลาดถึงความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) จะทยอยปรับลดหรือยุติการทำธุรกรรม QE เร็วขึ้น ประกอบกับภาวะที่เศรษฐกิจจีนและตลาดเกิดใหม่เริ่มชะลอลง ส่งผลให้มีเงินทุนไหลออกจากทั้งตลาดหลักทรัพย์และตลาดพันธบัตรของประเทศตลาดเกิดใหม่รวมทั้งไทยในเดือน มิ.ย.ส่งผลให้เงินบาทและเงินสกุลภูมิภาคอ่อนค่าลง แต่เงินบาทยังผันผวนต่ำกว่าเงินสกุลภูมิภาคส่วนใหญ่

 

 

เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลชันขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้นลดลงตามการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งก่อน ขณะที่ระยะปานกลางถึงยาวโดยรวมปรับเพิ่มขึ้นตามการคาดการณ์การปรับลด QE ของสหรัฐฯ ซึ่งทำให้นักลงทุนต่างชาติขายพันธบัตรของไทยเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดีในบางช่วงอัตราผลตอบแทนปรับลดลงบ้างจากแรงขายของนักลงทุนต่างชาติที่ชะลอลง และการประกาศวงเงินการออกพันธบัตรรัฐบาลไทยในไตรมาส 4 ของปีงบประมาณ 2556 น้อยกว่าที่ตลาดคาด ทั้งนี้ ตลาดส่วนใหญ่คาดว่า กนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้

 

 

คณะกรรมการฯ อภิปรายถึงนัยของ QE Tapering ในสหรัฐฯ ต่อภาวะตลาดการเงิน โดยเห็นว่า (1) เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ชันขึ้นในหลายประเทศเป็นผลของการลดสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรระยะยาว เพื่อลดความเสี่ยงด้านอัตราดอกเบี้ยระยะยาว ในขณะที่ตลาดพันธบัตรของไทยปกติค่อนข้างอ่อนไหวต่อปัจจัยต่างประเทศจึงได้รับผลกระทบด้วย (2) ประเทศตลาดเกิดใหม่ทั้งในภูมิภาคเอเชียและลาตินอเมริกาอาจเผชิญกับภาวะเงินทุนไหลออก เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ได้รับเงินทุนไหลเข้าค่อนข้างมากในช่วงก่อนหน้า ในขณะที่ผลกระทบเชิงจิตวิทยา (Risk appetite) ต่อการเคลื่อนไหวของเงินทุนในระยะต่อไปยังคาดการณ์ได้ยาก

 

 

อย่างไรก็ดี กรรมการฯ บางท่านเห็นว่าตลาดการเงินอาจมีการปรับตัวต่อข่าว QE Tapering มากเกินไปในระยะสั้น (Overreaction) เนื่องจากเจตนารมณ์ของเฟดต้องการลดขนาด QE ภายใต้เงื่อนไขการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่เห็นชัดเท่านั้น แต่ผู้ร่วมตลาดส่วนหนึ่งเข้าใจว่าเฟดมีกำหนดระยะเวลาที่ชัดเจนขึ้นในการลด QE, การปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยระยะยาวเริ่มส่งผลให้ภาครัฐปรับแผนการออกปริมาณพันธบัตรใหม่บ้าง ขณะที่ภาคเอกชนยังไม่มีสัญญาณชะลอหรือยกเลิกแผนการออกหุ้นกู้ในขณะนี้ จึงควรติดตามผลกระทบต่อตลาดการเงิน รวมทั้งนัยต่อการระดมทุนของภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด

 

 

ภาวะเศรษฐกิจต่างประเทศ เศรษฐกิจโลกโดยรวมขยายตัวชะลอลงเล็กน้อยจากการประชุมครั้งก่อน โดยความเสี่ยงต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศหลักลดลง ขณะที่ความเสี่ยงของเศรษฐกิจจีนและเอเชียมีเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี คาดว่าเศรษฐกิจโลกในภาพรวมจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี โดยเศรษฐกิจสหรัฐฯ แม้ชะลอลงในไตรมาส 2/56 จากการบริโภคภาคเอกชนที่ถูกกระทบจากการปรับขึ้นภาษี แต่ปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น โดยเฉพาะภาคแรงงานและภาคที่อยู่อาศัยจะเป็นแรงสนับสนุนการใช้จ่ายของภาคเอกชนและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในระยะต่อไป

 

 

เศรษฐกิจกลุ่มประเทศยูโรยังอ่อนแอแต่เริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นจากความเชื่อมั่นและการผลิตของประเทศหลักในกลุ่ม โดยเฉพาะเยอรมนี เศรษฐกิจญี่ปุ่นมีแนวโน้มขยายตัวจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งเริ่มส่งผลบวกต่อการบริโภคภาคเอกชน การผลิต และการส่งออกชัดเจนขึ้น ในขณะที่เศรษฐกิจจีนชะลอตัวจากการส่งออกและการลงทุนเป็นหลัก แต่มีแนวโน้มปรับตัวดีขึ้นในระยะต่อไป เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานในประเทศ เช่น การจ้างงาน รายได้ของประชาชนและภาคธุรกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี ประกอบกับมาตรการสนับสนุนการลงทุนของทางการ จะช่วยสนับสนุนให้อุปสงค์ในประเทศเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของเศรษฐกิจต่อไปได้แม้การขยายตัวจะไม่สูงมากเท่าในอดีตตามแนวนโยบายของทางการที่มุ่งเน้นเสถียรภาพเศรษฐกิจมากขึ้น

 

 

สำหรับเศรษฐกิจเอเชียยังคงขยายตัวได้จากอุปสงค์ในประเทศเป็นหลัก แต่มีแนวโน้มฟื้นตัวช้ากว่าการประชุมครั้งก่อนตามการชะลอตัวของการส่งออก ซึ่งส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน แต่คาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศหลักที่ชัดเจนขึ้นในปี 57 จะสนับสนุนการฟื้นตัวของการส่งออกของเศรษฐกิจเอเชียต่อไปแรงกดดันเงินเฟ้อของประเทศส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับต่า ส่วนหนึ่งจากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ปรับลดลงส่งผลให้ธนาคารกลางส่วนใหญ่คงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

 

 

กนง.เห็นว่าประเด็นสำคัญที่ควรติดตามในระยะต่อไป ได้แก่ การขยายตัวในระดับสูงของสินเชื่อจากธุรกรรมของ Shadow Banking ในจีนอาจเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน หากทางการจีนไม่มีมาตรการกำกับดูแลที่เหมาะสม และผลกระทบของการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนต่อภาคการส่งออกและการท่องเที่ยวของไทย รวมทั้งกรรมการฯ ท่านหนึ่งมีความเห็นว่าปัจจุบันสถานะงบดุลของสหรัฐฯ และกลุ่มประเทศยูโรยังคงเปราะบางอยู่ จึงมีความเสี่ยงที่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอาจล่าช้าออกไปกว่าที่คาด

 

 

ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ เศรษฐกิจไทยขยายตัวชะลอลงจากทั้งอุปสงค์ในประเทศและการส่งออก การบริโภคภาคเอกชนโดยเฉพาะการบริโภคสินค้าคงทนชะลอตัวจากผลของการพักฐาน หลังจากที่เร่งตัวมากในช่วงก่อนหน้า ส่วนหนึ่งเพราะครัวเรือนระมัดระวังการใช้จ่ายมากขึ้นจากภาระหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้น ประกอบกับแรงกระตุ้นจากมาตรการภาครัฐทยอยหมดลง การส่งออกชะลอลงจากทั้งปัญหาด้านอุปทานภายในประเทศและการส่งออกไปจีนที่ชะลอตัวชัดเจนตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/56 ประกอบกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังไม่ส่งผลดีต่อการส่งออกอย่างชัดเจน อุปสงค์ทั้งในและต่างประเทศที่ชะลอตัวส่งผลสืบเนื่องให้การลงทุนภาคเอกชนบางส่วนชะลอลง

 

 

อย่างไรก็ดี แผนการลงทุนเพื่อปรับปรุงโครงสร้างการผลิตยังมีอยู่และผู้ประกอบการส่วนใหญ่ไม่ได้มีข้อจำกัดด้านการเงิน ดังนั้น ภาคเอกชนจึงน่าจะกลับมาขยายการลงทุนตามแผนได้หากอุปสงค์ปรับตัวดีขึ้น นอกจากนี้ ปัจจัยสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะต่อไปยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราการว่างงานที่อยู่ในระดับต่ำ รายได้นอกภาคเกษตรที่อยู่ในระดับสูง และภาวะการเงินที่ยังเอื้ออำนวยอุปสงค์ในประเทศและการส่งออกที่ชะลอตัวลง ประกอบกับแรงกระตุ้นจากภาครัฐที่มีแนวโน้มล่าช้ากว่าที่ได้ประเมินไว้ โดยเฉพาะในส่วนของการลงทุนในโครงการบริหารจัดการน้ำ ส่งผลให้คณะกรรมการฯ ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 56 จะขยายตัวต่ำกว่าประมาณการเดิมมาอยู่ที่ร้อยละ 4.2

 

 

สำหรับแรงกดดันด้านเงินเฟ้อต่ำลงจากอุปสงค์ในประเทศและต้นทุนการผลิตทั้งราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่ลดลง ขณะที่ความเสี่ยงด้านเสถียรภาพทางการเงินยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตาม จากสินเชื่อภาคเอกชนและหนี้ภาคครัวเรือนที่แม้เริ่มชะลอลงแต่ยังอยู่ในระดับสูง

 

 

กรรมการฯ บางท่านตั้งข้อสังเกตว่าการส่งออกของไทยในช่วงที่ผ่านมายังขยายตัวได้ดีกว่าหลายประเทศในภูมิภาค ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะสินค้าส่งออกของไทยมีหลายประเภท ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยง กรรมการฯ บางท่านมีความเห็นว่าการลดลงอย่างมีนัยสำคัญของการลงทุนภาคเอกชนอาจมีผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจในระยะยาว ในขณะที่ข้อจำกัดทางด้านอุปทาน เช่น การขาดแคลนแรงงาน ความท้าทายในการปรับปรุง

 

ประสิทธิภาพการผลิตและเพิ่มมูลค่าสินค้า ถือเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยและอาจส่งผลกระทบให้ศักยภาพการเติบโต (Potential growth) ของเศรษฐกิจไทยลดลง ซึ่งเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ยังไม่ครอบคลุมในการพยากรณ์จากแบบจำลอง และไม่อาจแก้ไขได้ด้วยนโยบายการเงินหรือนโยบายที่กระตุ้นด้านอุปสงค์แต่เพียงอย่างเดียว แต่จำเป็นต้องอาศัยนโยบายหรือการปฏิรูปด้านอุปทานอื่นๆ ประกอบกันด้วย ขณะที่กรรมการฯ บางท่านเห็นควรให้ติดตามพัฒนาการเศรษฐกิจโลกและแนวโน้มการลงทุนภาครัฐอย่างใกล้ชิด เนื่องจากยังคงเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า

 

คณะกรรมการฯ ประเมินว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ตัดสินใจไม่ปรับลดอัตราดอกเบี้ยทั้งเงินฝากและเงินกู้ตามมติการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง.เมื่อวันที่ 29 พ.ค.56 น่าจะมาจากความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มสภาพคล่องในระยะต่อไป ภายใต้ภาวะการแข่งขันระดมเงินฝากที่ยังอยู่ในเกณฑ์สูง เนื่องจากยังมีแผนขยายสินเชื่อต่อเนื่อง ภาครัฐมีแผนการระดมทุนขนาดใหญ่ผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และการกระจายตัวของสภาพคล่องและกลยุทธ์การแข่งขันของธนาคารแต่ละแห่งแตกต่างกัน ดังนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยจึงทำได้ยากในภาวะที่การแข่งขันระดมเงินฝากและความต้องการสินเชื่อยังมีอยู่ต่อเนื่อง

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทเปิด 30.88/90 คาดแกว่งแคบตลาดไร้ปัจจัยใหม่ มองกรอบ 30.83-31.00

 

 

นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง ระบุว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 30.88/90 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 30.95/97 บาท/ดอลลาร์

 

 

"โดยช่วงเช้าที่ผ่านมาเงินบาทลงไปแข็งค่าที่ 30.84 บาท ก่อนจะมีแรงซื้อดอลลาร์กลับขึ้นมา หลักๆ ดอลลาร์/บาท วิ่งตาม Dollar Index กับทอง และ major currency ส่วนข่าววันนี้ไม่มีอะไรใหม่หรือจะมาเป็นผลกระทบต่อค่าเงินบาทมากนัก เป็นไปตามภูมิภาคกับ major มากกว่า"

 

 

นักบริหารเงิน คาดว่าวันนี้เงินบาทจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ เช่นเดียวกับสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยให้กรอบไว้ที่ 30.83-31.00 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

 

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.67 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเย็นวานนี้ที่ระดับ 100 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3205 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3174 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 30.9140 บาท/ดอลลาร์

- ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ปรับเพิ่มวอลุ่มเทรดเฉลี่ยต่อวัน ปีนี้เป็น 49,500 ล้านบาท จากเดิม 32,000 ล้านบาท เผยมาร์เกตแคปตลาดหุ้นครึ่งปีแรก 12.53 ล้านล้านบาท

- กระทรวงการคลัง เร่งเคลียร์งบค้างท่อกว่า 2.5 แสนล้านบาท ดึงเงินเข้าระบบหวังกระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้าย จากสัญญาณการอ่อนตัว ทั้งการบริโภคและการส่งออก "พงษ์ภาณุ" แนะแบงก์ชาติควรลดดอกเบี้ยออกมาช่วยอีกแรง

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 ก.ค.) เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวังของสหรัฐอาจทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ยังไม่ชะลอโครงการซื้อพันธบัตร หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเร็วๆนี้

- สำนักงานการเงินเพื่อการเคหะของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FHFA) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาบ้าน (HPI) ได้ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในเดือนพ.ค. โดยเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก่อนหน้า ทำสถิติเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงพุ่งขึ้น 130 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,530 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,355.4 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 14.06 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

- ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลงเช้านี้ หลังหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์และหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคปรับตัวลดลง ขณะที่หุ้นกลุ่มผู้ผลิตวัตถุดิบปรับตัวสูงขึ้น

- HSBC เผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.ค.ลดลงสู่ระดับ 47.7 จากดัชนี PMI ขั้นสุดท้ายของเดือนมิ.ย.ที่ 48.2 โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนก.ค. แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน บ่งชี้ถึงภาวะชะลอตัวของภาคการผลิต อันเนื่องมาจากคำสั่งซื้อใหม่ที่อ่อนแรงลง และตอกย้ำถึงความจำเป็นในการดำเนินมาตรการเพิ่มเติมเพื่อสร้างเสถียรภาพด้านการขยายตัว

- กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานขั้นต้นในวันนี้ว่า ญี่ปุ่นขาดดุลการค้า 1.808 แสนล้านเยนในเดือนมิ.ย. ในขณะที่มูลค่าการส่งออกปรับตัวสูงขึ้น 7.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และการนำเข้าขยายตัว 11.8%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งวิเดาวิเคราะห์ราคาทองยามบ่าย กล่าวว่า " ทองประสบความสำเร็จกับการปิดราคาวันปิดเหนือ 1330 และมาเจอกับระบบ Ichimoku ด้านลบ ตอนนี้เราจะเห็นอะไรจะเกิดขึ้น วันนี้มันจะเริ่มต้นโจมตีราคาทองให้ย่อลง ย่อลง......... แต่บางทีวันพรุ่งนี้ หรือวันศุกร์เราจะเห็น upside พยายามแบ่งทำกำไรไว้ก่อน อย่างไรก็ตาม การปิดด้านล่าง ของวันนี้ ถ้าเกิดออกมาต่ำกว่า 1330 จะกลับกลยุทธ์เป็น " ขาย " สำหรับแนวขาเสี่ยง คือ

 

Support: - 1316.20and 1288.14(main).

Resistance: - 1350.02(main)

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดปรับตัวสูงขึ้น ขานรับผลประกอบการสดใส

 

ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น ขณะที่บริษัทเอกชนต่างทยอยรายงานผลประกอบการ

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.3% แตะ 300.44 เมื่อเวลา 8.09 น.ตามเวลาลอนดอน ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 3,932.28 จุด เพิ่มขึ้น 9.19 จุด หรือ 0.23% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดวันนี้ที่ 8,325.06 จุด เพิ่มขึ้น 10.83 จุด หรือ 0.13%

หุ้นวอลโว่ บวก 3.4% หลังจากที่ได้รายงานกำไรจากการดำเนินงานรายไตรมาสที่สูงกว่าคาดการณ์ ส่วนหุ้นอีซีเจ็ท พุ่ง 5.4% ภายหลังยอดขายรายไตรมาสเพิ่มขึ้น 11%

 

ดัชนี PMI เบื้องต้นภาคเอกชนฝรั่งเศสหดตัวชะลอลงในเดือนก.ค.

ผลสำรวจของมาร์กิตเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นของภาคเอกชนฝรั่งเศสในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 48.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน จาก 47.4 ในเดือนมิ.ย. แต่ดัชนียังต่ำกว่า 50 ซึ่งบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจโดยรวมของภาคเอกชนฝรั่งเศสอยู่ในภาวะหดตัวจากเดือนก่อนหน้า

ส่วนดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนก.ค.ปรับขึ้นสู่ระดับ 49.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือน จาก 48.4 ในเดือนมิ.ย. ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นเพิ่มขึ้นแตะ 48.3 ในเดือนก.ค. ซึ่งสูงสุดในรอบ 11 เดือน เทียบกับ 47.2 ในเดือนก่อนหน้า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ผลสำรวจเผยชาวยุโรปเพียงครึ่งหนึ่งสนับสนุนการใช้เงินยูโร

 

 

ผลสำรวจ Eurobarometer ฉบับล่าสุด เปิดเผยว่า มีชาวยุโรปเพียง 51% ที่สนับสนุนสกุลเงินยูโร ขณะที่มีเพียง 62% ของผู้อาศัยในยูโรโซน ที่ชื่นชอบสกุลเงินยุโร

 

 

ผลสำรวจระบุว่า กว่าครึ่งหนึ่งของชาวยุโรปเผยว่าพวกเขาไม่รู้ว่ามีสิทธิอะไร ขณะพลเมือง 6 ใน 10 คนในสหภาพยุโรป (อียู) รู้สึกถึงการเป็น "ชาวยุโรป" และต้องการทราบมากขึ้นเกี่ยวกับสิทธิของพวกเขา

 

 

ทั้งนี้ ผลสำรวจดังกล่าวมีขึ้นในปีนี้ ซึ่งถือเป็นปีแห่งพลเมืองยุโรป (2013 European Year of Citizens) ที่กำหนดขึ้นเพื่อเพิ่มความตระหนักถึงสิทธิพลเมืองยุโรป ขณะที่สถาบันต่างๆของอียูมีกำหนดที่จะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในปีหน้า ซึ่งจะต้องเผชิญกับความท้าทายนานาประการหลังเกิดวิกฤตเศรษฐกิจมาหลายปี

 

 

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังเผยว่า ชาวยุโรปราว 6 จาก 10 คนระบุว่าการเคลื่อนไหวอย่างเสรีของประชาชน, สินค้าและบริการ เป็นผลในเชิงบวกมากที่สุดของโครงการบูรณาการยุโรป

 

ผลสำรวจดังกล่าวจัดทำโดยการสัมภาษณ์ประชาชนเกือบ 32,700 คนแบบตัวต่อตัวในประเทศสมาชิกอียูและประเทศที่สมัครเป็นสมาชิกอียู สำนักข่าวซินหัวรายงาน

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงบ่ายนี้ เหตุวิตกดัชนี PMI จีนหดตัว

 

 

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงต่อบ่ายนี้ เนื่องจากสัญญาณการหดตัวของภาคการผลิตจีนที่ย่ำแย่ลง ซึ่งตอกย้ำถึงเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง ประกอบกับหุ้นอินเดียที่ปรับตัวลงภายหลังธนาคารกลางอินเดียที่ได้คุมเข้มการเข้าถึงเงินสด

ดัชนี MSCI Asia Pacific อ่อนตัว 0.2% เมื่อเวลา 13.03 น.ตามเวลาโตเกียว

เอชเอสบีซี โฮลดิงส์เปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นในเดือนก.ค.ลดลงสู่ระดับ 47.7 จากดัชนี PMI ขั้นสุดท้ายของเดือนมิ.ย.ที่ 48.2

ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนก.ค. ซึ่งเป็นมาตรวัดกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ แตะระดับต่ำสุดในรอบ 11 เดือน โดยตัวเลขที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตหดตัวลงจากเดือนก่อนหน้า

เมื่อวานนี้ ธนาคารกลางอินเดียได้จำกัดเงินทุนที่จะจัดสรรให้ธนาคารต่างๆลงเหลือ 0.5% ของเงินฝากของธนาคารแต่ละแห่ง

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**เงินบาทปิด 30.95/97 แกว่งแคบ ขาดปัจจัยใหม่หนุนทิศทาง

 

 

นักบริหารเงินจากธนาคารซีไอเอ็มบีไทย เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 30.95/97 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 30.88/90 บาท/ดอลลาร์

 

 

วันนี้เงินบาทแกว่งอยู่ในกรอบแคบๆ ประมาณ 10 สตางค์ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยหลักที่เข้ามามีผลกระทบโดยตรงต่อทิศทางของเงินบาท โดยเงินบาทยังเคลื่อนไหวไปตามสกุลเงินในภูมิภาค

 

 

นักบริหารเงิน คาดว่า พรุ่งนี้เงินบาทจะเคลื่อนไหวอยู่ในระดับเดียวกับวันนี้ และยังไม่อ่อนค่ากลับไปแตะที่ระดับ 31 บาท/ดอลลาร์

 

 

 

 

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- ปิดตลาดเย็นนี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 100.05/07 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 99.67 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3229/3232 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3174 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 1,501.36 จุด ลดลง 11.95 จุด, -0.79%

- ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เปิดเผยรายงานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.) เมื่อวันที่ 9-10 ก.ค. โดยระบุว่า คณะกรรมการ กนง.ส่วนใหญ่เห็นสอดคล้องกันว่าภาวะตลาดการเงินและเงินทุนเคลื่อนย้ายยังเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่อาจกระทบต่อความผันผวนของค่าเงินบาท ตลอดจนเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน ขณะที่มองแนวโน้มดอลลาร์จะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักและสกุลภูมิภาค อย่างไรก็ดี กนง.คาดเศรษฐกิจโลกในภาพรวมจะค่อยๆ ปรับตัวดีชึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

- ตลาดหุ้นยุโรปเปิดตลาดวันนี้ปรับตัวสูงขึ้น โดยดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 0.3% แตะ 300.44 เมื่อเวลา 8.09 น.ตามเวลาลอนดอน ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเปิดวันนี้ที่ 3,932.28 จุด เพิ่มขึ้น 9.19 จุด หรือ 0.23% และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเปิดวันนี้ที่ 8,325.06 จุด เพิ่มขึ้น 10.83 จุด หรือ 0.13%

- ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงต่อบ่ายนี้ เนื่องจากสัญญาณการหดตัวของภาคการผลิตจีนที่ย่ำแย่ลง ซึ่งตอกย้ำถึงเศรษฐกิจจีนที่ชะลอตัวลง ประกอบกับหุ้นอินเดียที่ปรับตัวลงภายหลังธนาคารกลางอินเดียที่ได้คุมเข้มการเข้าถึงเงินสด

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 88 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,488 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงใน ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,350.86 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.52 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

- มาร์กิตเปิดเผยผลสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนก.ค.ขยายตัวแตะ 50.4 ซึ่งสูงสุดในรอบ 18 เดือน จาก 48.7 ในเดือนมิ.ย.

- ฟอร์ด มอเตอร์ เตรียมจ้างงานพนักงานประจำเพิ่มเติมอีก 800 ตำแหน่ง ทำให้ปีนี้ฟอร์ดจะจ้างพนักงานในสหรัฐฯ รวมทั้งสิ้น 3,000 ตำแหน่ง ซึ่งโครงการจ้างงานพนักงานในครั้งนี้นับเป็นครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543 โดยบริษัทระบุถึงความจำเป็นต้องรับมือความต้องการสินค้าของบริษัทที่พุ่งทะยานและดำเนินการขยายตัวทั่วโลกเชิงรุกต่อไป ขณะที่ส่วนแบ่งตลาดของฟอร์ดในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นอย่างมากจากปีที่แล้ว

- ยอดปล่อยเงินกู้ของธนาคารรายใหญ่ 4 แห่งของจีน ประกอบด้วย แบงก์ ออฟ ไชน่า, ไชน่า คอนสตรัคชั่น แบงก์, อินดัสเตรียล แอนด์ คอมเมอร์เชียล แบงก์ ออฟ ไชน่า(ICBC) และอกริคัลเจอรัล แบงก์ ออฟ ไชน่า(ABC) พุ่งขึ้นแตะที่ 2.2 แสนล้านหยวนในช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือนก.ค. เมื่อเทียบกับ 1.7 แสนล้านหยวนในสัปดาห์แรก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พุธที่ 24 กรกฎาคม 2556 17:21:33 น.

กรุงเทพฯ--24 ก.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกปรับปรับลดลงเล็กน้อยจากช่วงเช้า โดยลงมาเคลื่อนไหว อยู่บริเวณ US$1,340 ต่อออนซ์(Gold spot) หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯออกมาต่ำกว่าคาดหนุนให้ FED ยังคงไม่มีการปรับลดมาตรการ QE ลงในเร็วๆนี้ แต่ราคาทองคำได้รับผลลบจากตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ออกมาต่ำกว่าคาด ด้านยุโรป เศรษฐกิจยุโรปเริ่มมีสัญญาณบวกหลังดัชนี PMI ทั้งภาคการผลิตและภาคการบริการออกมาดีขึ้น ทั้งในภูมิภาคยุโรป และประเทศส่วนใหญ่ โดยเฉพาะเยอรมนี ฝรั่งเศส รวมถึงยอดค้าปลีกของอิตาลีที่ปรับตัวดีขึ้น เป็นอีกหนึ่งปัจจัยลบกดดันราคาทองคำ โดยวันนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯอย่างดัชนี PMI ภาคการผลิตและยอดขายบ้านใหม่ ค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าใกล้แตะระดับระดับ 31 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กองทุน SPDR ยังคงลดการถือครองทองคำลงอย่างต่อเนื่องอีก 1.5 ตัน สู่ระดับ 929.76 ตัน

 

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 (GFQ13) ปิดที่ระดับ 19,730 บาท ปริมาณการซื้อขาย 918 สัญญา

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 ขนาด 10 บาท (GF10Q13) ปิดที่ระดับ 19,730 บาท ปริมาณการซื้อขาย 2,305 สัญญา

 

แนวโน้ทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำยังคงได้รับแรงส่งจากนโยบายสภาพคล่องหลังการแถลงของประธานเฟด สะท้อนผ่านค่าเงินดอลล่าร์สหรัฐฯที่อ่อนค่าลงเทียบสกุลเงินหลัก ด้านอุปสงค์ทองคำเชื่อว่ายังเป็นแรงหนุนสำคัญต่อราคาทองคำในช่วงไตรมาสสามทั้งการซื้อของภาคธนาคารกลางโดยเฉพาะประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ที่พยายามปรับสมดุลทุนสำรองมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีการซื้อก่อนช่องเทศกาล Diwali ของอินเดียในช่วงตุลาคมแม้จะมีการดูแลการนำเข้ามากขึ้นก็ตาม ทางเทคนิคราคาผ่านแนวต้านย่อยและขึ้นทดสอบใกล้ราคาเป้าหมายแรก US$1,350 โดยมีกรอบเป้าหมายระยะกลางประมาณ US$1,380-1,400 แนวรับสำคัญ US$1,300

 

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...