ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ตลาดหุ้นยุโรปคาดเปิดตลาดทรงตัว ขณะผลประกอบการสดใส

 

 

ตลาดหุ้นยุโรปมีแนวโน้มว่า จะเปิดตลาดไม่เปลี่ยนแปลงมากนักวันนี้ ขณะที่บริษัทต่างๆได้รายงานผลประกอบการที่สดใส โดยนักลงทุนรอดูการรายงานข้อมูลความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนี

 

ดัชนี Euro Stoxx 50 อ่อนตัว 0.1% แตะ 2,748 เมื่อเวลา 7.05 น.ตามเวลาลอนดอน

 

หุ้นเครดิต สวิส อาจจะปรับตัวขึ้น หลังจากที่ได้รายงานตัวเลขกำไรที่สูงกว่าคาดการณ์ ส่วนหุ้น Roche อาจจะปรับตัวขึ้นเช่นกันภายหลังกำไรครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 10%

 

 

นักวิเคราะห์คาดยอดขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐเพิ่ม 8,000 ราย

นักวิเคราะห์คาดยอดขอรับสวัสดิการว่างงานสหรัฐปรับขึ้น 8,000 ราย ในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.ค. มาอยู่ที่ 342,000 ราย

 

กระทรวงแรงงานสหรัฐ จะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์ ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 20 ก.ค. เวลา 19.30 น.ตามเวลาในประเทศไทยวันนี้

 

ทั้งนี้ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกประจำสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 13 ก.ค. ร่วงลง 24,000 ราย สู่ระดับ 334,000 ราย

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประธาน OMFIF คาดเศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัวเล็กน้อยในอีก 12 เดือนข้างหน้า

 

 

เดวิด มาร์ช ประธานสถาบัน Official Monetary and Financial Institutions Forum (OMFIF) ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสำนักข่าวซินหัวว่า เศรษฐกิจในยูโรโซนจะปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยในช่วง 12 เดือนข้างหน้า แต่อัตราการขยายตัวจะยังคงอยู่ในระดับต่ำมาก พร้อมระบุว่านยูโรโซนยังเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจซบเซาและปัญหาการว่างงาน

 

 

มาร์กิต อิโคโนมิคส์ บริษัทวิเคราะห์ด้านการเงินในกรุงลอนดอนเปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายซื้อในภาคผลิตของยูโรโซนเพิ่มขึ้นแตะระดับ 50.1 ในเดือนก.ค. จากระดับ 48.8 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งบ่งชี้ถึงการขยายตัวของภาคธุรกิจเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี

 

 

นายมาร์ชระบุว่า เศรษฐกิจที่แท้จริงของยูโรโซนเริ่มปรับตัวดีขึ้นแล้วขณะนี้ แต่ยังขยายตัวในอัตราที่ต่ำมาก โดยเศรษฐกิจในยูโรโซนยังคงซบเซามาเป็นเวลา 6 ไตรมาส แม้ว่าตลาดการเงินจะขยายตัวมากขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าว

 

 

ทั้งนี้ OMFIF เป็นองค์กรอิสระด้านการเงินะดับโลก และยังเป็นเวทีสำหรับแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างหน่วยงานรัฐบาลและภาคเอกชน

 

 

“ผมคิดว่า ตลาดการเงินกำลังเคลื่อนตัวออกจากเศรษฐกิจที่แท้จริง" มาร์ชกล่าว

 

 

นอกจากนี้ เขายังกล่าวว่า ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ดำเนินการเพื่อประคับประคองตลาดการเงิน และเศรษฐกิจในยูโรโซนมากเกินไป และโครงการต่างๆเช่น OMT นั้นอาจเป็นตัวกีดขวางความพยายามในการปฏิรูปของบางประเทศก็เป็นได้

 

“แต่ผมไม่ตำหนิ ECB เพราะพวกเขาก็ต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากทั้งการดำเนินการมาก และน้อยเกินไป เห็นได้ชัดอยู่แล้วว่า พวกเขาไม่ได้เหมือนกับธนาคารกลางทั่วๆไปอย่าง ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) หรือ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักเศรษฐศาสตร์มองมุมบวกอย่างระมัดระวังต่อการขยายตัวของยูโรโซน

 

 

บรรรดานักเศรษฐศาสตร์ได้แสดงมุมมองบวกอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจในยูโรโซนที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งอาจจะบ่งชี้ว่ายูโรโซนมีแนวโน้มจะขยายตัวปานกลางในช่วงครึ่งหลังของปี 2556

 

 

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เบื้องต้นของยูโรโซนในเดือนก.ค.ดีดตัวขึ้นมาอยู่เหนือระดับ 50 โดยเพิ่มขึ้น 1.7 จุด มาอยู่ที่ 50.4 จาก 48.7 ในเดือนมิ.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากดัชนีภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นที่ปรับตัวขึ้นมาอยู่ 50.1 และ 49.6 ตามลำดับ ในเดือนนี้ โดยนับเป็นครั้งแรกในรอบ 18 เดือนที่ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการต่างก็ปรับตัวในช่วงขาขึ้น

 

 

นายมาร์โค สตริงกา จากดอยช์ แบงก์กล่าวกับสำนักข่าวซินหัวว่า "อาจพูดได้ว่าอุปสงค์ในต่างประเทศกำลังผลักดันการขยายตัวในยูโรโซน ขณะที่ภาคบริการก็ปรับตัวขึ้นด้วย และเมื่อพิจารณาจากประเทศในภูมิภาคที่ยังคงมีปัญหาหนี้สินต่อเนื่องนั้น ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ยูโรโซนปรับตัวดีขึ้นก็คืออุปสงค์จากต่างประเทศที่มาจากสหรัฐ"

นักเศรษฐศาสตร์จากดอยช์ แบงก์กล่าวว่า ธนาคากลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะสามารถชะลอการดำเนินมาตรการ โดยกล่าวเสริมว่านโยบายการเงินอาจจะไม่เป็นไปในเชิงรุกมากเกินไป และอาจจะยังคงสอดคล้องกับพันธสัญญาในการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับปัจจุบันหรือต่ำกว่านี้ต่อไปสักระยะหนึ่ง

 

 

ในแง่ของนโยบายการคลังนั้น นายสตริงกากล่าวว่านโยบายการคลังทำให้ประเทศต่างๆ เช่น ฝรั่งเศส อาจจะมีโอกาสได้หายใจบ้างเล็กน้อย และอาจเป็นการช่วยรัฐบาลในโปรตุเกส สเปนและอิตาลี ซึ่งกำลังเผชิญปัญหาการเมืองภายในประเทศ

 

 

“การกลับมาขยายตัวอีกครั้งเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง และยังจะช่วยลดความเสี่ยงเกี่ยวกับความตึงเครียดทางสังคมที่เพิ่มมากขึ้นในยูโรโซนด้วย"

 

 

ด้านดร.โฮเวิร์ด อาร์เชอร์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ฝ่ายยุโรปและอังกฤษจาก IHS Global Insights กล่าวว่า “ความหวังสำหรับยูโรโซนก็คือความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปัจจุบันจะกระตุ้นให้ภาคธุรกิจชะลอการลดการจ้างงาน และจะมีความพร้อมมากขึ้นในการลงทุน และยังจะกระตุ้นให้ผู้บริโภคใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเล็กน้อย"

ดร.อาร์เชอร์กล่าวว่า อำนาจซื้อของผู้บริโภคได้รับแรงหนุนจากเงินเฟ้อราคาผู้บริโภคที่ไม่รุนแรงที่ 1.6% ทั่วยูโรโซนในเดือนมิ.ย.

 

ทั้งนี้ เขากล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่อีซีบีจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับเดิมที่ 0.5% ในการประชุมกำหนดนโยบายการในวันที่ 1 ส.ค.นี้ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีเฮียเด็กขายของและเพื่อนๆทุกคนครับ

ขอบคุณทุกข้อมูลข่าวสารครับ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิด 31.12/14 อ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้าตามราคาทองคำ

 

 

นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์แห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดวันนี้ที่ระดับ 31.12/14 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้าที่เปิดตลาดที่ระดับ 31.06/08 บาท/ดอลลาร์

 

 

"เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องจากช่วงเช้า โดยเฉพาะช่วงท้ายตลาดมีนักลงทุนปิดสถานะกันมาก โดยปัจจัยหลักวันนี้มาจากราคาทองคำ ซึ่งมีบางช่วงของวันราคาทองลงไปทดสอบระดับต่ำสุดที่ 1,309 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์" นักบริหารเงิน กล่าว

 

 

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในวันพรุ่งนี้ที่ระดับ 31.00-31.18 บาท/ดอลลาร์

 

โดยให้จับตาทิศทางราคาทองคำในตลาดโลกคืนนี้ต่อไป หากราคาหลุด 1,300 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ เงินบาทอาจจะไปทดสอบ 31.18 หรือ 31.21 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งคาดว่าจะมีแรงซื้อกลับมา

 

 

 

 

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.88 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 100.08 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3185 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าที่อยู่ที่ระดับ 1.3198 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,456.68 จุด ลดลง 44.68 จุด, -2.98% มูลค่าการซื้อขาย 56,291 ล้านบาท

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติซื้อสุทธิ 380.99 ลบ.(SET+MAI)

- สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) สรุปภาวะตลาดตราสารหนี้ไทยวันนี้ มีมูลค่าการซื้อขายรวม 52,769 ล้านบาท

- นายวีรพงษ์ รามางกูร ในฐานะประธานกรรมการ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า คณะกรรมการธปท.ยังมีความจำเป็นและยังมีความกระตือรือร้นที่ต้องเดินหน้าแผนการลดขาดทุนของ ธปท.ต่อไป หลังจากสถานะเริ่มดีขึ้นหลังจากค่าเงินดอลลาร์กลับมาแข็งค่า ซึ่งทำให้ผลขาดทุนของ ธปท.ลดลงถึง 1.2 แสนล้านบาท จากเดิมที่สูงถึง 8 แสนล้านบาท

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ปรับลดประมาณการเติบโตของสินเชื่อธนาคารพาณิชย์จดทะเบียนในประเทศในปี 56 ลงมาที่ร้อยละ 11.0 (กรอบคาดการณ์ที่ร้อยละ 9 - 12) จากประมาณการเดิมที่ร้อยละ 11.5 เนื่องจากด้วยโมเมนตัมของเศรษฐกิจไทยในระยะถัดไปที่มีแนวโน้มอ่อนแรงลงจากหลากหลายปัจจัยเสี่ยง

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 198 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,290 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึง เทียบเท่ากับ 1,329.44 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 21.42 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอังกฤษเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัว 0.6% ในไตรมาส 1 ของปี 2556 จากระดับ 0.3% ในไตรมาส 2

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของสเปนเปิดเผยว่า อัตราว่างงานของประเทศลดลง 0.9% แตะที่ 26.3% ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้ จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 27.2% ในไตรมาสแรก ขณะที่จำนวนผู้ว่างงานปรับตัวลง 225,200 ราย สู่ระดับ 5.87 ล้านรายในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งเป็นการลดลงครั้งแรกในรอบ 2 ปี

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอิตาลีในเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะ 97.3 จาก 95.8 ในเดือนมิ.ย. เนื่องจากภาคครัวเรือนมีมุมมองบวกมากขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งมีขนาดใหญ่อันดับ 3 ของยูโรโซน

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

**"โอบามา"เตรียมพร้อมรับมือการอภิปรายงบประมาณรอบใหม่

 

 

ผู้เชี่ยวชาญเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา เปิดฉากการกล่าวสุนทรพจน์ในยกแรกเมื่อวานนี้ เพื่อสนับสนุนจุดยืนที่ต้องการจะสื่อออกไปของพรรคเดโมแครต ก่อนที่จะถึงการอภิปรายงบประมาณรอบใหม่

 

 

การกล่าวสุนทรพจน์ของโอบาม่ามุ่งเน้นไปที่ประเด็นความก้าวหน้าของเศรษฐกิจ นับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจสหรัฐร่วงลง และจุดชนวนภาวะขาลงให้กับเศรษฐกิจทั่วโลก แต่โอบามาก็ได้ย้ำถึงข้อโต้แย้งในอดีตที่ว่า เศรษฐกิจยังไม่ได้อยู่ในจุดที่ควรจะเป็น

 

 

"ด้วยความอดทนและการปรับตัวของชาวอเมริกัน ทำให้เราขจัดเศษซากจากวิกฤตทางการเงินและเริ่มวางรากฐานใหม่ๆสำหรับการขยายตัวทางเศรษฐที่แข็งแกร่งและทนทานขึ้น" ปธน.โอบามา กล่าวกับผู้ฟังในเมืองเกลส์เบิร์ก รัฐอิลลินอยส์ วานนี้

 

 

"แม้ว่าธุรกิจของเรากำลังสร้างงานใหม่ๆและทำกำไรทุบสถิติ แต่ในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา รายได้เกือบทั้งหมดเพิ่มสูงสุดที่ 1% อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่รัฐบาลเตรียมการเพื่อเข้าสู่การอภิปรายงบประมาณอีกรอบหนึ่งนั้น ส่วนแบ่งสำหรับชนชั้นกลางยังไม่สามารถปรับตัวสูงขึ้นกว่านี้ได้" โอบามากล่าว

 

 

แดน มาฮัฟฟี นักวิเคราะห์จากศูนย์การศึกษาประธานาธิบดีและสภาคองเกรสเปิดเผยกับสำนักข่าวซินหัวว่า สุนทรพจน์ดังกล่าวผลักดันโดยปธน.โอบามาและทำเนียบขาว เพื่อส่งสาส์นออกไปล่วงหน้า ก่อนที่การอภิปรายเรื่องเพดานหนี้และงบประมาณจะเปิดฉากขึ้น

 

 

ทำเนียบขาวต้องการให้สภาคองเกรสเพิ่มเพดานหนี้ แต่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสังกัดพรรครีพับลิกันระบุว่า พวกเขาจะไม่ดำเนินอะไรใดๆในประเด็นดังกล่าว ถ้าไม่มีการปรับลดงบประมาณลงก่อน

 

 

สมาชิกพรรครีพับลิกันเผยว่า แถลงการณ์ของโอบามาเป็นการปัดฝุ่นมุมมองเก่าๆ ซึ่งเป็นแนวคิดที่คณะรัฐบาลผลักดันมาตั้งแต่เมื่อ 4 ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามมาฮัฟฟีระบุว่า การที่โอบาม่ายึดมั่นในสาส์นนั้นจะเป็นที่ถูกใจชาวอเมริกัน เนื่องจากเป็นสาส์นด้านเศรษฐกิจประเด็นเดียวกันกับที่ช่วยโอบามาคว้าชัยในศึกการเลือกตั้งปี 2555 ได้เป็นอย่างดี

 

 

"อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริง ไม่ว่าประธานาธิบดีหรือสมาชิกพรรครีพับลิกันต่างก็ไม่สามารถเดินหน้าวาระทางเศรษกิจให้บรรลุผลได้" มาฮัฟฟีกล่าวว่า หลายฝ่ายเชื่อว่าเศรษฐกิจดี แม้ว่าจะมีภาวะชะงักทางการเมืองก็ตาม

จากคำกล่าวของนายมาฮัฟฟี ทำเนียบขาวมองว่าการตอกย้ำสาส์นของนายโอบามาและการสนับสนุนยุทธศาสตร์ที่กำลังเดินหน้าอยู่นั้น ได้ผลดี

 

 

 

 

ในขณะที่เศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย นับตั้งแต่ช่วงขาลงทางเศรษฐกิจ อัตราว่างงานเดือนมิ.ย.ทรงตัวที่ระดับ 7.6% ขณะที่ไม่มีสัญญาณว่าอัตราว่างงานจะบรรเทาลงสู่ระดับที่ยอมรับได้ในเร็วๆนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์บางรายระบุว่า ระดับการว่างงานของตลาดงานจะไม่กลับไปสู่ระดับของยุคก่อนเศรษฐกิจตกต่ำในอนาคตอันใกล้นี้

 

 

คาร์ลิน โบว์แมน สมาชิกระดับอาวุโสของสถาบันผู้ประกอบการอเมริกันเปิดเผยกับซินหัวว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังคงเป็นประเด็นที่ติดอันดับความกังวลสูงสุดของชาวอเมริกัน ดังนั้นประธานาธิบดีจึงต้องพูดถึงเรื่องนี้

 

"ฉันคิดว่าความสำเร็จของสุนทรพจน์จะสามารถตัดสินกันได้จากประเด็นที่ว่า เขามีแนวคิดใหม่ๆหรือไม่ เขาสามารถผลักดันแนวคิดเหล่านั้นไปยังสภาได้หรือไม่ หรือแนวคิดเหล่านั้น จะสามารถเปลี่ยนข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ไปในทิศทางที่ดีขึ้นได้หรือไม่" โบว์แมนกล่าว

 

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 25 กรกฎาคม 2556 17:06:14 น.

กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 25 กรกฎาคม 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,315.58—1,323.89 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ13 อยู่ที่ 19,520 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 210 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,730 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVQ13 อยู่ที่ 610 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 610 บาท

 

 

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.09 น.ของวันที่ 25/07/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

 

แนวโน้มวันที่ 26 กรกฎาคม 2556

คณะรัฐมนตรีจีนเปิดเผยจีนจะยกเลิกการเก็บภาษีบริษัทขนาดย่อมและให้ความช่วยเหลือมากขึ้นแก่ผู้ส่งออกที่มีสถานะย่ำแย่และขยายช่องทางระดมทุนเพื่อเร่งการลงทุนในทางรถไฟ ซึ่งเป็นความพยายามล่าสุดของจีนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวได้ส่งผลบวกต่อทิศทางราคาทองคำซึ่งได้พยุงราคาทองคำไว้หลังจากราคาทองคำร่วงลงจากแรงขายทำกำไร เมื่อราคาแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือน ขณะที่สัญญาณการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่องในสหรัฐ และสกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้น เนื่องจากข้อมูลยอดขายบ้านที่สดใสของสหรัฐ และการพุ่งขึ้นของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ เป็นสัญาณบ่งชี้ว่านักลงทุนกำลังตอบรับกับการที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐใกล้ที่จะปรับลดมาตรการกระตุ้นทางการเงินมากกว่าประเทศชั้นนำอื่นๆ อย่างไรก็ตามการแข็งค่าของสกุลเงินยูโรเมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยเป็นอีกปัจจัยบวกสำหรับตลาดทองคำทั้งนี้ สกุลเงินยูโรได้แรงหนุนจากการขยายตัวมากเกินคาดของกิจกรรมทางธุรกิจในภาคเอกชนของเยอรมนี ผลสำรวจ PMI ของเยอรมนีและฝรั่งเศสออกมาดีเกินคาด และบรรรดานักเศรษฐศาสตร์ได้แสดงมุมมองบวกอย่างระมัดระวังเกี่ยวกับข้อมูลเศรษฐกิจในยูโรโซนที่ปรับตัวดีขึ้น ซึ่งอาจจะบ่งชี้ว่ายูโรโซนมีแนวโน้มจะขยายตัวปานกลางในช่วงครึ่งหลังของปี 2556เป็นอีกหนึงแรงกดดันในตลาดทองคำ เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าในระยะสั้นราคาทองคำพยายามขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์หากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณดังกล่าวได้ มีแนวโน้มที่ราคาทองคำจะขยับขึ้นทดสอบแนวต้านบริเวณ 1,338 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทั้งนี้หากราคาไม่สามารถยืนเหนือ 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้น โดยราคาอาจอ่อนตัวลงสู่แนวรับสำคัญบริเวณ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

กลยุทธ์การลงทุน ทางวายแอลจีมีมุมมองว่า ราคาทองคำจะมีแนวโน้มที่จะแกว่งตัวออกด้านข้าง เบื้องต้นประเมินว่าหากราคาสามารถยืนเหนือบริเวณ 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway Down อย่างไรก็ตามเมื่อราคาขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,328 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,338 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ยังไม่สามารถผ่านไปได้แนะนำขายทำกำไรบางส่วน และแนะนำนักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรือ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยหากราคาไม่หลุดแนวรับราคาทองคำยังมีโอกาสแกว่งตัวออกด้านข้างต่อไป

 

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,309 (19,230บาท) 1,300 (19,100บาท) 1,286 (18,890บาท)

แนวต้าน 1,328 (19,510บาท) 1,338 (19,660บาท) 1,347 (19,790บาท)

GOLD FUTURES (GFQ13)

แนวรับ 1,309 (19,380บาท) 1,300 (19,240บาท) 1,286 (19,040บาท)

แนวต้าน 1,328 (19,660บาท) 1,338 (19,800บาท) 1,347 (19,940บาท)

SILVER FUTURES (SVQ13)

แนวรับ 19.70 (599 บาท) 19.45 (591 บาท) 19.10 (580 บาท)

แนวต้าน 20.35 (619 บาท) 20.80 (633บาท) 21.15 (644 บาท)

หากต้องการทราบทิศทางราคาทองคำและแนวทางลงทุนทองคำ ขอคำปรึกษาเพิ่มเติมจากทีมที่ปรึกษาการลงทุนด้านโกล์ดฟิวเจอร์ส โทร.02-687-9999 และการลงทุนด้านทองคำแท่ง โทร.02-687-9888 หรือwww.ylgbullion.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กรุงเทพฯ--25 ก.ค.--GT Wealth Management

ราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลงมาเคลื่อนไหวอยู่บริเวณ US$1,310 ต่อออนซ์(Gold spot) หลังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ออกมาดี ทำให้ความกังวลเกี่ยวกับมาตรการ QE กลับมากดดันราคาทองคำอีกครั้ง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10ปีสหรัฐฯปรับตัวสูงขึ้นใกล้ระดับ 2.6% สะท้อนแรงขายในตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเทียบตะกร้าสกุลเงินหลัก บวกกับเศรษฐกิจยุโรปที่เริ่มมีการฟื้นตัว โดยดัชนีภาคธุรกิจของเยอรมนี ปรับตัวเพิ่มขึ้นรวมถึงอัตราการว่างงานของสเปนที่ลดลงกว่าที่คาดไว้ โดยคืนนี้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯโดยเฉพาะ ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ด้านค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงแตะระดับ 31.12 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำคงที่ระดับ 929.76 ตัน

 

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 (GFQ13) ปิดที่ระดับ 19,410 บาท ปริมาณการซื้อขาย 1,106 สัญญา

 

สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 ขนาด 10 บาท (GF10Q13) ปิดที่ระดับ 19,400 บาท ปริมาณการซื้อขาย 3,302 สัญญา

 

แนวโน้วทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า sentiment ตลาดเมื่อวานสะท้อนชัดว่าทิศทางราคาทองคำในช่วงนี้จะผันผวนตามการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญสหรัฐฯ เพราะกระทบต่อมุมมองที่มีต่อการคงหรือลดมาตรการ QE ในอนาคต อย่างไรก็ดีเรายังประเมินว่าทิศทางในระยะ 1-2 เดือนข้างหน้าราคายังมีโอกาสฟื้นตัวต่อจากอุปสงค์ในเอเชียและธนาคารกลางในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ ประกอบกับทิศทางเศรษฐกิจในระยะสั้นเชื่อว่ายังไม่ชัดเจนทำให้ในการประชุม FOMC ปลายเดือนนี้ยังไม่น่าจะมีการส่งสัญญาณชะลอ QE ทางเทคนิค ราคาเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้นระยะสั้น US$1,275-1,350 โดยมีกรอบเป้าหมายระยะกลางประมาณ US$1,380-1,400 แนวรับสำคัญระยะสั้น US$1,300

 

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

TEL : 02-673-9911

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Initial Jobless Claims

Actual:343K

Forecast:340K

Previous:336K

Importance: Currency:USDSource Of Report:Department of Labor (Release URL)

OverviewChartHistory

Initial Jobless Claims measures the number of individuals who filed for unemployment insurance for the first time during the past week. This is the earliest U.S. economic data, but the market impact varies from week to week.

 

A higher than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD, while a lower than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Core Durable Goods Orders (MoM)

 

Actual:0.0%

Forecast:0.5%

Previous:1.0%

Importance: Currency:USDSource Of Report:Census Bureau (Release URL)

OverviewChartHistory

Core Durable Goods Orders measures the change in the total value of new orders for long lasting manufactured goods, excluding transportation items. Because aircraft orders are very volatile, the core number gives a better gauge of ordering trends. A higher reading indicates increased manufacturing activity.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Durable Goods Orders (MoM)

Actual:4.2%

Forecast:1.3%

Previous:5.2%

Importance: Currency:USDSource Of Report:Census Bureau (Release URL)

OverviewChartHistory

Durable Goods Orders measures the change in the total value of new orders for long lasting manufactured goods, including transportation items.

 

A higher than expected reading should be taken as positive/bullish for the USD, while a lower than expected reading should be taken as negative/bearish for the USD.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตัวเลขรายงานออกมาไม่ดี ค่าเงินดอลล์น่าจะอ่อนค่าลง แต่จากปัจจัยอื่นสิ่งแวดล้อม จึงต้องแช่ง " ลง "

 

1314811805_double_waterslide_in_empty_pool.gif

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

water-slide-fail-o.gif

 

แนวต้าน : 1325.05, 1332.00, 1336.75, 1340.18

แนวรับ. : 1318.00, 1315.00, 1309.60, 1304.05 และ ถ้าหลุด $1300 ก็ RIP

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...