ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

จีที เวลธ์สรุปภาวะ Gold Futures ภาคเช้าวันนี้ (22 กันยายน 2557) ราคาทองคำปรับตัวลงต่อตามแรงกดดันความวิตกขึ้นดอกเบี้ย FED โดยราคาทองคำปรับตัวลดลง 9.00 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ มาปิดที่ระดับ 1,216.19 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ (Gold Spot) ราคาทองคำอ่อนตัวลงต่อตามความวิตกต่อการลดขนาดมาตรการ QE จนใกล้จะจบและเชื่อว่าจะจบในการประชุมครั้งถัดไปในช่วงปลายเดือนตุลาคม ซึ่งจะทำให้การส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยอาจจะขึ้นเร็ว ๆ นี้ และกดดันราคาทองคำ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นต่อเนื่องขึ้นใกล้ 85 จุด (US Dollar Index) ด้านค่าเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยใกล้ระดับ 32.20 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กองทุน SPDR ถือครองที่ระดับ 776.44 ตัน ลดลง 7.78 ตัน

ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวบริเวณ US$1,212 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนตุลาคม 2557 (GFV14) ราคาเปิดใกล้ระดับ 18,640 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 18,450 บาท ราคาเสนอขาย 18,550 บาท

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำอ่อนตัวลงต่อตามความวิตกการส่งสัญญาณดอกเบี้ย แม้ว่า FED จะไม่ได้มีการให้สัญญาณใด ๆ ในการประชุมครั้งที่ผ่านมาก็ตาม ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงมีแนวโน้มที่แข็งค่าต่อ ในทางเทคนิคราคาทองคำยังอยู่ในเขต Oversold ทำให้ Downside อยู่ในกรอบที่จำกัด แนวรับ US$1,205-1,200 แนวต้าน US$1,230-1,242

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ (22/09/2557)

[Pete 15,187]

บมจ.โกลเบล็ก โฮลดิ้ง แมเนจเม้นท์ แนะกลยุทธ์การลงทุนในทองคำวันนี้ (22 กันยายน 2557) นักลงทุนระยะสั้น(เล่น 1-2 วัน) หลังราคาหลุดแนวรับที่ $1,211/Oz ให้ปิดสถานะซื้อและรอสัญญาณกลับตัว ส่วนนักลงทุนระยะกลาง-ยาว ให้รอสัญญาณกลับตัวก่อนเข้าลงทุนอีกครั้ง

 

ภาพรวมตลาดทองคำคืนวานนี้

Gold – ราคาทองคำโลกปิดปรับตัวลง $9.75/Oz หรือ % มาอยู่ที่ $1,214.80/Oz (จุดต่ำสุด-สูงสุดในรอบวันอยู่ที่ $1,213.70-1,228.49) ราคาทองคำยังปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องหลังจากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าในวันศุกร์ คอนเฟอเรนซ์ บอร์ด เปิดเผยว่า ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นมาตรวัดแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วง 3-6 เดือนข้างหน้า ปรับตัวขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 103.8 ส่วนดัชนีพ้องเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นมาตรวัดสภาพเศรษฐกิจปัจจุบัน เพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. ขณะที่ดัชนีตามเศรษฐกิจปรับตัวขึ้น 0.3% นักวิเคราะห์เชื่อว่า หากดอลลาร์ยังคงแข็งค่าและข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐเป็นไปในเชิงบวกอย่างต่อ เนื่อง ราคาทองก็จะเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก นอกจากนี้ นักลงทุนต่างก็คลายความกังวลหลังจากผลการลงประชามติครั้งประวัติศาสตร์แสดง ให้เห็นว่าชาวสกอตไม่สนับสนุนการแยกตัวเป็นอิสระจากสหราชอาณาจักร ซึ่งได้ช่วยเลี่ยงความปั่นป่วนทางการเงิน และเป็นปัจจัยกดดันราคาทองที่ถือเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

 

แนวโน้มตลาดวันนี้

Gold – แม้ว่าราคาทองคำยังไม่สามารถสร้างฐานได้แต่ RSI เข้าสู่ภาวะขายมากทำให้หากมีสัญญาณกลับตัวมีโอกาสรีบาวด์ได้สูง ในวันนี้มองกรอบราคาทองคำที่ $1,186-1,233/Oz

 

ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญประจำวันนี้

•สุนทรพจน์ประธาน ECB เวลา 20.00 น.

•ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน เวลา 21.00 น.

•ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐ เวลา 21.00 น.

 

 

 

 

 

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ (22/09/2557)

[Pete 15,187]

นักเศรษฐศาสตร์ มอง แนวโน้มเงินบาทอ่อนค่าชัด หลัง "เฟด" ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ย คาดสิ้นปีแตะ 32.50-33.00บาท

 

 

นายอมรเทพ จาวะลา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย สายบริหารความเสี่ยง ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า แนวโน้มเงินบาทในช่วงครึ่งปีหลัง ยังมีทิศทางความผันผวนในด้านอ่อนค่าอยู่ เพียงแต่สำนักวิจัยซีไอเอ็มบี ได้ลดคาดการณ์การอ่อนค่าของเงินบาทมาอยู่ที่ระดับ 32.5 บาทต่อดอลลาร์ จากเดิมที่ประเมินว่าจะอ่อนค่าได้ถึง 34 บาทต่อดอลลาร์

 

สาเหตุที่มีการปรับลดคาดการณ์ดังกล่าวลง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ที่มีแนวโน้มว่าจะผ่อนปรนมากขึ้น ทำให้เงินทุนบางส่วนไหลเข้ามาลงทุนในตลาดเกิดใหม่ รวมทั้งประเทศไทย ซึ่งจะช่วยลดแรงเสียดทานการไหลออกของเงินทุนบางส่วนที่กลับไปลงทุนในสหรัฐ หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นในปีหน้า

 

“เรามองว่าปัจจัยกดดันเรื่องการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดยังคงมีอยู่ แต่ผลที่จะมีต่อค่าเงินบาทน่าจะเลื่อนออกไปเป็นปีหน้า จึงได้ปรับคาดการณ์ในปีนี้ใหม่ แต่ยังคงมองว่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงไปแตะระดับ 34 บาทต่อดอลลาร์ ได้ในปลายปีหน้า” นายอมรเทพกล่าว

 

นายกำพล อดิเรกสมบัติ หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ทิสโก้ กล่าวว่า แม้การประชุมครั้งที่ผ่านมาของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่ส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าจะปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เมื่อไหร่ แต่เชื่อว่าสุดท้ายคงหนีไม่พ้นที่จะต้องส่งสัญญาณที่ชัดเจนขึ้นภายในปีนี้ ทำให้ทิศทางเงินบาทไทยมีแนวโน้มว่าจะยังอ่อนค่าอยู่ โดยมีกรอบแนวรับสำคัญที่ 32.5 บาทต่อดอลลาร์

 

“เราคิดว่ายังไงเฟดก็คงพูดถึงการขึ้นดอกเบี้ยชัดๆ ในปีนี้ ดังนั้นภาพของตลาดเงินช่วงที่เหลือของปี เรามองว่ายังเป็นภาพของความผันผวนในทิศทางที่อ่อนค่าอยู่ และโอกาสที่จะเห็นเงินบาทแข็งค่าทะลุระดับ 32 บาท ไปอยู่ที่ 31 บาทในปีนี้มีค่อนข้างยากแล้ว” นายกำพลกล่าว

 

นายเชาว์ เก่งชน กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด กล่าวว่า จากการที่เอฟโอเอ็มซีคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่สูงขึ้นจากการประเมินในครั้งก่อนหน้า โดยมองว่าดอกเบี้ยนโยบายของเฟดในปีหน้าจะปรับขึ้นเป็น 1.3% จากเดิมที่ 1.1% และในปี 2560 คาดว่าจะเพิ่มเป็น 3.75% จากเดิมที่ 3.35% สะท้อนถึงแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดที่มีความชัดเจนขึ้น

 

จากการคาดการณ์ดังกล่าว ชี้ให้เห็นว่าปัจจัยที่หนุนให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นเริ่มมีไม่มากนัก เพราะถ้าเฟดเริ่มปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย นั่นหมายความว่าสภาพคล่องบางส่วนในตลาดการเงินโลกจะเริ่มหายไป โดยปัจจุบันตลาดตราสารหนี้ไทย มีสัดส่วนนักลงทุนต่างประเทศถือครองอยู่ราว 7 แสนล้านบาท ถ้าเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยจริง เชื่อว่าเงินส่วนนี้คงมีการไหลออกไปบ้าง ซึ่งจะทำให้เงินบาทมีทิศทางการอ่อนค่าที่ชัดเจนขึ้น

 

นอกจากนี้ถ้าดูในเรื่องของดุลบัญชีเดินสะพัดที่เป็นปัจจัยเกี่ยวข้องกับทิศทางของค่าเงินบาท เริ่มมีแนวโน้มว่าจะเกิดดุลได้น้อยลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพราะนโยบายภาครัฐที่มีความชัดเจนขึ้น โดยเฉพาะโครงการลงทุนต่างๆ ทำให้อนาคตอาจต้องสั่งซื้อสินค้าทุนจากต่างประเทศเข้ามามากขึ้น มีผลต่อตัวเลขการนำเข้าที่สูงขึ้น จึงมีผลต่อดุลบัญชีเดินสะพัดโดยตรง

 

สำหรับทิศทางเงินบาทในช่วงสิ้นปี ทางธนาคารกสิกรไทยประเมินว่า เงินบาทน่าจะเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 33 บาทต่อดอลลาร์ โดยจะมีความผันผวนที่มากขึ้นในช่วงปลายปี จึงอยากแนะนำให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกหรือนำเข้า หันมาป้องกันความเสี่ยงจากค่าเงินบาทกันมากขึ้น

 

นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ธนาคารทหารไทย กล่าวว่า โอกาสที่จะเห็นเงินบาทกลับไปแข็งค่าอยู่ในระดับ 31 บาทปลายๆ เป็นไปได้ค่อนข้างยากแล้ว โดยทางศูนย์วิจัยมองว่า กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในช่วงที่เหลือของปีนี้ น่าจะอยู่ที่ระดับ 32-32.5 บาทต่อดอลลาร์

 

“เงินบาทจะกลับมาแข็งค่าได้ต่อเมื่อเศรษฐกิจ มีความเข้มแข็งที่ชัดเจน แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในช่วงที่ผ่านมา ยังเป็นไปแบบช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไปเท่านั้น” นายเบญจรงค์กล่าว

 

 

 

 

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (22/09/2557)

[Pete 15,187]

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.20/21 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ปิดตลาดที่ 32.19/20 บาท/ดอลลาร์

 

วันนี้แนวโน้มเงินบาทคาดว่าจะเคลื่อนไหวไปตามทิศทางของสกุลเงินในภูมิภาค หลังจากที่ผ่านมาพยายามขึ้นไปทำ High แต่ไม่ผ่านแนวต้านสำคัญที่ 32.35 บาท/ดอลลาร์ จากนั้นได้ร่วงลงมาไปทำ low ที่ 32.18 บาท/ดอลลาร์

 

นักบริหารเงิน มองทิศทางวันนี้เงินบาทมีโอกาสแข็งค่าลงมา โดยมองกรอบไว้ที่ 32.10-32.30 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 109 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ 108.90 เยน/ดอลลาร์

 

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2850 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์อยู่ที่ 1.2830 ดอลลาร์/ยูโร

 

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 32.2490 บาท/ดอลลาร์

 

- ดอลลาร์แข็งค่าต่อเนื่องกดราคาทองโลกดิ่ง นักวิเคราะห์หวั่นหลุด 1,1180 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ขณะที่เงินบาท ยังคงอ่อนค่าลงส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน หวังความต้องการทองในฐานทุนสำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางทั่วโลก และความต้องการทองในตลาดรายย่อยจะพยุงราคาทองคำไม่ให้หลุดแนวรับจิตวิทยา 1,260 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์

 

- นักเศรษฐศาสตร์ประเมิน แนวโน้มเงินบาท อ่อนค่าชัด หลัง "เฟด" ส่งสัญญาณดอกเบี้ยขึ้นมากกว่าที่คาด แต่เชื่อได้นโยบายการเงิน "อีซีบี-บีโอเจ" ที่ผ่อนปรนเพิ่ม ช่วยพยุงเงินบาท อ่อนค่าในกรอบ 32.5-33 บาทต่อดอลลาร์ พร้อมประเมินโอกาสเห็น ค่าเงินแข็งค่าแตะ 31 บาทปลายๆ เริ่มเป็นไปได้ยากแล้ว

 

- ธปท.เผยภายในไตรมาส 3 ของปีนี้ จะคลายกฎให้นักลงทุนไทยที่ไปลงทุนตรง-กู้ยืมเงินจากต่างประเทศยกเลิกการประกันความเสี่ยง คาดกระบวนการทำงานแผนแม่บทฯเฟส 2 เริ่มต้นปีหน้า ไม่ห่วงเงินทุนเคลื่อนย้ายระหว่างประเทศช่วงปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินและเศรษฐกิจต่างประเทศ

 

- ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นเมื่อวันศุกร์ (19 ก.ย.) โดยเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังจากนักลงทุนเชื่อว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่งขึ้นจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาด

 

โดยค่าเงินยูโรร่วงลงเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2836 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2917 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับลงที่ 1.6311 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6373 ดอลลาร์

 

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงปรับตัวลง 30 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 11,290 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,222.84 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 3.25 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

 

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์(19 ก.ย.) เนื่องมาจากข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงอุปทานน้ำมันในประเทศที่เพิ่มขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ปิดลดลง 66 เซนต์ แตะที่ 92.41 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์(BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ที่ตลาดลอนดอน ปิดเพิ่มขึ้น 69 เซนต์ ที่ 98.39 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

- รัฐมนตรีคลังและผู้ว่าธนาคารกลางของกลุ่มจี-20 ออกแถลงการณ์ร่วม หลังเสร็จสิ้นการประชุมระยะ 2 วัน ที่ประเทศออสเตรเลีย โดยแสดงจุดยืนร่วมกันที่จะดำเนินมาตรการทางการคลังในแนวทางที่ยืดหยุ่น เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกท่ามกลางความเสี่ยงที่มีเพิ่มขึ้น

 

ทั้งนี้ กลุ่มจี-20 ตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้ามายเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) รวมกันให้เกิน 2% ในอีก 5 ปีข้างหน้าด้วยการกระตุ้นการลงทุนและการจ้างงานของภาคเอกชน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กำหนดขึ้นก่อนหน้านี้

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 22 กันยายน 2557)

[Pete 15,187]

บรรดารัฐมนตรีคลังและผู้ว่าธนาคารกลางของกลุ่มจี-20 ออกแถลงการณ์ร่วมกันหลังเสร็จสิ้นการประชุมระยะ 2 วันในวันนี่ที่เมืองแคนส์ในออสเตรเลีย โดยแสดงจุดยืนร่วมกันที่จะดำเนินมาตรการทางการคลังในแนวทางที่ยืดหยุ่นเพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกท่ามกลางความเสี่ยงที่มีเพิ่มขึ้น

 

"เราจะเดินหน้าดำเนินยุทธศาสตร์การคลังที่ยืดหยุ่นต่อไปเพื่อจะประเมินสภาวะเศรษฐกิจในระยะใกล้ เพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ" แถลงการณ์ร่วมระบุ

 

นอกจากนี้ กลุ่มจี-20 ยังเห็นพ้องจะดำเนินมาตรการเพิ่มเติม เพื่อให้มั่นใจว่าจะบรรลุเป้าหมายการขยายตัวทางเศรษฐกิจ

 

"เราจะเดินหน้ากำหนดมาตรการที่เสริมให้ตรงกับเป้าหมายการขยายตัวร่วมกันของเรา"

กลุ่มจี-20 ตั้งเป้าที่จะบรรลุเป้ามายเพิ่มผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) รวมกันให้เกิน 2% ในอีก 5 ปีข้างหน้าด้วยการกระตุ้นการลงทุนและการจ้างงานของภาคเอกชน ซึ่งเป็นเป้าหมายที่กำหนดขึ้นก่อนหน้านี้

 

ขณะเดียวกันกลุ่มจี-20 ยังเตือนว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจโลก "ไม่สม่ำเสมอและยังต่ำกว่าระดับที่ต้องถึงจึงจะสร้างงานที่จำเป็นมากได้อย่างเพียงพอ" และเตือนถึงความเสี่ยงในตลาดเงินและความเสี่ยงจากความตึงเครียดทางการเมืองระหว่างประเทศ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21/09/57)

 

[Pete 15,187]

สัปดาห์นี้ มีแรงเทขายทองคำในช่วงกลางสัปดาห์ ทำให้ราคาทองคำทำจุดต่ำสุดในรอบ 8 เดือน ที่ 1,215 ดอลลาร์ต่อออนซ์...

 

ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ คืนวันพุธที่ผ่านมา เป็นไปตามที่ตลาดคาดมีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (fed fund rate) ที่ระดับ 0-0.25% และปรับลดวงเงินในการซื้อพันธบัตรของมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ลงอีก 1 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน เหลือ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน และจะสิ้นสุดมาตรการ QE ในการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งถัดไปในเดือนตุลาคม และยังคงยืนยันว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะตรึงอัตราดอกเบี้ยต่ำต่อไปอีก แม้ว่าสิ้นสุดมาตรการ QE อย่างไรก็ดี ธนาคารกลางสหรัฐฯ ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เร็วเกินคาด เมื่อดูจากการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 1.375% ในปลายปีหน้า เทียบกับระดับ 1.125% จากการคาดการณ์ในเดือนมิถุนายน ราคาทองคำฟื้นตัวขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังผลการลงประชามติของสกอตแลนด์ไม่เห็นด้วยในการแยกตัวเป็นเอกราชจากสหราชอาณาจักร

 

สัปดาห์หน้าราคาทองคำมีแนวโน้มอ่อนตัวลงจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะออกมาแข็งแกร่ง โดยสหรัฐฯ จะมีการเปิดเผยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 2 ซึ่งเป็นประมาณการครั้งสุดท้าย ตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 4.5% จากประมาณการครั้งที่ 2 ขยายตัว 4.2% ซึ่งจะมีผลต่อราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญในกรณีที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ จะมีการเปิดเผยตัวเลขภาคอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐฯ ประกอบด้วย ยอดขายบ้านมือสองและยอดขายบ้านใหม่เดือนสิงหาคม คาดออกมาเพิ่มขึ้น ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่ายอดขายบ้านมือสอง จะเพิ่มขึ้นเป็น 5.20 ล้านยูนิต ในเดือนสิงหาคม จาก 5.15 ล้านยูนิต ในเดือนกรกฎาคม

 

ส่วนยอดขายบ้านใหม่จะเพิ่มขึ้นเป็น 0.433 ล้านยูนิตในเดือนสิงหาคม จาก 0.412 ล้านยูนิตในเดือนกรกฎาคม ทางด้านยุโรปจะมีการเปิดเผยดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซนเดือนกันยายน ทั้งนี้ ถ้าตัวเลขดังกล่าวออกมาอ่อนแอ จะทำให้เงินยูโรมีแนวโน้มอ่อนค่าลงและเป็นปัจจัยกดดันต่อราคาทองคำ ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มอ่อนตัว แต่มีโอกาสฟื้นตัวทางเทคนิค เนื่องจากเครื่องมือทางเทคนิคส่งสัญญาณขายมากเกินไป (Oversold) โดยมีแนวรับอยู่ที่บริเวณ 1,215 และ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ ขณะที่มีแนวต้านที่ 1,240 และ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ตามลำดับ.

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (วันที่ 22 กันยายน 2557)

[Pete 15,187]

จิตติ ชี้ช่วงนี้ลงทุนทองน่ากังวล หลังตลาดรับปัจจัยบวกหมดแล้ว คาดทองไทยมีโอกาสแตะ 18,500 บาทต่อบาททองคำ แนะนักลงทุนถือทองไม่ควรเฉลี่ยซื้อ เหมาะซื้อระยะยาว...

 

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ เปิดเผยว่า กรอบการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอยู่ที่ 1,180-1,400 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ โดยแนวโน้มราคาทองคำยังเป็นขาลง และมีความเสี่ยงในการลงทุนค่อนข้างมาก เพราะความเคลื่อนไหวของราคา กับปัจจัยที่เข้ามากระทบมีทิศทางตรงข้ามกัน

 

"ตอนนี้ปัจจัยบวกกับราคาทองคำ ทั้งวิกฤติเศรษฐกิจในยุโรป ความขัดแย้งในยูเครนและอีกหลายประเทศ ถึงแม้หลายคนมองว่า จะมีภาวการณ์กดดันจากมาตรการคิวอีที่จะหายไป และดอกเบี้ยของสหรัฐฯจะเป็นขาขึ้น แต่สิ่งเหล่านี้ตลาดรับทราบหมดแล้ว ดังนั้นราคาทองที่ลดลงน่าจะเกิดจากกองทุนที่เข้ามาเก็งกำไร ทำให้การลงทุนทองคำยอมรับเลยว่าน่ากังวล" นายจิตติ กล่าว

 

ขณะที่ ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ราคาทองคำจะไม่ปรับตัวลดลงไปต่ำกว่า 1,180 ดอลลาร์ เพราะมีต้นทุนหน้าเหมืองที่ค้ำราคาไว้อยู่ ส่วนราคาทองคำในประเทศ มองว่ามีโอกาสที่ราคาทองจะแตะ 18,500 บาทต่อบาททองคำ โดยเป็นราคาที่ต่ำที่สุด

 

อย่างไรก็ตาม แนะนำนักลงทุน หากมีทองคำที่ถืออยู่เดิมไม่ควรจะซื้อเฉลี่ย เพราะราคาทองคำยังมีแนวโน้มขาลงอยู่ ส่วนผู้ที่ยังไม่มีทองคำสามารถเข้าซื้อลงทุนได้ แต่ต้องเป็นผู้ที่ลงทุนระยะยาว.

 

 

 

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (22/09/2557)

[Pete 15,187]

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ประเมินแนวโน้มค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า (22-26 กันยายน) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบประมาณ 32.10-32.30 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องติดตามมุมมองของตลาดการเงินต่อแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ ในปีหน้า เพราะอาจมีผลต่อการเคลื่อนย้ายเม็ดเงินลงทุนของต่างชาติ ตลอดจนสัญญาณเศรษฐกิจสหรัฐฯจากข้อมูลที่สำคัญ ประกอบด้วย ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้าน ส.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือน ก.ย. และจีดีพี ไตรมาส 2/57 นอกจากนี้ นักลงทุนอาจจับตาทิศทางกิจกรรมภาคการผลิตของหลาย ๆ ประเทศชั้นนำ ที่สะท้อนผ่านดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเดือน ก.ย. ด้วยเช่นกัน

 

 

 

 

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ (22/09/2557)

[Pete 15,187]

 

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำของโลกจากสหรัฐฯ ประกาศคงระดับความน่าเชื่อถือในพันธบัตรของรัฐบาลสหราชอาณาจักรเอาไว้ที่ "AA 1" ซึ่งเป็นระดับรองสูงสุด และยืนยันแนวโน้มความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้เอาไว้ที่ระดับ "มีเสถียรภาพ" ซึ่งหมายความว่าจะไม่มีการปรับลดลงภายใน 12-18 เดือนข้างหน้า ถือเป็นเครื่องรับรองความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักร

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของมูดีส์ มีขึ้นหลังผลการลงประชามติว่าด้วยการแยกเอกราชของสกอตแลนด์เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา ปรากฎว่า ร้อยละ 55.30 ต้องการอยู่กับสหราชอาณาจักรต่อไป ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า การที่เสียงคัดค้านการแยกเอกราชสามารถแซงเสียงสนับสนุนขึ้นมาได้ นอกจากได้รับคะแนนจากกลุ่มพลังเงียบแล้ว ยังเป็นเพราะหลายคนเปลี่ยนใจมาคัดค้านในนาทีสุดท้าย ด้วยความกังวลเรื่องเศรษฐกิจ เนื่องจากอังกฤษยืนกรานไม่ให้สกอตแลนด์ร่วมใช้เงินปอนด์สเตอร์ลิงหากแยกตัวออกไป

 

ที่มา : ASTV ผู้จัดการออนไลน์ (วันที่ 20 กันยายน 2557)

 

[Pete 15,187]

สถานการณ์ช่วงนี้ ทองย่ำแย่ ฝรั่งเดาทองขอเดาอาทิตย์ละครั้งในช่วงวันจันทร์ เท่านั้น ดังนั้น วันนี้ จึงมีฝรั่งเดาทอง กล่าวว่า ราคาทองช่วงนี้ หมีหลับ bearish ในลักษณะที่ต่ำกว่า 1215 ซึ่งก็มีความเป็นไปได้เยอะเกินครึ่ง ที่จะต้องมาสัมผัสแนวรับ 1200 แล้วถ้ารับไม่ไหว จุดหมายสุดท้ายท้ายสุดตรง 1184 - 1180 ก็เพียงพอแล้ว ในขณะที่ความหวังอันนัอยนิด ที่ราคาทองจะค่อยๆ ไต่ขึ้นบันได ไปอย่างกระดึ้บ กระดึ้บ มีแนวต้านที่ 1220-1222 และ อาจกระดึ้บไปได้จนถึงวันศุกร์ ที่ 1234 ก็คงได้แค่นี้ ในสถานการณ์บีบคั้นของการจะไม่มี QE อีกแล้ว ของนโยบายนางเยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คนนี้

 

พร้อมแนวทางขาเสี่ยง แบบสัปดาห์ นะจ๊ะ 22-26 กันยายน 2557 เล่นแบบตัดสินใจฉับไว อย่ารีรอ ขอนิดขอหน่อย ไม่น่าดีในช่วงนี้เลย

 

LONG GOLD above 1213 SL 1210 TP 1218-1224-1228-1323

SHORT GOLD below 1210 SL 1213 TP 1202-1196-1190-1186

Good luck! โชคดี เป็นของทุกๆ คน

[chaiklang 161]

สถานการณ์ช่วงนี้ ทองย่ำแย่ ฝรั่งเดาทองขอเดาอาทิตย์ละครั้งในช่วงวันจันทร์ เท่านั้น ดังนั้น วันนี้ จึงมีฝรั่งเดาทอง กล่าวว่า ราคาทองช่วงนี้ หมีหลับ bearish ในลักษณะที่ต่ำกว่า 1215 ซึ่งก็มีความเป็นไปได้เยอะเกินครึ่ง ที่จะต้องมาสัมผัสแนวรับ 1200 แล้วถ้ารับไม่ไหว จุดหมายสุดท้ายท้ายสุดตรง 1184 - 1180 ก็เพียงพอแล้ว ในขณะที่ความหวังอันนัอยนิด ที่ราคาทองจะค่อยๆ ไต่ขึ้นบันได ไปอย่างกระดึ้บ กระดึ้บ มีแนวต้านที่ 1220-1222 และ อาจกระดึ้บไปได้จนถึงวันศุกร์ ที่ 1234 ก็คงได้แค่นี้ ในสถานการณ์บีบคั้นของการจะไม่มี QE อีกแล้ว ของนโยบายนางเยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ คนนี้

 

พร้อมแนวทางขาเสี่ยง แบบสัปดาห์ นะจ๊ะ 22-26 กันยายน 2557 เล่นแบบตัดสินใจฉับไว อย่ารีรอ ขอนิดขอหน่อย ไม่น่าดีในช่วงนี้เลย

 

LONG GOLD above 1213 SL 1210 TP 1218-1224-1228-1323

SHORT GOLD below 1210 SL 1213 TP 1202-1196-1190-1186

Good luck! โชคดี เป็นของทุกๆ คน

 

ขอบคุณครับ สวัสดีตอนเที่ยงครับป๋า

[ariya 1,481]

วันอาทิตย์อีกแล้ว ป๋าไปไหน รอกราฟอยู่ 18500 มาจะซื้อซัก เฟือง มาเชยชม หลังจากเฉยชม 26300 มาหลายปี

 

จะผลักไสอย่างไรก็ยังไม่ไปเพราะทำจายม่ายร่าย

 

เสียวโว้ย ใก้ลละ 18500

[Pete 15,187]

 

 

เสียวโว้ย ใก้ลละ 18500

::

[Pete 15,187]

 

 

เสียวโว้ย ใก้ลละ 18500

เผื่อไว้ เวลาร้องกรี้ด จะได้ไม่เจ็บคอ

[ariya 1,481]

 

เผื่อไว้ เวลาร้องกรี้ด จะได้ไม่เจ็บคอ

 

แปะ กลัวเจ้ซื้อ รีบขึ้นราคาเปย