ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

ตลาดยุโรปรายงานที่จะออกมา ตอนเย็นๆๆ น่าจะส่งผลดีต่อราคาทอง ตามโพลที่ออกมา

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาคกลางคืนของสหรัฐ รายงานออกเพียบ แต่การลงทุนคงนิ่ง รอคำตอบของนางเยลเลน ว่าจะเอายังไง กับดอกเบี้ย ขึ้น เมื่อไหร่ เร็วหรือช้า !!!! ???? สมัยนี้ เหมือนไม่มีข่าวรั่ว ราคาวิ่งนำหน้า มีแต่การรอคอยเวลาประกาศฯ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้ผลิตทรงตัวในเดือนส.ค. ซึ่งช่วยลดน้ำหนักของกระแสคาดกาณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เร็วเกินคาด ขณะที่นักลงทุนจับตาดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณใดๆเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันพุธนี้หรือไม่

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.6 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,236.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 10.1 เซนต์ ปิดที่ 18.721 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 3.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,367.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 7.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 844.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นหลังจากสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อที่สำคัญนั้น ทรงตัวในเดือนส.ค. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1%

 

อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายในตลาดทองคำนิวยอร์กค่อนข้างบางเบา เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย พร้อมกับจับตาดูผลการประชุมระยะเวลา 2 วันของเฟดซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธนี้ตามเวลาสหรัฐ

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเคสวท์ (วันที่ 17 กันยายน 2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 ก.ย.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) โดยดาวโจนส์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในระหว่างวัน เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะยังไม่ส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด ซึ่งจะเสร็จสิ้นในวันพุธตามเวลาสหรัฐ

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,131.97 จุด พุ่งขึ้น 100.83 จุด หรือ +0.59% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,552.76 จุด เพิ่มขึ้น 33.86 จุด หรือ +0.75% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,998.98 จุด เพิ่มขึ้น 14.85 จุด หรือ +0.75%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่จะทราบผลการประชุมของธนาคาร กลางสหรัฐ (เฟด) นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการลงประชามติแยกตัวเป็น เอกราชของสกอตแลนด์

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.31% ปิดที่ 342.84 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,632.93 จุด ลดลง 26.70 จุด หรือ -0.28% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,409.15 จุด ลดลง 19.48 จุด หรือ -0.44% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,792.24 จุด ลดลง 11.97 จุด หรือ -0.18%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับลงเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) หลังจากมีรายงานข้อมูลเงินเฟ้อของอังกฤษที่ชะลอลง

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 11.97 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 6,792.24 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าดัชนีราคาผู้ผลิตทรงตัวในเดือนส.ค. ซึ่งช่วยลดน้ำหนักของกระแสคาดกาณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเวลาที่เร็วเกินคาด ขณะที่นักลงทุนจับตาดูว่าเฟดจะส่งสัญญาณใดๆเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมวันพุธนี้หรือไม่

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.6 ดอลลาร์ หรือ 0.13% ปิดที่ 1,236.7 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 10.1 เซนต์ ปิดที่ 18.721 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 3.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,367.3 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 7.40 ดอลลาร์ ปิดที่ 844.30 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าทำกำไรจากการทะยานขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของดอลลาร์ ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มต้นการประชุมนโยบายการเงินที่มีระยะเวลา 2 วัน

 

ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2961 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2937 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.6280 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6228 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 107.15 เยน เทียบกับระดับ 107.20 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9326 ฟรังค์ จาก 0.9355 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9094 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9028 ดอลลาร์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (16 ก.ย.) หลังจากนายอับดุลเลาะห์ เอล-บาดรี เลขาธิการกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ส่งสัญญาณว่า โอเปคอาจจะปรับลดโควต้าการผลิตน้ำมันดิบในปีหน้า

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 1.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 94.88 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.17 ดอลลาร์ ปิดที่ 99.05 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

โดย : ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ

 

ดังที่ผมเคยเขียนถึงก่อนหน้านี้กระแสความกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวอย่างเชื่องช้าและเกิดปรากฏการณ์ซึมยาว

 

นั้นกำลังเป็นเรื่องที่นักเศรษฐศาสตร์กำลังให้ความสนใจอย่างมากเพราะมีความสำคัญทั้งในเชิงของความอยู่ดีกินดีของประชาชนทุกคนและในเชิงวิชาการ กล่าวคือ

 

เรื่องเศรษฐกิจซึมยาวนั้นเป็นเรื่องที่เคยเป็นห่วงกันอยู่พักหนึ่งหลังจากโลกเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจตกต่ำอย่างรุนแรงเมื่อ 80 ปีก่อนหน้า แต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองจบลง เศรษฐกิจโลกก็ฟื้นตัวได้อย่างแข็งแรงและตรงกันข้ามเศรษฐกิจโลกขยายตัวอย่างร้อนแรง ในขณะที่ (เมื่อมองกลับไป) นโยบายการเงินและการคลังโดยรวมผ่อนคลายเกินไป ทำให้โลกต้องเผชิญกับปัญหาเงินเฟ้ออย่างรุนแรงในทศวรรษ 70 หลายคนอาจลืมไปแล้วว่าในช่วงปี 1979-1980 นั้นแทบจะทุกประเทศเผชิญกับเงินเฟ้อ 2 หลัก (คือ 10% หรือสูงกว่านั้น) ต่อปี ในขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐต้องปรับดอกเบี้ยขึ้นสูงถึง 20% จึงสามารถปราบเงินเฟ้อได้อยู่มือในเกือบ 10 ปีให้หลัง แต่ก็ต้องแลกกับการที่เศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะตกต่ำอย่างรุนแรงในปี 1980-1982 และกว่าจะฟื้นตัวอย่างยั่งยืนก็ต้องทอดเวลาไปถึงปี 1986-1987

 

ดังนั้น จึงต้องตั้งคำถามว่าครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนอย่างไร เพราะการดำเนินนโยบายการเงินการคลังที่ผ่อนคลายมากในปัจจุบัน เช่น ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐ ยุโรปและญี่ปุ่นใกล้ศูนย์ โดยมองว่าจะเป็นเช่นนี้ไปได้อีกนานเพื่อพยุงให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและในหลายกรณีจะระวังปัญหาเงินฝืดมากกว่าปัญหาเงินเฟ้อโดยเฉพาะในยุโรปและญี่ปุ่น

 

ฝ่ายที่กลัวเศรษฐกิจจะซึมยาวชี้ว่าปัจจุบันนักลงทุนกลัวปัญหายูเครนมากกว่าปัญหาอิรัก กล่าวคือปัญหายูเครนนั้นหากรุนแรงมากขึ้น (ยุโรปกับรัสเซียคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจตอบโต้กัน) ก็จะเสี่ยงทำให้เศรษฐกิจยุโรปเข้าสู่ภาวะตกต่ำ กล่าวคือ กลัวกำลังซื้อหดตัวจากสงครามการค้ามากกว่าการกลัวปัญหาที่กลุ่ม ISIS เข้ายึดครองบ่อน้ำมันของอิรัก ซึ่งกรณีหลังนี้จะทำให้ราคาน้ำมันโลกปรับสูงขึ้นและเกิดปัญหาเงินเฟ้อ (แบบ cost-push) ซึ่งจะเป็นปัญหาที่อุปทานขาด แต่ในกรณีแรกจะเป็นปัญหาที่เกิดจากการขาดแคลนอุปสงค์

 

ทำไมโลกในช่วง 5-10 ปีข้างหน้าอาจเผชิญปัญหาขาดแคลนอุปสงค์? ฝ่ายที่กลัวโลกจะซึมยาวให้เหตุผลดังนี้

 

1. ศักยภาพของการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกลดลง (lower potential growth) ซึ่งเป็นประเด็นที่น่ากลัวที่สุดหากเป็นจริงและอาจเป็นเพราะ

 

1.1 ประชากรแก่ตัวลงอย่างรวดเร็วมีคนแก่จำนวนมากซึ่งทำงานไม่ได้และบริโภคน้อย

 

1.2 ประชาชนทุกคนได้รับการศึกษาครบถ้วนและแพร่หลายแล้วจึงไม่เกิดผลิตภาพเพิ่มขึ้นจากการขยายตัวของการศึกษาเช่นสมัยก่อน

 

1.3 วิวัฒนาการทางเทคโนโลยีเข้าสู่สภาวะอิ่มตัวแล้ว กล่าวคือเมื่อ 20 ปีที่แล้วเป็นจุดเกิดของยุคไอที (ทั้งอินเทอร์เน็ต การเพิ่มอย่างก้าวกระโดดของศักยภาพของคอมพิวเตอร์และระบบสื่อสารโทรคมนาคม) แต่ตอนนี้โทรศัพท์ไอโฟน 6 ที่จะออกมาใหม่ ก็มิได้แตกต่างจากไอโฟน 3,4 หรือ 5 มากนัก ดังนั้นจึงไม่มีวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจ

 

1.4 ช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนนับวันมีแต่จะเพิ่มขึ้น ซึ่งคนรวยนั้นบริโภคน้อยกว่าคนจนเมื่อเปรียบเทียบกับรายได้

 

1.5 หนี้สาธารณะของประเทศพัฒนาแล้วทั้งหมดสูงมากและยังมีพันธะมากมายในด้านรัฐสวัสดิการ ทำให้ต้องดำเนินนโยบายการคลังที่ตึงตัวไปอีกนานหลายปีเพื่อรักษาวินัยทางการคลัง

 

2. อุปสงค์ไม่พอเพียง (aggregate demand shortage) นักวิชาการกลุ่มนี้ เช่น อดีตรัฐมนตรีคลัง นาย Lawrence Summers และ Prof. Paul Krugman มองว่าภาระหนี้สินที่เกิดขึ้นและทำให้เศรษฐกิจตกต่ำนั้นยังเป็นปัญหาสำคัญที่เหนี่ยวรั้งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อเสมือนเป็นลูกตุ้มถ่วงอยู่ทำให้ต้องกดดอกเบี้ยนโยบายให้ต่ำติดดิน (เพื่อลดภาระของหนี้สิน) เพื่อประคับประคองเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ต่อไปและเป็นไปได้ว่าจะต้องยอมให้เกิดฟองสบู่ในบางส่วนของเศรษฐกิจ (เพราะดอกเบี้ยต่ำเกินไป) มิฉะนั้นแล้วเศรษฐกิจโดยรวมจะทรุดตัวลงอีก

 

หรือกล่าวอีกทางหนึ่งคือหากจะหวังให้เศรษฐกิจฟื้นตัวและเข้าสู่สภาวะปกติ (อัตราการว่างงานต่ำและใช้กำลังการผลิตเป็นปกติ) ก็อาจต้องยอมให้ดอกเบี้ยจริงติดลบ (ดอกเบี้ยต่ำกว่าอัตราเงินเฟ้อมาก) ซึ่งจะเสี่ยงต่อการเกิดฟองสบู่ดังที่กล่าวข้างต้นและในระยะยาวก็น่าจะสร้างปัญหาว่าการออมจะตกต่ำเพราะผู้ออมจะไม่ได้ผลตอบแทนแต่อย่างใด อย่างไรก็ดีในระยะสั้นมักจะเป็นประโยชน์ต่อตลาดทุนเพราะราคาหุ้นจะปรับสูงขึ้น รวมถึงราคาสินทรัพย์อื่นๆ เช่น ที่ดิน เป็นต้น

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ (15/09/2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รอเจ๊ใหญ่ มาทำทองฟู่ฟ่า ครับ

 

ขอบคุณป๋ามาก ๆ ครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองคำปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ท่ามกลางกระแสคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี

 

 

สัญญาทองคำตลาดล่วงหน้าสหรัฐ ปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อย ก่อนหน้าที่เฟดจะประกาศนโยบายดอกเบี้ยรอบใหม่ ท่ามกลางกระแสคาดการณ์จากนักลงทุนในตลาดว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี

 

ทั้งนี้ สัญญาตลาดโคเม็กซ์' ทองคำตลาดโคเม็กซ์ สหรัฐ ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 1.60 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ราคา 1,236.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

 

ที่มา : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (17/09/2557)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Gold held above the lowest level since January before the Federal Reserve ends a two-day policy meeting that’s expected to see a further cut to stimulus at a time when other central banks are spurring their economies.

 

Gold for immediate delivery traded at $1,237.02 an ounce at 9:03 a.m. in Singapore from $1,235.55 yesterday, when prices rose for a second day, according to Bloomberg generic pricing. The metal fell to $1,225.67 on Sept. 15, the lowest since Jan. 9, and the 14-day relative strength index held below 30 for a fifth day today, signaling prices may be poised to rebound.

 

Gold halted a 12-year rally in 2013 as the Fed prepared to reduce the monthly asset purchases, which it has done six times this year. Fed officials are now considering the timing of interest-rate increases, spurring gains in the dollar. In China, the world’s largest bullion consumer, the central bank is providing 500 billion yuan ($81.4 billion) of liquidity to the country’s five biggest banks, Sina.com reported yesterday .

(+/0) จีนออกมาตรการอัดฉีดเงิน 5 แสนล้านหยวน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านการปล่อยสภาพคล่องระยะสั้น 2 วัน ให้สถาบันการเงิน MS มอง Neutral ต่อตลาด (คาดไว้อยู่แล้ว) / เรามองภาพระยะสั้น หุ้นเชื่อมโยงสินค้าโภคภัณฑ์ PSL TTA BANPU PTTGC IVL อาจขึ้นได้ไม่ไกลจากข่าวนี้ แต่ ระยะกลางคาดมีโอกาส Outperform ตลาด เพราะมองว่าจีน มีโอกาสจะดำเนินนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายเพิ่มขึ้น

 

“As the U.S. economy continues to recover and monetary policies in other countries diverge, namely in Europe and China, the dollar will remain strong and put precious metals under pressure,” said Yang Xi, a Hangzhou, China-based analyst at Yongan Futures Co. Investors will watch the Fed’s language closely, said Yang.

 

The European Central Bank has cut the main refinancing rate to a record low and said it would buy asset-backed securities to bolster the economy. In Japan, the government has said it will prepare a backup plan for stimulus.

 

Borrowing Costs

 

The Bloomberg Dollar Spot Index fell the most in four months yesterday on speculation that the Fed will maintain a pledge to keep borrowing costs low for a “considerable time.” The currency remains 2.8 percent higher this year, and is still headed for the biggest quarterly increase since 2011.

 

Gold for December delivery fell as much as 0.3 percent to $1,233.40 an ounce on the Comex inNew York, before trading at $1,235.90. Holdings in the SPDR Gold Trust, the biggest bullion-backed exchange-traded product, contracted yesterday to 784.22 metric tons, the least since June.

 

Silver for immediate delivery traded at $18.7197 an ounce from $18.7198 yesterday. Spot platinum was at $1,366.50 an ounce from $1,366.75. Palladium decreased 0.2 percent to $841.90 an ounce.

 

Source:bloomberg (17/09/2014)

ถูกแก้ไข โดย เด็กขายของ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เริ่มมีแรงซื้อทองคำกลับเข้ามาหลังจากที่ราคาอ่อนตัวลงต่อเนื่อง ติดต่อกันหลายวัน นักลงทุนต่างรอติดตามผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่เริ่มขึ้นในช่วงค่ำที่ผ่านมา...

 

โดยจะทราบผลการประชุมและคำแถลงหลังการประชุมในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำในช่วงนี้จะเป็นการแกว่งตัวในกรอบแคบเพื่อรอความ ชัดเจนจากประเด็นดังกล่าว โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อวานนี้ที่ 1,234.75 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ เพิ่มขึ้น 2.50 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,241 และ 1,231 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ตามลำดับ

 

ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวานนี้ ขายออกที่บาทละ 18,950 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,850 บาท กองทุน SPDR รายงานว่าได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงราว 4.18 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 788.40 ตัน

 

ราคาทองคำ เคลื่อนไหวในกรอบแคบก่อนที่จะปิดตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับปิดของวัน จันทร์ได้เพียงเล็กน้อย นักลงทุนต่างรอติดตามการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ เพื่อหาสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นดอกเบี้ย ส่งผลให้การเคลื่อนไหวของราคาทองในช่วงก่อนทราบผลการประชุมมีการเคลื่อนไหว ในกรอบค่อนข้างแคบ

 

ส่วนการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจในช่วงค่ำที่ผ่านมานั้นมีผลต่อการเคลื่อนไหว ของราคาทองคำค่อนข้างน้อย โดยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนสิงหาคมของสหรัฐฯ ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.1% ส่วนในช่วงค่ำวันนี้จะมีการรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนสิงหาคม โดยผลสำรวจประเมินว่าจะขยายตัวขึ้น 0.1% ซึ่งยังเป็นระดับการเคลื่อนไหวที่ยังไม่เป็นอุปสรรคต่อการใช้นโยบายการเงิน แบบผ่อนคลาย แต่หากรายงานออกมามากกว่าที่คาด ก็อาจส่งผลลบต่อราคาทองในระยะสั้น ผ่านมุมมองของนักลงทุนเกี่ยวกับโอกาสที่มากขึ้นสำหรับการปรับขึ้นอัตรา ดอกเบี้ยเร็วกว่าที่เคยประเมิน

 

ส่วนภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในทางเทคนิค ซึ่งในการซื้อขายเมื่อวานนี้ราคาทองคำสามารถยุติการทำจุดต่ำสุดใหม่ใน ระหว่างวันได้ จึงเป็นสัญญาณการฟื้นตัวกลับ โดยคาดว่าราคาทองจะปรับตัวขึ้นไปยังแนวต้านบริเวณ 1,247-1,250 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ได้ต่อไป แต่กรณีที่ราคาทองไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 1,225 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ก็จะเป็นสัญญาณขายกดดันให้ราคาทองคำปรับตัวลงไปยังแนวรับบริเวณ 1,200 และ 1,180 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ต่อไป.

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (17/09/2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณ ข้อมูลข่าวสาร มากๆครับ

 

:gd :gd :gd :gd :gd

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชอบ Logo ใหม่ของพี่เด็กขายของจัง ภาพ อินทร์เหินเวหา :gd ทำให้มีกำลังใจถือน้องทองต่อไปค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...