ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
tt2518

ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

โพสต์แนะนำ

รายงานวันนี้ืของฝั่งยูโร ตามโพล ส่งผลด้านลบต่อราคาทอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีตอนเช้าครับ

 

เมื่อคืนทองวิ่งดีแท้

 

เกาะรถด่วนสายเหนือทัน

 

ขอบคุณ ป๋า สำหรับข่าวสารครับ ^^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานสหรัฐฯ ตามโพลมีผสมกันดีเลว ช่วงต้นคนว่างงานบอกว่าเพิ่มขึ้น ก็ไม่ดีต่อราคาทอง ค่ำกว่านั้น ก็เริ่มตัวเลขออกมาไม่ดี โพลฯ ก็คือ โพล คือตัวเลขคาดการณ์ จะแม่นหรือไม่ตรง ก็ได้ แต่ที่แน่ๆ ย่อมมีผลกระทบต่อราคาทอง ขยับตัว ขึ้นและลง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจจะไม่มีความต่อเนื่องยาวนานตามที่คาดกันไว้ ซึ่งได้สกัดการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในกลางปีหน้า

 

ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2778 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2645 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.5929 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5906 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 106.01 เยน เทียบกับระดับ 106.99 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9439 ฟรังค์ จาก 0.9546 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8771 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8709 ดอลลาร์

 

ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่ย่ำแย่ได้สร้างความวิตกเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ และเป็นปัจจัยที่กดดันดอลลาร์ โดยเมื่อคืนนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนก.ย. ซึ่งนับว่าหดตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง

 

นักวิเคราะห์กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2% และอาจจะส่งผลให้การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต้องล่าช้าออกไปจากเดิมที่คาดกันไว้ในช่วงกลางปี 2558

 

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐระบุว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐปรับตัวลดลง 0.3% ในเดือนก.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนส.ค. ซึ่งสะท้อนถึงอุปสงค์จากผู้บริโภคที่อ่อนแอลง นอกจากนี้ ยอดค้าปลีกเดือนก.ย.ยังปรับตัวลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดไว้ว่าจะลดลง 0.1%

 

ขณะเดียวกัน เฟดสาขานิวยอร์ก รายงานว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ซึ่งเป็นการสำรวจกิจกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์ก ร่วงลงแตะ 6.17 ในเดือนต.ค. จากระดับ 27.54 ในเดือนก.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดว่าจะลดลงแตะ 20.25

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 16 ตุลาคม 2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กำนันบุญไปเยี่ยมลูกสาวซึ่งแต่งงานอยู่กินกับชาวอเมริกัน เมื่อไปถึงอเมริกาลูกเขยก็ต้อนรับเต็มที่เรียกได้ว่าเลี้ยงดูปูเสื่อสามวันสามคืน วันที่สาม กำนันบุญจึงถามลูกเขยว่า

"ถามจริง ๆ เถอะ เลี้ยงดูขนาดนี้ ยูเอาเงินมาจากไหน"

"อ๋อ ดูโน่นซีครับพ่อตา" ลูกเขยตอบพลางชี้ไปทางแม่น้ำแล้วถามว่า

"เห็นอะไรไหม"

"เห็น ก็แม่น้ำไง"

"แล้วเห็นสะพานไหม"

"เห็น"

"นั้นแหละครับ สะพานที่ผมสร้างขึ้น เวลารถผ่านแต่ละคัน ก็ต้องเสียสตางค์ให้ผม เงินก็มาจากนั้นแหละครับ"

ปีต่อมา ลูกเขยมาเที่ยวเมืองไทยพร้อมภรรยา กำนันบุญเลี้ยงตอบแทนอย่างเอิกเกริกสามวันสามคืนเหมือนกัน ลูกเขยจึงตั้งคำถามเดียวกันว่า พ่อตาเอาเงินมาจากไหน

"เห็นแม่น้ำนั้นไหม" กำนันบุญถาม

"เห็น"

"เห็นสะพานไหม"

"ไม่เห็นสะพานเลย" ลูกเขยตอบ

"ก็นั้นแหละ เงินที่เราเลี้ยงกันอยู่นี่ก็เป็นเงินสำหรับสร้างสะพานของตำบลนี้แหละ"

 

=====

 

ขำอ๊ะป่าวไม่รู๊???ๅ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 10.5 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ปิดที่ 1,244.8 ดอลลาร์/ออนซ์

 

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ถึงความอ่อนแอของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยทางการสหรัฐเปิดเผยว่ายอดค้าปลีกเดือนก.ย.ร่วงลง 0.3% มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงเพียง 0.1% ขณะที่ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ซึ่งเป็นการสำรวจกิจกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์ก ร่วงลงแตะ 6.17 ในเดือนต.ค. จากเดือนก.ย.ที่ระดับ 27.54 ส่วนสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจขยับขึ้น 0.2% ในเดือนส.ค. น้อยกว่าที่ที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.4%

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในเทศกาลวิวาห์และ เทศกาลเฉลิมฉลองในประเทศอินเดีย โดยมีรายงานว่า อินเดียนำเข้าทองคำในเดือนก.ย.มูลค่า 3.75 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าเดือนส.ค.เกือบสองเท่า

 

 

 

 

 

 

ที่มา : ฐานเศรษฐกิจออนไลน์ (16/10/2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 15 ต.ค.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากสหรัฐ จีน และเยอรมนีเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดค้าปลีกของสหรัฐที่หดตัวลงในเดือนก.ย.

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 16,141.74 จุด ร่วงลง 173.45 จุด หรือ -1.06% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,215.32 จุด ลดลง 11.85 จุด หรือ -0.28% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,862.49 จุด ลดลง 15.21 จุด หรือ -0.81%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลงรุนแรงสุดในรอบ 3 ปี หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ รวมถึงยอดค้าปลีกและข้อมูลด้านการผลิต

 

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 3.2% ปิดที่ 311.36 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,939.72 จุด ร่วงลง 148.53 จุด หรือ -3.63% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,571.95 จุด ร่วงลง 253.26 จุด หรือ -2.87% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,211.64 จุด ลดลง 181.04 จุด หรือ -2.83%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแรง และการร่วงลงของหุ้น Shire ซึ่งเป็นบริษัทเวชภัณฑ์รายใหญ่ของอังกฤษ

 

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 181.04 จุด หรือ 2.83% ปิดที่ 6,211.64 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก หลังจากสหรัฐและประเทศต่างๆได้เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ นอกจากนี้ ตลาดยังคงได้รับแรงกดดันหลังจากสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ได้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการน้ำมันทั่วโลก

 

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 6 เซนต์ ปิดที่ 81.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ย.ร่วงลง 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 83.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อันเป็นผลมาจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก

 

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 10.5 ดอลลาร์ หรือ 0.85% ปิดที่ 1,244.8 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.1 เซนต์ ปิดที่ 17.464 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 11.4 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,260.9 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 30.85 ดอลลาร์ ปิดที่ 764.25 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (15 ต.ค.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอแสดงให้เห็นว่าแนวโน้มการขยายตัวของ เศรษฐกิจสหรัฐอาจจะไม่มีความต่อเนื่องยาวนานตามที่คาดกันไว้ ซึ่งได้สกัดการคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในกลางปีหน้า

 

ค่าเงินยูโรเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2778 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2645 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ปรับขึ้นที่ 1.5929 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5906 ดอลลาร์

 

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 106.01 เยน เทียบกับระดับ 106.99 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9439 ฟรังค์ จาก 0.9546 ฟรังค์

 

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8771 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8709 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 16,141.74 จุด ลดลง 173.45 จุด -1.06%

 

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,215.32 จุด ลดลง 11.85 จุด -0.28%

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ออกมาย่ำแย่ของสหรัฐฯกลับมาเป็นปัจจัยบวกต่อ การเคลื่อนไหวของราคาทองคำ โดยในระหว่างวันมีแรงขายทำกำไรสลับออกมาจนราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับ ทางเทคนิค...

 

ก่อนที่จะเริ่มฟื้นตัวกลับและปิดตลาดเพิ่มขึ้นหลังจากในการซื้อขายวัน อังคารราคาทองปิดตลาดอ่อนตัวลง โดยราคาทองปิดตลาดเมื่อวานที่ 1,241.70 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ เพิ่มขึ้น 9.65 ดอลลาร์ ราคาทำจุดต่ำสุดและจุดสูงสุดที่ 1,221 และ 1,249 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ ส่วนราคาซื้อขายทองคำแท่งในประเทศชนิด 96.5% เมื่อวาน ขายออกที่บาทละ 18,900 บาท และรับซื้อคืนที่บาทละ 18,800 บาท กองทุน SPDR รายงานว่าได้ลดปริมาณการถือครองทองคำลงราว 2.09 ตัน ส่งผลให้ปัจจุบันกองทุนถือครองทองคำรวม 759.14 ตัน

 

ราคาทองปรับตัวเพิ่มขึ้นในการซื้อขายช่วงค่ำที่ผ่านมาหลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าผิดหวัง ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและเข้าซื้อ ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย โดยในช่วงค่ำที่ผ่านมากระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกสหรัฐฯปรับตัวลดลง 0.3% ในเดือนกันยายน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนสิงหาคม ซึ่งสะท้อนถึงอุปสงค์จากผู้บริโภคที่อ่อนแอลง ในขณะที่ผลสำรวจประเมินว่ายอดค้าปลีกจะลดลง 0.1% ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขานิวยอร์กเปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจโดยรวม (Empire State Index) ซึ่งเป็นการสำรวจกิจกรรมการผลิตในเขตนิวยอร์กร่วงลงแตะ 6.17 ในเดือนตุลาคม จากระดับ 27.54 ในเดือนกันยายน ขณะที่นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งคาดว่าจะลดลงแตะ 20.25

 

ส่วนกระทรวงแรงงานสหรัฐฯเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ปรับตัวลดลง 0.1% ในเดือนกันยายน ซึ่งนับว่าหดตัวลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เนื่องจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารและพลังงานที่มีความผันผวนสูง ทรงตัวในเดือนกันยายน เมื่อเทียบรายเดือน ทั้งนี้การลดลงของดัชนี PPI ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เกิดจากราคาของกลุ่มผู้ผลิตนั้น ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังสามารถคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำต่อไปได้ แม้ว่าโครงการซื้อพันธบัตรของเฟดจะสิ้นสุดลงในเดือนนี้แล้วก็ตาม ส่วนค่ำวันนี้จะมีการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของ สหรัฐฯ ซึ่งผลสำรวจประเมินว่าจะมีผู้ขอรับสวัสดิการราว 2.86 แสนราย เทียบกับสัปดาห์ก่อนที่ 2.87 แสนราย และนอกจากรายงานดังกล่าวแล้ว

 

ในช่วงค่ำวันนี้จะมีการรายงานตัวเลขภาคการผลิตอุตสาหกรรมเดือนกันยายน ดัชนีแนวโน้มธุรกิจเดือนตุลาคมและข้อมูลในภาคที่อยู่อาศัยเดือนตุลาคมของ สหรัฐฯ หากรายงานที่ออกมามีสัญญาณชะลอตัว ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ และสำหรับการเคลื่อนไหวราคาทองคำในทางเทคนิคซึ่งวานนี้ราคาทองคำอ่อนตัวลง เข้าใกล้แนวรับบริเวณ 1,220 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ก่อนที่จะมีแรงซื้อกลับเข้ามาจนราคาดีดตัวขึ้นในปริมาณมาก แต่ในช่วงที่ราคาทองดีดตัวผ่านแนวต้านบริเวณ 1,240 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ก็กลับมีแรงขายสลับออกมาจนราคาอ่อนตัวลดช่วงบวกลง ภาพเทคนิคของราคาทองยังมีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อ แนวรับบริเวณ 1,230-1,235 และ 1,220-1,225 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ยังเป็นระดับแนวรับที่สามารถกลับเข้าซื้อเก็งกำไร โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 1,250 และ 1,260 ดอลลาร์ ต่อ ออนซ์ ตามลำดับ.

 

 

 

 

 

ที่มา : ไทยรัฐออนไลน์ (16/10/2557)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธุรกิจโลก

 

ชีพจรเศรษฐกิจกลุ่มยูโรโซน 18 ชาติ ในภาคีสหภาพยุโรป ซึ่งใช้สกุลเงินยูโรร่วมกัน มีอาการเต้นแผ่วเกินคาด กระทั่งธนาคารกลางแห่งยุโรป หรือ “อีซีบี” ต้องออกมาตรการประคับประคองแบบเร่งด่วนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา

 

สัญญาณอันตรายทางเศรษฐกิจในกลุ่ม 18 ชาติยูโรโซนที่ตรวจจับได้มีด้วยกัน 2 ประการ

 

ประการแรก แนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจทั้งในรอบปีนี้ และปี 2558 ที่อ่อนยวบลงร้อยละ 0.1 จากที่เคยประมาณการไว้ในช่วงกลางปี

 

ตอนกลางปี เคยคาดหมายอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในรอบปี 2557 เอาไว้ที่ร้อยละ 1 และอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ ในรอบปี 2558 ไว้ที่ร้อยละ 1.7 แต่มาถึงตอนนี้มีการปรับลดประมาณการอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจในรอบปี 2557 มาอยู่ที่ร้อยละ 0.9 และประมาณการอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ สำหรับปี 2558 มาอยู่ที่ร้อยละ 1.6

 

ประการที่สอง แนวโน้มภาวะเงินฝืดส่อเค้าจะมีความหนักหนาสาหัสมากขึ้น โดยมีข้อพิสูจน์จากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งมีเพียงแค่ร้อยละ 0.3 ทั้งที่อัตราเงินเฟ้อเป้าหมายกำหนดไว้ที่ร้อยละ 2

 

เพื่อรับมือกับสัญญาณอันตรายทางเศรษฐกิจ และกระตุ้นการเติบโตของระบบเศรษฐกิจ อีซีบี จึงได้ผลักดันมาตรการสำคัญออกมา 2 ประการ

 

ประการแรก คือการประกาศลดอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานที่ต่ำอยู่แล้ว ให้ต่ำเรี่ยดินยิ่งขึ้นไปอีก โดยลดลงจากร้อยละ 0.15 ให้เหลือแค่ร้อยละ 0.05 เท่านั้น ขณะเดียวกันก็ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจาก “ติดลบ” ร้อยละ 0.1 เป็น “ติดลบ” ร้อยละ 0.2

 

ประการที่สอง คือการตั้งกองทุนซื้อสินเชื่อจากสถาบันการเงิน หรือ “Asset Back Securitization Plan” เพื่อเสริมสภาพคล่องแก่สถาบันการเงิน ให้สามารถปล่อยสินเชื่อเพิ่มเติมเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ

 

ในเบื้องต้นขนาดของกองทุนเพื่อการซื้อสินเชื่อจากสถาบันการเงิน จะมีจำนวน 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และสินเชื่อที่กองทุนจะเข้าซื้อได้แก่สินเชื่อประเภทสินเชื่อเพื่อการซื้อที่อยู่อาศัย สินเชื่อบัตรเครดิต สินเชื่อรถยนต์

 

เป้าหมายสำคัญที่สุดในการดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2 ประการของอีซีบี มีอยู่ด้วยกัน 2 ประการเช่นกัน

 

ประการแรก เพื่อกระตุ้นให้เกิดการขยายการลงทุน และการสร้างงาน

 

ประการที่สอง เพื่อกระตุ้นการส่งออกสินค้า เนื่องจากทั้งการลดอัตราดอกเบี้ยและการอัดฉีดสภาพคล่องผ่านสถาบันการเงินในรูปของกองทุนเพื่อการซื้อสินเชื่อจากสถาบันการเงิน จะกดดันให้ค่าเงินยูโรอ่อนตัวลง และไปมีผลในการสนับสนุนการส่งออกสินค้าจากกลุ่มยูโรโซนไปยังประเทศคู่ค้า

 

ไม่เพียงกลุ่มยูโรโซน ในสหภาพยุโรปเท่า นั้น ที่มีความตื่นตัวในการออกมาตรการประคับประคองระบบเศรษฐกิจ ที่ญี่ปุ่นก็มีความตื่นตัวไม่แพ้กัน

 

ล่าสุด รัฐบาลญี่ปุ่น โดยรองนายกรัฐมนตรี ทาโร อาโซะ ออกมาส่งสัญญาณว่าพร้อมจะจัดงบประมาณพิเศษ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของระบบเศรษฐกิจ รับมือกับการปรับขึ้นภาษีขายจากร้อย 8 เป็นร้อยละ 10 ที่จะมีผลบังคับใช้ในปี 2558

 

นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น คาดหมายว่างบประมาณพิเศษสำหรับการประคองระบบเศรษฐกิจให้พ้นจากผลกระทบของการขึ้นอัตราภาษีขาย น่าจะต้องเตรียมสำรองไว้ไม่น้อยกว่า 28,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

 

อย่างไรก็ดี รัฐบาลญี่ปุ่นยังคงต้อง เผชิญสมการเศรษฐกิจ ที่ยากแก่การแก้ไขอย่างยิ่ง เนื่องจากมีปัจจัยหนี้สาธารณะขนาดมหึมาถึงร้อยละ 243.5 ของจีดีพีค้ำคออยู่

 

ขึ้นภาษี หวังสร้างรายได้ลดภาระหนี้สาธารณะ แต่สุดท้ายก็ต้องก่อหนี้ใหม่ไปใช้เป็นงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอยู่ดี

 

 

 

ที่มา สยามรัฐ (16 ตุลาคม 2557)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ธนาคารกลางจีนเปิดเผยในวันนี้ว่า การปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนของจีนในเดือนก.ย. อยู่ที่ 8.572 แสนล้านหยวน (1.396 แสนล้านดอลลาร์) ซึ่งเพิ่มขึ้น 1.547 แสนล้านหยวนจากเดือนส.ค.

 

หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ยอดปล่อยกู้ใหม่สกุลเงินหยวนในเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 7.02 หมื่นล้านหยวน

 

การระดมทุนเชิงสังคมทั้งหมด ซึ่งเป็นมาตรวัดกว้างๆเกี่ยวกับสภาพคล่องในระบบเศรษฐกิจนั้น ปรับตัวขึ้น 9.45 หมื่นล้านหยวนจากเดือนส.ค. แต่ลดลง 3.598 แสนล้านหยวนเมื่อเทียบรายปี มาแตะที่ 1.05 ล้านล้านหยวนในเดือนก.ย.

 

ส่วนปริมาณเงินหมุนเวียนในระบบ M2 ซึ่งครอบคลุมเงินสดหมุนเวียนและเงินฝากทั้งหมด พุ่งขึ้น 12.9% เทียบรายปี แตะ 120.21 ล้านล้านหยวน ณ สิ้นเดือนก.ย. ซึ่งกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยหลังจากที่ขยายตัว 12.8% ในเดือนส.ค.

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16/10/57)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.40/42 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าจากช่วงปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 32.53 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับภูมิภาคหลังดอลลาร์ปรับตัวอ่อนค่า เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ประกาศเมื่อคืนนี้ออกมาไม่ค่อยดี ประกอบกับดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลง ทำให้นักลงทุนมองว่าการที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ยอาจไม่เป็นไปอย่างที่คาดการณ์ไว้แล้ว

 

"เงินบาทปรับตัวแข็งค่าลงมา แต่ทรงตัวนิ่ง เมื่อคืนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาค่อนข้างแย่ หุ้นลงเยอะ" นักบริหารเงิน กล่าว

 

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบเงินบาทในวันนี้จะเคลื่อนไหวระหว่าง 32.35-32.50 บาท/ดอลลาร์

 

"เงินบาทปรับตัวแข็งค่าลงมาหยุดนิ่งอยู่ เหมือนทุกคนรอดูสถานการณ์ว่าจะไปในทิศทางใดเพราะยังไม่มั่นใจ" นักบริหารเงิน กล่าว

 

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 106.03 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 107.08 เยน/ดอลลาร์

 

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2833 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2633 ดอลลาร์/ยูโร

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ข่าววิ่ง - ข่าววิ่ง(ไทย)

ราคาทองในประเทศเช้านี้ปรับขึ้นบาทละ 200 โดยเมื่อเวลา 09.21 น. สมาคมค้าทองคำรายงานราคาทองแท่งรับซื้อ อยู่ที่บาทละ 19,000 บาท ขายออก 19,100 บาท ส่วนทองรูปพรรณ รับซื้อ 18,722.60 บาท ขายออก 19,500 บาท

 

บริษัท ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ระบุว่า ราคาทองได้รับปัจจัยบวกจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ของสหรัฐ โดยในช่วงค่ำที่ผ่านมามีการรายงานยอดค้าปลีกเดือนกันยายนของสหรัฐซึ่งหดตัวลง 0.3% มากกว่าที่ตลาดประเมินไว้ว่าจะหดตัวลง 0.1% ส่วนดัชนีภาวะธุรกิจเดือนตุลาคมของเฟดสาขานิวยอร์ค ร่วงลงจาก 27.5 ในเดือนกันยายน ลงมาสู่ 6.17 ในขณะที่ผลสำรวจประเมินว่าจะอยู่ที่ 20.3 ส่วนรายงานสต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจปรับตัวขึ้นเพียง 0.2% ในเดือนสิงหาคม ส่วนยอดขายของภาคธุรกิจปรับตัวลดลง 0.4%

 

ส่วนค่ำวันนี้จะมีการรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐ ซึ่งผลสำรวจประเมินว่าจะมีผู้ขอรับสวัสดิการราว 2.86 แสนราย ลดลง 1,000 ราย และนอกจากรายงานดังกล่าวแล้ว ในช่วงค่ำวันนี้จะมีการรายงานตัวเลขภาคการผลิตอุตสาหกรรมเดือนกันยายน ดัชนีแนวโน้มธุรกิจเดือนตุลาคม และข้อมูลในภาคที่อยู่อาศัยเดือนตุลาคมของสหรัฐ หากรายงานที่ออกมามีสัญญาณชะลอตัว ก็จะเป็นปัจจัยบวกต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำ

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16/10/57)

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แมค รหัส 5,35,9 แบบนำทาง เส้นดำเส้นแดง ยังให้ทิศทางของ ดอลล์สหรัฐ ในด้านอ่อนค่า แต่วันนี้ มีนางเยลเลน ประธานเฟดออกมาพูด ความเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นได้จากปากหล่อน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...