ขอเดา(ราคาทอง)กับเขาบ้าง

[Pete 15,187]

สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า เศรษฐกิจของกลุ่มประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโรขยายตัว 0.4% ในไตรมาส 1/2558 หลังจากที่ขยายตัว 0.3% ในไตรมาสก่อนหน้า เนื่องจากได้แรงหนุนจากเศรษฐกิจฝรั่งเศสและอิตาลีที่กลับมาขยายตัวได้อีกครั้งในช่วงสามเดือนแรกปีนี้ ซึ่งช่วยชดเชยเศรษฐกิจเยอรมนีที่ขยายตัวช้าลง

 

เศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัวเร็วที่สุดในรอบเกือบสองปี โดยได้ปัจจัยหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง สกุลเงินยูโรที่อ่อนค่า และความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากมาตรการกระตุ้นของธนาคารกลางยุโรป

 

โดยวันนี้ ประเทศต่างๆในยูโรโซนได้เปิดเผยตัวเลขจีดีพีประจำไตรมาสแรก ซึ่งรวมถึงฝรั่งเศสที่ขยายตัว 0.6% อิตาลีขยายตัว 0.3% ซึ่งต่างก็ออกมาดีเกินคาด อย่างไรก็ตาม เศรษฐกิจเยอรมนีขยายตัวชะลอลงแตะ 0.3% จาก 0.7% ในไตรมาสก่อนหน้า

 

ที่มา สำนักข่าวอินโฟเควสท์ ผ13/05/58)

 

[Pete 15,187]

::

[Pete 15,187]

รหัส 5,35,9 สัญญานนำทางราคาทอง เส้นดำอยู่เหนือเส้นแดง แนวโน้มเป็นบวก เส้นทางเดิน จะย่อก่อนแล้วค่อยขึ้น ( อันนี้ เด็กขายของบ่นตามสัญญานฯ แต่เรื่องจริง วันนี้ ผมจะไม่ซื้อทองเข้าพอร์ต กลัวดอยฯ )

[Pete 15,187]

รหัส 5,35,9 ของ USD ยังคงแนวโน้มที่จะอ่อนค่า แต่เขาว่า ติดต่อกันมา 3 วัน วันที่ 4 ไม่น่าที่จะอ่อน ฟังหูไว้สองหู

[Pete 15,187]

ค่าเงินบาท น่าจะกลับมาอ่อนค่าอีกแล้ว 33.60-33.65 ประมาณนี้

[Pete 15,187]

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

15 พฤษภาคม 2558 05:20 น.

 

 

 

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันปรับลดเมื่อวันพฤหัสบดี(14พ.ค.) ท่ามกลางกังวลต่อปัญหาอุปทานล้นตลาด ส่วนวอลล์สตรีทพุ่งแรง นักลงทุนคาดเฟดอาจคงดอกเบี้ยไปจนถึงปลายปี หลังพบข้อมูลทางเศรษฐกิจที่น่ากังวล ปัจจัยนี้ฉุดให้ดอลลาร์อ่อนค่าและดันทองคำแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน

 

น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมิถุนายน ลดลง 62 เซนต์ ปิดที่ 59.88 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 22 เซนต์ ปิดที่ 66.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

 

ข้อมูลคลังน้ำมันดิบสำรองของสหัฐฯที่ลดลงท่ามกลางการปรับลดการขุดเจาะ ช่วยผลักให้ราคาน้ำมันฟื้นคืนราวร้อยละ 40 นับตั้งแต่ดำดิ่งแตะระดับ 45 ดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนมีนาคม

 

อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันกลับมาขยับลงอีกครั้งใน 2 วันหลังสุด อันเนื่องจากตัวเลขที่พบว่าปริมาณการผลิตของอเมริกาเพิ่มขึ้น 5,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 9.374 ล้านบาร์เรลต่อวัน กระพือความกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาดขึ้นมาอีกรอบ

 

ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี(14พ.ค.) ปิดบวกแรง โดยเอสแอนด์พี 500 ทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกครั้ง หลังมีความคาดหมายมากขึ้นเรื่อยๆว่าธนาคารกลางอเมริกา(เฟด) จะคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำไปอย่างน้อยจนถึงเดือนกันยายน

 

ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 191.75 จุด (1.06 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 18,252.24 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 22.62 จุด (1.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,121.10 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 69.11 จุด (1.39 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,050.80 จุด

 

ด้วยดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นก่อนหน้านี้และราคาน้ำมันระดับต่ำช่วยยับยั้งดัชนีราคาผู้ผลิต ซึ่งเป็นตัววัดภาวะเงินเฟ้อ ในเดือนเมษายน สนับสนุนมุมมองว่าเฟดอาจยังไม่เร่งรีบและอาจรอจนถึงปลายปีแล้วค่อยขึ้นดอกเบี้ย

 

อย่างไรก็ตามข้อมูลทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐฯในสัปดาห์นี้ ฉุดดอลลาร์อ่อนค่าลง 3 วันติดในวันพฤหัสบดี(14พ.ค.) จนเกือบแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม และปัจจัยนี้ผลักให้ราคาทองคำขยับขึ้นพอสมควร โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 7.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,225.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

[Pete 15,187]

ยุโรปไม่มีรายงาน ยกประเด็นผันผวนไปช่วงเปิดตลาด ส่วนสหรัฐฯ ก็มีเล็กน้อยเป็นสีสรร แต่ไม่มีอะไรที่จะทำให้ USD อ่อนค่าลงมาอีก ในวันนี้

[Pete 15,187]

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 15 พฤษภาคม 2558 09:00:36 น.

 

มูดีส์ อินเวสเตอร์ส เซอร์วิส ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้หลายประเภทของธนาคารรายใหญ่ของ สหรัฐ 3 แห่ง ซึ่งได้แก่ เวลส์ ฟาร์โก แอนด์ โค, แบงก์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน คอร์ป และสเตท สตรีท คอร์ป

 

มูดีส์ประเมินว่า สาขาของธนาคารดังกล่าวจะได้รับผลกระทบและมีตัวเลขขาดทุนน้อยกว่าสถาบันการ เงินอื่นๆ ขณะที่มีความเป็นไปได้ที่สถาบันการเงินดังกล่าวจะได้รับการสนับสนุนจาก รัฐบาลในช่วงวิกฤต

 

ทั้งนี้ มูดีส์ได้ปรับเพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือหลายรายการ ซึ่งรวมถึง เงินฝากและตราสารหนี้ไม่ด้อยสิทธิในระดับธนาคาร

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 15 พฤษภาคม 2558)

[Pete 15,187]

เปิดตัวเลขนำเข้า "ทองคำ" ไตรมาสแรกพุ่งกระฉูด จากช่วงเดียวกันปีก่อนกว่า 200% ด้วยปริมาณ 5.65 หมื่นกิโลกรัม มูลค่า 7.1 หมื่นล้านบาท ผู้ค้าทองชี้นักลงทุนไทยจับจังหวะ "บาทแข็ง-ราคาทองโลกร่วง"ช้อนซื้อเก็งกำไร จับตาไตรมาส 2 นักลงทุนแห่ขายแน่ หลังค่าบาทมีแนวโน้มอ่อนตัวต่อเนื่อง ล่าสุดใกล้แตะ 34 บาท

 

บาทแข็ง-ทองโลกร่วงแห่ช้อนซื้อ

 

ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า จากข้อมูลของกรมศุลกากรระบุว่า ในช่วงไตรมาสที่ 1/58 มูลค่านำเข้าทองคำของประเทศไทยเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 7.16 หมื่นล้านบาท จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่อยู่ 2.02 หมื่นล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นถึง 254% โดยคิดเป็นปริมาณนำเข้าราว 5.65หมื่นกิโลกรัม จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มียอดนำเข้าราว 1.53 หมื่นกิโลกรัม หรือเพิ่มขึ้นประมาณ 270%

 

 

 

นายธนรัชต์ พสวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า สาเหตุที่ในช่วงไตรมาส 1/58 ประเทศไทยมีการนำเข้าทองคำเป็นปริมาณที่สูงกว่า 200% นั้น เป็นผลมาจากประชาชนในประเทศเริ่มหันมาซื้อสะสมทองคำอีกครั้ง หลังจากแนวโน้มราคาทองคำแท่งในประเทศปรับตัวลดลงต่อเนื่อง เพราะได้รับอิทธิพลจาก 2 ปัจจัย ได้แก่ การแข็งค่าของเงินบาทในช่วงไตรมาสที่ 1/58 และราคาทองคำโลก (Spot Gold) ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง จาก 2 ปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาทองในประเทศปรับตัวลดลงจนประชาชนมีความสนใจที่จะซื้อ ยอดการนำเข้าจึงปรับตัวสูง

 

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า แรงซื้อที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเป็นผลจากการที่ร้านค้าทองเข้าไปซื้อเก็งกำไร เพราะโดยส่วนตัวมีความเห็นว่าการทำธุรกรรมดังกล่าวจะสร้างความเสี่ยงให้กับธุรกิจค่อนข้างสูง เนื่องจากปัจจุบันทิศทางค่าเงินบาทคาดเดาได้ยาก ซึ่งอาจส่งผลให้ร้านค้าทองอาจขาดทุนได้ง่าย

 

สำหรับกรอบการแกว่งตัวระยะสั้นของราคาทองคำในช่วงไตรมาสที่2/58ประเมินว่าน่าจะมีแนวรับที่บาทละ18,650 บาท หรือ 1,180 เหรียญต่อออนซ์ แนวต้านที่บาทละ 19,500 บาท หรือ 1,230 เหรียญต่อออนซ์

 

ไทยนำเข้าทองพุ่งสวนตลาดโลก

 

เช่นเดียวกับนางสาวฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า ความต้องการทองคำในช่วงไตรมาส 1/58 ของประเทศไทยเพิ่มขึ้นอย่างมากและสวนทางกับความต้องการของตลาดโดยรวมของโลก เห็นได้จากข้อมูลของ Gold Fields Mineral Services Ltd (GFMS) ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยทองคำในต่างประเทศที่ระบุว่า ในช่วงไตรมาส 1/58 ความต้องการทองคำของทั้งโลกปรับตัวลดลง 9% ส่วนหนึ่งเป็นผลจากประเทศจีนซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำรายใหญ่ของโลกมีความต้องการลดลง

 

"แรงซื้อทองคำของคนไทยในช่วงไตรมาสที่1น่าจะเป็นการซื้อเพื่อเก็บออมเพราะที่ผ่านมาราคาทองคำโลกได้ร่วงลงจนเฉียดราคาขายทองหน้าเหมือง แถมยังได้แรงหนุนจากการแข็งค่าของเงินบาทเข้ามาเสริม จึงทำให้มีนักลงทุนที่เห็นโอกาสและอาศัยจังหวะนั้นเข้ามาเก็บออมด้วยการซื้อทองคำสะสม" นางสาวฐิภากล่าว

 

จับตา Q2 แห่ขายเก็งกำไร

 

นายกฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ แม่ทองสุก กล่าวว่า แนวโน้มในไตรมาส 2/58 ปริมาณการนำเข้าทองคำน่าจะเริ่มปรับตัวลดลง ขณะที่ยอดการส่งออกน่าจะปรับตัวสูงขึ้น จากการที่นักลงทุนในประเทศทยอยขายทองคำที่ซื้อสะสมมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 1/58 ออกเพื่อทำกำไรระยะสั้น หลังจากที่เงินบาทเริ่มมีแนวโน้มอ่อนค่าลง เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/58 จึงทำให้นักลงทุนมีโอกาสสร้างผลกำไร

 

"ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มเห็นสัญญาณยอดการส่งออกทองคำเพิ่มขึ้น อธิบายได้ง่าย ๆ ว่า นักลงทุนเริ่มทยอยขายทองออกเพื่อทำกำไรระยะสั้น เพราะค่าเงินบาทเริ่มมีทิศทางอ่อนตัวลง ซึ่งถ้านักลงทุนขายทองออกไปก็จะได้กำไรทันที" นายกฤชรัตน์กล่าวและว่า

 

สำหรับในช่วงไตรมาส 3-4 ราคาทองอาจปรับตัวลดลงค่อนข้างมาก เพื่อสะท้อนข่าวการปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งนับเป็นสัญญาณที่ดี เพราะตอนนี้เรียกได้ว่าราคาทองน่าจะปรับตัวลดลงจนใกล้สู่ต่ำสุดของวัฏจักร (Cycle) แล้ว เพียงแต่หากค่าเงินบาทยังมีทิศทางอ่อนค่าก็จะทำให้ราคาทองไม่ปรับตัวลดลงไปมากกว่านี้ โดยประเมินแนวรับที่ทองคำบาทละ 18,500 บาท หรือ 1,170-1,160 เหรียญต่อออนซ์ แนวต้านที่บาทละ 20,300 บาท หรือ 1,230 เหรียญต่อออนซ์

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพรวมราคาทองคำแท่งในช่วงไตรมาส 1/58 แกว่งตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณบาทละ 18,200 บาท หรือคิดเป็นราคาทองคำโลกที่เฉลี่ย 1,183 เหรียญต่อออนซ์ โดยค่าเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 32.52 บาท ขณะที่ไตรมาส 1/57 ราคาทองคำแท่งในประเทศแกว่งตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณบาทละ 19,900 บาท หรือคิดเป็นราคาทองคำโลกที่เฉลี่ย 1,293 เหรียญต่อออนซ์ ค่าเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 32.60 บาท

 

นอกจากนี้หากเทียบกับช่วงไตรมาส 4/57 พบว่าราคาทองคำแท่งในประเทศแกว่งตัวเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณบาทละ 18,617 บาท หรือคิดเป็นราคาทองคำโลกที่เฉลี่ย 1,201 เหรียญต่อออนซ์ โดยที่ค่าเงินอยู่ที่เฉลี่ย 32.87 บาท ขณะที่ปัจจุบัน ณ วันที่ 12 พ.ค. ค่าเงินบาทเปิดตลาดที่ 33.75 บาทต่อดอลลาร์

 

ที่มา หนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ (วันที่ 14 พฤษภาคม 2558)

 

 

[Pete 15,187]

::

[meng166 131]

ขอขอบใจหลายๆ

[Pete 15,187]

นายมาริโอ ดรากี ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวในวันนี้ที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่า ECB จะยังคงดำเนินมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป จนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะดีดตัวขึ้น และภาคเอกชนรวมทั้งผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นมากขึ้น

 

นายดรากีกล่าวว่า โครงการซื้อพันธบัตรวงเงิน 1.1 ล้านล้านยูโร (1.3 ล้านล้านดอลลาร์) ตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) จะยังคงเดินหน้าต่อไปตราบเท่าที่มีความจำเป็น เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของ ECB อย่างสมบูรณ์

 

ก่อนหน้านี้ นายดราดีกล่าวเมื่อต้นเดือนมี.ค.ว่า ECB จะอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซน และหนุนอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ใกล้ระดับ 2%

 

ที่มา : สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (วันที่ 14 พฤษภาคม 2558)

 

[Pete 15,187]

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)โกลเบล็ก หรือ GBS ประเมินทิศทางดัชนีตลาดหุ้นไทยว่าจากสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบที่ขยับขึ้น เหนือ 60 เหรียญต่อบาร์เรล ประกอบกับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันปีนี้เพิ่มขึ้น 50,000 บาร์เรล จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน และจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ดัชนีตลาดหุ้นสัปดาห์นี้แกว่งตัวอยู่ในกรอบ 1,480-1,500 จุด ซึ่งขณะนี้สัญญาณทางเทคนิคตลาดหุ้นลงมาใกล้แนวรับสำคัญ 1,460-1,480 จุด

 

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงที่กดดันภาวะการลงทุน ซึ่งอาจส่งผลต่อดัชนีตลาดหุ้น ทั้งภาพรวมการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัว เนื่องจากการส่งออกในช่วงไตรมาสแรกลดลง ประกอบกับปัจจัยเสี่ยงจากต่างประเทศ ที่ล่าสุดกรีซเผยว่าอาจเผชิญวิกฤติสภาพคล่องในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพราะครบกำหนดชำระหนี้ 1,500 ล้านยูโร แก่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และในปลายเดือนพฤษภาคมนี้กรีซต้องจ่ายเงินเดือนและบำนาญข้าราชการกรีซราว 2,500 ล้านยูโร จึงเสี่ยงที่กรีซจะผิดนัดชำระหนี้และออกจากสมาชิกยูโรโซน หากการเจรจาปฏิรูปเศรษฐกิจกับกลุ่มเจ้าหนี้ยังไม่คืบหน้า

 

นอกจากนี้ ยังแนะจับตาการแถลงตัวเลขเศรษฐกิจหรือ GDP ไตรมาส 1/2558 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยจะเป็นตัวชี้วัดว่านโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐบาลเป็นไปตามเป้า หมายหรือไม่ ซึ่งจะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับผู้ลงทุนได้ในอนาคต

 

 

 

 

 

ที่มา : แนวหน้าออนไลน์ (15/05/2558)

 

[บัวเงิน 146]

:01

[Pete 15,187]

สำหรับเหตุผลที่เด็กขายของ ไม่เข้าซื้อวันนี้ กลัวดอยฯ คือ 1. วันนี้เป็นวันหยุด Option สัญญาฯ และพรุ่งนี้ วันเสาร์เป็นวันหมดอายุ