ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณสำหรับบทความดีๆ ค่ะ คุณ Next :lol:

 

รอม้าทองด้วยคนค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลงเยอะๆ บ้างก็ดีครับ :wub: :wub: เอาแบบแรงๆเลยครับ :lol: :lol:

ถูกแก้ไข โดย leo_attack

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
post-442-057037800 1301301212.jpgทั้งเททั้งเขย่า ฮาฮ่าฮา ผมไม่กลัว จะเอาม้าทองคำครับคุณเน็กซ์ post-442-048683500 1301301893.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เปิด 10 ปมหายนะเศรษฐกิจ ภัยคุกคามตลาดการเงินโลก

ในช่วงที่ผ่านมา พื้นที่สื่อส่วนใหญ่อุทิศให้กับความวุ่นวายในโลกอาหรับ และภัยธรรมชาติที่ถล่มญี่ปุ่น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เว็บไซต์มาร์เก็ตออราเคิล มองว่า ยังมีหลายปัญหาเรื้อรังของโลกที่ยังสางไม่เสร็จ ทว่ายังพร้อมปะทุขึ้นทุกเมื่อ อีกทั้งยังทรงพลังมากพอที่จะพังตลาดการเงินโลกที่กำลังฟื้นตัวอย่างเปราะบางในปัจจุบัน

 

แต่ก่อนอื่นขอเปิดฉากด้วย "สงครามในลิเบีย" ที่กำลังร้อนแรง นักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่า การเข้าแทรกแซงของกองกำลังนานาชาติครั้งนี้ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลิเบียมีน้ำมันมหาศาลอยู่ในมือ โดยลิเบียเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของแอฟริกา พร้อมครอบครองแหล่งน้ำมันมากที่สุดเป็นอันดับ 9 ของโลก ทั้งนี้หลังต่างชาติเปิดฉากโจมตี โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบียออกมาประกาศกร้าวว่า "จะเป็นสงครามที่ยาวนาน" และนักวิเคราะห์เชื่อว่าไม่ว่าสงครามจะจบอย่างไร กำลังการผลิตน้ำมันของลิเบียจะชะงักงันไปอีกช่วงหนึ่ง และไม่ดีต่อเศรษฐกิจโลกที่เพิ่งดิ้นพ้นบ่วงถดถอยมาหมาด ๆ

 

ส่วนอีกวิกฤตที่ถูกโยงกันคือ "การประท้วงเรียกร้องการปฏิรูปในโลกอาหรับ" ซึ่งขณะนี้ขยายวงไปทั่วแอฟริกาเหนือและเกือบทุกประเทศในตะวันออกกลาง แต่ยังไม่ปะทุขึ้นใน "ซาอุดีอาระเบีย" ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันเบอร์ 1 ของโลก อย่างไรก็ตาม ปัญหาความวุ่นวายที่ยืดเยื้อในภูมิภาคนี้ยังเป็นตัวหนุนให้ราคาน้ำมันทรงตัวอยู่ในระดับสูงมากต่อไป และเป็นข่าวร้ายของเศรษฐกิจโลก

 

ขณะที่ "แผ่นดินไหวและสึนามิที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่น" ก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกไม่น้อย เพราะญี่ปุ่นเป็นเขตเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 3 ของโลก และ ภัยพิบัติครั้งนี้จะทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นซบเซาต่อไปอีกระยะหนึ่ง นอกจากนี้ วอลล์สตรีต เจอร์นัล รายงานว่า ภัยธรรมชาติครั้งนี้กระทบต่อซัพพลายเชนทั่วโลก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนจากญี่ปุ่น ดังนั้นจึงจะทำให้เกิดภาวะขาดแคลนสินค้าบางประเภทเป็นระยะเวลาหนึ่ง พร้อมกันนี้คาดการณ์ว่า การนำเข้าและส่งออกของญี่ปุ่นจะลดลงอย่างมากช่วงหนึ่งด้วย ซึ่งย่อมส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจโลกเช่นกัน

 

ด้าน "วิกฤตนิวเคลียร์" ที่เกิดขึ้นจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟูกูชิมา ไดอิชิจะส่งผลกระทบยาวนานต่อเศรษฐกิจโลก โดยผลกระทบที่เห็นได้แล้วคือ ทั่วโลกทบทวนแผนสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ แต่สิ่งที่ทุกฝ่ายวิตกกังวลอย่างยิ่งคือ การปนเปื้อนของกัมมันตรังสี ซึ่งล่าสุดพบการปนเปื้อนในน้ำประปากรุงโตเกียวที่อยู่ในระดับอันตรายต่อทารก ขณะที่หลายประเทศเริ่มสั่งห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์นม น้ำนมดิบ สินค้าอาหารจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้ว ดังนั้น สิ่งที่ทุกคนคาดหวังคือ ทางการญี่ปุ่นจะสามารถควบคุมสถานการณ์ก่อนที่โตเกียวจะได้รับผลกระทบหนัก เพราะเมืองหลวงแห่งนี้คือหนึ่งในเมืองเศรษฐกิจสำคัญของโลก

 

หายนะลำดับต่อไปที่ต้องจับตามองคือ "ราคาน้ำมัน" ที่ขยับขึ้นเรื่อย ๆ และนักวิเคราะห์เชื่อว่า หากราคาทรงตัวในระดับสูงจะส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจโลก โดยเฉพาะเศรษฐกิจสหรัฐที่ต้อง พึ่งพาน้ำมันราคาถูกสูง ทั้งนี้ข้อมูลของกระทรวงพลังงานสหรัฐระบุว่า ครัวเรือนสหรัฐเฉลี่ยจะใช้เงินซื้อน้ำมันเบนซิน แพงขึ้น 700 ดอลลาร์ในปีนี้ หากเทียบกับปีที่ผ่านมา

 

นอกจากนี้ยังไม่ควรมองข้าม "ภาวะราคาอาหารแพง" ที่หลายคนมองว่า ราคาอาหารที่พุ่งพรวดในช่วงที่ผ่านมาคือปัจจัยสำคัญปัจจัยหนึ่งที่จุดกระแสการประท้วงเรียกร้องการปฏิรูปในแอฟริกาและตะวันออกกลาง

 

ข้อมูลขององค์การสหประชาชาติเผยว่า ราคาอาหารโลกทำสถิติสูงสุดตลอดกาลในปีนี้ และคาดว่าราคาอาหารจะพุ่งสูงต่อไปตลอดทั้งปี ท่ามกลางซัพพลายอาหารที่ตึงตัวอยู่แล้วในปัจจุบัน

 

ทั้งนี้ เมื่อผู้บริโภคต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อซื้ออาหาร ก็จะเหลือเงินน้อยลงสำหรับใช้จ่ายซื้อสินค้าอื่น ๆ ซึ่งย่อมส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจโลก

 

นอกจากนี้ยังมี "ปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะยุโรป" ที่อาจได้รับความสนใจน้อยลง แม้ว่าปัญหายังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างเด็ดขาดและยั่งยืน ในช่วง ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลประเทศยุโรปหลายแห่งถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาล ขณะที่โปรตุเกส สเปน กรีซ และไอร์แลนด์ยังอยู่ในบ่วงวิกฤตครั้งใหญ่ และล่าสุดการตัดสินใจลาออกของนายกรัฐมนตรีโปรตุเกสยิ่งสร้างความวิตกว่า โปรตุเกสอาจต้องรับความช่วยเหลือจากต่างประเทศเพื่อกู้วิกฤตหนี้

 

ถึงขณะนี้เยอรมนียังมีความสามารถเข้าอุ้มประเทศในกลุ่มยูโรโซนได้ แต่หากสถานการณ์พลิกผันไป ย่อมกลายเป็นฝันร้ายสำหรับตลาดการเงินโลกอย่างแน่นอน

 

นอกจากนี้ยังมี "ดอลลาร์สหรัฐที่กำลังตาย" เป็นอีกปัจจัยที่มีพลังพอจะเขย่าตลาดการเงินโลก เพราะถึงตอนนี้มีความวิตกอย่างยิ่งเกี่ยวกับค่าเงินดอลลาร์ เพราะก่อนหน้าเกิดสึนามิ ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในผู้ซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐรายใหญ่ หรือเป็นผู้ซื้อต่างชาติรายใหญ่อันดับ 2 ในปีที่ผ่านมา แต่วันนี้ญี่ปุ่นต้องระดมทุนฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย จึงอาจไม่มีเงินไปลงทุนในต่างประเทศ

 

ขณะเดียวกันกองทุนพันธบัตรรายใหญ่ เช่น PIMCO เพิ่งประกาศว่า อย่างน้อยในช่วงนี้จะไม่ซื้อพันธบัตรสหรัฐ ซึ่งนำมาสู่คำถามที่ว่า หากญี่ปุ่นและกองทุนพันธบัตร เช่น PIMCO ไม่ซื้อพันธบัตรมะกัน ใครจะมาเป็นผู้ซื้อ เพราะรัฐบาลสหรัฐจำเป็นต้องกู้ยืมเงินหลายล้านล้านดอลลาร์ในปีนี้เพื่อชำระหนี้ปัจจุบัน และใช้เป็นทุนใหม่

 

"การรั่วไหลของน้ำมันครั้งใหม่ในอ่าวเม็กซิโก" อาจเป็นฝันร้ายอีกรอบของเศรษฐกิจโลก เพราะมีรายงานข่าวว่า มีความเป็นไปได้ว่าเกิดการรั่วไหล ครั้งใหม่ ซึ่งตอนนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบ

 

สุดท้ายอีกหายนะที่ไม่ควรมองข้ามคือ "ฟองสบู่ตราสารอนุพันธ์" ซึ่งตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งประเมินว่า ฟองสบู่ตราสารอนุพันธ์ทั่วโลกมีมูลค่าประมาณพันล้านล้านดอลลาร์ และอาจแตกเมื่อใดก็ได้ ดังนั้นจึงเหมือนโลกกำลังจับตามองกาสิโนการเงินที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ และหวังว่าจะหมุนต่อไปไม่หยุด

 

ทั้งนี้ ปัจจุบันเงินส่วนใหญ่ในวอลล์สตรีตไม่ได้เกิดจากการลงทุนใน ไอเดียธุรกิจดี ๆ แต่กลับมาจาก การเดิมพันอย่างฉลาดสุขุมของนักลงทุน อย่างไรก็ตาม ณ จุดหนึ่ง กาสิโนนี้จะล้มและจบเกมในที่สุด

 

ทั้งนี้ แม้จะไม่มีใครมั่นใจว่าช่วงที่เหลือของปีนี้จะเป็นอย่างไรท่ามกลางความไม่แน่นอนที่เกิดขึ้นอยู่ตลอด แต่ผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่ไม่ได้มองในแง่ดีนัก โดย เดวิด โรเซนเบิร์ก หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของกลูสกิน เชฟฟ์ แอนด์ แอสโซซิเอทส์ เตือนว่า ครึ่งหลังของปีนี้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากมากสำหรับเศรษฐกิจโลก

 

 

 

http://www.prachacha...tid=04

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณในข่าวสารดีๆ ของคุณ MOR LEK ค่าาาาาาาาาาา :rolleyes: :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มีเรื่องที่แปลกๆหลายเรื่องแต่เนื้อหามาแนวทางเดียวกัน

1)ทำไมหลวงตาซึ่งไม่รู้เรื่องเศรษฐกิจแนะให้สะสมทองคำช่วยชาติ ห้ามนำทองคำส่วนนี้ไปทำอย่างอื่น หลวงตามองเห็นอะไรหรือเปล่า

2)เคยมีคนเล่าให้ฟังว่าคนรู้จักเขา มีปัญหาทุกข์ใจเรื่องการเงินมากไปหาหลวงพ่อที่นับถือ หลวงพ่อเทศน์ให้ใจสงบลง ก่อนกลับท่านแนะนำให้ขายสมบัติที่มีใช้หนี้ไปให้หมด และถ้าไม่อยากลำบากตอนแก่เงินที่เหลือให้ซื้อทองคำเก็บไว้

3)เคยอ่านคำนายเกี่ยวกับอเมริกาจากหลายแหล่ง หลายแหล่งที่ผมอ่านแนวทางเดียวกันเลยคือลำบากขัดสนสุดๆ

 

 

:rolleyes: อ่านแล้วได้ไปคิดต่อเลยครับ ขอบคุณคุณส้มโอมือครับ

>

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคุณNext คร้า ไม่ถามเรื่องเนื้อคู่ด้วยเหรอคร้า อิอิ:P ตอนนั้นกี่ปีแล้วเอ่ย

มาอ่านใหม่อีกที อ้าวมีเรื่องเนื้อคู่ด้วยนี่นา อ่านข้ามไปได้ไงเรา :D

 

 

หลายปีแล้วล่ะครับ

ส่วนเรื่องเนื้อคู่ ไปเสี่ยงถามเมื่อไหร่ จะหลังไมค์ไปบอกคุณ Arpat นะครับ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ว้าว ท่าน อ เน็กซ์ อยู่แถวนั้นหรอ ที่วัดศาลเจ้า ก๋วยเตี๋ยวอร่อย ครับ ไปวันอาทิตย์มีของขายเยอะดีด้วยนะครับ ข้าง ๆ วิหารที่ อ เน็กซ์ ไปไหว้ มี ตำหนัก ของ อาจารย์แปะ (ท่านอาจารย์โง้วกิมโคย) ท่านเก่งมาก ๆ ตอนที่มีชีวิตอยู่ เจ้าสัวซีพี ก็เป็นลูกศิษย์ท่าน เชื่อกันว่าใครที่บูชา อาแปะโรงสี ได้ดีกัน ค้าขายรุ่งเรือง ขนาดตอนท่านมีชีวิตอยู่ ยังสร้างเหรียญให้อาแปะโรงสี เสก แล้วเอามาแจก คนใกล้ชิดเลยครับ และเซียนพระใหญ่ ก็บอกกันว่า เจ้าสัวซีพี ห้อยเหรียญอาแปะโรงสี เนื้อทองคำ เหรียญเดียวเลยด้วย ส่วนผมก็ชอบไปวัดนั้นครับ ก๋วยเตี๋ยวอร่อยดี พอดีผมศิษย์วัดบางกุฏีทอง ได้ไปแถวนั้นประจำ เลยเข้าไป ซอยวัดมะขามบ่อย ไว้จะไป กราบพระสังกัจจาย ด้วยครับ ขอบคุณที่แนะนำครับ

 

แล้วก็เลยต่อด้วยคำถามด้วยเลยนะครับถ้าไม่รบกวนจนเกินไป ว่า...

- ตามข่าวที่ว่า จะเลิกมาตรการ QE2 ถ้าเลิกจริงทองจะเป็นยังไง ระยะยาวครับ เพราะว่า ระยะสั่น แน่นอน ผมเดาว่าคงต้องลงแน่นอน ถือเป็นโอกาส ได้เก็บแท่งต่ำกว่า 20000 อีกครั้งแหง ๆ แต่หลังจากนั้น จะเป็นอย่างไรครับ ถ้าไม่มี QE ทองจะไปต่อได้มั้ยครับ

- แล้วที่ เค้าจะ เลิก QE เป็นเพราะเหตุที่มากจาก การเข้าร่วมสงคราม ในตะวันออกกลางของสหรัฐฯ รึป่าวครับ เค้ามีประโยชน์อะไรแอบแฝง กับการทำสงครามครั้งนี้รึป่าว รึว่า ญี่ปุ่น กำลังแย่ เพราะอยู่ดี ๆ จากกำลังแย่ ๆ อยู่ ๆ มา บอกว่า อาจจะยกเลิก QE2 นี่มันยังไง ๆ อยู่นะครับ มีนัยสำคัญอะไร รึป่าวครับ

 

ขอถามเพียงแค่นี้นะครับ ขอบคุณมากนะครับ

 

ปล ติดตามเสมอ แม้จะไม่ค่อยได้โพส เพราะความรู้ไม่ถึง ได้แต่เก็บเกี่ยวเอาจากในนี้ แต่เข้ามาติดตามทุก ๆ วันครับ ไม่เคยลืมกระทู้นี้ครับ

 

 

อ่านแล้วอยากได้ เหรียญทองคำอาแปะโรงสี มาบูชาบ้างเลยครับ

คราวหน้าจะลองไปหาๆดูตามที่คุณ auu22 แนะนำ

 

สำหรับคำถามที่ถามมาสำหรับ QE2 อย่างที่เพื่อนๆสมาชิกหลายคนได้พูดๆกันไปบ้างแล้ว

คงไม่ยกเลิกหรอกครับ QE 3-4 ก็มา

QE TO INFINITY

ไม่ใช่ว่าจะทำหรือไม่ทำนะครับ แต่เค้าไม่มีทางเลือก

 

จะแก้คำพูดหรืออะไรใหม่สุดท้ายก็คือ "พิมพ์เงิน" ต้องดูลีลาของ เบน เบอร์นันเก้

เค้าล่ะครับว่าจะมาไม้ไหน แต่เท่าที่เคยติดตามดู เค้าพูดอะไรชอบออกตรงข้ามตลอดเลยครับ

 

กรณีผลประโยชน์แอบแฝง บางสำนักก็พูดถึง "แหล่งน้ำมัน"

คุณเปลวสีเงินคอลัมภ์นิสต์ชื่อดังพูดไปถึง "การจัดระเบียบโลกใหม่" (NWO)

พูดไปก็ยาวครับ :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณ Nexttonothing ครับผมจะลงทุนทองคำแห่ง 300บาท ผมควรแบ่งซื้อกี่ครั้งดีครับ ซื้อที่ราคาไหนบ้างครับ ขอคำแนะนำหน่อยครับ

 

 

ตอบให้ในบทความแทนแล้วกันนะครับ :rolleyes:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

post-442-057037800 1301301212.jpgทั้งเททั้งเขย่า ฮาฮ่าฮา ผมไม่กลัว จะเอาม้าทองคำครับคุณเน็กซ์ post-442-048683500 1301301893.jpg

 

 

เชื่อครับว่า คุณใหญ่ รอเอาม้าทอง

มุ่งมั่นและแน่วแน่มากๆ ขอคารวะ !_087

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

passive-income-topics-closer-look.jpg

 

 

ระยะประชิด (Closer look)

 

ในอดีตหากมีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นบนโลกของเรา

สิ่งแรกที่นักลงทุนมักจะทำคือ “ขายทิ้งทุกอย่างถือเงินสด”

(Cash is safe heaven)

 

แต่สถานการณ์ทุกวันนี้กลับไม่เป็นอย่างนั้น เหตุการณ์ความรุนแรงและภัยพิบัติเกิดขึ้นบนโลกเรามากมาย

แต่ ดอลล่าร์อินเด็กซ์ (USDX) กลับยังอยู่ในเทรนขาลง

 

ที่ผ่านมามาตรการพิมพ์เงินสารพัดชื่อ : Stimulus package + Bailout + QE1+QE2

รวมถึงแว่วว่า QE3 QE4 จะมา ทำให้นักลงทุนถึงจุดที่ต้องบอกกับตัวเองว่า “พอกันที” (enough is enough)

สหรัฐคือตัวการที่ตั้งกฎการเงินใหม่ให้นักลงทุน กฎนั้นก็คือ

“เงินสดไม่ใช่สินทรัพย์ที่ปลอดภัยเสมอไป”

 

เงินสดนั้นดีต่อ “การใช้”

(มันถึงถูกเรียกว่า Currency ซึ่งมาจากคำว่า Current ที่แปลว่าปัจจุบันและต้องหมุนเวียนอยู่ตลอด)

แต่มันไม่ดีต่อ “การเก็บ” เพราะจะเสื่อมค่าลงในระยะยาว

 

:excl: ระบบการเงินนี้ลงโทษคนที่ฝากเงิน โดยปล่อยให้ ดอกเบี้ยเงินฝาก ต่ำกว่า อัตราเงินเฟ้อ (จนลง)

 

:excl: ระบบนี้ลงโทษคนที่ มีรายได้เท่าเดิมในขณะที่ค่าครองชีพสูงปรับตัวสูงขึ้นตลอด

 

:excl: ระบบนี้ให้รางวัลกับนักการเมืองและฝ่ายที่สนับสนุนตัวเองแต่ลงโทษซ้ำกับฝ่ายตรงข้าม

 

:excl: ระบบนี้ทำให้คนรวยยิ่งรวยขึ้นคนจนยิ่งจนลง

 

:excl: ระบบนี้ คือ ระบบที่คนส่วนใหญ่ใช้กันอยู่และคนส่วนใหญ่นั้นก็คือ “ผู้ถูกเอาเปรียบ”

 

ถึงวันนึงเมื่อคนส่วนใหญ่ตื่นขึ้นและเข้าใจว่าอะไรเป็นอะไร ก็ถึงเวลาที่

“ประวัติศาสตร์การเงินจะซ้ำรอยเดิม”

 

เร็วๆนี้ รัฐ Utah สหรัฐอเมริกา พยายามจะผ่านกฎหมายประกาศให้ ทองคำและเงิน (Gold and Silver)

สามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย (Legal Tender) หรือพูดง่ายๆว่าสามารถใช้แทน “ธนบัตร” ได้ในเขตการปกครองของรัฐ

นี่เป็นสิ่งที่ตอกย้ำในเรื่องที่เราได้พูดคุยกันมาโดยตลอด ถึงความหมายของคำว่า เงินที่แท้จริง (Real Money)

 

การเปลี่ยนแปลงมาตรฐานการเงินในรัฐนี้เป็นเพียงการเริ่มต้น เพราะอีก 13 รัฐกำลังพิจารณาผ่านกฎหมายในลักษณะเดียวกัน

( รัฐ : Colorado, Georgia, Montana, Missouri, Indiana, Iowa, New Hampshire, Oklahoma

, South Carolina, Tennessee, Vermont and Washington )

 

หญ้าได้ถูกแหวกและงูก็เริ่มจะตื่น..

 

หากดอลล่าร์ไม่มีปัญหา คงไม่มีความจำเป็นต้องมีตัวเลือกอื่นมาทดแทนให้เหนื่อย

แต่เพราะความจริงแล้วสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตนั้นน่าเป็นห่วงอย่างมาก (สำหรับประชาชนที่ยังถือครองเงินดอลล่าร์อยู่)

 

อภิมหาเงินเฟ้อ (Hyperinflation) ถ้าจะเกิดขึ้นคงไม่ต่างจาก อภิมหาซึนามิ (Tsunami)

ที่ซัดมาเร็วและทำลายทุกอย่างในเวลาชั่วพริบตา อำนาจการซื้อ (Purchasing Power) ของเงินฝากหรือทุนสำรองที่เก็บอยู่ในรูปแบบของ “ดอลล่าร์”

จะถูกซัดหายไปในเวลาอันรวดเร็วไม่ต่างจากคลื่นที่ซัดบ้านเรือนสิ่งปลูกสร้างในญี่ปุ่น.

 

ประชาชนชาวซิมบับเว (ต้นทศวรรษที่ 20) หรือชาวเยอรมันนี (ในปี 1923)

ตื่นขึ้นมาพบว่าเงินฝากที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งหมด ไม่พอแม้แต่จะจ่ายแค่อาหารเช้าเพียง 1 มื้อ.

 

สิ่งเหล่านี้ช้าเร็วก็ต้องเกิดขึ้นกับ สหรัฐ

ผู้เตรียมพร้อมจะสามารถประคองตัวผ่านช่วงเวลาอันยากลำบากนี้ไปได้

ผู้ที่ไม่เชื่อหรือคาดคิดว่าจะเกิดขึ้นจริง เมื่อถึงเวลานั้นทุกอย่างก็คงจะสายเกินไป

 

 

ทุกวันนี้ ธนาคารกลางของอเมริกาคือผู้ซื้อ 70% ของพันธบัตรสหรัฐ (เพิ่มจาก 10%)

หลายๆประเทศเริ่มส่ายหน้าที่จะให้กู้เพิ่ม

 

ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นกับญี่ปุ่น (ถือครองพันธบัตรอันดับ2) เงินจำนวนมากจำเป็นต้องใช้เพื่อฟื้นฟูประเทศในอนาคต

พันธบัตรสหรัฐ มองยังไงๆ ก็เป็นแหล่งทุนชั้นดีที่ควรขาย ต่อให้เก็บไว้เรื่องจะซื้อเพิ่มเหมือนเมื่อก่อนคงหวังยาก

 

พญามังกรจีนผู้ที่ถือครองพันธบัตรเป็นอันดับ 1 ลดประมาณการซื้อลงอย่างฮวบฮาบชนิดไม่ไว้หน้า

หนำซ้ำยัง “เลิกเก็ก” เปลี่ยนจากที่ไม่ยอมระบายดอลล่าร์มาเป็นเททิ้งอย่างโจ่งครึ่ม (ขายทิ้งมา 3 เดือนติดต่อแล้ว)

 

อีกรายคือผู้ซื้อพันธบัตรสหรัฐรายใหญ่ที่สุดจากภาคเอกชนอย่าง กองทุน Pimco ก็ตัดสินใจ

เทขายทิ้ง US. Treasury ล้างพอร์ทไปแล้ว(จาก 150 Billion dollar เหลือ 0) เงินดอลล่าร์กำลังไหลกลับเข้าสู่ประเทศ

เงินเฟ้อที่เคยส่งออกไปทั่วโลกกำลังย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง

 

จีนมีเจตนาที่จะผลักดัน เงินหยวนให้เป็นเงินสกุลหลักของโลก

พร้อมทั้งประกาศทำการซื้อขายระหว่างกันเป็นเงินหยวนกับประเทศพันธมิตรที่มีความพร้อม

 

จีนเร่งสะสมทองคำและแร่เงินอย่างหนัก 2 เดือนแรกของปี 2011 นำเข้าทองคำไปแล้วถึง 200 ตัน !!

รวมทั้งที่ขุดเองก็ไม่มีการว่าจะส่งออก

 

สิ่งเหล่านี้ “เป็นแผน”

 

 

สถานการณ์ในตะวันออกกลาง (Middle East) ที่ตรึงเครียดมาเป็นเวลานานยิ่งกดดันให้

ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอีก ไม่เฉพาะแต่ประเทศที่มีสงคราม หรือ ประสบภัยพิบัติเท่านั้น

 

ภาวะข้าวยากหมากแพง กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ข้าว น้ำมันปาล์ม ยางพารา แป้งสาลี นุ่น ข้าวโพด น้ำตาล น้ำมัน ราคาปรับตัวขึ้นทำสถิติ

ต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจะส่งไม้ต่อดันให้ราคา สินค้าอุปโภคบริโภคทยอยปรับตัวขึ้นในอนาคต (Cost-push inflation)

 

หากคนส่วนมากรู้ว่า ต่อไปสินค้า จะแพงขึ้น เค้าก็จะยิ่งซื้อตุน

ยิ่งซื้อตุน สินค้าก็ยิ่งขาดตลาด ยิ่งขาดตลาด ก็ยิ่งทำให้ราคาปรับตัวสูงขึ้นไปอีก

ที่ผ่านมา กระบวนการควบคุมราคาสินค้า และการจัดการของรัฐบาลมีประสิทธิภาพแค่ไหนคงไม่ต้องบอก

ยิ่งเข้าแทรกแซงราคายิ่งทำให้กลไกตลาดเสีย

 

ความวุ่นวายเกิดขึ้นทั่วตะวันออกกลาง ส่วนหนึ่งก็มาจากสาเหตุนี้

ประชาชนต้อง “จ่ายแพงเกินไป” ในขณะที่ “รายได้น้อยเกินไป”

50% ของรายได้ต้องใช้เพื่อจ่ายเป็นค่าอาหารสำหรับประชาชนในอียิปต์ ในขณะที่ สูงถึง 70-80% ในลิเบีย

 

ประชาชนเริ่มถามหาความชอบธรรมของผู้นำในการบริหารประเทศ

ช่องว่างระหว่างคนจนกับคนรวย ห่างขึ้นๆ จนกลายเป็น “คนละข้าง”

การเข้าแทรกแซงของชาติตะวันตก กลับยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่าเดิม

จรวดที่ปูพรมทิ้งลงไปเป็นร้อยลูก หมายถึง งบประมาณมหาศาลที่ถูกผลาญลงไปเพื่อการนี้

 

ตั้งแต่โอบาม่าเข้ารับตำแหน่ง งบประมาณทางการทหารถูกใช้เฉลี่ยสูงถึง 1 Trillion ต่อปี

(สำหรับ 700 ฐานประจำการของทหารสหรัฐใน 135 ประเทศ)

นอกเหนือจากการพิมพ์เงินแล้ว สงครามคือ อีกหนึ่งปัจจัยกระตุ้นในเกิดเงินเฟ้อรุนแรง

ระเบิดทุกลูกที่ลงไป หมายถึง งบประมาณหลายล้านที่หายวับไปกับตาโดยไม่ได้สร้างผลดีต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ

 

หนี้สิน+ดอกเบี้ยติดตัวก็ ท่วมหัวอยู่แล้ว ยังกล้าใช้+กล้าพิมพ์

 

คิดแล้วเครียด

 

 

ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดนั้นเป็นจิ๊กซอว์ ที่มีจำนวนชิ้นมากพอ

หากค่อยๆลงมือต่อก็จะเห็น “เป็นภาพ”

ภัยธรรมชาติ สงครามกลางเมือง ภาวะหนี้สาธารณะในชาติตะวันตก นโยบายพิมพ์เงินอย่างมหาศาล

เงินเฟ้อ ข้าวยากหมากแพง สารพัด โลกเราวุ่นขนาดนี้ คงถึงเวลาที่จะต้องเตรียมตัวรับมือกันในระยะประชิดซะที

 

เกราะป้องกันภัยที่จะช่วยเราได้ คือ เกราะทองคำ

คำถามที่ผมมักจะได้ยินบ่อยๆ คือ ราคาทองซื้อได้หรือยัง ? ซื้อเลย ? หรือว่า รอย่อลงก่อนแล้วค่อยซื้อ?

 

ผมคงต้องขออนุญาตถามก่อนว่า คุณวางเป้าหมาย ไว้อย่างไร ?

หากลงทุนโดยไม่มีเป้าหมาย คงคล้ายกับคนหลงทาง เดินสะเปะสะปะ

การเข้าซื้อทองคำ จึง ต้องกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน

 

หากวัตถุประสงค์เพื่อ เก็งกำไรระยะสั้น วันสองวันซื้อ เพื่ออาทิตย์หน้าขาย ลงช้อนใหม่ทำกำไรระยะสั้น

ขออภัยที่ผมไม่มีความสามารถจะบอกได้จริงๆ ควรศึกษาจาก ปัจจัยทางเทคนิค (Teachnical analysis) จะเหมาะสมและช่วยได้เยอะกว่า

 

แต่หากเป้าหมายคือ ลงทุนระยะกลางถึงระยะยาว (6 เดือนขึ้นไป) การหาราคาเข้าไปซื้อไม่ใช่เรื่องยาก

ทยอยสะสมได้ทุกราคา ยิ่งเก็บเป็นทองคำแท่ง ไม่มีต้นทุนการเก็บรักษาและระยะเวลามากำหนด

ความเสี่ยงต่ำแต่ความอดทนรอต้องสูง ผลตอบแทนจึงจะคุ้มค่า

 

ขอยกตัวอย่างจาก Casey Reserch ตามกราฟนี้

 

 

 

buyingat1200goldthebigpicture1.gif

 

 

 

สถาบัน Casey Reserch ให้ราคาของโอกาสทองจริงๆไว้ที่ 6,200$ สาเหตุก็เพราะ

โอกาสทองจริงๆ (ครั้งที่ 1) ทองขึ้น 24.28เท่า จากจุดต่ำสุด (35---850$)

หากโอกาสทอง(จริงๆ) จะเกิดขึ้นอีกครั้ง

จากจุดต่ำสุดของรอบนี้คือ 255.95$ (ในปี 2001)

ทองก็ควรขึ้นไปถึง 6,200$ โดยประมาณ

 

จากกราฟจะเห็นว่า ไม่ว่าคุณจะซื้อราคาไหน ณ จุดที่เราอยู่ มันไม่แพงทั้งนั้น

เมื่อเทียบกับเป้าหมายในอนาคต

 

6,200 คิดเป็นกว่า 4 เท่าของราคา ณ ตอนนี้

ฟังเหมือนเป็นไปไม่ได้ แต่ 10 ปีที่ผ่านมามันก็ขึ้นกว่า 4 เท่ามาให้เราเห็นแล้วไม่ใช่หรือ ?

 

หากคุณซื้อราคานี้แล้วเกิดโชคร้าย ราคาทองลดลง 100$ คิดเป็น 7%

แต่เป้าหมายลู่วิ่งขึ้นของคุณคือ 400% ถ้าวันนั้นมันมาถึงจริงๆ

คุณจะดีใจที่กำไร 400% หรือ เสียใจที่วันนั้นไม่ได้ซื้อถูกไปกว่านี้อีก 7%??

Upside กับ Downdside เทียบกันไม่ได้เลยครับ

 

:excl: บางคนกังวลใจว่า ถ้าฟองสบู่ทองคำแตกล่ะ ? ขายไม่ทัน ? จะทำยังไง ?

 

หากคุณเชื่อว่า ราคาตลาดคือสิ่งที่บอกทุกอย่างในตลาด

ปัจจัยทุกอย่างกลั่นกรองมาแล้วว่า ราคา คือ ผลลัพธ์ หากเราไม่มองปัจจัยใดๆทั้งสิ้น (เพราะต้องอธิบายกันยาว)

แต่ดูที่ราคาอย่างเดียว ถือว่า ราคาที่เป็นอยู่มีเหตุและผลรองรับอยู่แล้ว เรามาไล่ดูกัน

 

โอกาสทอง (จริงๆ) ครั้งที่ 1

ทองขึ้นจาก 35$ ไปจบที่ 850$ หลังจากนั้นก็ ฟองสบู่ทองคำแตก ตกลงมาอยู่ที่ 250$

ทำไมต้อง 35 ทำไมต้อง 850 ทำไมต้อง 250 ? เอาสั้นๆว่าปัจจัยพื้นฐานทุกอย่างกำหนดให้ตัวเลขเป็นแบบนั้น

 

หากเราถือว่าในช่วงอายุของพวกเรา 350$ คือราคาเริ่มต้น

ฟองสบู่จะส่งทองไป 8,500$ ก่อน หลังจากนั้นจะแตก แล้วตกกลับมาที่ 2,500$

ทำไมต้อง 350 ทำไมต้อง 8,500 ทำไมต้อง 2,500 ?

 

ผมลอกตัวเลขชุดเก่ามาครับ

 

นั่นหมายความว่าต่อให้ฟองสบู่ทองแตกแล้วเราขายไม่ทัน ทองก็ยังจะแพงกว่าวันนี้ “อีกเท่าตัว”

 

สมเหตุสมผลหรือไม่ ? อยู่ที่ท่านเป็นคนตัดสิน ผมไม่ได้รับประกันว่ามันจะเกิดขึ้น

เพราะผมไม่เก่งพอจะมองอนาคตได้อย่างทะลุปรุโปร่ง แต่สิ่งเดียวที่ผมเชื่อว่าไม่โกหกเราคือ “อดีต”

- ในอดีต “เหตุ” แบบนี้ส่งให้ “ผล” เป็นอย่างไร

หาก “เหตุและปัจจัยแบบเดียวกัน” เกิดขึ้นอีก ก็พอจะคาดเดา “ผล” ที่จะเกิดขึ้นได้

 

- ความเสื่อมศรัทธาในดอลล่าร์ ปี 1980 ส่งให้เกิด “ผล” แบบนั้น

ความเสื่อมศรัทธาในดอลล่าร์ ที่กำลังจะเกิดในยุคของพวกเรา “ผล”จะเป็นอย่างไร

สุดแท้อยู่ที่แต่ละท่านจะพิจารณากันครับ

ถูกแก้ไข โดย Nexttonothing

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:wub: :rolleyes: :rolleyes:

 

ขอบคุณ สำหรับบทความที่ดีและเนื้อหาแน่นเปรี้ยะ

 

ความเห็นสำหรับราคาทอง ของผมก็คือ

 

ถ้าราคาทองลง แปลว่าอำนาจซื้อของเราเพิ่มขึ้น ทุกคนบนโลกรวยขึ้น

 

ถ้าราคาทองขึ้น แปลว่าอำนาจซื้อของเราลดลง ทุกคนบนโลกจนลง

 

ตามหลักแล้วพวกเราทุกๆ คน ควรจะแช่ง ๆๆๆๆๆ ให้ทองลงไปเหลือสัก 500 เหรียญ ทุกคนจะได้รวย ๆ

 

เ่งินที่เรามีอยู่จะได้มีค่ามาก ๆ ๆ :blush:

 

 

แต่โลกของความเป็นจริงในระบบทุนนิยม คนหมู่มาก mass ย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบเสมอ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเน็กพูดมาก็ถูกในแง่ระยะยาวครับ ผมก็คนนึงที่เชื่อละครับในแง่ระยะยาวโละรูปพรรณทิ้งไป 70 เปอเลย เงินเก็บก็จัดการลดลงครึ่งนึงเพื่อมาคบน้องแท่ง

ส่วนระยะสั้นต้องฟังจากอีกท่านในอีกห้องนึงและก็ทำตาม เพราะสถานการณ์อัพเดทฉับไวฉึกๆ

ซึ่งดูเหมือนจะเกาเหลากัน :blink: หรือเปล่า

ผมเหมือนลูกนกสองหัวหรือเปล่าเนี่ย B)

เป็นกำลังใจและติดตามต่อไปครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณเน็กพูดมาก็ถูกในแง่ระยะยาวครับ ผมก็คนนึงที่เชื่อละครับในแง่ระยะยาวโละรูปพรรณทิ้งไป 70 เปอเลย เงินเก็บก็จัดการลดลงครึ่งนึงเพื่อมาคบน้องแท่ง

ส่วนระยะสั้นต้องฟังจากอีกท่านในอีกห้องนึงและก็ทำตาม เพราะสถานการณ์อัพเดทฉับไวฉึกๆ

ซึ่งดูเหมือนจะเกาเหลากัน :blink: หรือเปล่า

ผมเหมือนลูกนกสองหัวหรือเปล่าเนี่ย B)

เป็นกำลังใจและติดตามต่อไปครับ

 

 

ไม่มีหรอกครับคุณ Chinny เรื่องความคิดเห็นที่แตกต่างผมว่า ธรรมดานะ มีกันได้

แต่เรื่อง เกาเหลา ผมคงไม่เกาเหลากับใคร (แต่ไม่รู้คนอื่นจะคิดยังไงกับผมเหมือนกัน) :lol:

 

ส่วนตัวผมเอง ยินดีน้อมรับคำแนะนำ+คำวิจารณ์หรือความคิดเห็นที่แตกต่าง อยู่แล้วครับ

เพื่อนๆสมาชิกเองก็จะได้มีทางเลือกในการรับข้อมูล รวมถึงสามารถนำประเด็นต่างๆเหล่านั้นมาถกกันได้

ก็จะยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นไปอีก

 

ไม่มีห้องนี้หรือห้องไหนนะครับ สำหรับผมอยู่ Thaigoldก็บ้านเดียวกันหมด :rolleyes:

หากตรงไหนเห็นว่าไม่เหมาะสม ก็ชี้แนะหรือตักเตือนกัน

ผมเป็นคนไ่ม่ดื้อครับ ยินดีรับฟังและปรับปรุงแก้ไข

เพื่อใ้ห้ข้อมูลที่สื่อสารออกไปมีคุณภาพมากที่สุดครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...