ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณค่ะ คุณ 'kunghdy มาบ่อย ๆ นะคะ ชอบผลงานคุณ แอบติดตามมานานแล้ว ตอนที่คุณบอกตอนทองขาลงจะมีการดีดขึ้นมา high เดิม ที่ 1557 ยังคิดในใจเลยจะถึงหรอ d5f02ecd.gif

 

แหม...ชมว่าชอบผลงาน เหมือนตัวเองเป็นนักแต่งนิยายชอบกล 555+++ ขอบคุณค่ะ :P

 

ผิดแล้วค่ะ คุณปุยเมฆ ทองไม่เคยเป็นขาลงค่ะ ตอนที่มันลงคือมันพักปรับฐาน ลดความร้อนแรงของราคา กราฟไม่ว่าจะเป็น day week month หรือ year เป็นขาขึ้นตลอด ถ้าอยากดูกราฟ ขาลง เดี๋ยวเอาให้ดูค่ะ 5555++++

 

อันบนราย week ของ Dow jones' index ดูลูกศรสีแดง ขาลงของจริงค่ะ ลงแบบหาก้นเหวแทบไม่เจอ

 

อันล่าง ราย week ของ จรวด ค่ะ :wub: ทองลงรุนแรงตอนที่ DJIA ลงอย่างหนักเหมือนกัน ช่วง 2008-2009 แต่ถึงลงก็ลงไม่ถึง 50% จากที่เคยขึ้นมา ตอนนี้ DJIA ถึงแม้จะพลิกกลับมาได้ จาก low เก่าด้วย stimulus package 2 รอบ ก็ยัง (กระเสือกกระสน) ขึ้นมาได้ห่างไกลจาก high เก่า เยอะ

 

สำหรับจรวดทอง ทำ all time high ไม่รู้กี่รอบต่อกี่รอบแล้ว จนเดี๋ยวนี้ฟัง gold all time high เป็นเรื่องปกติ เพราะมัน high ลบสถิติเก่าแบบไม่เห็นฝุ่น 5555++

 

เพราะงั้นทองอาจโดนปรับฐานช่วง DJIA ขาลงอีกครั้ง ก็ต้องระวังกันหน่อย หรืออาจพุ่งไป $12000 อย่างที่พี่หมอว่าก็ได้ ไม่มีใครรู้อนาคตค่ะ (ถ้ารู้ก็รวยแบบพี่หมอและคุณ NEXT ไปแล้วค่ะ 555+++) !30

ถูกแก้ไข โดย kunghdy

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

!_087 !_087 !_087 !_087 !_087 !_087

ขอบพระคุณในทุกข้อความที่ตอกย้ำให้แน่นขึ้นอีก อนาคตข้างหน้าเป็นสิ่งที่ไม่ไกลเกินไปทุกสิ่งรอพิสูจน์ตัวเองอยู่ ขอเดินไปข้างหน้าแบบทีหลายๆท่านทำอยู่

มีทองอยู่เคียงข้าง ไม่หวั่นแม้วันที่ทองขึ้นมาก(รอได้)ไม่หวั่นแม้วันที่ทองลงมาก(หากระดาษมาซื้อให้ได้)โชคดีมีกำไรกันทุกๆท่านนะค่ะ

!_087 !_087 !_087 !_087 !_087 !_087

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

5555 เห็นภาพเลยครับ

 

ผมก็กลัวเป็น โปรแกรมฟ้าผ่าเหมือนกันครับ

แต่ถ้าเอาตามที่ ลุง Lindsey William ว่าไว้แกบอกจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ต้มกบไปเรื่อยๆ ครับ

ปล. ไม่รู้คลิปนี้หรือเปล่านะครับ แต่น่าจะเป็นชุดนี้แหละ

http://www.youtube.com/watch?v=dlqxwXGDQPw

 

ฟังจากคลิปนี้อย่างน้อยก็ 3000 ครับ อิอิ biggrin.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอเดาแค่ทองหรือหุ้นจะเป็นอย่างไรนะคะ

 

เพดานหนี้น่าจะผ่านฉลุย ไม่น่ามีปัญหาค่ะ เพิ่มเพดานหนี้ได้ หุ้นทั่วโลกน่าจะขึ้น (ชั่วคราว) ทองก็จะวิ่งไปทำ wave 5 พร้อมๆ กับตลาดหุ้นบ้านเราน่าจะขึ้นไปทำ Wave 3 อีกซักพักพอตัวเลขต่างๆ ออกมาไม่ดี (เดาเอา)ว่าอาจจะยังไม่พูดถึง QE หรืออาจจะต่อลองเรื่องตัวเลข stimulus package งวดใหม่อาจน้อยไป หุ้นช่วงนี้จะตกหนักทั่วโลก ทองอาจโดน panic sell (ถึงตอนนั้นอาจจบรอบใหญ่ พอดี)

 

พอเศรษฐกิจโลกมีปัญหา ทุกประเทศขายทองออกมาชำระหนี้ (เหมือนตอน dubai และ ญ๊่ปุ่น) ทองน่าจะตกแรงมากๆๆๆๆ จนคนกลัวไม่กล้าซื้อ ระบบจะปั่นป่วนไปหมด ถึงตอนนั้น ก็อยู่ที่ว่าเราจะ กล้า panic buy กะเค้าหรือป่าว เพราะอาจจะลงแรงแบบ 400-600 บาทต่อวัน ร้านทองอาจจะปิดไม่ให้ซื้อขายเพราะเปลี่ยนป้ายราคาไม่ทัน 5555+++ (อะไรประมาณนี้หรือป่าว) ทั้งหมดนี้เดาเอานะคะ เพราะตอน dubai world ตัวเองยังไม่ได้มาลงทุนในทองคำ ได้ยินแค่ทองโดนทุบแรงมากๆๆๆ คิดว่า commo ตัวอื่นๆ โดยเฉพาะน้ำมันน่าจะโดนด้วย ก็คอยดูกันต่อไปค่ะ เดาเล่นๆ หนุกๆๆ 555+++ :P

 

เพิ่งอ่านบทความใหม่ Mr. Armstrong จบ (จบแบบงงๆ เช่นเคย แปลผิดพลาดโปรดอภัย และแก้ไขด้วยครับ)

http://www.martinarmstrong.org/files/Outlook%20for%20Gold%2007-13-2011.pdf

 

มีประเด็นที่น่าจะหยิบยกมาพูดกัน 2 ประเด็น

 

1. แกยืนยันตามบทความก่อนหน้าว่าช่วงนี้ถึงปลายเดือนสิงหาทองน่าจะพุ่งทยานทำ final burst ทำ Peak ในเดือนสิงหาโดยมีแนวต้านที่ 1700-1730 เหรียญ หรือแนวต้านสูงสุดที่ 2550 เหรียญ

ก่อนจะทำ major correction หลังวันแรงงานของสหรัฐ (สัปดาห์สุดท้ายของสิงหา)

โดยแนวรับที่น่าจับตาคือแถว 1421 เหรียญ ซึ่งเป็นราคาปิดของปีที่แล้ว

หากการ correction ครั้งนี้ทำจุดต่ำสุดได้สูงกว่า 1421 เหรียญก็จะเป็นการบ่งบอกว่าภายในปีหน้าจะมี new high อีก

และอาจมี correction ใหญ่อีกจนถึงปี 2014 ซึ่งจะเป็นการสร้างฐานราคาที่มั่นคงสำหรับการพุ่งทยานฟ้าหลังจากนั้น

(หากสิงหานี้ทำยอดสูงสุดเหนือ 2000 เหรียญ การปรับฐานจะยาวนานกว่า 7 เดือน ไปสิ้นสุดประมาณ ก.พ. - มี.ค. 2012)

 

 

2. แกบอกว่าทองไม่ใช่ real money แต่เป็น commodity ชนิดหนึ่งที่หายากมากพอจะใช้เป็นเครื่องมือในการ รักษาความมั่งคั่ง ไว้ได้

แม้กระทั่ง Money ก็ถือเป็น commodity ด้วยเช่นกันตั้งแต่จุดกำเนิดของมัน

สรุปก็คืำอไม่มีอะไรที่เป็น real money เพราะมูลค่าของสิ่งแลกเปลียนจะอ้างอิงสัมพันธ์กับการรับรู้ของคน ซึ่งไม่เท่ากัน

การใช้ Gold Standard ผู้ได้ประโยชน์คือพวก Investment Banker ทั้งหลาย

ในขณะที่ประชาชนตาดำๆ จะต้องเจอสภาวะทางเศรษฐกิจที่เลวร้ายสุดบรรยาย

(ปล. ส่วนตัว ผมมองว่า หากเรานึกผนวกกับแผนการของพวก NWO Gold Standard ก็คือจุดหมายปลายทางที่พวกเขาผลักดันไปนั่นเอง)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เพิ่งอ่านบทความใหม่ Mr. Armstrong จบ (จบแบบงงๆ เช่นเคย แปลผิดพลาดโปรดอภัย และแก้ไขด้วยครับ)

http://www.martinarmstrong.org/files/Outlook%20for%20Gold%2007-13-2011.pdf

 

มีประเด็นที่น่าจะหยิบยกมาพูดกัน 2 ประเด็น

 

1. แกยืนยันตามบทความก่อนหน้าว่าช่วงนี้ถึงปลายเดือนสิงหาทองน่าจะพุ่งทยานทำ final burst ทำ Peak ในเดือนสิงหาโดยมีแนวต้านที่ 1700-1730 เหรียญ หรือแนวต้านสูงสุดที่ 2550 เหรียญ

ก่อนจะทำ major correction หลังวันแรงงานของสหรัฐ (สัปดาห์สุดท้ายของสิงหา)

โดยแนวรับที่น่าจับตาคือแถว 1421 เหรียญ ซึ่งเป็นราคาปิดของปีที่แล้ว

หากการ correction ครั้งนี้ทำจุดต่ำสุดได้สูงกว่า 1421 เหรียญก็จะเป็นการบ่งบอกว่าภายในปีหน้าจะมี new high อีก

และอาจมี correction ใหญ่อีกจนถึงปี 2014 ซึ่งจะเป็นการสร้างฐานราคาที่มั่นคงสำหรับการพุ่งทยานฟ้าหลังจากนั้น

(หากสิงหานี้ทำยอดสูงสุดเหนือ 2000 เหรียญ การปรับฐานจะยาวนานกว่า 7 เดือน ไปสิ้นสุดประมาณ ก.พ. - มี.ค. 2012)

 

 

ตอนนี้ทองขึ้นมา 161.8 % ของ wave 1 ซึ่งเป็นตัวเลขเดียวกับ 61.8 % ของ wave 3 คือราคาประมาณแถวๆ นี้ 1595-1600 เพราะงั้นเป็นไปได้สูงมากที่ทองจะพักลงมาก่อน ค่อยดูวันจันทร์อีกที ท่าทางจะทะลุ 1600 ไม่ได้ในรอบนี้นะ ....หมดแรงแล้วมั๊ง 555++++

 

ถ้าประเมินโดยดูจาก 261.8 % ของ wave 1 ทองจะวิ่งไปที่ 1730+/- (ซึ่งใกล้เคียงกับที่เค้าประเมิน) ส่วนใหญ่มันไปไม่ถึงจุดนัดหมายเท่าไร แต่ไม่เป็นไร เท่าไหนเท่านั้น ตัวเองมอง time frame ของการปรับฐานของทองใกล้ๆ กับที่เค้ามองเลยค่ะ จะเป็นการพักปรับฐานใหญ่ จุดต่ำสุดไม่ทราบเพราะเรายังไม่รู้จุดสูงสุดของรอบ จากนี้ไปจนถึงปลายเดือน สค จะเป็นช่วงที่ทองทำ wave 5 หลังจาก สค. ไปตลาดทุกตลาดคงปั่นป่วนรวมถึงตลาดหุ้น คงดูไม่จืด ต้องมีระบบเข้าออกนะคะ ไม่งั้นช้อนหักกันแน่

 

Correction ใหญ่ปกติจะปรับลงมาประมาณ 50-61.8% ของรอบที่ขึ้นทั้งหมด รอบนี้เริ่มต้นจากราคา 1319 ก็คอยบวกลบคูณหารกันเอาเองนะคะ ว่าจะไกลแค่ไหน :P การปรับฐานใหญ่คงพักกันเป็นเดือนๆ ล่ะค่ะ ค่อยไปดูกันตอนนั้นอีกที !53

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณทุกท่านที่มาแชร์ความรู้็ไม่ว่าจะเป็นทางเทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐาน ล้วนแต่น่าสนใจทั้งสิ้น :blush: :)

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ดีใจจังเลย คุณเน๊กมาละ คิดถึงบทความเจ๋งๆของคุณเน๊กจังคับ แล้วก็ขอบคุณทุกข้อมูลข่าวสารของหลายๆท่านด้วยคับ ข้อมูลแน่นเอี๊ยดจิงๆ กว่าจะตามอ่านหมดเป็นชม.ๆเลย

 

ถ้าไม่คิดมากเรื่องทองกระดาษ ก็มีกองทุนแบบที่ประกันอัตราแลกเปลี่ยนครับจะตัดเรื่องอัตราแลกเปลี่นที่เป็นปวดหัวไประดับนึงเลย และที่ผมสนใจตอนนี้ก็มีของธนชาติครับ เป็นกองทุนที่ไม่ได้ผ่านกองทุนของพวกต่างประเทศอย่าง SPDR อีกที แต่ทางธนาคารซื้อทองเองเลย ซื้อที่ตลาดลอนดอลเก็บไว้ที่ฮ่องกง และที่ผมชอบกว่ากองทุนอื่นคือ T+1 คือขายวันนี้พรุ่งนี้ก่อนเที่ยงได้ตังครับ เร็วทันใจ

 

แต่ทั้งนี้นั้งนั้นกองทุนก็เจ็งได้นะครับถ้าธนาคารล้ม ถ้าวิกฤตจริงๆ ทองกระดาษก็ไม่สู้ทองจริงครับ ตามความคิดผมนะ

อย่างไรก็ตาม พื้นฐานธนาคารเมืองไทยผมว่าแข็งนะครับ เพราะเราเคยล้มตอนแบบอเมริกาที่เป็นตอนนี้มาแล้ว ซึ่งก็คือช่วงต้มยำกุ้ง ทำให้ธนาคารส่วนใหญ่มีประสบการณ์มาแล้ว ส่วนตัวผมว่าเมืองไทยยังวางใจได้ในระดับนึงนะครับ ผมว่า... :blush:

ผมเองก็ซื้อไว้ทั้งทองแท่ง ทั้งกองทุนไว้บ้างคับ ทองแท่งผมดองเค็มไว้ ส่วนกองทุนทองผมหาไรทำสนุกๆไว้ซื้อๆขายๆบ้าง ผมลงทั้งk-goldกับT-goldHของธนชาต ส่วนตัวชอบธนชาตมากกว่ากำลังจะโยกไปทั้งหมด จิงๆอยากเปรียบเทียบระหว่างK-goldกับT-goldHอยุ่ว่าให้ผลตอบแทนต่างกันขนาดไหม เพราะลงทุนในทองเหมือนกันป้องกันค่าเงินเหมือนกัน แต่ต่างกันที่k-goldลงทุนในSPDRแต่T-goldHลงทุนในทองแท่งเลย อยากรุ้ว่าตัวไหนจะเคลื่อนไหวใกล้เคียงกับราคาSPOTมากกว่ากัน ไม่รุ้ว่าที่ไหนจะมีข้อมูลบ้างไหมน้า หากคุณลีโอหรือเพื่อนๆพอมีข้อมูลรบกวนเอามาแชร์กันบ้างนะคับบ

 

QE 2 เกิดขึ้นเมื่อ 3 พ.ย.53 ทองจาก 19100 (spot 1355) ทองก็ดีดแต่บ่ายเป็นเส้นตรงอย่างรวดเร็ว ไป (19150) (1360)19200(1365)

ตอนเช้าเปิดมาก็เจอ ราคาดีดจากการประชุมไป 19450 1388 สปอตขึ้นมาเยอะ แต่ดอลล่าร์อ่อนตัว จาก 76.31 ไปที่่ 75.94 ส่งผลให้ราคาไม่ขึ้้นมากนัก แต่ก็ยังทรง ๆ อยู่ หลังจากนั้น ดอลล่าก็แข็งตัวขึ้นเรื่อย ๆ พร้อมสปอตที่ขึ้นต่อไปได้ 8 วัน หลังจากนั้น วันที่ 12 พ.ย.เกิดการเทกระหน่ำ ราคาเปลี่ยนแปลงไหลลงเป็นบันจี้จั๊มถึง 9 ครั้งในวันเดียวกัน จากราคาสูงสุด 19750 (1400 ต้นๆ)ไหลลงต่อหลายวันต่อไปอีก 5 วันจนถึง 17 พ.ย. 19050 (1338) โดยที่ดอลล่ายังคงแข็งค่าต่อไปถึง 80 กว่า ๆ แล้วทองก็ค่อย ๆ กลับตัวขึ้นต่อเรื่อยๆไป 20,000 up ครั้งแรก

สวดยอดดด จำได้ไงอ่าคับ เป๊ะมากๆ นับถือๆ d5f02ecd.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ดูการ์ตูนนี้เค้าบอกว่าทองอาจไปถึง 1850-2000 หรืออาจไปถึง $12000 เมื่อไรก็ตามที่มีเพิ่มเพดานหนี้และมีการประกาศ QE

 

silver ถ้าผ่าน 40 เหรียญ จะไปที่ 50 หรือมากกว่า (ถ้าทองไปที่ 2000 silver จะไปที่ $75) เค้าบอกให้ซื้อทองและ silver ค่ะ โชคดีค่ะ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ดูการ์ตูนนี้เค้าบอกว่าทองอาจไปถึง 1850-2000 หรืออาจไปถึง $12000 เมื่อไรก็ตามที่มีเพิ่มเพดานหนี้และมีการประกาศ QE

 

silver ถ้าผ่าน 40 เหรียญ จะไปที่ 50 หรือมากกว่า (ถ้าทองไปที่ 2000 silver จะไปที่ $75) เค้าบอกให้ซื้อทองและ silver ค่ะ โชคดีค่ะ

 

 

ทางเทคนิคหากผ่านแนวต้าน ช่วง 39-40 น่ามีโอกาสไปถึง 50 ครับ เชียร์ด้วยครับ -_-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

.....

 

silver ถ้าผ่าน 40 เหรียญ จะไปที่ 50 หรือมากกว่า (ถ้าทองไปที่ 2000 silver จะไปที่ $75) เค้าบอกให้ซื้อทองและ silver ค่ะ โชคดีค่ะ

 

เฮ้อ.. จะได้ลงดอย silver ซักที a03cbf1e.gif

 

ขอบคุณที่เอาคลิปนี้มาฝากครับ ชอบ series Blythe & Ruprecht มาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ก็อปมาฝากครับcool.gif

 

Jimmy Siri

GOLD 7.17.11 จาก COT Report ของสัปดาห์นี้ กลุ่มแบงค์เกอร์ขาใหญ่ S เพิ่มขึ้นถึง 51,883 สัญญา ***ภายในสัปดาห์เดียวเท่านั้น และใน 5 หมื่นกว่าสัญญานี้เป็นการ S สัญญาโกลด์ฟิวเจอร์ถึง 32,935 สัญญา (ส่วนที่เหลือคือ Option) ซ้ำยังปิดสัญญา L ไปอีก 9,312 สัญญา ซึ่งนั่นคงเป็นสัญญานว่าถึงเวลา​ที่พวกเค้าต้องต้องปิด L แล้วนั่นเองครับ http://news.goldseek.com/COT/131075​8323.php

 

ดังนั้น ไม่ว่าในทางเทคนิคจะยัง "ดูดีอยู่" แค่ไหน ก็คงถึงเวลาที่ต้องระวังแล้วนั่​นเองครับ !! คงต้องลุ้นกันว่าการที่ขาใหญ่ S "ถล่มทลาย" ขนาดนี้ จะเป็นเพียงการ "ชลอ" การพุ่งขึ้นของราคาทองคำ หรือเป็นความพยายามทุบราคาอีกระ​ลอกเพื่อทำให้เกิดการปรับฐานอย่​างรุนแรงตามมา ใน 1-2 สัปดาห์ข้างหน้านี้

 

ปัจจัยสำคัญที่รอเราอยู่ข้างหน้​าคือ

-Debt Ceiling หรือการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสห​รัฐ

-การพูดเปิดทางของ FED สำหรับการทำ QE3

-เรื่องการ Default ของกรีซ และหนี้ของกลุ่มอียู (มีการคาดการ Partial Default หรือการผิดนัดชำระบางส่วนในวันที่ 20 สิงหาคมนี้)

-ผล Stress Test เมื่อวันศุกร์ของธนาคารในกลุ่มอียู ที่ออกมาแย่กว่าที่คาด ที่มีธนาคารขนาดใหญ่ถึง 10 แห่ง ไม่ผ่านการทดสอบ

 

สุดท้ายและสำคัญไม่แพ้กันคือ Gold Option Expiration ที่จะมาถึงในวันที่ 26 กรกฏาคมที่จะถึงนี้ครับ***

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอารูปมาเสริมจะได้ดูง่ายครับ :rolleyes:

เหมือนที่คุณ Jimmy กล่าวมาเลย ไม่เค้าได้กลิ่นกะไรบางอย่างก็เพื่อชะรอราคาจริงๆ ด้วยครับ แต่แบ้งค์เค้าจมูกไว ระวังกันไว้หน่อยก็ดีนะครับ

 

12799079e27827ffd4b0c917a4078e20d4a4a089.jpg sbobet

 

ช่องว่างสัญญา L&S เงิน เริ่มใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วครับ เมื่อก่อนเห็นสัญญา S เงินฝั่งแบ็งค์มีเป็นแสน เดี๋ยวนี้เหลือ 80,000 เอง ส่วน L ก็เพิ่มขึ้นมากเลย ส่วนฝั่งรายย่อย 30,627 : 3,808 ไม่รู้ผมคิดมากไปเองหรือเปล่านะ :lol:

127990882ecb3b790f0164859c71352c9cbb050f.jpg sbobet

ถูกแก้ไข โดย leo_attack

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

วิกฤตครั้งนี้ยูโร คือ การสิ้นสุดของระบบสกุลเงินยูโร ?

สุรศักดิ์ ธรรมโม

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ฟินันซ่า

 

 

 

ในต้นสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนกรกฏาคม 54 นั้นความกังวลในสถานการณ์หนี้สินสาธารณะยุโรปได้เพิ่มขึ้นมาก โดยตลาดกลับมากังวลสถานการณ์ในอิตาลีและสเปน หลังจากที่สัปดาห์ก่อนหน้านั้นตลาดพึ่งคลายความกังวลจากการลดอันดับความน่าเชื่อถือของโปรตุเกสโดยบริษัท มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส

 

ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ผมมีคำอธิบายดังนี้

 

ผู้นำประเทศสำคัญในสหภาพยุโรป เช่น เยอรมันเริ่มแสดงออกถึงท่าทีล่าสุด ในการลดความตั้งใจในการรักษาความเป็นสหภาพยุโรป (EU) แล้ว

 

ซึ่ง “ความเป็นสหภาพยุโรป” เป็นประเด็นสำคัญที่ทำให้นักลงทุนทั่วโลกเชื่อมั่นว่า การปล่อยให้ กรีซ โปรตุเกส ไอร์แลนด์ ล้มละลาย ไม่เพียงแต่ทำลายเงินสกุลเงินยูโรเท่านั้น หากแต่ทำให้เศรษฐกิจสหภาพยุโรปทรุดลงหนักจากผลของการล้มลงของสถาบันการเงินในเยอรมันและฝรั่งเศสเนื่องจากสถาบันการเงินใน 2 ประเทศ ได้ปล่อยกู้ให้แก่ประเทศดังกล่าวจำนวนมหาศาล

นอกจากนี้ ในทางการเมือง การปล่อยให้ประเทศเหล่านี้ล้มลง คือการสิ้นสุด “สหภาพยุโรป” และ “เงินสกุลยูโร” โดยนัย และอาจจะนำพาเศรษฐกิจโลกให้เข้าสู่วิกฤติอีกครั้ง

 

ไม่ว่าว่าจะพิจารณาในด้านเศรษฐกิจหรือการเมืองล้วนได้ผลลัพธ์ที่ไม่พึงปรารถนา ทำไม ผู้นำเยอรมันจึงเริ่มเลือกทางเช่นนั้น

 

ต้องเข้าใจก่อนว่า การรวมกันเป็นสหภาพยุโรป เป็นมรดกทางความทรงจำในสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อตอบสนองต่อภัยคุกคามจากสหภาพโซเวียต และประเทศในยุโรปล้วนได้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการผนึกกัน

 

เมื่อเยอรมันตะวันตกต้องการรวมประเทศกับเยอรมันตะวันออก เยอรมันตะวันตกจำต้องสนับสนุนการผนึกกันยิ่งขึ้นไปของสหภาพยุโรปในรูปของสกุลเงินเดียวกันเพราะจะช่วยให้ประเทศอื่นๆในยุโรปซึ่งแต่เดิมกลัวเยอรมันเพราะได้รับผลลบจากคุกคามของเยอรมันในสงครามโลกทั้ง 2 ครั้งนั้น สนับสนุนการรวมชาติเยอรมัน

 

ปัจจุบัน สหภาพโซเวียตล่มสลายแล้ว เยอรมันรวมประเทศกันเป็นปึกแผ่นแล้ว ในขณะที่ประเทศอื่นๆที่ผนึกกันเป็นสหภาพสกุลเงินตราเดียวกันในชื่อ “ยูโร” จำนวนหนึ่งประสบกับปัญหาหนี้สาธารณะที่พุ่งสูงขึ้นและปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่สามารถแข่งขันได้

 

หนทางเดียวในการแก้ไขปัญหานี้อย่างเบ็ดเสร็จโดยที่ยังรักษาสกุลเงินยูโรอยู่ได้ คือการเป็น Transfer Union หมายความว่าประเทศที่มีสถานะทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง เช่นเยอรมันและฝรั่งเศส ต้องช่วยรับภาระทางการคลังของประเทศที่อ่อนแอเป็นของตนเอง โดยเฉพาะภาระทางการคลังของกลุ่ม PIIGS ซึ่งประกอบด้วย กรีซ โปรตุเกส ไอร์แลนด์ อิตาลี สเปน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่นักการเมืองเยอรมันไม่เห็นด้วย เพราะประเทศตัวเองพึ่งผ่านพ้นการรวมกันเป็นประเทศได้ไม่นาน และพึ่งชำระต้นทุนในการรวมตัวกันเป็นประเทศเดียวกันเสร็จสิ้นไม่กี่ปี

 

ในเชิงเศรษฐกิจ การรวมกันเป็น Transfer Union หมายความว่า ประชาชนในเยอรมันจะต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้น และเยอรมันจะต้องนำเอาทรัพยากรทางเศรษฐกิจจำนวนมากไปจุนเจือกลุ่มประเทศ PIIGS ซึ่งเมื่อพิจารณาถึงขนาดของเศรษฐกิจของกลุ่ม PIIGS แล้ว ถ้าเยอรมันเลือกทางดังกล่าว เยอรมันจะต้องยากจนลงอีกหลายสิบปี

 

ในเชิงการเมือง มีความเป็นไปต่ำมากที่ประชาชนเยอรมันจะสนับสนุน Transfer Union เพราะภาระจะกดทับมาที่ตนเองผ่านภาษีที่เพิ่มขึ้น และสวัสดิการที่ลดลง

 

แม้ว่ายังไม่เป็น Transfer Union อย่างสมบูรณ์ แต่คนเยอรมันเริ่มมีแรงจูงใจในการออกจากระบบยูโร เพราะเห็นว่าไม่จำเป็นที่จะต้องไปช่วยเหลือประเทศอื่นๆที่ไร้วินัยทางการคลัง และควรนำเงินนั้นมาช่วยคนในประเทศตัวเอง

ด้วยเหตุนี้ นักการเมืองเยอรมันจึงบังคับให้ กรีซ โปรตุเกส ต้องรัดเข็มขัด ลดสวัสดิการ แปรรูปรัฐวิสากิจ ขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีสรรพสามิต รวมทั้งคิดอัตราดอกเบี้ยตลาดไม่ใช่อัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนเยี่ยงคนในสหภาพเดียวกัน รวมทั้งเริ่มคิดถึงทางออกในรูปแบบของการปล่อยให้มีการเบี้ยวหนี้บางส่วนของประเทศกลุ่มนี้เพื่อลดภาระตน

 

มาตรการดังกล่าว ยิ่งมีส่วนทำให้ประชาชนโดยเฉพาะกรีซเริ่มหมดความผูกพันในการรวมกันเป็นสกุลเงินยูโร

 

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่า หนทางที่กรีซ และโปรตุเกสจะพ้นจากวิกฤติอย่างเด็ดขาดนั้น จำต้องใช้ “การลดค่าเงิน” เป็นเครื่องมือสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจของตนให้กลับมามีการขยายตัว

 

แต่เมื่อสกุลเงินของตนไม่มีเพราะสละทิ้งเพื่อรวมเป็น”ยูโร” ไปแล้ว การรัดเข็มขัดทางการคลังจึงทำได้แค่การลดภาระหนี้สาธารณะเท่านั้นแต่ไม่มากพอที่จะช่วยให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างยั่งยืน ดังนั้น การลดลงของแรงจูงใจในการผนึกกันเป็น “ยูโร” ใช่ว่าจะเกิดกับเยอรมันประเทศเดียว หากแต่ประเทศลูกหนี้เช่น กรีซ และโปรตุเกส คงเริ่มรู้สึกเช่นเดียวกัน

 

ในปีนี้และปีหน้า ความเสี่ยงของเงินยูโรยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ แต่พ้นปี 2556 ไป โอกาสที่สกุลเงินยูโรจะอยู่กันครบ 17 ประเทศนั้นเป็นไปได้ยากยิ่ง และไม่ต้องเอ่ยถึงความเป็นเงินยูโร เมื่อ 2-3 ประเทศออกจากระบบยูโร ประเทศที่ที่เหลือซึ่งมีเศรษฐกิจอ่อนแอ ยิ่งมีแรงจูงใจการออกจากระบบยูโรมากขึ้น และตอนนั้นอาจจะเป็นจุดสิ้นสุดของระบบยูโรที่แท้จริง

 

หมายเหตุ- บทความนี้ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 15 กรกฏาคม 2554

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...