โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[jingjo 53]

คุณกุ้งคะ ถ้าทองจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้น ปกติจะมาเทสจุด low สุดอีกครั้งก่อนขึ้นหรือเปล่าคะ แบบว่ายังมีเยื่อใยอยู่นะคะ ขอบคุณคะ

[chanan 1]

โดนทุบอีกแล้ว หนทางกลับเป็นขาขึ้นยากจริง แต่ดีไปอย่างนะ จะได้ขึ้นนานๆ เห็นเมื่อวานดูดีเชียว ขนาด US อ่อนยังโดนขนาดนี้ ถ้า US แข็ง นึกภาพไม่ออกจริงๆ เฮ้อ...

ขอบคุณมากคะ ชอบอ่านข้อคิดเห็นของคุณกุ้งจังคะ

[kunghdy 3,187]

คุณกุ้งคะ ถ้าทองจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้น ปกติจะมาเทสจุด low สุดอีกครั้งก่อนขึ้นหรือเปล่าคะ แบบว่ายังมีเยื่อใยอยู่นะคะ ขอบคุณคะ

 

เท่าที่ไล่ๆ ดูย้อนหลังนะคะ ทองมันแปลกอย่าง หลังจากทำ new high ได้แล้วจบรอบ มันมักจะขึ้นไปถามที่ high เก่าก่อนลงพัก แต่ช่วงมันลงเสร็จ บางครั้งมันก็ลงมา test low ก่อนหน้า บางครั้งก็ทิ้งไปซะดื้อๆ (แบบไม่มีเยื่อใย) ก็มี !ee ถ้าเป็นหุ้นหรือ index อื่นๆ เค้ามักลงมาถามก่อนกลับขึ้นใหม่ หรือมี divergence ของ indicator ให้เห็น (ทองเท่าที่ดูเหมือนมันจะมี divergence นิดๆ แล้วมันก็กลับขึ้นไปเลย) แต่ตัวเองมองว่ายังน่าจะยากนะที่จะกลับขึ้นไปทำ new high ใหม่ได้ง่ายๆ เก่งๆ อาจไปได้แถว 1700-1800 ก็อาจโดนทุบลงมาอีก ระยะเวลาพักมันดูสั้นไปหน่อยสำหรับพัก wave 4 ใหญ่ น่าใช้เวลามากกว่า 1 เดือน นี่เพิ่งพักลงมาได้เดือนเดียวเอง !38 แต่ถ้ามันสามารถทำ new high ได้ภายในระยะเวลาสั้นๆ แล้วมีสัญญาณขายออกมาอาจต้องรีบขายทองทิ้งไปก่อนเพราะมันจะจบรอบใหญ่ คราวนี้ล่ะก็ภาพยนตร์เรื่องยาวเลยล่ะ นึกภาพ silver ไว้ แบบเดียวกันเลย นี่พักมาร่วม 6-7 เดือนได้แล้ว ไม่ไปไหน ลงแรงด้วย !034

 

ภาพตอนนี้คือมัน sideway up แบบเรื่อยๆ นะคะ ทองน่าจะกลับขึ้นไปได้ง่ายกว่านี้ถ้าดอลล่าห์มันไม่มาแข็งค่าเอาช่วงนี้ ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ นะคะ โปรดใช้วิจารณญาณค่ะ !bye

ถูกแก้ไข ตุลาคม 13, 2011 โดย kunghdy

[luck 512]

ขอบคุณมากค่ะ

[pormetoo 0]

รบกวนถาม คุณ kunghdy ว่า set50 เริ่มเข้าสู่ขาลงแล้วใช่มั๊ยคะ

[thoney87 92]

ขอบคุณครับคุณกุ้ง

[tangmo 1]

ขอบคุณ คุณกุ้ง และทุกๆข้อมูลจากทุกๆคนที่มีให้กันนะคะีี !thk !gd

[promin 359]

สงสัยคุณหมอเล็กแอบไปซื้อทองอีกละ

[MOR LEK 2,835]

สงสัยคุณหมอเล็กแอบไปซื้อทองอีกละ

 

555 ไม่ได้ไปคร้าบ เพียงแต่นั่งอ่านข่าวน้ำท่วมอยู่ ช่วยเพื่อนๆลุ้นกันว่าอย่าท่วมเลย

อิอิ เอาข่าวมาฝาก 1 ข่าวก็แล้วกัน

 

Euro zone countries will ask banks to accept losses of up to 50 percent on their holdings of Greek debt, officials said on Wednesday, as part of a grand plan to avert a disorderly default and stem a crisis that threatens the world economy.

กลุ่มประเทศในยุโรปบอกธนาคารว่ายอมให้กรีซชักดาบ 50 % ซะดีๆ เพื่อจะได้ไม่เป็นต้นเหตุของการล้มทั้งโลก

(ยังกะว่าชักดาบได้ 50%แล้วจะรอดอย่างนั้นแหละ ...ธนาคารถูกชักดาบก็ตายเหมือนกัน)

 

http://www.reuters.c...E7953D520111012

[promin 359]

แหย่หน่อยเดียวมาไวทันใจเลย

[jingjo 53]

ขอบคุณกุ้งมากคะ !thk !thk

[cocohill 72]

xBT> JAPAN:GFMS คาดธ.กลางแห่ซื้อทองเพิ่มเกือบ 500 ตันปีนี้

โตเกียว--14 ต.ค.--รอยเตอร์

 

บริษัทธอมสัน รอยเตอร์ จีเอฟเอ็มเอส (GFMS) ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษา

ด้านโลหะ เปิดเผยว่า ธนาคารกลางต่างๆอาจทำการซื้อทองสุทธิเกือบ 500 ตัน

ในปีนี้ เพิ่มขึ้นจาก 336 ตันที่คาดไว้ในเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจ

เป็นปัจจัยหนุนความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย

GFMS คาดว่าราคาทองจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 1,770 ดอลลาร์/ออนซ์ใน

ไตรมาส 4

นายฟิลิป แคลปวิค ประธานบริษัท GFMS กล่าวว่า ราคาทองมีแนวโน้ม

แตะระดับสูงสุดในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า และมีแนวโน้มลดลงขณะที่นโยบายการคลัง

จะกลับสู่ภาวะปกติในช่วงสิ้นปี 2012

เขาระบุว่า การซื้อทองของภาครัฐกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมาก

"นับตั้งแต่เราจัดทำข้อมูลเหล่านี้ในเดือนก.ย. เราก็ได้รับข้อมูลเพิ่มขึ้น

เกี่ยวกับการซื้อทองของภาครัฐ" เขากล่าวในการแถลงข่าว "ผมจะไม่ประหลาดใจ

หากเราคาดว่าการซื้อทองของภาครัฐในปีนี้ใกล้เคียงระดับ 500 ตัน มากกว่าที่ระดับ

340 ตัน"

ความวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและวิกฤติหนี้ในยูโรโซนได้สร้าง

ความปั่นป่วนครั้งใหญ่ในตลาดการเงินในปีนี้ ซึ่งหนุนความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะ

แหล่งลงทุนที่ปลอดภัย

ข้อมูลของ GFMS บ่งชี้ว่า การซื้อทองสุทธิทั้งหมดของภาครัฐในปี 2010

อยู่ที่เพียง 77 ตัน และพุ่งขึ้นสู่ 216 ตันในช่วงครึ่งแรกของปีนี้

ธนาคารกลางของเอเชียรวมถึงธนาคารกลางเกาหลีใต้และธนาคาร

แห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้เข้าซื้อทองอย่างมาก

ราคาทองสปอตอยู่ที่ราว 1,665 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ ร่วงลง 13%

จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1,920.30 ที่เข้าทดสอบในช่วงต้นเดือนก.ย.

แต่ยังคงเพิ่มขึ้นมากกว่า 17% แล้วในปีนี้

นายแคลปวิคกล่าวว่า ภาวะที่เอื้อต่อการลงทุนในทองอาจจะไม่ดำเนิน

ไปเกินปี 2012 หากความปั่นป่วนของตลาดเริ่มที่จะมีเสถียรภาพและอัตราดอกเบี้ย

เริ่มที่จะปรับตัวขึ้น

"จะมีการปรับนโยบายการเงินสู่ภาวะปกติ โดยมีแนวโน้มที่อัตราดอกเบี้ย

จะเริ่มปรับตัวขึ้น และวิกฤติหนี้ในยุโรปจะได้รับการแก้ไข ซึ่งจะทำให้ราคาทอง

เริ่มอ่อนตัวลงในปี 2013"

ราคาจะปรับตัวขึ้นหากภาวะปัจจุบันยังคงดำเนินไปในช่วง 3 ปีข้างหน้า

และสนับสนุนระดับความต้องการลงทุนที่เพิ่มขึ้น

นายแคลปวิคกล่าวว่า ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มปรับตัวในช่วง 30-43

ดอลลลาร์จนถึงสิ้นปี

ราคาโลหะเงินในตลาดสปอตอยู่ที่ราว 32 ดอลลาร์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยลดลงมากกว่า 1 ใน 3 ของราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 49.51 ดอลลาร์

ที่เข้าทดสอบในช่วงปลายเดือนเม.ย.--จบ--

 

(รอยเตอร์ โดย กัลยาณี ชีวะพานิช แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)

[cocohill 72]

xBT> SLOVAKIA:ยูโรโซนทุกประเทศไฟเขียวกองทุนยุโรปแล้วหลังสภาสโลวาเกียให้สัตยาบัน

บราติสลาวา--14 ต.ค.--รอยเตอร์

 

รัฐสภาสโลวาเกียมีมติให้สัตยาบันต่อมาตรการปรับเพิ่มอำนาจ

ของกองทุนรักษาเสถียรภาพการเงินยุโรป (EFSF) แล้วเมื่อวานนี้ หลังจาก

พรรคร่วมรัฐบาลสามารถบรรลุข้อตกลงกับพรรคฝ่ายค้านในประเด็นดังกล่าว

การอนุมัติการเพิ่มอำนาจแก่กองทุน EFSF ประสบภาวะชะงักงัน

เมื่อวันอังคาร หลังหนึ่งในพรรรคร่วมรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีอิเวตา ราดิโควา

ประกาศขัดขวางการอนุมัติในเรื่องดังกล่าว

สโลวาเกียนับเป็นประเทศสุดท้ายในบรรดาสมาชิกยูโรโซน 17 ประเทศ

ที่ได้ให้สัตยาบันต่อแผนขยายกองทุน EFSF โดยสโลวาเกียมีประชากร 5.4 ล้านคน

หรือไม่ถึง 2 % ของจำนวนประชากรในยูโรโซน ส่วนผลผลิตทางเศรษฐกิจของ

สโลวาเกียมีขนาดเพียง 1 % ของผลผลิตทั้งหมดของยูโรโซน

การขยายอำนาจและบทบาท EFSF จะมีผลบังคับใช้ก็ต่อเมื่อประเทศ

สมาชิกยูโรโซนทั้ง 17 ประเทศให้สัตยาบันต่อแผนดังกล่าว--จบ--

 

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)

[cocohill 72]

xBT> *SPAIN:S&P หั่นอันดับเครดิตสเปน ชี้ว่างงานสูง,หนี้เอกชนพุ่ง

นิวยอร์ค--14 ต.ค.--รอยเตอร์

 

สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสเปน

ลงในวันนี้ หลังจากฟิทช์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือในสัปดาห์ที่แล้ว

ทั้งนี้ S&P ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนลง 1 ขั้น

สู่ AA- จาก AA โดยให้เหตุผลว่า สเปนมีอัตราการว่างงานสูง, สินเชื่อตึงตัว

และหนี้ภาคเอกชนอยู่ในระดับสูง--จบ--

 

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)

[cocohill 72]

รวมถึงทองด้วยไหม

 

 

xBT> ASIA:IMF เตือนเอเชียรับมือต่างชาติเทขายล้างพอร์ทชดเชยขาดทุนวิกฤติการเงิน

โตเกียว--14 ต.ค.--รอยเตอร์

 

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ระบุว่า เศรษฐกิจเอเชีย

เผชิญกับความเสี่ยงระยะใกล้ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเป็นผลมาจากวิกฤติหนี้

ยุโรปและการชะลอตัวทางเศรษฐกิจในสหรัฐ ซึ่งส่งผลให้ผู้กำหนดนโยบายของเอเชีย

ต้องพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบายได้อย่างรวดเร็ว

ไอเอ็มเอฟเตือนว่ามีความเสี่ยงที่กระแสเงินลงทุนจะไหลออกจากเอเชีย

เนื่องจากนักลงทุนจากประเทศพัฒนาแล้วอาจจะเทขายสินทรัพย์การลงทุนจำนวนมาก

ที่ถือครองไว้ในตลาดเอเชียนับตั้งแต่ปี 2009

ไอเอ็มเอฟระบุในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจสำหรับภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก

ว่า "การระบายสถานะการลงทุนอย่างฉับพลันอาจจะก่อให้เกิดการสูญเสียความเชื่อมั่น

และผลกระทบอาจจะลุกลามออกจากตลาดพันธบัตรและตลาดหุ้นไปสู่ตลาดปริวรรตเงินตรา

และตลาดอื่นๆ"

"แรงเทขายในตลาดการเงินเอเชียในเดือนส.ค.และก.ย.2011 ตอกย้ำ

ให้เห็นว่า ปัญหาทางการเงินที่ทวีความรุนแรงขึ้นในยูโรโซนและการชะลอตัวทาง

เศรษฐกิจในสหรัฐอาจส่งผลกระทบอย่างร้ายแรงในทางการเงินและในทางเศรษฐกิจ

มหภาคต่อเอเชีย"

ไอเอ็มเอฟเตือนว่า เศรษฐกิจเอเชียเผชิญความเสี่ยงในช่วงขาลงอย่างเห็นได้ชัด

ขณะที่กระแสการไหลเวียนของสินเชื่ออาจจะหดหายไปในอนาคต ถ้าหากธนาคารยุโรปและ

สหรัฐระงับการปล่อยสินเชื่อในเอเชียเมื่อธนาคารเหล่านี้เผชิญกับความเสียหายครั้งใหญ่

ในประเทศของตน

ไอเอ็มเอฟระบุว่า ความเสี่ยงทางเศรษฐกิจที่เพิ่มสูงขึ้นและภาวะเศรษฐกิจ

ที่ร้อนแรงเกินไปในเอเชีย ส่งผลให้ผู้กำหนดนโยบายในเอเชียต้องเผชิญกับภารกิจ

ที่ยากลำบากในการรักษาสมดุล เพราะ "ผู้กำหนดนโยบายจำเป็นต้องสกัดกั้นความเสี่ยง

ที่มีต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ก็ต้องจำกัดผลกระทบที่อัตราเงินเฟ้อได้รับจาก

สถานการณ์ทางการเงินที่ผ่อนคลายเป็นเวลานานด้วยเช่นกัน"

ไอเอ็มเอฟเปิดเผยว่า หลายประเทศในเอเชียจำเป็นต้องปรับนโยบาย

เศรษฐกิจมหภาคที่ผ่อนคลายให้กลับคืนสู่ภาวะปกติเพื่อลดความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อ

โดยใช้ทั้งวิธีปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่อัตราแลกเปลี่ยน

"อย่างไรก็ดี ในประเทศที่มีอัตราเงินเฟ้ออยู่ภายในกรอบเป้าหมาย

ของธนาคารกลาง และประเทศนั้นเผชิญความเสี่ยงเป็นอย่างมากจากเหตุการณ์

ที่ไม่คาดฝันในต่างประเทศ ประเทศนั้นๆก็สมควรระงับการคุมเข้มนโยบายการเงิน

จนกว่าภาวะไม่แน่นอนในเศรษฐกิจโลกจะลดระดับลง"

ไอเอ็มเอฟระบุว่า อุปสงค์ภายในภูมิภาคเอเชียยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่ง

และมีแนวโน้มว่าปัจจัยนี้จะช่วยสกัดกั้นผลกระทบที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ได้รับจากการลดลงของอุปสงค์ในต่างประเทศในระยะใกล้ อย่างไรก็ดี ในบรรดา

เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคตนั้น การดิ่งลงอย่างรุนแรงของการ

ส่งออกของจีนอาจจะส่งผลให้หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ในธนาคารจีน

เพิ่มสูงขึ้น และอาจทำให้ธนาคารจีนคุมเข้มสินเชื่ออย่างรุนแรง

ไอเอ็มเอฟเตือนว่า ญี่ปุ่นอาจได้รับความเสียหาย ถ้าหากกระแสการ

หลีกเลี่ยงความเสี่ยงในตลาดโลกส่งผลให้นักลงทุนกังวลต่อความสามารถของ

รัฐบาลญี่ปุ่นในการชำระหนี้อย่างยั่งยืน และทำให้สถานการณ์ทางการเงินในญี่ปุ่น

ตึงตัวมากยิ่งขึ้น

ไอเอ็มเอฟระบุว่า ประเทศส่วนใหญ่ในเอเชียยังคงมีความสามารถในการ

ใช้มาตรการต่างๆในการลดผลกระทบที่เศรษฐกิจได้รับจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันใน

ต่างประเทศ เหมือนที่ประเทศเหล่านี้ได้เคยทำไปแล้วในการรับมือต่อวิกฤติการเงิน

โลกในปี 2008

"ในขณะเดียวกัน ความอ่อนแอของอุปสงค์ในตลาดโลกก็ตอกย้ำให้เห็นว่า

เอเชียจะได้รับประโยชน์เป็นอย่างมากจากความคืบหน้าในการปรับสมดุลการเติบโต

ทางเศรษฐกิจ โดยผ่านทางการพัฒนาแหล่งอุปสงค์ภายในประเทศ" ซึ่งในการปรับ

สมดุลดังกล่าวนั้น สิ่งที่จำเป็นก็คือการปฏิรูปโครงสร้าง, การลงทุนในโครงสร้าง

พื้นฐาน และการลงทุนในโครงการทางสังคม

ไอเอ็มเอฟระบุว่า ถ้าหากเอเชียเผชิญกับปัจจัยลบทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรง

ผู้กำหนดนโยบายในเอเชียก็สามารถระงับการถอนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ และธนาคาร

กลางก็สามารถใช้ทุนสำรองเงินตราต่างประเทศ และใช้ประโยชน์จากข้อตกลงด้าน

เงินทุนสำรองของภูมิภาค--จบ--

 

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปล; ก้องเกียรติ กอวีรกิติ เรียบเรียง)