โอกาส"ทอง" (จริงๆ) : Safe Heaven

[ส้มโอมือ 4,910]

น่ากลัวว่ายูโรจะเกิดเรื่องก่อน แล้วทำให้ดอลล่าร์แข็ง และทองมีโอกาสโดนทุบอีก ในระยะสั้นๆนะครับ

 

น่าจะเป็นแบบที่คุณwcg โพสบอก แต่อย่าลืมประโยคว่า ในระยะสั้นๆนะ

[mdaddy 2,443]

ใช่ครับ ประเด็นคือ ระยะสั้นๆ

จากที่อ่าน และคุยมา หลายๆคนเชื่อว่าดอลล่าร์เป็นเสาต้นสุดท้ายในเตนท์ที่จะล้ม

ตอนนั้นใครมีดอลล่าร์แล้วหลงดีใจที่ดอลล่าร์แข็งแกร่ง คงจะดีใจได้ไม่นาน

เพราะตาโป๊งเหน่ง จะยอมให้ดอลล่าร์แข็งค่าไม่ได้

และในที่สุดจรวดที่คุณ oasis ว่า ก็จะมารับชาวดอยไปครับ

 

ตอนนี้เปลี่ยนกลยุทธใหม่ ตามที่ได้ฟังมาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วครับ

เงินหนึ่งก้อน ครึ่งหนึ่งซื้อเข้า อีกครึ่งเอาไว้ซื้อเวลาโดนทุบ

[mdaddy 2,443]

ในเกาหลีใต้ ตอนนี้มีธนาคารโดนปิดไป ๒๐ ธนาคารแล้ว

เงินออมกว่า ๘๕๗ ล้านเหรียญสหรัฐ ของผู้ฝากเงินกว่า ๘๘๐๐๐ ราย

ก็หายไปพร้อมกับธนาคารที่โดนปิดด้วย (เงินฝากที่สูญไป เป็นส่วนที่เกิน

การรับประกันจากรัฐฯ และเงินฝากที่เอาไปซื้อตราสารหนี้ / พันธบัตร)

 

เงินของ เจ มิ ยอง หายไปกว่า ๔๐ล้านวอน หรือประมาณ ๓๕๐๐๐ เหรียญสหรํฐ

 

เธอบอกว่าเธอได้รับ sms จาก Korea Savings Bank ขายพันธบัตรอายุ ๕ ปี

ที่ดอกเบี้ยร้อยละ ๘ เมื่อปี ๒๐๑๐ ซึ่งธนาคารบอกว่า(ได้กำไร)ง่ายๆ

 

เธอจึงได้เอาเงินของแม่เธอ และเงินของเธอเอง

มาลงทุน ในพันธบัตรที่ไม่ได้รับการรับประกันเงินฝาก (แม่ลงสี่ส่วน เธอลงหนึ่งส่วน)

 

เจ มิ ยอง บอกว่า

 

"แล้วนี่ฉันจะบอกแม่ของฉัน(อายุ ๘๐ ปี) อย่างไร ว่าฉันทำเงินที่แม่ต้องใช้ดำรงชีวิตสูญไป"

"ดอกเบี้ยที่สูงกว่านิดหน่อยนั้นเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา ตอนนี้ฉันได้เห็นแล้วว่ามันเป็นกับดัก"

 

"ฉันอยากให้สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเพียงแค่ฝันร้ายเท่านั้น"

"ฉันเคยสงสัยมาตลอด ว่าใครจะโง่เอาเงินไปฝากธนาคารเน่าๆ แต่ตอนนี้ฉันก็เป็นคนคนนั้นเสียเอง"

 

via Keiser Report - Bloomberg

http://maxkeiser.com...-gold-vs-paper/

 

ที่เอาข่าวนี้มาฝาก เพราะเห็นว่าสถาบันการเงินในบ้านเรา ก็ทำการตลาดในเรื่องการขาย

พันธบัตร/ตราสารหนี้/กองทุน กันหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

 

หลายๆครั้งที่ได้คุยกับทางธนาคาร ก็จะมีกระดาษที่พิมพ์มาจาก word/excel

ว่า การันตีได้ดอกเบี้ยเท่านั้นเท่านี้ และมีคำนวณไว้เสร็จสรรพ ว่าลงเท่าไหร่ ได้ดอกฯเท่าไหร่

แต่ก็จะมีกำกับไว้ว่า ห้ามนำกระดาษแผ่นนี้ออกจากธนาคาร

ส่วนเงินต้น จนท.ก็บอกว่าไม่มีปํญหา ไม่หายหรอก

แต่พอถามย้ำหลายๆที จนท. ก็บอกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา

 

ส่วนหนังสือชี้ชวนอย่างเป็นทางการ (ที่เอาออกนอกธนาคารได้) ก็เขียนไว้ครบ ว่าดอกเบี้ย และเงินต้นไม่การันตี

 

ผู้ใหญ่หลายๆท่านบอกว่าธนาคารในไทยแข็งแกร่งกว่าที่ผมคิดมาก เพราะธปท. คุมให้อยู่ในกรอบเป็นอย่างดี

ผมก็หวังว่าสถาบันการเงินบ้านเราจะมั่นคงแข็งแกร่ง อย่างที่ผู้ใหญ่ทุกๆท่านว่ามา และจะไม่มีสถาบันไหนที่ล้มลงไป

 

ถึงแม้ว่าสถานการในเกาหลีใต้ และประเทศไทยจะไม่เหมือนกัน ก็ขอฝากเรื่องที่เกิดขึ้นไว้พิจารณาเป็นอุทาหรณ์ครับ

 

(เมื่อหลายเดือนก่อน ธนาคารเกาหลีแห่งหนึ่งที่โดนปิด เจ้าของธนาคารเอาเงินกระดาษออกมาหลายล้านเหรียญสหรัฐ

เตรียมขึ้นเรือหนีไปเมืองจีน แต่โดนจับได้เสียก่อน )

ถูกแก้ไข มิถุนายน 26, 2012 โดย wcg

[chocolate 6]

ขอบคุณ คุณ WCG และทุก ๆ ท่าน ที่ให้คำแนะนำและความรู้รวมถึงข้อคิดเห็นต่าง ๆ ผมขอนำไปบอกต่อ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆ นะครับ

[Sakai 12]

ขอบคุณทุกท่าน สำหรับข้อมูลดีๆ

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[oasis 315]

JP หม้อแก อาจขาดทุนมากกว่าที่คิด

 

JP morgan อาจขาดทุนถึง 9 พันล้านดอลล่าร์

ที่มา http://www.cnbc.com/id/47888252

[leo_attack 579]

เอาเลย ขาดทุนเยอะๆ เจ้งเร็วๆ ผมรออยู่

[dragonfly 96]

ในเกาหลีใต้ ตอนนี้มีธนาคารโดนปิดไป ๒๐ ธนาคารแล้ว

เงินออมกว่า ๘๕๗ ล้านเหรียญสหรัฐ ของผู้ฝากเงินกว่า ๘๘๐๐๐ ราย

ก็หายไปพร้อมกับธนาคารที่โดนปิดด้วย (เงินฝากที่สูญไป เป็นส่วนที่เกิน

การรับประกันจากรัฐฯ และเงินฝากที่เอาไปซื้อตราสารหนี้ / พันธบัตร)

 

เงินของ เจ มิ ยอง หายไปกว่า ๔๐ล้านวอน หรือประมาณ ๓๕๐๐๐ เหรียญสหรํฐ

 

เธอบอกว่าเธอได้รับ sms จาก Korea Savings Bank ขายพันธบัตรอายุ ๕ ปี

ที่ดอกเบี้ยร้อยละ ๘ เมื่อปี ๒๐๑๐ ซึ่งธนาคารบอกว่า(ได้กำไร)ง่ายๆ

 

เธอจึงได้เอาเงินของแม่เธอ และเงินของเธอเอง

มาลงทุน ในพันธบัตรที่ไม่ได้รับการรับประกันเงินฝาก (แม่ลงสี่ส่วน เธอลงหนึ่งส่วน)

 

เจ มิ ยอง บอกว่า

 

"แล้วนี่ฉันจะบอกแม่ของฉัน(อายุ ๘๐ ปี) อย่างไร ว่าฉันทำเงินที่แม่ต้องใช้ดำรงชีวิตสูญไป"

"ดอกเบี้ยที่สูงกว่านิดหน่อยนั้นเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา ตอนนี้ฉันได้เห็นแล้วว่ามันเป็นกับดัก"

 

"ฉันอยากให้สิ่งที่เกิดขึ้น เป็นเพียงแค่ฝันร้ายเท่านั้น"

"ฉันเคยสงสัยมาตลอด ว่าใครจะโง่เอาเงินไปฝากธนาคารเน่าๆ แต่ตอนนี้ฉันก็เป็นคนคนนั้นเสียเอง"

 

via Keiser Report - Bloomberg

http://maxkeiser.com...-gold-vs-paper/

 

ที่เอาข่าวนี้มาฝาก เพราะเห็นว่าสถาบันการเงินในบ้านเรา ก็ทำการตลาดในเรื่องการขาย

พันธบัตร/ตราสารหนี้/กองทุน กันหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ

 

หลายๆครั้งที่ได้คุยกับทางธนาคาร ก็จะมีกระดาษที่พิมพ์มาจาก word/excel

ว่า การันตีได้ดอกเบี้ยเท่านั้นเท่านี้ และมีคำนวณไว้เสร็จสรรพ ว่าลงเท่าไหร่ ได้ดอกฯเท่าไหร่

แต่ก็จะมีกำกับไว้ว่า ห้ามนำกระดาษแผ่นนี้ออกจากธนาคาร

ส่วนเงินต้น จนท.ก็บอกว่าไม่มีปํญหา ไม่หายหรอก

แต่พอถามย้ำหลายๆที จนท. ก็บอกว่า ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา

 

ส่วนหนังสือชี้ชวนอย่างเป็นทางการ (ที่เอาออกนอกธนาคารได้) ก็เขียนไว้ครบ ว่าดอกเบี้ย และเงินต้นไม่การันตี

 

ผู้ใหญ่หลายๆท่านบอกว่าธนาคารในไทยแข็งแกร่งกว่าที่ผมคิดมาก เพราะธปท. คุมให้อยู่ในกรอบเป็นอย่างดี

ผมก็หวังว่าสถาบันการเงินบ้านเราจะมั่นคงแข็งแกร่ง อย่างที่ผู้ใหญ่ทุกๆท่านว่ามา และจะไม่มีสถาบันไหนที่ล้มลงไป

 

ถึงแม้ว่าสถานการในเกาหลีใต้ และประเทศไทยจะไม่เหมือนกัน ก็ขอฝากเรื่องที่เกิดขึ้นไว้พิจารณาเป็นอุทาหรณ์ครับ

 

(เมื่อหลายเดือนก่อน ธนาคารเกาหลีแห่งหนึ่งที่โดนปิด เจ้าของธนาคารเอาเงินกระดาษออกมาหลายล้านเหรียญสหรัฐ

เตรียมขึ้นเรือหนีไปเมืองจีน แต่โดนจับได้เสียก่อน )

 

พออ่านแล้วรู้เลยครับ ว่ามันมีปัญหาแน่ๆ

[mdaddy 2,443]

พออ่านแล้วรู้เลยครับ ว่ามันมีปัญหาแน่ๆ

 

เห็นใจจนท.ธนาคารที่ต้องมาขาย "สินค้า" พวกนี้เลยครับ

หลายๆคนคงไม่อยากทำงานขาย แต่ก็โดนบังคับให้ทำยอด ไม่งั้นจะสู้กับธนาคารอื่นไม่ได้

เลยได้แต่ยิ้มๆ ฟังๆ ไป แล้วก็นึกถึงตอนที่เกิดวิกฤติสมัยก่อน ที่คนรอบข้างหมดเงินกันไปมากมาย

เพราะเอาเงินไปลงกับกองทุนที่มีประวัติผลตอบแทนดีมาก ก่อนจะฟองสบู่แตก

(โชคดีที่ต้อนนั้นผมไม่มีเงินเก็บ ไม่งั้นคงเอาไปลงกับเขาด้วย)

 

******

 

ศาลพึ่งออกมายืนยันว่ากฏหมาย "โอบามาแคร์" เป็นกฏหมายที่ไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ

เวบ ซีโรเฮดจ์ ออกมาแซวทันทีเลย ว่าตลาดหุ้นตก ราคาน้ำมันตก และ โลหะมีค่าตก

เพราะทุกๆคนต้องพยายามขายของทิ้ง เพื่อเอาเงินมาจ่าย "โอบามาแคร์"

 

กฏหมายนี้ เอาเรื่องทีเดียวครับ เพราะบังคับให้ผู้กระกอบการตั้งแต่ขนาดเล็ก จนถึงขนาดใหญ่

ต้องซื้อประกันสุขภาพให้กับพนักงาน (อันนี้ยังไม่รวมกับประกันสังคม, ภาษีเงินได้, และประกันการว่างงาน

ที่บริษัท และพนักงานต้องจ่ายให้กับรัฐอยู่แล้ว) ปีเตอร์ ชิฟฟ์ บอกว่า ตอนนี้ ถ้านับตัวเลขทั้งหมด

ผู้ประกอบการต้องเสียภาษี เกือบๆร้อยละ ๕๐ อยู่แล้ว ส่วนพนักงานก็น้อยกว่านั้นหน่อย

 

เจอ "โอบามาแคร์" เข้าไป ดูไม่จืดแน่ๆ

 

 

*******

 

เครี่ ลัทซ์ คุยกับ เดเนียลล์ พาร์ค เรื่องการลงทุน และเงินๆทองๆ

เดเนียลล์ พาร์ค เป็นที่ปรึกษาการลงทุนให้กับลูกค้าที่มีเงินลงทุนอย่างน้อย หนึ่งแสนเหรียญสหรํฐ

แม้ว่าในสภาวะเศรษฐกิจแบบนี้ ที่เพื่อนร่วมอาชีพของเธอจะตกงานกันไปเรื่อยๆ แต่ธุรกิจของเธอ

กลับมีลูกค้าเพิ่มขึ้นมามากมาย

 

ประเด็นหนึ่งที่เธอพูดไว้ได้ดีก็คือ ถ้ารู้ว่าเศรษฐกิจจะถดถอยแบบนี้ล่ะก็ อย่าเอาเงินไปลงทุน หรือไล่ตามดอกเบี้ย

นิดๆหน่อยๆ แม้ว่าเงินกระดาษที่เรามอง เป็นสิ่งที่จะหมดค่าลงไปเรื่อยๆ แต่ในตอนนี้ การที่มีสภาพคล่อง เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด

เพราะเมื่อเรามีโอกาสได้เห็นของดีราคาถูกแล้ว จะได้ไม่ต้องมาเจ็บใจ หรือต้องขายของที่มีอยู่แบบขาดทุน เพื่อเอามาซื้อของพวกนั้น

 

เพราะฉะนั้น การเก็บเงินไว้ในธนาคารที่มีดอกเบี้ยติดลบ (เมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อที่แท้จริง) ก็อาจจะมีโอกาสทำผลตอบแทน

ในระยะยาวได้มากกว่า ถ้าเรารอจังหวะที่จะซื้อของดีในราคาถูกได้

 

http://financialsurvivalnetwork.com/2012/06/danielle-park-stay-out-of-debt-stay-out-of-bankruptcy/

[ส้มโอมือ 4,910]

• 
  
• Good Morning News 29 มิถุนายน 2555 - วรวรรณ ธาราภูมิ
   
  โดย Analai Tone เมื่อ 29 มิถุนายน 2012 เวลา 4:20 น. ·
  
• Noriel Rubini เตือนว่า โลกมีความเสี่ยงที่จะเผชิญกับ 'มหาวาตภัย' หรือ Perfect storm จากวิกฤตหนี้ยุโรป ซึ่งจะเป็นวิกฤตครั้งรุนแรงของภาคการเงินอีกครั้งหนึ่ง เปรียบเสมือนกับการเกิดพายุขนาดใหญ่ที่มีอานุภาพทำลายล้างรุนแรง หรือ Perfect Storm
  

• ผู้นำสหภาพยุโรป (EU) เข้าร่วมการประชุมสุดยอดที่จัดขึ้น 2 วันแล้วในวานนี้ เพื่อรับมือกับวิกฤตหนี้และนำพายูโรโซนรอดพ้นจากการล่มสลาย ซึ่งคาดว่าผู้นำ EU จะเห็นชอบเรื่องข้อตกลงเพื่อการขยายตัวและฟื้นเศรษฐกิจในระยะยาว รวมถึงการจัดตั้งสหภาพธนาคาร แต่ก็ยังไม่ชัดเจนในความคืบหน้า
  

• อัตรา การว่างงานเยอรมนีเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 4 โดยเดือนมิ.ย.มีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นอีก 7,000 ราย มาอยู่ที่ 2.88 ล้านราย เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 6.8% ซึ่งเป็นผลมาจากวิกฤตหนี้ยุโรปกดดันการจ้างงานในเยอรมนี
  

• GDP อังกฤษไตรมาส 4 ปีที่แล้วติดลบ 0.4% ย่ำแย่มากกว่าที่ประกาศครั้งแรกซึ่งติดลบ 0.3% สะท้อนถึงความอ่อนแอทางเศรษฐกิจที่รุนแรงกว่าที่คาด ขณะที่ไตรมาสแรกปีนี้ติดลบ 0.3% ลบต่อเนื่องกันเป็นไตรมาสที่ 2 สะท้อนถึงเศรษฐกิจที่ถดถอยจากผลกระทบวิกฤตหนี้ยุโรปที่รุนแรงขึ้น
  

• การ ขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีสัญญาณดีขึ้นหลังยอดขายบ้านมือสองและยอดสั่งซื้อ สินค้าคงทนในเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของสหรัฐ ทั้งนี้ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเพิ่มขึ้น 1.1% เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกนับแต่เดือน ก.พ.ขณะที่ยอดขายบ้านมือสองเพิ่มขึ้น 5.9% หลังจากลดลง 5.5% ในเดือน เม.ย.
  

• ดัชนี ผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของจีนในเดือน มิ.ย. อาจลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือนที่ผ่านมา เพิ่มความวิตกต่อภาคการผลิตของจีนว่าจะหดตัวลง
  

• ทั้ง นี้ จีนจะประกาศข้อมูล PMI อย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์นี้ ขณะที่ค่ากลางในผลสำรวจของรอยเตอร์ระบุว่า ดัชนี PMI จะลดลงสู่ระดับ 49.8 ในเดือน มิ.ย. จาก 50.4 ในเดือน พ.ค.
  

• ยอดค้า ปลีกญี่ปุ่นเดือน พ.ค.เพิ่มขึ้น 3.6% สูงกว่าที่ตลาดคาดว่าจะเป็น 2.9% สะท้อนถึงความต้องการการบริโภคที่ยังขยายตัว โดยเฉพาะการใช้จ่ายในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศซึ่งถูก สึนามิถล่มเมื่อปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ยอดขายยานพาหนะในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 66.3% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน หลังรัฐบาลห้เงินอุดหนุนผู้ซื้อรถยนต์ที่มีประสิทธิภาพในการประหยัดพลังงาน
  

• อินเดีย เตรียมใช้งบลงทุน 5.3 พันล้านดอลลาร์ กระตุ้นเศรษฐกิจผ่านโครงการก่อสร้างถนน ทางด่วน และสาธารณูปโภคคมนาคม โดยจะขยายไฮย์เวย์ราว 1,600 กิโลเมตร (1,000 ไมล์) ซึ่งนับเป็นก้าวแรกของการปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมอย่างจริง จัง
  

• อินโดนีเซีย จัดสรรเงินกู้จำนวนไม่เกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐให้กับ IMF ตามโครงการความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจโลก และป้องกันสภาวะถดถอยซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลกในท้าย ที่สุด
  

• เวเนซุเอลา ชี้ว่า กลุ่ม OPEC ควรกำหนดช่วงราคาน้ำมันที่ 80-120 ดอลลาร์/บาร์เรล เพื่อสกัดกั้นการดิ่งลงของราคาน้ำมันดิบ และต้องการให้รื้อฟื้นนโยบายที่ OPEC ได้ยกเลิกไปเมื่อ 7 ปีก่อน ซึ่งเคยกำหนดช่วงราคาน้ำมันที่ 22-28 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่งผลให้สมาชิกต้องลดหรือเพิ่มการผลิตเพื่อทำให้ราคาอยู่ในกรอบดังกล่าว
  

• โจนส์ แลง ลาซาลล์ รายงานผลจัดอันดับความโปร่งใสของตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั่วโลก พบว่าเกือบ 90% มีการปรับตัวดีขึ้นในช่วงสองปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลจากการเปิดเผยข้อมูลปัจจัยพื้นฐานและผลประกอบการของตลาดอสังหาริม ทรัพย์มากขึ้น ทั้งนี้ ตลาดอสังหาริมทรัพย์ของไทยได้ถูกจัดอันดับความโปร่งใสในลำดับที่ 39 จากตลาดอสังหาริมทรัพย์ 97 แห่งทั่วโลก
  

• กิตติ รัตน์ ณ ระนอง เชื่อว่าอัตราการขยายตัวของ GDP ปีนี้จะยังเติบโต 7%เมื่อเทียบกับปีก่อน แม้จะมีปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจในแถบยุโรป แต่โครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยัง คงแข็งแกร่ง โดยเฉพาะกำลังซื้อภายในประเทศที่ยังขยายตัวได้ดี การลงทุนภาคเอกชนและกำลังการผลิตที่ยังส่งสัญญาณฟื้นตัว ปัจจัยเสริมจากการลงทุนของภาครัฐ และอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงอยู่ในระดับทรงตัว
  

• ก.พาณิชย์ รายงานว่า ภาพรวมการส่งออกไทยในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมหดตัว 1.4% ขณะที่เดือน พ.ค.ขยายตัวถึง 7.7% แสดงให้เห็นว่าแนวโน้มตัวเลขจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมหนักที่มีมูลค่าการส่งออกสูง เช่น ยานยนต์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์ยานยนต์ และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่กลับมาทำการผลิตได้เต็ม 100% แล้ว
  

• สำนักงาน เศรษฐกิจการคลัง (สศค.) คาดว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิมที่ 5.5% เป็น 5.7% ซึ่งเป็นผลจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่เริ่มกลับมาทำการผลิตเพื่อตอบสนองอุป สงค์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จึงงคาดว่าจะทำให้การบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน และการส่งออกในปีนี้กลับเข้าสู่ระดับปกติได้อย่างรวดเร็ว
  

• รอง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รายงานสถานการณ์วิกฤติการเงินในยูโรโซนว่า ไซปรัส กำลังเป็นประเทศที่ 5 ที่ขอรับการช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งเป็นสัญญาณตอกย้ำว่า วิกฤตเศรษฐกิจในยุโรปจะส่งผลกระทบมาถึงไทยในไม่ช้า
  

• ธี ระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรมว.คลัง เตือนว่า รัฐบาลควรลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นออก เพื่อให้มีงบประมาณเหลือมากพอที่จะสู้หรือรับมือวิกฤตการณ์ยูโร อย่าใช้จ่ายเกินตัว
  

• SET Index ปิดที่ 1,171.32 จุด เพิ่มขึ้น 5.34 จุด หรือ 0.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 28,674 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 2,061 ล้านบาท
  

• วานนี้ ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ตามทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นต่างประเทศ โดยเฉพาะ ตลาดหุ้นสหรัฐฯที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดี แต่นักลงทุนยังกังวลปัญหาวิกฤตหนี้ในยุโรปจึงทำให้การฟื้นตัวมีกรอบจำกัด
  

• ไอ โต วาร์ซิโต ประธานตลาดหลักทรัพย์จาการ์ต้า คาดว่าดัชนีจาการ์ต้าคอมโพสิตจะปรับเพิ่มขึ้น 14% ในสิ้นปีนี้ เนื่องจากความต้องการลงทุนจากนักลงทุนต่างประเทศช่วยชดเชยแรงขายจากนักลงทุน ต่างชาติซึ่งได้รับผลกระทบจากวิกฤตหนี้ยุโรป
  

• ผู้ จัดการกองทุนญี่ปุ่นให้น้ำหนักการลงทุนในหุ้นและพันธบัตรของญี่ปุ่นเพิ่ม ขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน ขณะที่นักลงทุนส่วนใหญ่ยังเข้าซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเพื่อหลีกเลี่ยงความ ปั่นป่วนของวิกฤติหนี้ยุโรป ทั้งนี้ น้ำหนักลงทุนโดยเฉลี่ยสำหรับตลาดหุ้นญี่ปุ่นพุ่งขึ้นสู่ระดับ 41.4% จาก 37.1% ในเดือนที่ผ่านมา
  

• อัตรา ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยค่อนข้างทรงตัว โดยเคลื่อนไหวในช่วง 0.00% ถึง0.01% สำหรับวันนี้มีการประมูลพันธบัตรธปท.อายุ 14 วัน วงเงินรวม 60,000 ล้านบาท
  

• ธนาคารบาร์เคลย์สของอังกฤษอาจจ่ายเงิน 453 ล้านดอลลาร์ให้แก่ทางการสหรัฐและอังกฤษ เพื่อยุติข้อกล่าวหาที่ว่า บาร์เคลย์ส ปั่นอัตราดอกเบี้ย Libor ทำให้นักวิเคราะห์คาดว่าการยุติคดีในครั้งนี้จะก่อให้เกิดคำถามที่ว่าอัตรา ดอกเบี้ยระหว่างธนาคาร ณ ตลาดลอนดอน (Libor) มีความน่าเชื่อถือมากเพียงใด ซึ่งจะเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อธนาคารอื่นๆให้ร่วมมือกับทางการในการสอบสวน ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐระบุว่ามีความพยายามปั่นอัตราดอกเบี้ย Libor ในปี 2005-2009และส่งผลให้ลูกหนี้หลายล้านรายต้องจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินไป หรือต่ำเกินไปในการกู้เงิน
  

[ส้มโอมือ 4,910]

เรื่อวบาร์เคลย์สน่าจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ อาจต้องปลดผู้บริหารลง เริ่มมีข่าวว่าอาจถึงติดคุก หุ้นบาร์เคลย์สเมื่อคืนเป็นไงบ้างยังไม่ได้ตาม ระวังหุ้นกลุ่มธนาคารหน่อยก็ดี

 

โอบามาแคร์ก็เป็นข่าวใหญ่นะ ส่วนตัวเชื่อว่าคงทำให้โอบามาสอบตก

[deb99 290]

ขอบคุณครับ

[luck 512]

ขอบคุณค่ะ

[thoney87 92]

ขอบคุณครับ