ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ต้องฟัง พอดแคสท์ ของเทิร์ดครับ พูดเกี่ยวกับเรื่องที่โดนทุบเมื่อตอนคืนวันพุธ และน่าจะเกี่ยวกับประเด็น โอเพ่นอินเทอเรสท์ ที่คุณหมอพูดถึง

 

http://www.tfmetalsr...rd-talks-metals

 

ฟังผ่านๆ พอจะจับใจความได้ว่า

  • เทิร์ดเชื่อว่า ตอนนี้ขาใหญ่ทั้งหลาย กำลังหาทางลงจากสถานะชอร์ต ด้วยวิธีการทุบราคาไล่ลงมาเรื่อยๆ และในที่สุดขาอ่อนทั้งหลายจะไปอยู่ฝั่งชอร์ตกันหมด และตอนนั้นขาใหญ่จะมาอยู่ในสถานะลองแทน
  • ขาใหญ่ไม่โง่ ในที่สุดพวกเขาก็ต้องมาลองโลหะมีค่าแน่ๆ
  • เทิร์ดเชื่อว่า ซีโอที ที่จะออกวันศุกร์นี้ น่าจะแสดงให้เห็นสิ่งที่เขาเชื่อ
  • อย่างไรก็ตาม เทิร์ดเตือนไว้ว่า ราคาอาจจะไม่เด้งกลับในอาทิตย์หน้าทันที
  • โอกาสที่จะหล่นลงไปถึง ๑๔๐๐ ก็มีนะ แต่ถ้าลงไปถึงตรงนั้นจริงๆ ตอนมันกลับขึ้นมาละสนุกแน่ๆ
  • อย่าคิดว่าเทิร์ดดีแต่พูดนะ ตอนนี้เทิร์ดเปิดสัญญาลอง(โลหะเงิน)ส่งมอบเดือนก.ค.ไว้เป็นทีเรียบร้อยแล้ว
  • (เพิ่มเติม) ปิดคอม เลิกตามราคาได้แล้ว ทำใจสบายๆ เดี๋ยวมันกลับมาดีเอง

 

We must admit that it is looking increasingly likely that a washout is coming. Previously, I had only put this at one chance in four. After these past three days, we must now consider this a 50/50 probability, at a minimum.

Now, that said, it is looking increasingly likely that the goal of all of this is to drop gold through $1525-1535. This would:

  • Trigger all sorts of long-term sell stops for The Cartels to cover into.
  • Allow Maria Headiromo to proclaim that "gold is officially in a bear market", down over 20% from its alltime highs of August 2011.

http://www.tfmetalsreport.com/blog/4618/increasing-likelihood?page=1

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

......

 

โห !!! คนที่เหลือเงินจะซื้อทองยังมีเพียบ

 

ฝรั่งหัวทองเล่นทองกระดาษ

เอเชียหัวดำเล่นของจริง

ถ้าเกิดภาวะ "มวลวิกฤต" เมื่อไหร่ที่คนแห่กันเอาของจริงออกมากๆ

คงจะสนุกไม่น้อย

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

:Announceตัวทุบหุ้นทุบทองเมื่อคืน เดี๋ยวอีกไม่กี่วัน ลุงเหน่งก็คงจะออกมาพูดว่าไม่เลิกทำ

 

ทุบเอาของแล้วพูดให้เด้ง กำไรตายเลย ฮ่วย ทำมาหลายรอบแล้ว

 

 

 

Fed could start tapering QE3 this summer

 

WASHINGTON (MarketWatch) — The Federal Reserve could start tapering its $85 billion-a-month asset-purchase plan by the summer, said John Williams, president of the Federal Reserve Bank of San Francisco on Wednesday.

 

http://www.marketwat...iams-2013-04-03

 

เป็นข่าวที่เอามาอ้างเพื่อการทุบชัดๆเลยครับ เพราะ John Williams ไม่ใช่ประธาน FED สาขาที่มีสิทธิิโหวตนโยบายการเงินในปีนี้

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ฝรั่งหัวทองเล่นทองกระดาษ

เอเชียหัวดำเล่นของจริง

ถ้าเกิดภาวะ "มวลวิกฤต" เมื่อไหร่ที่คนแห่กันเอาของจริงออกมากๆ

คงจะสนุกไม่น้อย

 

ช่วงนี้คนอินเดียคงยิ้มกันน่าดูเลยครับ รายนั้นเค้ายิ่งชอบ physical กันอยู่

ถูกแก้ไข โดย leo_attack

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลุงจิม หรือนักวิเคราะห์อื่นๆ พูดถึงกรณีเกาหลีบ้างไหมครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ปีนี้ทองคำโดนทุบกระหน่ำ นักวิเคราะห์ทางเทคนิคบางท่านบอกว่าถ้าหลุดแนวรับที่สำคัญ มีสิทธิ์เห็น20,000บาท

ลองนำปัจจัยพื้นฐานทองคำและโลหะเงินมาวิเคราะห์ดู พื้นฐานก็ดีมากแต่ทำไมร่วงหนัก ลองมองเสบียงของกลุ่มข้าศึก(ทองคำในมือขาใหญ่) น่าจะมหาศาลพอที่จะทุบทองคำให้ลงแรงๆได้

ข้อมูลเท่าที่ผมจำได้(ใครมีข้อมูลที่ไม่ตรงกับผมแย้งได้เลยครับ จะได้ช่วยกันตรวจสอบฐานข้อมูล

1)ทองคำที่ขุดขึ้นมาแล้วอยู่บนโลกมีประมาณ 170,000ตัน ทองคำจำนวนนี้อยู่ในความครอบครองของธนาคารกลางประมาณ 30,000ตัน

2)ทองคำปี2555 ขุดขึ้นมาใหม่ได้ประมาณ 2,800ตัน ส่วนโลหะเงินปี2555ขึ้นมาใหม่ได้ประมาณ 27,000ตัน โลหะเงินถึงจะขุดได้มากกว่าทองคำมากแต่เนื่องจากราคาที่ถูกกว่าทองคำอย่างมากมาย ทำให้การรีไซเคิลโลหะเงินเกิดน้อยมาก โลหะเงินส่วนใหญ่สูญหายไปกับขยะต่างๆ เหลือโลหะเงินอยู่บนพื้นโลกประมาณ 27,000-54,000ตัน

3)จากข้อมูลในข้อ1และข้อ2 ทองคำที่มีอยู่บนพื้นโลกเท่ากับกำลังการผลิตของปี2555ถึง60ปี ส่วนโลหะเงินที่อยู่บนพื้นโลกเท่ากับกำลังผลิตของปี2555 1-2ปี

----- ขาใหญ่ที่ทุบทองคำต้องมีทองคำในมือเขามากพอ เขาถึงจะทุบทองคำได้ พันธมิตรของขาใหญ่ก็ได้แก่ธนาคารกลางบางประเทศ(ธนาคารกลางทั่วโลกรวมกันมีทองคำประมาณ30,000ตัน) ทองคำอีก140,000ตันก็กระจายไปอยู่ในมือประชาชนทั่วไป กลุ่มผู้ร่ำรวย กลุ่มธนาคารขาใหญ่ กลุ่มธนาคารทั่วไปและกลุ่มอื่นๆ

ช่วงนี้มีการยึดเงินฝากในไซปรัส ประชาชนในกลุ่มประเทศลูกหมู(PIIGS โปรตุเกส ไอร์แลนด์ อิตาลี กรีซ สเปน)จำนวนไม่น้อยคงอยากถอนเงินจากธนาคาร ซึ่งผมเชื่อว่าชนชั้นปกครองเขาต้องมองแล้วว่าจะต้องเกิดปัญหานี้ ถ้าคนแห่ไปถอนเงินกันมากๆระบบธนาคารล่มแน่ ถอนเงินแล้วจะเก็บเงินไว้ก็คงไม่เหมาะ ซื้อทองคำเก็บน่าจะดีสุด ช่วงนี้ทราบข่าวมาว่ามีการพูดดถึงทองคำว่าไม่น่าลงทุนในเวปต่างประเทศกันมากมาย(ขาใหญ่น่าจะส่งลูกน้องเข้าไปดำเนินงาน)

 

------ขาใหญ่ต้องทุบทองคำเพื่อให้ทองคำดูไม่ดี ทองคำที่อยู่บนโลก170,000ตัน กลุ่มขาใหญ่ที่จะทุบทองคำถ้ารวบรวมทองคำในมือของพวกเขาและกลุ่มพันธมิตร ถ้ารวมได้5%-10% ก็เท่ากับทองคำ8,500ตัน(กำลังการผลิต3ปี)--ทองคำ17,000ตัน(กำลังการผลิต6ปี) และทองคำที่ผลิตเพิ่มในปี2556

-----ถ้าฝ่ายทุบทองคำรวมทองคำเบื้องตนได้8,500ตัน-17,000ตัน การทุบทองคำไม่น่าจะยาก เพราะระหว่างทุบก็น่าจะทำให้เกิดแรงขายของบางกลุ่มมาเสริมกำลังเขาอีก(17,000ตัน= 17,000,000กิโล)

กลุ่มที่จะขายทองคำออกมา

1)กลุ่มเล่นทางTAเป็นหลัก ถ้าทุบหลุดแนวรับสำคัญก็จะได้ทองคำจากกลุ่มนี้มาเพิ่ม บางคนจากกลุ่มนี้นอกจากขายทองแล้วบางคนยังshortตามอีก

2)กลุ่มอ่อนไหวต่อข่าวสาร ให้ข่าวร้ายเรื่อยๆพร้อมกับทุบทอง สุดท้ายทนไม่ไหวก็คายทองคำออกมา

กลุ่มซื้อทองคำ

1)ธนาคารบางประเทศที่ซื้อทองคำเพื่อความมั่นคงในระบบเงินของเขา(มีทองคำในระบบเงินสำรอง)

2)กลุ่มที่เชื่อมั่นในทองคำ(ตอนนี้รู้สึกจะอ่อนแรงกันอย่างมากมาย บ่นตลอดว่าติดดอยสูงมาก เมื่อไหร่จะได้ลงสักที รู้งี้ไม่ซื้อดีกว่า

 

อ่านแล้วอย่าเพิ่งตกใจมาดูพื้นฐานทองคำก่อนครับว่าพื้นฐานดีแค่ไหน ถ้าเอาทองคำที่อยู่บนโลกทั้งหมด170,000ตันมาจ่ายหนี้ให้อเมรกาที่16.5ล้านล้านดอลลาร์ทั้งหมด ทองคำต้องราคา3018เหรียญถึงจะพอจ่ายหนี้หมดครับ

แค่หนี้อเมริกาทองคำควรราคา3018เหรียญ แล้วถ้ารวมเงินที่ประเทศต่างๆและอเมริกาพิมพ์ขึ้นมาอีกจำนวนมหาศาล

 

กูรูบางท่านมองว่าระหว่างทุบทองคำ ขาใหญ่ก็จะสะสมทองคำที่บางท่านขายออกมาและขณะเดียวกันก็จะพยายามลดสัญญาSHORTทองคำลง ช่วงที่ผ่านมาการลดสัญญาของทองคำยังไม่ชัดเจน แต่การลดสัญญาของโลหะเงินชัดเจนอย่างมาก ถ้ายังลดสัญญาshortของโลหะเงินด้วยความเร็วเท่าเดิม ภายในเดือนนี้ฝ่ายขาใหญ่อาจเปลี่ยนจากสถานะShortกลายเป็นLongก็ได้ ถ้าวันนั้นมาคงเห็นการขึ้นครั้งใหญ่(ส่วนทองคำคงต้องคอยติดตามดูปริมาณสัญญาของขาใหญ่)

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เยี่ยมครับ คุณส้มโอมือ

:gd

ขอบคุณครับ ทำไมผมนึกถึงเสบียงในมือขาใหญ่ช้าจัง ทั้งๆที่ข้อมูลทั้งหมดที่เขียนก็อยู่ในหัวผมอยู่แล้ว

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นโยบายแบงก์ชาติญี่ปุ่นยุคใหม่กร้าวได้ใจ อัดฉีดเต็มที่-2ปีดันเงินเฟ้อขึ้น2% blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 5 เมษายน 2556 00:31 น.

 

 

blank.gif 556000004288701.JPEG ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (บีโอเจ) blank.gif

เอเจนซีส์ - ทีมบริหารชุดใหม่ของธนาคารกลางญี่ปุ่น ช็อกตลาดด้วยการยกเครื่องเปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินครั้งใหญ่ โดยเดินหน้ามาตรการผ่อนคลายทางการเงินเชิงรุก ซึ่งมีเป้าหมายในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจและยุติภาวะเงินฝืดที่เรื้อรังมา 2 ทศวรรษ

 

ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเป็นเวลา 2 วันที่เสร็จสิ้นในวันพฤหัสบดี (4) ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (บีโอเจ) แถลงว่า จะเริ่มใช้โปรแกรมการซื้อสินทรัพย์เชิงรุก พร้อมให้คำมั่นในการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% ภายใน 2 ปี เพื่อยุติปัญหาราคาผู้บริโภคตกต่ำมาราธอน

 

แผนการรับซื้อของบีโอเจคราวนี้ขยายครอบคลุมไปถึงพวกสินทรัพย์ที่มี ความเสี่ยงมากขึ้นกว่าเดิม เช่น กองทุนรวมประเภท ETF (exchange-traded funds) และกองทุนทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (real-estate investment trusts) นอกจากนี้ แบงก์ชาติแดนปลาดิบยังจะเข้าซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลในระดับเดือนละ กว่า 7 ล้านล้านเยน (75,000 ล้านดอลลาร์) ภายใต้เป้าหมายในการดึงอัตราดอกเบี้ยระยะยาวให้ลดลง เพื่อส่งเสริมการกู้ยืมในหมู่บริษัทและในบรรดาผู้บริโภค

 

บีโอเจแจงว่า จุดประสงค์ของการดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเหล่านี้ ก็เพราะต้องการที่จะเพิ่มพูน “ฐานการเงิน” ซึ่งก็คือปริมาณเงินที่หมุนเวียนในตลาดโดยรวมถึงเงินฝากของธนาคารพาณิชย์ที่ อยู่ในทุนสำรองของแบงก์ชาติ โดยจะให้เพิ่มขึ้นไปอีกราว 60,000-70,000 ล้านล้านเยน (645,000-755,000 ล้านดอลลาร์) ต่อปี เพื่อกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อ ทั้งนี้วางเป้าไว้ว่าจะไปถึงระดับ 270 ล้านล้านเยนภายในสิ้นปี 2014

 

ฮารูนิโกะ คุโรดะ ที่เข้ารับตำแหน่งผู้ว่าการบีโอเจเมื่อปลายเดือนที่แล้ว ย้ำมาตลอดว่าต้องดำเนินมาตรการอันเข้มข้นเพื่อแก้ไขภาวะเงินฝืดที่เกาะกิน เศรษฐกิจญี่ปุ่นมาถึง 2 ทศวรรษ ซึ่งถือว่า “ผิดปกติ” สำหรับประเทศพัฒนาแล้ว

 

ระหว่างการแถลงข่าวในวันพฤหัสบดี ภายหลังเข้าร่วมการประชุมนโยบายการเงินครั้งแรกในฐานะที่เป็นผู้ว่าการ ธนาคารกลางของเขา คุโรดะย้ำว่า บีโอเจยังพร้อมจะดำเนินการผ่อนคลายทางการเงินทั้งทางปริมาณและทางคุณภาพต่อ ไปอีก

 

ขณะที่ สึโยชิ ยูเอโนะ นักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันวิจัยเอ็นแอลไอ เรียกความเคลื่อนไหวของบีโอเจครั้งนี้ว่าเป็น “การเปลี่ยนแปลงระบอบครั้งใหญ่ในด้านนโยบายการเงิน”

 

การเปลี่ยนแปลงระบอบดังกล่าวมีนายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะ เป็นผู้บุกเบิก

 

ผู้นำอนุรักษนิยมผู้นี้ชนะการเลือกตั้งในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาจาก การให้คำมั่นกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ และยุติภาวะเงินฝืดที่บ่อนทำลายการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาค ธุรกิจ

 

อาเบะเลือกคุโรดะ ซึ่งเวลานั้นเป็นประธานธนาคารพัฒนาเอเชีย (เอดีบี) เข้ากุมบังเหียนบีโอเจ โดยก่อนหน้านั้น คุโรดะได้เคยวิจารณ์ทีมบริหารบีโอเจชุดก่อนอย่างเปิดเผยว่า ขี้ขลาดเกินไปกระทั่งไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้

 

บรรยากาศเช่นนี้ ทำให้เกิดความคาดหวังตั้งแต่ก่อนหน้านี้หลายสัปดาห์ ว่าการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินครั้งแรกภายใต้การกุมบังเหียนของคุโรดะ จะมีมาตรการต่างๆ ออกมาอย่างน่าตื่นใจ ถึงแม้พวกนักวิเคราะห์เตือนว่า บีโอเจโฉมใหม่อาจกำลังก่อให้เกิดความหวังสูงเกินจริง และมาตรการที่ออกมาอาจทำให้ตลาดผิดหวัง

 

ทว่า โยชิฮิโกะ ชิมามิเนะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของสถาบันได-อิชิ ไลฟ์ มองว่า นโยบายล่าสุดของบีโอเจยังไปไกลกว่าที่ตลาดคาดไว้เสียอีก และคุโรดะแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า บีโอเจวันนี้แตกต่างจากในอดีต

 

นอกจากนั้น เป็นที่น่าสังเกตว่า บอร์ดบีโอเจลงมติรับนโยบายใหม่เป็นเอกฉันท์ บ่งชี้การเริ่มต้นอย่างสวยงามของคุโรดะในการเปลี่ยนแปลงสู่มาตรการผ่อนคลาย ทางการเงินเชิงรุกมากขึ้น

 

แต่ขณะเดียวกัน ผู้สังเกตการณ์บางคนแสดงความกังวลว่า กลยุทธ์ใหม่นี้จะทำให้หนี้สาธารณะของญี่ปุ่นที่สูงที่สุดในบรรดาประเทศ อุตสาหกรรม ยิ่งเพิ่มพูนขึ้นอีก

 

สำหรับปฏิกิริยาของตลาดการเงินนั้น ปรากฏว่าคำแถลงเกี่ยวกับมาตรการของบีโอเจคราวนี้ ได้ส่งผลให้เงินเยนอ่อนตัวลง โดยเมื่อเทียบกับดอลลาร์แล้ว เงินเยนอยู่ที่ 95.22 เยนต่อดอลลาร์ และเทียบกับยูโร ก็อยู่ที่ 122.18 เยน ส่งผลดีต่อผู้ส่งออกญี่ปุ่น

 

ส่วนทางด้านตลาดหุ้น การอ่อนตัวของเงินเยนได้ส่งผลให้ดัชนีนิกเกอิปิดวันพฤหัสบดีเพิ่มขึ้น 2.20% ถึงแม้อัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนลงอาจเรียกเสียงวิจารณ์จากต่างชาติว่า โตเกียวเจตนาให้เป็นเช่นนั้นเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออกก็ตาม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

-----ถ้าฝ่ายทุบทองคำรวมทองคำเบื้องต้นได้8,500ตัน-17,000ตัน การทุบทองคำไม่น่าจะยาก เพราะระหว่างทุบก็น่าจะทำให้เกิดแรงขายของบางกลุ่มมาเสริมกำลังเขาอีก(17,000ตัน= 17,000,000กิโล)

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก เมื่อคืนนี้ (3 เม.ย.) สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิถุนายน ร่วงลง 22.4 ดอลลาร์ หรือ 1.42% ปิดที่ 1,553.5 ดอลลาร์/ออนซ์

ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน 2555 เนื่องจากมี แรงขายจากกลุ่มกองทุน ETF ได้กระตุ้นให้นักลงทุนกลุ่มอื่นๆเทขายตาม

รายงานระบุว่า เมื่อวานนี้ กองทุน ETF ได้ลดการถือครองทองคำลงมาอยู่ที่ระดับ 38.9 ล้านออนซ์ จากระดับของวันจันทร์ที่ 39.1 ล้านออนซ์ นอกจากนี้ รายงานระบุว่า SPDR Gold Trust กองทุนทองคำรายใหญ่ที่สุดของโลก ได้ลดการถือครองทองคำลง 1.5% เมื่อวานนี้ และนับตั้งแต่ต้นปีจนถึงขณะนี้ กองทุน SPDR Gold Trust ได้ลดการถือครองทองคำไปแล้ว 7%

http://www.thanonline.com/index.php?option=com_content&view=article&id=177447%3A-224--&catid=228%3A2012-10-30-03-23-37&Itemid=619#.UVzCCjjUC_Y.facebook

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

-----ถ้าฝ่ายทุบทองคำรวมทองคำเบื้องตนได้8,500ตัน-17,000ตัน การทุบทองคำไม่น่าจะยาก เพราะระหว่างทุบก็น่าจะทำให้เกิดแรงขายของบางกลุ่มมาเสริมกำลังเขาอีก(17,000ตัน= 17,000,000กิโล)

กลุ่มที่จะขายทองคำออกมา

1)กลุ่มเล่นทางTAเป็นหลัก ถ้าทุบหลุดแนวรับสำคัญก็จะได้ทองคำจากกลุ่มนี้มาเพิ่ม บางคนจากกลุ่มนี้นอกจากขายทองแล้วบางคนยังshortตามอีก

2)กลุ่มอ่อนไหวต่อข่าวสาร ให้ข่าวร้ายเรื่อยๆพร้อมกับทุบทอง สุดท้ายทนไม่ไหวก็คายทองคำออกมา

กลุ่มซื้อทองคำ

 

วายแอลจีแนะชะลอลงทุน ชี้ราคาทองคำ Q1 ร่วงเกือบ 5% blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 เมษายน 2556 16:22 น.

 

 

blank.gif blank.gif 556000004267801.JPEG blank.gif น.ส.ฐิภา นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจีบูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในไตรมาสที่ 1 ของปี 2556 ว่า ได้ปรับตัวลดลงไปประมาณ 78.66 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หรืออ่อนตัวลง 4.93% ถึงแม้ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมาราคาทองคำได้มีการขยับขึ้นมาเล็กน้อยประมาณ 16.19 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ขณะที่ราคาทองคำในประเทศนั้นยังคงได้รับแรงกดดันจากค่าเงินบาทที่มี การแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ทำให้ราคาทองคำในประเทศได้มีการปรับลดลงอย่างมาก โดยลดลงประมาณ 9% ด้วยกัน

 

ทั้งนี้ จากการที่ช่วงไตรมาสที่ 1 ราคาทองคำได้มีการปรับตัวลดลงเรื่อยๆ ทำให้ทางสถาบัน และกองทุนชั้นนำของโลกได้มีการปรับการคาดการณ์ราคาทองคำลง เช่น แบงก์ออฟเอมริกา เมอร์ริล ลินซ์, บาร์เคลย์ แคปิตอล, ซีตี้กรุ๊ป, โกลด์แมน แซคส์, เจพี มอร์แกน และ ธอมสัน รอยเตอร์ส จีเอฟเอ็มเอส ซึ่งมีการประมาณการณ์เฉลี่ยที่ 1,730-1,750 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

นอกจากนี้ กองทุน SPDR ได้มีการลดการถือครองทองคำลงในไตรมาสที่ 1 ถึง 129.56 ตัน แสดงถึงมุมมองเชิงลบต่อทิศทางของราคาทองคำซึ่งปัจจัยที่คอยกดดันราคาทองคำ นั้นมาจากประเด็นทางสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาการคลัง มาตรการคิวอี ในขณะที่ทางฝั่งยุโรปนั้นประเด็นของไซปรัสกลับมาสร้างความกังวลให้แก่ตลาด เมื่อภาคการธนาคารมีความสุ่มเสี่ยงมากยิ่งขึ้น

 

น.ส.ฐิภากล่าวว่า สำหรับสถานการณ์ในปัจจุบันราคาทองคำอ่อนตัวลงมาจากความร้อนแรงของตลาดหุ้น เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มฟื้นตัวขึ้นทำให้เกิดการเคลื่อนย้ายเงินทุนจากตลาดทองคำมายังตลาด หุ้น

 

ดังนั้น ในช่วงนี้นักลงทุนต้องคอยติดตามทิศทางของราคาทองคำพร้อมทั้งตัวเลขเศรษฐกิจ ทางฝั่งสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันศุกร์ที่ 5 เมษายนนี้ จะมีการประกาศตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานออกมา

 

สำหรับมุมมองในด้านราคาทองคำนั้น ราคาทองคำไม่ควรหลุดบริเวณ 1,530-1,520 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เนื่องจากหากหลุดลงไปแนวโน้มของราคาทองคำจะกลับตัวเป็นขาลง โดยกลยุทธ์การลงทุน การเข้าซื้อเก็งกำไรอาจต้องชะลอออกไปก่อนในขณะที่หากถือทองคำอยู่ให้รอ จังหวะดีดตัวเพื่อขายทำกำไร

 

อย่างไรก็ตาม ในสภาวะตลาดขาลงในช่วงนี้ นักลงทุนในตลาดโกลด์ฟิวเจอร์สสามารถเปิดสถานะขายหากราคาทองคำไม่สามารถยืน เหนือ 1,565-1,580 ดอลลาร์ต่อออนซ์

blank.gif

ถูกแก้ไข โดย ส้มโอมือ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
ทุบทองคำต้องมีทองคำในมือเขามากพอ เขาถึงจะทุบทองคำได้

 

งงตรงนี้ครับ เห็นเคยพูดกันว่า ขาใหญ่ทุบโลหะมีค่าด้วยสัญญากระดาษไม่ใช่หรือครับ

 

ถ้าเอาทองคำที่อยู่บนโลกทั้งหมด170,000ตันมาจ่ายหนี้ให้อเมรกาที่16.5ล้านล้านดอลลาร์ทั้งหมด ทองคำต้องราคา3018เหรียญถึงจะพอจ่ายหนี้หมดครับ

เขาคงไม่ได้คิดจะจ่ายหนี้มั้งครับ

ถูกแก้ไข โดย milo

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ลุงจิม หรือนักวิเคราะห์อื่นๆ พูดถึงกรณีเกาหลีบ้างไหมครับ

 

post-2564-0-38057000-1365130976.jpg

 

 

เมื่อคืน ลุงจิมพึ่งชี้ประเด็นเดียวกับที่รายการวิทยุนอกกระแสแห่งหนึ่งเขาพูดมาอาทิตย์กว่าแล้ว

  • คิม จอง อุน ควรจะระวังให้มากกว่านี้
  • สงครามไฮเทคกับเกาหลีเหนือ จะเป็นตัวเบี่ยนเบนความสนใจชั้นเยี่ยม จากเศรษฐกิจในโลกตะวันตกที่กำลังจะแย่ลงไปมากกว่านี้

http://www.jsmineset...ews-today-1499/

* * * * *

 

ขอนอกเรื่องเสริมประเด็นประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้อง และน่าสนใจก็คือ

  • ก่อนที่จะมีการตั้งธนาคารกลางเป็นครั้งที่สาม เมื่อปี ๑๙๑๓ (ธนาคารกลางปัจจุบัน) ในเมืองลุงแซม โลกของเรา ไม่เคยมีสงครามโลกมาก่อน
  • คนที่ได้ประโยชน์สูงสุดจากสงครามก็คือ คนที่สามารถพิมพ์เงินได้ เพราะสงครามต้องใช้เงิน สินทรัพย์ทั้งหลายที่ถูกทำลายลงไป ก็ต้องใช้เงินเพื่อหามาทดแทน ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายใดก็ตาม ก็จะต้องเป็นหนี้ เพื่อที่จะก่อสงคราม และฟื้นตัวจากความเสียหายของสงคราม
  • สงคราม หรือความขัดแย้งในประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้น หลายๆครั้งเกิดจากการปัก "ธงปลอม" เพื่อสร้างความขัดแย้งที่นำไปสู่สงครามในที่สุด
  • สมัยเมืองลุงแซมยังเป็นอาณานิคมของจักรวรรดิอังกฤษอยู่ ช่วงหนึ่งเศรษฐกิจในอาณานิคมดีมาก จนเรื่องไปถึงหูจักรวรรดิอังกฤษว่าเป็นเพราะพิมพ์เงินใช้เองแบบไม่ต้องเป็นหนี้ ... ทางอังกฤษจึงมีการออกกฏหมายเงินตราขึ้น เพื่อบังคับให้อาณานิคม ต้องใช้เงินที่พิมพ์โดยธนาคารกลางอังกฤษ และจะต้องกู้มาเพื่อให้ได้เงินก้อนนั้น .... นั่นเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เกิดการปฏิวัติ และประกาศอิสรภาพจากอังกษในที่สุด
  • สมัยสงครามกลางเมือง ปธน.ลินคอล์นได้รับข้อเสนอจากนายแบงค์อังกฤษ ที่จะปล่อยกู้เงินมาให้ทำสงคราม โดยคิดดอกเบี้ยมหาโหด (จำไม่ได้ว่าเท่าไหร่) ลินคอล์นได้ปฏิเสธนายแบงค์ไป และตัดสินใจพิมพ์เงินใช้เอง (มีชื่อเล่นที่คนเรียกติดปากว่า "กรีนแบ๊ค" จนถึงปัจจุบัน) เพื่อการสงครามโดยเฉพาะ และหลังจากที่ชนะสงครามแล้ว ลินคอล์น เห็นว่าเงินที่รัฐพิมพ์ใช้เองนั้นดีกว่าเป็นไหนๆ ไม่ต้องล่ามโซ่ตรวนลูกหลานไปหลายชั่วโคตร จึงตัดสินใจประกาศใช้กรีนแบ็คต่อไป .... หลังจากนั้นไม่นาน ลินคอล์น ก็ถูกลอบสังหารในโรงละคร
  • เมื่อเดือนมิ.ย. ๑๙๖๓ ปธน.เคนเนดีได้เซ็นคำสั่ง ให้คลังลุงแซม พิมพ์เงินกระดาษออกมาใช้เอง โดยมีโลหะเงินในคลังหนุนเงินที่พิมพ์ออกมา ซึ่งเป็นเงินที่รัฐสามารถพิมพ์ใช้ได้เอง โดยไม่ต้องกู้จากธนาคารกลางลุงแซม(ซึ่งเป็นธนาคารเอกชน) และต้องเสียดอกเบี้ยอีก -- ๕ เดือนหลังจากนั้น เคนเนดีก็ถูกลอบสังหาร
  • นอกจากนี้ ยังมีปธน.อีกสองสามคนที่มีคนพยายามสังหาร พยายามก่อการปฏิวัติ ยึดอำนาจ เพราะมีนโยบายเป็นปฏิปักษ์กับระบบธนาคารกลางเอกชน

"ให้ข้าพเจ้าควบคุมระบบการเงินของชาติ แล้วข้าพเจ้าจะไม่สนใจว่าใครเป็นคนออกกฏหมาย"

-- เมเยอร์ แอมเซล รอธไชลด์

 

"คนเพียงหยิบมือที่เขาใจระบบ(การเงิน) ถ้าพวกเขาไม่สนใจที่จะหาประโยชน์จากมัน เขาก็ต้องเป็นคนที่พึ่งมัน

เพราะฉะนั้น จะไม่มีการต่อต้านระบบจากคนที่เข้าใจมันอย่างแน่นอน"

-- พี่น้องรอธไชลด์ ณ ลอนดอน (๑๘๖๓)

 

www.youtube.com/watch?v=2B_SxGmSJP0

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

งงตรงนี้ครับ เห็นเคยพูดกันว่า ขาใหญ่ทุบโลหะมีค่าด้วยสัญญากระดาษไม่ใช่หรือครับ

 

ใช่ครับ ทุบด้วยกระดาษ แต่ตามที่ผมเข้าใจ มันจะมีจุดวิกฤตของมัน

เพราะถ้าทุบให้ถูกมากๆ คนจะขอรับของจริง (แทนทีจะขอรับเงินกระดาษตอนปิดสัญญา) ไปจนหมดคลัง

เพราะฉะนั้น กำลังในการทุบ ส่วนหนึ่งน่าจะขึ้นกับของจริงที่มีในมือด้วย เพื่อที่จะสามารถส่งมอบได้

เพราะถ้าส่งมอบไม่ได้ เรื่องจะแดง

 

* ก่อนหน้านี้ เคยเอาบทวิเคราะห์ของ เอริค สปรอทท์ มาเล่าให้ฟัง ว่าเขาจิ้มเครื่องคิดเลข (ตัวเลขนำเข้า/ส่งออกทองคำ ของเมืองลุงแซม ที่เป็นข้อมูลสาธารณะ) แล้ว สรุปได้ว่า นอกจากลุงแซมแล้ว ไม่มีใครคนใดคนหนึ่ง ที่มีทองในมือมากพอ ที่จะทำให้ตัวเลขออกมาเป็นแบบนั้นได้ (แปลว่า ลุงแซมเอาของในคลังออกไปขาย)

 

** สมัยก่อนก็มี "ลอนดอนโกลด์พูล" ที่ขาใหญ่สร้างขึ้นมาเพื่อทุบสร้างเสถียรภาพราคาทองคำ ในที่สุดโกลด์พูลแห่งนี้ก็ล้มไป เพราะคนรู้แกว เห็นราคาทองถูกนัก เอากระดาษมาแลกทองไปจนหมดคลัง

 

เขาคงไม่ได้คิดจะจ่ายหนี้มั้งครับ

 

ใช่ครับ จากที่เข้าใจ คนที่เข้าใจระบบการเงินแบบนี้แล้ว จะเห็นได้ว่า หัวเด็ดเท้าขาดยังไง ก็ไม่มีทางใช้หนี้ได้หมด

 

จากที่อ่านจาก จิม ซินแคลร์ หรือ จิม ริคเคิร์ดส .. เขาบอกว่า ทางออกสุดท้ายของระบบการเงินที่มีปัญหาแบบนี้ คือการ "ปรับราคาทองคำ" ใหม่ครับ เพราะระบบการเงินแบบพีระมิดสคีมแบบนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะใช้หนี้ได้หมด และมันจะต้องมีปัญหาไปในที่สุด (กระดาษหมดค่า/ไร้ค่า) ดังนั้น การปรับราคาทองคำ (ที่ทำให้หลายๆคนคำนวณได้ตัวเลขกันมาตั้งแต่ ๓๐๐๐ เหรียญ ยัน ๑๕๐๐๐ เหรียญ) จึงเป็นทางออกทางเดียวครับ

ถูกแก้ไข โดย wcg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...