ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณคุณเน๊กซ์มากๆๆครับ เป็นกำลังใจให้ ท่าทางจะเหนื่อย

คำถามที่ถามมาดีมากๆเลยครับ ถามในสิ่งที่ช่วยไขข้อใจได้ดีจิง

 

ปล.แอบสารภาพว่างงกะคำถามของคุณalexajiจินตนาการตามไม่ทัน :wacko: :wacko:

 

ตอนนี้เมกาคงทำแบบนั้นไม่ได้แล้วละครับ เพราะคนอื่นเขารู้แล้ว (จีนกะรัสเซียถึงจับมือกัน ซื้อขายโดยไม่ใช้ดอลล์)

เมกาน่าจะเหลือวิธีไม่มาก

1 พิมพ์แบ๊งค์มากๆ เพื่อลดค่าเงินตัวเอง ....เป็นการลดหนี้โดยปริยาย

2 ข้อนี้มีโอกาสสูงครับ ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นทั่วโลกแล้ว ชักดาบ

 

ลองดูหนี้ของเมกาที่เพิ่มขึ้นทุกๆวินาทีที่นี่ครับ

 

http://www.truthin2010.org/

 

ตอนนี้ที่อังกฤษก็ประท้วงกันแรงแล้วนะครับ เป็นมาจากผลกระทบของทางยุโรปที่เศรษฐกิจไม่ดี

 

http://www.youtube.com/watch?v=gqkUfR-F4Ek

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

+1 เข้าใจเพิ่มขึ้นทุกวันเลยครับ :ph34r: :lol: รออ่านตอนระทึกขวัญ อยากรู้จังทำไม เจพี มอแกน ถึงเรียกความแค้นจากร้อยแผ่นดินได้ครับ

 

ขอถามด้วยคนคร้าคุณNext และถ้าใครยุ่งเกี่ยวกับเจพีมอแกนจะมีผลเสียอย่างไรบ้างคะ :wub:หุ้นทุกอย่างที่เค้าบริหารอยู่ต่อไปจะมีผลกระทบอย่างไรคะ :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บวกคะแนนให้ค่ะ คุณ Next คำตอบที่ทำให้พี่ปุณณ์มองเห็นภาพชัดเจน

ไม่ลืมบวกคะแนนให้คุณ p59 ที่ตั้งคำถามได้ตรงเป้าหมาย

 

เมื่อก่อนก็คิดแต่ว่าอเมริกาจะต้องล่มเพราะสภาพเศรษฐกิจและนิสัยของเศรษฐีอเมริกัน

แต่ยังมองไม่ออกว่าจะลงมาในรูปไหน เพราะถ้าพิมพ์เงินเองได้ก็สามารถซื้อทุกอย่างได้

ทีนี้ก็ต้องระวังมือที่จุดชนวนให้ดี

 

:wub:เห็นด้วยกับคุณปุณณ์ค่ะ อ.p ตั้งคำถามดีมาก และคุณNext ก็ตอบให้เราเข้าใจหายสงสัยเลยค่ะ :wub:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณรู้ ผมรู้

จีนก็รู้ รัสเซียก็รู้

 

อเมริกาที่เป็นเจ้าแห่งทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ระดับโลกย่อมต้องรู้

แถมรู้มาหลายปีมากๆ แล้วด้วย

 

ผมจึงไม่เชื่อว่าอเมริกาจะไม่มี แผน1 แผน2 แผน3 รองรับอยู่เบื้องหลัง

อเมริกาไม่โง่แน่ๆ ครับ

 

ถ้าสมมุุติมิสเตอร์ทอมให้ตั๋วกับหลิวไปจนตัวเองไม่มีแอปเปิ้ลไปแลกแล้ว

มิสเตอร์ทอมอาจเสนอเป็นลูกจ้างให้กับมิสเตอร์หลิว บอกให้หลิืวนั่งเฉยๆ ได้แล้ว

แก่แล้วและทอมก็เป็นหนี้อยู่เยอะเลย

เอาอย่างนี้ไหนๆ สวนของทอมก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ทอมขอทำสวนส้มให้หลิวแทน

โดยออกเป็นตั๋วจะให้ส้มแลกกับการได้ทำสวนส้ม

หลิวอาจอยู่สบายได้กินส้มอยู่ไม่กีปี ทอมก็ยึดสวนส้มโดยใช้ตั๋วสัญญาว่าจะให้หลิวกินส้มฟรีตลอดชีวิตโดยไม่ต้องทำงาน

แต่ทอมก็ขี้เกียจทำงานเหมือนกันตอนนี้ทอมกลายเป็นนักออกตั๋วไปซะแล้ว

จึงออกตั๋วส้มให้กับสวนข้างๆ ทีเจ๊งเหมือนกันกับทอม

แต่ทอมเป็นขาใหญ่จึงบังคับสวนข้างๆ ที่กำลังจะอดตายให้ทำงานแทนโดยแลกกับส้มและตั๋วส้มของหลิวที่ยังน่าเชื่อถืออยู่...

 

สุดท้ายทอมก็ยึดสวนทั้งหมดและแบ่งเศษส้มหรือแอปเปิ้ลให้คนอื่นกิน...

 

เป็นมุมมองที่น่าสนใจไม่น้อยนะครับ ต้องอ่านอยู่สองรอบถึงเก็ต ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่า ขาใหญ่เมกา แกจะมีแผนอะไรออกมาให้ประหลาดใจมั้ยถ้าไม่พิมพ์แบ็งค์กดค่าเงินตัวเอง

 

แล้วจีนจะแก้เกมไงต่อ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณรู้ ผมรู้

จีนก็รู้ รัสเซียก็รู้

 

อเมริกาที่เป็นเจ้าแห่งทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ระดับโลกย่อมต้องรู้

แถมรู้มาหลายปีมากๆ แล้วด้วย

 

ผมจึงไม่เชื่อว่าอเมริกาจะไม่มี แผน1 แผน2 แผน3 รองรับอยู่เบื้องหลัง

อเมริกาไม่โง่แน่ๆ ครับ

 

ถ้าสมมุุติมิสเตอร์ทอมให้ตั๋วกับหลิวไปจนตัวเองไม่มีแอปเปิ้ลไปแลกแล้ว

มิสเตอร์ทอมอาจเสนอเป็นลูกจ้างให้กับมิสเตอร์หลิว บอกให้หลิืวนั่งเฉยๆ ได้แล้ว

แก่แล้วและทอมก็เป็นหนี้อยู่เยอะเลย

เอาอย่างนี้ไหนๆ สวนของทอมก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ทอมขอทำสวนส้มให้หลิวแทน

โดยออกเป็นตั๋วจะให้ส้มแลกกับการได้ทำสวนส้ม

หลิวอาจอยู่สบายได้กินส้มอยู่ไม่กีปี ทอมก็ยึดสวนส้มโดยใช้ตั๋วสัญญาว่าจะให้หลิวกินส้มฟรีตลอดชีวิตโดยไม่ต้องทำงาน

แต่ทอมก็ขี้เกียจทำงานเหมือนกันตอนนี้ทอมกลายเป็นนักออกตั๋วไปซะแล้ว

จึงออกตั๋วส้มให้กับสวนข้างๆ ทีเจ๊งเหมือนกันกับทอม

แต่ทอมเป็นขาใหญ่จึงบังคับสวนข้างๆ ที่กำลังจะอดตายให้ทำงานแทนโดยแลกกับส้มและตั๋วส้มของหลิวที่ยังน่าเชื่อถืออยู่...

 

สุดท้ายทอมก็ยึดสวนทั้งหมดและแบ่งเศษส้มหรือแอปเปิ้ลให้คนอื่นกิน...

 

จิงๆ ที่เกิดขึ้น คือ คนเลิกคบทอมต่างหาก จากเดิม ที่เคยใช้แอเปิ้ล และตั๋วแอปเปิ้ลในการค้าขาย แต่เมื่อมันเป็นแค่กระดาษ เพื่อนบ้านย่อมต้องตื่นตัว หันไปหาความเสี่ยงน้อยลง ดังจะเห็นได้จาก จีน กับรัสเซีย ที่หันไปใช้สกุลเงินของตัวเอง

และทอม ที่เคยเปิดสนามกอล์ฟสบายๆ คงยากที่จะกลับมาทำสวนเหมือนเดิม ตราบใดที่ทอมยังรักสบาย ยังเดินนโยบายรัฐสวัสดิการ ท้ายสุด เด็กสวนแอปเปิ้ลจะสำนึกได้ว่า คนรวย ก็คือคนรวย ไม่มีทางจน อย่างมากก็แค่รวยน้อยลง ส่วนคนงานจนๆ ก็ตกงาน และไม่มีทางจะรวยในสวนแอปเปิ้ลได้อีกต่อไป

 

...แล้วคนงานสวนแอปเปิ้ลจะไปไหน?

 

ผมเดาว่า คนงานจะหนีไปสวนจิงโจ้ เนื่องจาก เป็นประเทศเดียวในขณะนี้ ที่ค่าเงินยังนิ่ง เศรษฐกิจยังมีเสถียรภาพ ประชากรไม่เยอะ และวัฒนธรรมคล้ายสวนแอปเปิ้ล

เพราะ อังกิด เป็นประเทศเล็กและเจอวิกฤตศก.เหมือนกัน ส่วนยุโรป ศกก็ยังหวั่นๆอยู่ และแต่ละประเทศมีภาษาเป็นของตัวเอง

 

ถ้ามันจะมีฟองสบู่ก้อนถัดไป มันควรจะเกิดที่ออสเตเรียที่สุด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

ถ้ามันจะมีฟองสบู่ก้อนถัดไป มันควรจะเกิดที่ออสเตเรียที่สุด

 

เเต่ออสเตรเลียเป็นผู้ผลิตทองอันดับต้นๆของโลก ค่าเงินคงจะมีเสถียรภาพสูงมากๆๆๆ โอกาสที่จะเกิดเงินเฟ้อ ค่าเงินลด ผมว่าคงจะต่ำมากครับ เพราะมีทองสำรองหนุนเงินAUD

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อวานไม่ได้เข้ามา เพื่อนๆสมาชิกมาให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นกันไว้

น่าสนใจในหลายๆประเด็นเลยครับ

ขอติดไว้ก่อนนะครับ จะตามเคลียร์ให้ทุกข้อสงสัย

ขอไปปั่นบทความก่อน

เขียนไปโพสไป เหมือนละครหลังข่าวเลยครับ :lol:

 

 

ตอบคุณ Arpat เรื่อง Jp Morgan มีความเป็นไปได้ที่

หุ้น ของเค้าจะเหลือ 0$ นะครับโปรดระวัง

หากมีเพื่อนที่ถืออยู่ แล้วจะได้ว่ากันในรายละเอียดครับ

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตอนนี้เมกาคงทำแบบนั้นไม่ได้แล้วละครับ เพราะคนอื่นเขารู้แล้ว (จีนกะรัสเซียถึงจับมือกัน ซื้อขายโดยไม่ใช้ดอลล์)

เมกาน่าจะเหลือวิธีไม่มาก

1 พิมพ์แบ๊งค์มากๆ เพื่อลดค่าเงินตัวเอง ....เป็นการลดหนี้โดยปริยาย

2 ข้อนี้มีโอกาสสูงครับ ทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นทั่วโลกแล้ว ชักดาบ

 

ลองดูหนี้ของเมกาที่เพิ่มขึ้นทุกๆวินาทีที่นี่ครับ

 

http://www.truthin2010.org/

 

ตอนนี้ที่อังกฤษก็ประท้วงกันแรงแล้วนะครับ เป็นมาจากผลกระทบของทางยุโรปที่เศรษฐกิจไม่ดี

 

http://www.youtube.com/watch?v=gqkUfR-F4Ek

 

 

นี่คือตัวอย่างของการที่ รัฐบาลในแต่ละประเทศไม่ยอม "ประชานิยม" ครับ

 

กรีซ เมื่อ ลดสวัสดิการ รัฐบาลจะรัดเข็มขัด ก็เจอเหตุจราจล

 

ฝรั่งเศษ แค่ เพิ่มอายุการเกษียณ ก็เจอม๊อบ

 

อังกฤษ การเพิ่มอัตราค่าเล่าเรียน ทั้งๆที่ถูกมากอยู่แล้ว

(คนไทยไปเรียนที่อังกฤษก็ทราบว่าจ่ายแพงกว่าคนในประเทศเค้าเกือบเท่าตัว) ก็เจอประท้วงแบบนี้

 

สหรัฐอเมริกา ก็เจอ ม๊อบ คราวที่จะลดสวัสดิการการรักษาพยาบาล

 

คนในชาติตะวันตก อยู่กันอย่างสุขสบาย มีรัฐสวัสดิการมากมายดูแล รัฐบาลจึงมีรายจ่ายก้อนโตและสร้างหนี้สร้างสินเกินตัว

พอเกิดปัญหาหนี้ ก็ BAIL OUT

 

ผมเลยมองว่า ที่ผ่านมาเค้ายังไม่ยอมให้ ประเทศไหน Default หรือ ชักดาบเลยครับ

แม้แต่ประเทศที่เล็กที่สุดในยูโรโซนอย่าง กรีซ ก็พิมพ์เงินช่วยๆ

HYPERINFLATION ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่น่ากังวลมากๆเลยครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ก็อปเอามาเสริมครับเรื่องประท้วง

 

มจึงขอทำนายว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดขึ้นกับสหรัฐเช่นเดียวกันในไม่ช้าครับ และเหตุผลสนับสนุนก็คือ ณ วันนี้คนอเมริกันที่อยู่ในสภาวะตกงานบ้าง ถูกยึดบ้านบ้าง ไร้ที่อยู่อาศัยบ้าง ทั้งหมดรวมๆ กันแล้วมากกว่า "42 ล้านคน " ซึ่งมากกว่าประชากรของบางประเทศในแถบยุโรปซะอีก ฝากชีวิตไว้กับ Food Stamps หรือสวัสดิการคูปองอาหารของรัฐครับ ซึ่งตัวเลขนี้ทำสถิติสูงสุดในรอบ 27 ปีไปแล้วอีกเช่นกัน

ระกอบกับอีกมากกว่า 10 รัฐของสหรัฐอยู่ในฐานะล้มละลายไปแล้วในทางตัวเลข และอีก 40 กว่ารัฐที่เหลือก็ตัดลดรายจ่ายกันอย่างรุนแรงด้วยทุกวิถีทางครับ ก็จะยิ่งส่งผลให้ปัญหาและอัตราการว่างงานเร่งตัวขึ้นผลักคนเหล่านั้นให้ไปเข้าโปรแกรม Food Stamps ในที่สุด

 

ย้อนกลับไปดูผลการเรื่องตั้งกลางเทอมครั้งที่ผ่านมา เดโมแครตชนะและกวาดเสียงข้างมากในสภาล่างหรือ ส.ส. ในขณะที่ รีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากในสภาบนหรือ ส.ว. ไปอย่างเฉียดฉิว และในทันทีที่รัฐสภาชุดใหม่ของสหรัฐนี้เริ่มทำงาน พรรครีพับลิกันก็ได้เสนอร่างกฏหมายฉบับแรกของสภาชุดนี้ขึ้นมาครับ คือ "การตัดลด" งบประมาณในส่วนของ Food Stamps ลง ด้วยเหตุผลที่ว่ารัฐใช้จ่ายงบในส่วนนี้มากเกินไป ซึ่งแค่คิดก็เห็นลางของหายนะแล้วครับ แล้วการผลักดันกฏหมายก็น่าจะผ่านในที่สุดด้วยเสียงโหวตที่เค้ามีอยู่ในขณะนี้

อีกไม่นานเราคงจะได้เห็น Riots หรือการลุกฮือของคนอเมริกันครับ จะเห็นได้ว่าสถานการณ์พัฒนาขึ้นโดยลำดับครับ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ขอบคุณคุณnextมากคะ รออ่านบทความต่อไปคะ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เมื่อวานไม่ได้เข้ามา เพื่อนๆสมาชิกมาให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นกันไว้

น่าสนใจในหลายๆประเด็นเลยครับ

ขอติดไว้ก่อนนะครับ จะตามเคลียร์ให้ทุกข้อสงสัย

ขอไปปั่นบทความก่อน

เขียนไปโพสไป เหมือนละครหลังข่าวเลยครับ :lol:

 

 

ตอบคุณ Arpat เรื่อง Jp Morgan มีความเป็นไปได้ที่

หุ้น ของเค้าจะเหลือ 0$ นะครับโปรดระวัง

หากมีเพื่อนที่ถืออยู่ แล้วจะได้ว่ากันในรายละเอียดครับ

 

 

em0009.gifขอบคุณคร้าคุณNext em0009.gif cd08785a.gif รออ่านต่อคร้า ยิ่งตื่นเต้นขึ้นทุกวัน:P

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

gold_key.jpg

 

โอกาส “ทอง” (จริงๆ) : ปรับตามอัตราเงินเฟ้อ (Inflation adjust)

 

เมื่อ 2 ปีก่อนราคาทองคำแตะระดับ 850$/oz เท่ากับราคาสูงสุดตลอดกาลของทองคำในปี 1980

แต่ทองคำไม่ได้ลดราคาลงหลังจากนั้น เหมือนในอดีต หนำซ้ำยังเดินหน้าทำสถิติต่อเนื่อง

 

พูดกันง่ายๆว่า 850$ เมื่อสองปีที่แล้วกับ 850$ เมื่อ 30 ปีก่อนนั้น

แม้ตัวเลขจะเท่ากัน แต่ “มันไม่เหมือนกัน”

 

ทำไม?

 

นั่นเพราะระบบการเงินที่พวกเราใช้กันมานั้น เมื่อเวลาผ่านไป มันทำหน้าที่

เป็นตัววัดมูลค่า(Value) ได้ “แย่มาก”

 

หาก ราคา (Price)เพิ่มขึ้น มูลค่า(Value)ก็ควรจะเพิ่มขึ้นด้วย ถึงจะสมเหตุสมผล

 

:excl: เช่น ข้าวผัดกระเพรา 25 บาท แต่พอใส่ ไข่ดาวกลายเป็น 30 บาท

การเพิ่มขึ้นของราคา 5 บาท

นั้นสมเหตุสมผล เพราะมูลค่าของอาหารตามสั่งจานนี้เพิ่มขึ้นจริงๆ (มีไข่ดาวโปะ)

 

แต่หากมีเรื่องของ “เวลา” มาเกี่ยวข้อง

 

:excl: เช่น เมื่อเราย้อนเวลากลับไปซัก 2 ปี ข้าวผัดกระเพรา เคยขายจานละ 25 บาท ทุกวันนี้ขาย 30 บาท

การเพิ่มขึ้นของราคา 5 บาทในกรณีนี้

ไม่ได้เป็นสิ่งที่บอกว่า มูลค่าเพิ่มขึ้นเลย ยังเป็นแค่ข้าวกระเพราผัดอย่างเก่า

 

เพราะฉะนั้นสรุปได้ว่า ราคา(Price) ไม่สามารถบอกถึง มูลค่า(Value) ที่แท้จริงได้ หากเรามอง “ในระยะยาว”

 

สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะ

ในระยะยาว มูลค่าของเงินจะลด อยู่ตลอด

หรือพูดอีกอย่างว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะในระยะยาว “เงินเฟ้อ”(Inflation)

 

ทองคำ “เคยแพง” ที่ระดับ 850$ ในปี 1980

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ราคาเป็น 850$ อีกครั้ง จึงกลับกลายเป็น “ไม่แพง !”

 

ฉะนั้นการจะวัดมูลค่าของสิ่งใดสิ่งหนึ่งนั้น เมื่อเวลาผ่านไป

จำเป็นต้องเอาอัตราเงินเฟ้อ มาคำนวณประกอบกับราคาด้วยเสมอ

เรียกว่า ปรับตามอัตราเงินเฟ้อ (Inflation adjust)

 

การคิดคำนวณนั้น คุณจำเป็นต้องมีอัตราเงินเฟ้อในแต่ละปี จำเป็นต้องมีราคาของแต่ละอย่าง

เอามาใส่สูตร ยำๆ คำนวณๆ

แต่คุณก็รู้ว่า ผมไม่ใช่คนที่จะมาอธิบายอะไรที่มันลึกล้าซับซ้อนน่าปวดหัว

บทความนี้ก็ไม่ใช่บทความทาง การเงิน (Finance) หรือ คณิตศาสตร์ (Math)

ที่จะต้องมาใส่ สารพัดสูตร

 

ผมขอข้ามขั้นตอนไปเลยโดยการใช้ เครื่องคิดเลขครับ แต่เครื่องคิดเลขเครื่องนี้ไม่ใช่เครื่องคิดเลขธรรมดานะ

เพราะมันคือ เครื่องคิดเลขเงินเฟ้อ (Inflation Calculator)

 

 

frcpi.jpg

 

 

คลิ๊กเลยครับ : เครื่องคิดเลขเงินเฟ้อ

 

เราอยากรู้ว่า ของสิ่งนั้นเคยราคาเท่าไหร่ ? ในอดีต แล้วควรจะเป็นราคาเท่าไหร่ ณ.ปัจจุบัน

ก็แค่ใส่ตัวเลขเข้าไป

เมื่อลองใส่ 850$ ในปี 1980 แล้วให้ปีสุดท้ายคือ 2010

ราคาที่คำนวณได้คือ 2256.12$ !

 

:excl: นั่นหมายความว่า : ราคาทองคำยังไม่ได้ทำสถิติใหม่ หากเราปรับตามอัตราเงินเฟ้อ

 

:excl: นั่นหมายความว่า : หากราคาทองคำพุ่งทะลุไปถึงระดับ 2200$ ไม่ต้องตกใจ

ไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่เลยก็แค่ “ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย”

 

:excl: นั่นหมายความว่า : ทองคำที่ระดับ ราคา 1360$ ในขณะนี้

ต้องถือว่า “ถูก” (Under Value)

 

:excl: และนั่นหมายความว่า : หากคุณกังวล ว่าทองจะลงฮวบฮาบแบบในปี 1980

ณ.ขณะนี้ต้องบอกว่ายังอีกห่างไกล

 

ไกลแค่ไหน?

 

gold-still-looks-cheap-when-adjusted-for-inflation.jpg

 

 

 

 

เส้นสีส้ม คือราคาทองคำในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ส่วนเส้นสีน้ำเงิน

นั้นเป็น ช่วงเวลาของ โอกาส “ทอง”(จริงๆ)ครั้งที่ 1

เมื่อเอามาซ้อนกันแล้วปรับตามอัตราเงินเฟ้อ จะสังเกตเห็นว่าทิศทางของราคานั้นชัดเจนเป็นไปในลักษณะกำลังไล่ตามกันอยู่

 

goldupside.jpg

 

 

วงกลมสีแดง จึงเป็นราคาเป้าหมาย ส่วนลูกศรสีแดงคือ “ลู่วิ่ง” (Upside)

ของราคาที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

จะเห็นว่า อย่างน้อยๆยังมีให้ลุ้นกันได้อีก400-500$

 

แต่.....................

 

อย่าเพิ่งเชื่อครับ ?? เพราะตัวเลขที่ได้จาก การคำนวณด้วยเครื่องคิดเลขเงินเฟ้อและกราฟรูปนี้

ใช้ตัวเลข ดัชนีสินค้าอุปโภคบริโภค (Consumer price index : CPI)

“อย่างเป็นทางการ” มาคิด

 

ปัญหามันอยู่ที่ว่า ไอ้ตัวเลขอย่างเป็นทางการนี่ มัน “ไม่น่าเชื่อถือ” ครับ

นักเศรษฐศาสตร์บางคน จึงเรียก CPI ว่า CP-Lie (โกหก)

 

นั่นเพราะการวัดราคาของสินค้าที่ขึ้นลงเค้าไม่ได้ทำกันอย่างตรงไปตรงมา เช่น

หากในระหว่างปี มีสินค้าที่ ขึ้นราคาอย่างรวดเร็ว เค้าจะ ตัดรายการนั้นออกไปไม่นำมาคำนวณ

เรียกกระบวณการนี้ว่า คัดทิ้ง (Deletion)

หลังจากนั้นเค้าจะนำสินค้า ประเภทอื่น ที่ราคานิ่งๆกว่ามาคำนวณแทน (Substitution)

หรือไม่ก็แค่ ประเมินราคาสินค้าชนิดนั้นใหม่กันไปเลย(มั่ว) (Hedonic adjustment)

 

หนำซ้ำหากสินค้ามีการปรับขึ้นราคาแต่ เพิ่มฟังก์ชั่นขึ้นมาอีกเล็กน้อย เค้าก็จะไม่นับว่ามันขึ้นราคา

ที่เลวร้ายที่สุดคือ เค้าอ้างว่า ราคาอาหารและพลังงาน (Food and Energy) นั้น

มันผันผวนมากเกินไป ไม่ขอเอามาคำนวณ ????

 

ทั้งๆที่ สิ่งที่เรากินเราใช้กันอยู่ทุกวัน หลักๆก็คือ 2 หมวดนี้

จริงอยู่มันผันผวนในระยะสั้น แต่หากมองในระยะยาว (Trend) มันแพงขึ้นอย่างเดียว !

 

ภายหลังจึงมีการจัดทำ CPI เฉพาะสองหมวดนี้ แล้ว เรียกว่า “Core- CPI” ซึ่งมันก็ CP-lie อยู่ดี

(หน่วยงานที่จัดทำ CPI คือ Bureau of Labor Statistic : BLS)

 

ทำไมเค้าต้องตกแต่งตัวเลข ? นั่นก็เพราะ อัตราเงินเฟ้อ ต่ำๆนั้น ทำให้รัฐบาลดูดี

ทุกครั้งที่สินค้าขึ้นราคาจะอ้างนู่นอ้างนี่สารพัด แต่ พอเหตุผลเหล่านั้นจบไป ก็ไม่เห็นราคามันจะลง ??

 

อัตราเงินเฟ้อจาก ธนาคารกลางแห่งประเทศไทย ล่าสุดอยู่ที่ระดับ 3.5%

ภายใน 1 ปี ให้คุณลองสังเกต ของที่คุณกินหรือใช้ในชีวิตประจำวัน คำนวณดูว่าแพงขึ้นกว่า 3.5% หรือไม่

เช่น ชอบดื่มกาแฟสดทุกวัน จาก แก้วละ 25 ขึ้นเป็น 30 = ขึ้นถึง 25% !!

เอาหลายๆ อย่างมาคำนวณ จะพบว่า มันเกินกว่านั้นเยอะ !

 

จึงสรุปได้ว่า ตัวเลข อัตราเงินเฟ้อนั้น “ต่ำกว่า” ความเป็นจริง

โอกาส “ทอง” จริงๆ ของพวกเราจึงยังไม่ได้หยุดอยู่แค่ระดับนี้ แต่คุณคงพอเห็นภาพบ้างแล้วใช่มั๊ยครับว่า

ต่อให้ปรับตามตัวเลขอย่างเป็นทางการ ราคาทองคำนั้นก็ยังมี Upside เหลืออยู่เยอะ

 

ในตอนหน้า เราจะตามกันต่อถึง ตัวเลข อัตราเงินเฟ้อ ที่ สมควรจะเป็น

และอีกหลายๆ ปัจจัย ที่จะส่งผลต่อราคาทองคำในอนาคต

 

ห้ามพลาดครับ ....

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รออ่าน เรียนรู้ จากบทความคุณ Next ค่ะ !thk !thk

ขอบคุณค่ะคุณ Next +1 ค่ะ

ถูกแก้ไข โดย goldgold

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

3e5fcd190e1205563276bcc077a8a9e2.gif3e5fcd190e1205563276bcc077a8a9e2.gif+1

 

ในตอนหน้า ยากที่จะพลาดครับคุณ Next

48c37d43e297d270c1723b75c7a3a2de.gifกระทู้ยอดนิยมแห่งปี 5348c37d43e297d270c1723b75c7a3a2de.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

!thk ขอบคุณค่ะ นั่งอ่านแล้วใครจะกล้าถือสัญญา s บ้างนะ หุหุ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...