ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
โจได

เรียนรู้ดูพระ แบบมือสมัครเล่น

โพสต์แนะนำ

ด่วน!!มีใครอยู่พิษณุโลกมั่งครับ

http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=125725

http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=125874

พระสวยมาก กำลังหาทางเช่าอยู่..

วันที่ 14 ธค 2553 ที่วัดปากคลองชุมแสงสงคราม ม.2 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เจ้าอาวาสให้รถแม็คโครดันต้นข่อยเพื่อปรับพื้นที่ทำถนนเข้าวัด หลังจากถูกน้ำท่วมมานาน พบไหโบราณบรรจุพระขุนไกรพร้อมโบราณวัตถุสมัยสุโขทัยจำนวนมาก

 

 

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ธ.ค. 53 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า ที่วัดปากคลองชุมแสง ม.2 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มีการขุดพบวัตถุโบราณและกรุพระจำนวนมาก จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบ พบกลุ่มชาวบ้านจำนวนหนึ่งพร้อมพระสงฆ์ กำลังช่วยกันขุดเอาสิ่งของที่ขุดพบใต้ดินขึ้นมา ซึ่งเป็นไหพระเก่าแก่จำนวน 1 ใบ แต่อยู่ในสภาพที่แตกแล้ว ภายในบรรจุพระจำนวนมาก หลังนำเอาขึ้นมาเป็นพระเนื้อดินเผา สอบถามชาวบ้านว่าเป็นพระพิมพ์ขุนไกร นอกจากนั้นยังมีจำพวกถ้วยชามยุคเก่า ที่ทางวัดขุดพบ ซึ่งเครื่องใช้จะพวกสังฆโลก ที่แตกหักจำนวนมาก

จากการสอบถามพระอธิการบุญช่วย กิตติโก เจ้าอาวาสวัด เปิดเผยว่า วันนี้ทางวัดได้ว่าจ้างแม็กโฮมาขุดดิน เพื่อทำทางเข้าวัด เนื่องจากที่ผ่านมาช่วงหน้าฝนเส้นทางเข้าวัดถูกนำท่วม ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ จึงต้องอาศัยการเดินทางเรือเพียงอย่างเดียว หลังจากหมดหน้าฝนน้ำแห้ง ทางวัดจึงปรับปรุงเส้นทางให้ใช้งานได้และถมให้สูงขึ้น จึงได้ว่าจ้างรถแม็กโฮมาขุดดินรอบๆบริเวณ เพื่อนำดินมาทำถนน โดยเริ่มขุดมาตั้งแต่เช้า ก่อนขุดพบของเก่าและกรุพระ รถแม็กโฮได้มาขุดดินตรงบริเวณฐานโบสถ์เก่า และมีต้นข่อยขนาดใหญ่ขึ้นบังหน้าวัด จึงให้คนขับรถแม็กโฮมาขุดเอาต้นข่อยออกไป ปรากฏว่าระหว่างที่ขุดพบของเก่าจำนวนมาก และมีกรุพระบรรจุอยู่ในไหจำนวนหนึ่ง หลังนำขึ้นมาตรวจสอบเป็นขุนไกรพิมพ์เล็กเนื้อดินเผา ทางวัดได้นำขึ้นมา แต่มีชาวบ้านนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูป ปรากฏว่ากล้องถ่ายรูปดับโดยไม่ทราบสาเหตุ และเสียไปเลย ตนจึงต้องนำธูปเทียนมาจุดขอขมา เพื่อนำพระขุดพบขึ้นมาดังกล่าว

 

พระสมศักดิ์ ฐาวีโร พระลูกวัด กล่าวว่า ตอนที่ตนบวชได้ประมาณ 1 เดือน ฝันว่า มีเจ้าที่มาบอกว่า บริเวณแอ่งจะมีเรือและข้าวของเก่าแก่จำนวนมาก พร้อมกับพระในไหจำนวนมาก แต่เจ้าที่ได้บอกกับตนว่า ตอนนี้ยังไม่ให้ ขอให้รอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง กระทั่งเจ้าอาวาสจ้างรถแม็กโฮมาขุดทำถนนเข้าวัด พบกรุพระดังกล่าว ตนจึงมีความเชื่อตามที่ฝันจริงๆ

นายสวิง รอดสุด อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 442/4 ม.7 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาทำงานก่อสร้างศาลาธรรมสังเวช โดยมีคนงานมาทำกันจำนวนหลายคน ระหว่างนั้นทราบว่ารถแม็กโฮขุดพบกรุพระเก่าแก่ จึงได้พากันมาดู พร้อมใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปเก็บเอาไว้ ปรากฏว่า โทรศัพท์ที่ตนใช้กล้องถ่ายเกิดดับโดยไม่ทราบสาเหตุ พยายามเปิดใหม่แต่ปรากฏว่าหน้าจอเสียไปเลย จึงได้บอกกับทางเจ้าอาวาสทำพิธีขอขมาให้ถูกต้อง ส่วนพระที่พบตนไม่มีความรู้ แต่หลายคนพูดว่าเป็นพระพิมพ์ขุนไกร เนื้อดินเผา

“พระขุนไกร” เป็นพระตระกูลขุนแผน ศิลปะอู่ทอง พระเนื้อดินเผาโด่งดังใน 5 พิมพ์ คือ พระขุนแผน พระขุนไกร พระพลายงาม พระพันวษา พระกุมารทอง ลักษณะพิมพ์ นั่งสมาธิเพชร ปางมาสวิชัย ตามวรรณคดี พระขุนไกรเป็นบิดาของขุนแผน เคยพบครั้งแรกพระกรุสุพรรณบุรีและอยุธยาตามฐานเจดีย์และโบสถ์เก่าวัดเก่า พระเครื่องขุนไกรเป็นพระที่มีประสพการณ์ดี นิยมเล่นหากันมาช้านาน พุทธคุณด้านเจ้าชูและร่ำรวย

 

วัดปากคลองชุมแสงเป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ชุมชนชุมสงสงครามเป็นชุมชนหน้าด้านที่มีการค้าขายกับหัวเมืองต่าง ๆ สมัยกรุงสุโขทัยแตก กองทัพสุโขทัยได้ถอยหนีหม่ามายังชุมชนชุมแสงสงครามตามลำน้ำยม เมื่อศึกสงครามสงบลง ชุมชนชุมแสงสงครามได้กลับมาเจริญ โดยตั้งบ้านเมืองและจัดตั้งเป็นชื่ออำเภอว่าอำเภอชุมแสงสงคราม ต่อมาเกิดอุทกภัยร้ายแรงและเกิดโรคระบาด บ้านเมืองจึงย้ายที่ตั้งอำเภอใหม่ไปตั้งอยู่ที่ตำบลบางระกำ และตั้งชื่อใหม่เป็นอำเภอบางระกำ ส่วนวัดปากคลองชุมแสงนั้น เป็นวัดร้างมานาน ปี 2545 ได้ของบประมาณจากกรมการศาสนาเพื่อดำเนินการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินเนื้อที่ 10 ไร่ 3 งาน 60 ตารางวา และคณะศรัทธาได้นิมนต์พระบุญช่วย กิตติโก สังกัดวัดพรหมเกสร อ.บางระกำ มาร่วมพัฒนาวัด ในอดีต ชาวบ้านพบโบราณวัตถุประเภทถ้วยชามสังคโลกบริเวณวัดจำนวนมาก บางส่วนอยู่ในสภาพสมบูรณ์

………………………………………..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ด่วน!!มีใครอยู่พิษณุโลกมั่งครับ

http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=125725

http://76.nationchannel.com/playvideo.php?id=125874

พระสวยมาก กำลังหาทางเช่าอยู่..

วันที่ 14 ธค 2553 ที่วัดปากคลองชุมแสงสงคราม ม.2 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เจ้าอาวาสให้รถแม็คโครดันต้นข่อยเพื่อปรับพื้นที่ทำถนนเข้าวัด หลังจากถูกน้ำท่วมมานาน พบไหโบราณบรรจุพระขุนไกรพร้อมโบราณวัตถุสมัยสุโขทัยจำนวนมาก

 

 

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 14 ธ.ค. 53 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่า ที่วัดปากคลองชุมแสง ม.2 ต.ชุมแสงสงคราม อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก มีการขุดพบวัตถุโบราณและกรุพระจำนวนมาก จึงรุดเดินทางไปตรวจสอบ พบกลุ่มชาวบ้านจำนวนหนึ่งพร้อมพระสงฆ์ กำลังช่วยกันขุดเอาสิ่งของที่ขุดพบใต้ดินขึ้นมา ซึ่งเป็นไหพระเก่าแก่จำนวน 1 ใบ แต่อยู่ในสภาพที่แตกแล้ว ภายในบรรจุพระจำนวนมาก หลังนำเอาขึ้นมาเป็นพระเนื้อดินเผา สอบถามชาวบ้านว่าเป็นพระพิมพ์ขุนไกร นอกจากนั้นยังมีจำพวกถ้วยชามยุคเก่า ที่ทางวัดขุดพบ ซึ่งเครื่องใช้จะพวกสังฆโลก ที่แตกหักจำนวนมาก

จากการสอบถามพระอธิการบุญช่วย กิตติโก เจ้าอาวาสวัด เปิดเผยว่า วันนี้ทางวัดได้ว่าจ้างแม็กโฮมาขุดดิน เพื่อทำทางเข้าวัด เนื่องจากที่ผ่านมาช่วงหน้าฝนเส้นทางเข้าวัดถูกนำท่วม ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ จึงต้องอาศัยการเดินทางเรือเพียงอย่างเดียว หลังจากหมดหน้าฝนน้ำแห้ง ทางวัดจึงปรับปรุงเส้นทางให้ใช้งานได้และถมให้สูงขึ้น จึงได้ว่าจ้างรถแม็กโฮมาขุดดินรอบๆบริเวณ เพื่อนำดินมาทำถนน โดยเริ่มขุดมาตั้งแต่เช้า ก่อนขุดพบของเก่าและกรุพระ รถแม็กโฮได้มาขุดดินตรงบริเวณฐานโบสถ์เก่า และมีต้นข่อยขนาดใหญ่ขึ้นบังหน้าวัด จึงให้คนขับรถแม็กโฮมาขุดเอาต้นข่อยออกไป ปรากฏว่าระหว่างที่ขุดพบของเก่าจำนวนมาก และมีกรุพระบรรจุอยู่ในไหจำนวนหนึ่ง หลังนำขึ้นมาตรวจสอบเป็นขุนไกรพิมพ์เล็กเนื้อดินเผา ทางวัดได้นำขึ้นมา แต่มีชาวบ้านนำโทรศัพท์มือถือมาถ่ายรูป ปรากฏว่ากล้องถ่ายรูปดับโดยไม่ทราบสาเหตุ และเสียไปเลย ตนจึงต้องนำธูปเทียนมาจุดขอขมา เพื่อนำพระขุดพบขึ้นมาดังกล่าว

 

พระสมศักดิ์ ฐาวีโร พระลูกวัด กล่าวว่า ตอนที่ตนบวชได้ประมาณ 1 เดือน ฝันว่า มีเจ้าที่มาบอกว่า บริเวณแอ่งจะมีเรือและข้าวของเก่าแก่จำนวนมาก พร้อมกับพระในไหจำนวนมาก แต่เจ้าที่ได้บอกกับตนว่า ตอนนี้ยังไม่ให้ ขอให้รอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง กระทั่งเจ้าอาวาสจ้างรถแม็กโฮมาขุดทำถนนเข้าวัด พบกรุพระดังกล่าว ตนจึงมีความเชื่อตามที่ฝันจริงๆ

นายสวิง รอดสุด อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 442/4 ม.7 ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก เปิดเผยว่า วันนี้ตนมาทำงานก่อสร้างศาลาธรรมสังเวช โดยมีคนงานมาทำกันจำนวนหลายคน ระหว่างนั้นทราบว่ารถแม็กโฮขุดพบกรุพระเก่าแก่ จึงได้พากันมาดู พร้อมใช้โทรศัพท์ถ่ายรูปเก็บเอาไว้ ปรากฏว่า โทรศัพท์ที่ตนใช้กล้องถ่ายเกิดดับโดยไม่ทราบสาเหตุ พยายามเปิดใหม่แต่ปรากฏว่าหน้าจอเสียไปเลย จึงได้บอกกับทางเจ้าอาวาสทำพิธีขอขมาให้ถูกต้อง ส่วนพระที่พบตนไม่มีความรู้ แต่หลายคนพูดว่าเป็นพระพิมพ์ขุนไกร เนื้อดินเผา

“พระขุนไกร” เป็นพระตระกูลขุนแผน ศิลปะอู่ทอง พระเนื้อดินเผาโด่งดังใน 5 พิมพ์ คือ พระขุนแผน พระขุนไกร พระพลายงาม พระพันวษา พระกุมารทอง ลักษณะพิมพ์ นั่งสมาธิเพชร ปางมาสวิชัย ตามวรรณคดี พระขุนไกรเป็นบิดาของขุนแผน เคยพบครั้งแรกพระกรุสุพรรณบุรีและอยุธยาตามฐานเจดีย์และโบสถ์เก่าวัดเก่า พระเครื่องขุนไกรเป็นพระที่มีประสพการณ์ดี นิยมเล่นหากันมาช้านาน พุทธคุณด้านเจ้าชูและร่ำรวย

 

วัดปากคลองชุมแสงเป็นวัดที่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย ชุมชนชุมสงสงครามเป็นชุมชนหน้าด้านที่มีการค้าขายกับหัวเมืองต่าง ๆ สมัยกรุงสุโขทัยแตก กองทัพสุโขทัยได้ถอยหนีหม่ามายังชุมชนชุมแสงสงครามตามลำน้ำยม เมื่อศึกสงครามสงบลง ชุมชนชุมแสงสงครามได้กลับมาเจริญ โดยตั้งบ้านเมืองและจัดตั้งเป็นชื่ออำเภอว่าอำเภอชุมแสงสงคราม ต่อมาเกิดอุทกภัยร้ายแรงและเกิดโรคระบาด บ้านเมืองจึงย้ายที่ตั้งอำเภอใหม่ไปตั้งอยู่ที่ตำบลบางระกำ และตั้งชื่อใหม่เป็นอำเภอบางระกำ ส่วนวัดปากคลองชุมแสงนั้น เป็นวัดร้างมานาน ปี 2545 ได้ของบประมาณจากกรมการศาสนาเพื่อดำเนินการออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินเนื้อที่ 10 ไร่ 3 งาน 60 ตารางวา และคณะศรัทธาได้นิมนต์พระบุญช่วย กิตติโก สังกัดวัดพรหมเกสร อ.บางระกำ มาร่วมพัฒนาวัด ในอดีต ชาวบ้านพบโบราณวัตถุประเภทถ้วยชามสังคโลกบริเวณวัดจำนวนมาก บางส่วนอยู่ในสภาพสมบูรณ์

………………………………………..

 

ปีนี้ พระแตกกรุ ที่ วัดในพิษณุโลกเป็นวัดที่ 3 หรือ 4 แล้ว ครับ :lol:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เพดบูนได้ป่ะ..ใกล้ๆกัน !La !La !La

 

 

ปีนี้ พระแตกกรุ ที่ วัดในพิษณุโลกเป็นวัดที่ 3 หรือ 4 แล้ว ครับ :lol:

ถ้ามีโอกาสน่าไปหามาไว้สักองค์นะครับ

ถ้าเป็นพระกรุจริง(อย่าเชื่ออะไรง่ายๆ)อายุเก่าแก่สมัยสุโขทัย ยุคพระนเรศวร

บอกได้คำเดียวว่าคุ้มค่ามาก ผมสั่งไปแล้วแต่ยังไม่ได้พระ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ได้พระมาแล้วครับ ถ่ายรูปมาให้เม้นท์กันสนุกๆครับ

สถาพก่อนและหลังล้างคราบดินครับ

img_6034-horz.jpg

 

 

 

img_6039-horz.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เหรียญโล่ห์ใหญ่ปี2516 รุ่นนี้เป็นเหรียญที่มีพิมพ์ทรงที่เป็นเอกลักษณ์สวยงาม น่าสะสมมากอีกเหรียญหนึ่ง

สำหรับผู้ที่มีความเลื่อมใสศรัทธาในตัวหลวงพ่อพรหม เห็นแล้วเลยหาข้อมูลมาฝากครับ

อ้างอิงจาก http://www.web-pra.com/Shop/lek-amulet/Show/214924

214924-10bff.jpg214924-22dcf.jpg

หลวงพ่อพรหม ถาวโร วัดช่องแค จ.นครสวรรค์ ยอดพระเกจิอาจารย์ท่านมีภูมิธรรมสูงด้วยอภิญญาบารมี วัตถุมงคลที่ท่านสร้างขึ้นและอฐิษฐานจิตปลุกเสกล้วนแล้วแต่เข้มขลังและ ศักดิ์สิทธิ์เป็นอย่างมากเพราะท่านลงธาตุสี่ปลุกเสกให้เหมือนมีชีวิต และท่านได้กล่าวกับลูกศิษย์เกี่ยวกับวัตถุมงคลของท่านไว้ว่า

 

"ข้าฯ ลงให้หมดทุกอย่าง มหาอุตม์-ยิงไม่ออก คงกระพันฟันไม่เข้า เมตตามหานิยม ซื้อง่ายขายคล่อง ลงไม่ได้อยู่อย่างเดียวคือกันคนอิจฉาริษยาไม่ได้ เพราะว่ามันไม่มีคาถาห้ามปากคน"

 

อิทธิปาฏิหารย์เกี่ยวกับวัตถุมงคลของท่านมีมากมายเล่าขานกันมาก จึงทำให้วัตถุมงคลของท่านได้รับความนิยมสูงทุกรุ่น

 

เหรียญโล่ห์ใหญ่ฯ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2516 โดยคณะกรรมการชุดพัฒนาวัดช่องแค ในพิธีเสาร์ ๕ ปี 16 มีเนื้อทองคำ 3 เหรียญ ทองเค 3 เหรียญ เนื้อเงิน 92 เหรียญ เนื้อทองแดงชุบทอง 1,000 เหรียญ เนื้อทองแดง 10,000 เหรียญ องค์นี้เป็นเนื้อทองแดงสภาพสวยแชมป์ครับ

 

 

 

 

 

อ้างอิงจากhttp://www.itti-patihan.com/pra14.php

 

ประวัติ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค จ.นครสวรรค์

pra38.jpg

หลวงพ่อพรหม ถาวโร ถือกำเนิดเมื่อวันพฤหัสบดี ขึ้น 5 ค่ำ เดือน 5 ปี มะแม ตรงกับวันที่ 12 เมษายน พศ. 2426 ณ.ตำบลบ้านแพรก อำเภอมหาราช จังหวัดพระนครศรีอยุธยา บุตรนายหมี-นางล้อมโกสะลัง มีพี่น้องร่วมบิดามารดา 4 คน คือ

1.นางลอย

2.นายปลิว

3.หลวงพ่อพรหม

4.นางฉาบ

ทุกคนถึงแก่กรรม

หลวงพ่อพรหมในขณะเยาว์วัยได้ศึกษา อ่านเขียนกับพระในวัดใกล้บ้าน ศึกษาอักษรขอมควบคู่กับภาษาไทยตั้งแต่ก่อนอุปสมบท เมื่ออายุครบบวช ได้อุปสมบทที่วัดเขียนลาย ต.บ้านแพรก อ.บ้านแพรก จ.อยุธยา เมื่อวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ.2447 ได้รับฉายาว่า "ถาวโร" โดยมีหลวงพ่อถม วัดเขียนลาย เป็นพระอุปัชฌาย์ และได้ศึกษาเล่าเรียนภาษาขอมจนชำนาญและเริ่มปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน

หลวงพ่อพรหมเริ่มศึกษาวิชาไสยศาสตร์และคาถาอาคมกับอาจารย์ที่เป็นฆราวาส ชื่ออาจารย์พ่วง ต่อมาเมื่ออุปสมบทแล้วจึงได้ศึกษาอสุภกรรมฐาน สมถะกรรมฐาน วิปัสสนา จากหลวงพ่อดำ ซึ่งเป็นพระสงฆ์ไม่ทราบวัดอยู่ประมาณ 4 ปี ในพรรษาที่ 5 อาจารย์พ่วง ได้พาไปฝากอาจารย์ปู่วอน ซึ่งเป็นฆราวาส และได้ศึกษาวิชาแขนงต่างๆเป็นเวลา 5 ปีเต็ม จนกระทั่งอาจารย์ปู่วอนถึงแก่กรรม ซึ่งในภายหลังหลวงพ่อพรหมได้นำกระดูกมาเก็บไว้ที่วัดช่องแค จากนั้นหลวงพ่อพรหม ก็ไม่ได้ไปศึกษากับอาจารย์ท่านใดโดยตรงมีแต่ศึกษาแลกเปลี่ยนวิชากับอาจารย์รุ่นพี่และรุ่นเดียวกันในระหว่างธุดงค์ เช่น หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ เป็นต้น

หลวงพ่อพรหมจะเดินธุดงค์ทั้งเส้นทางใกล้และไกล โดยหลวงพ่อเคยเดินธุดงค์ไปประเทศพม่าถึงเมืองร่างกุ้ง และได้มีโอกาสที่มนัสการพระเจดีย์ชะเวดากอง และเดินธุดงค์ผ่านทางด่านเจดีย์สามองค์ ผ่านเทือกเขาน้อยใหญ่ และธุดงค์อยู่ในประเทศพม่าเป็นเวลานาน จึงเดินทางกลับประเทศไทยทางด่านแม่ละเมา จ.ตาก และเดินเรื่อยๆไปจนถึงเขาช่องแค ต.พรหมนิมิตร อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เกิดฝนตกหนัก หลวงพ่อได้หลบเข้าไปอยู่ในถ้ำซึ่งเป็นถ้ำเล็กๆ ซึ่งเป็นสถานที่ที่หลวงพ่อเห็นว่าเป็นที่วิเวกเหมาะแก่การบำเพ็ญธรรม จึงเริ่มปลูกต้นไม้แห่งศรัทธาลง ณ. ช่องเขาแห่งนี้

ขณะที่หลวงพ่อจำศีลปฏิบัติธรรมอยู่นั้น ที่วัดช่องแคมีพระภิกษุจำพรรษาอยู่แล้ว 2 รูป แต่ยังไม่มีเจ้าอาวาส ภายในวัดยังไม่มีเสนาสนะใดๆ บริเวณวัดรกร้าง

ต่อมาชาวบ้านในแถวนั้นซึ่งมีความนับถือเลื่อมใสหลวงพ่อได้นิมนต์ให้หลวงพ่อลงมาจำพรรษาข้างล่าง คือวัดช่องแคในปัจจุบัน หลวงพ่อพรหมจึงเป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดช่องแค โดยที่ชาวบ้านได้ร่วมกันบริจาคที่ดินเพิ่มขึ้น หลวงพ่อพรหมได้เริ่มต้นสร้างวัดจากวัดที่รกร้างไม่มีเสนาสนะใดๆ เมื่อปี 2460 มาเป็นวัดที่มีกุฏิ ศาลาการเปรียญ โรงครัว ซึ่งส่วนหนึ่งของทรัพย์สินมาจากการขายสมบัติส่วนตัวและมรดกของหลวงพ่อเอง ต่อมาเมื่อทางวัดจะสร้างโบสถ์ ซึ่งต้องใช้ทุนทรัพย์สูง คณะกรรมการของวัดจึงขอ อนุญาติหลวงพ่อสร้างวัตถุมงคลขึ้น

หลวงพ่อพรหม ชอบระฆัง การสร้างวัตถุมงคลของหลวงพ่อจึงมีรูประฆังและกลายเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของหลวงพ่อพรหม

หลวงพ่อพรหมไม่เคยย้ายไปอยู่วัดใดเลยตลอดระยะเวลา 58 ปี โดยที่หลวงพ่อได้ลาออกจากเจ้าอาวาสเมื่อปี 2514 รวมเวลาที่เป็นเจ้าอาวาสวัดช่องแค 54 ปี เพื่อให้พระปลัดแบงค์ ธมมวโร เป็นเจ้าอาวาสสืบแทน หลวงพ่อพรหม มรณภาพเมื่อวันที่ 30 มกราคม พ.ศ.2518 เมื่อเวลา 15.00 น. ณ.โรงพยาบาลบ้านหมี่ จ.ลพบุรี รวมอายุได้ 91 ปี 71 พรรษา

หลังจากหลวงพ่อพรหม มรณภาพแล้ว คณะกรรมการวัดได้บรรจุศพของท่านไว้ในโลงแก้ว อยู่บนศาลาการเปรียญ ศพของหลวงพ่อพรหมไม่เน่าเปื่อย มด ไร มอด และ แมลง ไม่ได้รบกวนทำลายชิ้นส่วนใดๆในร่างกายของท่านแม้แต่น้อย คล้ายกับหลวงพ่อนอนหลับอยู่ แม้ว่าท่านจะมรณภาพมาแล้วถึง 30กว่าปี

สิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นคือ หลังจากหลวงพ่อได้มรณภาพแล้วศพของหลวงพ่อไม่เน่าเปื่อย แถม

1.เส้นผมงอกยาว 5-6 มม.

2.เส้นขนคิ้วงอกยาว 5-6 มม.

3.เส้นขนตางอกยาว 1 ซม.

4.หนวดงอกยาว 5-6 มม.

5.เคราใต้คางยาว 5-6 มม.

6.เล็บมืองอกยาว 1 ซม.

7.เล็บเท้างอกยาว 4-5 มม.

หลวงพ่อพรหม มีวิธีการปลุกเสกวัตถุมงคลไม่เหมือนใคร ส่วนใหญ่หลวงพ่อจะปลุกเสกในบาตร ถ้ามีเทียนชัยจะจุดเทียนชัยหยดน้ำตาเทียนลงในบาตรน้ำมนต์แล้วนำเทียนชัยวนรอบๆ 9 รอบ แล้วจึงนำดินสอพองมาเจิมที่วัตถุมงคล เอามือคนไปรอบๆโดยที่หลวงพ่อลืมตาเพ่งกระแสจิตอัดพลังแล้วจึงนำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมวัตถุมงคลทั้งหลายแล้วหลวงพ่อจับบาตรใส่วัตถุมงคล เพ่ง กระแสจิตอีกครั้งจนกระทั่งวัตถุมงคลเหล่านั้น มีรังสีพุ่งออกมา จึงนำน้ำพระพุทธมนต์ประพรมอีกครั้งเป็นเสจ็รพิธี

ดังนั้นเราจะสังเกตุได้ว่าพระเนื้อผงของหลวงพ่อจะมีรอยบิ่น เล็กบ้าง ใหญ่บ้าง เพราะเกิดจากหลวงพ่อเอามือคนในบาตร

ดังนั้นพระที่มีรอยบิ่นจึงสันนิษฐานได้ว่า ได้สัมผัสกับมือหลวงพ่อโดยตรง.

 

เผยแผ่ประวัติ โดย อิทธิปาฏิหาริย์ พระเครื่อง

http://www.itti-patihan.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ว๊าวๆๆๆๆ หลวงพ่อพรหม สวยๆทุกเหรียญเลยครับ ผมมีแต่องค์เล็กๆ น่าจะเป็นรุ่น สช.(ย่อจากคำว่าอะไรก็ไม่รู้ครับ)

 

แต่พระจากพิษณุโลก พระเนื้อดินดูไม่เป็นครับ แต่ที่แน่ๆพิมพ์สวยชัดเจนมากครับ ตะก่อน(ประมาณปี 2533)มีกรุวังมะสะแตกออกมาหลายพิมพ์ บ้างก็ว่าแท้ บ้างก็ว่าเกจิฝากกรุ :lol: :ph34r:

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อูยยยยย เหรียญพ่อ พรมห สวยคอด ๆ ของท่านผมมีเก็บแค่ สช สั้นเอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ว๊าวๆๆๆๆ หลวงพ่อพรหม สวยๆทุกเหรียญเลยครับ ผมมีแต่องค์เล็กๆ น่าจะเป็นรุ่น สช.(ย่อจากคำว่าอะไรก็ไม่รู้ครับ)

 

แต่พระจากพิษณุโลก พระเนื้อดินดูไม่เป็นครับ แต่ที่แน่ๆพิมพ์สวยชัดเจนมากครับ ตะก่อน(ประมาณปี 2533)มีกรุวังมะสะแตกออกมาหลายพิมพ์ บ้างก็ว่าแท้ บ้างก็ว่าเกจิฝากกรุ :lol: :ph34r:

เท่าที่ดูองค์ของผม..

ก็ค่อนข้างมีอายุครับ รารักขึ้นเยอะทางด้านหลัง ผิวนอกของเนื้อพบมวลสารกระจายอยู่ทั่วองค์ ผิวพระความร่วนฟูผุและมีเม็ดผดขึ้นจนเห็นได้ชัด (ต้องส่องกับกล้องครับ ภาษาเซียนเค้าว่าส่องมันส์)

แต่อายุไม่แน่ใจว่าจะถึงยุคสุโขทัยมั๊ย

สรุปว่าเนื้อของพระกรุนี้จะไม่แกร่งและจะต้องมีรารักขึ้นไม่มากก็น้อย

ผมได้มาถูกครับ ชิวๆ คิดซะว่าได้ของเก่ามาก็พอใจแล้ว พระเก่าความบริสุทธิ์มีมากกว่าพระใหม่เยอะครับ

^_^

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...