ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
moddang

ข้อคิดคำคม - เกร็ดความรู้

โพสต์แนะนำ

สิ่งดีๆ อ่านได้ อ่านดี

__fwdDer.com__-131045069-ATT103059.gif

คนหลายคนกินน้ำบ่อเดียวกัน เที่ยวทางเดียวกัน แต่ไม่เหยียบรอยกัน

คำสอน พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส

 

 

__fwdDer.com__-131045065-ATT103047.jpg

 

__fwdDer.com__-131045050-ATT103048.jpg

 

__fwdDer.com__-131045061-ATT103049.jpg

 

__fwdDer.com__-131045070-ATT103051.jpg

 

__fwdDer.com__-131045056-ATT103052.jpg

 

 

ชีวิตของคนเราทุกคนเหมือนเดินทางกลางป่ากลางเขา น้อยคนที่จะสบายเหมือนเดินอยู่บนถนนหลวงทางเดินในชีวิตส่วนใหญ่มักจะขรุขระมีหลุมมีบ่อ และพงหนาม มีทั้งขึ้นเขา เข้าถ้ำและลงห้วย ผลัดเปลี่ยนกันไป มีความลำบากมากบ้างน้อยบ้างสุขบ้างทุกข์บ้างสลับกันไป ในแต่ละวัน

 

 

ชีวิตของเรานั้น นอกจากจะเดินทางลำบากแล้วยังต้องเดินทางอย่างโดดเดี่ยวอีกด้วยที่เป็นอย่าง นี้ก็เพราะ ชีวิตคือการเดินทางคนเดียวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วเรียกว่าเราเกิดมาตามกรรมของเราเอง อยู่ใช้กรรมเก่าและสร้างกรรมใหม่แล้วก็ตายไปตามกรรมของเราเองเป็นไปอย่างนี้ ไม่ว่าจะเกิดมากี่ครั้งหรือว่าตายไปกี่หนก็ตาม

การที่เราทุกคนกลัวความเหงานั้นอาจจะต้องเข้าใจเสียใหม่ว่า อันที่จริงแล้วความเหงานั่นแหละคือชีวิตที่แท้จริงของเรานั่นเองเพราะไม่ว่าพ่อแม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อนฝูง สามีภรรยา และลูก ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทางแต่ก็เป็นเพื่อนร่วมทางที่ไม่ถาวรเพราะความ สัมพันธ์กับคนใกล้ชิดนั้นล้วนเป็นสิ่งสมมุติทั้งนั้นสมมุติเป็นพ่อแม่พี่ น้องกันและบทบาทที่แสดงต่อกันด้วยความผูกพันและหน้าที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปใน ช่วงชีวิตหนึ่งเท่านั้นเรามาคนเดียวแล้วเราก็ไปคนเดียว จะไปทีเดียวกันหลายๆ คนไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นลูก เป็นสามี เป็นภรรยาพ่อแม่พี่น้องก็ไม่มีใครสักคนที่ตามเราไปได้

 

ต่างคนต่างมาต่างคนต่างไป ต่างคนต่างเกิด เป็นอย่างนี้ไม่มีอะไรสักอย่างที่จะเอาไปได้แม้แต่เงินบาทเดียวต้องปล่อย ทิ้งไว้ทั้งหมดไม่ว่าอะไร ไม่มีอะไรเป็นที่ยึดถือ เรือกสวนไร่นาตึกรามบ้านช่อง ก่อนที่เราจะเกิดเขาก็มีอยู่อย่างนี้ชายหญิงเขาก็มีกันอยู่อย่างนี้ตอนเรา เกิดก็มีอยู่อย่างนี้เราตายไปแล้วมันก็มีอยู่อย่างนี้เพราะฉะนั้นเราจะกลัว ความเหงากันไปทำไมทั้ง ๆ ที่ชีวิตคือการเดินทางคนเดียวอยู่แล้ว

คนที่อยู่คนเดียวไม่ได้ต้องหาเพื่อนแก้เหงาตลอดเวลา หรืออยู่ไม่ได้ถ้าขาดคนอื่นคนนั้นคือ..ผู้หลงทาง เพราะหารู้ไม่ว่ายิ่งเราอยู่ในวงล้อมของคนอื่นมากเท่าไรเราจะยิ่งค้นหาตัวเองไม่เจอเท่านั้น เพราะเรามักจะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นตลอดเวลาคอยแต่จะดูว่าคนนั้นดี..คนนี้ ชั่ว..คนนั้นถูก..คนนี้ผิด...นั่นเรามองเห็นแต่คนอื่นเรามองออกไปข้างนอก มองรอบตัวแต่เราไม่เคยมองเห็นตัวของเราเองเลยนี่คือเราไม่รู้จักตัวเองดีพอ

 

ผู้ฉลาดย่อมเห็นคุณค่าของการอยู่คนเดียวผู้มีปัญญาย่อมจะแสวงหาความวิเวก แสวงหาความสงบเพื่อทำความรู้จักกับตัวเอง รู้ใจตัวเอง เมื่อใจไม่วุ่นวาย ใจเกิดความสงบ ใจเกิดความสว่างเย็นแล้วเราก็จะเป็นสุข เราต้องดำเนินชีวิตด้วยตัวของเราเอง เลือกดีเลือกชั่วด้วยตัวของเราเอง จะถูกทางหรือหลงทางก็ด้วยปัญญาของเราเอง เหมือนดังที่พูดกันว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนหมายถึงพุทธศาสนาเป็นเพียงแผนที่บอกทางให้เท่านั้น ส่วนการเลือกเส้นทางเดินไปทางไหนอย่างไร ก็อยู่ที่ตัวเราคนเดียว

เมื่อรู้ว่าต้องเดินทางคนเดียวก็อย่าทำตัวเป็นคนเห็นแก่ตัว ให้รู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น ทำกรรมดี อยู่ในศีลในธรรม นั่นเป็นหนทางที่จะไปสู่จุดหมายปลายทางของการหลุดพ้นได้เร็วขึ้น เมื่อเราเกิดเป็นมนุษย์แล้วก็เท่ากับว่าเราโชคดีแล้ว และได้มาอยู่ในเส้นทางที่มีปลายทาง ที่มีทั้งแสงสว่างและความมืดมัวให้เราเลือก คราวนี้อยู่ที่ตัวของเราเองว่า จะเดินทางช้า เดินทางเร็ว หรือจะเดินหลงทางเท่านั้น

 

ชีวิตคนเรานั้นแท้จริงแล้วก็คือการเดินทาง และยังคงเป็นการเดินทางเรื่อยไปอยู่นั่นเอง ก็ย่อมมีความระหกระเหินบอบช้ำเป็นธรรมดา ชีวิตที่ต้องการเดินทางไปสู่นิพพาน หรือการดับทุกข์ขั้นเด็ดขาดนี้ จะถึงช้าหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับปัญญาของแต่ละคน แต่การเดินทางนี้ ไม่ใช่เดินด้วยร่างกาย เพราะนิพพานไม่ใช่สถานที่ หากแต่ว่า เป็นภาวะอันบรมสุขของจิตใจ การเดินทางนี้จึงเป็นการเดินทางของจิตใจ จากสภาพที่มัวหมอง ไปสู่ความสะอาดสดใสที่ไม่มีกิเลส ตัวเราเองเดินทางทุกวัน เดินทางด้วยพาหนะชั้นดี มีเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย พาให้เราไปสู่จุดหมายนับร้อยนับพันแห่ง แต่ใจของเราเดินทางด้วยหรือเปล่า ความสวยงามของโลก อาจจะทำให้ใจของเรา ซัดส่ายไปมา ซ้ำซากวนเวียนอยู่กับสุขเดิม ๆ ทุกข์เดิม ๆ อยู่นั่นแหละ ไม ่เคยแสวงหาสภาวะที่สุขจริง สุขแท้กว่านั้นเลย ชีวิตของเราชาติหนึ่ง ๆ ก็จบสิ้นไปโดยไม่ได้พัฒนา ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร เป็นการเสียชาติเกิด เสียเวลาเปล่าๆ

 

__fwdDer.com__-131045069-ATT103059.gif

สาธุ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สิ่งดีๆ อ่านได้ อ่านดี

__fwdDer.com__-131045069-ATT103059.gif

คนหลายคนกินน้ำบ่อเดียวกัน เที่ยวทางเดียวกัน แต่ไม่เหยียบรอยกัน

คำสอน พระอาจารย์อำนาจ โอภาโส

 

 

__fwdDer.com__-131045065-ATT103047.jpg

 

__fwdDer.com__-131045050-ATT103048.jpg

 

__fwdDer.com__-131045061-ATT103049.jpg

 

__fwdDer.com__-131045070-ATT103051.jpg

 

__fwdDer.com__-131045056-ATT103052.jpg

 

 

ชีวิตของคนเราทุกคนเหมือนเดินทางกลางป่ากลางเขา น้อยคนที่จะสบายเหมือนเดินอยู่บนถนนหลวงทางเดินในชีวิตส่วนใหญ่มักจะขรุขระมีหลุมมีบ่อ และพงหนาม มีทั้งขึ้นเขา เข้าถ้ำและลงห้วย ผลัดเปลี่ยนกันไป มีความลำบากมากบ้างน้อยบ้างสุขบ้างทุกข์บ้างสลับกันไป ในแต่ละวัน

 

 

ชีวิตของเรานั้น นอกจากจะเดินทางลำบากแล้วยังต้องเดินทางอย่างโดดเดี่ยวอีกด้วยที่เป็นอย่าง นี้ก็เพราะ ชีวิตคือการเดินทางคนเดียวมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้วเรียกว่าเราเกิดมาตามกรรมของเราเอง อยู่ใช้กรรมเก่าและสร้างกรรมใหม่แล้วก็ตายไปตามกรรมของเราเองเป็นไปอย่างนี้ ไม่ว่าจะเกิดมากี่ครั้งหรือว่าตายไปกี่หนก็ตาม

การที่เราทุกคนกลัวความเหงานั้นอาจจะต้องเข้าใจเสียใหม่ว่า อันที่จริงแล้วความเหงานั่นแหละคือชีวิตที่แท้จริงของเรานั่นเองเพราะไม่ว่าพ่อแม่ พี่น้อง ญาติ เพื่อนฝูง สามีภรรยา และลูก ถึงแม้ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมทางแต่ก็เป็นเพื่อนร่วมทางที่ไม่ถาวรเพราะความ สัมพันธ์กับคนใกล้ชิดนั้นล้วนเป็นสิ่งสมมุติทั้งนั้นสมมุติเป็นพ่อแม่พี่ น้องกันและบทบาทที่แสดงต่อกันด้วยความผูกพันและหน้าที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปใน ช่วงชีวิตหนึ่งเท่านั้นเรามาคนเดียวแล้วเราก็ไปคนเดียว จะไปทีเดียวกันหลายๆ คนไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นลูก เป็นสามี เป็นภรรยาพ่อแม่พี่น้องก็ไม่มีใครสักคนที่ตามเราไปได้

 

ต่างคนต่างมาต่างคนต่างไป ต่างคนต่างเกิด เป็นอย่างนี้ไม่มีอะไรสักอย่างที่จะเอาไปได้แม้แต่เงินบาทเดียวต้องปล่อย ทิ้งไว้ทั้งหมดไม่ว่าอะไร ไม่มีอะไรเป็นที่ยึดถือ เรือกสวนไร่นาตึกรามบ้านช่อง ก่อนที่เราจะเกิดเขาก็มีอยู่อย่างนี้ชายหญิงเขาก็มีกันอยู่อย่างนี้ตอนเรา เกิดก็มีอยู่อย่างนี้เราตายไปแล้วมันก็มีอยู่อย่างนี้เพราะฉะนั้นเราจะกลัว ความเหงากันไปทำไมทั้ง ๆ ที่ชีวิตคือการเดินทางคนเดียวอยู่แล้ว

คนที่อยู่คนเดียวไม่ได้ต้องหาเพื่อนแก้เหงาตลอดเวลา หรืออยู่ไม่ได้ถ้าขาดคนอื่นคนนั้นคือ..ผู้หลงทาง เพราะหารู้ไม่ว่ายิ่งเราอยู่ในวงล้อมของคนอื่นมากเท่าไรเราจะยิ่งค้นหาตัวเองไม่เจอเท่านั้น เพราะเรามักจะยุ่งกับเรื่องของคนอื่นตลอดเวลาคอยแต่จะดูว่าคนนั้นดี..คนนี้ ชั่ว..คนนั้นถูก..คนนี้ผิด...นั่นเรามองเห็นแต่คนอื่นเรามองออกไปข้างนอก มองรอบตัวแต่เราไม่เคยมองเห็นตัวของเราเองเลยนี่คือเราไม่รู้จักตัวเองดีพอ

 

ผู้ฉลาดย่อมเห็นคุณค่าของการอยู่คนเดียวผู้มีปัญญาย่อมจะแสวงหาความวิเวก แสวงหาความสงบเพื่อทำความรู้จักกับตัวเอง รู้ใจตัวเอง เมื่อใจไม่วุ่นวาย ใจเกิดความสงบ ใจเกิดความสว่างเย็นแล้วเราก็จะเป็นสุข เราต้องดำเนินชีวิตด้วยตัวของเราเอง เลือกดีเลือกชั่วด้วยตัวของเราเอง จะถูกทางหรือหลงทางก็ด้วยปัญญาของเราเอง เหมือนดังที่พูดกันว่าตนเป็นที่พึ่งแห่งตนหมายถึงพุทธศาสนาเป็นเพียงแผนที่บอกทางให้เท่านั้น ส่วนการเลือกเส้นทางเดินไปทางไหนอย่างไร ก็อยู่ที่ตัวเราคนเดียว

เมื่อรู้ว่าต้องเดินทางคนเดียวก็อย่าทำตัวเป็นคนเห็นแก่ตัว ให้รู้จักช่วยเหลือเกื้อกูลผู้อื่น ทำกรรมดี อยู่ในศีลในธรรม นั่นเป็นหนทางที่จะไปสู่จุดหมายปลายทางของการหลุดพ้นได้เร็วขึ้น เมื่อเราเกิดเป็นมนุษย์แล้วก็เท่ากับว่าเราโชคดีแล้ว และได้มาอยู่ในเส้นทางที่มีปลายทาง ที่มีทั้งแสงสว่างและความมืดมัวให้เราเลือก คราวนี้อยู่ที่ตัวของเราเองว่า จะเดินทางช้า เดินทางเร็ว หรือจะเดินหลงทางเท่านั้น

 

ชีวิตคนเรานั้นแท้จริงแล้วก็คือการเดินทาง และยังคงเป็นการเดินทางเรื่อยไปอยู่นั่นเอง ก็ย่อมมีความระหกระเหินบอบช้ำเป็นธรรมดา ชีวิตที่ต้องการเดินทางไปสู่นิพพาน หรือการดับทุกข์ขั้นเด็ดขาดนี้ จะถึงช้าหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับปัญญาของแต่ละคน แต่การเดินทางนี้ ไม่ใช่เดินด้วยร่างกาย เพราะนิพพานไม่ใช่สถานที่ หากแต่ว่า เป็นภาวะอันบรมสุขของจิตใจ การเดินทางนี้จึงเป็นการเดินทางของจิตใจ จากสภาพที่มัวหมอง ไปสู่ความสะอาดสดใสที่ไม่มีกิเลส ตัวเราเองเดินทางทุกวัน เดินทางด้วยพาหนะชั้นดี มีเครื่องปรับอากาศเย็นสบาย พาให้เราไปสู่จุดหมายนับร้อยนับพันแห่ง แต่ใจของเราเดินทางด้วยหรือเปล่า ความสวยงามของโลก อาจจะทำให้ใจของเรา ซัดส่ายไปมา ซ้ำซากวนเวียนอยู่กับสุขเดิม ๆ ทุกข์เดิม ๆ อยู่นั่นแหละ ไม ่เคยแสวงหาสภาวะที่สุขจริง สุขแท้กว่านั้นเลย ชีวิตของเราชาติหนึ่ง ๆ ก็จบสิ้นไปโดยไม่ได้พัฒนา ไม่มีอะไรเป็นแก่นสาร เป็นการเสียชาติเกิด เสียเวลาเปล่าๆ

 

__fwdDer.com__-131045069-ATT103059.gif

 

สัพพทานัง ธัมมะทานัง ชิเนติ การให้ธรรมะทาน ชนะการให้ทั้งมวล

 

ผู้ฉลาดย่อมเห็นคุณค่าของการอยู่คนเดียว ผู้มีปัญญาย่อมจะแสวงหาความวิเวก แสวงหาความสงบเพื่อทำความรู้จักกับตัวเอง

 

ประโยคนี้ของท่าน ถ้าเข้าใจลึกซึ้ง จะอยู่ที่ไหน จะอยู่อย่างไร ก็ไม่เป็นทุกข์

 

ขอบคุณค่ะ คุณมดแดง ปุณณ์เริ่มก้าวมาตามทางที่ท่านสอนแล้ว ขอกุศลจากธรรมทานนี้คุ้มครองคุณมดแดงให้มีความสุขกายสุขใจนะคะ

ถูกแก้ไข โดย ปุณณ์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ต้นไม้บนโต๊ะทำงาน

 

457.jpg

 

ทำงานกันหนัก ๆ ต้องใช้สายตาอยู่กับคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา เรามาหาวิธีพักสายตา พร้อมไปกับการคลายเตรียด ด้วยการหาต้นไม้น่ารัก ๆ มาไว้บนโต๊ะทำงานกันดีกว่า นอกจากจะเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานให้สดชื่นแล้ว ต้นไม้ที่เหมาะสมยังช่วยสร้างออกซิเจนที่ดีต่อสมอง ดูดสารพิษอันตรายที่เกิดจากอุปกรณ์ต่าง ๆ บนโต๊ะทำงาน อีกด้วย

 

สับปะรดสี

 

ไม้ประดับสวยงาม ต้องการเพียงแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า แนะนำให้วางตามมุมที่มีแสงผ่าน อาจออกดอกให้ได้ลุ้น

 

ซุ้มกระต่าย

dracaena-deremensis.jpg

 

มีดอก สีขาวเป็นช่อ ช่วยสร้างความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เหมาะเลี้ยงไว้เพื่อพักสายตาสำหรับคนที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มีสีเขียวสลับสีอ่อน เช่น สีขาว สีเหลือง จะช่วยทำให้ห้องสว่างขึ้น

 

หน้าวัว

 

แนะนำสำหรับใครที่เครียดจากการทำงานมากๆ นอกจากใบสวยแล้วยังมีดอกสีสันสดใส ออกดอกมากสุดถึง 10 ดอก เป็นไม้ดอกที่เติบโตได้ดีในที่ที่มีแสงรำไรและในที่ร่ม ยิ่งปลูกในที่อากาศเย็น ดอกจะยิ่งโต สีจะยิ่งสด

 

Aglaonema

 

เหมาะสำหรับคนจ็อบเยอะ งานยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลาเพราะเป็นต้นไม้ที่อยู่ในร่มได้นานที่สุด ทน ทานต่ออากาศแห้งแล้งหรือความชื้นต่ำ อยู่ได้เป็นเดือนแม้จะไม่ได้รดน้ำหรือโดนแดด แนะนำให้วางตามมุมห้องประชุม หรือประตูทางเข้า เพื่อความสวยงาม

 

กระบองเพชร

 

แค่วางใกล้ๆ คอมพิวเตอร์ก็อุ่นใจว่าจะช่วยดูดซับรังสีจากหน้าจอไม่ให้ทำร้ายคุณได้ แถมดูแลง่าย ราคาถูกด้วย

 

หนวดปลาดุกแคระ

 

ไม้ ประดับสุดฮิตต้นเตี้ยๆ โตช้า เหมาะมากสำหรับออฟฟิศหรือโต๊ะทำงานพื้นที่จำกัด เลี้ยงได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ดูแลง่ายแค่รดน้ำวันเว้นวันเท่านั้น

 

ออมทอง

 

แค่ชื่อก็ฟังดูดีคนไทยโบราณเชื่อว่า ใครปลูกไว้จะทำให้มีเงินมีทอง เลี้ยงได้ทั้งในน้ำและดิน ถ้า ปลูกในออฟฟิศขอแนะนำให้ปลูกในน้ำ เพราะจะโตช้ากว่า ที่สำคัญต้องหมั่นดูราก ถ้าเริ่มมีสีดำให้นำไปล้าง เปลี่ยนน้ำเดือนละครั้ง แล้วรากจะขึ้นใหม่

 

เฟิร์นเงิน

 

เหมาะ สำหรับโต๊ะทำงานที่อยู่มุมอับ มีแสงสว่างน้อย คุณสมบัติช่วยลดอุณหภูมิความร้อนจากภายนอก และเติบโตได้ดีในห้องที่อากาศเย็นฉ่ำ ปลูกง่ายๆ แค่หมั่นพรมน้ำที่ใบทุกวัน และรดน้ำตรงโคนประมาณครึ่งแก้ว แค่วันเว้นวัน และควรนำออกแดดประมาณ 3 วันครั้ง

 

ลิ้นมังกรแคระ

 

ช่วยเพิ่มออกซิเจนในอากาศ และดูดสารพิษในอาคารได้ดี ดูแลง่าย อยู่ได้ 6-7 เดือน โดยไม่ต้องรดน้ำ เป็นไม้โตช้า อยู่คู่กับโต๊ะทำงานได้นาน จนกว่าจะเบื่อกันไปข้างหนึ่ง

 

บอนสีพญาเศวต

 

เจ้าของฉายาราชินีแห่งไม้ใบ อยู่ได้แม้ในออฟฟิศที่มีแสงสว่างน้อย หรือที่มีแสงนีออน แต่ต้องระวังรดน้ำเฉพาะโคนต้น ห้ามโดนใบเด็ดขาด มิฉะนั้นใบอาจร่วงหรือเน่าได้ ควรนำออกไปรับแดดบ้าง

:D :D :D :o :D

bromeliad.JPGbromeliad2.jpg

 

ที่มา : Forwardmail

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

6 วิธีลดน้ำหนักอย่างได้ผล 100%

 

FA9F4_eat.jpg

 

1. ดู ซิว่าสิ่งที่เรากินในแต่ละมื้อคืออะไร กินโปรตีนและไฟเบอร์ให้เพิ่มขึ้น ไฟเบอร์ช่วยให้ร่างกายของเราไม่มีไขมันสะสมและมีสุขภาพดี ในขณะที่โปรตีนจะช่วยให้ผลของการออกกำลังกายของดียิ่งขึ้น และคงจะเป็นไปไม่ได้หาก เรายังกินมากเกินไปอย่างไม่เลือกประเภทอาหารแล้วอยากจะให้น้ำหนักลด

jump20animated.gif

2. กระโดด เชือก 3 ถึง 4 ครั้งต่อสัปดาห์ เพราะเป็นการออกกำลังกายลดต้นขาที่ดีเยี่ยมและทำให้ร่างกายสามารถละลายไขมัน ได้ดีอีกด้วย เริ่มต้นด้วยการเหวี่ยงเชือกไปข้างหน้าและกระโดดสลับขาโดยใช้จังหวะการ กระโดดเบา ๆ งอเข่าเล็กน้อยเพื่อให้ผลกระทบกับเข่าให้น้อยที่สุด

 

jogging_man.jpg

 

3. การออกกำลังกายโดยการขี่จักรยาน, ว่ายน้ำ, วิ่ง เหยาะๆ เดินเร็วหรือการออกกำลังกายแอโรบิกเป็นการออกกำลังการที่สามารถเผาผลาญไขมัน ได้อย่างยอดเยี่ยม อาจเลือกออกกำลังอย่างใดอย่างหนึ่งสลับกันไป 3 ถึง 4 ครั้งต่อสัปดาห์ เริ่มต้นด้วยการวิ่งจ๊อกกิ้งประมาณ 30 วินาทีต่อวัน หากไม่มีเวลาพอที่จะไปออกกำลังล่ะก็ลองเดินเร็ว เมื่อต้องเดินไปไหนมาไหนดูซิ มันช่วยเผาผลาญพลังงานได้ดีเชียวล่ะ

 

Dumbbells-Exercise.jpg

 

4. หา ดัมเบลมายกระหว่างที่ดูทีวีอยู่ที่บ้าน เลือกดัมเบลที่เหมาะกับน้ำหนักตัวคุณ ลองยกดูก่อนจะเลือกซื้อ จะต้องไม่หนักจนเกินไปและไม่เบาจนเกินไปจนรู้สึกว่าไม่ได้ยกอะไรเลย ยกทั้งสองข้างวันละประมาณ 30 ครั้ง เพื่อให้กล้ามเนื้อแขนแข็งแรงขึ้น และท้องแขนไม่หย่อยยานกระชับน่ามองมากยิ่งขึ้น การนั่งดูทีวีเฉยๆ ทำให้เราสามารถเผาผลาญไขมันส่วนเกินได้ วางดัมเบลไว้ใกล้ๆมือ เพื่อที่เราจะได้ไม่ลืมยกและมองเห็นมันง่ายๆ

 

Dumbbells-Exercise.jpg

 

5. พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงต่อ วันหรือมากกว่านั้น เพราะการนอนเป็นการเผาผลาญพลังงานที่ดีอีกอย่างหนึ่ง การพักผ่อนอย่างเพียงพอยังช่วยให้ระบบภายในร่างกายมีความสมดุล และมีจิตใจสดใสเบิกบานอีกด้วย

 

double-leg-raise-step3.gif

 

6. นอนราบลงกับพื้น แล้วยกขาขึ้นจากพื้นประมาณ 1-2 ฟุต แล้วลดขาลงช้าๆ โดยที่ไม่ให้เท้าแตะพื้น หายใจออกขณะลดเท้าลง หายใจเข้าเมื่อยกเท้าขึ้น ช้าๆ ทำแบบนี้ซ้ำอีกประมาณ 10 ครั้งและวางเท้าลงเพื่อผ่อนคลาย จากนั้นทำอีก 2 เซท เซทละ 10 ครั้ง

 

 

http://www.dek-d.com/content/lifestyle/23528/6-%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%98%E0%B8%B5%E0%B8%A5%E0%B8%94%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%84%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%9C%E0%B8%A5-100.php

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หลอดฉลาด เปิด-ปิดอัตโนมัติ

 

 

 

 

SensorLight.jpg

 

 

ไปเจอเจ้าหลอดฉลาดนี่เข้าโดยบังเอิญ มันก็คือหลอด CFL ประหยัดพลังงานนี่แหละ แต่มีเซนเซอร์แสงในตัว แค่หมุนหลอดเข้ากับโคมปกติแล้วเปิดสวิตช์ไฟทิ้งไว้ได้เลย ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม ไฟจะติดเองเมื่อฟ้ามืดและดับเมื่อฟ้าสว่าง สะดวก เหมาะกับระเบียงนอกบ้านหรือโคมไฟเอาท์ดอร์ที่ต้องการแสงสว่างยามค่ำคืนเพื่อ ความปลอดภัย

 

 

ทดลองใช้ 1 หลอด ถึงจะแพงไปหน่อยแต่ก็ถูกใจ เพราะสะดวกมาก ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมปิดสวิตช์ตอนเช้าๆ

 

 

ข้อมูลเทคนิก

 

* กำลังไฟ 15W สว่างเทียบเท่าหลอดไส้ 75W

* อายุการใช้งาน 15,000 ชั่วโมง

* เทคโนโลยี Ingenium ถนอมหลอด ช่วยประหยัดไฟ เปิด/ปิด หลอดได้กว่า 600,000 ครั้ง

* หลอดหุ้มซิลิโคน ป้องกันหลอดแก้วแตก เพิ่มความปลอดภัย

* ผ่านมาตรฐาน RoHS (EU Green Policy Compliant) หลอดแก้วปราศจากสารปรอท และ ตะกั่ว

* ราคาขายในไทย 550 บาท!!!

* ควรใช้กับโคมกระจกใสๆ เน้นให้จุดสีแดง (ตัวเซนเซอร์) หันไปทางแสงอาทิตย์

 

 

http://www.green.in.th/blog/discovery/1894

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

หลอดฉลาด เปิด-ปิดอัตโนมัติ

 

 

 

 

SensorLight.jpg

 

 

ไปเจอเจ้าหลอดฉลาดนี่เข้าโดยบังเอิญ มันก็คือหลอด CFL ประหยัดพลังงานนี่แหละ แต่มีเซนเซอร์แสงในตัว แค่หมุนหลอดเข้ากับโคมปกติแล้วเปิดสวิตช์ไฟทิ้งไว้ได้เลย ไม่ต้องทำอะไรเพิ่ม ไฟจะติดเองเมื่อฟ้ามืดและดับเมื่อฟ้าสว่าง สะดวก เหมาะกับระเบียงนอกบ้านหรือโคมไฟเอาท์ดอร์ที่ต้องการแสงสว่างยามค่ำคืนเพื่อ ความปลอดภัย

 

 

ทดลองใช้ 1 หลอด ถึงจะแพงไปหน่อยแต่ก็ถูกใจ เพราะสะดวกมาก ไม่ต้องกังวลว่าจะลืมปิดสวิตช์ตอนเช้าๆ

 

 

ข้อมูลเทคนิก

 

* กำลังไฟ 15W สว่างเทียบเท่าหลอดไส้ 75W

* อายุการใช้งาน 15,000 ชั่วโมง

* เทคโนโลยี Ingenium ถนอมหลอด ช่วยประหยัดไฟ เปิด/ปิด หลอดได้กว่า 600,000 ครั้ง

* หลอดหุ้มซิลิโคน ป้องกันหลอดแก้วแตก เพิ่มความปลอดภัย

* ผ่านมาตรฐาน RoHS (EU Green Policy Compliant) หลอดแก้วปราศจากสารปรอท และ ตะกั่ว

* ราคาขายในไทย 550 บาท!!!

* ควรใช้กับโคมกระจกใสๆ เน้นให้จุดสีแดง (ตัวเซนเซอร์) หันไปทางแสงอาทิตย์

 

 

http://www.green.in..../discovery/1894

หลอดละ 550บาท สำหรับบ้านใครที่มีไฟรอบบ้านซัก 10 ดวงก็คงสาหัสพอดูครับ

ดังนั้นถ้ามีไฟกริ่งรอบบ้านมากดวงผมขอแนะนำให้ใช้ตัววัดแสงตัวเดียว(ราคาก็ราวๆนี้แหละครับ)คุมไฟกริ่งรอบๆบ้านทุกตัวเลยจะถูกกว่าครับ (แล้วใช้หลอดประหยัดไปธรรมดา)

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

15 ข้อคิดคำคม

 

 

 

จะต้องดีขึ้น

เมื่อมีอะไรเลวร้าย ขอให้คิดอย่างสบายๆว่า มันอาจจะเลวร้ายกว่านั้นอีกก็ได้

และเมื่อเป็นเช่นนั้นจริงๆ ขอให้คิดอย่างมีความหวังว่า สิ่งที่เลวร้ายนั้นจะต้องดีขึ้น"

มัลคอม เอสฟอร์บ

20090305_baby-k01e.gif

 

ยอมรับกับสิ่งที่มี

"เรามักลืมไปว่า ความสุขที่แท้จริง มิได้มาจากการที่เราได้รับสิ่งที่เรา"ไม่มี"

แต่เกิดจาก..การที่เรายอมรับและพึงพอใจกับสิ่งที่เรามีอยู่ "

เฟรดเดอริค เคียวนิค

 

 

 

พูดเพียงครึ่ง

"ควรพูดเพียงครึ่งหนึ่งของความคิด ดีกว่าคิดเพียงครึ่งหนึ่งของคำพูด"

20090305_baby-k01e.gif

 

 

โลกหมุนเร็วมาก

"ทุกวันนี้ โลกหมุนเร็วมากจนคนที่พูดว่าทำไม่ได้

ถูกก่อกวนโดยคนที่กำลังพยายามทำ"

เฮนรี่ อีเมอสัน ฟอสติก

20090305_baby-k01e.gif

 

 

นักโทษความคิด

"คนเราไม่ได้เป็นนักโทษของชะตากรรม

พวกเขาเป็นเพียงนักโทษของความคิดของเขาเอง"

โรสเวลท์

20090305_baby-k01e.gif

 

ปรับใบเรือ

"เราไม่สามารถปรับทิศทางลมได้ แต่เราสามารถปรับใบเรือได้"

 

20090305_baby-k01e.gif

 

กุญแจความสำเร็จ

"ความสำเร็จ มิได้เป็นหนทางของความสุข

ความสุขต่างหาก ที่เป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ

หากรักในสิ่งที่กำลังทำ...ความสำเร็จจะเป็นของท่าน"

"Success is not the key to happiness.

Happiness is the key to success.

If you love what you are doing.

You will be successful"

เฮอร์แมน เคน

 

20090305_baby-k03f.gif

หนังสือเล่มใหญ่

"โลกคือหนังสือเล่มใหญ่เล่มหนึ่ง ผู้ที่ไม่ออกจากบ้าน ย่อมอ่านหน้าเดียวเท่านั้น"

 

20090305_baby-k01e.gif

 

ไม่มีดีพร้อม

"กลางป่าใหญ่ ไม่มีต้นไม้ที่ตรงแนว โลกมนุษย์นี้ ไม่มีคนดีพร้อม"

 

20090305_baby-k01e.gif

 

ไม่เคยทำผิด

"คนที่ไม่เคยทำอะไรผิดเลย ตามปกติ เป็นคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย"

วิลเลียม คอนเนอร์ แม็กกี้

 

20090305_baby-k01e.gif

 

ไม่ได้เรียนรู้

"หากไม่เคยทำผิด ก็ไม่เคยได้เรียนรู้สิ่งใหม่"

"Anyone who has never made a mistake, has never tried anything new"

อัลเบิร์ต ไอสไตน์

 

 

 

การขอและการให้

"การขอที่ไม่ต้องละอายเลย คือการขอโทษ

การให้ที่ไม่ต้องออกอะไรเลย คือการให้อภัย"

 

20090305_baby-k01e.gif

 

คนฉลาด คนโง่

"คนฉลาดรู้ว่าตนไม่รู้อะไร คนโง่ คิดว่าตนรู้ทุกอย่าง"

"A wise man knows his own ignorance ;

a fool thinks he knows everything"

ภาษิตเสปน

 

 

โอกาสที่รออยู่

"ในท่ามกลางความยากลำบาก คือโอกาสที่รออยู่"

อัลเบิร์ต ไอสไตน์

 

20090305_baby-k01e.gif

 

ฝันได้ทำได้

"หากสามารถใฝ่ฝันมุ่งมั่นได้ ก็สามารถฝ่าฟันทำมันได้"

"If you can dream it, You can do it"

วอลท์ ดีสนีย์

 

 

 

จาก www.zuxzix.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

story746big1.jpg

 

 

ง่าย กับ ยาก

 

 

ง่ายที่จะ...ตัดสินความผิดพลาดของคนอื่น

ยากที่จะ...สำนึกถึงความผิดของตนเอง

 

ง่ายที่จะ...พูดโดยไม่คิด

ยากที่จะ...ไม่พูด

 

ง่ายที่จะ...ทำร้ายคนที่รักเรา

ยากที่จะ...เยียวยาบาดแผลที่เราทำไว้กับเขา

 

ง่ายที่จะ...อภัยให้คนอื่น

ยากที่จะ...ขอให้คนอื่นอภัยให้

 

ง่ายที่จะ...ตั้งกฎเกณฑ์

ยากที่จะ...ทำตามกฎนั้น

 

ง่ายที่จะ...ฝันทุกค่ำคืน

ยากที่จะ...สู้เพื่อฝันนั้น

 

ง่ายที่จะ...อวดความสำเร็จ

ยากที่จะ...ยอมรับความพ่ายแพ้อย่างมีศักดิ์ศรี

 

ง่ายที่จะ...ชื่นชมความงามของดวงจันทร์

ยากที่จะ...เห็นอีกด้านของมันที่ไม่สวยงามนัก

 

ง่ายที่จะ...สะดุดหกล้ม

ยากที่จะ...ลุกขึ้นมาใหม่

 

ง่ายที่จะ...มีความสุขในทุกวัน

ยากที่จะ...เห็นคุณค่าที่แท้จริงของความสุขนั้น

 

ง่ายที่จะ...สัญญากับใคร ๆ

ยากที่จะ...ทำตามสัญญานั้น

 

ง่ายที่จะ...บอกว่ารัก

ยากที่จะ...แสดงความรักนั้น

 

ง่ายที่จะ...วิจารณ์คนอื่น

ยากที่จะ...ปรับปรุงตนเอง

 

ง่ายที่จะ...ทำผิด

ยากที่จะ...เรียนรู้จากความผิดนั้น

 

ง่ายที่จะ...ทุกข์ทรมานเพราะสูญเสียความรัก

ยากที่จะ...รักษารักนั้นเพื่อที่จะไม่ต้องสูญเสียมันไป

 

ง่ายที่จะ...คิดที่จะปรับปรุง

ยากที่จะ...เลิกคิด แล้วทำให้มันเกิดขึ้นจริงซะที

 

ง่ายที่จะ...คิดกับคนอื่นในแง่ร้าย

ยากที่จะ...ให้โอกาส และคิดว่าเขาอาจจะไม่เป็นเช่นที่เราคิด

 

ง่ายที่จะ...รับ

ยากที่จะ...ให้

 

ง่ายที่จะ...รักษาความเป็นเพื่อนด้วยคำพูด

ยากที่จะ...ทำตามความหมายของคำว่าเพื่อน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ต้นไม้บนโต๊ะทำงาน

 

457.jpg

 

ทำงานกันหนัก ๆ ต้องใช้สายตาอยู่กับคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา เรามาหาวิธีพักสายตา พร้อมไปกับการคลายเตรียด ด้วยการหาต้นไม้น่ารัก ๆ มาไว้บนโต๊ะทำงานกันดีกว่า นอกจากจะเปลี่ยนบรรยากาศการทำงานให้สดชื่นแล้ว ต้นไม้ที่เหมาะสมยังช่วยสร้างออกซิเจนที่ดีต่อสมอง ดูดสารพิษอันตรายที่เกิดจากอุปกรณ์ต่าง ๆ บนโต๊ะทำงาน อีกด้วย

 

สับปะรดสี

 

ไม้ประดับสวยงาม ต้องการเพียงแสงแดดอ่อนๆ ยามเช้า แนะนำให้วางตามมุมที่มีแสงผ่าน อาจออกดอกให้ได้ลุ้น

 

ซุ้มกระต่าย

dracaena-deremensis.jpg

 

มีดอก สีขาวเป็นช่อ ช่วยสร้างความสดชื่น กระปรี้กระเปร่า เหมาะเลี้ยงไว้เพื่อพักสายตาสำหรับคนที่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มีสีเขียวสลับสีอ่อน เช่น สีขาว สีเหลือง จะช่วยทำให้ห้องสว่างขึ้น

 

หน้าวัว

 

แนะนำสำหรับใครที่เครียดจากการทำงานมากๆ นอกจากใบสวยแล้วยังมีดอกสีสันสดใส ออกดอกมากสุดถึง 10 ดอก เป็นไม้ดอกที่เติบโตได้ดีในที่ที่มีแสงรำไรและในที่ร่ม ยิ่งปลูกในที่อากาศเย็น ดอกจะยิ่งโต สีจะยิ่งสด

 

Aglaonema

 

เหมาะสำหรับคนจ็อบเยอะ งานยุ่ง ไม่ค่อยมีเวลาเพราะเป็นต้นไม้ที่อยู่ในร่มได้นานที่สุด ทน ทานต่ออากาศแห้งแล้งหรือความชื้นต่ำ อยู่ได้เป็นเดือนแม้จะไม่ได้รดน้ำหรือโดนแดด แนะนำให้วางตามมุมห้องประชุม หรือประตูทางเข้า เพื่อความสวยงาม

 

กระบองเพชร

 

แค่วางใกล้ๆ คอมพิวเตอร์ก็อุ่นใจว่าจะช่วยดูดซับรังสีจากหน้าจอไม่ให้ทำร้ายคุณได้ แถมดูแลง่าย ราคาถูกด้วย

 

หนวดปลาดุกแคระ

 

ไม้ ประดับสุดฮิตต้นเตี้ยๆ โตช้า เหมาะมากสำหรับออฟฟิศหรือโต๊ะทำงานพื้นที่จำกัด เลี้ยงได้ทั้งในร่มและกลางแจ้ง ดูแลง่ายแค่รดน้ำวันเว้นวันเท่านั้น

 

ออมทอง

 

แค่ชื่อก็ฟังดูดีคนไทยโบราณเชื่อว่า ใครปลูกไว้จะทำให้มีเงินมีทอง เลี้ยงได้ทั้งในน้ำและดิน ถ้า ปลูกในออฟฟิศขอแนะนำให้ปลูกในน้ำ เพราะจะโตช้ากว่า ที่สำคัญต้องหมั่นดูราก ถ้าเริ่มมีสีดำให้นำไปล้าง เปลี่ยนน้ำเดือนละครั้ง แล้วรากจะขึ้นใหม่

 

เฟิร์นเงิน

 

เหมาะ สำหรับโต๊ะทำงานที่อยู่มุมอับ มีแสงสว่างน้อย คุณสมบัติช่วยลดอุณหภูมิความร้อนจากภายนอก และเติบโตได้ดีในห้องที่อากาศเย็นฉ่ำ ปลูกง่ายๆ แค่หมั่นพรมน้ำที่ใบทุกวัน และรดน้ำตรงโคนประมาณครึ่งแก้ว แค่วันเว้นวัน และควรนำออกแดดประมาณ 3 วันครั้ง

 

ลิ้นมังกรแคระ

 

ช่วยเพิ่มออกซิเจนในอากาศ และดูดสารพิษในอาคารได้ดี ดูแลง่าย อยู่ได้ 6-7 เดือน โดยไม่ต้องรดน้ำ เป็นไม้โตช้า อยู่คู่กับโต๊ะทำงานได้นาน จนกว่าจะเบื่อกันไปข้างหนึ่ง

 

บอนสีพญาเศวต

 

เจ้าของฉายาราชินีแห่งไม้ใบ อยู่ได้แม้ในออฟฟิศที่มีแสงสว่างน้อย หรือที่มีแสงนีออน แต่ต้องระวังรดน้ำเฉพาะโคนต้น ห้ามโดนใบเด็ดขาด มิฉะนั้นใบอาจร่วงหรือเน่าได้ ควรนำออกไปรับแดดบ้าง

:D :D :D :o :D

bromeliad.JPGbromeliad2.jpg

 

ที่มา : Forwardmail

 

ชอบค่ะ !thk

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เผื่อใครจะไปเที่ยวเมืองจีนค่ะ

 

 

จีนเปิดสุขาหญิงแบบ “ยืนฉี่” อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

 

 

peeStandingUp_01.jpg

 

ภาพ สุขาหญิงแบบใหม่เพื่อสิ่งแวดล้อมของมหาวิทยาลัยส่านซีซือฟั่น เมืองซีอาน ภายในห้องสุขาติดป้ายรณรงค์ประหยัดน้ำ และแนะนำวิธีการยืนปัสสาวะแก่สาวๆ(ภาพเอเอฟพี)

เอเจนซี--มหาวิทยาลัย ชั้นนำในเมืองซีอาน มณฑลส่านซี “ส่านซีซือฟั่น” (หรือ Shanxi Normal University) เปิดสุขาหญิงอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม โดยภายในห้องสุขา ติดตั้งโถปัสสาวะไว้ที่ผนัง สำหรับให้ผู้หญิงยืนถ่ายเบา เหนือโถปัสสาวะมีป้ายเขียนข้อความรณรงค์ “มหาวิทยาลัยของเราสามารถประหยัดน้ำได้ วันละ 160 ตัน ถ้านักศึกษาหญิงแต่ละคน ยืนปัสสาวะ” พร้อมแนะนำวิธียืนปัสสาวะสำหรับผู้หญิง ด้านล่างของป้ายรณรงค์ มีตระแกรงใส่อุปกรณ์คล้ายกรวยกระดาษสำหรับรองปัสสาวะของผู้หญิงขณะยืนฉี่

 

ระหว่างโถปัสสาวะ มีผนังกั้น เพื่อป้องกันผู้หญิงเก้อเขิน (จนอาจฉี่ไม่ออก) แถมมีการออกแบบลายเส้นสีชมพู เพื่อช่วยให้ผู้หญิงมีความรู้สึกดีขณะยืนปัสสาวะ ที่สำคัญคือขจัดความรู้สึกแปลกๆแหยงๆในการปัสสาวะแบบใหม่นี้

 

ผู้สื่อข่าวสัมภาษณ์นักศึกษาในวันแรกที่มีการเปิดใช้สุขาหญิงแบบใหม่ นี้เมื่อวันอาทิตย์(26 ก.ย.) ผู้ให้สัมภาษณ์คนหนึ่งบอกว่า “รู้สึกอายๆ” บางคนบอกว่า “ไม่เห็นเข้าท่าเลย” บางคนบอกว่า “กลัวไม่สะอาด ไม่อยากใช้เลย”

 

จากการคำนวนของผู้ เชี่ยวชาญ ระบุว่า ผู้หญิงปัสสาวะแต่ละครั้ง มีน้ำปัสสาวะออกมา ราว 300 มิลลิลิตร และต้องใช้น้ำ 6 ลิตร ล้างทำความสะอาดน้ำปัสสาวะ ขณะที่ผู้ชายซึ่งโดยทั่วไปใช้โถปัสสาวะ ใช้น้ำล้างปัสสาวะ อย่างมากที่สุด 3 ลิตร

 

peeStandingUp_02.jpg

 

สุขาหญิงแบบใหม่ประหยัดน้ำ ที่มหาวิทยาลัยส่านซีซือฟั่น ตกแต่งผนังด้วยลวดลายหวานสีชมพู

เพื่อสร้างความรู้สึกที่ดีแก่ผู้หญิงขณะยืนปัสสาวะ(ภาพเอเจนซีจีน)

 

peeStandingUp_03.jpg

 

กระดาษรองน้ำปัสสาวะของผู้หญิงขณะยืนปัสสาวะ(ภาพเฟิ่งหวงเน็ต)

 

peeStandingUp_04.jpg

 

 

http://www.youtube.com/watch?v=RfL8-AgWBf0&feature=player_embedded

 

 

http://www.9engineer.com/index.php?m=news&a=show&news_id=9067

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น่าจำไปใช้เหมือนกันนะคะ เพราะการกลั้นปัสสาวะอันตราย

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น่าจำไปใช้เหมือนกันนะคะ เพราะการกลั้นปัสสาวะอันตราย

 

พัฒนาการอีกรูปแบบ ขอบคุณ สำหรับ ข่าว และ บทความดีๆ ที่นำมาให้ได้อ่านประดับความรู้ ชอบมาก

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เก็บมาฝากค่ะ....

 

คนโง่.... คนฉลาด.... คนเจ้าปัญญา...

 

 

ว่าด้วยคุณค่าแห่งธุรกิจ

คนโง่ ทำงาน เอาธุรกิจเป็นสรณะ เมื่อธุรกิจรุ่งเรืองก็รุ่งเรืองกับธุรกิจ เมื่อธุรกิจร่วงก็ร่วงหล่นกับธุรกิจ เมื่อธุรกิจสลายก็ตายไปกับธุรกิจ

คนฉลาด เอาธุรกิจเป็นพาหะ เมื่อธุรกิจดีก็ขึ้นขับขี่ขับไป เมื่อธุรกิจเสียหายก็ซ่อมแซม เมื่อธุรกิจพังทลายก็เปลี่ยนธุรกิจใหม่ ขับขี่ ซ่อมแซม และเปลี่ยนธุรกิจเรื่อยไป

คนเจ้าปัญญา เอาธุรกิจเป็นสธารณะ จัดระบบเกื้อกูลมหาชน เมื่อเกื้อกูลแล้วก็เก็บเกี่ยวเพื่อการพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ เมื่อโลกเปลี่ยนความต้องการก็เปลี่ยนการเกื้อกูล เมื่อโลกหยุดต้องการก็หยุดเกื้อกูล แต่เนื่องจากโลกไม่เคยสิ้นสุดในความต้องการเขาจึงมีงานธุรกิจเสมอตราบที่เขา ประสงค์เกื้อกูล

 

ว่าด้วยการบริหารธุรกิจ

คนโง่ ทำงาน ทำธุรกิจด้วยความอยากได้ ผู้คนจึงหวาดระแวงและถอยหนี

คนฉลาด ทำธุรกิจด้วยความอยากแลกเปลี่ยนผู้คนจึงพิจารณาและคบหาตราบที่ยังได้ประโยชน์

คนเจ้าปัญญา ทำธุรกิจด้วยความอยากให้ ผู้คนจึงต้อนรับด้วยความยินดีแม้จะต้องให้อะไรตอบบ้างก็ตาม

 

ว่าด้วยการบริหารระเบียบ

คนโง่ ทำงานเพื่อความถูกต้องตามอักขระ จึงเป็นได้แค่เสมียน

คนฉลาด ทำงานเพื่อความถูกต้องตามเจตนารมณ์ จึงได้เป็นผู้บริหาร

คนเจ้าปัญญา ทำงานเพื่อความถูกต้องต่อผลสูงสุด จึงได้เป็นเจ้าของ

 

ว่าด้วยการทำงาน

คนโง่ ทำงานเพื่อเงิน จึงได้เงินมาอย่างยากเย็น และมักไม่ได้คุณค่าอื่น ๆ ของงาน

คนฉลาด ทำงานเพื่องาน จึงได้ผลงานที่ยิ่งใหญ่ และได้เงินตามมาโดยง่าย

คนเจ้าปัญญา ทำงานเพื่อหยิบยื่นคุณค่าแก่สังคม เขาจึงได้ผลงานที่น่าชื่นชม เงิน ชื่อเสียงและมิตรมหาศาลย่อมตามมาเสมอ

 

ว่าด้วยการกล่าวหา

คนโง่ มักกล่าวหาผู้อื่น จึงมีแต่ศัตรูรอบตัว นำมาซึ่งความหายนะและความตาย

คนฉลาด ชอบกล่าวหาตัวเอง จึงได้รับความสงสารไปทั่ว และนำมาซึ่งความสมเพช

คนเจ้าปัญญา ไม่กล่าวหาใคร ด้วยแท้จริงไม่มีใครอยากผิด แต่พลาดไปเพราะไม่เห็นความผิด หรือเห็นแต่ไม่มีโอกาสเลือกสิ่งที่ถูก หรือมีโอกาสแต่ไม่มีกำลังพอที่จะตัดสินใจเลือก เขาจึงให้กำลังใจทุกคนสู่ความแกล้วกล้า ทุกคนจึงเป็นหนี้บุญคุณเขา และยอมรับเขาดั่งมิตรผู้ประเสริฐ

 

ว่าด้วยการวิพากษ์วิจารณ์

คนโง่ มัววิพากษ์วิจารณ์นินทาคนอื่น เพราะไม่จริงใจกับใคร จึงไม่มีใครจริงใจด้วย เขาย่อมมีแต่มิตรเทียม

คนฉลาด มัววิพากษ์วิจารณ์ตนอย่างที่เป็น โดยไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงของตนที่ต้องเป็นไป คนอื่นจึงมักไม่เข้าใจเขาที่แปรเปลี่ยนไปเสมอ และไม่มีคนเข้าใจจริงเคียงข้างเขา

คนเจ้าปัญญา ย่อมไม่วิพากษ์วิจารณ์ใคร ด้วยแจ่มแจ้งว่าทุกคนก็เปลี่ยนไป เขาย่อมเลี่ยงคนที่ชอบวิจารณ์ตนและคนอื่น ทุกคนจึงสบายใจที่จะอยู่ใกล้เขา เขาย่อมมีมิตรแท้และมั่นคง

 

ว่าด้วยผู้พูด

คนโง่ ชอบให้อารมณ์พูด จึงผิดพลาดมาก ล้มเหลวบ่อย

คนฉลาด ชอบใช้เหตุผลพูด จึงถูกต้องมากแต่มักไร้ความรู้สึก และประสบแต่ความสำเร็จอันแห้งแล้ง

คนเจ้าปัญญา ชอบใช้ธรรมะพูด จึงบริสุทธิ์เหนือถูกเหนือผิด และเป็นหนึ่งเดียวกับความสำเร็จโดยธรรม

 

ว่าด้วยการพูดจา

คนโง่ ชอบเถียง เขาจึงได้การทะเลาะและความบาดหมางแทนความรู้

คนฉลาด ชอบถาม เขาจึงได้ความรู้และมิตรภาพมากกว่าความแตกแยก

คนเจ้าปัญญา ชอบเฉยสังเกตลึก เข้าใจสิ่งต่าง ๆ อย่างลึกซึ้ง แล้วจึงนำเสนออย่างเหมาะสม (รอให้คนฉลาดถาม)

 

ว่าด้วยความโง่และความฉลาด

คนโง่ ชอบคิดว่าตนฉลาดแล้ว จึงดักดานอยู่กับความโง่ของของตนตามที่เป็น

คนฉลาด ชอบคิดว่าตนโง่ จึงชอบแกล้งโง่ และมักโง่ได้สมปรารถนาในที่สุด

คนเจ้าปัญญา ย่อมเห็นความโง่และความฉลาดที่ซ้อนกันอยู่ และรู้วิธีที่จะยกจิตสู่ปัญญายิ่ง ๆ ขึ้นไป จึงค่อย ๆ หายโง่ และเลิกฉลาดโดยลำดับ

 

ว่าด้วยการบริหารกระบวนการคิด

คนโง่ ชอบไหลตามความคิด จึงมีภารกิจที่ไม่รู้ตัวอย่างไม่สิ้นสุด

คนฉลาด ชอบสร้างความคิด จึงมีจินตนาการอันสวยหรูแต่ไม่เป็นจริงอย่างไม่สิ้นสุด

คนเจ้าปัญญา ชอบบริหารความคิด สร้างสรรค์ ตกแต่ง ตัดต่อ และละวางเมื่อสมควร จึงได้ประโยชน์จากความคิดสูงสุด

 

ว่าด้วยความคิด

คนโง่ ทำก่อนแล้วถึงคิด จึงผิดพลาดอยู่เนือง ๆ ต้องเปลืองเวลาและความรู้สึกตามแก้ปัญหาไม่สิ้นสุด

คนฉลาด คิดมากก่อนแล้วถึงทำ จึงเพ้อเจ้ออยู่เป็นประจำ แม้ประสงค์จะทำดีมากแต่ทำได้น้อง เพราะเขม่าความคิดปิดกั้นความหาญกล้า

คนเจ้าปัญญา คิดไปทำไป จึงทำได้อย่างที่คิด และคิดพอดีที่ทำ ประหยัดพลังงานและบริหารเวลาได้เหมาะสม ลดความหลอนป้องกันความผิดพลาดขื่นขมและประสบความสำเร็จโดยไม่เหน็ดเหนื่อย

 

ว่าด้วยการรู้จักแจ้งตนเอง

คนโง่ อยู่กับตนก็ไม่รู้จักตน จึงกลัวตนไปต่าง ๆ นานา

คนฉลาด อยู่กับตนและรู้จักตนดี แต่ไม่รู้สิ่งที่ดีกว่าตน

คนเจ้าปัญญา ย่อมรู้จักตนดีที่สุดจนทะลุความไม่มีตน จึงบริหารตนได้เสมือนสร้างสรรค์ฟองสบู่ ใช้ประโยชน์จนสุดกู่แล้วก็สลายมลายวับไป

 

ว่าด้วยการบริหารเป้าหมาย

คนโง่ มักใช้ชีวิตอย่างไร้เป้าหมาย จึงว่ายไปแล้ววนกลับมาที่เดิม ต้องเริ่มต้นใหม่ร่ำไปสู่อนาคตที่ไร้ทิศทาง

คนฉลาด มักตั้งเป้าหมายชีวิตยิ่งใหญ่ จึงไม่พึงพอใจกับภาวะที่ตนเป็นสักที เพราะดูที่ไรก็ยังห่างไกลเป้าหมายเสมอ

คนเจ้าปัญญา ย่อมมีเป้าหมายสูงสุดแห่งชีวิต และมีเป้าหมายน้อยนิดสานสู่เป้าหมายใหญ่ จึงมีบันไดความสำเร็จให้บรรลุเป้าเป็นลำดับ ได้กำลังใจและหรรษาไปตลอดหนทาง อย่ามัวโง่ งมงาย จงขวนขวายพัฒนา และอย่าฉลาดอย่างขาดปัญญา จงเป็นมนุษย์เลิศปัญญายิ่งๆขึ้นไป ที่สำคัญแท้จริง จงมีปัญญาจริงแท้ในจิตใจให้ได้ก่อนอื่น

 

ว่าด้วยทัศนคติ

คนโง่ ดูหมิ่นความดี มองโลกในแง่ร้ายด้านเดียว จึงได้รับแต่สิ่งชั่วร้ายมาพาชีวิตตกต่ำ กลายเป็นทาสสถานการณ์ ยามพบสิ่งดีจะไม่เข้าใจ จึงพลาดโอกาสใหญ่

คนฉลาด ชอบทำดีและคิดดี มักมองโลกในแง่ดีด้านเดียว จึงได้รับแต่สิ่งดีโดยมาก ครั้งพบสิ่งชั่วร้ายจะทนไม่ได้ ทำใจไม่เป็น ต้องถอยหนีสถานการณ์ ดวงใจแตกร้าว ชีวิตจึงมีแต่ความระคายเคืองและปฏิฆะเร้นลึก

คนเจ้าปัญญา ละชั่วเด็ดขาด และทำดีเป็นนิสัย โดยไม่ติดดี แล้วละแม้ความดีเข้าสู่ความบริสุทธิ์ จึงเห็น ที่สุดแห่งความเป็นจริงแท้แห่งโลกว่า ทุกสิ่งในโลกมีทั้งคุณโทษ และ ความเป็นกลางอยู่ จึงบริหารสถานการณ์ได้ และทำใจได้ในทุกภาวการณ์

 

ว่าด้วยความยิ่งใหญ่

คนโง่ เห็นว่าตนยิ่งใหญ่ จึงจมอยู่ในตัวตนอันกระจ้อยร่อย ท่ามกลางเอกภพอันไร้ขอบเขต

คนฉลาด เห็นว่าธรรมชาติยิ่งใหญ่ หวาดกลัวและเทิดทูนธรรมชาติ ส่วนใดที่ตนเข้าไม่ถึงจึงโยนไว้ในอุ้งหัตถ์ของภูติผี และ พระเจ้า

คนเจ้าปัญญา เห็นว่าความบริสุทธิ์ยิ่งใหญ่ เพราะตน ธรรมชาติ และ วิญญาณทั้งหลาย ล้วนมีเป้าหมายสูงสุดที่ความบริสุทธิ์

 

ว่าด้วยการสร้างความมั่งคั่งร่ำรวย

คนโง่ ชอบรวยทางลัด จึงจนอย่างรวบรัดเช่นกัน

คนฉลาด ชอบรวยเชิงระบบ ต้องอิงอาศัยระบบจึงจะรวย เมื่อระบบล่มก็ต้องล้มไปด้วย

คนเจ้าปัญญา ชอบรวยด้วยความยินดี จึงรวยในทุกระดับที่มี ได้ดูดซับคุณค่าของสิ่งที่มีอย่างแท้จริง รวย และ เป็นสุขเสมอ

 

ว่าด้วยวิถีการดำเนินชีวิต

คนโง่ มักโกงเขากิน กรรมจึงกระหน่ำให้เสียทรัพย์ ยากจนอยู่ร่ำไป ช้ำมีศัตรูคอยกัดกร่อนตลอดเวลา

คนฉลาด แข่งขันแย่งกันกินอย่างถูกกฎหมาย จึงยุ่งยาก และพลาดไม่ได้ เพราะมีคู่แข่งพร้อมย่ำเหยียบเสมอ คนเจ้าปัญญา แบ่งปันกันกินตามความพอดี จึงมีคนช่วยสร้าง ช่วยรักษา และช่วยเสพ และ มีมิตรร่วมทุกข์ร่วมสุขโดยมาก

 

 

 

บางส่วนจาก

 

http://www.baanmaha.com/community/thread38004.html

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คนโง่.... คนฉลาด.... คนเจ้าปัญญา..(ต่อ)

 

ว่าด้วยการบริหารทรัพย์

คนโง่.. บริโภคความมีทรัพย์ นั่งนับอย่างเป็นสุขกับการได้มี

คนฉลาด.. บริโภคอำนาจของทรัพย์ เป็นสุขกับการที่ได้จับจ่ายใช้สอย

คนเจ้าปัญญา.. บริโภคคุณค่าของทรัพย์ เป็นสุขกับการสร้าง รักษา สละ และ พัฒนาค่าของทรัพย์เป็นคุณสมบัติอื่นที่ยิ่งกว่า

 

ว่าด้วยคุณค่า

คนโง่.. ยึดความชอบหรือความไม่ชอบ เป็นสำคัญ เขาจึงได้รับความสุข และ ความทุกข์อันบีบคั้น เป็นของตอบแทน

คนฉลาด.. ยึดความถูกหรือความผิด เป็นสำคัญ เขาจึงได้รับศัตรูต่างความคิดเห็นเป็นรางวัล

คนเจ้าปัญญา.. ยึดประโยชน์สุขสำหรับทุกฝ่ายในทุกกาลเวลาเป็นสำคัญ เขาจึงได้รับศรัทธา และ มหามิตรเป็นกำนัล

 

ว่าด้วยพฤติกรรม

คนโง่.. ชอบเรียกร้อง เขาจึงเป็นที่น่าเบื่อหน่าย และ น่าสมเพชสำหรับคนทั้งหลาย

คนฉลาด.. ชอบต่อรอง เขาจึงเป็นที่ระแวง ระวังสำหรับคนทั้งหลาย คบหากันอย่างไม่จริงใจ

คนเจ้าปัญญา.. อาสา สละ เขาจึงเอาชนะใจคนทั้งหลาย และได้รับความรัก ความนับถือเป็นผลตอบแทน

 

ว่าด้วยการอวดตน

คนโง่.. ชอบอวดตัว เขาจึงได้รับความหมั่นไส้ การต่อต้าน และ ความเจ็บปวดเป็นรางวัล

คนฉลาด.. ชอบถ่อมตัว เขาจึงได้รับความเห็นใจ การดูหมิ่น และการช่วยเหลือเป็นรางวัล

คนเจ้าปัญญา.. ย่อมมั่นใจตนแต่ไม่นิยมแสดงตัว ไม่ยกตน และ ไม่ถ่อมตัว แต่บริหารสัมพันธภาพเพียงเพื่อผลวางตน และ สำแดงบทบาทตามหน้าที่ เขาจึงได้รับความเคารพ และ ความเชื่อถือเป็นรางวัล

 

ว่าด้วยความเก่งกาจ

คนโง่ มัวอวดเก่ง จึงไม่มีใครเติมความเก่งให้กับเขาอีก

คนฉลาด ชอบเรียนรู้เพื่อพัฒนาความเก่งให้ยิ่งขึ้น และเอาความเก่งมาใช้โดยไม่อวด จึงได้ผลงานดี แต่อาจไม่ทุกเรื่อง และอาจไม่ยั่งยืน

คนเจ้าปัญญา หาความเก่งไม่เจอ แต่ทำอะไรก็ยอดเยี่ยมเสมอ เพราะมองเห็นทุกอย่างในตนและนอกตนเป็นธรรมดา ทุกคุณสมบัติจึงเป็นปกติ และ ยั่งยืนสำหรับเขา

 

ว่าด้วยจรรยามารยาท

คนโง่.. แข็งกระด้าง จึงล้มเหลว ดั่งเปลือกไม้ร่วงหล่นลงสู่ดิน

คนฉลาด.. ยืดหยุ่น จึงกระจายตนไปในสถานการณ์ต่างๆ ดั่งรากไม้แผ่ซ่านไปในผืนปฐพี

คนเจ้าปัญญา.. อ่อนโยน จึงเจริญงอกงาม ดั่งยอดไม้ที่ทะยานขึ้นสู่ที่สูง

 

ว่าด้วยความรักสัมพันธ์

คนโง่.. ชอบขอความรักและความเห็นใจ แต่มักได้รับความสมเพชตอบแทนเป็นประจำ

คนฉลาด.. ชอบให้ความรักความเข้าใจ และมักได้รับความหวังพึ่งพิงตอบเนื่องๆ

คนเจ้าปัญญา. .ชอบให้ปัญญา ที่จะให้ทุกคนรักและเข้าใจตนเอง จึงได้รับความนับถือและความมีบุญคุณตอบแทนเสมอ

 

ว่าด้วยแหล่งมิตรภาพ

คนโง่.. ชอบหาเพื่อนจากวงเหล้า หรือแหล่งอบายมุข จึงได้แต่มิตรเทียม ที่นำภัยมาสู่ชีวิต และ ต้องแตกแยกกลุ่มแล้วกลุ่มเล่า

คนฉลาด.. ชอบหาเพื่อนจากงาน จึงได้มิตรดีร่วมอุดมการณ์ แต่เมื่องานหมดหรือล้มเหลว มิตรดีเหล่านั้นก็อันตรธานไป และ บางคนก็ผันมาเป็นศัตรูหรือคู่แข่ง

คนเจ้าปัญญา.. ชอบหาเพื่อนจากธรรมสภาวะ จึงได้มิตรแท้ที่มีรสนิยมเหนือเงื่อนไขทางโลก ความสัมพันธ์จึงสะอาด และ มีแนวโน้มนิรันดร

 

ว่าด้วยความสัมพันธ์ เชิงสร้างสรรค์

คนโง่.. มองแต่ความชั่วร้ายในคนอื่น จึงหยิบยื่นแต่โทษให้แก่กัน และได้รับความทุกข์ตรมเป็นของกำนัล

คนฉลาด.. มองแต่ความดีในคนอื่น จงหยิบยื่นคุณค่าให้แก่กัน และได้รับความสุขระคนทุกข์อันประณีต เป็นของกำนัล

คนเจ้าปัญญา.. มองทั้งความดีและความชั่วในทุกตัวคน จึงควบคุมโทษแม้เล็กน้อย ที่อาจเกิดระหว่างกัน แล้วหยิบยื่นคุณค่าให้เพื่อการพัฒนาร่วมกัน ปฏิสัมพันธ์ย่อมเป็นไปเพื่อประโยชน์สุขทุกฝ่ายอย่างต่อเนื่องและได้รับความ เจริญรุ่งเรืองยั่งยืนเป็นกำนัล

 

ว่าด้วยวัฒนธรรมสัมพันธ์

คนโง่.. เห็นอะไรที่ทำสืบๆกันมา ก็ทำสืบๆกันไป โดยไม่ได้ตรวจสอบประเมินคุณค่าใดๆ จึงผิดๆ ถูกๆ

คนฉลาด.. เห็นอะไรที่ทำสืบๆ กันมาก็ยังไม่ทำสืบๆกันไป ทำการตรวจสอบประเมินคุณค่าก่อน จึงจะทำสืบๆกันต่อไป จึงได้ประโยชน์ชัดเจน

คนเจ้าปัญญา.. เห็นอะไรที่ทำสืบๆกันมา และ สืบๆกันไป ก็พยายามพัฒนาต่อเพื่อสิ่งที่ดีกว่า จึงได้ความเจริญโดยลำดับ

 

ว่าด้วยการสนองตอบผู้มีพระคุณ

คนโง่.. เนรคุณผู้มีบุญคุณ จึงไม่มีใครอยากทำดีกับเขาอีก

คนฉลาด.. กตัญญูผู้มีบุญคุณ จึงมีคนอยากทำดีกับเขามากมาย ซึ่งต้องตามชดใช้บุญคุณกันไม่รู้จบ

คนเจ้าปัญญา.. ยกระดับผู้มีบุญคุณให้สูงส่งขึ้น จึงทดแทนบุญคุณกันได้หมด และผู้มีพระคุณกลายเป็นหนี้บุญคุณ และพร้อมที่จะให้พระคุณที่ยิ่งกว่า เกิดวงจรการให้ และการรับที่พัฒนาต่อเนื่อง ทุกฝ่ายจึงได้ประโยชน์อย่างยิ่ง

 

ว่าด้วยการจัดการกับปัญหา

คนโง่.. พอพบกับปัญหาอะไรก็โวยวาย ก่อให้เกิดปัญหาทางอารมณ์และความสัมพันธ์อีกหลายชั้น จึงยิ่งเสียหาย

คนฉลาด.. พอพบปัญหาก็วิเคราะห์ เป็นการใช้ความคิดแก้ปัญหา จึงมักติดบ่วงความคิด วนไปวนมา

คนเจ้าปัญญา.. พอพบปัญหาอะไรก็วางก่อน พอเป็นอิสระมีอำนาจเหนือกว่าปัญหาแล้ว จึงจัดการกับปัญหานั้นอย่างเหนือชั้น

 

ว่าด้วยการบริหารและการปกครอง

คนโง่.. พยายามบริหารคน จึงวุ่นวายสับสนตามธรรมชาติของคน

คนฉลาด.. พยายามบริหารประโยชน์สัมพันธ์ จึงยุ่งยากซับซ้อนตามปรารถนาอันไม่สิ้นสุด

คนเจ้าปัญญา พยายามบริหารระบบธรรม จึงสงบลงตัว ณ จุดพอดี

 

ว่าด้วยความคิด

คนโง่.. เห็นแต่ความชั่วร้ายของคนอื่น และโยนความผิดให้ผู้อื่นอยู่เรื่อย เป็นการทำมิตรให้กลายเป็นศัตรู ชีวิตจึงอยู่ในท่ามกลางอันตราย

คนฉลาด.. เห็นแม้ความชั่วร้ายในตนเอง จึงกล้ายอมรับความจริงและแก้ไขตัว ทำให้ตนดีขึ้น ทำให้แม้ศัตรูก็ยอมรับได้มากขึ้น ชีวิตจึงเจริญและผาสุกโดยลำดับ

คนเจ้าปัญญา.. เห็นความชั่วร้ายสากล จึงเข้าใจทุกคนในทุกสถานการณ์ เห็น***ส่วนการบริหารคนที่เหมาะสม โดยไม่ทำร้ายคน แต่จะทำลายความชั่วสากลให้สิ้นไป จึงสนุกสนานในการบริหารเรื่อยไป.

 

ว่าด้วยการบริหารธรรม

คนโง่.. ดูหมิ่นธรรมะ ชีวิตจึงหายนะ

คนฉลาด.. ศึกษาธรรมะ จึงรู้ลึก และดำเนินชีวิตด้วยดี

คนเจ้าปัญญา.. ใช้ธรรมะ จึงดำเนินชีวิตอย่างเหนือชั้น!!

 

ว่าด้วยความเพียร

คนโง่.. มัวขยันในเรื่องไร้สาระ จึงมักพบปะแต่เรื่องไร้ประโยชน์ แล้วมักตัดพ้อว่า ทำไมทำดีแล้วไม่ได้ดี

คนฉลาด.. มักขยันในเรื่องที่มีคุณมากมีโทษน้อย จึงได้ประโยชน์มากและมีโทษแทรกบ้าง แล้วมักบ่นว่าอุตส่าห์ระวังอย่างสุดแล้วยังพบเรืองร้ายๆ อีก

คนเจ้าปัญญา.. ขยันทำตนให้เหนือคุณและโทษ จึงบริหารสถานการณ์อย่างอิสระ ไม่ปรากฏเสียงตัดพ้อหรือบ่นว่าอีกต่อไป

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...