ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
moddang

ข้อคิดคำคม - เกร็ดความรู้

โพสต์แนะนำ

ปรัชญาของมด มดก็มีปรัชญา

 

r5852fbe69.jpg

 

ปรัชญาที่ 1 มดไม่เคยละความพยายาม

หากมันมุ่งหน้าไปทางทิศใด แล้วเกิดอุปสรรค ถูกปิดกั้นหนทาง

มันจะพยายามหาทางเดินทางอื่น มันจะได้ขึ้นไต่ลงไต่ไปรอบๆมันจะมองหาหนทางอื่นเสมอ

 

ข้อคิด

จงอย่าละความพยายามในการหาหนทางไปสู่สิ่งที่หมายมาด

 

 

ปรัชญาที่ 2 มดคิดถึงฤดูหนาวตลอดฤดูร้อน

มันไม่เคยรักสบายจนคิดเพียงว่าคิมหันต์ฤดู จะคงอยู่ตลอดเวลา

ดังนั้น มันจึงพยายามเก็บสะสมเสบียงไว้สำหรับเหมันต์ ตลอดฤดูคิมหันต์หรรษา

 

ข้อคิด

จงตะหนักถึงความเป็นจริง และเตรียมรับกับเหตุการณ์ในอนาคต

 

ปรัชญาที่ 3 มดคิดถึงฤดูร้อนตลอดฤดูหนาว

ท่ามกลางความหนาวเหน็บแห่งเหมันห์ มันจะเตือนตัวเองว่า “ความลำบากจะอยู่เพียงไม่นาน แล้วเราก็จะพ้นจากสภาวะเช่นนี้”

เมื่อวันที่แสงแห่งความอบอุ่นแรกสาดส่อง มันจะออกมาเริงร่า หากอากาศกลับกลายเป็นหนาวอีกครั้ง มันจะเข้าไปในโพรงอีกครั้ง

และออกมารับความอบอุ่นในวันอากาศดีโดยทันใด

 

 

ข้อคิด

จงมองทุกสิ่งในเชิงบวกตลอดเวลา

 

ปรัชญาที่ 4 ทุ่มเททุกสิ่งเท่าที่สามารถ

มดสามารถเก็บเกี่ยวเสบียงตลอดฤดูร้อนเพื่อเตรียมพร้อมฤดูหนาวให้มากเท่าที่มันจะทำได้

 

ข้อคิด

จงพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่างเต็มกำลัง

:D :P :wub:

สรุป

 

1)อย่ายอมแพ้

 

2)มองไปข้างหน้า

 

3)มองโลกในแง่ดี

 

4)ทำเต็มความสามารถ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Watch "A Day Made of Glass" and take a look at Corning's vision for the future with specialty glass at the heart of it.

 

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Human Planet - Web exclusive series trailer - BBC One

 

 

อยากเก็บภาพสวยๆไว้ดู...relax.. เห็นคนอ่านหลักล้าน.. เลยเอามาฝากค่ะ

 

 

 

 

Human Planet is an awe-inspiring, jaw-dropping, heart-stopping landmark series that marvels at mankind's incredible relationship with nature in the world today.

 

Uniquely in the animal kingdom, humans have managed to adapt and thrive in every environment on Earth. Each episode takes you to the extremes of our planet: the arctic, mountains, oceans, jungles, grasslands, deserts, rivers and even the urban jungle. Here you will meet people who survive by building complex, exciting and often mutually beneficial relationships with their animal neighbours and the hostile elements of the natural world.

 

Human Planet crews have filmed in around 80 locations, bringing you many stories that have never been told on television before. The team has trekked with HD cameras and state of the art gear to film from the air, from the ground and underwater. The result: a "cinematic experience" created by world-class natural history and documentary camera crews and programme makers.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Hunting a Shark From the Deep - Human Planet: Arctic, preview - BBC One

 

Amos and his son Karl-Frederik catch the largest Greenland Shark they've ever landed and pull it up 800 metres through a hole in the ice before feeding it to their hungry dogs

 

 

 

 

 

 

 

3,000 Arctic Reindeer Face a Mighty Water Crossing - Human Planet: Arctic, preview - BBC One

 

Elle-Helene, a young girl from northern Norway, leads the dramatic migration of 3,000 reindeer across 2 1/2 km of water to new pasture.

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แค่หัด แค่ลอง แล้วจะรู้

 

 

ลองคิดเอาชนะ แล้วจะรู้ว่าเราสามารถเอาชนะตัวเองได้ไม่ยาก

 

 

8696-1-vert.jpg

 

 

http://www.dek-d.com/content/lifestyle/23914/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89-%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81-fwd-mail.php

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Super Moon คืออะไร

 

คำตอบที่ดีที่สุด

ครูแก่

 

สืบเนื่องมาจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น ซึ่งวัดความรุนแรงได้มากถึง 8.9 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 นั้น เชื่อว่าหลายคนคงจะติดตามข่าวสารในเรื่องนี้เช่นกัน ปรากฎการณ์ Super Moon นี้ก็คือปรากฎการณ์ที่ดวงจันทร์โคจรเข้าใกล้โลกมากที่สุดในรอบ 19 ปีเลยทีเดียว ซึ่งเจ้า Super Moon นี้ จะเกิดขึ้นในวันที่ 19-20 มีนาคม 2554 และเป็นวันพระจันทร์เต็มดวงพอดี โดยที่เราจะมองเห็นพระจันทร์ดวงใหญ่ขึ้นกว่าเดิมถึง 14% และจะสว่างกว่าคืนพระจันทร์เต็มดวงปกติ ถึง 30% ซึ่งนาซ่าแจ้งว่าระยะทางห่างโลกอยู่ที่ประมาณ 356,577 กิโลเมตร เท่านั้น จากปกติจะโคจรในระยะห่างเฉลี่ย 384,400 กิโลเมตร แล้วเจ้า Super Moon ที่ว่านี้ เกี่ยวข้องกับแผ่นดินไหว และสึนามิ ที่ญี่ปุ่นยังไง ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกัน บ้างก็มีความเชื่อว่า Super Moon จะมาพร้อมภัยภิบัติครั้งใหญ่ โดยจะเกิดก่อน Super Moon ราว 1-2 สัปดาห์ ซึ่งความเชื่อนี้อ้างอิงจากรายงานภัยภิบัติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น คราวที่เกิดสึนามิในเมืองไทย เมื่อปี 2547 หรือจะเป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เฮติ เมื่อปีที่ผ่านมา ก็ล้วนเกิดก่อนปรากฎการณ์ Super Moon ทั้งสิ้น และยังมีภัยพิบัติในรายงานอีกมากมายที่เกี่ยวข้อง รวมถึงภัยพิบัติที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน อีกความเห็นหนึ่งก็บอกว่า ดวงจันทร์ไม่ได้มีอิทธิพลถึงขั้นที่จะทำให้โลกเกิดภัยพิบัติได้ขนาดนั้น มันจะส่งผลกระทบเพียงแค่ทำให้เกิดน้ำขึ้นน้ำลงมากกว่าที่เคยเป็นเท่านั้น แต่หากเกิดภัยพิบัติใด ๆ เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น ก็คงเป็นความบังเอิญที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่เกิด Super Moon เท่านั้น ไม่ได้มาจากอิทธิพลของดวงจันทร์ ส่วนคุณผู้อ่านจะมีความเห็นว่าอย่างไร ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านแล้วค่ะ ในวันที่ 19 มีนาคม 2554 ที่จะถึงนี้ ก็ลองออกมาดูพระจันทร์กันได้นะคะ ดูว่าจะใหญ่กว่าเดิมขนาดไหน

 

 

http://guru.google.co.th/guru/thread?tid=7a764cb0f27a0f67

 

SuperMoon and the Earthquake (Full moon March 19th will occur during Lunar Perigee)

 

http://www.youtube.com/watch?v=FuXBzo4xmuM

 

 

 

Super Moon Extreme Super Lune ''19 MARCH / MARS 2011'' ( WARNING )

http://www.youtube.com/watch?v=1_UQl2ZExKs&feature=related

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

จันทร์เพ็ญเมื่อดวงจันทร์ใกล้โลก

 

วรเชษฐ์ บุญปลอด ปรับปรุง 19 มีนาคม 2554

 

 

 

ดวงจันทร์สว่างเต็มดวงในคืนวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม ย่างเข้าสู่วันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2554 เป็นช่วงเวลาที่ดวงจันทร์ใกล้โลกที่สุดในรอบปี อาจกล่าวได้ว่าเป็นจันทร์เพ็ญที่ดวงจันทร์โตที่สุดในปี 2554 แต่จะสังเกตความแตกต่างเมื่อเทียบกับจันทร์เพ็ญครั้งอื่นด้วยตาเปล่าได้ยาก บางคนอาจพอจะจดจำได้ว่าเคยเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2551 ซึ่งได้รับความสนใจจากสื่อมวลชนมากเป็นพิเศษ

ซูเปอร์มูน 19/20 มีนาคม 2554

 

วันที่ 20 มีนาคม เวลาตี 2 ดวงจันทร์จะใกล้โลกที่สุดในรอบปีนี้ด้วยระยะห่าง 356,575 กิโลเมตร โดยที่ก่อนหน้านั้นไม่ถึง 1 ชั่วโมง ดวงจันทร์จะอยู่ตรงข้ามกับดวงอาทิตย์ ทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงที่ดวงจันทร์เต็มดวงขณะใกล้โลกที่สุดในรอบ 18 ปี โดยเราอาจได้ยินว่ามันคือซูเปอร์มูน (supermoon) นอกจากนี้ ยังเป็นจังหวะที่ดวงจันทร์อยู่สูงบนท้องฟ้าสำหรับประเทศไทยอีกด้วย

ระยะห่างของดวงจันทร์

 

ดวงจันทร์โคจรรอบโลกเป็นวงรี อยู่ห่างจากโลกด้วยระยะทางเฉลี่ย 384,400 กิโลเมตร มันสามารถเข้ามาใกล้และไกลกว่านี้ได้อีกราว 25,000 กิโลเมตร บนวงโคจรของดวงจันทร์จึงมีจุดใกล้โลกที่สุด (perigee) กับจุดไกลโลกที่สุด (apogee) อยู่ตรงข้ามกัน หากช่วงเวลาที่ดวงจันทร์โคจรผ่านจุดทั้งสองตรงกับจันทร์เพ็ญ ขนาดของดวงจันทร์เมื่อเปรียบเทียบกันจะแตกต่างกันประมาณ 14% ตาเปล่าอาจไม่เห็นความแตกต่างนี้ แต่เมื่อถ่ายรูปด้วยเลนส์ที่มีความยาวโฟกัสเท่ากัน จะสามารถเปรียบเทียบให้เห็นขนาดดวงจันทร์ที่ไม่เท่ากันได้อย่างชัดเจน

 

 

fullmoon.jpg

 

ภาพถ่ายเทียบให้เห็นขนาดที่แตกต่างกันระหว่างดวงจันทร์เต็มดวงขณะที่อยู่ใกล้และไกลจากโลก (ภาพ - Anthony Ayiomamitis)

 

เมื่อเกิดจันทร์เพ็ญครั้งหนึ่งแล้ว อีกราว 29.53 วัน ดวงจันทร์จะกลับมาเต็มดวงอีกครั้ง แต่เมื่อดวงจันทร์ผ่านจุดใกล้โลกที่สุดแล้ว อีกราว 27.56 วัน มันจะผ่านจุดใกล้โลกที่สุดอีกครั้งหนึ่ง ตัวเลขสองค่าที่ต่างกันนี้เป็นสาเหตุทำให้จันทร์เพ็ญในแต่ละเดือนมีขนาดไม่ เท่ากัน จันทร์เพ็ญที่ตรงหรือใกล้เคียงกับช่วงที่มันอยู่ใกล้โลกที่สุด 2 ครั้งที่ผ่านมา เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2551 และ 30 มกราคม 2553 หลังจากวันที่ 20 มีนาคม 2554 จะเกิดขึ้นอีกในวันที่ 6 พฤษภาคม 2555 ส่วนจันทร์เพ็ญที่เกิดในช่วงที่ดวงจันทร์อยู่บริเวณจุดไกลโลกที่สุดในปีนี้ คือวันที่ 12 ตุลาคม 2554

ดวงจันทร์ดวงโตเมื่ออยู่ใกล้ขอบฟ้า

 

แม้ว่าปรากฏการณ์ที่ดวงจันทร์มีขนาดใหญ่กว่าค่าเฉลี่ยจะมีเหตุผลทางดารา ศาสตร์ในแง่ของระยะทางระหว่างโลกกับดวงจันทร์มารองรับ อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วเราจะรู้สึกว่าดวงจันทร์ดูเหมือนใหญ่โตกว่าธรรมดาเมื่อมันอยู่ ต่ำใกล้ขอบฟ้า อย่างในช่วงที่ดวงจันทร์เพิ่งขึ้นมาทางทิศตะวันออกหรือใกล้จะตกทางทิศตะวัน ตก เรียกปรากฏการณ์แบบนี้ว่า Moon illusion ซึ่งเกิดขึ้นกับดวงอาทิตย์ด้วยเช่นเดียวกัน แต่โดยปกติแล้วเราจะไม่ดูดวงอาทิตย์ด้วยตาเปล่า เพราะเป็นอันตรายต่อดวงตา

 

สาเหตุของภาพลวงตานี้มีความพยายามที่จะหาคำอธิบายมานานนับตั้งแต่ยุคกรี กโบราณ และเป็นหัวข้อศึกษาทางวิทยาศาสตร์ คำอธิบายที่ดูเหมือนจะแพร่หลายมากที่สุดคือฉากหน้า เช่น ต้นไม้ อาคารบ้านเรือน ฯลฯ ได้กลายเป็นสิ่งเปรียบเทียบที่ทำให้เราเห็นดวงจันทร์ขณะอยู่ใกล้ขอบฟ้าราว กับมีขนาดใหญ่กว่าตอนที่มันขึ้นไปอยู่สูงกลางฟ้า

ระยะห่างของดวงจันทร์ (จากศูนย์กลางโลก) ณ เวลาต่าง ๆ

 

ตารางที่ 1 ขณะดวงจันทร์เต็มดวงใน พ.ศ. 2554 (เวลาประเทศไทย)

 

วันที่ เวลา ระยะห่าง (กม.)

20 มกราคม 2554 04:21:25 366,158.4

18 กุมภาพันธ์ 2554 15:35:40 359,101.7

20 มีนาคม 2554 01:10:03 356,576.6

18 เมษายน 2554 09:43:59 358,795.6

17 พฤษภาคม 2554 18:08:38 365,165.2

16 มิถุนายน 2554 03:13:35 374,510.4

15 กรกฎาคม 2554 13:39:36 385,224.3

14 สิงหาคม 2554 01:57:30 395,402.2

12 กันยายน 2554 16:26:39 403,044.1

12 ตุลาคม 2554 09:05:43 406,381.1

11 พฤศจิกายน 2554 03:16:06 404,372.7

10 ธันวาคม 2554 21:36:23 397,259.0

 

ตารางที่ 2 ดวงจันทร์เต็มดวงใน พ.ศ. 2533-2563 เฉพาะที่มีระยะห่างน้อยกว่า 357,000 กม. (เวลาประเทศไทย)

 

วันที่ เวลา ระยะห่าง (กม.)

2 ธันวาคม 2533 14:49:40 356,541.3

20 มกราคม 2535 04:28:29 356,550.9

8 มีนาคม 2536 16:45:53 356,530.8

26 เมษายน 2537 02:44:58 356,939.2

30 กรกฎาคม 2539 17:35:10 356,963.9

17 กันยายน 2540 01:50:29 356,986.5

4 พฤศจิกายน 2541 12:18:11 356,652.1

23 ธันวาคม 2542 00:31:18 356,730.9

8 กุมภาพันธ์ 2544 14:11:39 356,991.7

26 ตุลาคม 2550 11:51:32 356,837.7

12 ธันวาคม 2551 23:37:09 356,610.5

30 มกราคม 2553 13:17:35 356,606.7

20 มีนาคม 2554 01:10:03 356,576.6

6 พฤษภาคม 2555 10:35:04 356,955.1

23 มิถุนายน 2556 18:32:15 356,991.4

11 สิงหาคม 2557 01:09:22 356,895.9

28 กันยายน 2558 09:50:30 356,878.8

14 พฤศจิกายน 2559 20:52:03 356,520.2

2 มกราคม 2561 09:24:05 356,602.2

19 กุมภาพันธ์ 2562 22:53:34 356,842.9

 

หมายเหตุ เวลาที่แสดงในตารางอาจคลาดเคลื่อนได้เล็กน้อยในระดับวินาที เนื่องจากคาบการหมุนรอบตัวเองของโลกไม่คงที่เมื่อเทียบกับนาฬิกาอะตอม

 

 

สารพันคำถามเกี่ยวกับดวงจันทร์ใกล้โลก

 

หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในทะเลทางตะวันออกของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 ซึ่งทำให้เกิดคลื่นสึนามิ คนจำนวนมากสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ดวงจันทร์ใกล้โลกในวันที่ 20 มีนาคม 2554 หรือไม่ รวมถึงมีประเด็นข่าวลือหรือคำกล่างอ้าง เผยแพร่ออกมาทางสื่อต่าง ๆ ต่อไปนี้เป็นคำถาม-คำตอบ ของข้อสงสัยบางประการ

ซูเปอร์มูนคืออะไร

 

ซูเปอร์มูน (supermoon) เป็นคำที่ริชาร์ด โนลล์ โหรชาวตะวันตก ใช้เรียกเหตุการณ์ที่จันทร์เพ็ญหรือจันทร์ดับใกล้เคียงกับช่วงที่ดวงจันทร์ ใกล้โลก ซึ่งเขาเชื่อว่ามีอิทธิพลต่อสภาพอากาศ แผ่นดินไหว และภูเขาไฟระเบิดบนโลก ทางดาราศาสตร์ไม่พบว่ามีการใช้ศัพท์คำนี้มาก่อน

 

ดวงจันทร์ใกล้โลกบ่อยแค่ไหน

 

เฉลี่ยทุก ๆ 27-28 วัน นั่นคือเดือนละครั้ง บางเดือนมี 2 ครั้ง โดยระยะห่างจะต่างกันเล็กน้อย

ดวงจันทร์ใกล้โลกทำให้เราเห็นดวงจันทร์โตขึ้นมากเพียงใด

 

ใหญ่กว่าค่าเฉลี่ย 7%-8% เราอาจไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันกำลังใกล้โลก หากไม่ทราบมาก่อน

 

ดวงจันทร์ใกล้โลกได้มากกว่านี้อีกไหม

 

ใกล้กว่านี้ได้อีกเล็กน้อย จากการคำนวณพบว่า ระหว่าง ค.ศ. 1500-2500 ดวงจันทร์จะใกล้โลกที่สุดในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 2257 ด้วยระยะห่าง 356,371.1 กิโลเมตร ซึ่งตรงกับวันเพ็ญพอดี

 

แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 เกี่ยวกับดวงจันทร์ใกล้โลกจริงหรือ

 

ขณะเกิดแผ่นดินไหวในมหาสมุทรอินเดีย ดวงจันทร์อยู่ห่างโลก 405,492 กิโลเมตร ห่างจากวันที่อยู่ "ไกล" โลกที่สุดเพียง 2 วัน (วันที่ 28 ธันวาคม) ดังนั้นแผ่นดินไหวครั้งนี้จึงไม่มีทางที่จะเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ดวง จันทร์ใกล้โลก

 

แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2554 เกี่ยวกับดวงจันทร์ใกล้โลกจริงหรือ

 

ขณะเกิดแผ่นดินไหว ดวงจันทร์อยู่ห่างโลก 396,492 กิโลเมตร ซึ่งไกลกว่าค่าเฉลี่ย และค่อนไปทางด้านจุดไกลโลกที่สุดมากกว่าจุดใกล้โลกที่สุดด้วยซ้ำไป ดังนั้นแผ่นดินไหวครั้งนี้จึงไม่มีทางที่จะเกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ดวง จันทร์ใกล้โลกที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นอีกหลายวัน

 

ดวงจันทร์มีอิทธพลต่อโลกอย่างไร เกี่ยวกับแผ่นดินไหว/ภูเขาไฟระเบิดหรือไม่

 

แรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์ทำให้เกิดน้ำขึ้น-น้ำลง ดวงจันทร์ใกล้โลกทำให้ระดับน้ำทะเลสูง-ต่ำกว่าปกติ การศึกษาอย่างละเอียดโดยนักวิทยาแผ่นดินไหวและนักวิทยาภูเขาไฟ พบว่าแรงโน้มถ่วงของดวงจันทร์มีอิทธิพลน้อยมากต่อแผ่นเปลือกโลก ไม่พอที่จะเอาชนะแรงภายในโลก อันเป็นตัวการที่ก่อให้เกิดการเคลื่อนที่ของแผ่นเปลือกโลก

หากเกิดแผ่นดินไหวในวันที่ 19/20 มีนาคม 2554 สรุปได้ไหมว่าเกิดจากดวงจันทร์ใกล้โลก

 

ไม่สามารถสรุปเช่นนั้นได้ เพราะแผ่นดินไหวเกิดขึ้นทุกวัน ไม่ว่าดวงจันทร์จะใกล้โลกหรือไม่

ดูเพิ่ม

 

* เกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ เกี่ยวกับดวงจันทร์

* รูปร่างลักษณะของดวงจันทร์บนฟ้า

* การสังเกตดวงจันทร์

 

สมาคมดาราศาสตร์ไทย - http://thaiastro.nectec.or.th

 

http://thaiastro.nectec.or.th/library/bigfullmoon/bigfullmoon.html

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เห็นเพื่อนๆ บอกว่าฝนตกหนัก

 

เลยต้องไปตรวจสอบอากาศช่วงนี้ซะหน่อย ทั้งๆ ที่ก็ฟังและอ่านมาตลอด และที่นี่ ตี 4 ลมแรงพอควรและฝนตกหนักดีที่ไม่นาน ภาวนาไว้ กลัวน้ำท่วมบ้าน ดีที่ไม่เท่าพายุในหน้าฝน

 

http://www.tmd.go.th/daily_forecast.php

 

ลักษณะอากาศทั่วไปเมื่อเวลา 04:00 น.

 

บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือของประเทศไทย และทะเลจีนใต้แล้ว ในขณะที่บริเวณประเทศไทยมีอากาศร้อนอบอ้าว ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก มีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้นและอากาศจะเย็นลง จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บที่อาจตกตกได้บางแห่ง ในช่วงวันที่ 23-25 มีนาคม 2554

สำหรับลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้น ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเพิ่มความระมัดระวังอันตรายในการเดินเรือ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 24-26 มีนาคม นี้ไว้ด้วย

 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้.

 

ภาคเหนือ

 

อากาศเย็นในตอนเช้า โดยมีอากาศร้อนกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน

และมีพายุฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรง

และลูกเห็บตกบางแห่ง ส่วนมากบริเวณด้านตะวันออกและตอนล่างของภาค

อุณหภูมิต่ำสุด 19-22 องศา อุณหภูมิสูงสุด 36-38 องศา

ลมใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

 

อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีอากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงและมีลูกเห็บตกได้ในบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดมุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี

ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และนครราชสีมา อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศา

อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

 

ภาคกลาง

 

อากาศร้อนและมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย

ร้อยละ 40 ของพื้นที่ กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดลพบุรี สระบุรี สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา สุพรรณบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศา

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม

ภาคตะวันออก

มีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-34 องศา ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนองปานกลางกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศา

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร

ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)

 

มีฝนฟ้าคะนองปานกลางกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่ส่วนมากบริเวณจังหวัดพังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อุณหภูมิต่ำสุด 23-24 องศา อุณหภูมิสูงสุด 31-32 องศา ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล

 

มีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 60 ของพื้นที่

กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศา อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศา

ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

"สามเหลี่ยมชีวิต" วิธีรอดตายจากแผ่นดินไหว

 

FROM DOUG COPP'S ARTICLE ON THE "TRIANGLE OF LIFE"

จากบทความของดัก คอบบ์ เรื่อง "สามเหลี่ยมชีวิต"

Edited for MAA Safety Committee brief

เรียบเรียงสำหรับการสรุปให้คณะกรรมการด้านความปลอดภัย MAA

 

 

My name is Doug Copp. I am the Rescue Chief and Disaster Manager of the American Rescue Team International (ARTI), the world's most experienced rescue team. The information in this article will save lives in an earthquake.

 

ผมชื่อ ดัก คอบบ์ ผมเป็นหัวหน้าหน่วยกู้ภัยและผู้จัดการด้านพิบัติภัยของทีมกู้ภัยนานาชาติแห่งสหรัฐฯ ซึ่ง

เป็นทีมกู้ภัยที่มีประสบการณ์มากที่สุดในโลก ข้อมูลในบทความนี้จะช่วยชีวิตคนในกรณีแผ่นดินไหว

 

 

I have crawled inside 875 collapsed buildings, worked with rescue teams

from 60 countries, founded rescue teams in several countries, and one of

the United Nations experts in Disaster Mitigation for two years. I have

worked at every major disaster in the world since 1985.

 

ผมเคยคลานเข้าไปในตึกที่ถล่มมา 875 ตึก เคยทำงานกับหน่วยกู้ภัยจาก 60 ประเทศ ก่อตั้งหน่วยกู้ภัย ในหลายประเทศ และเป็นเหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญด้านการอพยพผู้คนกรณีเกิดพิบัติภัยขององค์การ สหประชาชาติมา 2 ปี ผมได้ทำงานกับพิบัติภัยใหญ่ๆ ในโลกมาตั้งแต่ปี 1985

 

In 1996 we made a film, which proved my survival methodology to be correct. We collapsed a school and a home with 20 mannequins inside. Ten mannequins did "duck and cover," and the other ten mannequins used my "triangle of life" survival method. After the simulated earthquake, we crawled through the rubble and entered the building to film and document the results. The film showed that there would have been zero percent survival for those doing duck and cover; and 100 percent survivability for people using my method of the "triangle of life."

 

 

เมื่อปี 1996 เราได้ทำภาพยนต์ขึ้นมาเรื่องหนึ่งซึ่งได้พิสูจน์ว่าวิธีการรักษาชีวิตของผมถูกต้อง เราได้

ถล่มโรงเรียนและบ้านที่มีหุ่นมนุษย์ 20 ตัวอยู่ภายใน หุ่น 10 ตัว "มุดและหาที่กำบัง" และอีกสิบตัวใช้วิธีการรักษาชีวิตแบบ "สามเหลี่ยมชีวิต" ของผม หลังจากแผ่นดินไหวทดลอง เราคลานผ่านซากปรักหักพังและเข้าไปในตึกเพื่อถ่ายภาพและเก็บข้อมูลของผลที่ เกิด ในภาพยนต์แสดงให้เห็นว่าอัตราการอยู่รอด ของพวกที่มุดและหาที่กำบังคือศูนย์ และโอกาสรอด 100% สำหรับพวกที่ใช้วิธี "สามเหลี่ยมชีวิต" ของผม

 

This film has been seen by millions of viewers on television in Turkey and

the rest of Europe, and it was seen in the USA, Canada and Latin America on the TV program.

 

 

ภาพยนต์ชุดนี้ได้ผ่านสายตาของผู้ชมโทรทัศน์เป็น ล้านๆ คนในตุรกี และส่วนที่เหลือของยุโรป เคยออกอากาศทางโทรทัศน์ในสหรัฐอเมริกา คานาดา

และลาตินอเมริกา

 

The first building I ever crawled inside of was a school in Mexico City

during the 1985 earthquake. Every child was under its desk. Every child was crushed to the thickness of their bones. They could have survived by lying down next to their desks in the aisles.

 

ตึกแห่งแรกที่ผมได้คลานเข้าไปคือโรงเรียนแห่ง หนึ่งในเมืองเม็กซิโกซิตี้ในแผ่นดินไหวปี 1985 เด็กทุก คนอยู่ใต้โต๊ะเรียน เด็กทุกคนถูกอัดแบนจนกระดูกแหลก พวกเขาอาจจะมีชีวิตรอดด้วยการนอนราบกับพื้น

ตรงบริเวณทางเดินข้างๆ โต๊ะเรียนของตัวเอง

 

At that time, the children were told to hide under something. Simply

stated, when buildings collapse, the weight of the ceilin gs falling upon

the objects or furniture inside crushes these objects, leaving a space or

void next to them. This space is what I call the "triangle of life". The

larger the object, the stronger, the less it will compact. The less the

object compacts, the larger the void, the greater the probability that the

person who is using this void for safety will not be injured.

 

 

ในเวลานั้น เด็กๆ ได้รับคำแนะนำให้หลบใต้อะไรบางอย่าง อธิบายอย่างง่ายๆ เมื่อตึกถล่ม น้ำหนัก

ของเพดานที่ตกลงมาบนสิ่งของหรือเครื่องเรือนที่อยู่ภายในจะทับทำลายสิ่งของเหล่านั้น เหลือที่ว่างหรือ

ช่องว่างข้างๆ มัน ที่ว่างเหล่านี้คือสิ่งที่ผมเรียกว่า "สามเหลี่ยมชีวิต" สิ่งของชิ้นยิ่งใหญ่ ยิ่งแข็งแรง

โอกาสถูกทับอัดยิ่งน้อย โอกาสที่สิ่งของถูกทับอัดยิ่งน้อย ช่องว่าง ก็จะยิ่งใหญ่ขึ้น

โอกาสที่คนที่อาศัยช่องว่างเหล่านั้นหลบภัยจะไม่เป็นอันตรายก็ยิ่งมาก

 

 

The next time you watch collapsed buildings, on television, count the

"triangles" you see formed. They are everywhere. It is the most common

shape.

 

 

 

ครั้งต่อไปที่คุณดูอาคารที่ถล่มในโทรทัศน์ ลองนับ "สามเหลี่ยม" ที่เกิดขึ้นที่คุณเห็นดู มันทีอยู่เต็มไปหมดทุกที่ เป็นรูปทรงที่เห็นได้มากที่สุดอยู่ทั่วไป

 

 

 

TEN TIPS FOR EARTHQUAKE SAFETY

สิบวิธีเพื่อความปลอดภัยยามแผ่นดินไหว

 

1) Almost everyone who simply "ducks and covers" when buildings collapse are crushed to death. People who get under objects, li ke desks or cars, are crushed.

 

1) เกือบทุกคนที่ "มุดและหาที่กำบัง" เมื่ออาคารถล่มถูกทับอัดจนตาย คนที่เข้าไปอยู่ใต้สิ่งของ อาทิ

โต๊ะหรือรถยนต์ถูกอัดทับ

 

2) Cats, dogs and babies often naturally curl up in the fetal position. You should too in an earthquake. It is a natural safety/survival instinct. You can survive in a smaller void. Get next to an object, next to a sofa, next to a large bulky object that will compress slightly but leave a void

next to it.

 

2) แมว หมา และเด็กทารก โดยธรรมชาติมักจะขดตัวในท่าเหมือนอยู่ในครรภ์มารดา คุณควรทำเช่น

กันในกรณีแผ่นดินไหว มันเป็นสัญชาติญาณเพื่อความปลอดภัย/รักษาชีวิต คุณสามารถมีชีวิตรอดในช่อง

ว่างที่เล็กกว่า ไปอยู่ข้างๆ สิ่งของ ข้างเก้าอี้โซฟา ข้างของหนักๆ ชิ้นใหญ่ๆ ที่จะบี้แบนไปบ้างแต่ยัง

เหลือที่ว่างข้างๆ มันไว้

 

3) Wooden buildings are the safest type of construction to be in during an earthquake. Wood is flexible and moves with the force of the earthquake. If the wooden building does collapse, large survival voids are created. Also, the wooden building has less concentrated, crushing weight. Brick buildings will break into individual bricks. Bricks will cause many injuri es but less squashed bodies than concrete slabs.

 

3) อาคารไม้เป็นสิ่งก่อสร้างที่ปลอดภัยที่สุดที่จะอยู่ภายในขณะแผ่นดินไหว ไม้มีความยืดหยุ่นและเคลื่อน ตัวตามแรงของแผ่นดินไหว ถ้าอาคารไม้จะถล่มจะเกิดช่องว่างขนาดใหญ่เพื่อช่วยชีวิต และอาคารไม้

ยังมีน้ำหนักทับทำลายที่เป็นอันตรายน้อยกว่า อาคารอิฐจะแตกพังเป็นก้อนอิฐมากมาย ก้อนอิฐเหล่านี้ เป็นสาเหตุของการบาดเจ็บ แต่จะทับอัดร่างกายน้อยกว่าแผ่นคอนกรีต

 

 

4) If you are in bed during the night and an earthquake occurs, simply roll

off the bed. A safe void will exist around the bed. Hotels can achieve a

much greater survival rate in earthquakes, simply by posting a sign on the back of the door of every room tellin g occupants to lie down on the

floor, next to the bottom of the bed during an earthquake.

 

4) หากคุณกำลังนอนอยู่บนเตียงตอนกลางคืนและเกิดแผ่นดินไหว เพียงกลิ้งลงจากเตียง ช่องว่างที่

ปลอดภัยจะเกิดรอบๆ เตียง โรงแรมจะสามารถเพิ่มอัตราผู้รอดชีวิตจากแผ่นดินไหวได้ โดยเพียงติด

ป้ายหลังประตูในทุกห้องพักบอกให้ผู้เข้าพักนอนราบกับพื้นข้างๆ ขาเตียงระหว่างแผ่นดินไหว

 

5) If an earthquake happens and you cannot easily escape by getting out the door or window, then lie down and curl up in the fetal position next to a sofa, or large chair.

 

5) หากมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นและคุณไม่ สามารถหนี้ออกมาง่ายๆ ทางประตูหรือหน้าต่าง ก็ให้นอนราบและ ขดตัวในท่าทารกในครรภ์ข้างๆ เก้าอี้โซฟาหรือเก้าอี้ตัวใหญ่ๆ

 

6) Almost everyone who gets under a doorway when buildings collapse is

killed. How ? If you stand under a doorway and the doorjamb falls forward or backward you will be crushed by the ceiling above. If the doorjamb falls sideways you will be cut in half by the doorway. In either case, you will be killed!

 

6) เกือบทุกคนที่อยู่ตรงช่องประตูตอนตึกถล่มไม่รอด เพราะอะไร? หากคุณยืนอยู่ตรงช่องประตูและวง กบประตูล้มไปข้างหน้าหรือข้างหลัง คุณจะโดนเพดานด้านบนตกลงมาทับ หากวงกบประตูล้มออกด้านข้าง

คุณจะถูกตัดเป็นสองท่อนโดยช่องประตู ไม่ว่ากรณีไหน คุณไม่รอดทั ้งนั้น!

 

7) Never go to the stairs. The stairs have a different "moment of

frequency" (they swing separately from the main part of the building).The

stairs and remainder of the building continuously bump into each other

until structural failure of the stairs takes place. The people who get on

stairs before they fail are chopped up by the stair treads - horribly

mutilated. Even if the building doesn't collapse, stay away from the

stairs. The stairs are a likely part of the building to be damaged. Even if

the earthquake does not collapse the stairs, they may collapse later when

overloaded by fleeing people. They should always be checked for safety,

even when the rest of the building is not damaged.

 

7) อย่าใช้บันไดเด็ดขาด บันไดมี "ช่วงการเคลื่อนตัว" ที่แตกต่างไป

(บันไดจะมีการแกว่งแยกจากตัวอาคาร) บันไดและส่วนที่เหลือของตัวอาคารจะชนกระแทกกันอย่างต่อเนื่อง

จนเกิดปัญหากับโครงสร้างของบันได

คนที่อยู่บนบันไดก่อนที่บันไดจะถล่มถูกตัดเป็นชิ้นโดยชั้น

บันได--ถูกแยกส่วนอย่างน่าสยดสยอง ถึงอาคารจะไม่ถล่มก็ควรอยู่ห่างบันไดไว้ บันไดเป็นส่วนของ

อาคารที่มีโอกาสถูกทำให้เสียหาย ถึงแม้แผ่นดินไหวจะไม่ได้ทำให้บันไดถล่ม มันอาจถล่มในเวลาต่อมา เมื่อรับน้ำหนักมากเกินไปจากคนที่กำลังหนี มันควรได้รับการตรวจสอบความปลอดภัยเสมอ ถึงแม้ส่วนที่

เหลือของอาคารจะไม่ได้รับความเสียหายก็ตาม

 

8) Get near the Outer Walls Of Buildings or Outside Of Them if possible.

It is much better to be near the outside of the building rather than

the interior. The farther inside you are from the outside perimeter of the

building the greater the probability that your escape route will be

blocked.

 

8) ไปอยู่ใกล้กำแพงด้านนอกของอาคารหรือออกจากอาคารถ้าเป็นไปได้ จะเป็นการดีกว่ามากที่จะอยู่

ใกล้ส่วนนอกของอาคารมากกว่าจะอยู่ที่ส่วนในของอาคาร คุณยิ่งอยู่ลึกเข้าไปหรือไกลจากบริเวณภาย

นอกของอาคารมากเท่าไหร่ โอกาสที่ทางหนี้ของคุณจะถูกปิ ดกั้นยิ่งมีมาก

 

9) People inside of their vehicles are crushed when the road above falls in

an earthquake and crushes their vehicles; which is exactly what happened

with the slabs between the decks of the Nimitz Freeway. The victims of the San Francisco earthquake all stayed inside of their vehicles. They were all killed. They could have easily survived by getting out and sitting or lying next to their vehicles. Everyone killed would have survived if they had been able to get out of their cars and sit or

lie next to them. All the crushed cars had voids 3 feet high next to them, except for the cars that had columns fall directly across them.

 

9) คนที่อยู่ภายในรถยนต์ถูกทับอัดเมื่อถนนด้านบนตกลงมาเพราะแผ่นดินไหวและทับรถ ของพวกเขา นี้เป็น สิ่งที่เกิดขึ้นกับแผ่นคอนกรีตระหว่า งชั้นของถนนหลวงนิมิทซ์ ผู้เคราะห์ร้ายทั้งหมดจากแผ่นดินไหวที่ซานฟรานซิสโกอยู่ในรถของตัวเอง พวกเขาตายทั้งหมด พวกเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ง่ายๆ ด้วยการออกจากรถและนั่งหรือนอนราบอยู่ข้างๆ รถตัวเอง คนที่ตายทุกคนอาจรอดได้ถ้าพวกเขาสามารถออกจากรถ

และนั่งหรือนอนราบอยู่ข้างรถตัวเอง รถที่ถูกทับอัดทุกคันมีช่องว่างสูง 3 ฟุตอยู่ข้างๆ ยกเว้นรถที่ถูกเสาคานตกทับกลางคันรถ

 

10) I discovered, while crawling inside of collapsed newspaper offices and

other offices with a lot of paper, that paper does not compact. Large

voids are found surrounding stacks of paper.

 

10) ผมค้นพบ--ขณะที่คลานเข้าไปในซากสำนักงานหนังสือพิมพ์และสำนักงานอื่นที่มีกระดาษจำนวน

มาก--ว่ากระดาษไม่อัดตัว จะพบช่องว่างขนาดใหญ่รอบๆ กองกระดาษที่เรียงทับซ้อนกัน

 

Spread the word and save someone's life.

กระจายข้อมูลนี้และช่วยชีวิตคนบางคน

 

 

:lol: ที่มา forward mail

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

554000004418101.JPEG

นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ บิดาแห่งระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือโครงการ “30 บาทรักษาทุกโรค”

 

โดย นพ.พงศธร พอกเพิ่มดี

 

วันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2554 ที่จะถึงนี้ เป็นวันพระราชทานเพลิงศพ นพ.สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ บิดาแห่งระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือโครงการ “30 บาทรักษาทุกโรค” คุณหมอสงวนเป็นตัวอย่างของคนเล็กๆคนหนึ่งที่มีอุดมการณ์ มุ่งมั่น อุทิศชีวิต สร้างหลักประกันด้านสุขภาพให้กับคนไทยทั้งประเทศ ให้สามารถเข้าถึงบริการได้เมื่อยามเจ็บป่วยและไม่ต้องล้มละลายเมื่อต้อง เผชิญกับโรคร้ายแรงที่มีราคาแพง วันนี้คุณหมอสงวนจากไป ฝากไว้แต่ผลงานและความทรงจำของพี่น้อง ผองเพื่อน ให้ระลึก จดจำ และเป็นอนุสติต่อชีวิตของคนรุ่นหลังว่า “ชีวิตของคนเล็กๆคนหนึ่งที่มุ่งมั่นและอดทนนั้น จะสามารถสร้างคุณูปการให้กับสังคมได้ยิ่งใหญ่เพียงใด”

สำหรับคนที่ไม่ได้ใกล้ชิดหรือสนิทสนมกับคุณหมอสงวนคงมีคำถามว่า อะไรคือปัจจัยแห่งความสำเร็จ ที่นอกเหนือจากความมุ่งมั่นของคุณหมอสงวน น.พ.ประเวศ วะสี ได้เขียนถึงคุณหมอสงวนว่า “เป็นคนที่มีอุดมการณ์ที่มั่นคง เพื่อเพื่อนมนุษย์ โดยเฉพาะคนยากคนจน และความเป็นธรรม” เพราะคุณหมอสงวนคือผลิตผลของคนเดือนตุลา และยังได้รับการหล่อหลอม เห็นทุกข์ที่แท้จริงของคนในชนบท ระหว่างที่ไปทำงานในโรงพยาบาลชุมชน ในภาคอีสาน นอกจากนั้นคุณหมอสงวน “มีมุมมองเชิงระบบ การจัดการ มีความสุภาพและความอดทน” สิ่งเหล่านี้คือพลังอันสำคัญที่สามารถทำงานใหญ่ๆ ได้จนเป็นที่ประจักษ์

 

น.พ.วิชัย โชควิวัฒน ยังเปรียบเทียบคุณหมอสงวนว่า คือ “ขงเบ้งผู้เปิดประตูสู่หลักประกัน” ซึ่งคุณหมอสงวนมีความละม้ายคล้ายขงเบ้งหลายประการได้แก่ ประการที่หนึ่ง ความ ซื่อสัตย์สุจริต ประการที่สอง มีสติปัญญาความสามารถลึกล้ำ ประการที่สาม มีโอกาสทำงานให้บ้านเมืองและสร้างผลงานยิ่งใหญ่ให้เป็นที่ประจักษ์ และประการที่สี่ ต่างตรากตรำทำงานหนักและเสียชีวิตคาสนามรบ

 

ไม่เพียงเท่านั้น ผู้เขียนยังมองว่าคุณหมอสงวน มี คุณลักษณะบางอย่างที่เหมือนกับเล่าปี่ ตัวละครเอกในนวนิยายเรื่องสามก๊ก เพราะบุคลิกที่จริงใจ อ่อนน้อมถ่อมตน และยังมีจิตใจที่กว้างขวาง แสวงหาคนมีฝีมือทั่วทุกทิศมาร่วมงาน ยังจำได้ว่าที่ห้องทำงานคุณหมอสงวนในสมัยที่อยู่กระทรวงสาธารณสุขนั้น มีภาพเขียนที่บันทึกคำพูดของเล่าปี่ไว้ว่า “ความสำเร็จนั้น จะได้มาเมื่อ ฟ้าประศาสน์ โอกาสอำนวย และต้องด้วยใจคน” นี่เป็นเพียงอีกด้านหนึ่งที่สามารถสะท้อนความเป็นตัวตนของคุณหมอสงวนได้เป็นอย่างดี

 

วันนี้แม้คุณหมอสงวนจะจากไป เหลือไว้แต่ความดีงาม ไว้เป็นตัวอย่างกับคนรุ่นหลัง หลายคนคงอยากรู้ว่า “แล้วมีอะไรที่คุณหมอสงวน ฝัน อยากทำ แต่ยังทำไม่สำเร็จ” หากได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมงานและพี่น้อง ที่ใกล้ชิดท่านคงทราบว่า อย่างน้อยมีหนึ่งเรื่อง คือ การ สร้างความเป็นธรรมให้กับระบบหลักประกันสุขภาพไทย และยิ่งเมื่อมีประเด็นความเหลื่อมล้ำในเรื่องรักษาพยาบาลของระบบประกันสังคม ที่ผู้ประกันตนกว่า 9.4 ล้านคน ที่ยังต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลอยู่ ถูกปลุกขึ้นมาในสังคม ก็ยิ่งทำให้คิดถึงคุณหมอสงวน

 

หากย้อนไปดูประวัติศาสตร์วันที่จะออก พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี 2545 วันนั้นคุณหมอสงวนนั้นมีความฝันที่อยากเห็นระบบประกันสุขภาพของคนไทยมีระบบ เดียว เพื่อทุกคนจะได้รับการดูแลภายใต้มาตรฐานเดียวกัน มีสิทธิประโยชน์เหมือนกัน ไม่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลเช่นเดียวกัน แต่ทว่าเกิดกระแสการต่อต้านจากกลุ่มผู้นำแรงงาน ที่ไม่อยากรวมเพราะคิดว่าการรักษาพยาบาลของระบบประกันสังคมดีกว่า และยินดีที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาลเอง

เวลาล่วงเลยมา 8 ปี ความฝันเรื่องนี้ก็ยังเลือนราง ทั้งๆที่วันนี้ทุกอย่างแทบไม่เหมือนเดิม การรักษาพยาบาลของระบบประกันสังคมนั้นด้อยกว่าระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ อย่างเห็นได้ชัดเจน ทั้งชุดสิทธิประโยชน์ การบริหาร ประสิทธิภาพ คุณภาพ และการมีส่วนร่วมของประชาชน ผู้ประกันตนกว่า 9.4 ล้านคน ยังเป็นคนกลุ่มเดียวที่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลอยู่ ขณะที่คนไทยคนอื่นๆกว่า 55 ล้านคนไม่ต้องจ่ายเงินและได้สิ่งที่ดีกว่า

 

แต่ทว่าวันนี้คนหลายๆคนก็ยังพูดเหมือนเดิม พรรคการเมืองพรรคเดิมก็พูดเช่นเดิม บางคนก็เอาแต่ประโยชน์เฉพาะหน้า ไม่มองประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ทั้งประเทศ บ้างก็ไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงหรือไม่กล้าที่จะทำอะไร ได้แต่ประนีประนอม ทำให้ความหวังที่จะเห็นเรื่องนี้สำเร็จช่างเลือนรางนัก

วันที่ 2 เมษายน 2554 นี้ นับเป็นโอกาสอันดีที่ เพื่อนผองน้องพี่ของคุณหมอสงวนจะได้มารวมกัน เพื่อระลึกถึงคุณงามความดีของคุณหมอสงวนในสมัยที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ และหวังว่า โอกาสครั้งนี้จะทำให้หลายๆคนได้ระลึกนึกถึง ชีวิตงดงาม มีอุดมการณ์ มุ่งมั่น ของคุณหมอสงวน เพื่อเป็นแรงบันดาลใจอีกครั้งที่จะร่วมกันสานต่อแสงดาวแห่งศรัทธา ทำเพียงครึ่ง อดทนเพียงครึ่ง ของคุณหมอสงวน เรื่องสำคัญ เรื่องยากๆก็คงสำเร็จลุล่วงในเวลาไม่นาน

 

http://www.manager.co.th/QOL/ViewNews.aspx?NewsID=9540000041393

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข้อคิดดี ๆ ที่จะนำชีวิตไปสู่ความสำเร็จ

!53 !031

 

คนเราทุกคนก็หวังที่จะประสบความสำเร็จด้วยกันทั้งนั้น แต่เส้นทางที่จะประสบความสำเร็จนั้นก็แตกต่างกันไปตามแนวทางและแนวความคิด ของแต่ละบุคคล และเชื่อว่าคนที่ประสบความสำเร็จทุก ๆ คนจะต้องมีข้อคิดอะไรบางอย่างที่เป็นตัวกระตุ้นเตือนใจอย่างแน่นอน

 

* ความมหัศจรรย์หลายอย่างที่เกิดขึ้นในโลกนี้...

* เริ่มต้นมาจากฝันกลางวันของคนบางคนนี้แหละ...

 

 

 

* หนังสือดีเพียงเล่มเดียว....

* สามารถเปลียนชีวิตคนได้....

 

 

 

* ความคิดดีๆ...เพียงความคิดเดียว...

* สามารถสร้างแรงบันดาลใจ

* ให้เด็กวัด..กำพร้า...อดอยากยากจนขนาดต้องแย่งหมากิน...

* ทะยานสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้....

 

 

 

* เรา...ไม่สามารถรู้ได้ว่า...เราจะบินได้สูงแค่ไหน...

* จนกว่าเราจะ...กางปีก...แล้วบิน...

 

 

 

* ตราบใดที่คุณยังไม่ลงมือทำ...

* อย่าเชื่อว่าคุณทำไม่ได้...

 

 

 

* จากประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ทุกคน...

* มีหัวใจของความสำเร็จเหมือนกัน 2 ประการคือ....

o

เขา...ชนะใจตนเอง....

เขา...ให้ความสำคัญเรื่องวินัย...เป็นอันดับหนึ่ง....

 

 

 

* คนที่ประสบผลสำเร็จ....

* ไม่ใช่อยู่ที่แรงถึง....

* แต่อยู่ที่...มีความตั้งใจแน่วแน่...ไม่เปลียนแปลง

 

 

 

* ผู้ที่ประสบความสำเร็จ

* ไม่ใช่เก่ง...

* แต่ต้องอึดด้วย

 

ชัยชนะ..เป็นของคนที่....อึดที่สุด...

* ความสำเร็จ...เกิดจาก...

* อัจฉริยะ1 ส่วน

* ที่เหลือ 9 ส่วน...เกิดจาก....

* หยาดเหงื่อ...แรงงาน...และน้ำตาล้วนๆ...

 

* ความยากลำบาก...เป็นมหาลัยชั้นสูง...

* ในการฝึก...ยอดคน

 

 

 

* ความสำเร็จ...เกิดจากความยากลำบาก...

* ไม่มีความสำเร็จใด..ตกมาจากฟากฟ้า...

 

 

 

* ไม่มีชัยชนะใด...ได้มาโดยไม่ต้องต่อสู้...

* ไม่มีความสำเร็จใด...ได้มา...โดยไม่ต้องลงแรง

 

 

 

* ความสำเร็จ...เกิดจาก..การลงมือทำ...

* ไม่ใช่แรงอธิษฐาน...

 

 

 

* ความสำเร็จ...มันอยู่ไกล..เกินไปถึง....

* กับคนซึ่ง...นั่งหงอย...และคอยหา...

* ความสำเร็จ...จะมาอยู่...แค่ปลายตา...

* กับคนที่...คิดว่า...ต้อพยายาม...

 

 

 

* เกิดในที่...ที่ดี...นั้นดีแน่...

* เกิดในที่...ที่แย่...ก็ดีได้...

* เกิดที่ดี...แล้วแย่...มีถมไป....

* เกิดที่ไหน...ก็ดีได้...ถ้าใฝ่ดี...

 

 

 

* ผลลัพธ์แห่ง..ความสำเร็จ....

* ยิ่งใหญ่เกินกว่า...ที่ตามองเห็น....

 

 

 

* คนที่จะประสบความสำเร็จ....

* ต้องมีเป้าหมายในชีวิต...

 

 

 

* ผู้ที่ปฎิเสธ...ไม่ทำตามความฝัน....

* จะไม่มีทางประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ได้...

 

 

 

* อดีต...ไม่สำคัญ...ว่าเราเคยเป็นใคร...

* แต่สิ่งสำคัญ..มันอยู่ที่ว่า...

* วันนี้...เราจะเป็นใคร...?

* และวันพรุ่งนี้..เราต้องการความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน....

 

 

 

* คนที่ชอบทำงานง่ายๆๆ...

* จะเป็นได้แค่ลูกจ๊อกเขา...ตลอดชีวิต...

 

 

 

* ผลงานล้ำค่า...ที่อุบัติขึ้นในโลกนี้...

* ล้วนเกิดจากมือ...ของคนที่ชอบทำงานหนัก...

 

 

 

* คนที่ประสบความสำเร็จ...

* ไม่ใช่แค่เป็นนักฝัน...

* แต่เขาเริ่มด้วยการ...ลงมือทำ...

 

 

 

* เอาแต่พูด...เอาแต่ท่องทฤษฎี..ไม่ลงมือปฏิบัติ...

* ไม่มีทาง...ประสบความสำเร็จ

 

 

 

* ความสำเร็จเริ่มต้นเมื่อ...

* คุณเชื่อว่า...คุณทำได้...

 

 

 

* จุดอ่อนของคนที่...ไม่ประสบความสำเร็จคือ...

* การยอมแพ้...

 

 

 

* คนที่ประสบความสำเร็จ

* พยายามอีกครั้ง...เสมอ...

 

 

 

* ความรับผิดชอบ...ทำให้...งานออกมาดี...

* ความรัก...ทำให้...งานออกมา...สวย...

* เป้าหมาย..ทำให้...สำเร็จ...โดยไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย...

 

 

 

* สาเหตุที่ทำให้คุณเห็นว่า...

* อุปสรรค..เป็นเรื่องน่ากลัว...

* เพราะ...คุณละสายตา...จากเป้าหมาย...

 

 

 

แหล่งที่มาจากกระทู้ใน THAISEOBOARD

ผู้เผยแพร่ :คุณ adsene5438

 

 

http://www.n3k.in.th/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%94%E0%B8%B5-%E0%B9%86/%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%A1

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เอาของเก่า มาแปะใหม่

 

ทำ / ไม่ทำ

ที่นำชีวิตเจริญ

 

 

ก ที่ควรทำ ได้แก่ กอด พ่อแม่ ลูก สามี หรือภริยา วันละครั้ง เพื่อแสดงความรัก ความห่วงใย กอดเพื่อน เพื่อแสดงความเห็นใจ หรือให้กำลังใจ และก่อนนอน อย่าลืม กราบ พระ/สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่นับถือ เพื่อขอบคุณ และขอพรสำหรับวันต่อไป

 

ก ที่ไม่ควรทำ คือ ก้าวร้าว ไม่ว่ากับใคร เพราะจะทำให้เป็นคนน่าเบื่อ ไม่น่าอยู่ใกล้ ไม่มีใครอยากให้ไปไหนด้วย กลัวไปทะเลาะวิวาทกับเขา

 

ข ที่ควรทำ ได้แก่ ขอบคุณ จงกล่าวทุกครั้ง ที่มีคนทำอะไรให้ และขำขัน คือ ให้เป็นคนมีอารมณ์ดี อารมณ์ขัน

 

ข ที่ไม่ควรทำ คือ ขุดคุ้ย เอาเรื่องเก่ามาว่าไม่จบสิ้น หรือหาเรื่องมาประจานเขา

 

 

ค ที่ควรทำ ได้แก่ ครุ่นคิด และ ใคร่ครวญ คือ คิดก่อนทำอะไรทุกครั้ง เพื่อมิให้ตัวเอง และคนอื่นเสียใจภายหลัง

 

ค ที่ไม่ควรทำ คือ คลั่งแค้น อย่าเป็นคนโกรธไม่รู้หาย อาฆาตไม่รู้จบ ทำให้คนอยู่ใกล้ไม่มีความสุข

 

 

ง ที่ควรทำ ได้แก่ งดงาม ด้วยการทำตัวเรา ให้งดงามทั้งกาย วาจาและใจเสมอ ง้องอน เมื่อเราทำผิด หรือง้อเพื่อทำให้คนที่เรารักรู ้สึกดีขึ้น และรู้จัก เงียบ ไม่โต้เถียงเสียบ้าง เพื่อให้เกิดความสงบสุข

จ ที่ควรทำ ได้แก่ รู้จัก จดจำ วันเกิด วันสำคัญของคนในครอบครัว เพื่อนฝูง คนรัก และทำอะไรเป็นพิเศษให้บ้าง ข้อสำคัญต้อง จริงใจ ไม่เสแสร้งหลอกลวง อันจะทำให้ต้องหวาดระแวงกันตลอดเวลา

 

จ ที่ไม่ควรทำ คือ จู้จี้จุกจิก พิถีพิถันเกินเหตุ ใครทำอะไรให้ก็ไม่พอใจสักที และไม่เจ้าชู้ ให้เกิดปัญหาในครอบครัว หรือที่ทำงาน

 

ง ที่ไม่ควรทำ คือ งก อยากได้เกินควร และไม่รู้จักแบ่งปัน

 

ฉ ที่ควรทำ ได้แก่ ทำตัวให้ ฉลาดเฉลียว รู้ว่าอะไรควร ไม่ควร รู้กาลเทศะ รู้จักพูด รู้จักทำสิ่งต่างๆ

 

ฉ ที่ไม่ควรทำ คือ ฉุนเฉียว ให้คนหวาดผวา

ช ที่ควรทำ ได้แก่ ชมเชย ชื่นชม คือ รู้จักกล่าวคำชม หรือแสดงความชื่นชม ในความสำเร็จ หรือเรื่องดีๆ ของผู้อื่นบ้าง

 

ช ที่ไม่ควรทำ คือ ช่วงชิง คือ อย่าไปแย่งของรัก ของหวงของผู้อื่น หรือ ชุบมือเปิบ ฉวยประโยชน์ของคนอื่น มาเป็นของเราโดยไม่ลงทุนลงแรง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รู้ไหม...? ทำไมน้ำตกถึงสวย...

!031

 

 

image0011v.jpg

 

พ่อ : รู้มั้ยลูก...ทำไมน้ำตกถึงสวย...

ลูก : ก็เพราะมันเป็นน้ำตกไงคะพ่อ...

 

image0022.jpg

 

พ่อ : ไม่ใช่หรอกลูก...

…ที่น้ำตกสวยน่ะ... …เพราะน้ำตกไม่ยอมเก็บน้ำไว้ในชั้นของตัวเองต่างหาก...

ลูก : หมายความว่าไงคะพ่อ...

พ่อ : ลูกสังเกตไหมล่ะว่า...

 

image0033.jpg

 

..…เวลาน้ำตกตกลงมาจากชั้นหนึ่งแล้ว...

..…น้ำนั้นก็จะถูกส่งต่อลงไปอีกชั้นหนึ่งทันที….

…. เพราะวิธีนี้ที่น้ำตก...ไม่เห็นแก่ตัว...

…แต่ยอมส่งน้ำที่ตกมาจากชั้นอื่น...แล้วส่งต่อกันไปเรื่อย ๆ อย่างนี้....

…น้ำตก...ถึงสวย...

..…และน้ำตก....จึงยังคงเป็นน้ำตก...ที่มีเสน่ห์...ไงละ

image0044.jpg

 

 

….ข้อคิดจากเรื่องนี้...

...อย่าลืมน่ะลูก...

ถ้าลูกอยากให้ตัวเองเป็นคนที่น่ารัก...

ลูกควรจะเป็นอย่างน้ำตก..

หากมีสิ่งดี ๆ ตกมาถึงตัวลูก...

อย่าเก็บสิ่งดี ๆ นั้นไว้..คนเดียว..

ลูกต้องเรียนรู้ที่จะ...แบ่งปัน...ออกไปให้มากที่สุด

มีก็แต่คนที่ "ให้" ออกไปเท่านั้นแหละ...ลูก..

จึงจะเป็นคนที่ "ได้รับ" อย่างแท้จริง...

…………จากธรรมะสวัสดี..........

 

 

 

ดั่งที่ได้อ่านกันมาแล้วข้างบนเมื่อคุณได้รับสิ่งดี ๆ แล้วก็อย่าเก็บไว้คนเดียวนะ แบ่งปันสิ่งที่ดีและสวยงาม

ให้คนที่คุณรักและรู้จักนะ แล้วจะได้ความรัก สิ่งที่ดี ๆ นั้นกลับมาตอบแทน สาธุ

 

 

http://www.arunsawat.com/board/index.php?topic=9509.0

ถูกแก้ไข โดย moddang..

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...