ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 
ilovecgf

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคาทองคำ

โพสต์แนะนำ

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 22 กรกฎาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดลดลง 9.90USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,587.0 USDต่อออนซ์ เมื่อนักลงทุนหันไปถือสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น หลังจากผลการประชุมฉุกเฉินของ EU ให้เงินช่วยเหลือแก่กรีซรอบที่ 2 และปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น

 

 

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1582 –1601 USDต่อออนซ์ ราคามีการปรับตัวอ่อนลงมา เนื่องจากนักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีรายงานว่าผู้นำเยอรมนีและฝรั่งเศสร่วมสนับสนุนแผนการกู้วิกฤตหนี้สาธารณะในยุโรป และปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐมีแนวโน้มจะตกลงกันได้ ราคาได้มาทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ระดับ 1,582.30 และดีดกลับมาที่ระดับ 1,589.3 คาดว่าวันมีแนวรับบริเวณ 1,580/1,575 แนวต้านบริเวณ 1,603 คำแนะนำ รอเปิด Long บริเวณแนวรับ 1,580/1,575

 

o แผนความช่วยเหลือที่จะให้แก่กรีซ มีวงเงินให้ความช่วยเหลือแก่กรีซจำนวน 159 ล้านยูโร โดยเป็นเงินจาก IMF และ EU จำนวน 109 ล้านยูโร และเป็นเงินจากสถาบันการเงินเอกชนจำนวน 50 ล้านยูโร ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอ และช่วยไม่ให้วิกฤตหนี้แผ่กระจายออกไป ( - )

 

o การขยายเพดานหนี้ของสหรัฐมีแนวโน้มจะตกลงกันได้ก่อนวันที่ 2 ส.ค. โดยรํฐบาลอาจจะลดแผนการปรับลดการใช้จ่ายลงเหลือ 3 ล้านล้านUSD และไม่มีการขึ้นภาษีหรือเก็บรายได้เข้ารัฐเพิ่มขึ้นจำนวน 1 ล้านล้านUSD และอาจจะมีการใช้จ่ายงบประมาณสมดุล ( - )

 

o ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าขึ้นอยู่ที่ระดับ 1.439 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร หลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐ( + )

 

o ราคาน้ำมัน Nymex ปิดที่ 98.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับเพิ่ม 0.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เมือสำนักงานพลังงานสากล (IEA) ยืนยันว่า 28 ชาติสมาชิกของ IEA จะไม่ระบายน้ำมันออกจากคลังสำรองฉุกเฉินเป็นรอบที่ 2 ( + )

 

o ดัชนีภาคการผลิตในเขตมิดเวสต์เพิ่มขึ้นสู่ระดับ +3.2 จุดในเดือนก.ค. จากระดับ -7.7 จุดในเดือนมิ.ย. ( -)

 

o จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐในรอบสัปดาห์ที่แล้วเพิ่มขึ้น 10,000 ราย สู่ระดับ 418,000 ราย ( +)

 

o เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 29.83 บาทต่อ USD ( - )

 

o ราคา Silver ปิดลดลง 0.61 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 38.95 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 38.86 – 40.38USDต่อออนซ์ ราคา Silver ปรับตัวลดลงตามราคาทองคำ iShares Silver Trust ซื้อโลหะเงินจำนวน 45.46 ตัน รวมถือครองโลหะเงินจำนวน 9849.17 ตัน คาดแนวต้านบริเวณ 40.84/41.40 แนวรับคาดที่บริเวณ 38.0/37.4 คำแนะนำ Trading ในกรอบ 38.0 – 40.8

 

o SPDR ขายทองคำออก 3.33 ตัน อยุ่ที่ระดับ 1,242.68 ตัน

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,564 – 1,650 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,575 – 1,603 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,464 – 1,700 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 25 กรกฎาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวันศุกร์ปิดเพิ่มขึ้น 14.50 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,601.50 USDต่อออนซ์ เนื่องจาก นักลงทุนกังวลในปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ และวงเงินที่ให้ความช่วยเหลือแก่กรีซอาจไม่เพียงพอ

 

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวันศุกร์มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,583.20 – 1,607.70 นักลงทุนกังวลในปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ และวงเงินที่ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่มีปัญหาหนี้ในยุโรปอาจไม่เพียงพอ สำหรับปัจจัยที่จะมีผลต่อราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ได้แก่ การที่พรรคเดโมแครตจะตกลงกับพรรครีพับริกันได้หรือไม่ในการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ สถาบันจัดอันดับเครดิตจะปรับลดอันดับเครดิตจะปรับของสหรัฐ และประเทศที่มีปัญหาหนี้ในยุโรป

 

o S & P อาจปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐลงจากระดับ ÀÀÀ มาที่ระดับ AA+และมีแนวโน้มเชิงลบแม้ว่ารัฐบาลและรัฐสภาจะตกลงกันได้ในเรื่องการขยายเพดานหนี้ ( + )

 

o นักลงทุนผิดหวังจากวงเงินช่วยเหลือแก่ประเทศที่มีปัญหาหนี้ในยุโรป และคาดว่าอาจจะไม่เพียงพอ ( + )

 

o ค่าเงิน USD อ่อนค่าลงมาที่ระดับ 1.438 USDต่อยูโร ดัชนีค่าเงินดอลล่าร์อยู่ที่ระดับ 74.13 เนื่องจากความกังวลที่ว่า สหรัฐอาจสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือ ( +/- )

 

o เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 29.79 บาทต่อ USD ( - )

 

o ราคาน้ำมัน Nymex ปิดที่ 99.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับเพิ่ม 0.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากผู้นำสหภาพยุโรป (EU) อนุมัติแผนการให้ความช่วยเหลือกรีซรอบสอง ( + )

 

o ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดลดลง 43.25 จุดปิดที่ 12,681.16 จุด เนื่องจาก นักลงทุนกังวลในปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ

 

o ราคา Silver ปิดเพิ่มขึ้น 1.18 USDต่อออนซ์ (+3.02%) ปิดที่ 40.12 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 38.87 – 40.30 USDต่อออนซ์ ราคา Silver ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาทองคำและราคาน้ำมัน iShares Silver Trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าเดิม 9,849.17 คาดว่า Silver มีแนวรับบริเวณ 39.5 แนวต้านบริเวณ 41.2 คำแนะนำ Trading ในกรอบ 39.5 – 41.2

 

o SPDR ขายทองคำออก 0.91 ตัน อยุ่ที่ระดับ 1,241.77 ตัน ( - )

 

 

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,580 – 1,650 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,595 – 1,623 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,550 – 1,700 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

รมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 25 กรกฎาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ราคาทองคำมีแนวรับที่1,603/1,595 แนวต้านที่1,623 แนวโน้มระยะยาวคาดว่ายังคงขึ้นต่อเนื่องแต่เนื่องจากมี Gap บริเวณ 1,603 คาดว่าราคาจะมีการลดลงมาปิด gap เพือขึ้นต่อในวันถัดไป

 

เพดานหนี้สหรัฐกับพันธบัตรที่ถูกลดเครดิตของกรีซ

 

ราคาทองคำในตลาดเอเชียในช่วงเช้าขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1,623 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ได้อ่อนตัวลงมาและแกว่งตัวในกรอบ 1,610-1,619 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในช่วงเวลาการซื้อขายในตลาดบ้านเรา ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำมีความสอดคล้องกับความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อปัญหาเพดานหนี้ของสหรัฐ และความกังวลว่าวงเงินให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศที่มีปัญหาหนี้ในยุโรปจะไม่เพียงพอ

 

สถานการณ์ที่น่าติดตามและจะมีผลต่อราคาทองคำค่อนข้างมากคือ แนวโน้มการโดนปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐ โดย S & P ถ้าการเจรจาระหว่างพรรคเดโมเครตกับ รีพับริกันที่ยังคงยืดเยื้อและหาข้อสรุปไม่ได้ ขณะที่นักลงทุนมีความเห็นแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ฝ่ายแรก เชือว่า มีโอกาสสูงมากที่สหรัฐจะถูกลดเครดิต โดยในภาคธุรกิจในสหรัฐ ซึ่งรวมถึงธนาคารในย่านวอลล์สตรีทและบริษัทในภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ กำลังเตรียมแผนฉุกเฉินรับมือสถานการณ์ที่รัฐบาลสหรัฐผิดนัดชำระหนี้ และสูญเสียอันดับความน่าเชื่อถือขั้นสูงสุดที่ AAA ในขณะที่อีกฝ่าย ไม่เชื่อว่านักการเมืองสหรัฐจะปล่อยให้การเจรจาปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐยืดเยื้อจนเลยกำหนดเส้นตายวันที่ 2 ส.ค.

 

ทั้งนี้ สมาชิกสภาคองเกรสและประธานาธิบดีบารัค โอบามาจำเป็นต้องปรับเพิ่มเพดานหนี้จากระดับ 14.3 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบันให้สำเร็จภายในวันที่ 2 ส.ค. มิฉะนั้นรัฐบาลสหรัฐจะผิดนัดชำระหนี้ อย่างไรก็ดี การตัดสินใจในเรื่องนี้เผชิญอุปสรรคจากความขัดแย้งระหว่างสมาชิกพรรครีพับลิกันกับสมาชิกพรรคเดโมแครตในแนวทางการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณสหรัฐ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา แนวโน้มในการบรรลุข้อตกลงการเจรจาหนี้ได้ดับวูบลงเมื่อนายจอห์น โบห์เนอร์ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ประกาศยุติการเจรจากับปธน.โอบามา และกล่าวว่าการเจรจาไม่ประสบผลสำเร็จ เนื่องจากปธน.โอบามาเรียกร้องให้มีการปรับขึ้นภาษี นักลงทุนกำลังจัดเตรียมแนวทางในการรับมือกับภาวะปั่นป่วนวุ่นวายในตลาดการเงิน ถ้าหากรัฐบาลสหรัฐประสบภาวะขาดแคลนเงินสด โดยนายเบน เบอร์นันเก้ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (FED) กล่าวเตือนเมื่อสองสัปดาห์ก่อนว่า การผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐจะถือเป็นหายนะ ในขณะที่บริษัทหลายแห่งกำลังสร้างความมั่นใจว่าบริษัทมีช่องทางมากมายในการระดมเงินสด และนักลงทุนก็ทำประกันความเสี่ยงพอร์ทลงทุนของตน โดยเลือกใช้วิธีลงทุนในทองคำ ซึ่งหมายถึงการลงทุนในสินทรัพย์ที่สามารถรักษามูลค่าของตนเองเอาไว้ได้ เพราะถ้าหากลงทุนไว้ในรูปของดอลลาร์, หุ้นสหรัฐ และราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ มูลค่าสินทรัพย์ก็จะลดค่าลง นายจอห์น เทย์เลอร์ ซีอีโอของบริษัทเอฟเอ็กซ์ คอนเซปท์กล่าวว่า เขาเชื่อว่าราคาทองจะปรับขึ้นต่อไปในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า

 

ด้านปัญหาหนี้ของกรีซ มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิสประกาศปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรของกรีซลงอีก 3 ขั้น สู่ Caจาก Caa1 มูดี้ส์ระบุว่า การประกาศโครงการช่วยเหลือของสหภาพยุโรป (อียู)พร้อมกับการออกแถลงการณ์ของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ (IIF) บ่งชี้ว่า ขณะนี้มีความเป็นไปได้เกือบ 100 %ที่จะมีการแลกเปลี่ยนพันธบัตรรัฐบาลกรีซซึ่งด้อยคุณภาพ ซึ่งถือเป็นการผิดนัดชำระหนี้โดย IIF บ่งชี้ว่า ขนาดความเสียหายของนักลงทุนมีแนวโน้มที่จะอยู่สูงกว่า 20% จากปัจจัยดังกล่าวน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนราคาทองคำให้เพิ่มขึ้นมากในช่วงนี้

 

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ (25-29 ก.ค.) มีดังนี้ เริ่มที่วันจันทร์ ธนาคารกลางสหรัฐสาขาชิคาโกเปิดเผยดัชนีการผลิตทั่วประเทศเดือนมิ.ย. ในวันอังคาร จะมีการประกาศราคาบ้านเดือนพ.ค. และ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเดือนก.ค. ยอดขายบ้านใหม่เดือนมิ.ย. ส่วนในวันพุธ เปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนมิ.ย. ดัชนีการผลิตเขตมิดเวสต์เดือนมิ.ย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ ในวันพฤหัสบดี มีรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ยอดทำสัญญาซื้อบ้านที่รอปิดการขาย เดือนมิ.ย. วันศุกร์ ตัวเลขประมาณการครั้งแรกของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2011 และดัชนีต้นทุนการจ้างงานประจำไตรมาส 2/2011 รวมทั้งดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) เขตชิคาโกเดือนก.ค.

 

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

ฝ่ายวิจัย CGF คาดว่าราคาทองคำมีแนวรับที่1,603/1,595 แนวต้านที่1,623 แนวโน้มระยะยาวคาดว่ายังคงขึ้นต่อเนื่องแต่เนื่องจากมี Gap บริเวณ 1,603 คาดว่าราคาจะมีการลดลงมาปิด gap เพือขึ้นต่อในวันถัดไป

ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 39.5 และแนวต้านที่ 41.2 แนวโน้มราคาคาดว่ายังคงขึ้นต่อเนื่องตามราคาทองคำ

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 26 กรกฎาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดเพิ่มขึ้น 10.70 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,612.20 USDต่อออนซ์ เนื่องจาก นักลงทุนกังวลในเรื่องสหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้ เมื่อการเจรจาในการขยายเพดานหนี้ไม่มีความคืบหน้า และกรีซถูก Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตลงอีก

 

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,603.80 – 1,624.30 นักลงทุนกังวลในเรื่องสหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้ เมื่อการเจรจาในการขยายเพดานหนี้ไม่มีความคืบหน้า และกรีซถูก Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตลงอีก สำหรับปัจจัยที่จะมีผลต่อราคาทองคำในช่วงนี้ ได้แก่ การที่พรรคเดโมแครตจะตกลงกับพรรครีพับริกันได้หรือไม่ในการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ สถาบันจัดอันดับเครดิตจะปรับลดอันดับเครดิตจะปรับลดอันดับเครดิตของสหรัฐ และประเทศที่มีปัญหาหนี้ในยุโรป

 

o นักลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่า ในที่สุดแล้วสหรัฐจะสามารถขยายเพดานหนี้เพิ่มขึ้นได้ ซึ่งเมื่อได้ข้อยุติอาจมีผลทำให้ราคาทองคำถูกขายทำกำไร อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่การเจรจายังไม่มีข้อสรุปยังเป็นปัจจัยบวกกับราคาทองคำ นอกจากนี้ การที่สถาบันจัดอันดับเครดิตต่างๆ มีการประกาศปรับลดอันดับเครดิตของประเทศที่มีปัญหาหนี้ในยุโรปออกมาเรื่อยๆ จะสนับสนุนราคาทองคำให้ปรับขึ้นต่อได้ ดังนั้น ในสัปดาห์นี้ คาดว่า ราคาทองคำจะมีความผันผวนสูง โดยคาดแนวรับในระยะสัปดาห์บริเวณ 1,590 ส่วนแนวต้านที่บริเวณ 1,626/1,636 ( +/- )

 

o Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตของกรีซลง 3 ขั้น จาก Caa1 เป็น Ca ( + )

 

o ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งขึ้นอยู่ที่ระดับ 1.437 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อยูโร เนื่องจากเงินยูโรอ่อนค่าลง หลัง Moody’s ปรับลดอันดับเครดิตของกรีซลง 3 ขั้น ( +/- )

 

o เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 29.74 บาทต่อ USD เมื่อมีเงินทุนต่างประเทศไหลเข้าในตลาดตราสารหนี้ และตลาดหุ้น ( - )

 

o ราคาน้ำมัน Nymex ปิดที่ 99.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับลดลง 0.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าสหรัฐอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้หรืออาจจะถูกปรับลดอันดับ( - )

 

o ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 12,592.8 จุด ปรับลดลง 88.36 จุด หลังจากการเจรจาต่อรองเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ระหว่างประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ และผู้นำสภาคองเกรสยังไม่มีความคืบหน้า ( + )

 

o ราคา Silver ปิดเพิ่มขึ้น 0.24 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 40.36 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 39.87 – 41.11 USDต่อออนซ์ ราคา Silver ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาทองคำ คาดว่าราคา Silver ในสัปดาห์นี้คาดว่ามีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังจากขึ้นไปทดสอบ high บริเวณ 41.0 สัปดาห์นี้คาดว่าแกว่งตัวในกรอบ 38.5 – 41.0 USDต่อออนซ์ iShares Silver Trust ซื้อโลหะเงินจำนวน 42.47 ตัน รวมถือครองจำนวน 9,891.61 ตัน คาดว่า Silver ในวันนี้มีแนวรับบริเวณ 39.1 แนวต้านบริเวณ 41.0 คำแนะนำ Trading ในกรอบ 39.1 – 41.0

 

o SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิมที่ระดับ 1,241.77 ตัน

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,580 – 1,650 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,603 – 1,623 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,550 – 1,700 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 27 กรกฎาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดเพิ่มขึ้น 4.60 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,616.80 USDต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนยังคงกังวลในเรื่องสหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้ และการเจรจาในการขยายเพดานหนี้ที่ไม่มีความคืบหน้า

เนื่องจาก

 

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,607.80 – 1,620.80 โดยนักลงทุนยังคงกังวลในเรื่องสหรัฐอาจผิดนัดชำระหนี้ และการเจรจาในการขยายเพดานหนี้ที่ไม่มีความคืบหน้า ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในเช้าวันนี้ในตลาดเอเชียที่ระดับ 1,623 USDต่อออนซ์ แนวโน้มคาดว่าจะปรับขึ้นไปทดสอบบริเวณ 1,636 โดยถ้าหากสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องการขยายเพดานหนี้ จะเป็นปัจจัยบวกให้ราคาทองคำเดินหน้าต่อ แต่เมื่อมีข้อยุติในการเจรจาเรื่องการตัดลดงบประมาณและขยายเพดานหนี้ได้สำเร็จ อาจทำให้มีแรงขายทำกำไรและราคาทองคำอาจปรับตัวลดลงแรงได้ ทำให้ราคาในช่วงนี้ความผันผวนสูง คาดกรอบความเคลื่อนไหวในระยะสัปดาห์ 1,580 – 1,650 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 1,580 – 1,650

 

o ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงมากมาอยู่ที่ระดับ 1.453 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดขึ้นหาก สหรัฐเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้หรือถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ( +)

 

o ราคาน้ำมัน Nymex ปิดที่ 99.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับเพิ่ม 0.39 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากการเจรจาต่อรองเรื่องการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้า นอกจากนี้ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของสหรัฐที่ปรับตัวเพิ่ม ขึ้นในเดือนก.ค. ( + )

 

o ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 12,501.3 จุด ปรับลดลง 91.5 จุด เกิดจากการที่ผู้นำพรรครีพับลิกันและเดโมแครตยังไม่สามารถตกลงกันได้เรื่องการปรับเพิ่ม เพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐ ( + )

ตัวเลขเศรษฐกิจสหรํฐที่ประกาศออกมา mixed โดยที่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐเพิ่มขึ้นเกินคาดสู่ 59.5 ในเดือนก.ค. จากระดับ 57.6 ในเดือนมิ.ย.แต่ราคาบ้านใน 20 เขตเมืองลดลง 4.5% เมื่อเทียบเป็นรายปี ยอดขายบ้านใหม่ลดลง 1.0% สู่ 312,000 ยูนิตในเดือนมิ.ย. ซึ่งต่ำกว่าที่รอยเตอร์คาด

 

o ราคา Silver ปิดเพิ่มขึ้น 0.34 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 40.70 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 40.02– 40.99 USDต่อออนซ์ ราคา Silver ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาทองคำและราคาน้ำมัน คาดว่าราคา Silver ในสัปดาห์นี้คาดว่ามีแนวโน้ม side way down โดยมี upside gain ที่จำกัด โดยมีแนวต้านที่บริเวณ 41.2 สัปดาห์นี้คาดว่าแกว่งตัวในกรอบ 38.5 – 41.2 USDต่อออนซ์ iShares Silver Trust ซื้อโลหะเงินจำนวน 24.25 ตัน รวมถือครองจำนวน 9,915.86 ตัน คาดว่า Silver ในวันนี้มีแนวรับบริเวณ 39.5 แนวต้านบริเวณ 41.2 คำแนะนำ Trading ในกรอบ 39.5 – 41.2

 

o SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิมที่ระดับ 1,241.77 ตัน

 

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,580 – 1,650 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,603 – 1,636 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,550 – 1,700 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook....lassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 28 กรกฎาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดลดลง 1.70 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,615.10 USDต่อออนซ์ เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร โดยนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าในที่สุดแล้ว สหรัฐจะขยายเพดานหนี้ได้

 

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,608.90 – 1,628.80 ราคาทองคำขึ้นไปทำ new high จากนั้นมีแรงขายทำกำไร เมื่อนักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าในที่สุดแล้ว สหรัฐจะขยายเพดานหนี้ได้ ราคาทองคำในช่วงเช้าเมื่อเปิดตลาดเอเชียเคลื่อนไหวระหว่าง 1,612 – 1,615 USDต่อออนซ์ แนวโน้มวันนี้ดูจากกราฟราย 4 ช.ม.คาดว่าจะปรับตัวลดลงมาทดสอบแนวรับบริเวณ 1,606 นักลงทุนคาดการณ์ว่าเมื่อถึงใกล้กำหนดเส้นตายวันที่ 2 ส.ค. รัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านจะตกลงกันได้ในเรื่องการปรับลดค่าใช้จ่าย ทำให้มีแรงขายทำกำไรและราคาทองคำอาจปรับตัวลดลงแรงได้ ราคาในช่วงนี้ความผันผวนสูง ถ้าราคายืนเหนือ 1,620 ไม่ได้มีแนวโน้มอ่อนตัวลงไปที่ 1,606 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,606 – 1,636

 

o ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 1.437 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร หลังจาก S&P ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือของกรีซ ( +/- )

 

o เงินบาทอ่อนค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 29.75 บาทต่อ USD( + )

 

o ราคาน้ำมัน Nymex ปิดที่ 97.4 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับลดลง 2.19 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจาก EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้นมากว่าคาด ( - )

 

o ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 12,302.55 จุด ปรับลดลง 198.75 จุด เนื่องจากความไม่คืบหน้าเกี่ยวกับการปรับเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลสหรัฐ( + )

 

o ตัวเลขเศรษฐกิจสหรํฐที่ประกาศออกมาแย่กว่าคาด ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนลดลง -2.1% MoM ( + )

 

o ราคา Silver ปิดลดลง 0.13 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 40.57 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 40.12– 41.47 USDต่อออนซ์ ราคา Silver ปรับลดลงตามราคาทองคำและราคาน้ำมัน คาดว่าราคา Silver ในสัปดาห์นี้คาดว่ามีแนวโน้ม side way down โดยมี upside gain ที่จำกัด โดยมีแนวต้านที่บริเวณ 41.2 สัปดาห์นี้คาดว่าแกว่งตัวในกรอบ 38.5 – 41.2 USDต่อออนซ์ iShares Silver Trust ถือครองโลหะเงินเท่าเดิมจำนวน 9,915.86 ตัน คาดว่า Silver ในวันนี้มีแนวรับบริเวณ 39.5 แนวต้านบริเวณ 41.2 คำแนะนำ Trading ในกรอบ 39.5 – 41.2 เปิด short บริเวณ 41.2 โดยมีการขายทำกำไรที่ 39.5

 

o SPDR ซื้อทองคำเพิ่มจำนวน 3.03 ตันอยู่ที่ระดับ 1,244.8 ตัน

 

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,580 – 1,650 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,595 – 1,636 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,550 – 1,700 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook....lassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 28 กรกฎาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

 

ฝ่ายวิจัย CGF คาดว่าราคาทองคำมีแนวรับที่ 1606/1595 แนวต้านที่ 1620/1624 แนวโน้มราคาทองคำราย 4 ชม Moving average 4 วันตัด 9 วันในทิศทางลง MACD ตัดเส้นsignal ในทิศลง Scholastic ตัดในโซนoverbought

 

ทางเลือกของโอบาม่า

 

ราคาทองคำในตลาดเอเชียเปิดตลาดช่วงเช้าที่บริเวณ 1,615 USDต่อออนซ์ โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวบริเวณ 1612-1617 USDต่อออนซ์ โดยมีประเด็นด้านปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อราคาทองคำในช่วงนี้ ได้แก่ ปัญหาการปรับเพดานหนี้สหรัฐที่ยังไม่มีความคืบหน้ากับการอ่อนตัวของค่าของเงินดอลลาร์

จากกรณีปัญหาของสภาคองเกรสสหรัฐที่ไม่สามารถบรรลุข้อตกลงปรับเพิ่มเพดานหนี้ ทำให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามาจำเป็นต้องตัดสินใจว่าจะเลือกใช้วิธีการใดในการจัดการต่อวิกฤตการณ์ครั้งนี้ อย่างไรก็ดีมีทางเลือก 3 แบบ ที่ปธน.โอบามาอาจจะพิจารณานำมาใช้ หากการเจรจายังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ได้ ก่อน 2 สค.

 

ทางเลือกแรกคือการขายสินทรัพย์ของรัฐบาลสหรัฐ โดยทางกระทรวงการคลังสหรัฐอาจพิจารณาขายสินทรัพย์บางรายการของรัฐบาลซึ่งรวมถึงทองและหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (MBS) แต่ว่าทางเลือกนี้ก็มีข้อเสียที่สำคัญ คือ จะทำให้ประชาคมโลกมองว่าสหรัฐประสบความยากลำบากในการทำตามภาระผูกพัน นอกจากนี้รัฐบาลอาจจำเป็นต้องขายสินทรัพย์ในราคาที่ต่ำมาก และการขายสินทรัพย์นี้อาจช่วยต่อเวลาให้รัฐบาลได้ไม่นานนัก

 

ทางเลือกที่สองคือการจัดลำดับความสำคัญในการชำระเงิน กระทรวงการคลังก็อาจพิจารณาเรื่องการชะลอเวลาในการจ่ายเงินให้แก่ผู้รับสวัสดิการ, พนักงานภาครัฐ, ผู้รับเหมาภายนอก หรือคู่สัญญาอื่นๆ เพื่อเป็นการรับประกันว่ากระทรวงการคลังจะมีเงินสดอยู่ในมือเพื่อใช้ในการจ่ายดอกเบี้ยให้แก่เจ้าหนี้ของทางกระทรวง ถ้าหากการเจรจากับผู้นำสภาคองเกรสเรื่องเพดานหนี้ประสบความล้มเหลวปธน.โอบามาก็จะต้องตัดสินใจว่าเขาจะทำเช่นใดต่อกำหนดการของรัฐบาลสหรัฐในการจ่ายเงินสวัสดิการสังคม 4.9 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันที่ 3 ส.ค.

 

ทางเลือกสุดท้าย คือ การขอความช่วยเหลือจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีสัญญาณบ่งชี้ว่าเจ้าหน้าที่การเงินกำลังประสานงานกันอย่างใกล้ชิดในการแก้ไขปัญหาหนี้ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายไกธ์เนอร์ได้ประชุมกับนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด และนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ค เนื่องจากเฟดสาขานิวยอร์คติดต่อกับตลาดการเงินอย่างใกล้ชิด เฟดจึงมีบทบาทสำคัญในการสอดส่องดูปฏิกิริยาในตลาดถ้าหากมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐหรือมีการผิดนัดชำระหนี้ของสหรัฐ โดยเฟดเคยดำเนินบทบาทเช่นนี้มาแล้วในช่วงที่เกิดวิกฤติการเงินปี 2008 หลังการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส

 

จาก 3 ทางเลือกดังกล่าว ทางเลือกที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด อาจเป็นการให้เฟดเข้ามาช่วยเหลือ เหมือนกับที่เฟดมีบทบาทในช่วงวิกฤตเลห์แมน บราเธอร์ส แต่ก็ยังมีข้อโต้แย้งว่า เฟดไม่ควรเข้ามา เพราะเฟดไม่มีหน้าที่ในการใช้นโยบายการคลัง

 

สำหรับค่าเงินสกุลดอลลาร์ในช่วงนี้เทียบกับเงินสกุลอื่นๆ จะพบว่าเงินดอลลาร์มีการลดระดับลงซึ่งเป็นระดับที่ต่ำสุดในรอบ 3 เดือนในช่วงนี้ ขณะที่ยูโรได้รับแรงกดดันหลังจากสแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ปรับลดอันดับความ น่าเชื่อถือของกรีซ ลงสู่ CC จาก CCC และระบุว่าข้อเสนอของสหภาพยุโรป (อียู) ในการปรับโครงสร้างหนี้กรีซ อาจทำให้กรีซ ผิดนัดชำระหนี้บางส่วน แม้ว่าผู้นำหลายๆประเทศในยูโรโซนจะอนุมัติแผนช่วยเหลือกรีซมูลค่า 1.09 แสนล้านยูโร หรือ 1.58 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อที่จะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินของกรีซ อย่างไรก็ตาม S&P ระบุว่า แผนการนี้ดูจะไม่เป็นที่พอใจของนักลงทุน และเตือนว่ากรีซอาจจะเผชิญกับการผิดนัดชำระหนี้บางส่วน ซึ่งอาจจะทำให้กรีซมีแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือเป็นลบ ความเคลื่อนไหวของ S&P ครั้งนี้มีขึ้น 2 วันหลังจากที่มูดีส์ สถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถืออีกแห่งหนึ่งได้ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อ ถือกรีซลง จากวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยมูดีส์ลดอันดับความน่าเชื่อถือกรีซ 3 ขั้น สู่ระดับ Ca ซึ่งสูงกว่าระดับการผิดนัดชำระหนี้อยู่เพียง 1 ขั้นนอกจากนี้ ฟิทช์ เรทติ้งส์ เตือนว่าอาจจะปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือพันธบัตรรัฐบาลของกรีซลงสู่ระดับ ผิดนัดชำระหนี้ จากผลมาจากแผนการใหม่ของยูโรโซนที่ดึงธนาคารพาณิชย์และภาคเอกชนเข้ามา ร่วมแบกรับภาระในการกู้วิกฤติหนี้กรีซ

 

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

 

ฝ่ายวิจัย CGF คาดว่าราคาทองคำมีแนวรับที่ 1606/1595 แนวต้านที่ 1620/1624 แนวโน้มราคาทองคำราย 4 ชม Moving average 4 วันตัด 9 วันในทิศทางลง MACD ตัดเส้นsignal ในทิศลง Scholastic ตัดในโซนoverbought คาดว่าแนวโน้มระยะสั้นจะมีการปรับลดลง ราคาโลหะเงินแนวรับที่ 39.6 แนวต้านที่ 41.2 เมือพิจารณาราคาราย 4ชม Moving average 4 วันตัด 9 วันในทิศทางลง คาดว่าแนวโน้มside way down

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook....lassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 29 กรกฎาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดลดลง 1.70 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,613.40 USDต่อออนซ์ เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีกว่าคาด ค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น รวมถึงการคาดการณ์ในตลาดว่า ในที่สุดแผนขยายเพดานหนี้จะผ่านรัฐสภาของสหรัฐ

 

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,602.80 – 1,620.60 ราคาทองคำปรับตัวลดลงแรงมาทำจุดต่ำสุดระหว่างวันที่ 1,602.80 เนื่องจากมีข่าวลือในตลาดว่า จะมีข้อยุติในเรื่องปรับลดการใช้จ่ายและการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ แต่ในขณะนี้สหรัฐยังไม่มีข้อยุติในเรื่องนี้ และเลื่อนการลงคะแนนเสียงรับรองแผนของโบเนอร์จากวันที่ 28 ก.ค. คาดว่าจะเป็นภายในสุดสัปดาห์นี้ ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นและมาปิดตลาดที่ 1,613.40 แนวโน้มในช่วงนี้ ตลาดยังรอผลเรื่องการปรับลดงบประมาณและการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ โดยมีแรงซื้อหนาแน่นเมื่อราคาปรับตัวลดลงแรง คาดว่าวันนี้จะแกว่งตัวรอข่าวอยู่ในกรอบ 1,602 - 1,628 นักลงทุนคาดการณ์ว่าเมื่อถึงใกล้กำหนดเส้นตายวันที่ 2 ส.ค. รัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านจะตกลงกันได้ในเรื่องการปรับลดค่าใช้จ่าย ทำให้คาดว่า ราคาทองคำจะผันผวนและปรับตัวลดลงไปที่แนวรับบริเวณ 1,602/1,586 แนะนำ รอซื้อบริเวณแนวรับ 1,602/1,586 หรือเปิด Short เล่นสั้นบริเวณแนวต้าน 1,620

 

o ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 1.431 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อยูโร ขณะที่นักลงทุนจับตาดูผลการลงมติร่างกฎหมายปรับเพิ่มเพดานหนี้ ( - )

 

o เงินบาทอ่อนค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 29.75 บาทต่อ USD

 

o ราคาน้ำมัน Nymex ปิดที่ 97.44 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับเพิ่ม 0.04 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากมีรายงานว่าพายุโซนร้อน "ดอน" เตรียมกระหน่ำชายฝั่งรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ส่งผลให้โรงกลั่นน้ำมันบางแห่งต้องปิดทำการ ( + )

 

o ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 12,240.11 จุด ปรับลดลง 62.44 จุด ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเพดานหนี้ ( +/- )

 

o ตัวเลขเศรษฐกิจสหรํฐที่ประกาศออกมาดีกว่าคาด จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 24,000 ราย สู่ 398,000 ราย ( - )

 

o ราคา Silver ปิดลดลง 0.77 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 39.79 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 39.30 – 40.60 USDต่อออนซ์ ราคา Silver ปรับลดลงตามราคาทองคำเมื่อค่าเงิน USD แข็งค่าขึ้น คาดว่าราคา Silver มีแนวโน้ม side way down มีแนวโน้มราคาจะอ่อนตัวลงไปที่แนวรับบริเวณ 38.3 ในระยะ 2-3 วัน ส่วนวันนี้มีแนวรับบริเวณ 38.7 คาดว่าวันนี้แกว่งตัวในกรอบ 38.7 – 41.0 USDต่อออนซ์ iShares Silver Trust ถือครองโลหะเงินเท่าเดิมจำนวน 9,915.86 ตัน คำแนะนำ Trading ในกรอบ 38.7 – 41.0

 

o SPDR ซื้อเพิ่ม 18.17 ตัน ถือทองคำจำนวน 1,262.97 ตัน

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,580 – 1,650 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,603 – 1,628 แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,550 – 1,700 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 1 สิงหาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวันศุกร์ปิดเพิ่มขึ้น 15.0 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,631.20 USDต่อออนซ์ เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐออกมาแย่กว่าคาดและเป็นผลจากการเลื่อนลงมติการขยายเพดานหนี้

 

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวันศุกร์มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,613.00 – 1,637.50 นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นเมื่อมีการประกาศตัวเลข GDP ในไตรมาสที่ 2 ลดลงเหลือเพียง 1.3% และGDP ในช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นเพียง 1.9% สำหรับปัจจัยที่จะมีผลต่อราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ผลของการเจรจาขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ และปัญหาหนี้ของกรีซและยุโรป โดยตลาดค่อนข้างให้น้ำหนักว่า สหรัฐจะประสบความสำเร็จในการเจรจาและขยายเพดานหนี้ได้สำเร็จ ส่วนผลกระทบต่อราคาทองคำในสัปดาห์นี้คาดว่าอาจปรับฐาน หลังจากการขยายเพดานหนี้สำเร็จ แต่อาจไม่รุนแรง เนื่องจากนักลงทุนยังมีความต้องการทองคำหนาแน่น เมื่อราคาอ่อนตัวลงมา และยังมีปัญหาหนี้ของยุโรป และการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐมีผลสนับสนุนราคาทองคำอยู่ คาดกรอบความเคลื่อนไหวในสัปดาห์นี้อยู่ระหว่าง 1,580 – 1,640

 

o ประธานาธิบดีบารัค โอบามาประกาศในเช้าวันนี้ว่า ผู้นำพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันได้บรรลุข้อตกลงที่จะลดการขาดดุลงบประมาณและหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้แล้ว( - )

 

o ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายสหัรฐ GDP ขยายตัว 1.3% ในไตรมาส 2 ( - )

 

o ค่าเงิน USD อ่อนตัวที่ระดับ 1.438 USDต่อยูโร ปรับตัวอ่อนค่าลง ( - )

 

o ราคาน้ำมัน Nymex ปิดที่ 95.7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับลด 1.74 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากตัวเลขGDP ที่อ่อนแอ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้ (-)

 

o ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดลดลง 96.87 จุดปิดที่ 12,143.24 จุด เนื่องจาก นักลงทุนกังวลในเรื่องการชะลอตัวทางเศรษฐกิจและการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ (+)

 

o ราคา Silver ปิดเพิ่มขึ้น 0.31 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 40.11 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 39.73 – 40.41 USDต่อออนซ์ ราคา

Silver ปรับเพิ่มขึ้นตามราคาทองคำ คาดว่าราคา Silver ในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 38.0 – 41.2 USDต่อออนซ์ สำหรับวันนี้คาดว่า Silver มีแนวรับบริเวณ 38.2 แนวต้านบริเวณ 40.1 คำแนะนำ Trading ในกรอบ 38.2 – 40.1

 

o SPDR ซื้อทองคำเพิ่ม 0.61 ตันอยู่ที่ระดับ 1263.58 ตัน (+)

 

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,585 – 1,630 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,600 – 1,620

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,433 – 1,700 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 1 สิงหาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ราคาทองคำมีแนวรับที่1,602 แนวต้านที่1,618 แนวโน้มราคาระยะยาวยังเป็นช่วงขาขึ้น แต่แนวโน้มระยะสั้นเป็นช่วง side way down ราคามีการปิด gap ที่ 1605 แต่ก็มี gap ขนาดใหญ่เกิดขึ้นบริเวณ 1617-1625 คาดว่าในอนาคตราคาน่าจะมีการปรับขึ้นไปที่ระดับดังกล่าว

 

เพดานหนี้สหรัฐใกล้ได้ข้อสรุป

 

ราคาทองคำในตลาดเอเชียเปิดตลาดตอนเช้าที่บริเวณ 1,612.7 USDต่อออนซ์ โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1611-1617 USDต่อออนซ์ ขณะที่ประเด็นด้านปัจจัยพื้นฐานที่ส่งผลต่อราคาทองคาในช่วงนี้ ได้แก่ การที่รัฐบาลสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงในการปรับเพิ่มเพดานหนี้สหรัฐ แต่ข้อตกลงดังกล่าวยังต้องรอสภาคองเกรสอนุมัติ ทำให้คาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรและราคาทองจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงหลังจากสภาคองเกรสลงมติผ่านกฎหมายขยายเพดานหนี้แล้ว

 

จากการแถลงการของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ในช่วงเช้า ที่ 1 สค. ตามเวลาไทยว่า รัฐบาลสหรัฐได้บรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดานหนี้และการลดยอดขาดดุลงบประมาณ ร่วมกับผู้นำพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตแล้ว ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตการผิดนัดชำระหนี้ได้ โดยรัฐบาลสหรัฐจะต้องปรับลดการใช้จ่ายมูลค่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในระยะเวลา 10 ปี และจะปรับเพิ่มเพดานหนี้จาก 14.3 ล้านล้านดอลลาร์ไปจนถึงปี 2555 นอกจากนี้ ยังเรียกร้องให้มีการบังคับใช้กฎหมายการลดตัวเลขหนี้ ระยะยาวของรัฐบาลกลางลงอีก 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปี 2564ซึ่งร่างกฎหมายการปรับเพิ่มเพดานหนี้จะต้องมีขั้นตอนการผ่านความเห็นชอบจากทั้งสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาสหรัฐเสียก่อน

 

ข้อตกลงดังกล่าวจะช่วยขจัดความไม่แน่นอนในระบบเศรษฐกิจและตลาดการเงินของสหรัฐ และจะช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ และจะช่วยยุติวิกฤตการณ์ในสหรัฐได้ ข้อตกลงดังกล่าวจะดำเนินการใน 2 ขั้นตอน ซึ่งจะช่วยให้เพดานหนี้ของรัฐบาลกลางสหรัฐปรับเพิ่มขึ้นอีกอย่างน้อย 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมากพอที่จะช่วยให้ทำเนียบขาวมีงบประมาณเพียงพอในการใช้จ่ายได้จนถึงหลังการเลือกตั้งปี 2555 ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าในที่สุดแล้วทั้งฝ่ายจะตกลงกันได้ในที่สุดเหมือนเช่นการขยายเพดานหนี้หลายครั้งที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตาม ประเด็นการขยายเพดานของสหรัฐเป็นความขัดแย้งที่เกิดจากประเด็นเรื่องการเมืองมากกว่าประเด็นด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากพรรครีพับลิกันต้องการให้การตัดลดงบประมาณมากกว่าการขยายเพดานหนี้โดยไม่ต้องการให้ขึ้นภาษี ซึ่งถ้าหากมีการขึ้นภาษีจะกระทบกับฐานเสียงของพรรครีพับลิกันซึ่งเป็นคนรวยเสียส่วนใหญ่ ส่วนพรรคเดโมแครตไม่ต้องการให้ลดสวัสดิการสังคมลดเงินเดือน ซึ่งจะกระทบกับฐานเสียงของพรรคเดแครตซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนชั้นกลาง ทั้ง 2 ฝ่ายขัดแย้งกันเพื่อป้องกันฐานเสียงของตน แต่เมื่อประเมินแล้วการไม่เพิ่มเพดานหนี้จะกระทบในวงกว้างและมีความเสียหายต่อประเทศในส่วนรวม ทั้ง 2 ฝ่ายจึงต้องรอมชอมกันในที่สุด

 

ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการประกาศไปเมือสัปดาห์ก่อน โดยที่ GDP สหรัฐ มีการขยายตัวน้อยกว่าคาดในไตรมาส 2 ขณะที่การใช้จ่ายของผู้บริโภคแทบไม่ได้เพิ่มขึ้นขณะที่ราคาน้ำมันเบนซินปรับตัวขึ้นทั้งนี้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 1.3% ในไตรมาส 2 และมีการปรับลดตัวเลขการขยายตัวของจีดีพีไตรมาสแรกลงเหลือ0.4% จาก 1.9% นักเศรษฐศาสตร์คาดไว้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะขยายตัว 1.8% ในไตรมาส 2

 

ข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ (1-5 ส.ค.) มีดังนี้ ในวันจันทร์มีดัชนี ISM ภาคการ ผลิตเดือนก.ค. และข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเดือนมิ.ย.วันอังคาร มีตัวเลขรายได้ส่วนบุคคลเดือนมิ.ย. วันพุธ มีเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานทั่วประเทศเดือนก.ค.และดัชนี ISM ภาคบริการและ ดัชนีกิจกรรมทางธุรกิจเดือนก.ค.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยยอดสั่งซื้อของโรงงานเดือนมิ.ย. ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดีจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์วันศุกร์ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.ค.

 

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

 

ราคาทองคำมีแนวรับที่1,602 แนวต้านที่1,618 แนวโน้มราคาระยะยาวยังเป็นช่วงขาขึ้น แต่แนวโน้มระยะสั้นเป็นช่วง side way down ราคามีการปิด gap ที่ 1605 แต่ก็มี gap ขนาดใหญ่เกิดขึ้นบริเวณ 1617-1625 คาดว่าในอนาคตราคาน่าจะมีการปรับขึ้นไปที่ระดับดังกล่าว

ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 38.2 และแนวต้านที่ 39.8/40.1 แนวโน้มสัญญายังไม่ชัดเจนคาดว่า side way down

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 2 สิงหาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดลดลง 9.50 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,621.70 USDต่อออนซ์ ราคาปรับตัวลดลงแรงในตลาดเอเชียจากเรื่องการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐที่ตกลงกันได้ แต่ในตลาด COMEX ราคาวิ่งกลับขึ้นมาสูงกว่า 1,630 อีกครั้ง เมื่อตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด

 

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,608.20 – 1,634.50 โดยราคาปรับตัวลดลงแรงในตลาดเอเชียจากเรื่องการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐที่ตกลงกันได้ แต่ในตลาด COMEX ราคาวิ่งกลับขึ้นมาสูงกว่า 1,630 อีกครั้ง เมื่อตัวเลข ISM ภาคอุตสาหกรรมลดลงมาอยู่ที่ระดับ 50.9 จาก 55.3 เป็นอัตราต่ำสุดในรอบ 2 ปี รวมถึงการประกาศตัวเลข GDP ในครึ่งปีแรกเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ออกมาแย่กว่าคาด แสดงถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่อ่อนแอกว่าคาด สนับสนุนให้ราคาทองคำปรับสูงขึ้นมาทำ high ระหว่างวันที่ 1,634.50 USDต่อออนซ์

 

o ราคาทองคำในช่วงนี้แกว่งตัวผันผวน และมีลักษณะ side way สำหรับวันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,627/1,634 ส่วนแนวรับบริเวณ 1,607/1,601 ปัจจัยบวกในช่วงนี้ ได้แก่ การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแย่กว่าคาด ทำให้อาจกลับมาพูดถึง QE3 กันอีก ส่วนปัจจัยลบ คือ การลงมติของวุฒิสภาในการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐในคืนนี้ และค่าเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้น โดยตลาดให้น้ำหนักการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐมากขึ้น หลังจากการขยายเพดานหนี้เริ่มมีทางออก ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ได้แก่ การใช้จ่ายส่วนบุคคลในคืนนี้ ดัชนีการจ้างงานนอกภาคการผลิตในวันพรุ่งนี้ ในวันพฤหัส ISM ภาคการบริการและยอดขอสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์

 

o สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ผ่าน ก.ม. การปรับลดการใช้จ่ายของรัฐลง 1 ล้านล้านUSD ภายใน 10 ปี และเพิ่มเพดานหนี้อีก 2.1 ล้านล้านUSD ส่วนการลงมติของวุฒิสภาจะมีขึ้นในอังคารที่ 2 ส.ค.ตามเวลาในสหรัฐ(คืนนี้ตามเวลาในไทย) ( - )

 

o ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 1.427 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร หลังจากผู้นำพรรครีพับลิกันและเดโมแครตได้บรรลุข้อตกลงการปรับเพิ่มเพดาน หนี้ ( - )

 

o ราคาน้ำมัน Nymex ปิดที่ 94.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับลดลง 0.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในสหรัฐ และจีน( + )

 

o ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 12132.49 จุด ปรับลดลง 10.75จุด หลังจากสหรัฐเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตที่ชะลอตัวลงในเดือนก.ค. (+)

 

o ราคา Silver ปิดลดลง 0.80 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 39.31 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 39.04 – 40.07 USDต่อออนซ์ ราคา Silver ปรับลดลงตามราคาทองคำ คาดว่าราคา Silver ในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 38.0 – 41.2 USDต่อออนซ์ iShares Silver Trust ขายทองคำออก 90.93 ตัน ถือทองคำจำนวน 9,824.93ตัน สำหรับวันนี้คาดว่า Silver มีแนวรับบริเวณ 39.0 / 38.2 แนวต้านบริเวณ 40.0 คำแนะนำ Trading ในกรอบ 38.2 – 40.0

 

o SPDR ถือทองคำจำนวนเท่าเดิม 1263.58 ตัน

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,585 – 1,630 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,600 – 1,634

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,433 – 1,700 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 2 สิงหาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ฝ่ายวิจัยCGF คาดว่าราคาทองคำมีแนวรับที่1,602 แนวต้านที่1,632 แนวโน้มราคาระยะยาวยังเป็นช่วงขาขึ้น แต่แนวโน้มระยะสั้นเป็นช่วง side way ราคามีการปิด gap ที่ 1617-1625 คาดว่าราคายังมีแนวโน้ม side way up

 

ราคาผันผวนแต่ไม่น่าหลุด 1,600

 

ราคาทองคำในตลาดเอเชียเปิดตลาดตอนเช้าที่บริเวณ 1,619.7 USDต่อออนซ์ โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1619-1626 USDต่อออนซ์ ราคาทองทรงตัวในช่วงเช้าวันนี้ โดยได้แรงหนุนจากการเข้าซื้อทองของธนาคารกลางเกาหลีใต้ ขณะที่นักลงทุนจับตาการลงมติเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐแม้นว่า สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐผ่านร่างกฏหมายเพิ่มเพดานหนี้แล้วด้วยคะแนนเสียง 269-161 เสียง ขณะที่วุฒิสภาจะลงมติในคืนวันอังคารเวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย

 

สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของสหรัฐลงมติผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ ของสหรัฐจากระดับ 14.3 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน ก่อนที่จะถึงเส้นตายในวันอังคาร 2 ส.ค. โดยการปรับเพิ่มเพดานหนี้ในครั้งนี้จะช่วยให้สหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงจากการผิดนัด ชำระหนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ วุฒิสภาสหรัฐที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก จะลงมติต่อร่างกฎหมาย โดยร่างกฏหมายฉบับนี้จะต้องได้รับ คะแนนเสียงรับรอง 60 เสียงในการผ่านวุฒิสภาซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 100 คน และหากร่างกฎหมายดังกล่าวผ่านการอนุมัติ ก็จะถูกส่งต่อไปยังประธานาธิบดีบารัค โอบามาเพื่อลงนามเป็นกฏหมายต่อไป

 

ส่วนราคาทองคำในเอเชียที่ปรับเพิ่มขึ้นในเช้าวันอังคาร คาดว่าเพราะธนาคารกลางเกาหลีใต้ได้เข้าซื้อทองมากถึง 25 ตันเปรียบกับช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการซื้อทองครั้งแรกในรอบกว่า 1 ทศวรรษ โดยเปิดเผยว่าถึงเวลาเหมาะสมที่จะเพิ่มปริมาณการถือครองทองแล้ว แต่ตลาดก็แทบไม่เคลื่อนไหวจากข่าวดังกล่าว ธนาคารกลางเกาหลีใต้เปิดเผยว่า ขณะที่ราคาทรงตัวใกล้ระดับสูงเป็นประวัติการณ์ ทองจึงทำกำไรได้น้อยลงในด้านการลงทุน แต่ก็ถึงเวลาเหมาะสมที่จะซื้อทองเนื่องจากทุนสำรองเงินตราระหว่างประเทศของเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นสูงกว่า 3.00 แสนล้านดอลลาร์แล้ว การซื้อทองครั้งล่าสุดนี้มีมูลค่า 1.24 พันล้านดอลลาร์ แต่ธนาคารกลางไม่ได้เปิดเผยว่า ได้เข้าซื้อทองแท่ง หรือกองทุนทอง

 

ประเด็นการช่วยเหลือหนี้กรีซสถาบัน IIF เชื่อมั่นการสว็อปหนี้กรีซประสบความสำเร็จ นายชาร์ลส์ ดัลลารา กรรมการผู้จัดการของสถาบันการเงินระหว่างประเทศ(IIF) ซึ่งเป็นสมาคมของธนาคารทั่วโลก เปิดเผยในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ของกรีซว่า การสว็อปพันธบัตรกรีซที่ถือครองโดยเอกชนโดยสมัครใจอันเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการช่วยเหลือกรีซนั้นจะประสบความสำเร็จ และจะช่วยให้กรีซสามารถกลับเข้าสู่ตลาดพันธบัตรได้อย่างช้าที่สุดในช่วงต้นปี 2014 ภายใต้แผนการดังกล่าว ธนาคารและบริษัทประกันได้รับเชิญให้เข้าร่วมโครงการสว็อปพันธบัตรรัฐบาลกรีซโดยสมัครใจ ได้เปลี่ยนไปถือครองพันธบัตรที่มีอายุไถ่ถอนนานขึ้นที่ระดับอัตราดอกเบี้ยต่ำลง IIF เป็นกลุ่มล็อบบี้ของธนาคารที่ช่วยประสานการเจรจาเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนพันธบัตรซึ่งเริ่มขึ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดย IIF ประมาณการว่าประมาณ 90% ของเอกชนที่ถือครองพันธบัตรกรีซที่ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2020จะเข้าร่วมโครงการดังกล่าว นายดัลลาราปฏิเสธความวิตกของนักวิเคราะห์ที่ว่า มาตรการช่วยเหลือล่าสุดของกรีซจะเป็นการแก้ปัญหาได้เพียงชั่วคราว แต่จะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างถาวร

 

สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตชะลอตัวลงเกินคาดในเดือนก.ค. โดยดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศลดลงสู่ 50.9 ในเดือนก.ค. จาก 55.3 ในเดือนมิ.ย.คาดไว้ว่า ดัชนี ISMภาคการผลิตจะอยู่ที่ 54.9 ในเดือนก.ค. ข้อมูลค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างเพิ่มขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย.สู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน โดยเพิ่มขึ้น 0.2% สู่7.7232 แสนล้านดอลลาร์ หลังเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค. คาดไว้ว่า ค่าใช้จ่ายด้านการก่อสร้างจะทรงตัวในเดือนมิ.ย.

 

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

 

ฝ่ายวิจัยCGF คาดว่าราคาทองคำมีแนวรับที่1,602 แนวต้านที่1,632 แนวโน้มราคาระยะยาวยังเป็นช่วงขาขึ้น แต่แนวโน้มระยะสั้นเป็นช่วง side way ราคามีการปิด gap ที่ 1617-1625 คาดว่าราคายังมีแนวโน้ม side way up

ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 38.7/38.2 และแนวต้านที่ 40.2 แนวโน้มสัญญายังไม่ชัดเจนคาดว่า side way ออกข้าง

 

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 3 สิงหาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดเพิ่มขึ้น 22.80 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,644.50 USDต่อออนซ์ ราคาปรับตัวขึ้นแรงเมื่อนักลงทุนกังวลในการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่าวุฒิสภาจะผ่านก.ม.ขยายเพดานหนี้แล้ว แต่ไม่ทำให้ราคาทองปรับลดลง

 

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,618.80 – 1,664.50 โดยราคาปรับตัวขึ้นแรงเมื่อนักลงทุนกังวลในการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ แม้ว่าวุฒิสภาจะผ่านก.ม.ขยายเพดานหนี้แล้ว แต่ไม่ทำให้ราคาทองปรับลดลง นอกจากนี้นักลงทุนยังกังวลในเรื่องปัญหาหนี้ของยุโรป เมื่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของอิตาลีและสเปนปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 14 ปี

 

o ราคาทองคำปรับขึ้นแรงเกินความคาดหมาย โดยทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1,664.50 USDต่ออออนซ์ เมื่อมีแรงซื้อหนาแน่นจากทั้งกองทุน ETF และธนาคารกลางในเอเชีย โดย SPDR ซื้อทองคำเพิ่ม 18.17 ตัน ธนาคารกลางของเกาหลีใต้ซื้อทองคำเพิ่มขึ้น 25 ตัน สำหรับวันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 1,664 ส่วนแนวรับบริเวณ 1,638 ปัจจัยบวกในช่วงนี้ ได้แก่ การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมาแย่กว่าคาด ส่วนปัจจัยลบ คือ ค่าเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้น โดยตลาดให้น้ำหนักการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และปัญหาหนี้ของยุโรปมากขึ้น หลังจากจบเรื่องการขยายเพดานหนี้ของสหรัฐ ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีการจ้างงานนอกภาคการผลิต ดัชนี ISM ภาคการบริการและยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงาน

 

o การประกาศตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาแย่กว่าคาด การใช้จ่ายส่วนบุคคลลดลง -0.2% MoM แต่ดัชนีราคาใช้จ่ายพื้นฐานส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.1% MoM ต่ำกว่าคาด ( + )

 

o มูดีส์ยังคงให้อันดับเครดิตแก่สหรัฐเท่าเดิมที่ระดับ AAA แต่เตือนอาจปรับลดลงถ้าไม่มีมาตรการลดหนี้สาธารณะ และเศรษฐกิจยังคงอ่อนแอ (+ )

 

o ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าอยู่ที่ระดับ 1.419 ดอลลาร์สหรัฐต่อยูโร จากการที่วุฒิสภาสหรัฐมีมติรับรองร่างกฎหมายปรับเพิ่มเพดานหนี้ ( - )

 

o ราคาน้ำมัน Nymex ปิดที่ 94.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับลดลง 0.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากสหรัฐเปิดเผยว่าตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคหดตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบ เกือบ 2 ปี ( - )

o ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 11,866.62 จุด ปรับลดลง 256.87 จุด เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจของสหรัฐ (+)

 

o ราคา Silver ปิดเพิ่มขึ้น 0.780 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 40.09 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 39.21 – 40.89 USDต่อออนซ์ ราคา Silver ปรับขึ้นตามราคาทองคำ คาดว่าราคา Silver ในสัปดาห์นี้แกว่งตัวในกรอบ 38.0 – 41.2 USDต่อออนซ์ iShares Silver Trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าดิม 9,824.93 ตัน สำหรับวันนี้คาดว่า Silver มีแนวรับบริเวณ 39.2 / 38.2 แนวต้านบริเวณ 41.4 คำแนะนำ Trading ในกรอบ 39.2 – 41.4

 

o SPDR ซื้อทองคำเพิ่ม 18.17 ตัน ถือทองคำจำนวน 1281.75 ตัน

 

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,600 – 1,664 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,625 – 1,664

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,433 – 1,700 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 3 สิงหาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด (ช่วงเย็น)

 

ฝ่ายวิจัยCGF คาดว่าราคาทองคำมีแนวรับที่1,650/1,640 แนวต้านที่1,680 แนวโน้มราคาระยะยาวยังเป็นช่วงขาขึ้น แต่แนวโน้มระยะสั้น RSI กับ Scholastic เข้าสภาวะ overbought คาดว่าราคาจะเพิ่มอีกเล็กน้อยก่อนปรับตัวลง

 

ราคาทองคำในตลาดเอเชียเปิดตลาดตอนเช้าที่บริเวณ 1,653 USDต่อออนซ์ โดยมีกรอบการเคลื่อนไหวระหว่าง 1653-1671 USDต่อออนซ์ ราคาปรับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่า มูดี้จะคงอันดับความน่าเชือถือของสหรัฐ ที่ AAA โดยราคาทองยังมีปัจจัยสนับสนุนจากสถานการณ์ความวุ่นวายในตลาดเงินของอิตาลีเมื่ออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีพุ่งสูงสุดในรอบ 14 ปี ส่งผลให้นักลงทุนเกิดความกังวลว่าอิตาลีต้องประสบปัญหาวิกฤติหนี้เช่นเดียวกับกรีซ

 

มูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ AAAของสหรัฐ เนื่องจากสหรัฐขยายเพดานหนี้ได้สำเร็จก่อนที่จะผิดนัดชำระหนี้ แต่ยังคงแนวโน้มในเชิงลบ ซึ่งอาจกดดันให้สมาชิกสภานิติบัญญัติทำการปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐ ทั้งนี้ แนวโน้มในเชิงลบของมูดี้ส์บ่งชี้ว่า ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือลงในช่วง 12-18 เดือนข้างหน้า ประธานาธิบดีบารัค โอบามาได้ลงนามในร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐแล้ว ก่อนกำหนดเส้นตายเพียงไม่กี่ชั่วโมง โดยกฎหมายฉบับนี้จะปรับเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐขึ้นจากระดับ 14.3 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน และจะปรับลดยอดขาดดุลงบประมาณของสหรัฐลงในช่วงเวลา 10 ปีข้างหน้า โดยที่ ปธน.โอบามากล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้ถือเป็นขั้นตอนสำคัญขั้นตอนแรกในการรับประกันว่า สหรัฐจะใช้จ่ายเงินไม่เกินฐานะของประเทศ และสหรัฐจำเป็นต้องมีแนวทางสร้างความสมดุลระหว่างการปรับลดงบประมาณรายจ่ายกับการปรับขึ้นภาษี ทางด้านมูดี้ส์มองว่าภาวะเศรษฐกิจอาจอยู่ในระยะปรับตัว หรืออาจเป็นสัญญาณว่า วิกฤติการเงินได้ส่งผลกระทบอย่างถาวรต่อแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

 

อย่างไรก็ดี มีอีกประเด็นที่น่าสนใจคือ การที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีและสเปนเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี โดยอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรอายุ 5 ปีของอิตาลีเพิ่มสู่ระดับเดียวกับของสเปน ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าอิตาลีกำลังจะก้าวเข้ามาแทนที่สเปนในฐานะประเทศที่สร้างความวิตกกังวลต่อนักลงทุนในด้านความสามารถในการชำระหนี้ จากการที่อิตาลีมีหนี้สาธารณะสูงถึง 120 % ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ซึ่งถือว่าสูงเป็นอันดับสองของยูโรโซน โดยรองจากกรีซที่มีหนี้ราว 160 % ของจีดีพี ประกอบกับผลประกอบการไตรมาส 2 ของดอยช์ แบงก์แสดงให้เห็นว่า ดอยช์ แบงก์ลดปริมาณการลงทุนสุทธิในพันธบัตรรัฐบาลอิตาลีลงจาก 8 พันล้านยูโรในช่วงสิ้นปี 2010เหลือเพียง 997 ล้านยูโรในช่วงต้นเดือนก.ค. อันแสดงให้เห็นถึงว่าเยอรมันเห็นแนวโน้มโอกาสที่จะเกิดการผิดชำระหนี้ของอิตาลี และวิกฤตการเงินเหมือนกรีซ

 

เมือมาวิเคราะห์การช่วยเหลือทางการเงินที่ให้กับกรีซ โดยนายจอห์น กรีนวู้ด นักเศรษฐศาสตร์ผู้วางระบบผูกติดค่าเงินดอลลาร์ฮ่องกงกับดอลลาร์สหรัฐ เขาคาดว่ากรีซจะไม่น่าสามารถชำระคืนหนี้ตามเงื่อนไขของมาตรการช่วยเหลือทางการเงินล่าสุดได้ และควรจะถอนตัวจากยูโรโซน นายกรีนวู้ด เตือนว่าข้อจำกัดของสหภาพยุโรป ข้อจำกัดของมาตรการช่วยเหลือทางการเงินล่าสุดของสหภาพยุโรป(อียู)/กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) และเศรษฐกิจกรีซจะทำให้กรีซไม่สามารถชำระคืนหนี้ได้ นายกรีนวู้ดเตือนว่า สหภาพยุโรปโดยรวมยังคงอยู่ในอันตราย โดยระบุว่าประเทศส่วนใหญ่ในยูโรโซนขาดความยืดหยุ่นด้านค่าจ้าง, แรงงาน และเงินทุน

 

ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บางคนคิดว่า การถอนตัวจากสหภาพยุโรปจะกระตุ้นเศรษฐกิจของกรีซผ่านทางการลดค่าเงินอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะทำให้สินค้าส่งออกของกรีซมีราคาถูกกว่าสินค้าของประเทศคู่แข่งในยูโรโซน อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าการถอนตัวจากยูโรโซนจะยุ่งยากซับซ้อนอย่างมาก และอาจจะสร้างปัญหาอย่างอื่นให้ตามมาอีกมาก

 

การวิเคราะห์ทางเทคนิค

 

ฝ่ายวิจัย CGF คาดว่าราคาทองคำมีแนวรับที่1,650/1,640 แนวต้านที่1,680 แนวโน้มราคาระยะยาวยังเป็นช่วงขาขึ้น แต่แนวโน้มระยะสั้น RSI กับ Scholastic เข้าสภาวะ overbought คาดว่าราคาจะเพิ่มอีกเล็กน้อยก่อนปรับตัวลง ราคาโลหะเงินมีแนวรับที่ 40.2 และแนวต้านที่ 41.8 แนวโน้มระยะสั้นราคาคาดว่าจะเพิ่มไปอีกเล็กน้อย

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์แนวโน้มราคา ทองคำ และ เงิน วันที่ 4 สิงหาคม 2554

โดยบริษัท คลาสสิกโกลด์ฟิวเจอร์ส จำกัด

 

ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานปิดเพิ่มขึ้น 21.80 USDต่อออนซ์ปิดที่ 1,666.30 USDต่อออนซ์ เมื่อนักลงทุนกังวลในการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจมีการใช้มาตรการอัดฉีดเงินรอบใหม่ ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น

 

o ราคาทองคำในตลาด COMEX เมื่อวานมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,654.40 – 1,675.90 เมื่อนักลงทุนกังวลในการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และอาจมีการใช้มาตรการอัดฉีดเงินรอบใหม่และขยายเวลาการกำหนดอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำต่อไป ทำให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้นักลงทุนยังกังวลในเรื่องปัญหาหนี้ของยุโรป เมื่อผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของอิตาลีและสเปนปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 14 ปี

 

o ราคาทองคำปรับขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1,675.90 USDต่ออออนซ์ เมื่อนักลงทุนถือทองคำในฐานะเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย และถือเพื่อทดแทนเงินดอลล่าร์ และยูโรที่มีแนวโน้มผันผวนลดลงในระยะยาว และเข้าลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้นเมื่อตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลดลงจากความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจชะลอตัว อย่างไรก็ตาม สัญญาณทางเทคนิคในกราฟราย 4 ช.ม.คาดว่าอาจมีการปรับลดลงระหว่างวัน ส่วนกราฟรายวันเป็นลักษณะ Side way ออกด้านข้าง คาดว่ามีแนวต้านที่แข็งแกร่งบริเวณ 1,675 สำหรับวันนี้คาดแนวต้านบริเวณ 1,670 ส่วนแนวรับบริเวณ 1,650/1,638 ปัจจัยบวกในช่วงนี้ ได้แก่ การชะลอตัวของเศรษฐกิจของสหรัฐ เช่น ISM ภาคบริการชะลอตัวลงมาที่ 52.7 ยอดสั่งซื้อสินค้าโรงงานลดลง 0.8% ส่วนปัจจัยลบ คือ ค่าเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับเยนหลังจากธนาคารญี่ปุ่นประกาศแทรกแซงตลาดอัตราแลกเปลี่ยน ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น ส่วนตัวเลขเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ได้แก่ ยอดขอสวัสดิการการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการจ้างงานนอกภาคเกษตร อัตราการว่างงานของสหรัฐ

 

o ราคาน้ำมัน Nymex ปิดที่ 91.93 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ปรับลดลง 1.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจาก EIA เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่แล้วปรับตัวเพิ่มขึ้น( - )

 

o ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ 11,896.44 จุด ปรับเพิ่ม 29.82 จุด เมื่อนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากตลาดหุ้น นิวยอร์กลดลงอย่างหนักติดต่อกันหลายวัน (- )

 

o ราคา Silver ปิดเพิ่มขึ้น 1.67 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 41.76 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 40.58 – 42.06 USDต่อออนซ์ ราคาปรับขึ้นมาแรงถึง 4.16% โดยราคาวิ่งไล่ตามราคาทองคำขึ้นมาและผ่านแนวต้านบริเวณ 41.5 iShares Silver Trust ซื้อโลหะเงินเพิ่มขึ้น 33.59 ถือโลหะเงินจำนวน 9,858.52 ตัน สำหรับวันนี้คาดว่า Silver มีแนวรับบริเวณ 40.8 แนวต้านบริเวณ 42.5 คำแนะนำ Trading ในกรอบ 40.8 – 42.5

 

o SPDR ซื้อทองคำเพิ่ม 4.55 ตัน ถือทองคำจำนวน 1289.30 ตัน

 

 

แนวโน้มระยะสั้น : อยู่ในกรอบ 1,600 – 1,675 แนะนำ Trading ในกรอบ 1,638 – 1,670

แนวโน้มระยะยาว : อยู่ในกรอบ 1,550 – 1,700 ทยอยสะสม Long เมื่อราคาอ่อนตัว

 

อบรมทุกวันอังคารและพฤหัส ที่ออฟฟิศอาคารจตุรัสจามจุรี ชั้น 12

สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด เบอร์โทร 02 618 0808,

http://www.classicgoldfutures.co.th

http://www.classicgold.co.th

http://www.chiabsengheng.co.th

http://www.facebook.com/ClassicGoldGroup

http://www.youtube.com/ilovecgf

http://www.twitter.com/ilovecgg

http://classicgoldfutures.blogspot.com

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...