ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

1098127_592324624157875_81721888_n.jpg

 

สวัสดี news bas deb goldglod เพื่อนๆ คุณ

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 12 กันยายน 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2556 17:00:00 น.

รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นแตะที่ 7.772 พันล้านดอลลาร์ในเดือนก.ค. ลดลง 0.025% จากเดือนมิ.ย.

รายงานระบุว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่นับรวมไปถึงอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือและสาธารณูปโภคซึ่งมีความผันผวนสูง โดยยอดสั่งซื้อเครื่องจักรถือเป็นดัชนีชี้วัดการค่าใช้จ่ายด้านการลงทุนในอนาคตของธุรกิจ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

-- ธนาคารกลางเกาหลีใต้มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.5% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นเวลา 4 เดือนแล้ว

-- ธนาคารกลางนิวซีแลนด์มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2.5% โดยระบุว่าเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน และการชะลอตัวลงเศรษฐกิจใน 2 ประเทศที่เป็นตลาดส่งออกหลักของนิวซีแลนด์

-- แหล่งข่าวทางการทูตเปิดเผยว่า สมาชิกถาวร 5 ชาติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ประชุมกันเมื่อวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อหารือถึงวิกฤตอาวุธเคมีของซีเรีย แต่ไม่มีการบรรลุข้อตกลงใดๆ

-- กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐเปิดเผยว่า นายจอห์น แคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ และนายเซอร์ไก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศรัสเซีย จะหารือร่วมกันกรณีอาวุธเคมีของซีเรียที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้

-- สำนักงานสถิติของออสเตรเลีย (ABS) เปิดเผยในวันนี้ว่า อัตราว่างงานของออสเตรเลียในเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 0.1% สู่ระดับ 5.8% โดยจำนวนคนที่ว่างงานเพิ่มขึ้น 9,400 คน แตะ 714,100 คน

-- ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้ออกมาเรียกร้องชาวสหรัฐให้กดดันรัฐบาลสหรัฐให้ยอมรับข้อเสนอในการระบุให้ซีเรียส่งมอบอาวุธนิวเคลียร์ให้กับนานาประเทศดูแล ในขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซียและสหรัฐจะประชุมร่วมกันเพื่อหารือถึงข้อเสนอดังกล่าว

-- สื่อต่างประเทศรายงานว่า แหล่งข่าวคาดว่าคณะผู้ตรวจสอบอาวุธขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) จะรายงานผลการตรวจสอบประเด็นการโจมตีด้วยอาวุธเคมีของซีเรียในช่วงต้นสัปดาห์หน้า ในขณะที่กลุ่มสิทธิมนุษยชนชี้กองทัพของรัฐบาลซีเรียเป็นผู้ก่อเหตุดังกล่าว

-- สถาบันเพื่อการศึกษาระหว่างประเทศสหรัฐและเกาหลี สังกัดมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอพกิ้นส์ เปิดเผยภาพถ่ายดาวเทียมเมื่อวันที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งชี้ให้เห็นว่า มีไอสีขาวพุ่งออกมาจากอาคารแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นที่เก็บกังหันและเครื่องผลิตพลังงานของเตาปฏิกรณ์ขนาด 5 เมกะวัตต์ที่เมืองยองเบียน ซึ่งเป็นศูนย์นิวเคลียร์ที่สำคัญของเกาหลีเหนือ

-- นางหวัง เต๋า นักเศรษฐศาสตร์จากยูบีเอส ซีเคียวริตีส์ ไชน่า คาดการณ์ว่า การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนอาจจะไม่เผชิญกับภาวะผันผวนในระยะสั้น พร้อมกับคาดการณ์ว่า จีนจะสามารถบรรลุเป้าหมายการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของปีนี้ที่ 7.5%

-- รัฐบาลจีนได้ใช้แผนแม่บทเพื่อแก้ปัญหามลพิษในอากาศ โดยตั้งเป้าลดการผลิตถ่านหินลงมาให้เหลือต่ำกว่า 65% ของการใช้พลังงานทั้งหมด ภายในปี 2560

-- สำนักงานสถิติแห่งชาติของฝรั่งเศส (Insee) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนส.ค.ปรับตัวขึ้น 0.5% จากเดือนก.ค. และหากเทียบกับช่วงเดือนส.ค.ปีที่แล้ว ดัชนี CPI เพิ่มขึ้น 0.9%

-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียประกาศปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายอ้างอิงขึ้น 0.25% สู่ระดับ 7.25% ในวันนี้ ซึ่งได้สร้างความประหลาดใจแก่ตลาด โดยเป็นความพยายามที่จะหนุนค่าเงินรูเปียห์และสกัดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

-- ธนาคารกลางฟิลิปปินส์มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ ซึ่งถือเป็นการคงอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 7 แล้ว เพื่อสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ

ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากข้ามคืนไว้ที่ 3.5% และได้คงอัตราดอกเบี้ยเงินฝากพิเศษที่ 2%

-- เว็บไซต์ของสำนักพิมพ์ Washington Post เปิดเผยรายงานโดยอ้างอิงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สหรัฐและซีเรียว่า สหรัฐได้เริ่มส่งอาวุธให้กับกลุ่มต่อต้านรัฐบาลซีเรียในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งแสดงให้เห็นถึง "การเพิ่มบทบาทครั้งใหญ่ของสหรัฐ" ต่อวิกฤติซีเรีย

-- สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนในเดือนก.ค.ปรับตัวลง 1.5% จากเดือนมิ.ย. และหากเทียบรายปี การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวลง 2.1% ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคยังมีความไม่แน่นอน

-- นายวิลเลียม อาร์ โรดส์ ที่ปรึกษาอาวุโสจากซิตี้กรุ๊ประบุว่า นักลงทุนต่างชาติจำนวนมากมีมุมมองเชิงบวกต่อธนาคารพาณิชย์ของจีน แม้ว่าวาณิชธนกิจต่างชาติได้เทขายหุ้นธนาคารจีนเมื่อเร็วๆนี้

-- หน่วยงานด้านพลังงานของสหรัฐอนุญาตให้ส่งออกก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ที่ผลิตภายในประเทศไปยังญี่ปุ่น ภายใต้โครงการที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ซูมิโตโม คอร์ป และโดมิเนียน โคฟ พอยต์ แอลเอ็นจี แอลพี ของสหรัฐ

การอนุญาตครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่ให้สหรัฐส่งออก LNG ไปญี่ปุ่นหลังจากโครงการในรูปแบบเดียวกันนี้ของบริษัท ชูบุ อิเล็คทริค พาวเวอร์ จำกัด และโอซาก้า แก๊ซ ได้รับการอนุมัติเมื่อเดือนพ.ค. จากการอนุมัติครั้งล่าสุดนี้ บริษัท ซูมิโตโม คาดว่า จะเริ่มนำเข้า LNG ประมาณปี 2560

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปนัยดา ปัทมโกวิท โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

ราคาทองคำฮ่องกงปิดตลาดวันนี้ ลดลงแตะ 12,488 HKD/tael

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2556 16:42:52 น.

สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 202 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,488 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,350.86 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 21.85 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 12 กันยายน 2556 โดย YLG

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- พฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2556 17:03:55 น.

กรุงเทพฯ--12 ก.ย.--PRdd

สภาวะตลาดวันที่ 12 กันยายน 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,339.35-1,366.64 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV13 อยู่ที่ 20,280 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 540 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,820 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV13 อยู่ที่ 767 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 767 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.15 น.ของวันที่ 12/09/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

แนวโน้มวันที่ 13 กันยายน 2556

ความวิตกเกี่ยวกับซีเรียลดลง ท่ามกลางความพยายามทางการทูตในการให้ซีเรียยอมส่งมอบอาวุธเคมี เพื่อหลีกเลี่ยงการโจมตีของสหรัฐ ทั้งนี้สมาชิกถาวร 5 ชาติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ได้ประชุมร่วมกันที่นครนิวยอร์คเพื่อหารือถึงแผนการในการทำให้อาวุธเคมีของซีเรียอยู่ภายใต้การควบคุมของนานาชาติ ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับซีเรียลดลงและส่งผลให้ราคาทองคำอ่อนตัวลง นอกจากนี้ราคาน้ำมันในตลาดโลกก็ได้ปรับตัวลดลงไปอย่างมาก ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากการวิตกกังวลซีเรียลดลง พร้อมทั้งทางโอเปคได้ออกมาส่งสัญญาณกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเปิดเผยว่า ตลาดโลกมีปริมาณน้ำมันที่เพียงพอ แม้ลิเบียลดการผลิตน้ำมันลง และคาดการณ์ว่าส่วนแบ่งในตลาดน้ำมันของโอเปกจะลดลงอีกในปี 2014 อันเนื่องมาจากปริมาณน้ำมันที่เพิ่มขึ้นจากสหรัฐ ประกอบกับ ธอมสัน รอยเตอร์ จีเอฟเอ็มเอส เผยผลการสำรวจทองคำประจำปี 2556 ที่ระบุว่าราคาทองคำอาจลดลงต่ำกว่าระดับ 1,300 ดอลลาร์ช่วงปลายปีหน้า ผลจากการค่อยๆ ยุติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ ซึ่งทำให้มีการพูดถึงการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ท่ามกลางการคาดหมายอย่างกว้างขวางในตลาดว่าเดือนนี้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มลดการเข้าซื้อพันธบัตรจากปัจจุบันที่เดือนละ 85,000 ล้านดอลลาร์ โดยนักลงทุนจำเป็นที่จะต้องระวังสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงทางสหรัฐอย่างใกล้ชิด โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จึงเกิดแรงขายออกมา อย่างไรก็ตามวายแอลจีแนะนำให้รอจัวหวะการย่อตัวของราคาเพื่อเข้าซื้อเก็งกำไรในระยะสั้นพร้อมตั้งจุดตัดขาดทุน เพื่อลดความเสี่ยงของพอร์ตในช่วงนี้

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีมีมุมมองว่า หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวรับ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้จะทำให้ราคาทองคำอ่อนตัวลงมา โดยหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวรับ 1,324 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่ง คาดว่าราคาน่ากลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านอีกครั้ง แต่หากยืนไม่ได้ต้องระมัดระวังแรงขายที่ออกมาอาจทำให้ราคาย่อตัวลงสู่แนวรับถัดไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,324 หรือ 1,310 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคง ถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้น แต่หากราคาหลุดแนวรับ 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนำให้ชะลอการลงทุนเพื่อรอดูสถานการณ์

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,324 (19,870บาท) 1,310 (19,660บาท) 1,300 (19,510บาท)

แนวต้าน 1,353 (20,310บาท) 1,360 (20,410บาท) 1,374 (20,620บาท)

GOLD FUTURES (GFV13)

แนวรับ 1,324 (20,030บาท) 1,310 (19,820บาท) 1,300 (19,670บาท)

แนวต้าน 1,353 (20,470บาท) 1,360 (20,580บาท) 1,374 (20,780บาท)

SILVER FUTURES (SVV13)

แนวรับ 22.15 (752 บาท) 21.85 (743 บาท) 21.65 (737 บาท)

แนวต้าน 23.55 (797 บาท) 23.85 (806 บาท) 24.20 (817 บาท)

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย จัดงานแถลงข้อมูลสรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์เดือนสิงหาคม 2556

 

'สุทิน'แขวะรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ลูกพี่หนีคุกแกล้งเป็นไม่รู้ไม่เห็น

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://classicgoldfutures.co.th/image/strategy_analysis/filestrategy120920131659221295.pdf

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายการ Gold Insight วิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพฤหัสบดีที่ 12 กันยายน 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

การเงิน - การลงทุน : เศรษฐกิจต่างประเทศ

วันที่ 12 กันยายน 2556 09:35

จับตาประชุมเฟด17-18ก.ย.ปิดฉากคิวอี

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_529288_1.jpg

ทั่วโลกจับตาการประชุมเฟด 17-18 ก.ย. ปิดฉากมาตรการอัดฉีดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจ

ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟดจะจัดการประชุมกำหนดนโยบายในวันที่ 17-18 ก.ย. ซึ่งถือเป็นหนึ่งในการประชุมเฟดที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดนับตั้งแต่เศรษฐกิจสหรัฐหลุดพ้นจากภาวะถดถอย โดยตลาดเงินตลาดทุนคาดว่าเฟดอาจจะเริ่มต้นปรับลดวงเงินในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (คิวอี3) ในการประชุมครั้งนี้

เฟดดำเนินมาตรการคิวอี 3 ด้วยการซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ ในวงเงิน 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์ และซื้อหลักทรัพย์ที่ได้รับการค้ำประกันจากสัญญาจำนอง (เอ็มบีเอส) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์ รวม 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ทุกเดือนเพื่อพยุงเศรษฐกิจ

แต่เป้าหมายของเฟดยังอยู่ห่างไกล โดยสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานเดือนส.ค.ที่ไม่แข็งแกร่งเท่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านั้น แต่เฟดก็อาจจะปรับลดวงเงินในมาตรการคิวอี เมื่อพิจารณาจากความคืบหน้าทางเศรษฐกิจของสหรัฐในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตัวเลขว่างงานในเดือนส.ค.ที่ผ่านมา อยู่ที่ 7.3% เมื่อเทียบกับเป้าหมายที่ 6.5%

นางดานา ซาพอร์ทา นักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารเครดิต สวิส กล่าวว่าเฟดจะปรับลดขนาดคิวอีลง 1.5-2.0 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือน แต่เมื่อพิจารณาจากความพยายามทั้งหมดที่ได้ทำไปในการเตรียมตลาดให้พร้อมรับมือสำหรับการปรับลดขนาดคิวอีในช่วงที่ผ่านมา ก็เป็นเรื่องยากที่เฟดจะไม่ฉวยโอกาสนี้ในการลดขนาดคิวอีลงเล็กน้อยในเดือนนี้

"สหรัฐได้มาถึงจุดที่มองว่า การเข้าซื้อสินทรัพย์ในอัตรา 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนถือเป็นการดำเนินจุดยืนแบบเป็นกลาง แต่ในความเป็นจริงนั้นการกระทำดังกล่าวถือเป็นจุดยืนแบบผ่อนคลายมาก และการเข้าซื้อสินทรัพย์ในอัตรา 6.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนก็จะยังคงถือเป็นการผ่อนคลายเป็นอย่างมากเช่นกัน"

เมื่อ 3 เดือนก่อน นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดคาดว่าจะเริ่มปรับลดขนาดคิวอีลงก่อนสิ้นปีนี้ และจะยุติคิวอีทั้งหมดภายในช่วงกลางปีหน้า หากเศรษฐกิจเติบโตตามความคาดหมาย

เจ้าหน้าที่เฟดหลายรายระบุอย่างชัดเจนว่าพร้อมสำหรับการเริ่มต้นปรับลดขนาดคิวอีในสัปดาห์หน้า โดยนางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานเฟดสาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวว่า เฟดควรปรับลดขนาดคิวอีลง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์

แต่บรรดานักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเฟดจะปรับลดขนาดคิวอี ลง 1.0 หมื่นล้านดอลลาร์ในสัปดาห์หน้า โดยลดลงจากระดับ 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนส.ค.

เฟดเริ่มต้นดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณรอบ 3 (คิวอี3) เมื่อ 1 ปีก่อน โดยมีจุดประสงค์เพื่อกระตุ้นการลงทุน, การจ้างงานและการเติบโตทางเศรษฐกิจ และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา อัตราการ ว่างงานก็ลดลงจาก 8.1 % สู่ 7.3 % ในขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.5 % ในไตรมาส 2 ซึ่งเป็นระดับที่สูงเกินคาด

การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐเติบโตขึ้นเฉลี่ย 184,000 ตำแหน่งต่อเดือนในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา แต่ชะลอการขยายตัวในเดือนส.ค. และส่งผลให้นักลงทุนบางรายเริ่มไม่แน่ใจเกี่ยวกับการปรับลดขนาดคิวอี3 นอกจากนี้ อัตราการมีส่วนร่วมในกำลังแรงงานยังลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2521 ด้วย โดยอัตราการมีส่วนร่วมนี้วัดจากจำนวนประชากรวัยทำงานในสหรัฐที่มีงานทำหรือกำลังหางานทำ เมื่อเทียบกับจำนวนประชากรวัยทำงานทั้งหมดในสหรัฐ

ถึงแม้ตัวเลขการจ้างงานเดือนส.ค.อยู่ในระดับที่น่าผิดหวัง แต่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าเฟดจะปรับลดขนาดคิวอีในสัปดาห์หน้า แทนที่จะรอจนถึงการประชุมในวันที่ 29-30 ต.ค. หรือวันที่ 17-18 ธ.ค.

นายริชาร์ด กิลฮูลี จากบล.ทีดีกล่าวว่า ตัวเลขการจ้างงานในเดือนส.ค. ไม่มีแนวโน้มที่จะสกัดกั้นการเริ่มต้นปรับลดขนาดคิวอีในเดือนก.ย. โดยตัวเลขการจ้างงานอาจจะส่งผลให้เฟดปรับลดคิวอีในระดับที่น้อยลง หรืออาจจะออกแถลงการณ์ที่เน้นย้ำแนวโน้มแบบสายพิราบมากยิ่งขึ้น"

เมื่อพิจารณาจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำในปีนี้ เฟดก็อาจจะลดความกังวลของนักลงทุนที่มีต่อการคุมเข้มนโยบายการเงิน ด้วยการเน้นย้ำภาระผูกพันในการตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ 0 % จนกว่าอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับต่ำกว่า 6.5 %

นายเบอร์นันเก้อาจจะกล่าวย้ำว่า เฟดจะใช้ความอดทนในขณะที่ปรับลดขนาดคิวอี 3 ลงในช่วงไม่กี่ไตรมาสข้างหน้า

ตลาดการเงินทั่วโลกเคยประสบภาวะปั่นป่วนเมื่อนายเบอร์นันเก้ กล่าวในเดือนพ.ค.ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับลดขนาดคิวอี3 ลง โดยปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น และนักลงทุนเทขายสินทรัพย์ในอินเดียและประเทศกำลังพัฒนาแห่งอื่นๆ หลังจากประเทศกลุ่มนี้เคยมีเงินลงทุนไหลเข้าเป็นจำนวนมากในช่วงที่เฟดดำเนินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย

ตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นในช่วงหลังจากนั้น แต่ตลาดเกิดใหม่อาจถูกกดดันอีกครั้งเมื่อเฟดปรับลดขนาดคิวอี3 ลง โดยนายเยอร์ก อาสมุนเซน สมาชิกคณะกรรมการบริหารของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวเตือนว่าการยุติคิวอีของเฟดอาจส่งผลกระทบในปัจจุบันในระดับที่รุนแรงกว่าในปี 2537 ซึ่งเป็นปีที่การคุมเข้มนโยบายการเงินของเฟดเคยสร้างความเสียหายต่อตลาดเกิดใหม่

เจ้าหน้าที่เฟดอาจจะพยายามลดทอนผลกระทบที่เกิดจากการปรับลดขนาด คิวอี ด้วยการระบุย้ำว่า การเข้าซื้อตราสารหนี้จะยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายเดือนในปีหน้า และเฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นในเร็วๆนี้

เฟดจะปรับตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจใหม่ในการประชุมเดือนนี้ด้วยและนายเบอร์นันเก้จะจัดการแถลงข่าวหลังการประชุมเพื่อกล่าวถึงการตัดสินใจ

ด้านนโยบายการเงิน ประธานาธิบดีบารัค โอบามามีแนวโน้มที่จะเสนอชื่อผู้ที่จะได้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดคนใหม่ต่อจากนายเบอร์นันเก้ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า และปัจจัยนี้อาจทำให้เกิดความไม่มั่นใจต่อคำสัญญาด้านนโยบายในระยะยาวของเฟด

วาระการดำรงตำแหน่งประธานเฟดของนายเบอร์นันเก้จะสิ้นสุดลงในช่วงสิ้นเดือนม.ค. 2557 และตลาดคาดว่าทำเนียบขาวจะเสนอชื่อประธานเฟดคนใหม่ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า โดยอาจจะเสนอชื่อ นายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส อดีตรมว.คลังสหรัฐ หรือนางเจเน็ต เยลเลน รองประธานคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด

การประชุมเฟดในสัปดาห์หน้าอาจจะเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับนายเบอร์นันเก้ในการเริ่มต้นปรับลดขนาดคิวอี3 ลง

นักวิเคราะห์กล่าวว่าการปรับลดขนาดคิวอี3 จะเปิดโอกาสให้นายเบอร์นันเก้ สามารถเริ่มต้นกระบวนการที่ผู้ดำรงตำแหน่งต่อจากเขาสามารถสานต่อหรือเร่งรัดให้เร็วขึ้นได้ในอนาคต

Tags : เฟดคิวอีธนาคารกลางสหรัฐเบน เบอร์นันเก

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ถกทูตพาณิชย์23ก.ย.ทบทวนเป้าส่งออก "นิวัฒน์ธำรง"ถกทูตพาณิชย์ 23 ก.ย. ทบทวนเป้าส่งออกปี"56 รับส่งออกไทยชะลอตัวสอดคล้องส่งออกทั่วโลก จี้หากลยุทธ์ใหม่เจาะตลาด 'นิคม'ปัดของบกสทช.30ล.หาเสียงเลือกตั้ง "นิคม"ปัดของบกสทช. 30 ล้านบาท หวังหาเสียงเลือกตั้ง บาทปิด31.75แข็งค่าจับตาประชุมเฟด ค่าเงินบาทปิด 31.75 บาท/ดอลลาร์ แข็งค่าจากเงินทุนไหลเข้า จับตาประชุมเฟด กรอบพรุ่งนี้ 31.60-31.80 บาท/ดอลลาร์ พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ74ล้าน คดีอุ้มซาอุฯ'สมคิด'โต้เบิกความกลับไปกลับมา หุ้นปิดร่วง13จุดหลุด1,400แค่ขายทำกำไร 'คำนูณ'ย้ำตัดวาระ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีครับคุณ.. Ginger TraderJunior Alan Gejen Wann ตู้เย็น Pasaya OKorNO เด็กสยาม MegaGold meng166 deb99 เต้าหู้ ปุยเมฆ tuktaaaa Lekk Espresso’(S) และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้ดีดกลับมาเป็นแดงแท่งสี่ครับ :bye

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1320 ราคาสูงสุด1365

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1326.x ครับ

 

สัญญานหลักแบลคคิง ทิศทาง sideway down ครับ

RSI Price Line เส้นเขียว 48.07 วิ่งมา 38.69 ครับ

Trade Signal Line เส้นแดง 51.61 วิ่งมา 47.57 ครับ

market base Line เส้นเหลือง 57.76 วิ่งมา 56.98 ครับ

เส้นแดงลดครับ

 

 

สัญญานรองQQE ทิศทาง sideway down

เส้นฟ้า 51.05 วิ่งมา 45.45 อยู่ต่ำกว่าเส้นประเหลืองครับ

เส้นประเหลือง 57.42 วิ่งมา 52.02 ครับอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าครับ

(เส้นเหลืองถ้าคงที่นานๆ จะแสดง side way หรือกลับตัวและ

ถ้าทิศทางลงจะเด้งไปอยู่สูงกว่าเส้นฟ้าทันทีถ้าขึ้นจะลงมาต่ำกว่าเส้นฟ้าทันที)

แนวต้าน 1333 1355 1372 1391

แนวรับ 1321 1302 1291 1281

ภาพรวมๆจากสัญญานราคา sideway down ครั

 

 

 

 

 

ขอให้โชคดีครับ

:bye

post-1891-0-42818200-1379031260_thumb.png

Bye

ถูกแก้ไข โดย news

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

943573_504711742927395_1047297035_n.jpg

สวัสดีครับคุณ.. Ginger TraderJunior Alan Gejen Wann ตู้เย็น Pasaya OKorNO เด็กสยาม MegaGold meng166 deb99 เต้าหู้ ปุยเมฆ tuktaaaa Lekk Espresso’(S) และทุกท่านครับ

กราฟรายวันตอนนี้ดีดกลับมาเป็นแดงแท่งสี่ครับ :bye

ล่าสุดราคาต่ำสุด 1320 ราคาสูงสุด1365

ราคาขณะนี้อยู่ที่ 1326.x ครับ

 

แนวต้าน 1333 1355 1372 1391

แนวรับ 1321 1302 1291 1281

ภาพรวมๆจากสัญญานราคา sideway down ครั

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 07:23:52 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ก.ย.

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 15,300.64 จุด ลดลง 25.96 จุด -0.17%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,715.97 จุด ลดลง 9.04 จุด -0.24%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,683.42 จุด ลดลง 5.71 จุด -0.34%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันที่ 4,106.63 จุด ลดลง 12.48 จุด -0.30%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,494.00 จุด ลดลง 1.73 จุด -0.02%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,588.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด +0.01%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,356.61 จุด เพิ่มขึ้น 7.19 จุด +0.17%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,225.36 จุด เพิ่มขึ้น 16.37 จุด +0.20%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 14,387.27 จุด ลดลง 37.80 จุด -0.26%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 2,004.06 จุด เพิ่มขึ้น 0.21 จุด +0.01%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,242.50 จุด เพิ่มขึ้น 8.10 จุด +0.15%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,255.60 จุด เพิ่มขึ้น 14.34 จุด +0.64%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 22,953.72 จุด เพิ่มขึ้น 16.58 จุด +0.07%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,772.40 จุด เพิ่มขึ้น 3.92 จุด +0.22%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,121.08 จุด เพิ่มขึ้น 12.89 จุด +0.41%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 19,781.88 จุด ลดลง 215.57 จุด -1.08%

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นแข็งแกร่งติดต่อกันในช่วง 3 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ข้อมูลด้านแรงงานที่ออกมาดีเกินคาดทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะใช้เป็นเหตุผลในการปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,300.64 จุด ลดลง 25.96 จุด หรือ -0.17% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,683.42 จุด ลดลง 5.71 จุด หรือ -0.34% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,715.97 จุด ลดลง 9.04 จุด หรือ -0.24%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) หลังจากสถานการณ์ซีเรียคลี่คลายลง นอกจากนี้ ข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 33.2 ดอลลาร์ หรือ 2.43% ปิดที่ 1,330.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.023 ดอลลาร์ ปิดที่ 22.149 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ดิ่งลง 30.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,442.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 692.80 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐและรัสเซีย เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ซีเรีย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.6 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 112.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

--สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านแรงงานที่สดใส

ยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3303 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3310 ดอลลาร์ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.5812 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5825 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9267 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9334 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.44 เยน จากระดับของวันพุธที่ 99.94 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9303 ฟรังค์ จากระดับ 0.9301 ฟรังค์

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) ท่ามกลางภาวะการซื้อขายที่เป็นไปอย่างผันผวน หลังจากมีรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนซึ่งเป็นตลาดส่งออกรายใหญ่ของอังกฤษ หดตัวลงในเดือนก.ค. ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,588.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด หรือ +0.01%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) หลังจากมีรายงานว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนและอิตาลีหดตัวลงในเดือนก.ค. ซึ่งส่งผลให้นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในภูมิภา

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลงเกือบ 0.1% ปิดที่ 310.74 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,106.63 จุด ลดลง 12.48 จุด หรือ -0.30% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,494.00 จุด ลดลง 1.73 จุด หรือ -0.02% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,588.98 จุด เพิ่มขึ้น 0.55 จุด หรือ +0.01%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดร่วง $33.2 หลังวิกฤตซีเรียคลี่คลาย

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 06:21:13 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างหนักเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) หลังจากสถานการณ์ซีเรียคลี่คลายลง นอกจากนี้ ข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 33.2 ดอลลาร์ หรือ 2.43% ปิดที่ 1,330.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.023 ดอลลาร์ ปิดที่ 22.149 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ดิ่งลง 30.8 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,442.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 692.80 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะลดขนาด QE ในการประชุมสัปดาห์หน้านี้ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการสร้างงานประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. ปรับตัวลง 31,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 292,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2549 และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 330,000 ราย

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังร่วงลงเนื่องจากวิกฤตการณ์ซีเรียเริ่มคลี่คลายลง หลังจากประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐได้ขอให้สภาคองเกรสเลื่อนการลงมติในประเด็นการโจมตีทางทหารต่อซีเรีย ซึ่งบ่งชี้ว่าฝ่ายบริหารจะพยายามใช้วิธีการทางการทูตในการคลี่คลายวิกฤตซีเรียในขณะนี้

ทางด้านซีเรียนั้น ล่าสุดมีรายงานว่า ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรียกล่าวว่า เขาตกลงที่จะมอบอาวุธเคมีให้อยู่ภายใต้การควบคุมของนานาประเทศ ตามข้อเรียกร้องของรัสเซีย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร จากคาดการณ์เฟดลด QE

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 07:10:14 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านแรงงานที่สดใส

ยูโรร่วงลงแตะระดับ 1.3303 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3310 ดอลลาร์ เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะระดับ 1.5812 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5825 ดอลลาร์สหรัฐ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9267 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9334 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 99.44 เยน จากระดับของวันพุธที่ 99.94 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9303 ฟรังค์ จากระดับ 0.9301 ฟรังค์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะลดขนาด QE หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการสร้างงานประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. ปรับตัวลง 31,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 292,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2549 และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 330,000 ราย

ขณะที่สกุลเงินยูโรร่วงลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจยูโรโซน หลังจากสำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท เปิดเผยว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนในเดือนก.ค.ปรับตัวลง 1.5% จากเดือนมิ.ย. และหากเทียบรายปี การผลิตภาคอุตสาหกรรมหดตัวลง 2.1% ซึ่งบ่งชี้ว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของภูมิภาคยังมีความไม่แน่นอน

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนส.ค.ในวันพรุ่งนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.4% จากนั้นในเวลา 20.55 น.ตามเวลาไทย รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคต้นเดือนก.ย. ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจะลดลงมาอยู่ที่ระดับ 82.0 ในช่วงต้นเดือนก.ย. จากระดับ 82.1 ของช่วงท้ายเดือนส.ค.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดบวก $1.04 จับตาสหรัฐ-รัสเซียเจรจาประเด็นซีเรีย

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 06:38:29 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (12 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐและรัสเซีย เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ซีเรีย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.6 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 112.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นในขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเจรจาระหว่างนายจอห์น แคร์รี่ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ และนายเซอร์กี ลาฟรอฟ รมว.ต่างประเทศรัสเซีย ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหารือกันเกี่ยวกับการเปิดทางให้ซีเรียส่งมอบประเด็นอาวุธนิวเคลียร์ให้อยู่ในการควบคุมของนานาประเทศ

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดีบารัค โอบามากล่าวว่า สหรัฐจะทำงานร่วมกับรัสเซียและประเทศพันธมิตรอื่นๆเพื่อดำเนินการตามญัตติของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่จะทำให้ซีเรียยกเลิกอาวุธเคมี นอกจากนี้ โอบามายังได้ขอให้สภาคองเกรสเลื่อนการลงมติในประเด็นการโจมตีทางทหารต่อซีเรีย ซึ่งบ่งชี้ว่าฝ่ายบริหารจะพยายามใช้วิธีการทางการทูตในการคลี่คลายวิกฤตซีเรียในขณะนี้

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการสร้างงานประจำสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 7 ก.ย. ปรับตัวลง 31,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 292,000 ราย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2549 และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นแตะระดับ 330,000 ราย

สำนักงานพลังงานสากล (IEA) รายงานว่า กำลังการผลิตของประเทศในกลุ่มผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) เดือนส.ค.ลดลง 0.8% สู่ระดับ 30.51 ล้านบาร์เรล/วัน เมื่อเทียบกับตัวเลขประมาณการเดือนก.ค.ที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 30.77 ล้านบาร์เรล

รายงานภาวะตลาดน้ำมันประจำเดือนของ IEA ระบุว่า กำลังการผลิตของกลุ่มโอเปคในเดือนส.ค.ลดลงเนื่องจากกำลังการผลิตของลิเบียลดลงสู่ระดับ 550,000 บาร์เรล/วันในเดือนส.ค. จากระดับ 1 ล้านบาร์เรลในเดือนก.ค. ซึ่งบดบังกำลังกำลังการผลิตของซาอุดิอาระเบีย ผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในกลุ่มโอเปค ซึ่งพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 32 ปี ที่ 10.19 ล้านบาร์เรล/วัน เพิ่มขึ้น 190,000 บาร์เรลจากเดือนก.ค.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ราคาทองฟิวเจอร์ร่วง $34.50 หลังวิกฤตซีเรียคลี่คลาย, คาดการณ์เฟดลด QE

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เตือนฉ.4 ทุกภาคฝนตกชุก แนะระวังอันตราย กรมอุตุฯออกประกาศเตือนฉบับที่ 4 ทั่วทุกภาคของไทยมีฝนตกชุก แนะระวังอันตราย ทุกภาคทั่วไทยฝนชุก กทม.ฝนร้อยละ80 กรมอุตุฯเผยทั่วทุกภาคของไทยมีฝนตกชุก กรุงเทพมีฝนร้อยละ 80 น้ำมันปิดบวก$1.04 รับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ น้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 1.04 ดอลลาร์ อยู่ที่ 108.6 ดอลลาร์/บาร์เรล รับตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ หลังจำนวนผู้ขอสวัสดิการสร้างงานต่ำสุดในรอบ 7 ปี ดาวโจนส์ปิดลบ25จุด แรงขายทำกำไรระยะสั้น ทองปิดร่วง$33.2 หลังวิกฤติซีเรียคลี่คลาย เกาะติดตลาดหุ้นโลก 13 ก.ย.56 vdo.gif ดังกิ้นโดนัทรุกเข้าตลาดอังกฤษ

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

ข่าวยอดนิยม

  • เกาะติดตลาดหุ้นโลก 13 ก.ย.56
  • ระบบสแกนนิ้วมือเดิมพันใหม่ไอโฟน
  • ดวงพยากรณ์วันศุกร์ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2556
  • ยื่นจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวรอบแรก16ก.ย.
  • ไออีเอชี้ตลาดน้ำมันโลกจ่อขาลง

  • การทูตจีนที่ผันเปลี่ยน

    โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


  • ตั้งแต่พม่าเปิดประเทศเพื่อปฏิรูปทางการเมือง สหรัฐและยุโรปเข้าไปแสดงให้เห็นความคึกคักอย่างเปิดเผย


    ทำให้ จีน ซึ่งเคยมีอิทธิพลสูงอย่างมากในประเทศนั้น ถูกมองว่าอาจจะลดบทบาทลงไปอย่างมีนัยสำคัญ
    น่าสนใจว่า ปักกิ่ง มีความเห็นเรื่องนี้อย่างไร และเมื่อเอกอัครราชทูตจีนคนใหม่ประจำย่างกุ้ง ให้สัมภาษณ์นิตยสาร The Irrawaddy เป็นครั้งแรก และเปิดใจประเด็นสำคัญๆ เหล่านี้ จึงทำให้เห็นภาพของจีนในพม่าชัดเจนมากยิ่งขึ้น
    ท่านทูตจีนบอกว่า “เราต้อนรับบทบาทที่สร้างสรรค์ของสหรัฐในพม่า
    และยืนยันว่า จะเป็นโชคร้ายหากมีการแก่งแย่งอำนาจระหว่างจีนกับสหรัฐในพม่า เพราะหากเกิดเช่นนั้นก็จะไม่ดีสำหรับพม่าเอง
    “เราอยากเห็นนโยบาย win-win คือ ทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ผมคุยกับหลายฝ่าย และนักการเมืองพม่าบางท่านบอกชัดเจนว่า พวกเขาไม่ต้องการให้พม่ากลายเป็นสนามรบของมหาอำนาจ นั่นไม่ใช่ความต้องการของคนพม่า...” ท่านทูตจากปักกิ่ง บอก
    ตอนที่ประธานาธิบดี เต็งเส่ง ประกาศเลื่อนการสร้างเขื่อนมิทโสน (Myitsone) ที่มีบริษัทจีนเป็นผู้ได้รับสัญญาในรัฐคะฉิ่นเมื่อเร็วๆ นี้ นักวิเคราะห์มองว่าความสัมพันธ์ระหว่างพม่ากับจีน เริ่มจะมีรอยปริแยก
    ทูตจีนประจำพม่า บอกว่า ท่านถือว่าเป็นกรณีที่ต้องแยกพิจารณาเฉพาะเรื่อง และยืนยันว่ากรณีเขื่อนมิทโสนไม่กระทบความสัมพันธ์ซึ่งเป็นภาพใหญ่ของสองประเทศ
    “หลังจากรับตำแหน่งประธานาธิบดี เมื่อปี 2011 ท่าน เต็งเส่ง ไปเยือนจีน และทั้งสองฝ่ายได้สนับสนุน “ความร่วมมือหุ้นส่วนยุทธศาสตร์อย่างกว้างขวาง” และปีนี้ก็ได้ลงนามในแผนปฏิบัติการของแผนนี้ ความสัมพันธ์ในภาพรวมของสองประเทศยังดีเยี่ยม...”
    ที่ผมสนใจเป็นพิเศษ คือ การเปิดเผยของทูตจีน ที่ว่าเขายื่นมือออกไปพูดจากับคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายค้าน องค์กรประชาสังคม และ ชาวบ้านทั่วไป
    นี่ถือเป็นแนวทางปฏิบัติใหม่ของนักการทูตจีนในต่างประเทศ เพราะแต่ก่อนนี้นักการทูตจีน จะมีความระวังตัวในการคบหากับคนอื่น ที่ไม่ใช่เป็นส่วนหนึ่งของรัฐบาล และจะไม่ยอมไปพูดจากับนักการเมืองฝ่ายค้าน หรือคนที่มีความเห็นต่างไปจากรัฐบาลปักกิ่ง
    แต่วันนี้ นักการทูตจีน ต้องปรับตัวในต่างประเทศ เพื่อให้เกิดภาพลักษณ์ของความเป็นมิตรกับทุกฝ่าย
    ท่านบอกด้วยว่า เดี๋ยวนี้ สถานทูตมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพื่อชี้แจงข่าวในกรณีมีข่าวลือ อีกทั้งยังมีหน้า Facebook ของตัวเอง (ทั้งๆ ที่ รัฐบาลจีนไม่ยอมให้คนจีนในประเทศเข้าไปเล่นเฟซบุ๊ค)
    รัฐบาลจีน ส่งเสริมให้บริษัทจีน โดยเฉพาะที่อยู่ต่างประเทศ แสดงความรับผิดชอบต่อกิจกรรมสังคม เพราะนั่นเป็นเรื่องสำคัญมากสำหรับประชาชน
    “เราเรียนรู้จากอดีตว่าเราต้องสื่อสารกับประชาชนมากขึ้น” นี่คือข้อยืนยันจากนักการทูตยุคใหม่ของจีนวันนี้
    บรรณาธิการ The Irrawaddy (Kyaw Zwa Moe) ถามตรงๆ ว่า
    “คนพม่าจำนวนมากไม่พอใจ ที่ในอดีตจีนดูเหมือนจะอยู่ข้างรัฐบาลทหาร และไม่อยู่ข้างประชาชน ท่านว่าอย่างไร?”
    ทูตจีนตอบว่า “ไม่เพียงแต่จีนเท่านั้น แต่รัสเซียและประเทศเพื่อนบ้านอื่นๆ ก็สนับสนุนพม่า จีนเคยสนับสนุนรัฐบาลทหารก็จริง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าจีนสนับสนุนการปกครองโดยทหาร เราถือว่าพม่าคือทั้งประเทศและประชาชน เราสร้างถนนและโรงงานและโครงการการเกษตร นั่นเป็นการทำเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อทหาร หากทุกประเทศโดดเดี่ยวพม่า ประชาชนจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ต้องลำบาก จึงไม่ใช่เรื่องจริงที่บอกว่าจีนสนับสนุนรัฐบาลทหารเท่านั้น”
     
    ที่น่าแปลกใจไม่น้อย คือ เมื่อทูตจีนคนใหม่บริจาคเงิน 1 ล้านจ๊าด (ประมาณ 30,000 บาท) ให้กับพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย ที่มี ออง ซาน ซูจี เป็นหัวหน้า
    ก่อนหน้านี้ จีนไม่เคยสนับสนุนฝ่ายเรียกร้องประชาธิปไตย ทำไมวันนี้จึงเปลี่ยนใจ?
    ทูตจีน ตอบอย่างเปิดอก ว่า
    “แต่ก่อน จีนมุ่งเน้นแต่เรื่องการกระทำ ไม่สนใจเรื่องพูดจาเท่าไร แต่เดี๋ยวนี้ เราต้องสื่อสารมากขึ้นเพื่อให้ประชาชนเข้าใจเรามากขึ้น...เราต้องเปลี่ยน เราส่งเสริมให้องค์กรจีนที่นี่สื่อสารกับสังคมมากขึ้น หาไม่แล้ว ประชาชนจะไม่เข้าใจว่าเราทำอะไรอยู่ อีกทั้งบริษัทจีนควรจะต้องเคารพในสังคมท้องถิ่น และรับผิดชอบต่อผลพวงทางสังคม จากการกระทำของตน...”
    อ่านเนื้อหาคำให้สัมภาษณ์ของทูตจีนประจำพม่าแล้ว สรุปได้ไม่ยาก ว่า
    การทูตจีนวันนี้ ปรับเปลี่ยน...จนจำไม่ได้แล้วจริงๆ
    Tags : การทูตจีนพม่าสหรัฐฯ
     
    ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคับเพื่อนๆทุกท่าน :Announce วันศุกร์13จะสยองหรือสยิวกันดีน้าส่วนตัวจุดที่ให้buyเมื่อวานโดนคัตทั้ง้2จุด มาดูกราฟกัน13-9-56-01.gifกราฟราย1ชม จะเห็นว่ามีฟิโบ2สีนะครับ สีขาวเป็นตัวใช้วัดความยาวคลื่น1hC โดยเทียบกับคลื่น1hA ซึ่งตามทฤษฏีคลืนC จะยาวได้เท่ากับ 0.618 หรือ 1 หรือ 1.272 หรือ 1.618เท่าของA ซึ่งดูจากฟิโบสีขาวตรง161.8 ตอนนี้อยู่แถว1319.6 ตามทฤษฏีพอดี ส่วนฟิโบสีฟ้า เป็นการวัดคลื่น15mC โดยวัดเทียบกับคลื่น15mA คลื่นย่อย ของ1hC ซึ่งราคาลงมาที่ฟิโบ127.2 หรือ 1322 ซึ่งยังอยุ่ในกรอบทฤษฏีคลื่นC เช่นกัน ส่วนฟิชเชอร์บีบีตอนนนี้หุบและกลับมาอ้าอีกครั้ง จะเป็นคลื่นรีบาวหรือกลับตัวเป็นคลื่นชุดใหม่เดี๋ยวคงรุ้กัน ส่วนrsi เกิดไดเวอร์จิ้นแล้ว แต่macdยังไม่เกิดไดเวอร์จิ้น แต่ในกรณีคลื่นขาลงabc บางทีสัญญาณขัดเเย้งกัน การจับไดเวอร์จิ้นอาจไม่ได้ผลในคลืนC เพราะบางทีคลื่นC ก็ทำสัญญาณนิวโลวแล้วเด้งกลับเลย เรียกว่าตรงนี้จุดวัดใจ50-50 เลยว่าจบหรือไม่จบ สัญญาณ2ตัวขัดเเย้งกัน แต่ฟิชเชอร์อ้าแล้ว มีโอกาสขึ้นสูงพอสมควรหลังลงมาต่อเนื่อง ส่วนเป้าหมายแพทเทิ้ลH&Sสีขาวอยู่แถวๆ1317 เรียก่ว่าาตรงนี้ใกล้เคียงเลยทีเดียว มาดูกราฟราย4ชมต่อไป13-9-56-02.gifจากกราฟราย4ชม ดูฟิโบสีม่วงก่อนใช้วัดเป้าคลื่น4hA ตอนนี้ลงมา1420 แล้ว เลยฟิโบ61.8มาพอสมควรแต่ยังไม่ถึงฟิโบ76.4 แถวๆ1310 ซึ่งปกติคลื่นA จะลงมาแถวๆฟิโบ50-61.8-76.4 เมื่อกางฟิโบเทียบกับจุดต่ำสุดรอบที่แล้วนั่นคือ1273 ถึงไฮ1433 ตอนนี้เกินมา2จุดแล้วเหลือจุดสุดท้าย76.4หรือ1310 ถ้าจะลงอีกก็แถวๆนี้หละ แต่ถ้าเลยก็คงเป็นตามเป้าแพทเทิ้ลh&Sสีน้ำเงิน1280 นั่นหละ ขณะที่อินดี้rsi&macdเกิดนิวโลว ส่วนฟิชเชอร์บีบีหุบแล้ว พร้อมอ้าทุกเมื่อ ถ้าอ้าเมื่อไหร่่แปลว่าเริ่มคลื่นใหม่แล้วนั่นคือคลื่น4hB ผมเลยตั้งสมมุติฐานว่าจบคลื่น4hAแล้วเมื่อคืนนี้ที่1320.25 กางฟิโบวัดคลื่นรีบาว4hB ตามทฤษฏีคลื่นBจะรีบาวกลับมาที่ฟิโบ50-61.8-76.4 ซึ่งเมื่อดูจากฟิโบสีเหลืองในกราฟจะตรงกับราคา1376-1390-1406 นั่นคือจุดที่คาดว่าจะเป็นคลื่นรีบาว4hB ถ้ากลับตัวจริงเราจะเจอคลื่นย่อยในราย1ชม ทั้งหมด3คลื่นนั่นคือ ABC ตรงนี้ต้องลุ้นกันแล้วว่าให้จบจริงๆพร้อมรีบาวาแต่การที่บาทอ่อนแต่เช้าแปลว่าหุ้นลงเงินไหลออกแล้วทีนี้จะไปเข้าอะไรหละ ระหว่างพันธบัตรกับทอง :ghost

มุมมองวันนี้สำหรับคนซื้อ

1 รอซื้อ buy limit 1322 cut 1319 เป้า 1363

2 หากถูกกินcutข้อ1 แนะนำรอซื้อ 1317 cut 1310 เป้า 1373

3 หากถูกกินcut ข้อ 2 แนะนำรอดูสถานการณ์ต่อไป

สำหรับคนขาย

1 รอขายsell limit 1363 cut 1370 เป้า 1344

2 หากถูกกินcutข้อ 1 แนะนำรอดูสถานการณ์ต่อไป

ปล. ส่วนตัวผม เมื่อวานโดนคัตน่วมเลย แต่วันนี้ยังตั้งซื้อขายตามข้อ12ต่อไป ส่วนทองแท่งเก็บเมื่อวานและเมื่อคืน ตามเป้า1347-1333 ได้ราคา 20300กับ19900 ครับ :17รวมแล้วมี3ก้อนแล้วจะปล่อยตามจุด1376-1390-1406 วันนี้บาท่อ่อนน่าจะช่วยเรื่องราคาพอสมควร ส่วนจะได้เท่าไหร่ไม่สนเดี๋ยวเฉลี่ยเอา แต่ปล่อยตามspotไว้ก่อนละกัน13-9-56-03.gif

ปล2". วันนี้ไปปั่นงานกต่อนะครับเดี๋ยวบ่ายไม่อยู่ไปประชุมอีกขอให้เพื่อนๆโชคดีในการลงทุนครับ :bye

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

China Today: ข่าวเศรษฐกิจมหภาคจีนประจำวันที่ 13 กันยายน 2556

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 09:42:31 น.

ธนาคารดอยช์แบงก์ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของจีนวานนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่ 2 ภายใน 1 เดือน

นายหม่า จุน หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของดอยช์แบงก์ ประจำประเทศจีน ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีจีนในไตรมาส 3 และ 4 เป็น 7.9% และ 8% ตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ไว้ที่ 7.7% และ 7.8%

นอกจากนี้ นายหม่ายังปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของจีดีพีปี 2557 เป็น 8.6% จากระดับ 8.5%

-- ธนาคารกลางจีน (PBOC) กำหนดอัตราค่ากลางสำหรับการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินหยวนที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เมื่อช่วงเช้าวานนี้

อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวน/ดอลลาร์สหรัฐอยู่ที่ 6.1575 เมื่อเช้าวานนี้ ต่ำกว่าระดับ 6.1601 หยวน/ดอลลาร์ของวันพุธอยู่เล็กน้อย และต่ำกว่าสถิติต่ำสุดเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ 6.1598 หยวน/ดอลลาร์

ขณะที่ในตลาดสปอตนั้น มีการซื้อขายอยู่ที่ 6.1186 หยวน/ดอลลาร์เมื่อช่วงเที่ยงวัน ซึ่งเกือบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดของวันพุธที่ 6.1185 หยวน/ตัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย จงดี อำมฤคขจร/ปนัยดา โทร.02-2535000 ต่อ 323 อีเมล์: panaiyada@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์แข็งเทียบยูโร จากคาดการณ์เฟดลด QE

 

เงินบาทเปิด 31.73/75 คาดวันนี้ตลาดผันผวน มองกรอบ 31.60-31.90

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 13 กันยายน 2556 09:31:09 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 31.73/75 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับเมื่อเย็นวานที่ปิดตลาดที่ระดับ 31.75 บาท/ดอลลาร์ ล่าสุดเงินบาทเริ่มปรับตัวอ่อนค่าลงมาอยู่ที่ระดับ 31.83/85 บาท/ดอลลาร์

"วันนี้ดูยาก ว่าบาทจะกลับไปอ่อนค่าเลยหรือไม่ เพราะตลาดค่อนข้างผันผวน มีทั้งซื้อทั้งขายเหมือนไม่ค่อยสนใจราคากันเท่าไร ซึ่งเมื่อวานนี้มี flow ใหญ่ๆ แบงก์นอกขายเยอะมากเป็นพันล้านเหรียญ ทำให้ตลาดร่วงมาเยอะ เมื่อวาน low ที่ 31.58 บาท วันนี้เปิดมาก็ขยับขึ้น 30 สตางค์ ช่วงนี้ถือว่าเยอะมาก" นักบริหารเงิน กล่าว

ทั้งนี้มองกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทวันนี้ไว้ที่ 31.60-31.90 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 99.80 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อเย็นวานนี้ที่ระดับ 99.34 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3280 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.3290 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ 31.7220 บาท/ดอลลาร์

- นางจันทวรรณ สุจริตกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า การไหลกลับมาของเงินทุนต่างชาติในระยะนี้ ต้องติดตามสถานการณ์อีกระยะหนึ่งว่าแนวโน้มเงินทุนทั่วโลกจะไหลกลับสู่ตลาดประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่หรือไม่ หลังจากขายออกจากประเทศเหล่านี้ทุกภูมิภาคของโลกเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา

- บีโอไอเผยผลสำรวจความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติในประเทศไทยประจำปี 2556 นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่ยังเชื่อมั่นพร้อมรักษาระดับการลงทุนในไทย-มีแผนขยายการลงทุนเพิ่มระบุปัจจัยสำคัญที่เอื้อการลงทุนคือโครงสร้างพื้นฐานวัตถุดิบสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุน แนะรัฐสกัดคอร์รัปชัน-ปรับปรุงระบบภาษี

- สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กล่าว57'การบริหารจัดการหนี้ในปีงบประมาณ 2557 ว่า สบน. มีแผนระดมเงินของรัฐบาล ทั้งสิ้น 7.6 แสนล้านบาท แบ่งออกเป็น การกู้เพื่อชดเชยการขาดดุล 2.5 แสนล้านบาท การกู้เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานประมาณ 1.37 แสนล้านบาท รีไฟแนนซ์เงินกู้เดิม 2.31 แสนล้านบาท และกู้เพื่อชดเชยกองทุนฟื้นฟูระบบสถาบันการเงิน (เอฟไอดีเอฟ) จำนวน 1.3 แสนล้านบาท

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโร ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินนิวยอร์กเมื่อคืนนี้(12 ก.ย.) เนื่องจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) อาจจะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลด้านแรงงานที่สดใส

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ ปิดที่ 108.6 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน เพิ่มขึ้น 1.13 ดอลลาร์ ปิดที่ 112.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่นักลงทุนจับตาดูการเจรจาระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐและรัสเซีย เพื่อหาทางออกเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ซีเรีย

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงลดลง 138 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 12,350 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,335.93 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ลดลง 14.93 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.76 ดอลลาร์ฮ่องกงในวันนี้

- ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงเช้านี้ โดยดัชนี MSCI Asia Pacific ลดลง 0.2% แตะระดับ 137.34 จุด เมื่อเวลา 9.33 น.ตามเวลาโตเกียว ขณะที่นักลงทุนรอดูผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในสัปดาห์หน้า

- คณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีกำหนดประชุมในวันที่ 17-18 ก.ย.นี้ ซึ่งตลาดการเงินทั่วโลกจับตาว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการลดขนาด QE หรือไม่

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตั้งกก.สอบปมคำรณวิทย์บินให้ทักษิณประดับยศ http://bit.ly/16mqxv9

#คำรณวิทย์ #Posttoday #โพสต์ทูเดย์

 

 

 

การเงิน - การลงทุน

วันที่ 12 กันยายน 2556 10:41

 

ล้มแผนประมูลบอนด์อิงเงินเฟ้อ

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_529324_1.jpg

สบน.ยกเลิกประมูลพันธบัตรอิงเงินเฟ้อหมื่นล้าน เหตุดอกเบี้ยพุ่งสูงผิดปกติ นักวิเคราะห์เผยนักลงทุนประเมินเงินเฟ้อต่ำ คนหันไปลงทุนบอนด์ปกติ

วานนี้ (11 ก.ย.) สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลัง ระงับการประมูลพันธบัตรรัฐบาลอัตราดอกเบี้ยแปรผันตามการเปลี่ยนแปลงของเงินเฟ้อ (Inflation Link Bond : ILB) อายุ 14.50 ปี วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้ ข้อมูลในเว็บไซต์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุจะมีการเปิดประมูล ILB อายุ 14.50 ปี วงเงิน 1 หมื่นล้านบาท ก่อนจะแจ้งยกเลิกการประมูลในช่วงสายวานนี้ (11 ก.ย.)

ขณะที่การประมูล ILB ในรอบก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 15 พ.ค. 2556 ซึ่งมีอายุคงเหลือ 14.83 ปี วงเงิน 1.5 หมื่นล้านบาทนั้น ปรากฏว่าสามารถเสนอขายได้เต็มวงเงินที่เปิดประมูล โดยมีอัตราผลตอบแทนที่ 1.1464% ซึ่ง ผลตอบแทนดังกล่าวเป็นผลตอบแทนที่แท้จริง หรือผลตอบแทนที่หักเงินเฟ้อแล้ว

นางสาวจุฬารัตน์ สุธีธร ผู้อำนวยการ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ออกมาชี้แจงถึงสาเหตุที่ต้องยกเลิกการประมูลพันธบัตรดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า ดอกเบี้ยช่วงที่เสนอขาย 1 สัปดาห์ และตลอดระยะ 1 เดือนที่ผ่านมา ปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างผิดปกติ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อก็ไม่ได้มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น ฉะนั้นดอกเบี้ยที่นักลงทุนเสนอนั้น จึงไม่น่าจะเป็นดอกเบี้ยที่แท้จริง หาก สบน.ยืนยันที่จะเสนอขายออกไป จะเป็นการส่งสัญญาณดอกเบี้ยที่ผิด

"เราดูแล้วว่า อัตราดอกเบี้ยที่นักลงทุนเสนอนี้ เป็นอัตราดอกเบี้ยที่ถูกกระตุกขึ้นอย่างผิดปกติ เราก็ไม่รับ เพราะถ้ารับก็อาจเป็นการชี้นำทางที่ผิด ก็คิดว่า ไม่สมเหตุผล"

ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยที่เสนออยู่ที่ 2.72% ปรับสูงขึ้นถึง 120% จากช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา

ผลตอบแทนไอแอลบีแนวโน้มพุ่ง

ด้าน นายกฤษณ์ ณ สงขลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บลจ.กรุงไทย กล่าวผ่านรอยเตอร์ว่าในช่วงหลังมานี้ ผลตอบแทน (ยิลด์) ของ ILB ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากตลาดมองว่า อัตราเงินเฟ้อของไทย ในปีนี้ไม่น่าจะสูงนัก ทำให้ราคา ILB ปรับตัวลงมา และหนุนให้ยิลด์สูงขึ้น

"ช่วงสัปดาห์นี้ ยิลด์รวมๆ ก็ไม่ค่อยเปลี่ยนแปลงมากนัก แต่ที่ขึ้นเป็นเฉพาะตัวนี้ (ILB) เพราะนักลงทุนมองว่า เงินเฟ้อไม่น่าจะสูงนักในปีนี้"

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล รุ่น ILB283A ซึ่งจะครบอายุ ในเดือนมี.ค. 2571 อยู่ที่ 2.76% เพิ่มขึ้น 0.55% จากวันก่อนหน้า

สัปดาห์ก่อน กระทรวงพาณิชย์เผยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือนส.ค. นี้ เพิ่มขึ้น 1.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอลง และเป็นการปรับขึ้นในอัตราที่ต่ำที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี นับจากเดือนต.ค. 2552

คาดแรงซื้อต่างชาติแผ่ว

นายสุชาติ ธนฐิติพันธ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาตลาดตราสารหนี้ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (THAIBMA) กล่าวว่า การยกเลิกการประมูลพันธบัตรอ้างอิงเงินเฟ้อ (Inflation Link Bond : ILB) ของทางสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) นั้น เหตุผลสำคัญน่าจะมาจากไม่มีดีมานด์ของนักลงทุนเป็นสำคัญ เพราะการจะประมูลพันธบัตรรุ่นพิเศษปกติ จะมีการสำรวจความต้องการของตลาดก่อนว่า มีดีมานด์มากน้อยเพียงใด และนักลงทุนหลักในพันธบัตร ILB มากกว่า 50% เป็นนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งช่วงที่ผ่านมาเงินทุนต่างชาติเองก็ไหลออกต่อเนื่อง

ประกอบกับปัจจุบันอัตราเงินเฟ้อของไทยค่อนข้างต่ำ ทำให้ความน่าสนใจลดลงนักลงทุน จึงหันไปลงทุนในพันธบัตรปกติมากกว่า แต่ในพันธบัตรอายุยาว 7-10 ปี เองก็ประมูลได้ไม่หมด เพราะดีมานด์ไม่มากพอ เพราะนักลงทุนบางส่วนมองว่า แนวโน้มดอกเบี้ยในอนาคตจะปรับตัวขึ้น ซึ่งทางสบน.คงจะปรับแผนการออกพันธบัตรโดยอาจจะประมูลในพันธบัตรอายุที่มีความต้องการมากขึ้น

การยกเลิกการประมูล ILB ไม่ใช่เป็นเรื่องภาระต้นทุนของภาครัฐแต่ประการใด แต่น่าจะเป็นเหตุผลเรื่องดีมานด์ที่มีน้อยเกินไป สมมติอัตราเงินเฟ้อเพิ่ม 1% ต้นทุนการเงินของรัฐจะเพิ่มน้อยกว่า 1% อยู่แล้ว ปัจจุบันมี ILB อยู่ 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น 8 ปี มูลค่า 1 แสนล้านบาท ต่างชาติลงทุนอยู่ 6 หมื่นล้านบาท และรุ่น 15 ปี มูลค่า 5.5 หมื่นล้านบาท ต่างชาติลงทุนอยู่ 2.2 หมื่นล้านบาท

"จะเห็นว่าผู้ลงทุนหลักในพันธบัตร ILB คือ นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งดีมานด์อาจน้อยในช่วงนี้ เพราะนักลงทุนสถาบันในประเทศเองอาจจะมองว่าลงทุนในพันธบัตรปกติดีกว่าในช่วงที่อัตราเงินเฟ้อค่อนข้างต่ำเช่นปัจจุบัน"

วันนี้เชิญหน่วยงานเกี่ยวข้องฟังแผน

ส่วนในวันนี้ (12 ก.ย.) สบน.ได้เชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการระดมเงินทุนของภาครัฐ เข้ารับฟังแผน และรับฟังความเห็นเกี่ยวกับการระดมเงินของรัฐบาลในปีงบประมาณ 2557 อาทิ ตัวแทนจากธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง และผู้ค้าหลักสำหรับธุรกรรมซื้อขายพันธบัตรของกระทรวงการคลัง เป็นต้น

"แต่ละปีเราจะเชิญผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงนักลงทุนเข้ารับฟังแผนการระดมเงินของรัฐบาล โดยเราจะแจ้งถึงวงเงินที่เราต้องการจะระดม นำไปใช้เพื่ออะไร และใช้วิธีใดในการระดมเงิน เป็นต้น ซึ่งนอกจากการชี้แจงแล้ว เรายังเปิดให้นักลงทุนได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวด้วย" เธอ กล่าว

ทั้งนี้ ในแผนการระดมเงินของรัฐบาลโดย สบน. นั้น จะมีวงเงินรวม 7.6 แสนล้านบาท ซึ่งรัฐบาลมีแผนจะนำเงินนี้ไปใช้เพื่อชดเชยการขาดดุลจำนวน 2.5 แสนล้านบาท กู้ใหม่เพื่อลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานกว่า 1.5 แสนล้านบาท รีไฟแนนซ์เงินกู้เดิม 2.3 แสนล้านบาท และชดเชยหนี้กองทุนฟื้นฟูฯ จำนวน 1.3 แสนล้านบาท

"ภายใต้โครงสร้างเงินกู้นี้ เรามีแผนจะดำเนินการผ่านเครื่องมือหลากหลายรูปแบบ โดยส่วนใหญ่หรือประมาณ 50% จะออกเป็นพันธบัตรรัฐบาล ส่วนที่เหลือประมาณ 7.5 หมื่นล้านบาท จะออกเป็นพันธบัตรอิงเงินเฟ้อ, พันธบัตรออมทรัพย์ ประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท, Amortize Bond จำนวนประมาณ 5.5 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเป็นพันธบัตรออมทรัพย์ เพื่อนักลงทุนรายย่อย และ กู้ผ่านธนาคารพาณิชย์หรือแบงก์โลน" เธอกล่าว

มั่นใจวงเงินที่ออกไม่กระทบระบบ

ในแง่ผลกระทบที่จะมีต่อสภาพคล่องในระบบนั้น เธอกล่าวว่า ประเด็นดังกล่าว ทาง สบน.ได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อย่างต่อเนื่อง โดย ธปท.ยืนยันว่า วงเงินที่ออกนี้จะไม่กระทบต่อสภาพคล่องในระบบ โดย สบน.สามารถระดมได้มากถึง 1.5 ล้านล้านบาท

สำหรับทิศทางดอกเบี้ยนั้น เธอกล่าวว่า ในระยะสั้นหรือจนถึงไตรมาสแรกของปีหน้า อัตราดอกเบี้ยน่าจะทรงตัวและมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่ในครึ่งปีหลังจะทยอยปรับเพิ่มขึ้น กล่าวคือ จะอยู่ในระดับประมาณ 2.5-3% ซึ่งในระดับนี้ ทาง สบน. ถือว่าเป็นระดับต้นทุนที่รับได้ ทั้งนี้ สบน.ได้ประเมินระดับหนี้สาธารณะต่อจีดีพีในปี 2557 ว่า จะอยู่ในระดับประมาณ 47.2%

บาทแข็งยืนเหนือ 32 บาท เงินไหลเข้า

นักบริหารเงินจากธนาคารพาณิชย์ กล่าวว่า ค่าเงินบาทต่อดอลลาร์วานนี้ (11 ก.ย.) เปิดตลาดที่ระดับ 32.11-32.13 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าสุดในช่วงเช้าที่ 32.14 บาทต่อดอลลาร์ แต่ในช่วงท้ายตลาดเงินค่าเงินบาทปรับตัวแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 31.96-31.98 บาทต่อดอลลาร์ หลังจากที่ผ่านระดับ 32.03 บาทต่อดอลลาร์

"ค่าเงินบาท โดยได้รับอานิสงส์จากเงินทุนที่ไหลกลับเข้าในตลาดหุ้นไทย หลังจากที่สหรัฐอเมริกา มีแนวทางจะเลื่อนโจมตีซีเรีย"

คาดว่าวันนี้ (12 ก.ย.) เงินบาทจะเคลื่อนไหวในกรอบ 31.90-32.10 บาทต่อดอลลาร์ โดยต้องจับตาดูเงินทุนที่จะเข้าตลาดหุ้นเป็นหลัก

อย่างไรก็ตาม ค่าเงินบาท แข็งค่าสวนทางเงินในภูมิภาคหลายประเทศที่อ่อนค่าลง โดยเงินรูเปี๊ยะห์ อินโดนีเซีย ดิ่งลงกว่า 2% ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไรจากการพุ่งขึ้นของสกุลเงินและตลาดหุ้นในภูมิภาค

Tags : บอนด์อ้างอิงเงินเฟ้อตลาดผันผวนพันธบัตรชดเชยเงินเฟ้อคลัง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...