ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

MTS

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ความเคลื่อนไหวค่าเงินภาคเช้า25ก.ย.56 vdo.gif Market Wise ช่วงทิศทางความเคลื่อนไหวค่าเงินภาคเช้า สดตรงจากนักวิเคราะห์ ออกอากาศ 25 ก.ย.56 เจาะหุ้นเด่นภาคเช้า25ก.ย.56 vdo.gif Market Wise ช่วง เจาะหุ้นเด่นภาคเช้า สดตรงจากนักวิเคราะห์ ออกอากาศ 25 ก.ย.56 นายกฯขนผลงานโชว์ 'อภิสิทธิ์'ติงศก.ถดถอย "ยิ่งลักษณ์"ขนผลงานโชว์ 1 ปี ได้เรียกความเชื่อมั่นของต่างประเทศทั้งเศรษฐกิจ-การค้า ด้าน"อภิสิทธิ์"ระบุเศรษฐกิจถดถอย ค่าครองชีพพุ่ง กลยุทธ์การลงทุนหุ้นไทย 25 ก.ย.56 vdo.gif จัดระบบเทรดทอง สกัด'ค่าเงินป่วน' จัสมินฯสรุปตั้งอินฟรา7หมื่นล้าน กลยุทธ์ลงทุนทอง-อนุพันธ์ 25 ก.ย.56 vdo.gif

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

ข่าวยอดนิยม

  • ดวงพยากรณ์วันพุธที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2556
  • เกาะติดตลาดหุ้นโลก 25 ก.ย.56
  • ประกาศเตือนฉบับที่4ฝนตกหนักทั่วไทย
  • 'แอ๊ปเปิ้ล'ปรับเป้าหลังยอดขายไอโฟนใหม่พุ่ง
  • เฟดแจงต้องรับมือภัยคุกคามเศรษฐกิจ

  • ประธานธนาคารกลางสหรัฐ หรือเฟด สาขานิวยอร์ก ออกมาขย่มตลาดเงิน-ตลาดทุนโลกอีกระลอก คราวนี้บอกเฟดต้องรับมือกับภัยคุกคามศก. แต่ยังลดคิวอีปีนี้


    ประธานคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก นายวิลเลียม ดัดลีย์ กล่าวปกป้องการตัดสินใจอย่างเหนือความคาดหมายของเฟดที่ไม่ลดการเข้าซื้อพันธบัตร ด้วยการเตือนถึงความไม่แน่นอนทางการคลัง ในช่วงที่สภาคองเกรสต้องหาข้อตกลงเพิ่มการใช้จ่ายและเพิ่มเพดานหนี้สาธารณะ
    เช่นเดียวกับประธานเฟดสาขาแอตแลนต้า นายเดนนิส ล็อกฮาร์ท ที่เตือนว่า สหรัฐเสี่ยงต่อการสูญเสียมนต์เสน่ห์ทางเศรษฐกิจ เว้นแต่ว่า ส.ส. ทำงานเพื่อเพิ่มผลิตภาพด้านแรงงานและสร้างงานใหม่
    อย่างไรก็ตาม ประธานเฟดสาขาดัลลัส นายริชาร์ด ฟิชเชอร์ ผู้มีแนวคิดสายเหยี่ยว กล่าวว่า เขาได้ผลักดันเฟดให้ลดการเข้าซื้อพันธบัตรเดือนละ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ และเตือนว่า การที่เฟดยังไม่ลดมาตรการกระตุ้นจะทำลายความน่าเชื่อถือของเฟดเอง
    นายดัดลีย์ ซึ่งมีแนวคิดสายพิราบและเป็นหนึ่งในกรรมการผู้มีสิทธิออกเสียงถาวรในคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด กล่าวถึงอัตราดอกเบี้ยระยะยาว การขึ้นภาษี การลดค่าใช้จ่ายภาครัฐเมื่อช่วงต้นปี รวมทั้งคำถามที่เพิ่มมากขึ้นต่อเพดานหนี้และงบประมาณของรัฐบาล ว่าเป็นสิ่งที่เฟดต้องเผชิญ
    นักเศรษฐศาสตร์หลายคนสงสัยว่า นายเบอร์นันเกอาจไม่ทำตามแผนที่เคยกล่าวว่าในเดือนมิถุนายน ว่าเฟดตั้งเป้าลดการเข้าซื้อพันธบัตรปลายปีนี้ และจะยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณหรือคิวอีทั้งหมดภายในกลางปี 2557 หากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวต่อเนื่อง
    นายดัดลีย์กล่าวว่า กรอบดังกล่าวยังเป็นไปตามนั้น พร้อมชี้ว่าเมื่อเดือนมิถุนายน นายเบอร์นันเกไม่ได้เจาะจงว่าจะลดคิวอีครั้งแรกในเดือนกันยายน เพราะทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจ ซึ่งเกณฑ์สองประการคือตลาดแรงงานและความเชื่อมั่น ยังไม่ดีขึ้น
    นักเศรษฐศาสตร์จากเจพี มอร์แกน นายไมเคิล เฟโรลี กล่าวว่า ถ้อยแถลงของนายดัดลีย์บอกเป็นนัยถึง "เป้าหมายใหม่ของคิวอี" ที่ให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีมากขึ้น

    Tags : เฟดคิวอีธนาคารกลางสหรัฐ


  • สมาคมค้าทองเตรียมเสนอแผนตั้งศูนย์กลางตลาดค้าทองในประเทศ จัดระเบียบการซื้อขาย ลดแรงกดดันค่าเงินผันผวน ก.ล.ต.ผนึกธปท.ดูแลการเก็งกำไรค่าเงิน


    นายภควต โกวิทวัฒนพงศ์ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทรีนีตี้ วัฒนา ผู้ถือหุ้นใหญ่ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า สมาคมค้าทองคำมีแนวคิดจัดตั้งศูนย์กลางตลาดซื้อขายทองคำ (Gold Exchange) เพื่อให้เป็นศูนย์กลางของนักลงทุนที่ต้องการซื้อและขายทองคำแท่ง สามารถมาซื้อขายในตลาดนี้ซึ่งอยู่ภายในประเทศ เนื่องจากปัจจุบันการซื้อขายทองคำแท่งจะเป็นลักษณะนักลงทุนแต่ละรายซื้อ สั่งซื้อขายทองผ่านผู้ประกอบการแล้วผู้ประกอบการค้าทองก็จะนำเข้าทองจากต่างประเทศ
    ดังนั้น หากมีตลาดซื้อขายทองคำแท่งในประเทศ เชื่อว่าจะลดแรงกดดันต่อการเคลื่อนไหวอัตราแลกเปลี่ยน เพราะการสั่งซื้อ-ขายทองคำแท่งจากต่างประเทศ จะเกี่ยวข้องกับการซื้อเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งไปกระทบกับการดูแลของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะทำหน้าที่ดูแลอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ เนื่องจากปริมาณการเทรดทองคำแท่งในประเทศช่วง 2-3 ปีผ่านมามีปริมาณเพิ่มมากขึ้นมาก จนติดอันดับ 3 ของเอเชีย
    "หากมีตลาดซื้อขายทองคำแท่งในประเทศ ถ้านักลงทุนซื้อทองแท่งมากกว่าที่มีนักลงทุนเสนอขาย ก็ค่อยนำเข้าทองแท่งมา เฉพาะส่วนต่างระหว่างซื้อกับขาย ก็จะช่วยลดแรงกดดันเรื่องการซื้อเงินตราต่างประเทศ เพราะจะซื้อเฉพาะที่เป็นส่วนต่างกันเท่านั้น" นายภควัต กล่าว
    เขายังกล่าวอีกว่า ข้อดีของการมีตลาดซื้อขายทองคำแท่ง จะเป็นการรองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (เออีซี) ทำให้ต่างชาติสามารถเข้ามาซื้อขายทองในประเทศไทยได้ด้วย แทนที่ผู้ประกอบการจะออกไปเทรดต่างประเทศ เช่น ที่ตลาดสิงคโปร์ ซึ่งได้ยื่นข้อเสนอมาให้ผู้ประกอบการค้าทองในประเทศไปตั้งบริษัท เพื่อดึงรายการซื้อขายทองแท่งในไทยไป
    นอกจากนี้ยังเป็นการจัดระเบียบการค้าทองในประเทศด้วย โดยอาจให้ตลาดหลักทรัพย์มาวางระบบให้ เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์มีประสบการณ์ทั้งตลาดหุ้นและตลาดล่วงหน้า (ฟิวเจอร์ส) ซึ่งหากเกิดขึ้นจริง ก็จะช่วยให้ตลาดซื้อขายล่วงหน้า มีความคึกคักเพิ่มขึ้นด้วย เนื่องจากทั้งสองตลาดจะลิงค์ถึงกันได้
    อย่างไรก็ตาม ประเด็นปัญหาที่ทำให้ตลาด Gold Exchange ยังไม่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่มีใครเป็นเจ้าภาพที่จะทำหน้าที่ในการกำกับดูแลความเรียบร้อย ซึ่งที่ผ่านมาสมาคมก็เคยไปหารือกับหลายหน่วยงาน แต่ไม่มีใครรับเป็นเจ้าภาพ ทั้งที่ตลาดซื้อขายทองแท่งในประเทศปัจจุบันมีมูลค่ามหาศาล บางรายเทรดกันปีละเป็นแสนล้านบาท
    "เท่าที่ผมทราบคุณจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทอง ได้มีแนวคิดการเรื่องจัดตั้งตลาดค้าทองมานานแล้วประมาณ 2-3 ปีที่ผ่านมา แต่ยังไม่ได้เป็นข้อสรุปในสมาคมฯ รวมทั้งยังไม่มีใครรับเป็นเจ้าภาพ ในการจัดตั้งและกำกับหากตั้งเป็นตลาดค้าทองแท่งในประเทศ"นายภควัตกล่าว
    ทั้งนี้ไทยเป็นหนึ่งในประเทศเอเชีย ที่นิยมการบริโภคและลงทุนทองคำอย่างมาก ซึ่งที่ผ่านมา ผู้บริหารของ ธปท. และดีลเลอร์ในตลาดเงิน ระบุตรงกันว่า ความเคลื่อนไหวของราคาทองคำ จะมีผลต่อค่าเงินบาท โดยถ้าราคาทองคำปรับตัวลง จะมีการซื้อดอลลาร์เพื่อนำไปซื้อทอง แต่ในทางกลับกัน ถ้าราคาทองคำปรับขึ้น จะทำให้มีการขายทำกำไรทอง และขายดอลลาร์ เช่นกัน
    ก.ล.ต.พร้อมร่วมมือธปท.สอบเก็งกำไร
    ด้าน นายวรพล โสคติยานุรักษ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.พร้อมหารือและให้ความร่วมมือกับ ธปท. ในการกำกับดูแลผู้ประกอบการทองคำในเรื่องการเก็งกำไรค่าเงิน อย่างไรก็ตาม บทบาทหน้าที่ของก.ล.ต.กำกับดูแลเฉพาะส่วนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายล่วงหน้า หรือฟิวเจอร์สเท่านั้น
    ขณะที่การซื้อขายทองแท่งหรือรูปพรรณอยู่ในความดูแลของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเข้าใจว่าทาง ธปท.มีความกังวลเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นหาก ธปท.เห็นว่ามีส่วนใด หรือแนวทางใดที่ ก.ล.ต.ช่วยเหลือได้ ก็ยินดี ซึ่งจะต้องมีการหารือกัน แต่ ปัจจุบัน ยังไม่ได้หารือกัน และ ธปท.เอง ก็ยังไม่ได้มีการข้อมูลใดๆ เข้ามา
    ย้ำดูแลเฉพาะสัญญาซื้อขายล่วงหน้า
    "หากเป็นการซื้อขายทองคำที่ไม่ใช่สัญญาซื้อขายล่วงหน้า ก.ล.ต.ไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้ เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจ ก.ล.ต. อย่างไรก็ตามปัจจุบันผู้ประกอบการที่ได้ใบอนุญาตประกอบกิจการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าจาก ก.ล.ต. ก็มีทั้งส่วนที่เป็นโบรกเกอร์ และผู้ประกอบการร้านค้าทองคำ ซึ่ง ก.ล.ต.ได้มีการประชุมหารือกับผู้ประกอบการกลุ่มนี้อยู่เสมอ ในการหารือครั้งถัดไป อาจจะมีการสอบถามพูดคุย และตักเตือนว่าไม่ควรทำอะไรที่ไม่เหมาะสม"
    สำหรับการซื้อขายโกลด์ฟิวเจอร์สนั้น ปริมาณการซื้อขาย (วอลุ่ม) อาจจะลดลงบ้าง แต่ไม่มาก และมองว่าไม่มีความสัมพันธ์กันกับประเด็นการเก็งกำไรค่าเงินของผู้ประกอบการร้านค้าทองคำ ขณะที่จำนวนการขออนุมัติวงเงินไปลงทุนต่างประเทศ ของนักลงทุนไทยก็อยู่ในระดับปกติ
    เปิด 3 ขั้นตอนสอบซื้อขายล่วงหน้าทอง
    ด้าน นายธวัชชัย พิทยโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายงานเลขาธิการ ก.ล.ต. กล่าวว่า ในการกำกับดูแลผู้ประกอบการร้านค้าทองคำนั้น ก.ล.ต.ทำได้เฉพาะในส่วนที่ ก.ล.ต.รับผิดชอบเท่านั้น โดย ก.ล.ต.จะตรวจสอบใน 3 ส่วน คือ 1.ดูว่าการซื้อขายทองคำนั้น เป็นการซื้อขายล่วงหน้าล่วงหน้าหรือไม่ 2.หากพบว่าเป็นการซื้อขายล่วงหน้า ก็ต้องเข้าไปตรวจสอบว่า ผู้ประกอบการที่ทำธุรกรรมมีใบอนุญาตที่ถูกต้อง หรือเป็นผู้ประกอบการเถื่อนหรือไม่ และ 3.หลังจากนั้นถึงจะตรวจสอบว่าได้ดำเนินธุรกิจถูกต้องตามที่ใบอนุญาตกำหนดหรือไม่
    เล็งพบธปท.แจงข้อมูลค้าทอง
    นางพวรรณ์ นววัฒนทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า สมาคมฯ จะขอเข้าหารือกับธปท. เพื่อชี้แจงและกำหนดแนวทางการป้องกันปัญหาการเก็งกำไรค่าเงินผ่านตลาดทองคำ ซึ่งผู้ประกอบการไม่มีการเก็งกำไรค่าเงินผ่านการซื้อขายในตลาดทองคำ เนื่องจากได้มีการทำประกันความเสี่ยงค่าเงิน ผ่านสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าอยู่แล้ว และการซื้อขายทองคำในแต่ละครั้ง จะมีการรายงานข้อมูลให้กับทาง ธปท.รับทราบ ซึ่ง ธปท.จะมีข้อมูลในส่วนนี้ชัดเจน
    นพ.กฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานกลุ่มบริษัท แม่ทองสุก เอ็มทีเอส โกลด์ กล่าวว่า ขณะนี้สมาคมผู้นำเข้าและส่งออกทองคำ อยู่ระหว่างการรอคำตอบจากทางผู้ว่าการธปท.ว่าจะให้เข้าพบเมื่อใด เพื่อชี้แจงและทำความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยังไม่แน่ใจว่าจะได้เข้าพบภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ ทั้งนี้ปัจจุบันสมาคมผู้นำเข้าและส่งออกทองคำ มีผู้ประกอบการร้านทองเป็นสมาชิก 7 ราย มีสัดส่วนการนำเข้าส่งออกกว่า 90% ของประเทศ
    Tags : เทรดทองเก็งกำไรค่าเงินภควต โกวิทวัฒนพงศ์
     
    ข่าวที่เกี่ยวข้อง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงต่อบ่ายนี้ เหตุวิตกการเจรจางบประมาณสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 กันยายน 2556 12:13:37 น.

ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลงในช่วงบ่ายวันนี้ เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการเจรจาเรื่องงบประมาณของสหรัฐที่ทำให้นักลงทุนยังชะลอการลงทุนไว้ ส่วนสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวสูงขึ้นหลังร่วงลงในช่วงที่ผ่านมา

ดัชนี MSCI Asia Pacific อ่อนตัว 0.2% เมื่อเวลา 12.53 น.ตามเวลากรุงโตเกียว

นอกจากนี้ นักลงทุนต่างก็จับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ โดยจะมีการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนและยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.ในคืนนี้ ตามเวลาไทย หลังคอนเฟอเรนซ์ บอร์ดรายงานวานนี้ว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลดลงในเดือนก.ย. เนื่องจากชาวอเมริกันมีมุมมองบวกน้อยลงต่อการจ้างงานและค่าจ้างในอนาคต

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

*** สถาบันการเงินชื่อดังของโลก หั่นราคาทองปีหน้าลง

 

วันพุธ, 25 กันยายน 2556 09:42 | อัพเดตล่าสุดเมือ วันพุธ, 25 กันยายน 2556 09:42 |

 

ซิตี้กรุ๊ป โกลด์แมน แซคส์ และและมอร์แกน สแตนลีย์ ออกมาปรับลดการคาดการณ์ราคาทองคำว่า ยังมีทิศทางที่เป็นขาลง

 

โดยซิตี้กรุ๊ป ระบุว่า ราคาทองอาจร่วงลงต่ำกว่า 1,250 ดอลลาร์/ออนซ์ก่อนสิ้นปีนี้ หลังเศรษฐกิจของสหรัฐส่งสัญญาณดีขึ้น

 

ขณะที่มอร์แกน สแตนลีย์ คาดว่าราคาทองคำจะอยู่ที่ 1,200 -1,350 ดอลลาร์ในปีหน้า ก่อนที่จะมีแนวโน้มปรับตัวลง

 

ส่วนโกลด์แมน แซคส์ คาดว่าสัญญาทองคำจะร่วงลงไปอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,000 ดอลลาร์ในปีหน้า

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

'โฆสิต'คาดจีดีพีไทยปีนี้โตต่ำกว่า4%

 

"โฆสิต" คาด จีดีพีไทยปีนี้โตต่ำกว่า 4% เหตุยังไร้สัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนส่งออกคาดโต 2-3% เท่านั้น

 

ซีพีเอฟเร่งแต่งตัวเข้าดาวโจนส์ภายใน2-4ปี

 

ซีพีเอฟ เดินหน้าเตรียมความพร้อมเข้าเทรดตลาดดาวโจนส์ภายใน 2-4 ปีข้างหน้า คาดราคาได้ปีนี้อยู่ระดับ 3.5แสนลบ.ใกล้เคียงปีก่อน

 

เจาะหุ้นเด่นภาคบ่าย 25 ก.ย.56 vdo.gif

 

เจาะหุ้นเด่นภาคบ่าย 25 ก.ย.56 สดตรงจากนักวิเคราะห์ ติดตามได้ใน Market Wise

 

เปิดโผหุ้นเด็ดTOP-BANPU-TTA-AOT

 

 

 

กลยุทธ์ลงทุนทอง-อนุพันธ์ 25 ก.ย.56 vdo.gif

 

 

 

กลยุทธ์ลงทุนตลาดหุ้นภาคบ่าย 25 ก.ย.56 vdo.gif

 

 

 

แบงก์แลนด์ออกเงินฝาก10เดือนดบ.3.4%

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รายการ Gold Insight วิเคราะห์แนวโน้มฟิวเจอร์ส วันพุธ ที่ 25 กันยายน 2556 โดย ฝ่ายวิจัย บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เงินบาทปิดตลาด 31.28/30 ขยับแข็งค่าตามภูมิภาคจากเงินทุนไหลเข้า

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 กันยายน 2556 17:32:31 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทปิดตลาดเย็นนี้อยู่ที่ระดับ 31.28/30 บาท/ดอลลาร์ จากช่วงเช้าที่ระดับ 31.33/35 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวแข็งค่าตามภูมิภาค และการไหลเข้าของเงินทุนต่างประเทศ

"ระหว่างวันเงินบาทค่อนข้างผันผวน ช่วงเช้าอ่อนค่าไปเกือบ 31.50(บาท/ดอลลาร์) แต่ช่วงท้ายตลาดกลับมาแข็งค่า" นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 31.20-31.35 บาท/ดอลลาร์

* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 98.55 เยน/ดอลลาร์ แข็งค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 98.64/66 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.3512 ดอลลาร์/ยูโร แข็งค่าจากช่วงเช้าที่ระดับ 1.3479/3481 ดอลลาร์/ยูโร

- ดัชนี SET ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,436.90 จุด เพิ่มขึ้น 19.13 จุด, +1.35% ปริมาณการซื้อขาย 36,602.52 ล้านบาท

- สรุปปริมาณการซื้อขายรายกลุ่ม ต่างชาติขายสุทธิ 2,432.42 ล้านบาท(SET+MAI)

- ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งรับพิจารณาวินิจฉัยคำร้องที่ประธานรัฐสภาส่งความเห็นของสมาชิกรัฐสภาขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154 วรรคหนึ่ง(1) ว่า ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2557 มาตรา 27 และมาตรา 28 มีข้อความขัดแย้งหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือตราขึ้นโดยไม่ถุกต้องตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 168 วรรคแปด และวรรคเก้าหรือไม่ พร้อมสั่งหน่วยงานเข้าชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญในวันที่ 2 ต.ค.56

- นายกรัฐมนตรีเตรียมเชิญผู้ประกอบการร่วมวางกลยุทธ์กระตุ้นยอดส่งออก-เจาะตลาดตรงจุด โดยจะประเดิมหารือกับกลุ่มธุรกิจสปาและเครื่องสำอางค์ในวันที่ 27 ก.ย.นี้ ส่วนสัปดาห์หน้าจะนัดหารือกับผู้ประกอบการในธุรกิจท่องเที่ยว

- นายโฆสิต ปั้มเปี่ยมรัษฎ์ ประธานกรรมการ ธนาคารกรุงเทพ(BBL) มองเศรษฐกิจไทยในปีนี้มีโอกาสสูงที่จะเติบโตต่ำกว่า 4% ที่คาดการณ์ไว้ และยังไม่เห็นแรงส่งเศรษฐกิจในช่วงที่เหลือของปีนี้และปีหน้า คงต้องรอดูตัวเลขเศรษฐกิจในไตรมาส 3/56 เพื่อประกอบการทบทวนประมาณการเศรษฐกิจของไทยในปีนี้อีกครั้ง แต่เชื่อว่าคงจะไม่ปรับเปลี่ยนตัวเลขไปจาก 4%

- คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะนัดประชุมเป็นการภายใน 30 ก.ย.นี้ หลังการแถลงตัวเลขเศรษฐกิจประจำเดือน เพื่อติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)ตัดสินใจคงมาตรการ QE ก่อนจะมีการประชุม กนง.อย่างเป็นทางการอีกครั้งในวันที่ 16 ต.ค.นี้

- นายก้องเกียรติ โอภาสวงการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.เอเซียพลัส(ASP) กล่าวว่า แนวโน้มการลงทุนในไตรมาส 4 เริ่มมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจไทยเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาส 4 และถ้าโครงการ 2 ล้านล้านบาท ของภาครัฐสามารถเกิดขึ้นได้จะช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของประเทศไทยเติบโตขึ้นได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีการลงทุนมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตามต้องติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐฯและการพิจารณาปรับลดมาตรการ QE ซึ่งอาจจะมีความเป็นไปได้ในการปรับลดมาตรการ QE ในไตรมาส 4

- ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปิดทรงตัววันนี้ ขณะที่แรงขายทำกำไรได้สกัดแรงซื้อที่เป็นผลจากการร่วงลงของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐและหุ้นญี่ปุ่น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรหมายเลข 330 ซึ่งเป็นมาตรวัดดอกเบี้ยระยะยาว ปิดที่ 0.670% ทรงตัวจากระดับปิดเมื่อวานนี้ ขณะที่ราคาสัญญาพันธบัตรอายุ 10 ปีส่งมอบเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.04 จุด แตะที่ 144.15 ที่ตลาดหุ้นโตเกียว

- สำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี(Istat) เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 101.1 ในเดือน ก.ย.จาก 98.4 ในเดือน ส.ค. โดยตัวเลขเดือน ก.ย.ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.54 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เผยราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงขยับขึ้น 2 ดอลลาร์ฮ่องกง ปิดที่ระดับ 12,282 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ หรือเทียบเท่ากับ 1,330.29 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ ปรับตัวขึ้น 0.22 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ/7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

อินโฟเควสท์ โดย ธนวัฏ เสือแย้ม/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

 

โพลหอการค้าฯพบชาวนาเชียร์จำนำข้าว/ผู้ส่งออกแนะเลิกเหตุส่งออกลด-รายได้หาย

 

ภาวะตลาดหุ้นไทย: ปิดพุ่ง 19.13 จุด เกิดเทคนิคเคิลรีบาวดหลังลงไปมาก-ดูดีกว่าตลาดภูมิภาค

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 กันยายน 2556 17:38:05 น.

ตลาดหลักทรัพย์ปิดตลาดช่วงบ่ายวันนี้ที่ระดับ 1,436.90 จุด เพิ่มขึ้น 19.13 จุด(+1.35%) มูลค่าการซื้อขาย 36,602.52 ล้านบาท

การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกสลับกับแดนลบ โดยแตะจุดสูงสุดของวันที่ระดับ 1,436.90 จุด ส่วนดัชนีจุดต่ำสุดของวันอยู่ที่ 1,413.63 จุด

ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 472 หลักทรัพย์ ลดลง 220 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 164 หลักทรัพย์

นายพิชัย เลิศสุพงศ์กิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการฝ่ายการตลาด บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในวันนี้ปิดปรับตัวขึ้นเกือบ 20 จุด ทำให้ดูดีกว่าตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียที่ต่างอยู่ในแดนลบเล็กน้อย มองว่าเป็นการเกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์ เนื่องจากตลาดบ้านเราปรับตัวลงไปเร็วและมากกว่าภูมิภาคในช่วงก่อนหน้านี้ แต่วอลุ่มเทรดโดยรวมวันนี้ก็ถือว่ายังไม่มาก และขณะนี้ก็ยังไม่ได้มีปัจจัยใหม่เข้ามา

หุ้นที่มีการดีดตัวกลับขึ้นมาจะเห็นได้ว่าเป็นหุ้นกลุ่มสื่อสาร และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์บางตัวที่มีการฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ปรับตัวลงไปมากในช่วงที่ผ่านมา

อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังเฝ้าติดตามเรื่องการปรับเพดานหนี้ของสหรัฐฯ การลดขนาด QE และข้อมูลเศรษฐกิจ

แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ นายพิชัย กล่าวว่า ตลาดฯคงจะอยู่ในลักษณะของการแกว่งตัว โดยจะเกิดสัญญาซื้อก็ต่อเมื่อสามารถยืนเหนือแนวต้าน 1,450 จุด ส่วนแนวรับให้ไว้ที่ 1,420 จุด

ด้านนายอดิศักดิ์ ผู้พิพัฒน์หิรัญกุล นักกลยุทธ์การลงทุน บล.ธนชาต กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมองว่ายังอยู่ในแนวโน้มการสร้างฐาน ซึ่งจะต้องรอดูตัวเลขการส่งออกของไทยในวันพรุ่งนี้ด้วย หากออกมาดีก็น่าจะเป็นตัวช่วยดัชนีให้ปรับขึ้นได้อีก

ทั้งนี้ ตลาดฯในวันพรุ่งนี้ยังมีโอกาสรีบาวด์ต่อได้ พร้อมให้แนวรับที่ 1,410-1,420 จุด และแนวต้าน 1,444 จุด

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่

TRUE มูลค่าการซื้อขาย 2,438.19 ล้านบาท ปิดที่ 8.35 บาท เพิ่มขึ้น 0.55 บาท

KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,881.42 ล้านบาท ปิดที่ 186.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,792.70 ล้านบาท ปิดที่ 267.00 บาท เพิ่มขึ้น 6.00 บาท

INTUCH มูลค่าการซื้อขาย 1,621.56 ล้านบาท ปิดที่ 85.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท

SCB มูลค่าการซื้อขาย 1,585.02 ล้านบาท ปิดที่ 159.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท

อินโฟเควสท์ โดย สุวิมล ภูมิคำ/ศศิธร โทร.02-2535000 ต่อ 345 อีเมล์: sasithorn@infoquest.co.th--

โกลเบล็ก คาดหุ้นไทยปรับขึ้นปลายต.ค.ตามเศรษฐกิจฟื้น มองเป้า SET ปีนี้ 1,417 จุด

 

ฝนตก อากาศเปลี่ยนดูสุขภาพด้วยเพื่อนๆ โชคดี ลงทุนปลอดภัย1238045_658601077493297_862246667_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
พท.ยันโหวตวาระ3ร่างแก้รธน.ที่มาส.ว. "อำนวย"ยันเดินหน้าโหวตวาระ 3 ร่างแก้ไข รธน.ที่มา ส.ว. วันที่ 28 ก.ย.นี้ เคทีซีผวาหนี้เน่า!ค้าง1วันSMSเตือนทันที เคทีซีผวาหนี้เน่าบัตรรูดปรื้ด! ส่งเอสเอ็มเอสเตือนทันทีที่ลูกค้าเริ่มค้างชำระ 1 วัน รับเศรษฐกิจชะลอ ค่าครองชีพพุ่ง ลูกค้าเริ่มขอวงเงินเพิ่ม 'อดุลย์'ให้นโยบายผบช.ภ.ประเมินทุก3เดือน "ผบ.ตร."มอบนโยบายผู้บัญชาการ เน้นการทำงานประเมินผลทุก3เดือน สปส.จ้าง5บลจ.บริหารเงินกว่า4.5หมื่นล้าน แห่สมัครสมาร์ทเลดี้2หมื่นเกินความคาดหมาย สรุปภาวะซื้อขายทองคำ-อนุพันธ์ 25 ก.ย.56 vdo.gif สรุปภาวะซื้อขายตลาดหุ้นไทย 25 ก.ย.56 vdo.gif

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เยนแข็งค่าเทียบดอลล์ หลังนักลงทุนวิตกสถานการณ์คลังสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 25 กันยายน 2556 20:15:07 น.

เงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการเจรจาเรื่องงบประมาณสหรัฐยังไม่มีความคืบหน้า แม้ว่าใกล้จะถึงเส้นตายในการปรับเพิ่มเพดานหนี้และความเป็นไปได้ที่จะมีการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐแล้วก็ตาม ซึ่งความวิตกกังวลในเรื่องนี้ผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อเงินเยนซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัย

เมื่อเวลา 7.18 น.ตามเวลานิวยอร์ก สกุลเงินเยนแข็งค่า 0.3% ที่ระดับ 98.44 เยน/ดอลลาร์ และเคลื่อนไหวเล็กน้อยที่ระดับ 133.04 เยน/ยูโร ส่วนเงินยูโรแข็งขึ้น 0.3% แตะที่ 1.35016 ดอลลาร์/ยูโร

นักลงทุนกำลังจับตาดูการอภิปรายเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์กังวลว่าในสัปดาห์นี้สภาคองเกรสสหรัฐอาจเผชิญกับสถานการณ์ที่ยุ่งยาก ซึ่งการที่หน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐอาจจะต้องปิดทำการในวันที่ 1 ต.ค. หรืออาจจะเปิดทำการได้ต่อไปนั้น ขึ้นอยู่กับผลการลงคะแนนเสียงในสภาคองเกรส

นายจาค็อบ ลิว รมว.คลังสหรัฐกล่าวกับสภาคองเกรสเมื่อเดือนที่แล้วว่า หนี้สินของรัฐบาลกลางจะชนเพดานที่ระดับ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในกลางเดือนต.ค.นี้ พร้อมกับเรียกร้องให้สภาคองเกรสเพิ่มอำนาจในการกู้ยืมให้กับรัฐบาลในช่วงเวลาที่เหมาะสม

ทั้งนี้ พรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกันเกี่ยวกับแผนงบประมาณของรัฐบาลประจำปี 2557 ซึ่งจะเริ่มในวันที่ 1 ต.ค.นี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย ปรียพรรณ มีสุข โทร.02-2535000 ต่อ 338 อีเมล์: preeyapan@infoquest.co.th-

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1376540_677259438952221_1227536470_n.jpg

Jim Daly (USA)

 

นักลงทุนกับนักคนตรีคนที่ทำด้วยใจรัก

สวัสดี news(วันนี้มาก่อนnews :32!!!) bas deb OKorNo Espresso wann Pasaya gejen

yot Magagold raty meng Goldleng เต้าหู ตูัเย็น ตังเม เด็กสยาม น้อย อยากเล่นด้วยคน ปุยเฆฆ Hong ....

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556 07:36:11 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 25 ก.ย. 2556

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 15,273.26 จุด ลดลง 61.33 จุด -0.40%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 1,692.77 จุด ลดลง 4.65 จุด -0.27%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 3,761.10 จุด ลดลง 7.15 จุด -0.19%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,195.35 จุด ลดลง 0.26 จุด -0.01%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,665.63 จุด เพิ่มขึ้น 1.03 จุด +0.01%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,551.53 จุด ลดลง 19.93 จุด -0.30%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 4,406.77 จุด ลดลง 53.64 จุด -1.20%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,283.90 จุด ลดลง 15.22 จุด -0.18%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 14,620.53 จุด ลดลง 112.08 จุด -0.76%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดนี้ที่ 1,998.06 จุด ลดลง 9.04 จุด -0.45%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,275.90 จุด เพิ่มขึ้น 41.70 จุด +0.80%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,198.51 จุด ลดลง 9.02 จุด -0.41%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 6,420.42 จุด ลดลง 40.96 จุด -0.63%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,209.63 จุด เพิ่มขึ้น 30.59 จุด +0.13%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,784.06 จุด ลดลง 8.42 จุด -0.47%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,208.58 จุด ลดลง 3.17 จุด -0.10%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 19,856.24 จุด ลดลง 63.97 จุด -0.32%

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาด้านการคลังของสหรัฐอาจจะนำไปสู่การปิดหน่วยงานของรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,273.26 จุด ลดลง 61.33 จุด หรือ -0.40% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,692.77 จุด ลดลง 4.65 จุด หรือ -0.27% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,761.10 จุด ลดลง 7.15 จุด หรือ -0.19%

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลาง นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 19.9 ดอลลาร์ หรือ 1.51% แตะที่ 1,336.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ แตะที่ 21.886 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1428.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 725.70 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการพลังงานของสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 47 เซนต์ ปิดที่ 102.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 32 เซนต์ ปิดที่ 108.32 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.)เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาด้านการคลังของสหรัฐอาจจะนำไปสู่การปิดหน่วยงานของรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.46 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 98.80 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9094 ฟรังค์ จากระดับ 0.9124 ฟรังค์

ยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3523 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3477 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.6077 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6006 ดอลลาร์สหรับ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9362 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9394 ดอลลาร์สหรัฐ

-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) ดยหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงหนักสุด และจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการคลังในสหรัฐ

ดัชนี FTSE 100 ปิดที่ 6,551.53 จุด ลดลง 19.93 จุด หรือ -0.30%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ และความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการคลังของสหรัฐ

ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 313.02 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 8,665.63 จุด เพิ่มขึ้น 1.03 จุด, +0.01% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,195.35 จุด ลดลง 0.26 จุด, -0.01% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,551.53 จุด ลดลง 19.93 จุด, -0.30%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $19.9 เหตุปัญหาการคลังสหรัฐหนุนแรงซื้อ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556 06:30:24 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในช่วงที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐบาลกลาง นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 19.9 ดอลลาร์ หรือ 1.51% แตะที่ 1,336.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ แตะที่ 21.886 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1428.80 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 5.70 ดอลลาร์ ปิดที่ 725.70 ดอลลาร์/ออนซ์

นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการคลังของสหรัฐ โดยนักลงทุนกำลังจับตาดูการอภิปรายเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์กังวลว่าในสัปดาห์นี้สภาคองเกรสสหรัฐอาจเผชิญกับสถานการณ์ที่ยุ่งยาก ซึ่งการที่หน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐอาจจะต้องปิดทำการในวันที่ 1 ต.ค. หรืออาจจะเปิดทำการได้ต่อไปนั้น ขึ้นอยู่กับผลการลงคะแนนเสียงในสภาคองเกรส

นายจาค็อบ ลิว รมว.คลังสหรัฐกล่าวว่า มาตรการฉุกเฉินที่จะช่วยให้รัฐบาลไม่ต้องเผชิญกับภาวะหนี้สินชนเพดานนั้น จะหมดอายุลงในวันที่ 17 ต.ค.นี้ พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลปรับเพิ่มเพดานหนี้ในช่วงเวลาที่เหมาะสม

นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่ของสหรัฐดีดตัว 7.9% ในเดือนส.ค. สู่ระดับ 421,000 ยูนิต แต่ยอดขายบ้านใหม่เดือนส.ค.อยู่ในระดับต่ำสุดเป็นอันดับสองของปีนี้ ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าตลาดที่อยู่อาศัยชะลอความร้อนแรงลง

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดจีนจะเริ่มปิดทำการในวันหยุดโกลเด้นวีคในสัปดาห์หน้า ซึ่งอาจจะทำให้ความต้องการนำเข้าทองคำของจีนซบเซาลง

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: วิตกปัญหาการคลังสหรัฐ ฉุดเงินดอลลาร์อ่อนค่า

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556 07:29:30 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.)เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่าปัญหาด้านการคลังของสหรัฐอาจจะนำไปสู่การปิดหน่วยงานของรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 98.46 เยน จากระดับของวันอังคารที่ 98.80 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9094 ฟรังค์ จากระดับ 0.9124 ฟรังค์

ยูโรแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.3523 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3477 ดอลลาร์สหรัฐ เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.6077 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.6006 ดอลลาร์สหรับ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะระดับ 0.9362 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.9394 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการคลังของสหรัฐ โดยสหรัฐกำลังจะเผชิญกับ 2 เส้นตายสำคัญที่ใกล้เข้ามา ซึ่งเส้นตายแรกก็คือการจัดหางบประมาณของรัฐบาลในปีงบประมาณใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ต.ค.นี้ และส่วนอีกเส้นตายหนึ่งจะเกี่ยวข้องกับเพดาหนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่าจำเป็นที่จะต้องเพิ่มเพดานหนี้ภายในช่วงกลางเดือนต.ค.นี้

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐขยับขึ้นเพียง 0.1% สู่ระดับ 2.2492 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. ส่วนยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค. ถูกปรับตัวเลขเป็นร่วงลง 8.1% จากเดิมที่รายงานว่าหดตัวลง 7.3%

สกุลเงินยูโรได้แรงหนุนจากผลการสำรวจโดยบริษัทวิจัย GfK ซึ่งระบุว่า ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเยอรมนีในเดือนต.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 7.1 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี จาก 7.0 ในเดือนก.ย. จากมุมมองบวกที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจ

นักลงทุนจับตาดูกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งสุดท้ายของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 2/2556 ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย ซึ่งนักวิเคราะห์คาดว่าจีดีพีจะขยายตัว 2.6% เพิ่มขึ้นจากตัวเลขประมาณการครั้งก่อนที่ 2.5%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 47 เซนต์ หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่ง

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556 06:44:08 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 ก.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะลดลง สะท้อนให้เห็นว่าความต้องการพลังงานของสหรัฐเริ่มชะลอตัวลง

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 47 เซนต์ ปิดที่ 102.66 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 32 เซนต์ ปิดที่ 108.32 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลง หลังจาก EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ย. เพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล แตะ 358.3 ล้านบาร์เรล ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล

ส่วนสต็อกน้ำมันกลั่นซึ่งรวมถึง heating oil และน้ำมันดีเซล ลดลง 234,000 บาร์เรล สู่ระดับ 130.8 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะร่วงลง 600,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 217,000 บาร์เรล แตะ 216.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล

อัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันร่วงลง 2.2% สู่ระดับ 90.3% จากที่นักวิเคราะห์คาดว่าอัตราการใช้กำลังการกลั่นน้ำมันจะลดลง 0.7%

นักลงทุนกำลังจับตาดูการอภิปรายเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์กังวลว่าในสัปดาห์นี้สภาคองเกรสสหรัฐอาจเผชิญกับสถานการณ์ที่ยุ่งยาก ซึ่งการที่หน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐอาจจะต้องปิดทำการในวันที่ 1 ต.ค. หรืออาจจะเปิดทำการได้ต่อไปนั้น ขึ้นอยู่กับผลการลงคะแนนเสียงในสภาคองเกรส

ทั้งนี้ สหรัฐกำลังจะเผชิญกับ 2 เส้นตายสำคัญที่ใกล้เข้ามา ซึ่งเส้นตายแรกก็คือการจัดหางบประมาณของรัฐบาลในปีงบประมาณใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ต.ค.นี้ และส่วนอีกเส้นตายหนึ่งจะเกี่ยวข้องกับเพดาหนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่าจำเป็นที่จะต้องเพิ่มเพดานหนี้ภายในช่วงกลางเดือนต.ค.นี้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

เยนแข็งค่าเทียบดอลล์ หลังนักลงทุนวิตกสถานการณ์คลังสหรัฐ

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...