ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

กะเหรี่ยงแม่แจ่มบวชป่าต้านเขื่อน http://bit.ly/1eMmbmi

 

 

1170816_10151893992534835_1958887503_n.jpg

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น
สรุปสถานการณ์ตลาดหุ้น-ทองรอบวัน 27 ก.ย.56 vdo.gif สรุปสถานการณ์ตลาดหุ้น-ทองรอบวัน 27 ก.ย.56 ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ บาทปิด31.30/32จับตาวิกฤตเพดานหนี้สหรัฐ ค่าเงินบาทวันนี้ปิดที่ 31.30-31.31 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่า แนะจับตาปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ คาดกรอบสัปดาห์หน้าอยู่ที่ 31.00-31.30 บาท/ดอลลาร์ พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติขาย3.4พันล้าน พอร์ตลงทุนหุ้นวันที่ 27 ก.ย. ต่างชาติขาย 3.4 พันล้าน รายย่อยซื้อ 1 พันล้าน สถาบันซื้อ 1.6 พันล้าน บัญชีบล.ซื้อ 764 ล้าน หุ้นไทยปิดร่วง7จุดขายทำกำไร สรุปภาวะซื้อขายทองคำ-อนุพันธ์ 27 ก.ย.56 vdo.gif สรุปภาวะซื้อขายตลาดหุ้น 27 ก.ย.56 vdo.gif ฟิทช์หวั่นนโยบายรัฐ-หนี้ครัวเรือนฉุดเรทติ้ง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1380754_652303004803369_1323674444_n.jpg

สวัสดี news bas deb gejen wann Pasaya Magagold OKorNO Tuktaaa raty GoldLeng yot Espresso

เต้าหู ปุยเฆฆ น้อย ตังเม ตู้เย็น ขวด อยากเล่นด้วยคน เจ้าป้า เต้าหู้ ทิพย์ bbeem meng เพื่อนๆทุกท่าน

 

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $15.1 เหตุวิตกการคลังสหรัฐหนุนแรงซื้อ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 07:43:13 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการคลังของสหรัฐ นอกจากนี่ การชะลอตัวลงของดัชนีความเชื่อมั่นของสหรัฐ ยังเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองทองคำเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 15.1 ดอลลาร์ หรือ 1.14% ปิดที่ 1,339.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.5 เซนต์ ปิดที่ 21.831 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.พุ่งขึ้น 4.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,419.2 ดอลลาร์/ออนซ์

อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยรวมเพียง 0.5%

นักลงทุนเข้าซื้อทองคำเพื่อความปลอดภัยท่ามกลางความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาการคลังของสหรัฐ โดยล่าสุดมีรายงานว่า สภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐสามารถดำเนินงานดำเนินต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.จนถึงวันที่ 15 พ.ย. โดยไม่ต้องมีการปิดหน่วยงาน

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อให้สภาฯผ่านร่างภายในวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผู้นำพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พวกเขาจะไม่ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเข้าซื้อสัญญาทองคำหลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 77.5 จากระดับ 76.8 ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวสู่ระดับ 78.0

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 16 เซนต์ หวั่นปัญหาการคลังสหรัฐกระทบศก.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 07:54:16 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่าปัญหาด้านการคลังของสหรัฐ อาจจะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางต้องปิดการดำเนินงานลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งเป็นประเทศที่ใช้น้ำมันในปริมาณมากที่สุดในโลก

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 16 เซนต์ ปิดที่ 102.87 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 58 เซนต์ ปิดที่ 108.63 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงเนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการคลัง ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดระบุว่า สภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐสามารถดำเนินงานดำเนินต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.จนถึงวันที่ 15 พ.ย. โดยไม่ต้องมีการปิดหน่วยงาน

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อให้สภาฯผ่านร่างภายในวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผู้นำพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พวกเขาจะไม่ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้

นายเจคอบ ลิว รัฐมนตรีคลังสหรัฐเปิดเผยว่า กระทรวงการคลังจะครบกำหนดเส้นตายในการกู้เงินในวันที่ 17 ต.ค.นี้ พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐสภาอนุมัติการเพิ่มเพดานหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนด

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 77.5 จากระดับ 76.8 ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวสู่ระดับ 78.0

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 70.06 จุด เหตุวิตกปัญหาการคลังสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 07:16:46 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์ด้านการคลังของสหรัฐ อาจจะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางต้องปิดการดำเนินงานลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,258.24 จุด ลดลง 70.06 จุด หรือ -0.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,691.75 จุด ลดลง 6.92 จุด หรือ -0.41% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,781.59 จุด ลดลง 5.84 จุด หรือ -0.15%

ตลอดทังสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปรับตัวลงทั้งสิ้น 1.2% และ 1.1% ตามลำดับ และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.2%

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการคลัง ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดระบุว่า สภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐสามารถดำเนินงานดำเนินต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.จนถึงวันที่ 15 พ.ย. โดยไม่ต้องมีการปิดหน่วยงาน

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อให้สภาฯผ่านร่างภายในวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผู้นำพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พวกเขาจะไม่ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 77.5 จากระดับ 76.8 ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวสู่ระดับ 78.0

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดการบริโภคส่วนบุคคลปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. หลังจากที่ขยายตัวได้ 0.2% ในเดือนก.ค.ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ชาวอเมริกันใช้จ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา ขณะที่รายได้ส่วนบุคคล ซึ่งรวมค่าแรง ค่าตอบแทนจากการลงทุน และเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

 

วุฒิสภาสหรัฐผ่านร่างกม.รายจ่ายชั่วคราว ช่วยรบ.เลี่ยงปิดหน่วยงานถึงวันที่ 15 พ.ย.

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 07:05:46 น.

วุฒิสภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐสามารถดำเนินงานดำเนินต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.จนถึงวันที่ 15 พ.ย. โดยไม่ต้องมีการปิดหน่วยงาน

ทั้งนี้ การปิดหน่วยงานรัฐบาลบางส่วนในสหรัฐนั้น จะส่งผลกระทบต่อพนักงานของรัฐบาลจำนวนหลายแสนคน ขณะที่จะมีการปิดสวนสาธารณะแห่งชาติ และประชาชนจะเป็นผู้ที่ต้องรับผลกระทบไม่ว่าประเด็นความขัดแย้งจะมาจากฝ่ายใดก็ตาม

ก่อนหน้านี้ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่มีรีพับลิกันครองเสียงข้างมากนั้น ได้ผ่านกฎหมายรายจ่ายชั่วคราวในการให้เงินสนับสนุนรัฐบาลจนถึงวันที่ 15 ธ.ค. ขณะที่ห้ามการจัดสรรเงินเพื่อดำเนินการโอบามาแคร์

หากไม่มีการอนุมัติกฎหมายรายจ่ายก่อนวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของปีงบประมาณ 2557 นั้น รัฐบาลกลางสหรัฐจะต้องปิดหน่วยงานราชการบางส่วน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 70.06 จุด เหตุวิตกปัญหาการคลังสหรัฐ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 07:16:46 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (27 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าวิกฤตการณ์ด้านการคลังของสหรัฐ อาจจะทำให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางต้องปิดการดำเนินงานลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 15,258.24 จุด ลดลง 70.06 จุด หรือ -0.46% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,691.75 จุด ลดลง 6.92 จุด หรือ -0.41% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,781.59 จุด ลดลง 5.84 จุด หรือ -0.15%

ตลอดทังสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปรับตัวลงทั้งสิ้น 1.2% และ 1.1% ตามลำดับ และดัชนี Nasdaq ลดลง 0.2%

นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านการคลัง ส่วนความเคลื่อนไหวล่าสุดระบุว่า สภาสหรัฐมีมติผ่านร่างกฎหมายการใช้จ่ายชั่วคราว เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐสามารถดำเนินงานดำเนินต่อไปตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.จนถึงวันที่ 15 พ.ย. โดยไม่ต้องมีการปิดหน่วยงาน

ร่างกฎหมายดังกล่าวจะถูกส่งกลับไปยังสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เพื่อให้สภาฯผ่านร่างภายในวันที่ 30 ก.ย. ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของปีงบประมาณในปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผู้นำพรรครีพับลิกันกล่าวว่า พวกเขาจะไม่ผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้ายเดือนก.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยสู่ระดับ 77.5 จากระดับ 76.8 ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวสู่ระดับ 78.0

ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆนั้น กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเผยยอดการบริโภคส่วนบุคคลปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนส.ค. หลังจากที่ขยายตัวได้ 0.2% ในเดือนก.ค.ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ชาวอเมริกันใช้จ่ายเงินเพิ่มมากขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา ขณะที่รายได้ส่วนบุคคล ซึ่งรวมค่าแรง ค่าตอบแทนจากการลงทุน และเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.4%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กรมอุตฯ ประกาศพายุหวู่ติ๊บจะขึ้นฝั่ง 1ต.ค.มีผลฝนตกหนักในภาคอีสาน-ตอ.

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 07:25:23 น.

นายวรพัฒน์ ทิวถนอม อธิบดีกรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง "พายุ “หวู่ติ๊บ" (WUTIP)" ฉบับที่ 3 ลงวันที่ 28 กันยายน 2556 ว่า เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (28 ก.ย. 56) พายุโซนร้อน “หวู่ติ๊บ" (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 650 กิโลเมตรทางตะวันออกของชายฝั่งประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จากนั้นจะเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนตัวไปทางเหนือมากยิ่งขึ้น คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

สำหรับ ร่องมรสุมได้เลื่อนลงมาผ่านภาคกลาง และภาคตะวันออก ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนหนาแน่นเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ข้อขัดแย้งงบประมาณสหรัฐฯฉุดหุ้นลง-ดันทองคำขึ้น น้ำมันปิดลบ blank.gif โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 28 กันยายน 2556 05:18 น.

 

blank.gif 556000012814601.JPEG blank.gif เอเอฟพี - ตลาดหุ้นสหรัฐฯวันศุกร์(27) ปิดลบพอสมควรท่ามกลางความกังวลต่อข้อขัดแย้งเกี่ยวกับร่างงบประมาณในสภาคองเกรสที่เสี่ยงทำให้หน่วยงานราชการบางส่วนของอเมริกาต้องปิดดำเนินการ อย่างไรก็ตามปัจจัยผลักให้ทองคำขยับขึ้น หลังนักลงทุนหันเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ ส่วนน้ำมันลดลง จากสถานการณ์ความตึงเครียดที่คลี่คลายในตะวันออกกลาง

 

ดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 70.06 จุด (0.46 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 15,258.24 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 6.92 จุด (0.41 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,691.75 จุด แนสแดค ลดลง 5.83 จุด (0.15 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,781.59 จุด

 

ในวันศุกร์(27) วุฒิสภาที่พรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ลงมติเห็นของร่างงบประมาณชั่วคราวที่จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐบาลยังปฏิบัติงานได้ตามปกติในช่วงเริ่มต้นปีงบประมาณปี 2014 ในวันอังคารหน้า(1ต.ค.)

 

อย่างไรก็ตามร่างนี้ซึ่งส่งกลับให้สภาผู้แทนราษฎรที่พรรครีพับลิกันครองเสียงส่วนใหญ่ ได้ตัดถ้อยคำที่ขัดขืนกฎหมายประกันสุขภาพของโอบามาออกไป นั่นบ่งชี้ว่าสมาชิกรีพับลิกันอาจจะปรับแก้ร่างกฎหมายนี้อีกรอบและส่งมันกลับคืนไปยังวุฒิสภาอีกครั้ง ความเคลื่อนไหวที่อาจทำให้ร่างกฎหมายฉบับแก้ไขมีเวลาไม่เพียงพอสำหรับผ่านความเห็นชอบจากทั้งสองสภาทันก่อนเส้นตายสิ้นปีงบประมาณในช่วงเที่ยงคืนของวันจันทร์(30)

 

ขณะเดียวกันก็ยังไม่มีสัญญาณประนีประนอมออกมาจากสองฝ่าย ด้วยประธานาธิบดีบารัค โอบามา แถลงที่ทำเนียบขาวว่าสภาคองเกรสควรผ่านร่างกฎหมายเพื่อให้เงินทุนแก่รัฐบาล และหากไม่เป็นไปตามนั้นก็จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะไร้เสถียรภาพ

 

ปัจจัยนี้เองที่ผลักให้นักลงทุนวิ่งเข้าหาสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงต่ำ และเป็นผลให้ราคาทองคำวานนี้(27) ปรับเพิ่มพอสมควร ขณะที่มันยังได้แรงหนุนจากความเห็นของเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอเมริการายหนึ่งที่บ่งชี้ว่าอาจชะลอแผนลดระดับกระตุ้นเศรษฐกิจออกไปในปีหน้า โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 15.10 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,339.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์

 

ด้านราคาน้ำมันวานนี้(27) ขยับลงเล็กน้อย หลังความตึงเครียดระหว่างชาติตะวันตกกับซีเรียและอิหร่านผ่อนคลายลงไป นอกจากนี้นักลงทุนจับตาการต่อสู้ทางการเมืองในสภาคองเกรสสหรัฐฯขณะที่เส้นตายด้านงบประมาณขยับเข้ามาใกล้เรื่อยๆ

 

สัญญาล่วงหน้าน้ำมันดิบชนิดไลต์สวีตครูดของสหรัฐฯ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 16 เซ็นต์ ปิดที่ 102.87 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 58 เซ็นต์ ปิดที่ 108.63 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สื่อนอกแพร่หนุ่มมุสลิมเคนยาช่วยเหลือครอบครัวชาวอเมริกัน ช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์โจมตีศูนย์การค้า เวสต์เกท ในกรุงไนโรบี

หนังสือพิมพ์ เทเลกราฟ ของอังกฤษ เผยตัวหนุ่มมุสลิมที่เป็นฮีโร่ช่วยเหลือครอบครัวชาวอเมริกัน ซึ่งภาพที่เขาเรียกเด็กหญิงวัย 4 ขวบ ให้วิ่งเข้าไปหา ท่ามกลางสถานการณ์ที่บีบคั้นหัวใจ ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์โจมตีศูนย์การค้า เวสต์เกท ในกรุงไนโรบี ของเคนยา ได้ถูกเผยแพร่ และสร้างความประทับใจไปทั่วโลก

แคทเธอรีน วัลตัน พนักงานด้านไอทีวัย 38 ปี ที่อพยพมาจากรัฐนอร์ธ คาโรไลน่า ของสหรัฐอเมริกาให้สัมภาษณ์ว่า พวกเขาเอาชีวิตรอดออกมาจากศูนย์การค้าเวสต์เกท โดยความช่วยเหลือของหนุ่มมุสลิมชาวเคนยา ที่มีชื่อว่า อับดุล ฮาจิ บุตรชายของอดีตรัฐมนตรีความมั่นคง ที่รีบเข้าไปในศูนย์การค้า หลังจากได้รับข้อความสั้นจากน้องชายที่ติดอยู่ข้างใน

ฮาจิ เปิดเผยต่อสถานีโทรทัศน์ เอ็นทีวี ของเคนยาว่า พ่อสอนให้เขาใช้ปืนเพื่อปกป้องปศุสัตว์จากพวกโจร และเขาก็ได้ใช้ความสามารถนี้ ช่วยคุ้มกันเจ้าหน้าที่กาชาด ช่วยอพยพคนราว 1,000 คน ออกจากศูนย์การค้า ในช่วงราว 3 ชั่วโมงแรกที่เกิดเหตุ

เขายังพูดถึงการช่วยเหลือครอบครัววัลตันว่าการได้เห็นเด็กหญิงเล็ก ๆ วิ่งเข้าหา ทำให้เขามีกำลังใจที่จะช่วยเหลือคนอื่น ๆ ต่อไป ส่วนเรื่องที่ชาวเคนยา ยกย่องให้เขาเป็นวีรบุรุษนั้น ฮาจิบอกว่า เขาทำในสิ่งที่ชาวเคนยาคนอื่นก็ต้องทำเมื่อตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ที่ต้องช่วยชีวิตเพื่อนมนุษย์ โดยไม่คำนึงถึงสัญชาติ ศาสนาหรือความเชื่อ

Tags : แคทเธอรีน วัลตันวิกฤตการณ์เคนยา

 

ธุรกิจ : Global Corporate

วันที่ 28 กันยายน 2556 05:01

บริษัทน้ำมันกรีซให้พนักงานสมัครใจลาออก

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_532931_1.jpg

บริษัทน้ำมันกรีซให้พนักงานสมัครใจลาออกกว่า 300 ราย หรือ 8% จากพนักงานทั้งหมดเพื่อลดค่าใช้จ่ายของบริษัท

แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า บริษัทกลั่นน้ำมันรายใหญ่สุดของกรีซ "เฮลเลนิก ปิโตรเลียม" เสนอแผน "สมัครใจลาออก" ให้แก่พนักงานกว่า 300 ราย หรือ 8% จากพนักงานทั้งหมดเพื่อลดค่าใช้จ่ายของบริษัท

แหล่งข่าวระบุอีกว่า ข้อเสนอดังกล่าวเน้นไปที่พนักงานธุรการ และกำหนดให้พนักงานสามารถยื่นใบลาออกได้ภายในสิ้นเดือนหน้า

ทั้งนี้ บริษัทเฮลเลนิกมีพนักงานเกือบ 4,000 ราย และเกือบ 80% ของจำนวนดังกล่าวปฏิบัติงานอยู่ในกรีซ และดำเนินธุรกิจกลั่นน้ำมันและสถานีน้ำมันปิโตรเลียมทั่วยุโรปตะวันออกเฉียงใต้

เฮลเลนิก ปิโตรเลียม เป็นบริษัทที่รัฐบาลกรีซถือหุ้นอยู่ 35.5% และรัฐบาลวางแผนจะขายหุ้นของบริษัทตามแผนแปรรูปรัฐวิสาหกิจภายใต้เงื่อนไขของสหภาพยุโรป หรือ อียู และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ ไอเอ็มเอฟ

นอกจากนี้ บริษัทดังกล่าวยังมีสินทรัพย์ราว 2,400 ล้านยูโรในตลาดหลักทรัพย์เอเธนส์ และครอบครัว "แลทซิส" ก็ถือหุ้นของบริษัทอยู่ 41%

ด้านโฆษกของเฮลเลนิกปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นเรื่องแผนการปลดพนักงาน พร้อมกล่าวว่า บริษัทอยู่ขั้นตอนการปรับปรุงบริการให้แก่ลูกค้าและความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้มุ่งที่จะพัฒนาศักยภาพการแข่งขันของบริษัท

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ออกแผนสมัครใจลาออกเป็นครั้งที่ 3 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อลดต้นทุน นอกจากนี้ บริษัทได้กู้เงินครั้งใหม่เพื่อจัดการหนี้และปรับเปลี่ยนกลุ่มธุรกิจการกลั่นน้ำมันเพื่อกระตุ้นการส่งออกและลดการเปิดรับจากนโยบายรัดเข็มขัดที่กำลังส่งผลกระทบต่อตลาดกรีซอยู่

Tags : บริษัทกลั่นน้ำมันกรีซพนักงาน

 

การเมือง : สถานการณ์โลก

วันที่ 28 กันยายน 2556 06:01

 

ยูเอ็นชี้มนุษย์ต้นเหตุระดับน้ำทะเลเพิ่้มเร็วขึ้น

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_532932_1.jpg

สหประชาชาติเผยรายงานเรื่องโลกร้อน กิจกรรมของมนุษย์เป็นสาเหตุหลัก ทำให้ระดับน้ำทะเลเพิ่้มเร็วขึ้น

สหประชาชาติหรือยูเอ็น เผยรายงานเรื่องโลกร้อนฉบับล่าสุด ที่คาดการณ์ว่า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มสูงขึ้นในอัตราที่รวดเร็วกว่าที่เคยมีการประเมินกันไว้ ตอกย้ำมากขึ้นว่า กิจกรรมของมนุษย์เป็นสาเหตุหลักในเรื่องนี้

ประธานร่วมของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือไอพีซีซี นายดิน คาห์ กล่าวว่า การเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลโดยเฉลี่ยนั้นสูงขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นอัตราเร็วกว่าเมื่อ 40 ปีก่อน เช่นเดียวกับมหาสมุทรอุ่นขึ้น จนธารน้ำแข็งลดลง

รายงานฉบับนี้มีชื่อว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศปี 2556: วิทยาศาสตร์กายภาพ มีเนื้อหาที่ได้รับการปรับปรุงความเข้าใจเรื่องการตอบสนองระบบและรูปแบบของอุณหภูมิ ด้วยความร่วมมือจากนักวิทยาศาสตร์และรัฐบาลจากกว่า 100 ประเทศ

ในรายงานสรุปว่า การอุณหภูมิที่สูงขึ้นนับตั้งแต่ทศวรรษ 50 มีสาเหตุหลักจากอิทธิพลของมนุษย์ รวมถึงธารน้ำแข็งทั่วโลกที่ละลาย และมีจำนวนลดลง โดยเฉพาะช่วงปี 2526 - 2555 นั้นเป็นช่วงที่เวลาร้อนสุดในรอบ 1,400 ปี

ทั้งนี้ ไอพีซีซี กำลังดำเนินโครงการ 4 โครงการ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ที่ทำให้เกิดภาวะโลกร้อน โดยในการประเมินสถานการณ์ในขั้นต่ำสุดนั้น เชื่อว่า ระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้น 26 เซนติเมตร ภายในปี 2643 และอัตราสูงสุดอยู่ที่ 82 เซนติเมตร ขณะที่รายงานในปี 2550 นั้นประเมินอัตราการเพิ่มของระดับน้ำทะเลไว้ที่ 18-59 เซนติเมตร

นอกจากนี้ รายงานยัง เผยแพร่การประเมินจากหลายหน่วยงาน ที่คาดว่า อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วโลกจะเพิ่มสูงขึ้น 1.5 ถึง 4.8 องศาเซนติเกรด

Tags : ยูเอ็นน้ำทะเลมนุษย์ หุ้นไทยสัปดาห์หน้าระทึก หน้าผาการคลังสหรัฐ โบรกฯมองแนวโน้มหุ้นไทยสัปดาห์หน้าแกว่ง"ขาลง" จับตาการแก้ปัญหาการคลังสหรัฐ-งบประมาณปี"57 แนะลุยกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน-ปิโตรเคมี น้ำมันปิดลบ16เซนต์ กังวลเศรษฐกิจสหรัฐ น้ำมันดิบปิดลบ 16 เซนต์ อยู่ที่ 102.87 ดอลลาร์/บาร์เรล ผวาปัญหาหน้าผาการคลังสหรัฐ กระทบชิ่งเศรษฐกิจ ทองปิดพุ่ง$15.1 กังวลหน้าผาการคลังสหรัฐ ทองปิดพุ่ง 15.1 ดอลล์ที่ 1,339.2 ดอลลาร์/ออนซ์ กังวลหน้าผาการคลัง โยกเงินกลับลงทุนสินทรัพย์ปลอดภัย ดาวโจนส์ลบ70จุด ผวาหน้าผาการคลังสหรัฐ จีนเผยกฎคุมเขตค้าเสรีในนครเซี่ยงไฮ้ ยูเอ็นชี้มนุษย์ต้นเหตุระดับน้ำทะเลเพิ่้มเร็วขึ้น บริษัทน้ำมันกรีซให้พนักงานสมัครใจลาออก

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

 

L0_news_img_532789_1.jpg

 

ส่งตัวโจเซฟให้ทางการสหรัฐ

ส่งนายโจเซฟ ฮันเตอร์ ชาวอเมริกัน ผู้ต้องหาตามหมายจับทางการสหรัฐอเมริกา ขึ้นเครื่องบินเช่าเหมาลำส่วนบุคคลที่ท่าอากาศยานดอนเมือง

 

L0_news_img_532890_1.jpg

 

อพยพหนีน้ำ

ชาวบ้านนำข้าวของเครื่องใช้ใส่เรือเพื่อย้ายออกจากบ้าน เนื่องจากเขตเทศบาลต.กบินทร์ จ.ปราจีนบุรี ถูกน้ำท่วมสูง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

การเงิน - การลงทุน

วันที่ 28 กันยายน 2556 10:00

 

เทรดทองออนไลน์'ป่วน'

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_532946_1.jpg

เทรดทองออนไลน์"ป่วน"ผู้ค้ารายใหญ่ยื่นฟ้องดำเนินคดีลูกค้า-เรียกหลักประกันเพิ่ม สศค.ย้ำคณะทำงานดูแลซื้อขายทองเน้นคุ้มครองรายย่อย ไม่คุมนำเข้า

หลังจากรายการ Business Talk "ลงทุนจริงหรือเก็งกำไรในทองคำ" ทาง กรุงเทพธุรกิจทีวี ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 24 ก.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งดำเนินรายการโดย นายนพคุณ ลิ้มสมานพันธ์

วานนี้ (27 ก.ย.) ได้มีนักลงทุนซึ่งได้รับผลกระทบจากการลงทุนซื้อขายทองผ่าน "ออนไลน์" ร้องเรียนว่าขณะนี้มีกลุ่มผู้ลงทุนได้รับความเสียหายจากการลงทุนโกลด์ ออนไลน์แล้วจำนวน 23 ราย โดยได้เปิดบัญชีซื้อขายทองคำแท่ง กับบริษัทค้าทองรายใหญ่ มีมูลค่าความเสียหายรวม 300-400 ล้านบาท และมีบางส่วน 7-8 ราย ที่ถูกบริษัทคู่กรณี ฟ้องร้องในคดีผิดนัดชำระหนี้ และอยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นศาล

เทรดทองออนไลน์ป่วนหนัก

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ลงทุนมีความเชื่อว่า เจ้าหน้าที่มาร์เก็ตติ้ง ทำตามนโยบายของบริษัทที่กำหนดเจ้าหน้าที่บริหารพอร์ตลงทุนของลูกค้า สามารถสั่งซื้อขายทองให้กับลูกค้า โดยไม่ได้แจ้งเจ้าของบัญชี รวมทั้งสามารถซื้อขายเกินวงเงินของลูกค้า จะมีการเรียกเงินวางหลักประกันเพิ่ม เมื่อซื้อทองจำนวนเงินเกินบัญชี โดยที่ไม่มีการแจ้งเตือน หรือบอกลูกค้าล่วงหน้า เมื่อราคาทองปรับตัวลดลง ก็มีการเรียกหลักประกันเพิ่มอีก เมื่อลูกค้าไม่มีเงินมากพอที่จะมาชำระ ส่งผลให้เป็นภาระหนี้สินกับบริษัทจนเป็นคดีความเกิดขึ้น

"ที่ผ่านมากลุ่มนักลงทุนที่ได้รับความเสียหาย ได้ไปร้องเรียนกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) แต่ทางสำนักงานไม่รับเรื่องฟ้องร้อง จึงได้ร้องเรียนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) แต่ทางหน่วยงานดังกล่าว แจ้งให้กลุ่มนักลงทุนที่ได้รับความเสียหาย ยังไม่ควรดำเนินการอะไร ให้รอดูสถานการณ์ก่อน ขณะที่กลุ่มผู้ได้รับความเสียหายกำลังจะถูกดำเนินคดีและเริ่มได้ทยอยรับหมายศาลมาบ้างแล้ว" นักลงทุนกล่าว

นักลงทุนผู้เสียหาย กล่าวด้วยว่า กลุ่มนักลงทุนที่ได้รับความเสียหายเข้ามาลงทุนแล้วประมาณ 1 ปี แต่ละรายเปิดบัญชีซื้อขายทองแท่ง โดยการวางหลักประกันที่ 1 แสนบาท สามารถสั่งซื้อทองคำได้ 1 กิโลกรัม

บริษัทค้าทองรับมีคดีฟ้องร้องจริง

ด้านบริษัทค้าทองรายใหญ่ซึ่งเป็นคู่กรณีกับนักลงทุนกลุ่มดังกล่าว ชี้แจงว่าบริษัทได้ดำเนินคดีกับกลุ่มนักลงทุนที่ได้รับความเสียหายจริง โดยมีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้ว 7-8 ราย และอยู่ระหว่างการพิจารณาคดีในชั้นศาล ล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาบริษัท ได้เข้าไปชี้แจงกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เนื่องจากนักลงทุนกลุ่มดังกล่าวได้เข้าไปร้องเรียน ซึ่งบริษัทก็ต้องชี้แจง ไม่ว่าจะเป็น สคบ.และดีเอสไอ โดยบริษัทได้นำหลักฐานต่างๆ ทั้งเทปบันทึกคำสั่งการซื้อขาย การสนทนา พร้อมกับใบรายการการซื้อขายของนักลงทุนกลุ่มดังกล่าว โดยชี้แจงของแต่ละคนและแต่ละกรณี ซึ่งในส่วนของ ก.ล.ต.เมื่อได้รับฟังข้อมูลและหลักฐานแล้วก็เข้าใจ และไม่มีการดำเนินการใดๆกับบริษัท

ชี้ต้นเหตุราคาทองร่วงแรง

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ตามชี้แจงข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ ที่ผู้ลงทุนไปฟ้องร้อง แต่มั่นใจว่าไม่มีความผิดเพราะมีหลักฐานที่ชัดเจน ทั้งเทปบันทึกคำสั่งซื้อขายและรายงานการซื้อขาย ผู้ลงทุนกลุ่มดังกล่าวได้รับผลกระทบจากราคาทองที่ปรับลดลงแรง ทำให้มีผลขาดทุน โดยปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้บริษัทมั่นใจว่าหลักฐานที่มีอยู่และกระบวนการการทำงานของบริษัทไม่ได้เป็นไปตามที่ถูกกล่าวหา"

นับจากเกิดวิกฤติเศรษฐกิจโลก เมื่อปี 2553 ส่งผลกระทบภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ต้องออกมาตรการอัดฉีดสภาพคล่องเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือคิวอีออกมาเมื่อปี 2554 และอัดฉีดมาต่อเนื่องส่งผลให้ ทองคำเป็นที่นิยมของนักลงทุนทั่วไปเนื่องจากถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย โดยเฉพาะช่วงที่เงินสกุลดอลลาร์อ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาทองคำทะยานขึ้นไปสูงสุดถึงราคา 1,920 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ถือเป็นราคาสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าเท่าตัว

อย่างไรก็ตาม ส่งผลให้ราคาทองมีความผันผวนหนัก โดยเฉพาะช่วงที่เฟดไม่ชัดเจนว่าจะถอนคิวอีหรือไม่ และจะถอนเมื่อไหร่ กดให้ราคาทองผันผวนและร่วงลงอย่างแรงจนมาถึงระดับ 1,180 ดอลลาร์ เมื่อเดือนก.ค. 2556 ผลจากราคาทองที่ผันผวนรุนแรงในแต่ละวัน ทำให้นักลงทุนที่เข้าไปลงทุนเพื่อเก็งกำไรได้รับผลกระทบ และประสบกับปัญหาขาดทุนอย่างหนัก โดยเฉพาะในช่วงปีนี้ ซึ่งถือเป็นปีขาลงของราคาทองคำอย่างชัดเจน ผลกระทบดังกล่าวทำให้นักลงทุนไทยที่นิยมเก็งกำไรทองคำผ่านออนไลน์ขาดทุน โดยเฉพาะนักลงทุนที่วางหลักประกันขั้นต่ำ ซึ่งสามารถซื้อขายทองได้ในวงเงินที่มากกว่าหลักประกันถึง 10 -20 เท่า หากราคาทองตกลงก็จะถูกเรียกหลักประกันมาเพิ่ม

คณะทำงานเน้นคุ้มครองรายย่อย

นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สศค.ได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมา 1 ชุดเพื่อศึกษาแนวทางดูแลร้านค้าทองคำ โดยมีวัตถุประสงค์หลัก เพื่อคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งจะเน้นดูแลไม่ให้ประชาชนรายย่อยที่ซื้อทองคำถูกโกง ส่วนเรื่องผลกระทบต่อการเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยนนั้น ไม่ได้เป็นวัตถุประสงค์หลักในการตั้งคณะทำงานชุดนี้ขึ้นมา

"คณะทำงานชุดนี้เริ่มจากการที่ แบงก์ชาติ อยากให้ สศค. แก้ปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับการเคลื่อนย้ายทองคำ ซึ่งเราก็ตั้งคณะทำงานขึ้นมา โดยมีผมเป็นประธาน และมีการประชุมไปแล้ว 1 ครั้ง เพียงแต่ครั้งนี้ผมไม่ได้เข้าประชุม เพราะคิดว่าปัญหาไม่ใช่สิ่งที่กระทบต่อระบบอย่างมีนัยสำคัญ"นายสมชัย กล่าว

ชี้การซื้อขายมีหน่วยงานดูแลอยู่

นอกจากนี้ การซื้อขายทองคำในตลาดรองก็มีหน่วยงานที่กำกับดูแล เช่น ตลาดซื้อขายล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (ทีเฟ็กซ์) รวมทั้ง ก.ล.ต. ที่ดูแลอยู่ ดังนั้นสิ่งที่คณะทำงานชุดนี้จะดูอย่างจริงจัง คงเป็นเรื่องการคุ้มครองผู้บริโภคเป็นหลัก

ส่วนผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนจากการนำเข้าทองคำนั้น นายสมชัย กล่าวว่าปริมาณการนำเข้าทองคำไม่ได้ถือว่าผิดปกติอะไรมาก จะมีเพียงบางช่วงเท่านั้นที่เพิ่มขึ้นมาก แต่โดยรวมไม่ได้ส่งผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนอย่างมีนัยสำคัญ เรื่องนี้ทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ติดตามดูอยู่

"การประชุมในครั้งแรก ก็แค่เอาตัวเลขมาดูกันเฉยๆ หลังจากนั้นก็เงียบไปเลย ยังไม่ได้ประชุมกันต่อ ส่วนตัวเลขที่บอกว่าสูงขึ้นผิดปกตินั้น มันก็สูงขึ้นเป็นช่วงๆ เท่านั้น เรารู้อยู่ว่ามันมีการเก็งกำไรทองคำ แต่การเก็งกำไรก็ต้องดูว่า ผู้ซื้อรายย่อยได้รับผลกระทบหรือไม่ หน้าที่เรา คือ ดูแลในส่วนนี้มากกว่า ส่วนเรื่องผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนนั้นมันแค่ครั้งคราว"นายสมชัย กล่าว

สำหรับการประชุมครั้งต่อไป นายสมชัยกล่าวว่าขอกลับไปตั้งหลักก่อนว่าจะมีประชุมกันเมื่อไหร่ แต่ยืนยันว่า สศค. ไม่มีแนวคิดที่จะควบคุมการนำเข้าทองคำแน่นอน เพราะเราเปิดเสรีมานานแล้ว สศค. เองก็เป็นผู้เสนอให้มีการเปิดเสรีเรื่องนี้

Tags : ค้าทองเทรดทองออนไลน์

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Nation Channel shared TwitterTOB's photo.

อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี จะวิกฤตแล้ว ทีมข่าวพายเรือดูที่ศรีมาโพธิก็ไม่แพ้กัน [ชมคลิป] ติดตามผลกระทบที่เกิดขึ้น

 

 

67022_632629453425739_576834229_n.jpg

น้ำท่วม..ที่ศรีมหาโพธิ ปราจีนบุรี เข้าขั้นวิกฤต [ชมคลิป] -->http://youtu.be/FqOZoW7ZvjQ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ศูนย์วิจ้ยไทยพาณิชย์ คาดปี 56 ศก.โต 3.4% เงินบาท 32 บาท/ดอลล์ในปลายปี

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- เสาร์ที่ 28 กันยายน 2556 17:24:38 น.

ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจธนาคารไทยพาณิชย์คาดการณ์เศรษฐกิจไทยปี 2556 ขยายตัวได้ 3.4% โดยประเมินว่าเศรษฐกิจโลกมีสัญญาณของการปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้วัดที่สำคัญ เช่น HSBC PMI ของจีนบ่งชี้ว่าการผลิตภาคอุตสาหกรรมสำหรับเดือนกันยายนขยายตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า เช่นเดียวกันกับ PMI ยูโรโซนที่ขยายตัวต่อเนื่อง สำหรับสหรัฐฯ นั้นการปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุนการกู้ยืมหลังจากมีการคาดการณ์เกี่ยวกับการลดขนาดการเข้าซื้อสินทรัพย์ทางการเงิน หรือ QE tapering ทำให้การฟื้นตัวช้าลงบ้างเล็กน้อย โดยรวมแล้ว คาดว่าการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีจะเริ่มฟื้นตัวตามเศรษฐกิจประเทศกลุ่ม G-3 รวมถึงจีน

“ความผันผวนของค่าเงินที่เพิ่มขึ้น 1-2 เดือนนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงใหม่ต่อการค้าระหว่างประเทศ เป็นผลจากจากการลดขนาด QE ที่อาจจะเกิดขึ้นส่งผลให้ค่าเงินผันผวนทั่วโลก"บทวิเคราะห์ระบุ

ทั้งนี้ การลดขนาดคิวอี ทำให้นักลงทุนยังคงลดขนาดการลงทุนในประเทศตลาดเกิดใหม่ซึ่งรวมถึงประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยนักลงทุนเพ่งเล็งไปยังประเทศที่มีปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดอย่างต่อเนื่อง เช่น อินโดนีเซียและอินเดีย เป็นเหตุให้ค่าเงินของประเทศเหล่านั้นอ่อนค่าลงมาก อย่างไรก็ดี ประเทศไทยมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง เช่น มีปริมาณเงินสำรองระหว่างประเทศในระดับสูงเมื่อเทียบกับภาระหนี้ต่างประเทศระยะสั้น และไม่ได้มีปัญหาการขาดดุลบัญชีเดินสะพัดต่อเนื่อง ดังนั้น ค่าเงินบาทน่าจะรักษาระดับอยู่ที่ 32 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ในช่วงปลายปี

ส่วนการใช้จ่ายภาคเอกชนในประเทศไทยยังมีแนวโน้มชะลอตัว โดยเฉพาะการซื้อรถยนต์ที่เร่งตัวมากก่อนหน้านี้จากมาตรการคืนภาษีรถยนต์คันแรก นอกจากนี้ มีปัจจัยที่อาจจะส่งผลให้ภาคครัวเรือนเพิ่มความระมัดระวังในการใช้จ่ายมากขึ้น ได้แก่ ราคาสินทรัพย์ทางการเงินที่ปรับตัวลดลงและยังมีความไม่แน่นอนสูง และภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นจากการเร่งการใช้จ่ายก่อนหน้านี้ สำหรับภาคเอกชนนั้น ยังไม่มีปัจจัยที่จะทำให้ต้องเร่งการลงทุนในช่วงนี้

อินโฟเควสท์ โดย เสาวลักษณ์ อวยพร โทร.02-2535000 ต่อ 353 อีเมล์: saowalak@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

อุตุเตือนภัยพายุหวู่ติ๊บฉบับ7

  • 29 กันยายน 2556 เวลา 06:01 น. | +

 

5FC9EE42670347CCADA29E9A8F6F96F0.jpg

 

 

อุตุเตือนภัยพายุหวู่ติ๊บฉบับ7 อีสานด้านตะวันออกเจอฝนเพิ่ม ขณะมรสุมพาดผ่าน6จังหวัดระวังฝนตกหนัก

 

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา "พายุ “หวู่ติ๊บ” (WUTIP)" ฉบับที่ 7 ลงวันที่ 29 กันยายน 2556 เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (29 ก.ย. 56) พายุไต้ฝุ่น “หวู่ติ๊บ” (WUTIP) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 550 กิโลเมตรทางตะวันออกของเมืองเว้ (HUE) ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 16.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 112.9 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามตอนบนในวันที่ 1 ตุลาคม 2556 ซึ่งจะส่งผลกระทบทำให้ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง

 

อนึ่ง ร่องมรสุมยังคงพาดผ่านภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนตกชุก และมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดอุทัยธานี ลพบุรี สระบุรี นครราชสีมา บุรีรัมย์ และศรีสะเกษ จึงขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่เกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย

Post Today

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1184860_622793154438056_1479846202_n.jpg

สวัสดีวันหยุด news bas deb bbeem Magagold raty juy gejen wann Pasara OKorNO Espresso yot ตู้เย็น เต้าหู้ ขวด น้อย

อยากเล่นด้วยคน Tuktaaaa Fee fung meng GoldLeng ตังเม เบบี๋ เพื่อนๆทุกท่าน

 

ใจสบาย อยู่ที่ไหน ทำอะไรก็สบาย

คิดดี ทำดี พูดดี ใจใส

ทีเอ็มบีคาดเศรษฐกิจไทยปี'56ขยายตัว3.1% ส่งออกเดี้ยง-หมดแรงส่งรถคันแรก ลงทุนภาคเอกชนแผ่ว หนี้ครัวเรือนพุ่ง ลงทุน 2 ล้านล้านบาท เบิกจ่ายไม่ทันปีนี้ กดดันศก.ไทยปี"56 ขยายตัวแค่ 3.1% สมาคมตราสารหนี้คาดคิวอียังป่วนตลาดเงิน สมาคมตลาดตราสารหนี้ชี้คิวอียังขย่มตลาดเงิน-ทุนเป็นระยะ เผยหลังจากคงคิวอี ต่างชาติเริ่มโยกเงินลุยบอนด์ไทย ยิลด์ปรับตัวลดลงกว่า 0.20% เทรดทองออนไลน์'ป่วน' เทรดทองออนไลน์"ป่วน"ผู้ค้ารายใหญ่ยื่นฟ้องดำเนินคดีลูกค้า-เรียกหลักประกันเพิ่ม สศค.ย้ำคณะทำงานดูแลซื้อขายทองเน้นคุ้มครองรายย่อย ไม่คุมนำเข้า แนวโน้มบาทสัปดาห์หน้ากรอบ31.00-31.30 สรุปภาวะการลงทุน vdo.gif ทองขึ้น150บ.ทองแท่งขายออก19,800 อินฟราฟันด์ ดันมาร์เก็ตแคปไอพีโอพุ่งกระฉูด

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

 

ข่าวยอดนิยม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

มะกันงัดแผนรับมือปิดหน่วยงาน

  • 29 กันยายน 2556 เวลา 07:49 น. |

 

32CCE67B93B04EC7A6B0FDC6716DCDC9.jpg

 

รัฐส่องดจ่ายเงิน พักงาน8แสนคน เหตุถกงบยังเหลว

 

หน่วยงานรัฐมะกันเผยแผนฉุกเฉินรับมือ “กอฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์” 8 แสนตำแหน่งส่อชวดเงินเดือน

บรรดาหน่วยงานภาครัฐของรัฐบาลสหรัฐ เปิดเผยแผนฉุกเฉินรับมือหากเกิดภาวะยุติปฏิบัติงานชั่วคราวของรัฐบาล (กอฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์) หรือภาวะที่รัฐบาลกลางไม่สามารถนำงบประมาณออกมาใช้จ่ายได้ ภายหลังจากมีความเป็นไปได้สูงที่สภาคองเกรสอาจไม่สามารถ หาข้อยุติเกี่ยวกับแผนงบประมาณของรัฐบาลประจำปี 2557 ซึ่งจะเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 1 ต.ค.นี้

ภายใต้แผนดังกล่าว ส่วนใหญ่ระบุ ให้เจ้าหน้าที่รัฐในตำแหน่ง “สำคัญ” หรือเกี่ยวข้องกับการรับผิดชอบด้านการปกป้องชีวิตและทรัพย์สินจะได้รับสิทธิทำงานต่อ ทว่าจะได้รับเงินเดือนช้ากว่ากำหนดจนกว่าสภาคองเกรสจะได้ข้อตกลงในแผนงบ ประมาณ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำแหน่ง “ไม่สำคัญ” อย่างน้อย 8 แสนตำแหน่ง จะต้องยุติปฏิบัติงานชั่วคราวโดยไม่ได้รับ ค่าตอบแทน

กระทรวงกลาโหม (เพนตากอน) ระบุว่า ทหารอเมริกันซึ่งประจำการอยู่ตามฐานทัพทั่วโลกเกือบ 1.4 ล้านนาย จะยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อ แต่จะไม่ได้รับการจ่ายค่าตอบแทนจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ยกเว้นกองทัพสหรัฐในอัฟกานิสถานและเรือรบทุกลำที่ประจำการอยู่ใกล้น่านน้ำซีเรีย ซึ่งจะยังคงได้รับการจ่ายค่าตอบแทน พร้อมยืนยันจะไม่มีการสั่งปลดประจำการทหารหน่วยใดเป็นพิเศษ

ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐจะยังดำเนินการขายพันธบัตรรัฐบาลและจ่ายเงินประกันสังคมต่อไป

กระนั้นก็ตาม มีความเป็นไปได้สูงที่กระทรวงพาณิชย์และสำนักงานสถิติแห่งชาติอาจต้องยุติปฏิบัติงานทั้งหมด ส่งผลให้การเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจอย่างตัวเลขว่างงาน ซึ่งสำคัญต่อการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่มีกำหนดเผยแพร่ในวันที่ 4 ต.ค. อาจต้องชะลอออกไป

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ วุฒิสภาสหรัฐ ซึ่งพรรคเดโมแครตครองเสียงข้างมาก ได้ลงมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณฉุกเฉินชั่วคราวที่เปิดทางให้รัฐบาลสามารถปฏิบัติงานต่อไปได้จนถึงวันที่ 15 พ.ย.

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ร่างดังกล่าวได้ยกเลิกข้อกำหนดที่สั่งห้ามการจัดสรรเงินในโครงการประกันสุขภาพ “โอบามาแคร์” ซึ่งเป็นประเด็นที่พรรครีพับลิกันเสนอ จึงอาจส่งผลให้สภาผู้แทนราษฎรที่มีพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากไม่เห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่ดี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...