ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

แนวโน้มหุ้นไทยผันผวน ไร้ปัจจัยใหม่หนุน

 

โบรกฯมองแนวโน้มหุ้นไทยผันผวน ตลาดไร้ปัจจัยใหม่หนุน กรอบ 1,400-1,430 จุด จับตาปัญหาเพดานหนี้สหัฐ

 

สรุปสถานการณ์ตลาดหุ้น-ทองรอบวัน 26 ก.ย.56 vdo.gif

 

สรุปสถานการณ์ตลาดหุ้น-ทองรอบวัน 26 ก.ย.56 ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ

 

หุ้นไทยปิดร่วง12จุดจับตาเพดานหนี้สหรัฐ

 

หุ้นไทยปิดร่วง 12.14 จุด อยู่ที่ 1,424.76 จุด พักฐานหลังขึ้นแรง แนะจับตาปัญหาเพดานหนี้สหรัฐ กรอบ 1,409-1,445 จุด

 

พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติขาย1.2พันล้าน

 

 

 

บาทปิดแข็ง31.17/19 เงินทุนไหลเข้าหนุน

 

 

 

'กิตติรัตน์'มั่นใจเคลียร์หนี้2ล้านล้านก่อน50ปี

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคับเพื่อนๆทุกท่าน :Announce เมื่อวานไปประชุมเลยไมได้มาโพส มาดูกราฟกันต่อ27-9-56-01.gifจากกราฟราย15นาที ที่ขึ้นมายังไม่ชัดเจนระหว่างคลื่น15mAหรือ15m1ดูที่ฟิโบสีฟ้าก่อน แต่คลื่นชุดแรกจบแล้วตอนนี้ลงทำคลื่นชุดที่2ที่ไม่รู้เจ้าจะเลือกทางไหน มีมุมมอง2มุมมองที่มองขึ้น มุมมองแรกลงต่อได้อีก โดยทองหลุดแนวเนคไลน์สีขาวแถวๆ1319ลงมา ตรงนี้จะลงต่อได้ถึง1298 ซึ่งทองไม่ต่ำกว่า1291 จากนั้นค่อยดีดขึ้น อีกมุมมองคือ ขึ้นเลยจากตรงนี้ ซึ่งถ้าไม่หลุดแนวเนคไลน์สีขาว1319 ก็ยังมองว่าเป็นอย่างนี้อยู่ และพร้อมจะขึ้นทำคลื่นชุดที่3 15mCหรือ15m3 จากนั้นจะทำคลื่นชุดที่4ที่เป็นชุดนี้หละที่เป็นตัวับอกว่าจะเป็นคลื่นที่ผ่านมาเป็น15mA-Cหรือ15m1-3 เพราะคลื่นชุดแรกจบที่1338.9 ดังนั้นคลื่นชุดที่4นี้จะต้องไม่ลงต่ำกว่า1338.9 ถ้าลงไม่ต่ำกว่า1338.9แปลว่าที่ผ่านมาเป้น15m1-3 ลง4แล้วเด้งขึ้นทำ15m5ที่1381.5-1393ต่อไป ตรงนี้พิจารณาขายแท่งได้

แต่ถ้าคลื่นชุดที่4ต่ำกว่า1338.9เมื่อไหร่ แปลว่าจบแล้วที่ผ่านมาเป็นแค่15mA-Cเท่านั้นต้องระวังเป็นพิเศษ แต่ก็ยังมีอีกมุมมองนึงให้ดูในกรอบราคาสีแดงนั่นคือ กรอบราคาที่คลื่นCจะขึ้นตามฟิโบได้ ส่วนสีเขียวคือกรอบราคาคลื่น3 จะเห็นว่าส่วนที่ทับซ้อนกันคือฟิโบ161.8-200 ถ้าทองขึ้นมาระหว่าง161.8-200(1359-1372) ตรงนี้ต้องลุ้นคลื่นชุดที่4เป็นตัวตัดสิน แต่ถ้า ขึ้นไม่ถึงฟิโบ161.8หรือไม่ถึง1359 แล้วลงต่ำกว่า1338.9 ตรงนี้ไม่ต้องคิดแล้ว จบคลื่น15mCแน่นอน เท่ากับจบ4hBแล้วกำลังทำ4hCต่อ ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆ ผมจะพิจารณาคัตแท่งที่ เมื่อหลุด1338.9 จำนวน 1 ก้อน และอาจพิจารณาคัตแท่งอีก1 ก้อนที่1312 ถ้าหลุดแนวรับเทรนฟ้าขาขึ้นรอบนี้ แล้วไปรอเก็บใหม่1260-1230

มุมมองการเล่นวันนี้สำหรับคนซื้อ

1 รอซื้อ buy limit 1321 cut 1319 เป้า 1331 -1348-1359

2 หากถูกกินคัตข้อ1 แนะรอซื้อbut limit 1298 cut1291 เป้า 1359-1372-1381-1393

3 หากถูกกินcutข้อ2 แนะนำรอดูสถานการณ์ต่อไป

สำหรับคนขาย

1 รอขายsell limit 1372 cut 1380 เป้า1360

2 หากถูกกินคัตข้อ1 แนะรอขายsell limit 1393 cut 1400 เป้า 1260

3 หากถูกกินcutข้อ2 แนะนำรอดูสถานการณ์ต่อไป

ปล. ส่วนตัวผมเมื่อวานและวันก่อนสลับกันกินกับเจ้าแต่รวมๆผมชนะเอิ๊กๆๆเก็บลำใยไปตามพอร์ท ส่ว่นวันนี้กดbuyสดแล้ว1323 cut 1319 เป้า 1331 และรอซื้อตามข้อ2 และรอขายตามข้อ1&2ครับ ส่วนทองแท่ง รอขาย 1372-1381-1393-1405 แต่ถ้าทองทำคลื่น15mC โดยเบรค1338.9ขึ้นไปแต่ไม่ถึง1359 แล้วลงต่ำกว่า1338.9อีกครั้งจะcutแท่งทิ้งที่1338.9 จำนวน 1 ก้อน 1312 จำนวน 1 ก้อนและ 1290 จำนวน 1 ก้อน แล้วไปเริ่มเก็บใหม่ที่1260-1230-1200 ครับ27-9-56-02.gif

ปล2. ขอให้เพือนๆโชคดีในการลงทุนนะครับ :byeไปปั่นงานก่อน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คุณณัฐฑี จุฑาวรากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส จำกัด ร่วมแบ่งปันแนวคิด"ฉลาดคิด ฉลาดใช้ชีวิต"เพื่อปลุกแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ ได้เรียนรู้การบริหารงานจาก CEO รุ่นใหม่ผู้บุกเบิกตลาดโกลด์ ฟิวเจอร์สในประเทศไทย ในรายการพิเศษ Smart Voice 2013 เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 กันยายน 2556

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

การเงิน - การลงทุน

วันที่ 27 กันยายน 2556 10:20

 

'ประสาร'เตือนการเงินโลก ยังไม่เห็นแสงสว่าง

โดย : ไชยรัตน์ ศรีสุข

news_img_532697_1.jpg

ประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ผู้ว่าแบงก์ชาติประเมินสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ยังไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ 3 เสาหลักเศรษฐกิจโลกยังไม่ฟื้น ตลาดเงินในระยะสั้นยังมีความผันผวน

นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวปาฐกถาเรื่อง ระบบเศรษฐกิจการเงินโลกและการปรับตัวของไทย ในงาน AIT Chairity DinnerTalk ถึงปัญหาความผันผวนของเศรษฐกิจโลกจะยังคงเป็นเช่นนี้ไปอีกพักใหญ่ ซึ่งความผันผวนนั้นมาจากวิกฤติทางเศรษฐกิจของกลุ่ม จี 3 ที่เป็นกลุ่มเศรษฐกิจขนาดใหญ่ ยังคงไม่ดีขึ้น อีกทั้งไม่เห็นทางออกของปัญหาทำให้ในระยะนี้ เศรษฐกิจจะยังคงผันผวนต่อไป

"เศรษฐกิจกลุ่มประเทศขนาดใหญ่ยังไม่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น และเวลานี้ยังไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ที่เป็นทางออกของวิกฤติอย่างชัดเจน ทำให้ภาวการณ์ปัจจุบันเมื่อมีข่าวอะไรมากระทบก็จะมีปฏิกิริยากับตลาดการเงินในระยะสั้น ทำให้เกิดความผันผวนทันที"

โดยความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทในช่วงที่ผ่านมานั้น เคยแข็งค่าไปที่ 28 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินก็อ่อนค่าอย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นว่า ค่าเงินบาทนั้นมีความอ่อนไหวจากภาวะเศรษฐกิจโลก ส่วนนโยบายอัดฉีดสภาพคล่องหรือคิวอี3 ของสหรัฐว่า การปรับนโยบายคิวอีน่าจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป และสหรัฐก็มีนโยบายชัดเจนว่าจะลดปริมาณคิวอีลงเมื่อเศรษฐกิจดีขึ้น แม้ปัจจุบันสหรัฐจะยืนยันว่าจะใช้ปริมาณคิวอีแบบเดิมอยู่ แต่ธปท.ก็ติดตามอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้ความผันผวนกระทบกระเทือนกับภาคเศรษฐกิจจริง

สิ่งสำคัญคือจะต้องรักษาความยืดหยุ่นของนโยบายการเงิน (policy space) ที่เพียงพอ รวมทั้งความสามารถที่จะลดดอกเบี้ยได้อย่างเหมาะสมตามสภาวะเศรษฐกิจ ควบคู่ไปกับการมีเครื่องมือและมาตรการดูแลเสถียรภาพระบบการเงิน และในแง่ของนโยบายการการคลัง ที่มีความพร้อมจะใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยจำเป็นต้องรักษาการขาดดุลและระดับหนี้สาธารณะไม่ให้สูงจนเกินไป

นอกจากนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องสื่อสารให้นักลงทุนและตลาดมีความเข้าใจชัดเจน ถึงสถานการณ์และมุมมองต่อภาพเศรษฐกิจการเงินของภาครัฐบาลควบคู่กันไป ตลอดจนหมั่นสำรวจตัวเองไม่ให้มีจุดอ่อนที่จะทำให้เกิดการสูญเสียความเชื่อมั่นทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ

ในภาพรวม ธปท.ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะชะลอลง แต่คงไม่ได้เข้าสู่ภาวะถดถอยอย่างที่หลายคนกังวล ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงิน ซึ่งการขยายตัวของสินเชื่อในช่วงหลังลดความร้อนแรง ก็จะช่วยบรรเทาปัญหาหนี้ครัวเรือนลดลงได้บ้าง ทั้งนี้ สถาบันการเงินส่วนใหญ่ เห็นว่าสินเชื่อจะยังขยายตัวได้ต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าผู้ประกอบการและประชาชนจะยังมีสภาพคล่องหล่อเลี้ยงยามที่เศรษฐกิจชะลอตัว

ขณะที่ความเสี่ยงจากความผันผวนของเงินทุนเคลื่อนย้ายนั้น ธปท.ก็ติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเศรษฐกิจการเงินไทยในวันนี้แตกต่างจากสถานการณ์เมื่อปี 2540 อย่างสิ้นเชิง ระบบอัตราแลกเปลี่ยนลอยตัวในปัจจุบันมีความยืดหยุ่น ภาคสถาบันการเงินก็เข้มแข็ง มีระบบการกำกับตรวจสอบที่ดูแลความเสี่ยงอย่างรอบด้านมากขึ้น มีการกันสำรองอยู่ในระดับสูงอย่างเพียงพอ

ในช่วงต้นเดือนกันยายน การประชุม World Economic Forum พบว่า อันดับความสามารถแข่งขันของไทยขยับขึ้นอยู่ที่ 37 บนพื้นฐาน 3 ปัจจัยคือ ไทยมีคะแนนปัจจัยพื้นฐานและปัจจัยการเพิ่มประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์สูง แต่ปัจจัยนวัตกรรมและศักยภาพทางธุรกิจไทยอยู่ในระดับต่ำเพียง 3.83 จากคะแนนเต็ม 7 โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับสิงคโปร์ (5.17) หรือมาเลเซีย (4.70) ดังนั้น หัวใจสำคัญของการยกระดับเศรษฐกิจของไทย คือการปรับตัวไปสู่การเป็นเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนโดยนวัตกรรม (Innovation-Driven Economy) ที่มีการวางโครงสร้างเศรษฐกิจเหมาะสม

Tags : ประสาร ไตรรัตน์วรกุลเศรษฐกิจโลกตลาดเงินผันผวนธปท.

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

“โอบามา ออกโรงป้องกม.ประกันสุขภาพ ขณะรัฐบาลเสี่ยงปิดหน่วยงานราชการ

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 27 กันยายน 2556 10:01:00 น.

ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐออกมาปกป้องกฎหมายประกันสุขภาพ ซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบมา 3 ปีแล้ว ขณะที่สมาชิกพรรครีพับลิกันกำลังพยายามที่จะตัดเงินสนับสนุนและยกเลิกการใช้กฎหมายดังกล่าว แม้ว่ามีความเสี่ยงที่จะทำให้หน่วยงานรัฐบาลต้องปิดดำเนินงาน

แม้ว่าเผชิญอุปสรรคมากมาย แต่กฎหมาย Affordable Care Act หรือที่รู้จักกันในชื่อ โอบามาแคร์นั้น ได้ผ่านความเห็นชอบจากทั้งสองสภาของคองเกรส และได้รับการลงนามเป็นกฎหมายเมื่อปี 2553 โดยปธน.โอบามาย้ำว่า ศาลสูงสุดได้ประกาศให้กฎหมายดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของรัฐธรรมนูญเมื่อปีที่แล้ว

“อีก 5 วันนับจากนี้ ในวันที่ 1 ต.ค. ชาวอเมริกันหลายล้านคนที่ไม่มีประกันสุขภาพ เนื่องจากถูกปฏิเสธการเข้าถึง อันเนื่องมาจากเงื่อนไขที่มีอยู่เดิมนั้น จะสามารถซื้อประกันสุขภาพที่มีคุณภาพและราคาเหมาะสมได้ในที่สุด" ปธน.โอบามาตั้งข้อสังเกต

ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ชาวอเมริกันที่ไม่มีประกันสุขภาพจะสามารถลงทะเบียนผ่านช่องทางออนไลน์ที่กำหนดโดยรัฐบาลในแต่ละรัฐ ภายใต้โอบามาแคร์ ขณะที่ชาวอเมริกันมีเวลาลงทะเบียน 6 เดือน หากต้องการเลี่ยงการเสียค่าปรับสำหรับการไม่ซื้อประกันสุขภาพ

“ยิ่งใกล้ถึงกำหนดเวลาดังกล่าวมากเท่าใด ก็ยิ่งมีคนที่ไม่มีความรับผิดชอบมากขึ้น ซึ่งคัดค้านกฎหมายนี้" ปธน.โอบามากล่าว โดยระบุถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติพรรครีพับลิกัน

“บางรายขู่ปิดหน่วยงานรัฐบาล หากพวกเขาไม่สามารถยกเลิกกฎหมายนี้ ส่วนรายอื่นๆได้ขู่ปิดดำเนินงานทางเศรษฐกิจ โดยการปฏิเสธที่จะชำระค่าใช้จ่ายของประเทศ หากพวกเขาไม่สามารถชะลอกฎหมายดังกล่าว"

บรรดาผู้นำที่สำคัญของพรรครีพับลิกันในสภาผู้แทนราษฎรระบุก่อนหน้านี้ว่าจะเพิ่มอำนาจในการกู้ยืมของรัฐบาล โดยตั้งเงื่อนไขหลายประการ ซึ่งรวมถึงการชะลอโอมาบาแคร์ออกไป 1 ปี

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่มีรีพับลิกันครองเสียงข้างมากนั้น ได้ผ่านกฎหมายรายจ่ายชั่วคราวในการให้เงินสนับสนุนรัฐบาลจนถึงวันที่ 15 ธ.ค. ขณะที่ห้ามการจัดสรรเงินเพื่อดำเนินการโอบามาแคร์

หากไม่มีการอนุมัติกฎหมายรายจ่ายก่อนวันที่ 1 ต.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของปีงบประมาณ 2557 นั้น รัฐบาลกลางสหรัฐจะต้องปิดหน่วยงานราชการบางส่วน สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th-

 

สรุปราคาซื้อขายทองคำและGold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2556 เวลา 9.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 27 กันยายน 2556 10:21:50 น.

กรุงเทพฯ--27 ก.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,331 เหรียญ/ออนซ์และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ1,324 (22.0 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.31 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 19,650 บาท กับ 19,750 บาท และกลับมาปิดที่ 19,600 บาท กับ 19,700 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 897 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 4,083 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.4% แบบ 10 บาท ลดลง 1.7 % GFV13 ปิด 19,660 บาท และGFZ13 ปิด 19,730 บาท GF10V13 ปิด 19,660 บาท GF10Z13 ปิด 19,720 บาท

สัญญา Comex ปิดลดลง 12.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,324.1 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 12 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 21.76 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 909.59 ตัน (คงทองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 37 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 103.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 55.04 จุด ปิดที่ 15,328.30 จุด

ข่าวที่สำคัญ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงจากตัวเลขเศรษฐกิจ Unemployment Claims ที่พบว่ามีคนว่างงานน้อยลง 5,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 305,000 ราย ที่เป็นผลให้ค่าเงินดอลลาร์นั้นแข็งค่าขึ้นมาและผลักดันการตัดสินใจเรื่องลด QE ของเฟดอีกครั้ง

อย่างไรก็ตาม แม้ตัวเลขจีดีพีไตรมาสสามของสหรัฐและ Pending Home Sales จะออกมาแย่กว่าที่คาดก็ไม่ได้ช่วยสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้

สำนักข่าวบางกอกโพสต์รายงานว่า Dealers Gold Futures จำนวน 7 แห่ง อันประกอบด้วย MTS Gold Futurities ได้ยื่นเสนอต่อแบงก์ชาติและผู้กำหนดกฎเกณฑ์ตลาดทุนในการจัดตั้ง Spot Gold Exchange ให้สามารถใช้งานในประเทศไทยได้ในฐานะเป็น Gold Trading Hub ของภูมิภาค อย่างไรก็ตาม นายกฤชรัตน์ หิรัณยศิริ ประธานบริษัท เอ็มทีเอส โกลด์ กล่าวว่า ต้องมีการผ่อนปรนกฎเกณฑ์ต่างๆ ลง และเหล่า Dealers ทองคำไม่ได้มีส่วนเกี่ยวพันกับการเก็งกำไรค่าเงิน และเขาเองได้มีการยื่นจดหมายต่อ ธปท. เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นายประสาร ผู้ว่าธนาคารกลางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า แบงก์ชาติกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจากับตัวแทนรัฐบาล กระทรวงการคลังเพื่อวางระเบียบทางกฎหมายในตลาด Spot Gold และยังระบุว่า การนำเข้าทองคำในปริมาณสูงได้ส่งผลกระทบต่อยอดขาดดุลบัญชี 0.2% ต่อจีดีพี

รัฐสภาสหรัฐอยู่ระหว่างภาวะที่จะเพิ่มระดับเพดานหนี้ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ หรือล้มเหลวที่จะเพิ่มระดับเพดานหนี้ที่จะทำให้สหรัฐผิดนัดชำระหนี้ ซึ่งเลขาธิการกระทรวงการคลังสหรัฐ นายลูว์ ให้คำมั่นถึงมาตรการแก้ไขโดยเร็ว เนื่องจากเขาคาดว่าหนี้จะแตะระดับเพดานหนี้ในวันที่ 17 ต.ค. เพราะความสามารถในการกู้ยืมของรัฐบาลใกล้จะหมดลง ซึ่งเหลือเพียง 3 แสนล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่ค่าใช้จ่ายต่างๆที่แน่นอนตอนนี้อาจสูงถึง 6 แสนล้านดอลลาร์ก่อนที่หนี้จะแตะระดับเพดานหนี้ ทั้งนี้พรรครีพลับลิกันและเดโมแครตยังคงอยู่ระหว่างการเจรจาในประเด็นเพดานหนี้

นายเจฟฟรี่ย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ ระบุเมื่อวานนี้ว่า เขาได้สนับสนุนการลด QE ให้เร็วขึ้น และเขารู้สึกแปลกใจที่ขั้นตอนดังกล่าวยังไม่เริ่มต้นสักที

นายเจเรมี่ สเตน ฝ่ายปกครองเฟด กล่าวว่า การตัดสินใจของ FOMC ในการไม่ลด QE นั้นเป็นสิ่งที่เรียกว่า "ฉิวเฉียด" ซึ่งเฟดอาจทำการลด QE ของจริงในปีนี้และจะเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันตลาดกลุ่มโลหะมีค่า

นางเอสเธอร์ จอร์จ สมาชิกบอร์ด FOMC ระบุว่า ปัจจัยพื้นฐานต่างๆ ของเศรษฐกิจได้มีการฟื้นตัวขึ้น แต่การชะลอการลด QE อาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือของเฟด

นายรูบินี่ ฉายาดอกเตอร์ดูม กล่าวว่า หากเฟดยังไม่ลด QE ภายในการประชุมเดือนตุลาคม ยอดบัญชีงบดุลของสหรัฐจะขึ้นสูงถึง 4 ล้านล้านดอลลาร์ในสิ้นปี โดยมองว่าเฟดจะใช้เวลา 3 ปีในการปรับอัตราดอกเบี้ยให้เป็นกลางจากระดับใกล้ศูนย์

สมาชิกบอร์ดบริหารของอีซีบีระบุว่า อีซีบีจำเป็นต้องใช้นโยบายผ่อนคลายการเงินต่อไป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนเพิ่มขึ้น ขานรับข้อมูลด้านแรงงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ แต่ยังคงจำกัดจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการคลังของสหรัฐ

นิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดเพิ่มขึ้น เพราะได้แรงหนุนจากการปิดบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส

ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดปรับตัวลดลงในวันนี้ร่วงลงกว่า 3% หลังมีรายงานว่าวอล-มาร์ท ลดออเดอร์ลง

ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน

- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 310K ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ 305K

- Final GDP q/q ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 2.5% ตัวเลขจริงออกมาเท่าเดิมอยู่ที่ระดับ 2.5%

- Pending Home Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -1.4% ตัวเลขจริงออกมา ลดลงอยู่ที่ระดับ -1.6%

ตัวเลขที่สำคัญที่ต้องติดตามวันนี้

- Personal Spending m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.1% ตัวเลขที่คาดการณ์เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 0.3%

- Revised UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 76.8 ตัวเลขที่คาดการณ์เพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 78.2

- ECB President Draghi Speaks

- FOMC Member Evans Speaks

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำยังคงเคลื่อนตัวอยู่ในกรอบแคบระหว่าง 1,320 — 1,335 เหรียญ โดยที่ภาพรวมของตลาดไม่ค่อยตอบรับข่าวตัวเลขเศรษฐกิจใดๆ เป็นลักษณะการเคลื่อนตัวแบบ Sideways เมื่อวาน SPDR ไม่ได้ซื้อหรือขาย และตัวเลขเมื่อวานมี Unemployment Claims เดิมอยู่ที่ระดับ 310,000 ราย ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 305,000 ราย ลดลง 5,000 ราย จีดีพีไตรมาสสามออกมาเท่าเดิม และ Pending Home Sales ออกมาลดลงกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ราคาทองคำอยู่ในช่วงปรับฐานโดยมีระดับในการเคลื่อนไหวเป็น Sideways ระหว่าง 1,320 — 1,330 เหรียญ คาดว่าในวันนี้ราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในกรอบ 1,305 — 1,330 เหรียญ โดยมีแนวรับสำคัญบริเวณ 1,305 เหรียญ ถ้าหลุดทางด้านล่างก็มีโอกาสตกลงมาได้เยอะ ราคาน่าจะแกว่งตัวอยู่ในกรอบแคบ ค่าเงินบาทเองก็เริ่มทรงตัวในกรอบแคบระหว่าง 31.18 — 31.25 บาท/ดอลลาร์

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ลงทุนตามการเคลื่อนไหวในกรอบแคบในทิศทาง Sideways รอการ Breakout ในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง ภาพรวมยังเป็นการกดดันในทิศทางขาลง

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

ขายทำกำไรเป็นช่วงๆ และลดการถือครองลงในจังหวะที่ราคาดีดตัวขึ้น

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

ทำการปิด Short เป็นช่วงๆ เช่นเดียวกัน ถือพอร์ตให้เหมาะสมและสมดุล

Gold Futures V13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,580 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,780 บาท

Gold Futures Z13 จะมีแนวรับที่ระดับ 19,660 บาท และแนวต้านที่ระดับ 19,860 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีและขอบคุณ คุณginger คุณnews ครับ

ดีคับ deb wann เพื่อนๆ

รู้ก่อนรวยกว่า

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

บทวิเคราะห์ Gold Futures Glitter Gold ประจำเย็นวันศุกร์ที่ 27 กันยายน 2556 มาแล้วค่ะ

 

ติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://classicgoldfutures.co.th/image/strategy_analysis/filestrategy270920131618011321.pdf

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวขึ้น จากความวิตกเกี่ยวกับทางตันในเรื่องเพดานหนี้

ข่าวต่างประเทศ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 27 กันยายน 2556 20:21:35 น.

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับทางตันในเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐ ซึ่งอาจนำไปสู่การปิดหน่วยงานของรัฐบาล

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 1.1% แตะที่ 1,339 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ณ เวลาประมาณ 19.11 น.ตามเวลาในประเทศไทย

วุฒิสภาสหรัฐมีกำหนดจะออกเสียงรับรองร่างกฎหมายงบประมาณค่าใช้จ่ายในวันนี้ ซึ่งมีขึ้น 3 วันก่อนที่วุฒิสภาจะหมดอำนาจในการพิจารณาอนุมัติและเพียงไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่จะถึงสหรัฐจะครบกำหนดระยะเวลาในการกู้เงิน

ในขณะเดียวกัน นางเอสเธอร์ จอร์จ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาแคนซัส ซิตี้ กล่าวว่าการดำเนินนโยบายการเงินในปัจจุบันของเฟดก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ หลังจากที่เฟดมีมติดำเนินนโยบายผ่อนคลายทางการเงินเชิงปริมาณ (QE) ต่อไปด้วยการซื้อพันธบัตรวงเงิน 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อเดือนในการประชุมครั้งล่าสุดที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 17-18 ก.ย.ที่ผ่านมา

นางจอร์จระบุว่าจะยังคงผลักดันให้เฟดเริ่มลดแผนการซื้อพันธบัตรหลังจากที่เศรษฐกิจสหรัฐปรับตัวดีขึ้น และการปรับลดวงเงินการซื้อพันธบัตรในขณะนี้จะช่วยให้ตลาดมีการปรับตัว พร้อมกล่าวว่าการตัดสินใจล่าสุดของเฟดในการเดินหน้าโครงการดังกล่าวได้สร้างความประหลาดใจแก่ตลาดและสร้างความผิดหวังแก่เธออย่างมาก

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...