ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

 

 

Thanong Fanclub

16. คิวอีตายแล้ว คิวอีจงเจริญ

QE is dead. Long live QE.

ขอสรุปภาพรวมQEของสหรัฐฯอีกครั้งหนึ่ง มีชาร์ตประกอบจะได้เห็นภาพ

 

ชาร์ต#1 แสดงถึงงบดุลของUS Federal Reserveที่เพิ่มจาก$800,000กว่าล้านก่อนวิกฤติการเงินปี2008เป็น$4.5ล้านล้านจากการทำQEของเฟดด้วยการพิมพ์เงินออกมาจากกลางอากาศเพื่อซื้อmortgage backed securities หรือตราสารการเงินที่อิงอสังหาริมทรัพย์และUS Treasuries หรือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ

ชาร์ต#2แสดงถึงปริมาณของmortage backed securitiesที่เฟดตะลุยซื้อตั้งแต่ทำQE เพื่อที่จะอุ้มฐานะการเงินของแบงค์และตลาดอสังหาฯที่ราคาตกต่ำหนักหลังวิกฤติ2008 จากไม่เคยซื้อmortgage backed securitiesมาก่อน เฟดทำQEจนมีmortgage backed securitiesอยู่ในงบดุลถึง$1.7ล้านล้าน จากงบดุลทั้งหมด$4.5ล้านล้าน Janet Yellenประธานเฟดบอกว่าเฟดเลิกทำQEแล้ว แต่จะยังคงรักษางบดุล$4.5ล้านล้านขนาดนี้ต่อไป และจะเอารายได้จากการถือmortgage backed securitiesเข้าไปลงทุนต่อไปเมื่อตราสารการเงินนี้ครบอายุ หมายความว่าเฟดน่าจะมีรายได้$4,000ล้านตือเดือนเพื่อลงทุนในmortgage backed securitiesต่อไป

นอกเหนือจาก mortgage backed securitiesโดยมากเฟดจะถือUS Treasuries คำถามคือเฟดจะเลิกซื้อUS Treasuriesได้หรือไม่ในเมื่อรัฐบาลสหรัฐฯมีการสร้างหนี้เพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆปีละ$1ล้านล้าน โดยที่หยุดไม่ได้ เพราะว่ามีการใช้จ่ายเกินตัวมาก รัฐบาลกลางมีงบขาดดุลที่แท้จริง$6ล้านล้าน และมีความจำเป็นต้องคืนหนี้และต่ออายุหนี้ปีละ$8ล้านล้าน ถ้าไม่มีเฟดคอยพิมพ์เงินซื้อ หรืออุ้มพันธบัตรรัฐบาล แล้วตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯจะดำรงอยู่อย่างไร อันนี้ตอบไม่ได้ แต่รู้ว่าเฟดน่าจะมีบัญชี2, 3, 4เหมือนพวกกงสีทั้งหลาย เพราะเราได้เห็นแล้วว่าเบลเยี่ยมเป็นผู้ถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯมากกว่าจีดีพีของประเทศตัวเอง แสดงว่ามีมือมืดซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯแล้วเอาไปซ่อนที่เบลเยี่ยม เฟดเปิดบัญชีที่เกาะฟอกเงินแล้วมาปั่นหุ้น ซื้อพันธบัตรรัฐบาลก็ได้ ใครจะรู้?

เรื่องเล่นแร่แปรธาตุ ฝรั่งเก่งและขี้โกงมากกว่าเอเซียมาก แต่ที่ผ่านมาหลอกให้เราเป็นเด็กดี ต้องมีธรรมาภิบาลgood governance ต้องทำตามกฎระเบียบ ต้องทำให้นานาชาติยอมรับและมีความมั่นใจ เราเป็นเด็กดีว่านอนสอนง่าย เราเลยทำตามทุกอย่างที่ฝรั่งสั่งสอน ส่วนพวกฝรั่งเองไม่เคยทำอะไรตามกฎเลย โกงกันต่อหน้าตลอดเวลา แต่ทำเนียนจนเราไม่รู้สึก ถึงรู้ก็ไม่อยากจะเชื่อเพราะว่าโดนล้างสมองมานอนว่าเขาดี เขาเก่ง เขาแน่ โลกเราถึงได้เป็นเช่นนี้

thanong

http://www.zerohedge.com/news/2014-11-02/newsflash-fed-isnt-stopping-qe

 

 

 

 

1471889_287038751492506_3869694109821080834_n.jpg?oh=86ba8e9fb8607aa3858fe3eff2224f0f&oe=54EB3906&__gda__=1425413533_03a10e28bc94a84104bf40a3cdd189ab

10690297_287040201492361_7331189330187566672_n.jpg?oh=f32d38e032e060006b3ffedd84ec7446&oe=54DA75CA&__gda__=1423831675_21010e35d54d5b77cdba095723b348d4

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีเพื่อนๆ พี่น้อง คุณๆ ตะนอย ตังเม น้อย อยากเล่นด้วยคน เด็กสยาม ... ....

wann deb meng news TradeerJunoir Goldleng Google ... ... ...

 

 

===

 

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดทองคำปิดลบ $1.8

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 07:34:17 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,169.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 9.5 เซนต์ ปิดที่ 16.201 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 7.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,242.8 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 12.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 804.40 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำยังคงปิดในแดนลบ และในการซื้อขายล่าสุดเมื่อคืนนี้ สัญญาทองคำร่วงลงหลังจากดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับ 6 สกุลเงินหลักๆ พุ่งขึ้นแตะระดับสุงสุดนับตั้งแต่กลางเดือนมิ.ย. 2553 ภายหลังจากผลสำรวจของมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของยูโรโซนในเดือนต.ค.ปรับตัวขึ้นแตะ 50.6 ในเดือนต.ค. จากระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือนที่ 50.3 ในเดือนก.ย. แต่ขยับลงจากตัวเลขเบื้องต้นเดือนต.ค.ที่ระดับ 50.7 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตของยูโรโซนยังคงเข้าใกล้ภาวะชะงักงัน

ทั้งนี้ ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเนื่องจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดอาจจะพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่เฟดมีมุมมองที่เป็นบวกว่าเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

กระแสคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นแม้ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดได้กล่าวยืนยันในการประชุมครั้งล่าสุดว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

1599325_817072928389659_3818191358625147817_o.jpg

พรมดอกไม้ สีสันเส้นสายน่าสนุก

วันดีๆ มีทุกวัน ขึ้นอยูกันคุณเอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 07:49:17 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 3 พ.ย.2557

 

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปรับตัวลง อันเนื่องมาจากรายงานที่ว่าซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบให้กับสหรัฐ

 

 

 

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,366.24 จุด ลดลง 24.28 จุด หรือ -0.14% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,638.91 จุด เพิ่มขึ้น 8.17 จุด หรือ +0.18% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,017.81 จุด ลดลง 0.24 จุด หรือ -0.01%

 

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาของภาคการผลิตในยูโรโซน และผลประกอบการที่อ่อนแอของบริษัทหลายแห่ง รวมถึงบริษัท PostNL

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.8% ปิดที่ 334.25 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,194.03 จุด ลดลง 39.06 จุด หรือ -0.92% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,251.70 จุด ลดลง 75.17 จุด หรือ -0.81% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,487.97 จุด ลดลง 58.50 จุด หรือ -0.89%

 

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของภูมิภาคยูโรโซน

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 58.50 จุด หรือ 0.89% ปิดที่ 6,487.97 จุด

 

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,169.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 9.5 เซนต์ ปิดที่ 16.201 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.พุ่งขึ้น 7.6 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,242.8 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 12.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 804.40 ดอลลาร์/ออนซ์

 

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) หลังจากมีรายงานว่าซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งออกให้กับสหรัฐ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.76 ดอลลาร์ ปิดที่ 78.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 1.08 ดอลลาร์ ปิดที่ 84.78 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีทิศทางสดใสในสหรัฐได้หนุนกระแสคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะซบเซา

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2489 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2527 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5974 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5991 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 113.78 เยน เทียบกับระดับ 112.29 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9650 ฟรังค์ จาก 0.9626 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8685 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8795 ดอลลาร์

 

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,366.24 จุด ลดลง 24.28 จุด -0.14%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,638.91 จุด เพิ่มขึ้น 8.17 จุด +0.18%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,017.81 จุด ลดลง 0.24 จุด -0.01%

 

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,487.97 จุด ลดลง 58.50 จุด -0.89%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,251.70 จุด ลดลง 75.17 จุด -0.81%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,194.03 จุด ลดลง 39.06 จุด -0.92%

 

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,485.00 จุด ลดลง 20.00 จุด -0.36%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,506.90 จุด ลดลง 19.70 จุด -0.36%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,004.86 จุด เพิ่มขึ้น 30.10 จุด +0.34%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,952.97 จุด ลดลง 11.46 จุด -0.58%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,430.03 จุด เพิ่มขึ้น 9.85 จุด +0.41%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,312.85 จุด เพิ่มขึ้น 97.12 จุด +1.35%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,915.97 จุด ลดลง 82.09 จุด -0.34%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,085.51 จุด ลดลง 4.04 จุด -0.08%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,853.34 จุด ลดลง 1.81 จุด -0.10%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,290.84 จุด เพิ่มขึ้น 16.59 จุด +0.51%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,860.38 จุด ลดลง 5.45 จุด -0.02%

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

เงินหยวนอ่อนค่าแตะ 6.1543 หยวนต่อดอลลาร์เช้านี้

 

 

 

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 08:47:47 น.

China Foreign Exchange Trading System (CFETS) รายงานว่า เงินหยวนอ่อนค่าลง 0.18% แตะที่ 6.1543 หยวนต่อดอลลาร์เช้าวันนี้

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ในตลาดปริวรรตเงินตราต่างประเทศของจีนนั้น เงินหยวนได้รับอนุญาตให้ปรับตัวขึ้นหรือลงไม่เกิน 2% จากอัตราค่ากลางของการซื้อขายแต่ละวัน

ทั้งนี้ อัตราค่ากลางสกุลเงินหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ อิงกับราคาเฉลี่ยแบบถ่วงน้ำหนัก ก่อนที่ตลาดจะเปิดทำการซื้อขายในแต่ละวัน

 

 

 

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

 

เงินบาทเปิด 32.70/72 อ่อนค่าสุดในรอบ 4 เดือนหลังญี่ปุ่นประกาศเพิ่ม QE

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 09:28:37 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 32.70/72 บาท/ดอลลาร์ จากวานนี้ที่ปิดตลาดอยู่ที่ระดับ 32.60/62 บาท/ดอลลาร์

"เงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ 4 เดือนตั้งแต่มีรัฐประหาร โดยเป็นผลต่อเนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมาตรการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินที่มีออกมาเพิ่มเติม และดอลลาร์ยังแข็งค่าต่อเนื่องจากคาดการณ์เฟดมีแนวโน้มขึ้นดอกเบี้ย" นักบริหารเงิน กล่าว

 

 

 

นักบริหารเงินประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ระหว่าง 32.65-32.75 บาท/ดอลลาร์

 

* ปัจจัยสำคัญ

 

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 113.60 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่อยู่ที่ระดับ 112.86 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.2500 ดอลลาร์/ยูโร ทรงตัวจากวานนี้

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.6130 บาท/ดอลลาร์

- ธปท.เผยผลสำรวจมุมมองผู้ประกอบการไทยทั่วประเทศ คาดในไตรมาสสุดท้ายของปี 57 แนวโน้มภาวะธุรกิจดีขึ้น การบริโภคจะดีขึ้นตามความเชื่อมั่นกลุ่มรายได้ระดับกลาง-บนเป็นสำคัญ ส่วนกลุ่มรายได้น้อยยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ แม้ผ่านปลายปีไปแล้ว มองแนวโน้มส่งออกไปจีนชะลอ ขณะที่ผู้ประกอบการ อสังหาฯคาดต้นทุนเพิ่ม ขึ้น แต่ปรับราคายาก แต่พยายามรักษาคนรองรับยอดขายเพิ่มขึ้นมากในปี 58

- "หม่อมอุ๋ย" มั่นใจจีดีพีปีหน้า โต 5% ย้ำไม่ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจรอบ 2 ลุ้นผลแจกเงินชาวนาไร่ละ 1 พัน และจัดงบ 2.3 หมื่นล้านสร้างงาน ปั่นเศรษฐกิจพ้นจากหลุม คาดหลังเลือกตั้งปลายปี 2558 เศรษฐกิจไทยกลับมาคึกอีกรอบ

- ราคาทองคำดิ่งต่ำสุดรอบ 4 ปีที่ระดับ 1160 ดอลลาร์ต่อออนซ์ "ฮั่วเซ่งเฮง" มั่นใจไม่หลุดระดับ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เหตุเป็นต้นทุนหน้าเหมืองทองคำ สวนทางทองรูปพรรณ "ตู้แดง" ซื้อขายคึกคัก "ธนรัชต์ พสวงศ์" ยืนยัน ไม่ขาดตลาด "โกลเบล็ก โฮลดิ้ง" แนะกลยุทธ์ทยอยสะสมลงทุนระยาว กรอบการลงทุน 1,108-1,300 ดอลลาร์ต่อทรอยออนซ์ มองปัจจัย "เฟด" จ่อขึ้นดอกเบี้ยกดดันราคาทองคำยาวถึงปีหน้า

- นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมผู้ค้าทองคำ เปิดเผย ว่า บรรยากาศการซื้อขายทองคำ ขณะนี้ค่อนข้างคึกคักเป็นพิเศษเนื่องจากราคาปรับลดลงต่ำสุดในรอบปีที่ 18,100 บาท ต่อบาททองคำ ทำให้ผู้บริโภคและนักลงทุนเข้าทยอยซื้อสะสมเพื่อรอขายตอนราคาขึ้น และราคาทองคำตลาดโลกปรับตัวลดลงต่ำกว่าราคาต้นทุนหน้าเหมือง ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 1,060 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ต่ำสุดในรอบ 4 ปี คาดว่าราคาทองคำในประเทศใกล้ถึงจุดต่ำสุด

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีทิศทางสดใสในสหรัฐได้หนุนกระแสคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจที่อยู่ในภาวะซบเซา

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (3 พ.ย.) เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

อินโฟเควสท์ โดย นิศารัตน์ วิเชียรศรี/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

น้ำมันถูกกดเงินเฟ้อต่ำสุดในรอบ1ปี เดือนตุลาคมอยู่ที่ระดับ107.32

ข่าวเศรษฐกิจ หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 06:00:00 น.

น้ำมันถูกกดเงินเฟ้อต่ำสุดในรอบ 1 ปี

เดือนตุลาคมอยู่ที่ระดับ107.32 พาณิชย์ยืนยันยังไม่ถึงขั้นเงินฝืด

เงินเฟ้อเดือนตุลาคมเท่ากับ 107.32 เพิ่มขึ้น 1.48% ต่ำสุดในรอบ 12 เดือน เหตุราคาน้ำมัน อาหาร ชะลอตัวลง พาณิชย์การันตียังไม่เข้าภาวะเงินฝืด มั่นใจทั้งปีอยู่ในกรอบ 2-2.8%

นางอัมพวัน พิชาลัย รองปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของประเทศ เดือนตุลาคม 2557 ว่าเดือนตุลาคมดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป(เงินเฟ้อ) ของประเทศ เท่ากับ 107.32 ลดลง 0.10% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน และสูงขึ้น 1.48% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีก่อนซึ่งยังเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำสุดในรอบ 12 เดือน และอัตราเงินเฟ้ออยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากราคาอาหารสด เช่น เนื้อสุกร ไข่ไก่ ผักสด ราคาลดลง เพราะสภาพอากาศที่เหมาะสม ผลผลิตมาก

ประกอบกับราคาพลังงานลดลงเนื่องจากราคาน้ำมันในตลาดโลกลดลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันในประเทศลดลงตามไปด้วย ทำให้สินค้าหลายตัวลดต่ำลงด้วย ทั้งนี้เมื่อเทียบช่วง 10 เดือนของปี(มกราคม-ตุลาคม 2557) ดัชนีราคาฯ สูงขึ้น 2.08% โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปี 2557 จะอยู่ที่ 2.14% ซึ่งอยู่ในกรอบที่กระทรวงพาณิชย์คาดการณ์ไว้ 2.0-2.8%

“ในช่วงปกติของปลายปี อัตราเงินเฟ้อจะลดต่ำลงอยู่แล้วจะมีเพียงราคาพลังงานเท่านั้นที่สูงจากประเทศเมืองหนาวใช้พลังงานมาก แต่ขณะนี้ราคาพลังงานลดต่ำลง เงินเฟ้อช่วงปลายปีจึงต่ำ โดยในช่วง 2 เดือนที่เหลือ แรงกดดันเรื่องเงินเฟ้อจะไม่สูงมาก น่าจะอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับเดือนนี้ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ถึงขั้นของภาวะเงินฝืด หากเป็นเงินฝืด ราคาสินค้าทั่วประเทศต้องต่ำเหมือนกันทุกภูมิภาค แต่ขณะนี้ในแต่ละภูมิภาคมีต่ำบ้างสูงบ้าง ตามเศรษฐกิจของภูมิภาคนั้นๆ เป็นสำคัญ”

สำหรับความเคลื่อนไหวของราคาสินค้า 450 รายการในช่วงเดือนตุลาคมพบว่ามีสินค้าที่ปรับตัวสูงขึ้น 255 รายการ เช่น เนื้อโค ไก่ย่าง หอมหัวแดง ผลไม้สด เครื่องปรุงรส ขนมหวาน ก๋วยเตี๋ยว ค่าเช่าบ้าน ค่าแรงปูกระเบื้อง สบู่ถูตัว เป็นต้น สินค้าที่ไม่เปลี่ยนแปลง 154 รายการ และสินค้าที่ราคาปรับลดลง 91 ราการ เช่น เนื้อสุกร แหนม ไข่ไก่ ผักสด น้ำมันพืช กระเทียม น้ำยาปรับผ้านุ่น แป้งทาผิว น้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น

ส่วนกรณีที่จะมีการปรับค่าธรรมเนียมผ่านทางพิเศษขึ้น ในวันที่22 ธันวาคมนี้ จะกระทบต่อเงินเฟ้อ เพียง 0.00103%การปรับขึ้นค่าแท็กซี่ จะกระทบต่อเงินเฟ้อ เพียง 0.00144% และการปรับขึ้นราคาของทั้งคู่จะกระทบต่อผู้บริโภคในแถบกรุงเทพฯ และปริมณฑลเท่านั้น รวมถึงการปรับขึ้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน การขึ้นก๊าซแอลจีวีภาคขนส่ง และเอ็นจีวี รวมการปรับขึ้นราคาทั้งหมดจะกระทบต่อเงินเฟ้อไม่ถึง 0.1%

นอกจากนี้แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในปัจจุบันเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว จากการบริโภค และการผลิตภาคอุตสาหกรรม เห็นได้จากดัชนีพ้องวัฏจักรธุรกิจในเดือนกันยายนที่เพิ่มขึ้น 0.6% โดยเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 19 เดือน เป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าการนำเข้า ภาษีศุลกากร ปริมาณการผลิตยานพาหนะเพื่อการพาณิชย์ ปริมาณ การผลิตเบียร์ ภาษีมูลค่าเพิ่ม ปริมาณการผลิตปูนซีเมนต์และปริมาณการผลิตจักรยานยนต์ ซึ่งสะท้อนการฟื้นตัวของภาคผลิตอย่างชัดเจน และภาวะเศรษฐกิจในระยะ 3-5 เดือนนับจากนี้ ก็ส่งสัญญาณฟื้นตัวจากภาคการก่อสร้าง การลงทุน และการท่องเที่ยว

ขณะที่กรุงเทพโพลล์โดยศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัย กรุงเทพร่วมกับคณะเศรษฐศาสตร์ เปิดเผยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์จากองค์กรชั้นนำ 28 แห่ง จำนวน 64 คน เรื่อง “ความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ต่อการเปลี่ยนกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อของ ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)” โดยเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 9-21 ตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา พบว่านักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่ 78.1% เห็นด้วยกับข้อเสนอของนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธปท.ที่เสนอให้เปลี่ยนการใช้เป้าหมายเงินเฟ้อ (Inflation Targeting) โดยไปใช้กรอบเป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไป หรือ Headline Inflation แทนการใช้กรอบเงินเฟ้อพื้นฐาน หรือ Core Inflation ในปี 2558 โดยมีเพียง 12.5% เท่านั้นที่ไม่เห็นด้วย นอกจากนี้ 43.8% เห็นว่า ธปท.ควรตั้งกรอบเป้าหมายเงินเฟ้อทั่วไปไม่เกิน 3.0-4.0%

 

09:39 จับตาหุ้นเด่นวันนี้ นสพ.รายงาน เข้าเทรดวันนี้ ลุ้นทำราคาเกิน 1.50 บาท กำหนดราคาใช้สิทธิแลกซื้อหุ้นสามัญ 2.50 บาทต่อหุ้น วงการเงินเชื่อหุ้นแม่…

09:36 กลยุทธ์การลงทุนรอบเช้าวันที่ 04 พฤศจิกายน 2557 โบรกเกอร์ แนวรับ แนวต้าน กลยุทธ์ จากบทวิเคราะห์ AECS 1,570 1,590 ตลาดผันผวนขึ้นแบบค่อยเป็นค่อย…

09:30 ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งทรงตัว รอดูการประชุม ECB-ตัวเลขแรงงานของสหรัฐฯ นายเกียรติก้อง เดโช นักกลยุทธ์ บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไ…

09:29 ราคาทองคำแท่งวันนี้บาทละ 18,100.00 บาท ของสมาคมค้าทองคำ ซื้อ (บาท) ขาย (บาท) ทองคำแท่ง 18,000.00 18,100.00 ทองรูปพรรณ 17,737.20 18,500.00 …

09:29 ANALYST PICKS: หุ้นเด่นจากนักวิเคราะห์ วันที่ 04 พ.ย. 2557 หุ้นเด่นจากนักวิเคราะห์ (ANALYST PICKS) รวบรวมจากบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์ประจำวันนี…

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองคำปิดต่ำกว่า1,170ดอลลาร์ ทองคำปิดต่ำกว่า1,170ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะดัชนีดอลลาร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุด นับตั้งแต่กลางปี 2553 กิจกรรมการผลิตโลกลดฉุดน้ำมันดิบปิดร่วง แรงกดดันจากดอลลาร์แข็งค่า-ตลาดซึมซับข้อมูลกิจกรรมการผลิตทั่วโลกลดลงฉุดน้ำมันดิบปิดร่วง แรงเทขายทำกำไรฉุดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลง แรงเทขายทำกำไร-ตลาดซึมซับข้อมูลเศรษฐกิจที่แย่กว่าคาดการณ์ฉุดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลง หุ้นสหรัฐปิดไร้ทิศทางหลังพุ่งแรงสัปดาห์ที่แล้ว สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 3-11-57 vdo.gif แนวโน้มราคาทอง vdo.gif พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติขาย107ลบ.

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

วันที่ 1 พฤศจิกายน 2557 10:05

 

บีโอเจอัดฉีด'คิวอี'ดันหุ้นนิเคอิพุ่ง-เยนอ่อนรอบ7ปี

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_614758_1.jpg

บีโอเจอัดฉีด"คิวอี"รอบใหม่ เดือนละแสนล้านดอลล์ ดันหุ้นนิเคอิพุ่งสูงสุด-เยนอ่อนค่ารอบ7ปี ตลาดหุ้นทั่วโลกขานรับ

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) เปิดเผยว่าบีโอเจวางแผนที่จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นมูลค่า 8-12 ล้านล้านเยน หรือ ราว 0.72-1.08 แสนล้านดอลลาร์ต่อเดือน หลังจากบีโอเจมีมติใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน (QE) ครั้งใหม่ โดยบีโอเจมีแผนที่จะซื้อพันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอนภายในเวลา 5-10 ปี เป็นมูลค่า 2.4-3.6 ล้านล้านเยน และพันธบัตรที่ครบกำหนดไถ่ถอน 1-5 ปี เป็นมูลค่า 3.0-7.2 ล้านล้านเยน

ทั้งนี้ บีโอเจมีมติ 5 ต่อ 4 เสียงให้ผ่อนคลายนโยบายการเงินมากขึ้น โดยเพิ่มฐานเงิน หรือเงินสดและเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับบีโอเจในอัตรา 80 ล้านล้านเยน หรือราว 7.26 แสนล้านดอลลาร์ต่อปี จากเดิมที่ระดับ 60-70 ล้านล้านเยน

บีโอเจสร้างความประหลาดใจต่อตลาดด้วยการผ่อนคลายนโยบายอย่างไม่คาดคิด เนื่องจากมีความวิตกว่า การร่วงลงของราคาน้ำมันจะกระทบดัชนีราคาผู้บริโภค และทำให้ความเชื่อมั่นที่จะฟื้นตัวจากภาวะเงินฝืดนั้นล่าช้าออกไปอีก

นอกจากนี้ บีโอเจยังตัดสินใจเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรรัฐบาลขึ้นราว 30 ล้านล้านเยนและขยายระยะเวลาเฉลี่ยของการถือครองพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นเป็น 10 ปี

ขณะเดียวกัน บีโอเจยังตัดสินใจเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อกองทุนอีทีเอฟ (ETF) และกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ขึ้น 3 เท่า

นอกจากนี้ คณะกรรมการกำกับดูแลกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการญี่ปุ่น (GPIF) ได้อนุมัติแผนการให้กองทุนเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่นสู่ระดับ 25% ของพอร์ทการลงทุน จากระดับ 12% ในขณะนี้

นอกจากนี้ คณะกรรมการของกระทรวงสาธารณสุข, แรงงาน และสวัสดิการยังเห็นพ้องว่า กองทุน GPIF ซึ่งมีเม็ดเงินภายใต้การบริหาร 1.2 ล้านล้านดอลลาร์ และเป็นกองทุนบำเหน็จบำนาญที่ใหญ่ที่สุดในโลก ควรจะลดสัดส่วนการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นลง สู่ระดับ 35% จากระดับปัจจุบันที่ราว 60%

ขุนคลังญี่ปุ่นขานรับคิวอีกระตุ้นศก.

นายทาโระ อาโสะ รมว.คลังญี่ปุ่นกล่าวว่า เขาขานรับการตัดสินใจของนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) และกล่าวว่า การผ่อนคลายนโยบายการเงินครั้งใหม่ของบีโอเจ จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจญี่ปุ่น ซึ่งการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมของบีโอเจไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับการตัดสินใจของรัฐบาลว่าจะขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มในปีหน้าหรือไม่

นอกจากนี้ นายอาโสะ ยังกล่าวว่า การอ่อนค่าของเยนก็มีผลบวกด้วย และมีผลที่แตกต่างกันไปต่อการนำเข้า

นิเคอิพุ่งกว่า700จุด สูงสุดรอบ7ปี

ตลาดหุ้นโตเกียวทะยานขึ้นกว่า 5% แตะระดับสูงสุดที่ทำไว้ในช่วงก่อนเกิดวิกฤติการเงินโลกในวันนี้ ขายรับนโยบายของบีโอเจ

ดัชนีนิเคอิปิดตลาดทะยานขึ้น 755.56 จุด หรือ 4.83% สู่ระดับ 16,413.76 ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2007 หลังจากพุ่งขึ้น 5.1% มาที่ 16,455.84 โดยทำสถิติทะยานขึ้นมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2557

"นักลงทุนส่วนใหญ่คิดว่า การผ่อนคลายนโยบายจะเริ่มขึ้นในเดือนม.ค.2015 และ มีเพียงไม่กี่คนที่คิดว่า บีโอเจจะผ่อนคลายนโยบายในเดือนนี้" เทรดเดอร์อาวุโสจากบริษัทหลักทรัพย์ต่างประเทศแห่งหนึ่งกล่าว "นี่เป็นเรื่องน่าประหลาดใจแน่นอน"

เศรษฐกิจญี่ปุ่นเผชิญกับภาวะบริโภคที่ชะลอตัว หลังจากรัฐบาลขึ้นภาษี VAT ในเดือนเม.ย. ซึ่งทำให้มีรัฐมนตรีหลายคนออกมาเรียกร้องให้นายอาเบะชะลอแผนการขึ้นภาษี VAT ครั้งที่ 2 ที่มีกำหนดในปีหน้า

แต่เทรดเดอร์กล่าวว่า นายอาเบะ อาจจะใช้การพุ่งขึ้นอย่างมากของตลาดหุ้นเป็นเหตุผลที่จะคงแผนเดิมต่อไป

ดอลลาร์พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปีเหนือระดับ 110.67 เยน ซึ่งช่วย หนุนหุ้นกลุ่มส่งออก

ฮั่งเส็งพุ่งร้อนแรงเกือบ300จุด

ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดพุ่งขึ้นวานนี้ ซึ่งสะท้อนถึงการดีดตัวขึ้นของตลาดหุ้นจีนและความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น หลังการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งทำให้ตลาดทะยานขึ้นมากที่สุดเมื่อเทียบรายเดือนนับตั้งแต่เดือนก.ค.

ทั้งนี้ ดัชนีฮั่งเส็งปิดพุ่งขึ้น 296.02 จุด หรือ 1.25% สู่ระดับ 23,998.06 ส่วนดัชนีหุ้นเอชหรือหุ้นจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดพุ่งขึ้น 1.2%

ในสัปดาห์นี้ ดัชนีทะยานขึ้น 3.0% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 14 สัปดาห์ ส่วนดัชนีหุ้นเอชพุ่งขึ้น 3.5% ซึ่งเป็นการดีดตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 8 สัปดาห์ และดัชนีทั้งสองพุ่งขึ้นกว่า 4% ในเดือนนี้

หุ้นยุโรปเปิดตลาดพุ่งกว่า1%รับข่าว

หุ้นยุโรปพุ่งขึ้นในช่วงเปิดตลาดวันนี้ตามการทะยานขึ้นของตลาดหุ้นโตเกียว หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) สร้างความประหลาดใจให้แก่ตลาดการเงินทั่วโลกด้วยการผ่อนคลายนโยบายครั้งใหม่

ณ เวลา 15.03 น.ตามเวลาไทย ดัชนี FTSEurofirst 300 ของหุ้นกลุ่มบลูชิพทั่วยุโรป พุ่งขึ้น 1.3% มาที่ 1,344.18 โดยขยายช่วงบวกจากการดีดตัวขึ้นเป็นเวลา 2 สัปดาห์

ด้านดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าเปิดตลาดพุ่งขึ้นเช่นกัน โดยปรับขึ้น 176 จุด อยู่ที่ 17,290 จุด

โบรกฯมองหุ้นไทยฟื้นตัว

ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วานนี้ (31 ต.ค.) ปิดที่ 1,584.16 จุด เพิ่มขึ้น 18.81 จุด หรือ 1.20% มูลค่าการซื้อขาย 46,768.11 ล้านบาท

นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน กล่าวว่าปัจจัยหนุนหุ้นไทย คือ มาตรการคิวอีของบีโอเจ

“หลังการเพิ่มวงเงินที่จะอัดฉีดเข้าระบบ ทำให้นักลงทุนคาดว่าจะมีเงินทุนไหลเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังมีการคาดหวังกันว่าธนาคารกลางแห่งชาติยุโรป (อีซีบี) จะอัดฉีดเงินเข้ามาในระบบเพิ่มเช่นกัน ซึ่งอีซีบีจะมีการประชุมกันในวันที่ 6 พ.ย. นี้”

ด้านนายเผดิมภพ สงเคราะห์ กรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการเงินทุนบุคคล บล.กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ประเมินว่านักลงทุนคาดว่าจะมีเงินไหลเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มมากขึ้น

“จากเดิมที่มีความกังวลว่าเงินจะไหลกลับไปยังฝั่งอเมริกาและยุโรป จากผลประกอบไตรมาส 3 ของไทยที่ออกมาไม่ค่อยดี และแนวโน้มว่าจะมีการขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆ นี้ แต่หลังจากบีโอเจตัดสินใจอัดฉีดเงินเข้ามาในระบบ และอีซีบีมีแนวโน้มที่จะซื้อพันธบัตรเพิ่มเติม คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อได้”

ดอลล์/เยนแข็งสุดรอบปีครึ่ง

ดอลลาร์พุ่งขึ้นกว่า 2% ในวันนี้ โดยทำสถิติแข็งค่ามากที่สุดภายในวันเดียวในรอบ 1 ปีครึ่งเมื่อเทียบกับเยน หลังจากธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติ 5 ต่อ 4 เสียงใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน (QE) ครั้งใหม่ในวันนี้ โดยเพิ่มฐานเงิน หรือเงินสด และเงินฝากที่ธนาคารพาณิชย์ฝากไว้กับบีโอเจในอัตรา 80 ล้านล้านเยน (7.26 แสนล้านดอลลาร์) ต่อปี จากเดิมที่ระดับ 60-70 ล้านล้านเยน

ดอลลาร์แข็งค่ากว่า 2% แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีที่ 111.53 เยน โดยครั้งล่าสุดที่ดอลลาร์พุ่งขึ้นดังกล่าวเกิดขึ้นในเดือนเม.ย.ปีที่แล้ว เมื่อบีโอเจได้ดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณและคุณภาพครั้งใหญ่

เงินภูมิภาคอ่อนค่าตามเยน

สกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคอ่อนค่าลง จากการตัดสินใจของบีโอเจช่วยหนุนดอลลาร์แข็งค่าขึ้น โดยในช่วงแรกของการซื้อขายก่อนบีโอเจแถลงมติการประชุม สกุลเงินในภูมิภาคดีดตัวขึ้น เนื่องจากข้อมูลการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐช่วยเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง

ดอลลาร์สิงคโปร์ร่วงลง 0.6% มาที่ 1.2850 ต่อดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ วันที่ 27 ส.ค.2013

สกุลเงินในภูมิภาคร่วงลง ขณะที่หุ้นในภูมิภาคพุ่งขึ้น เนื่องจากการผ่อนคลายนโยบายของบีโอเจเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่า สภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นจะยิ่งเพิ่มความต้องการสินทรัพย์เสี่ยง

นายจอง มาย-ยัง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยจากซัมซุง ฟิวเจอร์สกล่าวว่าสกุลเงินเอเชียมีความอ่อนไหวมากขึ้นต่อดอลลาร์ในขณะนี้ โดยเราต้องดูว่าเม็ดเงินจะไปที่ใด

สกุลเงินส่วนใหญ่ในภูมิภาคอ่อนค่าลง โดยวอนดิ่งลง 1.2% ขณะที่ดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่า 0.5% และบาทปรับตัวลง 0.4% ส่วนริงกิตร่วงลง 0.3% แต่รูเปี๊ยะห์สวนกระแสภูมิภาค โดยแข็งค่า 0.7%

วอนทำสถิติดิ่งลงมากที่สุดภายในวันเดียวในรอบเกือบ 9 เดือน ขณะที่ตลาดคาดว่าธนาคารกลางเกาหลีใต้จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีก หลังจากที่บีโอเจ ออกมาตรการคิวอี โดยประธานาธิบดีปาร์ค กึน-เฮของเกาหลีใต้ วิตกเกี่ยวกับการแข็งค่าของวอน/เยน เนื่องจากทั้งสองประเทศเป็นคู่แข่งกันสำหรับผลิตภัณฑ์ที่เหมือนกันในตลาดสำคัญๆทั่วโลก

ทองร่วงหลุด1,170ดอลล์ ต่ำสุด 4 ปี

ราคาทองและโลหะเงินร่วงลงอย่างหนัก หลังจากดอลลาร์แข็งค่าแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 สัปดาห์ โดยดอลลาร์ได้แรงหนุนจากข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (QE) ครั้งใหม่ของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) ซึ่งทำให้เยนอ่อนค่าลง

ราคาทองและโลหะเงินเผชิญกับแรงกดดันอยู่แล้ว หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่วิตกต่อความผันผวนของตลาดการเงิน, ภาวะชะลอตัวของเศรษฐกิจยุโรป และแนวโน้มอัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าเป็นปัจจัยที่อาจจะบั่นทอนความคืบหน้าต่อการบรรลุเป้าหมายการว่างงานและอัตราเงินเฟ้อ

ราคาทองในตลาดสปอตดิ่งกว่า 2% มาที่ 1,168.66 ดอลลาร์/ออนซ์ในการซื้อขาย ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2553 และราคาทองดิ่งลงมากขึ้น หลังจากการประกาศของบีโอเจทำให้ดัชนีดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดของวัน ขณะที่ราคาสัญญาทองล่วงหน้าที่ตลาดนิวยอร์กดิ่งลงเช่นกัน

เทรดเดอร์รายหนึ่งกล่าวว่า มีคำสั่งขายตัดขาดทุนจำนวนมากที่ใต้ระดับ 1,180.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และเมื่อประกอบกับการเคลื่อนไหวผันผวนของดอลลาร์/เยน จึงทำให้ราคาทองร่วงลง

ราคาทองมีแนวโน้มดิ่งลง 4.7% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2557 และเป็นการร่วงลงเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก ระบุว่า ปริมาณการถือครองทองของทางกองทุนลดลง 0.16% สู่ระดับ 741.20 ตัน ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี

ทองคำในประเทศร่วง500บาท

นายจิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวว่าราคาทองคำในตลาดโลกได้ปรับลดหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,175ดอลลาร์ต่อออนซ์และปรับลดลงต่อเนื่อง โดยมีสาเหตุมาจากนักลงทุน ประเมินทิศทางเศรษฐกิจสหรัฐดีขึ้น และมีปัจจัยใหม่ล่าสุดจากบีโอเจ

"ส่วนราคาทองคำในประเทศในวันที่ 31 ต.ค.ปรับลดลง 500 บาทต่อบาททองคำ ถือว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบปีนี้ และมีโอกาสจะปรับลดลงได้อีก ซึ่งหากนักลงทุนที่ยังไม่ได้ถือลงทุนทองคำในพอร์ตลงทุน ตอนนี้ถือว่าเป็นช่วงที่เหมาะสมหากจะทยอยซื้อ เพราะเชื่อว่าราคาทองคำน่าจะปรับลดลงอีกไม่มาก"นายจิตติกล่าว

Tags : บีโอเจตลาดหุ้นทั่วโลกเยนดอลลาร์ธนาคารกลางญี่ปุ่น

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองคำ ส่อร่วงอีก ปัจจัยกดดันเพียบ

ราคาทองคำในตลาดร่วงระนาว ร้านค้าซื้อขายคึกคัก ผู้ประกอบการมองตรงกันยังเป็นขาลง รับแรงกดดันจากเฟดจ่อขึ้นดอกเบี้ย แนะทยอยซื้อเก็บลงทุนระยะยาว

NATIONTV.TV

 

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปภาวะ Gold Futures By GT Wealth Management 4 พ.ย. 57 (ภาคเช้า)

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 10:28:30 น.

กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--GT Wealth Management

ราคาทองคำอ่อนตัวลงต่อแรงกดดันจากดอลาร์สหรัฐฯ แข็งค่า โดยปรับตัวลดลง US$9.04 ต่อออนซ์ มาอยู่ที่ US$1,164.88 ต่อออนซ์ (Gold Spot) โดยราคาทองคำยังคงอ่อนตัวหลังจาก BOJ กระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มและส่งเงินเยนอ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์สหรัฐฯ ด้านค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวแข็งค่าขึ้นเหนือระดับ 87.317 จุด สูงสุดในรอบเกือบ 4 ปีครึ่ง ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงฟื้นตัว โดยดัชนีกิจกรรมภาคโรงงานขึ้นสู่ระดับ 59 ในเดือนล่าสุด ค่าเงนบาทอยู่ที่ 32.69 บาทต่อดอลลาร์อ่อนค่าตามการแข็งค่าของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ SPDR รายงานการถือครองทองคำ 741.2 ตัน คงที่

ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวบริเวณ US$1,165 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนธันวาคม 2557 (GFZ14)ราคาเปิดใกล้ระดับ 18,200 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 18,000 บาท ราคาเสนอขาย 18,100 บาท

แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ปัจจัยลบสำคัญของราคาทองคำในช่วงนี้อยู่ที่การแข็งค่าอย่างต่อเนื่องของเงินดอลลาร์ โดยประเด็นที่ต้องติดตามอยู่ที่การประชุม ECB ในวันพฤหัสฯนี้ โดยหากมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมโดยใช้มาตรการดอกเบี้ย เงินดอลลาร์อาจแข็งค่าต่อ กดดันราคาทองคำต่อเนื่อง

GT Wealth Management

www.gtwm.co.th

TEL : 02-673-9911

 

โอบามา-เยลเลน ร่วมหารือเป็นครั้งแรกเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการปฏิรูปภาคการเงิน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 10:43:02 น.

แถลงการณ์ของทำเนียบขาวเปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐได้พบปะกับนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เมื่อวานนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการใช้แผนปฏิรูปการกำกับดูแลด้านการเงิน รวมถึงอนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐ และโลก

การประชุมดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาที่ยังไม่ยุติข้อสรุปทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การปฏิรูปด้านการเงิน และประเด็นเศรษฐกิจอื่นๆ

แถลงการณ์ระบุว่า ทั้งสองได้ร่วมหารือเกี่ยวกับการประกาศใช้กฎหมายปฏิรูประบบการเงินสหรัฐอเมริกา (Wall Street Reform and Consumer Protection Act) ซึ่งรวมถึงชุดแผนปฏิรูปการกำกับดูแลภาคการเงิน และการปกป้องผู้บริโภค

การพบปะครั้งนี้นับเป็นการประชุมตัวต่อตัวครั้งแรกระหว่างทั้งสองฝ่าย นับตั้งแต่นางเยลเลนเริ่มดำรงตำแหน่งประธานเฟดในเดือนก.พ. ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ แถลงการณ์ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดอื่นเพิ่มเติมแต่อย่างใด สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

 

ธนาคารกลางจีนเตรียมหนุนการใช้บัตรไอซีมากขึ้น หวังเพิ่มบริการชำระเงินแบบไร้สาย

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 10:16:17 น.

ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ธนาคารกลางจะส่งเสริมให้มีการใช้บัตรธนาคารแบบแผงวงจรรวมในประเทศมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็จะรับประกันเรื่องความปลอดภัย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า แถลงการณ์ของธนาคารกลางจีนระบุว่า บัตรธนาคารแบบแผงวงจรรวมที่ได้มีการอนุมัติหลังจากวันที่ 1 เม.ย. 2558 จะต้องสอดคล้องกับมาตรฐานการพัฒนาแบบใหม่ที่ธนาคารกลางจีนได้เสนอไว้เมื่อปี 2553 เพื่อที่จะขยายขอบเขตการใช้งานบัตรไอซีด้านการเงิน

นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังได้วางแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการชำระเงินแบบไร้สายที่จุดให้บริการแบบพอยท์ ออฟ เซลส์ ในเมืองที่ทดลองให้บริการจำนวนกว่า 110 เมือง ให้ได้มากกว่า 20% ในแต่ละปีภายในปี 2558

นับตั้งแต่ปปี 2559 เป็นต้นไป บริการการเงินแบบไร้สายที่ให้บริการโดยธนาคารและผู้ให้บริการชำระเงินจะต้องให้บริการบัตรการเงินแบบไอซี

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

นายกฯจีนให้คำมั่นยกระดับเศรษฐกิจประเทศผ่านการปฏิรูป

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 10:17:18 น.

นายหลี่ เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนได้ให้คำมั่นเรื่องการยกกระดับเศรษฐกิจจีนผ่านการปฏิรูปและนวัตกรรม ในระหว่างการประชุมร่วมกับนักวิชาการและผู้นำองค์กร เพื่อพูดคุยถึงภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันและแผนส่งเสริมเศรษฐกิจในอนาคต

นายกฯจีนเปิดเผยว่า ความเชื่อที่ว่า เศรษฐกิจกำลังดำเนินไปในกรอบที่สมเหตุสมผลนั้น มีรากฐานจากข้อเท็จจริงที่ว่าการเติบโตของเศรษฐกิจสามารถก่อให้เกิดการจ้างงานที่เพียงพอ พร้อมกับการรักษาระดับราคาไปพร้อมกับการปรับเพิ่มรายได้ อนุรักษ์สิ่งแวดล้อม อีกทั้งส่งเสริมคุณภาพและประสิทธิภาพของการพัฒนา

รัฐบาลจะใช้มาตรการต่างๆอย่างมองการณ์ไกลมากขึ้น เพื่อรับมือกับความยุ่งยากต่างๆนานา รวมทั้งเปิดทางให้ตลาดมีบทบาทมากขึ้น ยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพในการขยายตัว เพื่อส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจ

นายหลี่ชี้ว่า แผนพัฒนาเศรษฐกิจนั้นเป็นวาระที่สำคัญที่สุดของจีน เนื่องจากจีนเป็นประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่

การพัฒนาไม่ได้หมายถึงการส่งเสริมเศรษฐกิจจากการขยายตัวเพียงอย่างเดียว แต่ยังหมายถึงการสร้างเสริมเศรษฐกิจผ่านการยกระดับคุณภาพและประสิทธิภาพ โดยนายกฯจีนเสริมว่า เป้าหมายที่สำคัญที่สุดได้แก่การรักษาการขยายตัวในระดับปานกลางถึงสูง พร้อมกับเดินหน้าสู่คุณภาพในระดับปานกลางถึงสูงเช่นกัน

การดำเนินงานตามแผนปฏิรูปอย่างล้ำลึกนั้นมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง รวมถึงการปรับปรุงขั้นตอนในระบบบริหารและมอบอำนาจให้แก่หน่วยงานภายใต้การบังคับบัญชา เช่นเดียวกับการยกเลิกขั้นตอนการอนุมัติบางรายการ ตลอดจนอุปสรรคทางการตลาดและสิ่งกีดขวางในรูปแบบอื่นๆ ไปพร้อมกับการสร้างพื้นที่ให้กับตลาดและผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ นายกฯหลี่เปิดเผยว่า เพื่อที่จะบรรลุเป้าหมายการขยายตัวอย่างมั่นคงและยั่งยืน เศรษฐกิจจีนจำเป็นต้องให้ความสำคัญต่อการส่งเสริมคุณภาพและประสิทธิภาพ ตลอดจนการพัฒนาผ่านการปฏิรูป และส่งเสริมแผนพัฒนาเศรษฐกิจ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย กนิษฐนุช สิริสุทธิ์/สุนิตา โทร.02-2535000 ต่อ 315 อีเมล์: sunita@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปราคาซื้อขายทองคำ และ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 04 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 เวลา 9.00 น.

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 09:47:46 น.

กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--MTS Gold Group

ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,168 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,170เหรียญ/ออนซ์ (22.30น.) ค่าเงินบาทปิด 32.68 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 18,000 บาท กับ 18,100บาท และกลับมาปิดที่ 18,000บาท กับ 18,100 บาท

ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาทอยู่ที่ 857 คู่สัญญาแบบ10 บาทอยู่ที่ 6,799 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 0.95% แบบ10 บาท เพิ่มขึ้น 4.39% GFZ14 ปิด 18,240 บาท และ GFG14 ปิด 18,300 บาท GF10Z14 ปิดที่ 18,230 บาท GF10G14 ปิดที่ 18,290 บาท

สัญญา Comex ลดลง 1.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,169.8 ดอลลาร์/ออนซ์ NYMEX ลดลง 1.76 ดอลลาร์ ปิดตลาดที่ระดับ 78.78 ดอลลาร์/บาร์เรล SPDR ถือครองทองคำที่ระดับ 741.21 ตัน (ซื้อเพิ่ม 0.01 ตัน)

ข่าวที่สำคัญ

-ทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง หลังมีกระแสคาดการณ์ว่าข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐฯ ทำให้เฟดมีแนวโน้มจะพิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด

-นักวิเคราะห์ ระบุว่า แนวโน้มราคาทองคำในปีนี้จนถึงช่วงต้นปีหน้า จะยังคงได้รับแรงกดดันในทิศทางขาลง จากการแข็งค่าของดอลลาร์ที่ขานรับกับกระแสการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยมีโอกาสจะส่งผลให้เกิดการ Reverse Dollar Carry Trade เนื่องจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลให้การกู้ยืมเพิ่มสูงขึ้น และกลุ่มนักลงทุนที่กู้ดอลลาร์มาลงทุนจะเริ่มทยอยชำระคืนเงินกู้

-เมื่อวานนี้ SPDR เข้าซื้อทองคำเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.01 ตัน ปัจจุบันถือครองทองคำที่ระดับ 741.21 ตัน

-นักวิเคราะห์จากคิทโก กล่าวว่า ในเชิงเทคนิคยังคงเห็นภาพหลักของราคาทองคำเป็นทิศทางขาลง หลังจากไม่สามารถกลับมายืนเหนือบริเวณ 1,183 เหรียญได้อย่างแข็งแกร่ง จึงคาดว่าในวันนี้ราคาทองคำจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,155 – 1,175 เหรียญ

-ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.2489 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.2527 ยูโร/ดอลลาร์ จากข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐฯ จึงสนับสนุนให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้มจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่อีซีบีและบีโอเจดำเนินมาตรการการเงินเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ

-อย่างไรก็ดี ค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าขึ้นเมื่อเทียบกับค่าเงินเยนที่ระดับ 113.78 เยน จากระดับ 112.29 เยน

-สถาบัน ISM เผยว่า ดัชนีภาคการผลิตประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 59 จากเดิม 56.6 ในเดือนก่อนหน้า แสดงให้เห็นว่าภาคอุตสาหกรรมการผลิตของสหรัฐฯยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ

-ขณะที่ผลสำรวจจากสถาบันมาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตประจำเดือนตุลาคมของสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงสู่ระดับ 55.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน

-หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของมาร์กิต กล่าวว่า ดัชนีภาคการผลิต (PMI) ของสหรัฐฯยังคงมีการฟื้นตัวต่อเนื่อง แต่เป็นการฟื้นตัวที่ชะลอความแรงลงในช่วงเริ่มต้นไตรมาสที่ 4 เพราะได้รับผลกระทบจากอุปสงค์ด้านการส่งออกที่เปราะบางของยูโรโซนและตลาดเกิดใหม่ แต่จะเห็นได้ว่าภาวะการจ้างงานในภาคการผลิตยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บ่งชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานของสหรัฐฯจะยังแข็งแกร่งต่อเนื่องในไตรมาสที่ 4/2014

-ทางด้าน ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตประจำเดือนตุลาคมของยูโรโซน ปรับตัวขึ้น 50.6 จากเดิมที่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 เดือน 50.3 ในเดือนก่อนหน้า สะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตของยูโรโซนยังอยู่ในภาวะชะงักงัน เนื่องจากอุปสงค์ด้านการผลิตยังคงอ่อนแอและขัดขวางการขยายตัวของภาคการผลิตและการจ้างงานในภูมิภาค

-ราคาน้ำมันดิบร่วงลง 1.76 ดอลลาร์ เพราะได้รับแรงกดดันจากมีรายงานระบุว่า การปิโตรเลียมของซาอุดิอาระเบียปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ทำการส่งออกให้กับสหรัฐฯ

-ธนาคารกลางฮ่องกง กล่าวว่า การประท้วงเรียกร้องประชาธิปไตยที่ยืดเยื้ออาจทำลายเสถียรภาพทางการเงินของฮ่องกงในฐานะศูนย์กลางทางการเงินระดับโลกได้

-นักวิเคราะห์ระบุว่า ในวันนี้จะมีผู้มาลงคะแนนเสียงไม่มากนัก สำหรับการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ โดยเป็นการชิงที่นั่งในสภาคองเกรสให้ได้มากสุด ระหว่าง 2 พรรคการเมืองใหญ่ คือ พรรคเดโมแครต และพรรคฝ่ายค้านรีพับลิกัน

-อย่างไรก็ดี มีกระแสคาดการณ์ว่า พรรครีพับลิกันมีโอกาสจะได้ที่นั่งเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา เนื่องจากประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าการบริหารของโอมาสทำให้ประเทศเดินหน้าผิดทาง

-ตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิด -0.14% เพราะได้รับแรงกดดันจากการ่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลังจากซาอุดิอาระเบียปรับลดราคาน้ำมันดิบให้กับสหรัฐฯ

-เช้านี้ดัชนีนิกเกอิ เปิด +4.05% (665.12 จุด) แตะ 17,078.88 จุด โดยเป็นการทำสถิติพุ่งขึ้นเหนือระดับ 17,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงกลางเดือนตุลาคม 2007 เพราะได้รับแรงหนุนจากค่าเงินเยนที่แข็งค่าขึ้นสู่กรอบบน 113 เยน หลังบีโอเจผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติม

-นักบริหารเงิน ประเมินว่า ค่าเงินบาทในวันนี้ระหว่าง 32.55 – 32.75 บาท/ดอลลาร์ ยังคงรอปัจจัยใหม่ๆ และการประชุมกนง.

-สศค. ระบุว่า กรณีบีโอเจมีมติผ่อนคลายนโยบายทางการเงินเพิ่มเติม จะส่งผลให้ตลาดการเงินมีความผันผวนมากขึ้น และมีโอกาสจะได้เห็นภาวะ Carry Trade ในสหรัฐฯ และออสเตรเลียได้

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญเมื่อคืน

-ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 56.6 ตัวเลขจริงออกมาที่ระดับ 59

ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในคืนนี้

-Factory Orders ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -10.1% ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.4%

-Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -40.1B ตัวเลขคาดการณ์อยู่ที่ระดับ -40.0B

ทิศทางราคาทองคำ

ราคาทองคำเคลื่อนตัวในกรอบแคบบริเวณล่างระหว่าง 1,165-1,170 เหรียญ ท่ามกลางการเคลื่อนไหวของดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าสู่ระดับ 32.75 บาท/ดอลลาร์ และเมื่อวานนี้ SPDR มีการเข้าซื้อทองคำเพิ่มเล็กน้อย 0.01 ตัน สู่ระดับ 741.21 ตัน สำหรับคืนนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญได้แก่ Trade Balance และ Factory Orders คาดว่าจะดีขึ้น

วิเคราะห์ราคาทองคำทางเทคนิค

ในเชิงเทคนิคดูราคาทองคำดูจะเป็นการสะสมพลัง ในระยะกลางกับยาวเป็นแนวโน้มขาลง วันนี้คาดว่าราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,150 – 1,175 เหรียญ

กลยุทธ์การลงทุนในวันนี้

ยังคงแนะนำให้ลงทุนในแนวโน้มขาลงต่อเนื่อง หาจังหวะเปิดสถานะ Short Position และทยอยปิดหรือลดสถานะ Long Position โดยต้องหาจังหวะปิดความเสี่ยงของราคาขึ้นลงให้ดี

- นักลงทุนที่ถือ Long Position

หาจังหวะทยอยปิดหรือลดสถานะลง

- นักลงทุนที่ถือ Short Position

หาจังหวะเปิดสถานะ เก็งกำไรเป็นช่วงๆ หาจังหวะเปิด Short Position บริเวณแนวต้าน

กลยุทธ์สำหรับนักลงทุน Weekly Trading

เก็งกำไรในแนวโน้มขาลง เนื่องจากภาพหลักของทองคำทั้งระยะกลางและระยะยาวยังคงเป็นแนวโน้มขาลง

Gold Futures Z14 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,140 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,340 บาท

Gold Futures G15 จะมีแนวรับที่ระดับ 18,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 18,400 บาท

บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

YLG on Market Wise 04/11/57

http://www.ylgbullion.co.th/ylgfan/?p=372

กลยุทธ์การลงทุนราคาทองคำ

ประจำวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557

อ่านฉบับเต็มได้ที่

www.ylgbullion.co.th

www.ylgfutures.co.th

-----------ติดต่อลงทุน------------

ลงทุนทองคำแท่ง : 02-687-9888

ลงทุนฟิวเจอร์ส : 02-687-9999

 

ไม่ต่างจากเดิมคือชะลอการลงทุนเพื่อรอดูการตั้งฐานของราคา หรือหากรับความเสี่ยงได้มาก อาจรอดูการดีดตัว หากไม่สามารถยืเหนือ 1,183 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจเลี่ยงเปิดสถานะขาย โดยตัดขาดทุนยืนเหนือ 1,195 ดอลลาร์ต่อออนซ์

แนวรับ

1,160 1,152 1,140

แนวต้าน

1,173 1,183 1,195

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คลิประทึก เด็กวิ่งตัดหน้ามอเตอร์ไซค์ อุทาหรณ์เตือนภัยผู้ปกครอง

ชาวสังคมออนไลน์ได้มีการแชร์คลิปเหตุการณ์สุดระทึก โดยเป็นภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิดของชุมชนนครหลวง แขวงลาดยาว เขตจตุจักร...

NATIONTV.TV

 

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

กกร.คาดจีดีพีปีนี้โต1-1.5% กกร. คาดจีดีพีปีนี้โต 1-1.5% ระบุมีแรงขับเคลื่อนหลักจากการบริโภคในประเทศ คาดญี่ปุ่น-ยุโรปอัดฉีดลดผลกระทบQEสหรัฐ ตลาดหลักทรัพย์ คาดเงินอัดฉีดเศรษฐกิจจากญี่ปุ่น - ยุโรป ลดผลกระทบสหรัฐยกเลิก QE เริ่มเห็นผลปีหน้า จ่อขึ้นแอลพีจี'ขนส่ง-ครัวเรือน' จ่อขึ้นแอลพีจี "ขนส่ง-ครัวเรือน" สนพ.ลดแอลพีจีอุตฯ ต่ำสุดรอบ 2 ปี 10 เดือน เหลือ 25.37 บาท/กก. หุ้นเช้าปิดบวก2.80จุด 2 กูรู วิเคราะห์ 'คิวอี' ท่วม 'หุ้นพุ่ง ทองร่วง' vdo.gif ธนชาตหั่นเป้าสินเชื่อปีนี้เหลือทรงตัว ตลท.ตั้งเป้าเพิ่มมาร์เก็ตแคปต่อจีดีพีเป็น150%

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สหรัฐคุมเข้มตรวจสอบนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องขอวีซ่า มุ่งป้องกันก่อการร้าย

ข่าวทั่วไป สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 14:14:00 น.

สหรัฐได้เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า เพื่อป้องกันการก่อการร้ายที่เชื่อมโยงกับกองกำลังของรัฐอิสลาม

ทั้งนี้ สหรัฐได้ยกเว้นการใช้วีซ่าเดินทางเข้าประเทศให้กับ 38 ประเทศซึ่งรวมถึงญี่ปุ่น แต่ยังต้องขออนุญาตพำนักชั่วคราวผ่านทางออนไลน์

ภายใต้กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้นนั้น ผู้ยื่นขออนุญาตเดินทางเข้าประเทศโดยไม่ต้องใช้วีซ่าจะต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติมซึ่งรวมถึงชื่อและรายอะเอียดของผู้ปกครอง

ส่วนประเทศอื่นๆที่สามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในสหรัฐได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่ารวมไปถึง ออสเตรเลีย บรูไน สิงคโปร์ ไต้หวัน ประเทศไทย และประเทศส่วนใหญ่ในยุโรป เช่น สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส เยอรมนี

กระทรวงมหาดไทของสหรัฐระบุว่า การสอบถามนักท่องเที่ยวที่ขออนุญาตผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกเพิ่มเติมนั้น จะช่วยให้กระทรวงสามารถระบุภัยคุกคามที่เป็นไปได้

กระทรวงระบุว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐได้ปฏิเสธการอนุญาตให้ผู้ต้องสงสัยว่าอาจเป็นผู้ก่อการร้ายเดินทางเข้าประเทศทั้งหมด 4,300 รายนับตั้งแต่ก่อตั้งระบบนี้ขึ้นในปี 2552 สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ชาวญี่ปุ่นพับ'นกกระเรียน'1พันตัว ทูลเกล้าฯถวาย'ในหลวง'อายุยืน

ข่าวทั่วไป หนังสือพิมพ์แนวหน้า -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 13:14:00 น.

4 พ.ย.57 ที่ศาลาศิริราช 100 ปี โรงพยาบาลศิริราช ได้มีตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ผู้นำชุมชน นักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชนทั่วไป ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด พร้อมใจนำพานดอกไม้ แจกันดอกไม้ พวงมาลัย และสิ่งของต่างๆ มาทูลเกล้าฯ ถวาย พร้อมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงมีพระพลานามัยสมบูรณ์แข็งแรงยิ่งๆ ขึ้น มีพระชนพรรษายิ่งยืนนาน เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวใจของเหล่าพสกนิกรชาวไทยตราบนานเท่านาน อาทิ ชมรมลูกเสือชาวบ้าน จ.นครราชสีมา นายกเทศมนตรีนครแหลมฉบัง จ.ชลบุรี พร้อมคณะผู้บริหารและสมาชิกเทศบาล กรมพระธรรมนูญเขตพระนคร กทม. มูลนิธิหล่มสักประชานุเคราะห์ จ.เพชรบูรณ์

คณะผู้บริหารและข้าราชการ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) นายอรุณ - นางกรวรรณ์ อุ่นวรรณธรรม ชาวจรัญสนิทวงศ์ กทม. กรมช่างอากาศ เขตบางซื่อ กทม. สมาชิกหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงและฟาร์มตัวอย่าง บ้านรอตันบาตู จ.นราธิวาส สำนักงานสาธารณสุข อ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี นายชยาวุธ ศิริยุทธวัฒนา อธิบดีอัยการสำนักงานคดีภาษีอากร สำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมคณะ คณะบดีคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยสยาม พร้อมคณะนักศึกษาแพทย์ คณะผู้บริหาร ครู นักเรียน สมาคมผู้ปกครอง โรงเรียนสตรีศรีสุริโยทัย กทม. ผู้บริหาร ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ราชบัณฑิตยสถาน สนามเสือป่า กทม.

นายฮายากาวา มาซารุ (ชาวญี่ปุ่น) ประธานบริษัทไทย - นิจิ อินดัสทรี จำกัด จ.ลำพูน ทูลเกล้าฯ ถวายนกกระเรียนกระดาษ จำนวน 1,000 ตัว โดย นายฮายากาวา กล่าวว่า "ผมอยู่ประเทศไทยมา 24 ปี มีครอบครัวเป็นคนไทย รู้สึกทราบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ จึงได้ร่วมกับพนักงาน 300 คน ช่วยกันพับนกกระเรียน จำนวน 1,000 ตัว นำมาทูลเกล้าฯ ถวาย ซึ่งใช้เวลาในการพับ 3 วัน ส่วนที่พับนกกระเรียนมาทูลเกล้าฯ ถวาย เนื่องจากตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น นกกระเรียน หรือซูรุ เป็นนกศักดิ์สิทธิ์ เป็นสัญลักษณ์ของการมีอายุยืนยาว สุขภาพดี เมื่อพับนกกระเรียนไปให้ผู้ที่กำลังป่วยอยู่ก็จะหายป่วย ผมและพนักงานจึงได้ร่วมกันพับนกกระเรียมาทูลเกล้าฯ ถวาย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงหายจากพระอาการประชวรโดยเร็ว และให้มีสุขภาพแข็งแรง"

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

10616199_303463123193117_5995912602748455717_n.jpg?oh=dbdc432ef5d730d9b2d9519d8243955c&oe=54ECA141&__gda__=1425544904_54bfcdd3584313a0e9e007c70741daa2

 

10801630_303463146526448_2935510725069033615_n.jpg?oh=61658d0d3e17683115e5974e5420187c&oe=54E8642F

 

 

1470169_303463236526439_9128702831118831211_n.jpg?oh=30a892e2b0a0b4fda8d6ac69e498d5bb&oe=54DE6079&__gda__=1423970884_b13e5cfd194b80c39d4c1e9b5dca947d

 

1779802_303463266526436_4239329833096793711_n.jpg?oh=ac6a2c1766773e61c72e4f02776df535&oe=54F57428&__gda__=1424824150_7a4f42231cf2d89c9aaddbd1ba2442e1

 

10418329_303463326526430_2287410987169612719_n.jpg?oh=6d873c8a7d9491c23e9f93f683b85fcd&oe=54E7D973&__gda__=1423339211_2a760b229608d1c243c5a8b6ceeadebd

 

10425487_303463063193123_2314218817196169023_n.jpg?oh=b9a7e1fc681221b8d3cdaf800438ceea&oe=54ABD371&__gda__=1424403483_b3b27490c330e7d4da1c4fc20b871271

ร้านขายทองที่ดูไบ

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...