ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ดอลล์อ่อนค่าเทียบยูโร ขณะนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 20:56:28 น.

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับยูโร ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย. และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ย.

เมื่อเวลา 07.35 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลง 0.3% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.2513 ดอลลาร์ต่อยูโร ขณะที่เงินเยนแข็งค่าขึ้น 0.6% เมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่ระดับ 113.39 เยนต่อดอลลาร์

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงาน โดยนักวิเคราะห์จำนวนหนึ่งคาดว่ายอดสั่งซื้อจะหดตัวลง 0.6% ในเดือนก.ย. นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาดูมาร์กิตจะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐ

สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากที่แข็งค่าเป็นเวลาหลายวันก่อนหน้านี้ อันเนื่องมาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดอาจจะพิจารณาเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากที่เฟดมีมุมมองที่เป็นบวกว่าเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ กระแสคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้นแม้ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟดได้กล่าวยืนยันในการประชุมครั้งล่าสุดว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีก

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ปรับตัวลง 22 จุด ขณะนักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 19:27:19 น.

ดัชนีดาวโจนส์ล่วงหน้าปรับตัวลง 22 จุด หรือ 0.1% แตะที่ 17,263 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ลดลง 0.2% แตะที่ 2,007.5 จุด เมื่อเวลา 10.56 น.ตามเวลาลอนดอนในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ รวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย. และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ย.

ดัชนีดาวโจนส์ยังคงปรับตัวลงสู่แดนลบ หลังจากที่ตลาดอ่อนแรงลงเมื่อวานนี้ เนื่องจากนักลงทุนเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ภายหลังจากมีรายงานว่า การปิโตรเลียมซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งออกให้กับสหรัฐ ซึ่งข่าวดังกล่าวได้ฉุดหุ้นเอ็กซอนโมบิล หุ้นเชฟรอน คอร์ป และหุ้นชลัมเบอร์เกอร์ ร่วงลงในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวานนี้

หุ้นเฮอบอลไลฟ์ ร่วงลง 13% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์ผลประกอบการในปี 2557 พร้อมกับเปิดเผยรายได้ต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.45 ดอลลาร์ น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.51 ดอลลาร์

หุ้นสปรินท์ คอร์ป ซึ่งเป็นผู้ให้บริการระบบไวร์เลส ร่วงลง 8.4% หลังจากบริษัทเปิดเผยจำนวนสมาชิกรายเดือนปรับตัวลดลง 272,000 คนในไตรมาส 3

อย่างไรก็ตาม หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) พุ่งขึ้น 1.1% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ต่อหุ้นในไตรมาส 3 อยู่ที่ 1.21 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1.09 ดอลลาร์

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

ข่าวหุ้น-การเงินล่าสุด »

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 โดย YLG

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 17:14:51 น.

กรุงเทพฯ--4 พ.ย.--พีอาร์ดีดี

สภาวะตลาดวันที่ 4 พฤศจิกายน 2557 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,164.30-1,168.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่ราคาทองคำแท่ง 96.5% ภายในประเทศขายออกอยู่ที่ 18,100 บาทต่อบาททองคำโดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงทจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,100 บาทต่อบาททองคำ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFZ14 อยู่ที่ 18,250 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 50 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,200 บาท

(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.56 น. ของวันที่ 04/11/14)

แนวโน้มวันที่ 5 พฤศจิกายน 2557

ข้อมูลดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตที่ซบเซาของยูโรโซนสะท้อนถึงความแตกต่างของทิศทางเศรษฐกิจระหว่างยูโรโซนและสหรัฐ หลังจากข้อมูลภาคการผลิตของสหรัฐขยายตัวมากขึ้นในเดือนตุลาคม โดยสถาบันจัดการอุปทาน (ISM) รายงานว่าดัชนีกิจกรรมภาคโรงงานทั่วสหรัฐพุ่งขึ้นเข้าใกล้จุดสูงสุดที่ทำไว้ในเดือนกุมภาพันธ์ 2011 โดยกิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐเติบโตอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นและตัวเลขนี้ทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเกินคาด ซึ่งเป็นแรงหนุนสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐให้รักษาระดับอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายปี ประเด็นดังกล่าวกดดันราคาทองคำให้ร่วงลงเป็นอย่างต่อเนื่องและสร้างมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำให้มีแนวโน้มระยะใกล้ที่อ่อนแอ ประกอบกับ นักลงทุนเพิ่มความระมัดระวังในการสะสมทองคำหลังการผ่อนคลายนโยบายการเงิน (QE) ของธนาคารกลางญี่ปุ่น(บีโอเจ) ทำให้เกิดการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี) จะต้องใช้มาตรการ QE ในที่สุดซึ่งยูโรโซนมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 0.4 % ในเดือนตุลาคม ขณะที่เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ระดับต่ำกว่า 2 % เล็กน้อย ประเด็นดังกล่าวอาจเป็นเหตุผลที่อีซีบีตั้งความหวังว่าการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบธนาคารจะส่งผลดีต่อภาคเศรษฐกิจที่แท้จริงตามไปด้วย เบื้องต้นวายแอลจียังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,173-1,183 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,160-1,152 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และหากแนวรับนี้ไม่สามารถรับได้นักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวลงต่อของราคาทองคำ

กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยเสี่ยงซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,160-1,152 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น ในระยะสั้นราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวในกรอบหากราคาสามารถการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้เกิดแรงซื้อเก็งกำไรเข้ามา แต่หากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือรับได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือไม่ผ่านบริเวณแนวต้าน 1,173 หรือ 1,183 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนหากราคาไม่หลุดบริเวณแนวรับ

ทองคำแท่ง (96.50%)

แนวรับ 1,160 (17,920บาท) 1,152 (17,800บาท) 1,140 (17,610บาท)

แนวต้าน 1,173 (18,120บาท) 1,183 (18,280บาท) 1,195 (18,460บาท)

GOLD FUTURES (GFZ14)

แนวรับ 1,160 (18,080บาท) 1,152 (17,950บาท) 1,140 (17,770บาท)

แนวต้าน 1,173 (18,280บาท) 1,183 (18,440บาท) 1,195 (18,620บาท)

 

ราคาทองฟิวเจอร์ดีดขึ้น 0.5% หลังคณะกรรมาธิการยุโรปลดคาดการณ์ศก.ยูโรโซน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 20:30:34 น.

ราคาทองฟิวเจอร์ดีดตัวขึ้น เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ และปีหน้า

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ดีดตัวขึ้น 0.5% แตะที่ 1,171.22 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเวลา 12.01 น.ตามเวลาลอนดอน

นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ และปีหน้า โดยคาดว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร 18 ประเทศจะขยายตัวเพียง 0.8% ในปี 2557 จากเดิมที่คาดเอาไว้ที่ 1.2% และคาดว่าเศรษฐกิจในปี 2558 จะขยายตัว 1.1% ซึ่งลดลงจากระดับ 1.7% ในการคาดการณ์ก่อนหน้านี้

สำหรับการปรับลดคาดการณ์จีดีพีในครั้งนี้ มีสาเหตุมาจากการขาดแคลนอุปสงค์ภายในประเทศ และโดยเฉพาะการลงทุน ซึ่งถือเป็นแรงขับเคลื่อนการขยายตัวที่สำคัญ

นอกจากนี้ รายงานยังได้คาดการณ์อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปี 2559 ที่ระดับ 1.7%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ราคาน้ำมัน WTI ร่วงลง $2.09 จากข่าวซาอุดิอาระเบียลดราคาน้ำมัน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 19:56:27 น.

ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงมากกว่า 2 ดอลลาร์ เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่าซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งออกให้กับสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐในวันพรุ่งนี้

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) เดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเล็กทรอนิกที่ตลาด NYMEX ร่วงลง 2.09 ดอลลาร์ หรือ 2.7% แตะที่ 76.68 ดอลลาร์/บาร์เรล เมื่อเวลาประมาณ 07.25 น.ตามเวลานิวยอร์กในวันนี้

สัญญาน้ำมันดิบร่วงลงหลังจากมีรายงานว่า การปิโตรเลียมซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งออกให้กับสหรัฐ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในคืนนี้ตามเวลาไทย รวมถึงยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย. หลังจากที่มีรายงานเมื่อวานนี้ว่า ภาคการผลิตของสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว โดยมาร์กิตระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของสหรัฐในเดือนต.ค.ลดลงแตะ 55.9 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จาก 57.5 ในเดือนก.ย.

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ หลังจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ต.ค.เพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล แตะ 379.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งน้ำมัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 776,000 บาร์เรล สู่ระดับ 21.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รมว.คลังเตรียมนำร่าง พ.ร.บ.ภาษีมรดกเข้าที่ประชุมครม. 11 พ.ย.

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 4 พฤศจิกายน 2557 18:29:55 น.

นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเตรียมจะเสนอร่างพ.ร.บ.ภาษีรับมรดกให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) พิจารณาในวันที่ 11 พ.ย.นี้ หลังผ่านการตรวจร่างจากกฤษฎีกาแล้ว โดยสาระสำคัญยังเหมือนเดิม คือ เก็บจากผู้รับมรดกในส่วนที่เกินกว่า 50 ล้านบาท อัตราภาษีเดียวที่ 10%

พร้อมกันนี้ จะมีการแก้ไขประมวลรัษฎากรของกรมสรรพากรเรื่องภาษีการรับการให้ เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นช่องทางการหลีกเลี่ยงภาษีมรดก เนื่องจากมีการยกเว้นการเก็บภาษีอยู่หลายกรณี เช่น มีทรัพย์สินอยู่ 120 ล้านบาท โอนให้บุตร 70 ล้านบาท ทำให้เหลือ 50 ล้านบาท มาให้เป็นมรดก ในอัตราที่ไม่เกิน 50 ล้านบาท จึงทำให้ไม่ต้องเสียภาษีมรดก แต่หลังจากแก้ประมวลรัษฎากรภาษีการรับการให้แล้วจะต้องเสียภาษีในอัตรา 10% ทุกกรณี

ทั้งนี้ คาดว่าหลังจากผ่านความเห็นชอบจากครม.แล้วจะส่งให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)พิจารณา โดยจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน ก่อนประกาศให้มีผลบังคับใช้ภายในปี 2558 และเมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้จะมีเวลายกเว้นการเก็บอีก 3 เดือน เพื่อให้กรมสรรพากรมีเวลาเตรียมตัวการออกประกาศต่างๆของการเก็บภาษีมรดกดังกล่าว

ขณะเดียวกันผู้ที่ได้รับภาษีมรดก และเข้าเกณฑ์รับภาระเสียภาษีดังกล่าวแต่ไม่มีเงินชำระ ตามสาระสำคัญในกฎหมายฉบับนี้ยังจะผ่อนผันให้ผู้รับภาระสามารถผ่อนชำระผ่านกรมสรรพากรได้ 2-3 ปี โดยไม่คิดดอกเบี้ย

สำหรับสินทรัพย์ที่จะต้องเสียภาษีมรดกจะเป็น บ้าน หุ้น และทรัพย์สินอื่นๆที่มีการจดทะเบียน ทั้งในและนอกประเทศ ส่วนแก้วแหวนเงินทองจะไม่ถูกนำมาคิดเป็นมรดก แต่หากเจ้าของมรดกโอนให้มูลนิธิ เพื่อการกุศลจะได้รับการยกเว้นเสียภาษีมรดก

รมว.คลัง กล่าวว่า หลังจากนี้จะเริ่มพิจารณารายละเอียดของร่างพ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ให้มีความชัดเจนภายใน 5-6 เดือน เพื่อเสนอให้ครม.และสนช.พิจารณา หลังกฎหมายมีผลจะได้รับการยกเว้น 1 ปีครึ่ง เพื่อให้กรมธนารักษ์มีเวลาประเมินที่ดินรายแปลงให้ครบ 32 ล้านแปลง โดยการเก็บภาษีกรณีบุคคลธรรมดาจะดูจากทะเบียนบ้าน ส่วนเกษตรกรจะดูจากการยื่นข้อความช่วยเหลือจากโครงการรัฐที่ผ่านมาว่ามีจำนวนที่นาเท่าใด

รมว.คลัง กล่าวว่า การปฏิรูปภาษีมีความสำคัญ เนื่องจากขณะนี้รายได้น้อยกว่ารายจ่ายอยู่มาก ทำให้การจัดทำงบประมาณมีปัญหา มีเงินไม่เพียงพอต่อการพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ยังมีภาระหนี้เพิ่มจากโครงการประชานิยมของรัฐบาลที่ผ่านมา เช่น โครงการรับจำนำข้าว ซึ่งมีหนี้อยู่กว่า 5 แสนล้านบาท ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 30 ปีถึงจะชำระหนี้ได้ทั้งหมด ปัจจุบันสัดส่วนรายได้อยู่ที่ 17-18% ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้ว 20-30%

ทั้งนี้ การปฏิรูปภาษีมีวัตถุประสงค์เพิ่มรายได้ เพิ่มขีดความสามารถให้กับประเทศ ที่ผ่านมาได้ลดภาษีนิติบุคคลเหลือ 20% มีการลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเหลืออัตราสูงสุด 35% และในอนาคตจะมีการพิจารณาลดลงอีก ขณะที่ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ปัจจุบันอยู่ที่ 7% ในปลายปีงบประมาณ 58 จะมีการปรับเพิ่ม รวมถึงการหาวิธีป้องกันการการหลีกเลี่ยงเสียภาษีมูลค่าเพิ่มด้วย

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้ทั้ง 3 กรมจัดเก็บภาษี คือ กรมสรรพสามิต กรมสรรพากร และกรมศุลกากร ให้แก้ไขกฎระเบียบการวัดประเมินผลงาน(KPI) เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาการเก็บภาษีไม่ให้เกิดการทุจริตหรือมีช่องโหว่อีกต่อไป

อินโฟเควสท์ โดย ธปฦ/กษมาพร/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

20. คิวอีตายแล้ว คิวอีจงเจริญ

QE is dead. Long live QE.

วันนี้เยนไปแตะY114ต่อดอลล่าร์ไปเรียบร้อยแล้ว เหมือนกับว่าจะหายไปวันละเยนสองเยน เพราะการประกาศQEล่าสุดแบบกามิกาเซ่ของธนาคารกลางญี่ปุ่นที่ไม่คำนึงว่าจะมีวันพรุ่งนี้อีกหรือเปล่า ถ้าเยนหลุดจุดต่อไปที่น่าจับตาดูคือY120 จะมีปัจจัยอะไรอื่นมารองรับ? ธนาคารกลางญี่ปุ่นเผยโแมออกมาชัดเจนว่า เป็นได้แค่สาขาโตเกียวของUS Federal Reserve

ถ่ามว่าจีนกลัวไหมที่ญี่ปุ่นเล่นสงครามการเงินอย่างนี้ แต่ที่รู้แน่ๆเกาหลีต้องสะท้านถึงทรวง เพราะว่าโครงสร้างทางเศรษฐกิจคล้ายๆกันและผูกกัน เกาหลีมีเงินวอน คงได้แต่คิดว่ายุ่นวอนซะแล้ว จะลดค่าเงินแข่งอย่างไร?

จีนน่าจะไม่สะทกสะท้านอะไรกับเพลงดาบซามูไรของยุ่นที่ชักออกมาเพื่อฟันลม ฟันไปฟันมาไม่รู้จะแทงตัวเองตายหรือเปล่า เพราะว่าจีนยังคงแข็งแกร่งอยู่ แม้ว่าหนี้จะสูง และอสังหาฯและการเงินก็เป็นฟองสบู่ แต่กล่าวโดยรวมแล้วรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจได้ เพราะว่าจีนยังหนุมยังแน่น เหมือนนักมวยกำลังฟิต ถ้าโดนน๊อคที ยังลุกขึ้นมาต่อยต่อได้

จีนคงจะไม่แข่งลดค่าเงินกับญี่ปุ่น ลดได้ลดไป เพราะว่าใครจะไปแข่งลดค่าเงินกับพวกที่ทำการาจเซลล์ (garage sale) คือขายลองถูกๆแบบโล๊ะทิ้ง จีนน่าจะยืนหยัด และคอยเอาเงินหยวน หรือเงินทุนสำรองไปเท็คโอเวอร์กิจการทางยุทธศาสตร์ที่สำคัญๆของญี่ปุ่นจะดีกว่า เรามักโดนหลอกจากพวกนักการเงินและบริหารประเทศให้กดค่าเงินให้อ่อนจะได้สนับสนุนการส่งออก ทั้งๆที่ภาคส่งออกเป็นแค่ส่วนหนึ่งของประเทศ ถ้าค่าเงินอ่อนดีจริง ทำไมไม่ลดค่าบาทไป50 หรือว่า100บาทต่อดอลล่าร์จะได้หนุนการส่งออกอย่างเต็มที่ ญี่ปุ่นอยู่ในกับดักที่ต้องลดค่าเงินตลอดเพื่อสนับสนุนภาคการส่งออกทั้งๆที่อุตสาหกรรมหลักๆของญี่ปุ่นได้ย้ายฐานผลิตออกนอกประเทศหมดแล้ว ฐานรถยนต์ญี่ปุ่นอยู่ที่ไทยแลนด์และอินโดเนเซีย เครื่องใช้ไฟฟ้าอยู่มาเลย์เซีย และการผลิตอื่นๆกระจายไปทั่วอาเซี่ยนและทั่วโลก

ตอนนี้ทางการญี่ปุ่นยังไม่ส่งสัญญานว่าอยากเห็นเป้าหมายอัตราแลกเปลี่ยนเยนอยู่ที่ใด คงต้องเปลี่ยนชื่อสกุลเงินเป็นร้อนแล้วแทนที่จะเป็นเยน ผิดกับที่ผ่านมาเราจะได้ยินระแคะระคายว่าภาคธุรกิจหรือทางกระทรวงการคลังต้องการให้เยนไปอยู่ในระดับใด อย่างไรก็ตามเยนอ่อนลงอย่างรวดเร็วอย่างนี้ทำให้อำนาจซื้อของคนญี่ปุ่นรวมทั้งบริษัทลดลงอย่างฮวบฮาบ ยิ่งโดนภาษีผการบริโภคเพิ่มจาก5%เป็น 8%ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ยิ่งทำให้การบริโภคภายในซบเซา ญีปุ่นมีดุลการค้าติดลบมา23-25เดือนติดกันแล้ว แสดงว่าญี่ปุ่นได้สูญเสียความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจไปแล้ว ทั้งให้กับเกาหลีและจีน ปัญหาโครงสร้างอันหมักหมมของญี่ปุ่นไม่ว่าความสามารถในการแข่งขันที่ลดลง หนี้รัฐบาล240%ต่อจีดีพี สังคมคนชรา การต้องพึ่งพาพลังงานจากภายนอกในระดับที่สูงหลังเหตุฟูกูชิม่าถล่มฯลฯทำให้จะให้ค่าเงินเยนแข็งก็ตาย ค่าเงินอ่อนก็ไม่รอด ญี่ปุ่นเลือกลดค่าเงินตัวเอง เพื่อไปตายเอาดาบหน้า ยิ่งลดค่าเงินลง มาร์จิ้นของการทำสว๊อปเยนกับเงินสกุลอื่นๆยิ่งจะแคบใหญ่ ท้ายที่สุดเจ้งลูกเดียว

เมื่อเป็นเช่นนี้ จีนคงจะพูดว่าอย่าโทษใครนะ ทำตัวเอง จีนจะไม่เล่นเกมลดค่าเงิน น่าจะคลายหยวนเพื่อเอาหยวนที่แข็งโป๊กไปซื้อกิจการยุ่น เพื่อการควบคุมต่อไป เพราะเงินเยนอ่อนอย่างนี้ เราจะได้เห็นกิจการหรือบริษัทญี่ปุ่นเข้าชื่อแจ้งล้มละลายกันมากขึ้น

ระหว่างหยวนแข็งเพื่อเท็คญี่ปุ่นทั้งประเทศกับหยวนอ่อนเพื่อเน้นการส่งออกจีนจะเลือกดำเนินโยบายอะไร? จีนไม่ได้โง่ และไม่ได้ไร้เดียงสาเหมือนสารขัณฑ์ประเทศที่คอยจะลดค่าเงินเพื่อหนุนการส่งออกหรอกนะจะบอกให้...

thanong

4/11/2014

 

 

 

 

10687102_287299681466413_4424754674158242064_n.jpg?oh=0d41a6bc377ae7e3cb9e7952286de0e6&oe=54F05F15

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub

1 hr · Edited ·

zF84oovpD-v.png ·

 

21. คิวอีตายแล้ว คิวอีจงเจริญ

QE is dead. Long live QE.

หลังจากวิ่งไล่กวดทันสหรัฐฯ ทั้งอำนาจซื้อทางเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่า และการนำเข้าน้ำมันที่สูงกว่า จีนมีขนาดที่พอฟัดพอเหวี่ยงกับสหรัฐฯแล้ว เป็นรองแค่ค่าเงิน เพราะว่าหยวนยังเหมือนเป็นเงินบ้านนอกอยู่ แต่ดอลล่าร์เป็นเงินเมืองหลวงที่ฟู่ฟ่า แต่ฟู่ฟ่าซ่ามากจนคนเริ่มจะหน่าย เพราะดีแต่ปาก ดีแต่พิมพ์เงินไม่มีปัจจัยทางเศรษฐกิจที่แท้จริงมารองรับอำนาจซื้อของเงิน

จีนเดินเกมอย่างอดทน ไม่ผลีผลาม ไม่ใจร้อน ค่อยรุกคืบกินแดนไปเรื่อยๆเหมือนหมากล้อม จีนถือพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯถึง7%ของ$12ล้านล้านหรือพันธบัตรทั้งหมดที่รัฐบาลสหรัฐฯออก ถือเอาไว้ต่อรองเล่น จะทำลายดอลล่าร์ต้องเข้าไปอยู่ในหัวใจของดอลล่าร์ คือตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ รัสเซียตีชิ่งออกไปจากบอนด์สหรัฐฯและเงินดอลล่าร์มากแล้ว เพื่อเป็นการแก้แค้นที่โดนสหรัฐฯแซงชั่นจนอ่วมอรทัย แต่จีนยังคุมเชิงอยู่ ยังไม่ได้เทขาย

ต่อไปนี้คือบทสนทนาลับสุดยอดระหว่างพี่โอกับเฮียฉีจากสำนักข่าวพระจันทร์มืด:

พี่โอขอร้องเฮียฉีว่า เฮียอย่าเพิ่งขายบอนด์ไอนะ ขอให้ไอตั้งหลักก่อน เพราะว่าไอกำลังจะล่อหมีขาว ถ้าเฮียยอมถือบอนด์ไปก่อนจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง อย่างน้อยให้เลยการเลืกตั้งไปก่อน คะแนนความนิยมไอตกมากช่วงนี้ ทำอะไรก็ไม่ถูกใจคนมะกัน แล้วอยากจะได้อาวุธลับมหาประลัยอะไรก็ว่ามา เดี๋ยวจะแอบส่งให้ทางเครื่องบิน แล้วจะโยนของลงมาในทะเลทรายโกบีที่จุดนักพบ

เฮียฉีบอกว่าโยนของให้แม่นๆหน่อย ไม่ใช่เหมือนที่ซีเรียที่โยนของลงมาให้พวกISIS ขายขี้หน้าชาวโลกตายเลย

พี่โอบอกว่ารับรอง ไม่พลาดแน่ แต่ที่โยนของให้พวกISISก็ไม่ได้ทำชุ่ยเสียเลยทีเดียว เพราะว่าพวกนี้จะไปช่วยถล่มซีเรีย แฮะๆจัดฉากทั้งนั้น

เฮียฉีถามว่าแล้วแล้วที่ยูปูพรมแดงต้อนรับโมดี้ยังกับเป็นมหาราชา ไปสัญญงสัญญาอะไรให้กับเขา เห็นอินเดียโม้ใหญ่เลยว่ายูจะช่วยเขาส่งจรวดไปดาวอังคาร

พี่โอรีบตอบว่าไปก็หลอกๆแขกไปอย่างนั้นเอง จะได้ไม่มายุ่งในตะวันออกกลาง หรือให้ท้ายไอ้หมีขาวอย่างออกหน้ามากเกินไป

จบข่าวลับสุดยอดเพียงแค่นี้ ที่เหลือจินตนาการเอาเอง

นาทีนี้จีนรวยที่สุดในโลกมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศถึง$4ล้านล้าน เงินจำนวนนี้สามารถleverageหรือกู้เพิ่มได้เป็น10 เท่าหรือ100เท่าเป็น$40ล้านล้าน หรือ$400ล้านล้านก็ได้ มีอะไรในโลกบ้างที่ซื้อไม่ได้ เพราะฉนั้นยุทธศาสตร์ทางการเงินของจีนน่าจะทำดังต่อไปนี้:

1. ใช้หยวนที่แข็งซื้อของดะไปทั่ว ช๊อปปิ้งสนุกกว่าลดค่าเงินไปขายของ

2. จีนมีทองคำมากมาย เอามากองสูงเทียมเขาเหลียงซาน ต่อไปจะประกาศว่าอั๊วจะใช้มาตรฐานทองคำ คือจะพิมพ์หยวนโดยมีทองคำหนุน ธนาคารกลางจีนจะมีทรัพย์สินที่เป็นทอง20%, 30% หรือ 50%ก็ว่ากันไป ค่าเงินหยวนจะน่าเชื่อถือกับเงินกงเต๊กทั้งหลายที่เป็นแค่เศษกระดาษธรรมดาการันตีโดยรัฐบาลที่มีฐานะการคลังที่ล้มละลายแล้ว แล้วระหว่างดอลล่าร์กระดาษกับหยวนที่มีทองคำหนุน ท่านทั้งหลายจะถือเงินสกุลใหนก็เลือกเอาตามใจชอบ แน่นอนค่าเงินหยวนจะแข็งมีเสถียรภาพกว่า ตามที่Alan Greenspanพูดเอง ดอลล่าร์จะโดนเทขาย

3. จีนทำหยวนสว๊อปกับประเทศคู่ค้าเพื่อเลิกใช้ดอลล่าร์ในการค้าขาย ทำกับรัสเซีย$25,000ล้าน ทำกับบราซิล$20,000ล้าน ทำกับอาร์เจนติน่า$11,000ล้าน ทำกับไทย7,000ล้านหยวน และทำกับประเทศอื่นๆอีกไม่ว่าจะเป็นญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย มาเลย์เซีย ฮ่องกง ล่าสุดมีเซอร์ไพรซ์เมื่อจีนตกลงทำกับสว๊อปค่าเงินกับสิงคโปร์โตก โดยจะทำการค้าขายกันระหว่างสองประเทศด้วยหยวนและสิงคโปร์โตกดอลล่าร์เท่านั้น ทำสว๊อปแบบนี้ไปเรื่อยๆ เงินดอลล่าร์จะถูกทิ้งไปเรื่อยๆ เพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องถือในการทำการค้า

4. จีนนำเข้าน้ำมันมากที่สุดในโลกแซงหน้าสหรัฐฯไปแล้ว จีนจะมีอำนาจต่อรองสูงขึ้นในการซื้อน้ำมันโดยจ่ายเป็นหยวนไปเลย ไม่ต้องแลกดอลล่าร์ก่อนให้เสียเวลา เสียค่านายหน้า ถ้าจีนสามารถให้ตะวนัออกกลางรับเงินหยวนมากขึ้นในการซื้อขายน้ำมัน เท่ากับว่าเปโตรหยวนเแจ้งเกิดโดยปริยาย ส่วนเปโตรดอลล่าร์คงต้องมีอาการชีช้ำกล่ำปลี

5. ในเมื่อหยวนมีเถียรภาพ มีอำนาจซื้อสูง มีทองหนุน มีการค้าที่แท้จริงหนุนหลัง ไม่ใช้พิมพ์ออกมาดะเหมือนพวกแก๊งพิมพ์เงินทำQEจนขี้ขึ้นสมอง ทุกประเทศ หรือกองทุนต่างๆก็ต้องการถือหยวนเอาไว้เป็นเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ หรือถือหยวนเป็นเงินลงทุนที่ให้ผลตอบแทนดี จีนสามารถเร่งพัฒนาตลาดบอนด์รัฐบาลให้โตกว่านี้จะดี จะได้สร้างสภาพคล่องให้หยวนซื้อง่ายขายคล่อง ตลาดบอนด์รัฐบาลจีนมีขนาด$1ล้านๆกว่า เทียบกับ$12ล้านล้านของสหรัฐฯ

ทำเช่นนี้หยวนจะเป็นเงินสกุลหลักของโลกโดยปริยาย โดยที่พวกแก๊งพิมพ์เงินไม่สามารถใช้QEมาเป็นอาวุธเพื่อทำร้ายจีนได้

thanong

4/11/2014

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีเพื่อนๆ คุณๆ news TraderJunior wannn Pasaya Goldleng Magagold Espresso Alan ตะนอย ตังเม น้อย เด็กสยาม อยากเล่นด้วยคน papon .. .. ..

 

10711046_817667098330242_675831217478119156_n.jpg?oh=fd9ed0390112b93cb966794225b606a8&oe=54AAD4F7&__gda__=1424965686_553f01561fa5a26bef0a27f91d9003e7

โชคดี อยู่ดีมีสุช

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 5 พฤศจิกายน 2557 07:43:59 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 4 พ.ย.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) อย่างไรก็ตาม ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน โดยแม้ว่าดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนบวก แต่ดัชนี NASDAQ และ S&P 5000 ต่างก็ปิดปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลงเมื่อคืนนี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,383.84 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด หรือ +0.10% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,623.64 จุด ลดลง 15.27 จุด หรือ -0.33% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,012.10 จุด ลดลง 5.71 จุด หรือ -0.28%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรป (อีซี) ได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจยูโรโซนในปีนี้ และปีหน้า นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง

ดัชนี Stoxx 600 ร่วงลง 1% ปิดที่ 330.88 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,166.47 จุด ลดลง 85.23 จุด หรือ -0.92% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,130.19 จุด ลดลง 63.84 จุด หรือ -1.52% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,453.97 จุด ลดลง 34.00 จุด หรือ -0.52%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

ดัชนี FTSE 100 ลดลง 34.00 จุด หรือ 0.52% ปิดที่ 6,453.97 จุด

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,167.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 24.8 เซนต์ ปิดที่ 15.953 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 18.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,224.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 13.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 790.65 ดอลลาร์/ออนซ์

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งออกให้กับสหรัฐ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐปรับตัวลดลงในเดือนก.ย.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.19 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 1.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เนื่องจากข้อมูลการส่งออกที่ย่ำแย่ส่งผลให้ยอดขาดดุลการค้าของสหรัฐเพิ่มสูงเกินคาดในเดือนก.ย. ซึ่งสร้างความวิตกกังวลว่าอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัวอาจจะบั่นทอนการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2556 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2489 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.6004 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5974 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 113.57 เยน เทียบกับระดับ 113.78 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9595 ฟรังค์ จาก 0.9650 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8744 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8685 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,383.84 จุด เพิ่มขึ้น 17.60 จุด +0.10%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,623.64 จุด ลดลง 15.27 จุด -0.33%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,012.10 จุด ลดลง 5.71 จุด -0.28%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,453.97 จุด ลดลง 34.00 จุด -0.52%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,166.47 จุด ลดลง 85.23 จุด -0.92%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,130.19 จุด ลดลง 63.84 จุด -1.52%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,498.20 จุด เพิ่มขึ้น 13.20 จุด +0.24%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,519.90 จุด เพิ่มขึ้น 13.00 จุด +0.24%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,989.18 จุด ลดลง 15.68 จุด -0.17%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,862.47 จุด เพิ่มขึ้น 448.71 จุด +2.73%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,935.19 จุด ลดลง 17.78 จุด -0.91%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,430.68 จุด เพิ่มขึ้น 0.65 จุด +0.03%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,222.01 จุด ลดลง 90.84 จุด -1.24%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,845.66 จุด ลดลง 70.31 จุด -0.29%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,847.36 จุด ลดลง 5.98 จุด -0.32%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,070.94 จุด ลดลง 14.57 จุด -0.29%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,281.57 จุด ลดลง 9.27 จุด -0.28%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดลบ 2.1 ดอลล์ หลังราคาน้ำมันดิบร่วง

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 5 พฤศจิกายน 2557 07:25:16 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) ทำสถิติปิดลบติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.18% ปิดที่ 1,167.7 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 24.8 เซนต์ ปิดที่ 15.953 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 18.1 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,224.7 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 13.75 ดอลลาร์ ปิดที่ 790.65 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงอย่างต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากรายงานที่ว่า การปิโตรเลียมซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งออกให้กับสหรัฐ โดยเทรดเดอร์ระบุว่าความเคลื่อนไหวของซาอุดิอาระเบียในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะรักษาส่วนแบ่งตลาด

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากผลการสำรวจของแกลลัประบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของสหรัฐพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนต.ค.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดร่วง $1.59 จากข่าวซาอุดิอาระเบียลดราคาน้ำมัน

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 5 พฤศจิกายน 2557 07:03:48 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 พ.ย.) เนื่องจากตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากข่าวที่ว่า ซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งออกให้กับสหรัฐ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ระบุว่า ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานของสหรัฐปรับตัวลดลงในเดือนก.ย.

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 1.59 ดอลลาร์ ปิดที่ 77.19 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ดิ่งลง 1.96 ดอลลาร์ ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์/บาร์เรล

ตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับปัจจัยลบจากรายงานที่ว่า การปิโตรเลียมซาอุดิอาระเบียได้ปรับลดราคาน้ำมันดิบที่ส่งออกให้กับสหรัฐ โดยเทรดเดอร์ระบุว่าความเคลื่อนไหวของซาอุดิอาระเบียในครั้งนี้มีเป้าหมายที่จะชิงส่วนแบ่งในตลาดน้ำมันโลกซึ่งมีการแข่งขันสูง

ตลาดได้รับแรงกดดันมากขึ้นเมื่อผลการสำรวจบ่งชี้ว่า ปริมาณการผลิตน้ำมันของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับตัวสูงขึ้น 53,000 บาร์เรล สู่ระดับ 30.974 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 14 เดือน

ทั้งนี้ กลุ่มโอเปคสามารถผลิตน้ำมันได้ในสัดส่วน 40% ของปริมาณการผลิตทั่วโลก โดยโอเปคมีกำหนดจะจัดการประชุมในวันที่ 27 พ.ย.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับปัจจัยลบจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลการค้าเดือนก.ย.ปรับตัวสูงขึ้น 7.6% แตะที่ 4.303 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 4 หมื่นล้านดอลลาร์ หลังจากยอดส่งออกร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 เดือน เนื่องจากการชะลอตัวของอุปสงค์ทั่วโลกได้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ

ขณะที่ยอดสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนก.ย.ปรับตัวลง 0.6% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกัน 2 เดือน และสอดคล้องกับที่ตลาดคาดการณ์ไว้ สะท้อนให้เห็นว่าภาคการผลิตของสหรัฐเริ่มส่งสัญญาณชะลอตัว

นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันซึ่งสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยในวันพุธนี้ หลังจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 24 ต.ค.เพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล แตะ 379.7 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งน้ำมัน ปรับตัวเพิ่มขึ้น 776,000 บาร์เรล สู่ระดับ 21.4 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 มิ.ย.

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ธนารักษ์ ยันไม่เคยผลิตเหรียญ 2 ปี 59 - ผู้ครอบครองมีความผิด

ข่าวเศรษฐกิจ RYT9.COM -- พุธที่ 5 พฤศจิกายน 2557 08:58:15 น.

iq527ed07bcd2630d23cfd69b03636ed54.jpg

ดูรูปทั้งหมด

อธิบดีกรมธนารักษ์ ยืนยันไม่เคยผลิตเหรียญ 2 บาท ปี 2559 ชี้ผู้ครอบครองเข้าข่ายมีความผิด พ.ร.บ.เงิน

นายนริศ ชัยสูตร อธิบดีกรมธนารักษ์ เผยว่า จากกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพในโซเชียลว่าพบเหรียญกษาปณ์ชนิดราคา 2 บาท ที่เป็นสีเงินที่ผลิตในปี 2559 ว่า เรื่องดังกล่าวไม่เป็นความจริง เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ได้มีการสร้างเหรียญ 2 บาท สำหรับปี 2559 แต่ประการใด อีกประเด็นคือเหรียญที่ออกเผยแพร่ในข่าวเป็นเหรียญสีเงิน ซึ่งกรมธนารักษ์ไม่ได้ผลิตเหรียญสีเงินตั้งแต่ปี 2551 แล้ว แต่ผลิตเหรียญ 2 บาทชนิดสีทอง

สำหรับเหรียญกษาปณ์หมุนเวียนชนิดราคา 2 บาท ปี 2559 ที่เป็นข่าวในขณะนี้ ตรวจสอบแล้วอาจเป็นเหรียญสีเงินชุดเก่าปี 2549 ที่ทำเทคนิคด้วยการตัดแต่งภาพในคอมพิวเตอร์ โดยนำเอาเลข "5" มาซ้อนทับบนเลข "4" หากไม่ใช่ภาพตัดแต่งและมีเหรียญดังกล่าวอยู่จริงถือว่าเป็นการปลอมแปลง ซึ่งผู้ใดที่ครอบครองก็จะเข้าข่ายความผิดของ พ.ร.บ.เงินตรามาตรา 9

อินโฟเควสท์ โดย สุดทีวัล สุขใส โทร.02-2535000 ต่อ 360 อีเมล์: sudteewan@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

09:06 IPO Fund: ข้อมูลกองทุนเปิดที่กำลังเสนอขาย วันที่เสนอขาย ชื่อกองทุนเปิด ชื่อย่อ ประเภทกองทุน อายุโครงการ ลงทุนขั้นต่ำ ประมาณการ บลจ. (บาท) ผลต…

09:04 ภาวะตลาดหุ้นจีน: เซี่ยงไฮ้คอมโพสิตเปิดบวก 0.06% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปรับตัวขึ้น 0.06% เปิดที่ 2,432.17 จุดในวันนี้ เพราะได้รับแร…

09:01 ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: ฮั่งเส็งเปิดขยับขึ้น 1.18 จุด หลังดาวโจนส์ปิดบวก ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดขยับขึ้น 1.18 จุด หรือ 0.00% แตะที่ 23,84…

08:58 ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเช้านี้ หลังหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันนี้ หลังหุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง เนื่องจากราคาน…

08:53 ข้อมูลแบบรายงานการเปลี่ยนแปลงการถือหลักทรัพย์ของผู้บริหาร 4 พ.ย. 57 ชื่อบริษัท ชื่อผู้บริหาร ความสัมพันธ์* ประเภท วันที่รับเอกสาร วันที่ได้ม…

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เกาะติดหุ้นโลก 5-11-57 vdo.gif Morning News : เกาะติดหุ้นรอบโลก "NOW26" 5-11-57 สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 4-11-57 vdo.gif สรุปภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้น ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ "NOW26" 4-11-57 แนวโน้มราคาทอง vdo.gif ตรงประเด็นข่าวค่ำ แนวโน้มราคาทองคำ สดตรงจากนักวิเคราะห์ "NOW26" 4-11-57 'บางกอกกล๊าส'ถอนไฟลิ่งเข้าตลาดหุ้น พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ270ลบ. หุ้นไทยปิดบวก5.97จุด เงินบาทปิดที่32.68/69แข็งค่า

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

อียูหั่นคาดการณ์จีดีพี-ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลงฉุดหุ้นยุโรปปิดตลาดปรับตัวลง

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ร่วงลง 0.52% ปิดที่ 6,453.97 จุด ดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ลดลง 1.52% ปิดที่ 4,130.19 จุด และดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปรับตัวลง 0.92% ปิดที่ 9,166.47 จุด

หุ้นยุโรป ปิดปรับตัวร่วงลง หลังสหภาพยุโรป หรือ อียู หั่นคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของยูโรโซน พร้อมเตือนว่าฝรั่งเศสและอิตาลียังคงเผชิญปัญหาใหญ่จากเศรษฐกิจที่ซบเซาของยุโรป โดยรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจประจำฤดูใบไม้ร่วงของคณะกรรมาธิการยุโรป ระบุว่า ผลผลิตใน 18 ประเทศยูโรโซนจะเติบโตเพียง 0.8% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดการณ์ไว้ที่ 1.2% ขณะที่แนวโน้มการเติบโตสำหรับปี 2558 ลดลงอย่างมาก โดยถูกปรับลดเหลือ 1.1% จากเดิม 1.7%

Tags : ดัชนี FTSE 100ยุโรปดัชนี CAC 40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนียูโรโซน

สหรัฐวางมาตรการตรวจเข้มต่างชาติ เน้นตรวจสอบผู้เดินทางจากยุโรปและเอเชีย หวั่นมีนักรบไอเอสจากซีเรีย-อิรักแฝงตัว

นายเจห์ จอห์นสัน รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยของสหรัฐกล่าวว่า คนที่เดินทางมาจากประเทศที่อยู่ในโครงการ วีซ่า เวฟเวอร์ โปรแกรม หรือ วีดับเบิลยูพี ซึ่งได้รับเอกสิทธิ์เดินทางเข้ามาในสหรัฐได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า จะต้องกรอกข้อมูลเพิ่มเติมในแบบฟอร์มทางออนไลน์ เพื่อรับการตรวจสอบว่า มีคุณสมบัติที่จะเข้าสหรัฐได้หรือไม่

นายจอห์นสัน ระบุว่า สหรัฐเตรียมใช้ขั้นตอนที่มีความเข้มงวดมากขึ้น เพื่อปรับปรุงความปลอดภัยของวีดับเบิลยูพี และต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมจากนักท่องเที่ยวที่ไม่ต้องขอวีซ่าเข้ามา เพราะกลัวว่าอาจจะมีกลุ่มหัวรุนแรงในซีเรียและอิรัก ที่ถือพาสปอร์ตของประเทศเหล่านี้ปะปนเข้ามา ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา บุคคลเหล่านี้สามารถเล็ดลอดสายตาเจ้าหน้าที่เข้ามาในสหรัฐได้หลายครั้ง

นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยของสหรัฐ ยังเผยรายชื่อประเทศที่เข้าร่วมโครงการ วีดับเบิลยูพี ว่ามีด้วยกันทั้งหมด 38 ประเทศ อาทิ อังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมนี และประเทศอื่นๆในยุโรป รวมถึงประเทศและดินแดนในเอเชีย อย่าง ญี่ปุ่น ไต้หวัน สิงคโปร์ และเกาหลีใต้

นายจอห์นสัน กล่าวว่า กระทรวงมหาดไทยสหรัฐ เป็นกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรียและอิรัก ซึ่งความไร้เสถียรภาพที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆในทั้งสองดินแดน ดึงดูดกลุ่มหัวรุนแรงต่างชาติ รวมถึงคนจากประเทศในกลุ่มวีดับเบิลยูพี เข้ามาในสหรัฐ หรือเข้าไปในประเทศแถบยุโรป ยกตัวอย่างกรณีที่มีชาวซีเรียเดินทางเข้าไปในยุโรปเพื่อก่อการร้าย และเหตุกราดยิงพิพิธภัณฑ์ในเบลเยี่ยม เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา

เมื่อไม่นานมานี้ กองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส เพิ่งเผยแพร่คลิปวีดิโอการตัดศีรษะพลเรือนสหรัฐที่จับตัวมาเป็นตัวประกัน เพื่อแก้แค้นที่ถูกสหรัฐปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ

นายจอห์นสัน เสริมด้วยว่า ผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่เข้าร่วมโครงการได้รับการยกเว้นวีซ่านี้ จะต้องกรองแบบฟอร์มออนไลน์ ที่เรียกว่า อิเล็กทรอนิกส์ ซิสเต็ม ฟอร์ แทรเวล ออโธไรเซชัน หรือ เอสตา และจ่ายค่าธรรมเนียม แต่มาตรการใหม่ที่ออกมาเมื่อวันจันทร์ (3 ต.ค.)กำหนดเพิ่มเติมว่า ผู้ที่เดินทางจากประเทศเหล่านี้ จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวในพาสปอร์ต ข้อมูลติดต่อ และชื่ออื่นที่ใช้ เพิ่มเติมในแบบฟอร์มเอสตา

กระทรวงมหาดไทยของสหรัฐ หวังว่า ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นมาจะช่วยให้เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงรับรู้ถึงภัยคุกคามที่จะเกิดขึ้นกับสหรัฐ และป้องกันไม่ให้บุคคลที่ต้องสงสัยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเข้ามาในประเทศได้ โดยมั่นใจว่ามาตรการนี้ จะไม่ส่งผลกระทบต่อการค้าระหว่างสหรัฐกับบรรดาพันธมิตรทั้งหลายในโครงการ "วีซ่า เวฟเวอร์ โปรแกรม"

Tags : เจห์ จอห์นสันไอเอสสหรัฐ

 

 

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ญญาณลบที่เพิ่มจากการที่ปรับตัวลงต่ำกว่า 1160 ระยะการปรับตัวลงมองไว้ที่ 1100 1120 เป็นเป้าหลักและมี 1140 เป็นอีกจุดหนึ่งที่อาจทรงตัวและกลับตัวขึ้นได้

 

โดยสรุปวันนี้อาจเบรกแนวจากตัวเลขสำคัญ

ผ่าน 1175 เป้าแค่ 1180 1185 หลุด 1160 เป้า 1120 1140

ในกรณีที่ลงยังมองหาสัญญาณกลับตัวเพื่อหวังอย่างน้อยรีบาวด์ที่บริเวณแนวหนุนที่ให้ไว้

by Facebook.com/Wealthstation

5/11/57

 

 

 

 

1505511_785565751481902_8728585216828312957_n.png?oh=81cd4c821f063ef8acb7e0b7e33af4b4&oe=54EDB68C

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

 

I Will Do for King

10 hrs · Edited ·

zF84oovpD-v.png ·

 

 

แถลงการณ์สำนักพระราชวัง

เรื่อง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ มาประทับ ณ โรงพยาบาลศิริราช

ฉบับที่ ๘

วันนี้ (๔ พ.ย.) คณะแพทย์ผู้ถวายการรักษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รายงานว่า ตามที่ได้มีแถลงการณ์สำนักพระราชวังเมื่อปีพุทธศักราช ๒๕๔๒ ว่าการถวายส่องกล้องตรวจทางพระทวารหนัก พบถุงเนื้อเยื่อขนาดเล็ก (Diverticulum) บนผนังพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) และต่อมาทรงมีการอักเสบของถุงเนื้อเยื่อ (Diverticulitis) บนผนังพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) ในปีพุทธศักราช ๒๕๕๐ ๒๕๕๔ และ ๒๕๕๕ ตามที่ได้แถลงการณ์ให้ทราบทั่วกันมาแล้ว

 

ในครั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระอาการแน่นและเจ็บพระนาภี (ท้อง) หายพระหทัยเร็วขึ้นเล็กน้อยและมีพระปรอท (ไข้) ผลการตรวจพระหทัยด้วยคลื่นไฟฟ้าไม่ปรากฏว่ามีการผิดปรกติ ผลการตรวจพระโลหิตรวมทั้งการตรวจพระโลหิตด้วยวิธีพิเศษ และเอกซเรย์พระนาภี (ท้อง) แสดงว่ามีการอักเสบของถุงเนื้อเยื่อขนาดเล็กบนผนังของพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) คณะแพทย์ฯ จึงได้ถวายพระโอสถปฏิชีวนะ ซึ่งทำให้พระปรอท (ไข้) ลดลงแล้ว แต่ต้องถวายพระโอสถต่อเนื่องอีกสักระยะหนึ่ง และถวายพระกระยาหารที่เหมาะสมกับพระโรคนี้จนกว่าพระอาการอักเสบจะทุเลาลงจนเป็นปรกติ

อนึ่ง คณะแพทย์ฯ ได้อธิบายว่า การอักเสบของถุงเนื้อเยื่อบนผนังพระอันตะ (ลำไส้ใหญ่) อาจเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว

จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

สำนักพระราชวัง

๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๗

 

 

 

 

1800285_949127148435337_225330980771134066_n.jpg?oh=9b29d250b991b7edfe4176228054a56f&oe=54EE6004&__gda__=1424171269_31951cf535a5f6ac70ef065f214b3e1b

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

นักลงทุนรายใหญ่ลดปริมาณการถือครอง

ราคาทองคำระหว่างวันอยู่ที่ 1163-1168 เหรียญ ราคาทองคำยังแกว่งตัวอยู่ในกรอบจำกัดจากรายงานการถือครองสัญญาล่วงหน้าในตลาดทองคำจะเห็นว่านักลงทุนรายใหญ่ได้ลดสถานะการถือครอง

สัญญาล่วงหน้าในทองคำลง 7245 สัญญาในสัปดาห์ก่อน แนวโน้มของราคาทองคำยังคงเป็นขาลง ตราบใดที่ราคายังไม่สามารถกลับมายืนเหนือระดับ 1180 เหรียญได้ แนวรับ 1160/1150 เหรียญ

แนวต้าน 1175/1183 เหรียญ แนะนำ Trading Short เมื่อราคารีบาวน์

 

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/image/strategy_analysis/filestrategy041120141551321983.pdf

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เตือนปล่อยโคมลอยกวนอากาศยานโทษถึงประหาร.... อ่านต่อได้ที่ :http://goo.gl/p43jZ5

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

 

Thanong Fanclub added 2 new photos.

21 mins ·

 

 

22. คิวอีตายแล้ว คิวอีจงเจริญ

QE is dead. Long live QE.

ในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนตุลาคม 2014 มีเหตุการณ์สำคัญ 4เรื่องเกิดขึ้นในเวลาไล่เลี่ยกัน คือ

 

1.ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียประกาศที่Valdai Clubที่เมืองSochi ว่าไม่เอาด้วยกับพวกที่พยายามจะสร้างระเบียบโลกใหม่ (New World Order) และเห็นว่าสงครามโลกไม่น่าจะหลีกเลี่ยงได้ โดยที่รัสเซียไม่ต้องการก่อสงครามโลก แต่รัสเซียก็ไม่ได้กลัวที่จะต้องเข้าสู่สงคราม

2. สิงคโปร์เซ็นสัญญาการค้ากับจีนด้วยการลอยแพเงินดอลล่าร์สหรัฐฯและจะใช้สกุลเงินสิงคโปร์ดอลล่าร์และหยวนเท่านั้น ข้อตกลงสว๊อปหยวนนี้ปักกิ่งได้ทำแล้วกับLondon, Frankfurt, Seoul, Paris, Luxembourg, Taiwan, Hong Kong และ Macao เพื่อเพิ่มบทบาทของหยวนในระบบการเงินและการค้าของโลก และเป็นความพยายามที่จะล้มความเป็นเงินสกุลหลักของโลกของดอลล่าร์

3. US Federal ReserveประกาศหยุดการทำQE หลังจากพิมพ์เงินอย่างเมามันเพื่ออุ้มแบงค์ และอุ้มฐานะการคลังของรัฐบาลสหรัฐฯมาเป็นเวลา6 ปี การทำQEนี้มีผลทางอ้อมคือสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นมากมายมหาศาลทำให้ตลาดหุ้น ตลาดบอนด์มีภาวะฟองสบู่ก้อนโต และหนี้ในระบบการเงินเพิ่มขึ้นอย่างมาก

4. ธนาคารกลางของญี่ปุ่นประกาศการทำQEรอบใหม่วันผีหลอกHalloween Day ทับซ้อนบนประกาศQEเดิมด้วยแผนการที่จะซื้อพันธบัตรรัฐบาล100%ที่จะออกมาทุกเดือน เดือนละY10ล้านล้าน หมายความว่าญี่ปุ่นกำลังจะnationalizeตลาดบอนด์รัฐบาล กลไกราคา หรือดอกเบี้ยตลาดบอนด์รัฐบาลญี่ปุ่นมีโอกาสจะพังเพราะว่าธนาคารกลางเล่นเองแต่ผู้เดียว นอกจากนี้กองทุนบำนาญของญี่ปุ่น$1.3ล้านล้านเยนประกาศจะเพิ่มการลงทุนในหุ้นเพิ่มจาก12%เป็น 25% โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นการปล้นเงินออมของประชาชนญี่ปุ่นเพื่อเอาไปอุ้มตลาดหุ้นสหรัฐฯหรือไม่

ต่อเนื่องมาสัปดาห์แรกของเดือนพฤศจิกายน คือวันอังคารที่4ที่ผ่านมามีการเลือกตั้งกลางเทอมในสหรัฐฯท่ามกลางคะแนนความนิยมที่ตกต่ำสุดของประธานาธิบดีโอบามาที่Gallup Poll สำรวจออกมา ปรากฎว่ามีคะแนนความนิยมแค่41% แต่ที่สำคัญที่สุดคือฝ่ายRepublican มีโอกาสที่จะชนะการเลือกตั้งวุฒิสมาชิกเพื่อครอบครองเสียงส่วนมากในสภาเซเนทได้เป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี2007 ถ้าผลการนับคะแนนออกมาตามที่คาดการเอาไว้ Republicanจะครอบครองเสียงส่วนใหญืทั้งในสภาเซเนทและสภาผู้แทนราษฎร

โอบามาผู้ที่คะแนนตกจากเรื่องอีโบล่า ISIS นโยบายปล่อยผีคนเข้าเมือง ฯลฯ

จะถูกโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้นในการเมืองภายใน และจะกลายเป็นประธานาธิบดีเป็ดง่อย (sitting duck president)ในระยะเวลาที่เหลือ2ปีของการเป็นประธานาธิบดีที่คนอเมริ กันไม่ชอบมากที่สุดคนหนึ่ง ในขณะที่ปูตินมีฉันทามติจากคนในประเทศตัวเองในการเผชิญหน้ากับสหรัฐฯเพื่อชิงชัยว่าใครกันแน่จะเป้นผุ้เขียนระเบียบโลกใหม่New World Order

thanong

5/11/2014

 

 

 

 

10606224_287503284779386_7453674308844496392_n.jpg?oh=d7c8d294f36c9d30522fb555d9656a55&oe=54F2FE42

10687167_287503328112715_3450298977738950481_n.jpg?oh=874c0f230ef3d71820704cdeeab66e81&oe=54F8B5F0&__gda__=1425197384_378dd87926ed7d5583a5dfe3ccc6a5c1

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...