ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

ขอบคุณนะคะ deb โชคดี

อยู่ดี สบายใจ

10624794_819041311526154_5970851320908501699_n.jpg?oh=c0f6d3317c2b99d747077f5c2c0a0e57&oe=54D645C0&__gda__=1424278300_1572a56ba100b6b35820ad4c7170b733

อารมณ์ดี อะไรๆก็ดี

infoquest.gif

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2557 07:45:18 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 6 พ.ย. 2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นวันที่สอง เนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ และถ้อยแถลงของนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่บ่งชี้ว่า อีซีบีจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,554.47 จุด เพิ่มขึ้น 69.94 จุด หรือ +0.40% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,638.47 จุด เพิ่มขึ้น 17.75 จุด หรือ +0.38% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,031.21 จุด เพิ่มขึ้น 7.64 จุด หรือ +0.38%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ให้คำมั่นว่า อีซีบีจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจยูโรโซน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.2% ปิดที่ 337.08 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,377.41 จุด เพิ่มขึ้น 61.93 จุด หรือ +0.66% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,227.68 จุด เพิ่มขึ้น 19.26 จุด หรือ +0.46% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,551.15 จุด เพิ่มขึ้น 12.01 จุด หรือ +0.18%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) ขานรับถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่ส่งสัญญาณความพร้อมในการกระตุ้นเศรษฐกิจยูโรโซนเพิ่มเติม และตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข้อมูลการผลิตที่แข็งแกร่งของอังกฤษด้วย

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 12.01 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 6,551.15 จุด

--สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลก นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 77 เซนต์ ปิดที่ 77.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 9 เซนต์ ปิดที่ 82.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 7 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,142.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.6 เซนต์ ปิดที่ 15.413 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 13.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1197.1 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) หลังจากจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานลดลงมากเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งหนุนคาดการณ์ของตลาดที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้

ค่าเงินยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2386 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2478 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์ลดลงที่ 1.5837 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5977 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 114.93 เยน เทียบกับระดับ 114.71 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9721 ฟรังค์ จาก 0.9650 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8575 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8582 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,554.47 จุด เพิ่มขึ้น 69.94 จุด, +0.40%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,638.47 จุด เพิ่มขึ้น 17.75 จุด, +0.38%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,031.21 จุด เพิ่มขึ้น 7.64 จุด, +0.38%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,227.68 จุด เพิ่มขึ้น 19.26 จุด, +0.46%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,377.41 จุด เพิ่มขึ้น 61.93 จุด, +0.66%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,551.15 จุด เพิ่มขึ้น 12.01 จุด, +0.18%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,290.96 จุด เพิ่มขึ้น 3.30 จุด, +0.10%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,831.98 จุด ลดลง 7.31 จุด, -0.40%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,034.23 จุด ลดลง 32.60 จุด, -0.64%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,649.31 จุด ลดลง 46.31 จุด, -0.20%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,236.63 จุด เพิ่มขึ้น 27.82 จุด, +0.39%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,425.86 จุด เพิ่มขึ้น 6.61 จุด, +0.27%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,936.48 จุด เพิ่มขึ้น 5.05 จุด, +0.26%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 16,792.48 จุด ลดลง 144.84 จุด, -0.86%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 8,891.02 จุด ลดลง 71.58 จุด, -0.80%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,506.10 จุด ลดลง 11.80 จุด, -0.21%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ADVERTISEMENT

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: เงินดอลล์แข็งค่า ฉุดทองคำปิดร่วง $3.1

 

 

 

 

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2557 07:29:13 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) ซึ่งเป็นการปิดลบติดต่อกัน 7 วันทำการ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐยังส่งผลให้นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 3.1 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 1,142.6 ดอลลาร์/ออนซ์

 

 

 

 

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.6 เซนต์ ปิดที่ 15.413 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 13.5 ดอลลาร์ ปิดที่ 1197.1 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากนายมาริโอ ดรากิ ประธานธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ส่งสัญญาว่าอีซีบีจะยังคงเดินหน้าใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้สกุลเงินยูโรร่วงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 1 พ.ย. ปรับตัวลง 10,000 ราย แตะที่ 278,000 ราย นับเป็นสัปดาห์ที่ 8 ติดต่อกันแล้วที่ตัวเลขดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าระดับ 300,000 ซึ่งบ่งชี้ว่าการจ้างงานยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรและอัตราว่างงานประจำเดือนต.ค.ของสหรัฐ โดยกระทรวงแรงงานมีกำหนดจะเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวในวันศุกร์นี้ เวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย ด้านนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าตัวเลขจ้างงานจะเพิ่มขึ้นอีก หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 248,000 ในเดือนก.ย. ขณะที่อัตราว่างงาน คาดว่าจะทรงตัวที่ 5.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปี

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

 

ข่าวเศรษฐกิจล่าสุด »

 

 

 

 

 

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดน้ำมัน: น้ำมัน WTI ปิดลบ 77 เซนต์ หลังโอเปคลดคาดการณ์อุปสงค์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2557 07:10:28 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) หลังจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ได้ปรับลดความต้องการน้ำมันดิบทั่วโลก นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 77 เซนต์ ปิดที่ 77.91 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 9 เซนต์ ปิดที่ 82.86 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลงหลังจากกลุ่มโอเปคคาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปคอาจจะลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปีที่ 28.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2560

นอกจากนี้ โอเปคยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในระยะนี้ โดยนายอับดุลลา เอล-บาดรี เลขาธิการใหญ่ของโอเปคกล่าวว่า ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลง "มากเกินไปสักหน่อย" แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของตลาดยังคงแข็งแกร่งอยู่ก็ตาม

ทั้งนี้ กลุ่มโอเปคสามารถผลิตน้ำมันได้ในสัดส่วน 40% ของปริมาณการผลิตทั่วโลก โดยโอเปคมีกำหนดจะจัดการประชุมในวันที่ 27 พ.ย.ที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐในรอบสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค. เพิ่มขึ้น 460,000 บาร์เรล แตะ 380.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค. อย่างไรก็ตาม ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล

ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบที่เมืองคุชชิ่ง รัฐโอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งน้ำมัน ปรับตัวลดลง 551,000 บาร์เรล

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

07:44 ภาวะตลาดหุ้นลอนดอน: ฟุตซี่ปิดบวก 12.01 จุด รับถ้อยแถลงปธ.อีซีบี ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับขึ้นเมื่อคืนนี้ (6 พ.ย.) ขานรับถ้อยแถลงของประธานธนาคารกล…

07:32 รายงานการซื้อขายหุ้นผ่าน NVDR ประจำวันที่ 6 พ.ย. 2557 สรุปภาพรวมการซื้อขายหุ้นผ่าน NVDR ประจำวันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 พบว่ามีมูลค่าการซื้อสุทธ…

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เกาะติดหุ้นโลก 7-11-57 vdo.gif Morning News : เกาะติดหุ้นรอบโลก "NOW26" 7-11-57 ประกาศ'กําหนดให้ธุรกรรมการแปลงสินทรัพย์ฯ' "ประสาร" ออกประกาศ "กําหนดให้ธุรกรรมการแปลงสินทรัพย์เป็นหลักทรัพย์เป็นสินเชื่อ" สรุปภาพรวมตลาดหุ้น 6-11-57 vdo.gif สรุปภาพรวมการลงทุนตลาดหุ้น ช่วงตรงประเด็นข่าวค่ำ "NOW26" 6-11-57 แนวโน้มราคาทอง vdo.gif เงินบาทปิด32.81/82อ่อนค่า พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติซื้อ285ลบ. หุ้นไทยปิดบวก3.37จุด

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

อันเนื่องมาจากเรื่องญี่ปุ่นเดินสวนทางกับอเมริกา

 

โดย : ดร.ไสว บุญมา

 

คอลัมน์นี้ประจำวันที่ 24 และ 31 ตุลาคมที่ผ่านมาพูดถึงความเหลื่อมล้ำและความเป็นหนี้

 

 

ซึ่งมีลักษณะคล้ายหมัดซ้ายขวาที่รัวเข้าตรงหน้าเศรษฐกิจโลก หากไม่เลิกชก หรืออย่างน้อยพักยกยาวๆ เป็นไปได้สูงว่า อีกไม่นานโลกจะทรุดลงกองกับพื้นและลุกไม่ขึ้นอีกต่อไป ความเหลื่อมล้ำทำให้การใช้จ่ายโดยทั่วไปอยู่ในอัตราต่ำ ทั้งนี้เพราะเมื่อเทียบกับรายได้ คนรวยมักใช้จ่ายในอัตราต่ำกว่าคนจน ในช่วงนี้ คนรวยมีส่วนแบ่งจากเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อัตราการใช้จ่ายโดยทั่วไปจึงลดลง ส่วนทางด้านความเป็นหนี้จำนวนมาก เนื่องจากทุกฝ่ายต้องแบ่งรายได้ไปชำระหนี้ จึงมีเงินเหลือสำหรับนำมาใช้จ่ายทั่วไปน้อย การตอบสนองของภาคธุรกิจได้แก่การลงทุนน้อยลง ส่งผลให้เศรษฐกิจผลิตและขยายในอัตราต่ำตามไปด้วย

วงการเศรษฐกิจคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของอเมริกาซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจะฟื้นตัวต่อไปแม้การขยายตัวจะอยู่ในอัตราที่ต่ำกว่าความต้องการของรัฐบาลและประชาชนก็ตาม การคาดการณ์นั้นนำไปสู่การเปลี่ยนนโยบายของธนาคารกลางอย่างมีนัยสำคัญ นั่นคือ ยุติการอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลเข้าไปในเศรษฐกิจ การอัดฉีดเงินนั้นรวมกันได้ถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์นับจากวันที่เริ่มทำมาตั้งแต่ตอนต้นของความถดถอยครั้งใหญ่หลังฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์แตกในปี 2551 การอัดฉีดเงินจำนวนมหาศาลแบบนั้นไม่เคยทำกันมาก่อน แต่ธนาคารกลางมองว่าถ้าไม่ทำ เศรษฐกิจจะถดถอยต่อไป ทั้งนี้เพราะได้ใช้นโยบายในแนวต่างๆ ที่มีอยู่ในตำราหมดแล้ว อาทิเช่น การลดอัตราดอกเบี้ยลงมาจนถึงใกล้ศูนย์ ส่วนทางด้านการทำงบประมาณขาดดุลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลกลางไม่สามารถทำได้มากนักเนื่องจากจะต้องปิดงบประมาณด้วยการกู้ยืม แต่รัฐบาลไม่สามารถกู้เพิ่มขึ้นได้เพราะรัฐสภาไม่ยินยอมให้ยกเพดานหนี้ที่สูงอยู่แล้วขึ้นไปอีก

เศรษฐกิจของญี่ปุ่นซึ่งเคยใหญ่เป็นอันดับสองของโลกซบเซายืดเยื้อมาเป็นเวลากว่า 30 ปี ส่งผลให้จีนแซงหน้าขึ้นไปเป็นอันดับสองรองจากอเมริกา แนวโน้มบ่งว่าญี่ปุ่นน่าจะซบเซาต่อไป รัฐบาลเกรงว่าถ้าไม่อัดฉีดเงินเพิ่มอีก เป็นไปได้ว่าจะเกิดภาวะเงินฝืดรุนแรง ภาวะนั้นเกิดขึ้นเมื่อไร ผลกระทบจะร้ายแรงยิ่งกว่าปัญหาในปัจจุบันหลายเท่านักเนื่องจากความล้มละลายอย่างแพร่หลายจะเกิดขึ้น อัตราการว่างงานจะเพิ่มขึ้น และเศรษฐกิจจะถดถอยอย่างหนัก ด้วยเหตุนี้ ทันทีที่ธนาคารกลางอเมริกันประกาศยุติการอัดฉีดเงิน ธนาคารกลางญี่ปุ่นแถลงออกมาว่าจะอัดฉีดเงินจำนวนมากต่อไป ทั้งนี้เพื่อป้องกันมิให้เกิดความตื่นตระหนกว่าปัญหาเงินฝืดรุนแรงจะเกิดขึ้น ความตื่นตระหนกเช่นนั้นจะผลักดันให้มันเกิดขึ้นจริงๆ

นโยบายที่สองประเทศดำเนินอยู่เป็นไปในแนวที่เรียนกันมาจากตำราของจอห์น เมย์นาร์ด เคนส์ ซึ่งเขียนเมื่อตอนก่อนสงครามโลกครั้งที่ 2 ในช่วงหลังๆ นี้ นโยบายในแนวนั้นใช้ไม่ค่อยได้ผลนักเนื่องจากภาวะของโลกบางส่วนได้เปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญแล้ว อาทิเช่น ในช่วงเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นได้กลายเป็นสังคมผู้สูงวัยเนื่องจากชาวญี่ปุ่นอายุยืนที่สุดในโลกและอัตราการเกิดต่ำมาก ผู้สูงวัยมักใช้จ่ายน้อยเนื่องจากไม่ค่อยได้ทำงานและอาศัยบำนาญยังชีพ จะกระตุ้นให้ใช้จ่ายสักเท่าไร ผู้สูงวัยส่วนใหญ่ก็มักไม่ตอบสนอง

ยิ่งกว่านั้น การมีอัตราประชากรในวัยหนุ่มสาวต่ำทำให้เศรษฐกิจขาดพลังทั้งในด้านการค้นคว้าหานวัตกรรมใหม่ๆ และการใช้จ่ายเพื่อการตั้งบ้านเรือน ประเด็นนี้น่าจะเป็นที่ประจักษ์เมื่อญี่ปุ่นเริ่มล้าหลังเกาหลีใต้ในด้านการผลิตสินค้าดิจิทัล ซัมซุงแซงหน้าโซนี่และหนีไปแบบไม่เห็นฝุ่นแล้ว ทั้งที่โซนี่มีชื่อเสียงโด่งดังมาก่อน ญี่ปุ่นดำเนินนโยบายปิดกั้นมิให้หนุ่มสาวชาวต่างชาติอพยพเข้าไปอยู่ในประเทศของตน ส่งผลให้เลือดใหม่ไม่ค่อยจะมี สินค้าที่ญี่ปุ่นนำชาวโลกส่วนใหญ่มักผลิตในต่างประเทศ อาทิเช่น รถยนต์ซึ่งโตโยต้าครองตำแหน่งหมายเลขหนึ่งนั้นส่วนใหญ่ผลิตในต่างประเทศและเป็นสินค้าซึ่งตกทอดมาจากยุคอุตสาหกรรม มิใช่สินค้าแนวหน้าของยุคดิจิทัล ในช่วงนี้ ญี่ปุ่นยินยอมให้ต่างชาติเข้าประเทศได้มากขึ้น แต่คงไม่ช่วยได้มากนักเนื่องจากยังไม่เปิดกว้างอย่างอเมริกา

อเมริกามีอัตราผู้สูงวัยน้อยกว่าญี่ปุ่นเพราะประชาชนอายุสั้นกว่า อัตราการเกิดสูงกว่า และเปิดประเทศให้ต่างชาติอพยพเข้าไปได้ง่ายกว่า จะเห็นว่าผู้ได้รับรางวัลโนเบลเป็นชาวอเมริกันมากกว่าชาติอื่นแต่มักมีชื่อแปลกๆ ในขณะนี้ ผู้บริหารสูงสุดของยักษ์ใหญ่ไมโครซอฟท์และเป๊ปซี่มีเชื้อชาติอินเดีย ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีที่อเมริกานำหน้ามาเป็นเวลานานจำนวนมากเกิดในต่างประเทศ อย่างไรก็ดี อเมริกามีความเหลื่อมล้ำสูงกว่าญี่ปุ่น หากความเหลื่อมล้ำยังเพิ่มขึ้นต่อไป มันอาจทำให้เกิดความแตกร้าวร้ายแรงจนนำไปสู่สงครามชนชั้น ปรากฏการณ์ยึดครองย่านธุรกิจในนครนิวยอร์กและเมืองต่างๆ เมื่อสามปีก่อนเป็นอาการขั้นแรกของความแตกร้าวร้ายแรง

ตามตัวเลขที่พอหาได้ เมืองไทยไม่มีภาระหนี้สินหนักเท่าอเมริกาและญี่ปุ่น มีความเหลื่อมล้ำอยู่ตรงกลางๆ ระหว่างสองประเทศนั้นและคล้ายอเมริกามากกว่าญี่ปุ่นในด้านการมีผู้สูงวัย หากใช้ตัวเลขเหล่านี้เป็นตัวชี้บ่งแนวนโยบาย เมืองไทยมีช่องทางกว้างกว่าที่จะดำเนินนโยบายให้เศรษฐกิจขยายตัวได้สูงกว่าของทั้งสองประเทศ แต่นั่นมิได้หมายความว่ารัฐบาลไทยควรออกไปก่อหนี้เพิ่มขึ้นเพื่อนำมาทุ่มเข้าไปในเศรษฐกิจแบบสุรุ่ยสุร่ายและปล่อยให้ความเหลื่อมล้ำเพิ่มขึ้นไปจากในระดับปัจจุบัน หากทำเช่นนั้น เมืองไทยจะทรุดลงไปกองกับพื้นและฟื้นตัวยากกว่าญี่ปุ่นและอเมริกาเนื่องจากระดับการพัฒนายังล้าหลังพวกเขา

Tags : ดร.ไสว บุญมา

ถูกแก้ไข โดย ginger

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ประชุม ECB

ราคาทองคำเปิดตลาดในเอเชียที่บริเวณ 1,141 เหรียญ ระหว่างวันมีกรอบเคลื่อนไหวอยู่ที่ 1,138 -1,146 เหรียญ ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่องสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น แนวโน้มของราคายังเป็นขาลงต่อไปตราบใดที่ราคายังไม่สามารถกลับมายืนเหนือแนวต้านได้ โดยราคาทองคำมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ 1,160 และ 1,180 ตามลำดับ สำหรับคืนนี้ติดตามการประชุม ECB โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่า ECB จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ระดับเดิมที่ 0.05 %

สามารถติดตามบทวิเคราะห์ทั้งหมดได้ที่

http://www.classicgold.co.th/…/filestrategy0611201415511419…

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองคำดิ่งเหวหนัก แตะต่ำสุดรอบ 4 ปี

http://goo.gl/7JYk1B

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ทองคำดิ่งเหวหนัก แตะต่ำสุดรอบ 4 ปี

http://goo.gl/7JYk1B

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีคับ meng

YLG on เจาะลึกเศรษฐกิจ 07/11/57

http://www.ylgbullion.co.th/ylgfan/?p=381

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- ศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2557 11:10:29 น.

กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

- ECB ตรึงดอกเบี้ยและระบุพร้อมมีมาตรการเพิ่มเติม

- SPDR ถือทองลดลง 2.99 ตัน

- ค่ำนี้ติดตามรายงานจ้างงานสหรัฐ

ธนาคารกลางยุโรปมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ 0.05% ในการซื้อขายวานนี้ ส่วนมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆนั้นยังไม่มีความชัดเจนในการประชุมครั้งนี้ แต่ระบุว่าในคำแถลงหลังการประชุมว่าพร้อมที่จะนำมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจมาใช้หลังจากเงินเฟ้อของประเทศในกลุ่มยังอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งกดดันราคาทองผ่านการอ่อนค่าของเงินยูโร ส่วนรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ประจำสัปดาห์นี้ปรากฏว่ามีจำนวน 2.78 แสนราย เทียบกับสำรวจประเมินว่าจะมีผู้ขอรับสวัสดิการในสัปดาห์นี้ราว 2.85 แสนราย

ค่ำนี้จะมีการรายงานข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานเดือนตุลาคมของสหรัฐ ซึ่งผลสำรวจประเมินว่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 2.29 แสนราย เทียบกับเดือนก่อนซึ่งเพิ่มขึ้น 2.48 แสนราย ส่วนอัตราการว่างงานจะอยู่ที่ 5.9% รายงานข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐซึ่งโดยรวมมีสัญญาณฟื้นตัวของเศรษฐกิจจึงยังเป็นปัจจัยกดดันราคาทองผ่านการแข็งค่าของเงินดอลลาร์

ราคาทองคำดีดตัวขึ้นในช่วงสั้นๆก่อนที่จะปิดตลาดทรงตัวใกล้ระดับปิดของวันพุธ ภาพการเคลื่อนไหวของราคาทองคำในภาพรวมยังคงเป็นการเคลื่อนไหวในทิศทางขาลง และหากยังไม่สามารถสร้างฐานเป็นแนวรับสำหรับดีดตัวขึ้นไปได้ การเคลื่อนไหวโดยรวมคงยังมีแนวโน้มอ่อนตัว และหากราคากลับอ่อนตัวลงไปต่ำกว่า 1,135-1,140 ดอลลาร์ ควรระวังแรงขายที่จะมีกลับออกมา ส่วนการดีดตัวกลับในระหว่างวัน หากสามารถผ่านแนวต้านบริเวณ 1,155 ดอลลาร์ ขึ้นไปได้ จึงจะเริ่มเป็นสัญญาณซื้อสำหรับเก็งกำไรการฟื้นตัว

ราคาโลหะฟื้นตัวขึ้นในการซื้อขายวานนี้ แต่ยังไม่มีสัญญาณซื้อหรือสัญญาณการกลับตัวที่ชัดเจน ภาพเทคนิคของราคาโลหะเงินจึงยังมีแนวโน้มอ่อนตัว และหากไม่สามารถยืนเหนือจุดต่ำสุดของสัปดาห์บริเวณ 15.0-15.1 ดอลลาร์ คาดว่าจะยังมีแรงขายกลับออกมามาก โดยมีแนวต้านของวันอยู่ที่บริเวณ 15.60-15.70 และ 16.0 ดอลลาร์ ตามลำดับ

 

ดอลล์เคลื่อนไหวเล็กน้อยที่กรอบล่างของ 115 เยน ก่อนสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงาน

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2557 10:47:38 น.

สกุลเงินดอลลาร์เคลื่อนไหวในช่วงแคบๆที่กรอบล่างของ 115 เยนที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวในเช้าวันนี้ หลังจากพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี ขณะที่นักลงทุนรอดูตัวเลขจ้างงานสหรัฐซึ่งจะเปิดเผยในวันนี้

ณ เที่ยงวันนี้ ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์ซื้อขายที่ระดับ 115.23-115.24 เยนเมื่อเทียบกับ 115.17-115.27 เยนที่ตลาดนิวยอร์ก และ 114.45-114.46 เยนที่ตลาดโตเกียว ณ เวลา 17.00 น. เมื่อวานนี้

ยูโรซื้อขายที่ระดับ 1.2381 ดอลลาร์ และ 142.66-142.67 เยนเมื่อเทียบกับ 1.2371-1.2381 ดอลลาร์ และ 142.44-142.54 เยนที่ตลาดนิวยอร์กและ 1.2505-1.2507 ดอลลาร์และ 143.12-143.16 เยนที่โตเกียวในช่วงบ่ายวานนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย วรัญญา อุดมกุศลศรี/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...