ข้ามไปเนื้อหา
Update
 
 
Gold
 
USD/THB
 
สมาคมฯ
 
Gold965%
 
Gold9999
 
CrudeOil
 
USDX
 
Dowjones
 
GLD10US
 
HUI
 
SPDR(ton)
 
Silver
 
Silver/Oz
 
Silver/Baht
 

โพสต์แนะนำ

 

 

 

 

 

Chalee Na Roied

16 hrs ·

 

จำได้ว่าเมื่อ 2-3 ปีก่อน ในขณะที่สื่อในบ้านเราส่วนใหญ่ ไม่ได้นำเสนอการกว้านซื้อทองคำของ ชาติมหาอำนาจอย่างจีน และรัสเซียตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตั้งแต่เกิดหายนะทางเศรษฐกิจสหรัฐเมื่อปี 2008 แม้กระทั่งทุกวันนี้ เราก็ยังตระหนักในเรื่องนี้น้อยมาก ทั้งๆที่เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเมื่อไหร่ ที่ชาติมหาอำนาจ เริ่มสะสมทองคำ แสดงว่าย่อมไม่มั่นใจ ในทิศทางเศรษฐกิจโลก http://www.futuresmag.com/…/russia-hoarding-gold-what-does-…

และผมก็ย้ำมาตลอดว่า การซื้อทองคำ "ไม่ใช่" เพื่อเก็งกำไร แต่เพื่อรับประกันความเสี่ยง จากการถือเพียงเงินสกุลเงินใดเงินหนึ่งเป็นหลัก แน่นอนครับสำหรับประเทศ ที่ถือสกุลเงินใดเงินหนึ่งเป็นหลัก พอเกิดอะไรขึ้นย่อมกระทบถึงสถานะของ เงินสำรองระหว่างประเทศ อย่างเลี่ยงไม่ได้

เวลานี้จีนเอง ก็มีการเตรียมตัวประกาศตัวเลข การครอบครองทองคำสำรอง อย่างเป็นทางการนะครับ ซึ่งมูลค่าน่าจะไม่น้อยกว่า 8,500 ตัน ซึ่งมากกว่าตัวเลขการครอบครองของสหรัฐ สร้างความชอบธรรมให้เงินหยวน กลายเป็นสกุลเงินหลัก แทนที่เงินดอลลลาร์ไปโดยปริยาย http://www.zerohedge.com/…/china-aims-official-gold-reserve…

เพราะฉะนั้นเป้าหมายของจีน ที่ประกาศตัวเลขทองคำ ก็เพื่อยุติระบบการเงินของโลกในปัจจุบัน และหันกลับไปใช้ระบบเดิม ที่เอาเงินไปผูกกับทองคำสำรอง ที่แต่ละประเทศมีอยู่ในครอบครอง ที่สำคัญที่สุด ต้องการให้มีการพิสูจน์ และตรวจสอบตัวเลข การครอบครองทองทำที่แท้จริง ของแต่ละประเทศ โดยเฉพาะรัฐบาลสหรัฐที่อ้างว่า มีทองคำมากที่สุดในโลก แต่ไม่ยอมเปิดให้มีการเข้าไปตรวจสอบทองคำ ที่อ้างว่าตัวเองมีครอบครอง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เพราะรัฐบาลจีน รวมถึงรัสเซีย เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ ไม่มีทองคำเหลืออยู่แล้วนั่นเอง ถึงเอาดอลลาร์ไปผูกกับราคาน้ำมัน เรียกว่า "petrodollar" http://www.globalresearch.ca/federal-reserve-they-d…/5365933

เพราะฉะนั้นอย่าแปลกใจ กับกระแสข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังวางแผนจุดชนวนสงครามโลกครั้งที่ 3 เพื่อเลี่ยงการตรวจสอบ และปกปิดความจริงทั้งตัวเลขทางเศรษฐกิจ และอีกเหตุผลเรื่องของทองคำสหรัฐไม่มีอยู่แล้วนั่นเองhttp://www.silverdoctors.com/pm-fund-manager-us-will-start…/

นักวิเคราะห์การเมืองระหว่างประเทศ ของสหรัฐเองก็ได้ ออกมาแสดงความเห็นตรงกันว่า มีความเป็นไปได้ค่อนข้างสูง ในการเกิดสงครามนิวเคลียร์ จากการเสริมทหาร สหรัฐและนาโตในยุโรปตะวันออก ตลอดแนวพรมแดนของรัสเซียทั้งนี้ เพื่อปิดล้อมและโจมตีรัสเซีย http://www.presstv.com/…/us-moves-make-nuclear-war-possible/

สอดคล้องกับ ดร.ไมเคิล โชซูดอฟสกี้ ก็ออกมาแสดงความเห็นอีกครั้งว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังจะ นำโลกเข้าสู่สงคราม จากการเสริมทหารเข้าไปยัง ยุโรปตะวันออก และการซ้อมรบกับกองกำลังนาโต ที่จำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะห้วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ในแถบทะเลบอลติก เพราะรัสเซียเองก็ได้มีการ ตอบโต้การซ้อมรบดังกล่าวของ กองกำลังนาโต ด้วยการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป ทั้งจากบนบก ทางทะเล และจากเครื่องบินรบ จนมีกระแสข่าวเรื่องการ ส่งเครื่องบินรบขึ้นสกัด เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาด้วยเช่นกัน http://www.globalresearch.ca/dangerous-crossroads-n…/5412736

กระแสข่าวการไล่ออกของนายทหารระดับสูงถึง 2 นาย ที่ควบคุมการปล่อยขีปนาวุธ เป็นประเด็นที่ อ่อนไหวและน่าวิตกกังวลไม่น้อย เพราะนายทหารระดับสูง 2 นายนั้น ควบคุมการโจมตีขีปนาวุธ ติดหัวรบนิวเคลียร์ ซึ่งขึ้นตรงกับ "Air Force Global Strike Commad" ซึ่งมีความสำคัญเป็นอย่างมาก สำหรับยุทธศาสตร์ "pre-emtive global strike" ซึ่งรัฐบาลสหรัฐวางแผนในการโจมตีรัสเซียและจีน ด้วยอาวุธทั่วไปและอาวุธนิวเคลียร์ โดยไม่แจ้งล่วงหน้า http://www.foxnews.com/…/air-force-fires-2-more-nuclear-mi…/

ซึ่งเมื่อดูแนวโน้มแล้ว เวลานี้รัฐบาลสหรัฐ น่าจะอยู่ในช่วงเตรียมการและวางแผน เพื่อนำสหรัฐเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ก่อนที่เศรษฐกิจสหรัฐ และเงินดอลลาร์จะถูกทำลายนั่นเอง...

See Translation

 

 

 

 

10806245_368430643316421_7086371428309893565_n.jpg?oh=1d600f71b77dd3c9769f48c46070ae16&oe=54E38E41&__gda__=1423480619_225e355405ea285f3888bae4e0345ae2

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

สวัสดีเพื่อน

World Markets: สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 พฤศจิกายน 2557 07:39:41 น.

ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 11 พ.ย.2557

-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) โดยดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ติดต่อกัน 5 วันทำการ เนื่องจากนักลงทุนยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจสหรัฐและผลประกอบการของบริษัทเอกชน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 17,614.90 จุด เพิ่มขึ้น 1.16 จุด หรือ +0.01% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,660.56 จุด เพิ่มขึ้น 8.94 จุด หรือ +0.19% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,039.68 จุด เพิ่มขึ้น 1.42 จุด หรือ +0.07%

-- ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของบริษัทเอกชน รวมถึงบริษัทโวดาโฟน และเฮงเคล

ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 338.93 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,369.03 จุด เพิ่มขึ้น 17.16 จุด หรือ +0.18% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,244.10 จุด เพิ่มขึ้น 21.28 จุด หรือ +0.50% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,627.40 จุด เพิ่มขึ้น 16.15 จุด หรือ +0.24%

-- ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) โดยได้รับแรงหนุนจากการทะยานขึ้นของหุ้นโวดาโฟน กรุ๊ป แม้ว่าการร่วงลงของหุ้นกลุ่มเหมืองได้สกัดช่วงบวกของตลาดไว้

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 16.15 จุด หรือ 0.24% ปิดที่ 6,627.40 จุด

-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเมื่อวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ และการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในเดือนนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 77.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 67 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 81.67 ดอลลาร์/บาร์เรล

-- -สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงเมื่อวันจันทร์และร่วงลงติดต่อกันหลายวันทำการในสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 1,163 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.7 เซนต์ ปิดที่ 15.678 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 1,206.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 772.70 ดอลลาร์/ออนซ์

-- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งแกร่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) จากกระแสคาดการณ์ที่ว่านายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่น อาจชะลอแผนการปรับขึ้นภาษีการบริโภค

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2478 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2434 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5922 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5852 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 115.40 เยน เทียบกับระดับ 114.89 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9645 ฟรังค์ จาก 0.9680 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8700 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8614 ดอลลาร์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 17,614.90 จุด เพิ่มขึ้น 1.16 จุด +0.01%

ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 4,660.56 จุด เพิ่มขึ้น 8.94 จุด +0.19%

ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดที่ 2,039.68 จุด เพิ่มขึ้น 1.42 จุด +0.07%

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,627.40 จุด เพิ่มขึ้น 16.15 จุด +0.24%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,369.03 จุด เพิ่มขึ้น 17.16 จุด +0.18%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,244.10 จุด เพิ่มขึ้น 21.28 จุด +0.50%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,494.00 จุด ลดลง 7.40 จุด -0.13%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปิดที่ 5,517.10 จุด ลดลง 6.90 จุด -0.12%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวันปิดที่ 9,034.14 จุด ลดลง 15.84 จุด -0.18%

ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดที่ 17,124.11 จุด เพิ่มขึ้น 343.58 จุด +2.05%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปิดที่ 1,963.00 จุด เพิ่มขึ้น 4.77 จุด +0.24%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีนปิดที่ 2,469.67 จุด ลดลง 4.00 จุด -0.16%

ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ปิดที่ 7,204.55 จุด เพิ่มขึ้น 12.43 จุด +0.17%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกงปิดที่ 23,808.28 จุด เพิ่มขึ้น 63.58 จุด +0.27%

ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซียปิดที่ 5,032.28 จุด เพิ่มขึ้น 66.89 จุด +1.35%

ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซียปิดที่ 1,825.11 จุด ลดลง 2.82 จุด -0.15%

ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดที่ 3,292.15 จุด ลดลง 8.85 จุด -0.27%

ดัชนี SENSEX ตลาดหุ้นอินเดียปิดที่ 27,910.06 จุด เพิ่มขึ้น 35.33 จุด +0.13%

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย นรินรัตน์ พรหมพิทักษ์/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งแรงเทียบเยน จากข่าวญี่ปุ่นชะลอแผนขึ้นภาษี

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 พฤศจิกายน 2557 07:22:34 น.

ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งแกร่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) จากกระแสคาดการณ์ที่ว่านายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่น อาจชะลอแผนการปรับขึ้นภาษีการบริโภค

ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.2478 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2434 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5922 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5852 ดอลลาร์

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 115.40 เยน เทียบกับระดับ 114.89 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9645 ฟรังค์ จาก 0.9680 ฟรังค์

ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.8700 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.8614 ดอลลาร์

เงินเยนได้รับแรงกดดันจากรายงานของหนังสือพิมพ์โยมิอูริของญี่ปุ่นที่ระบุว่านายกฯอาเบะอยู่ระหว่างพิจารณาเลื่อนแผนการปรับขึ้นภาษีออกไป โดยอัตราดอลลาร์/เยนพุ่งขึ้น 1.05% และแตะระดับ 116.10 เยนในระหว่างวัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนต.ค.2550

ขณะเดียวกัน ดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักอื่นๆเมื่อคืนนี้ แต่นักวิเคราะห์มองว่าภาพรวมของดอลลาร์ยังคงเป็นไปในเชิงบวก เนื่องจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรก ขณะที่ธนาคารกลางในยุโรปและญี่ปุ่นต่างดำเนินมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจมากขึ้น

ทั้งนี้ นักลงทุนต่างรอดูข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่จะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึง ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.และความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงต้นเดือนพ.ย.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย พันธุ์ทิพย์ คำเพิ่มพูล โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยที่เหนือระดับปิดนิวไฮเมื่อวานนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- อังคารที่ 11 พฤศจิกายน 2557 23:19:34 น.

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยที่เหนือระดับปิดสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ ในขณะที่นักลงทุนประเมินแนวโน้มการออกมาตรการกระตุ้นเพื่อส่งเสริมการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

หลังจากที่ตลาดเปิดทำการได้ไม่นาน ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 10.63 จุด หรือ 0.06% แตะที่ 17,624.37 จุด ดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 1.7 จุด หรือ 0.08% ที่ระดับ 2,039.96 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 3.04จุด หรือ 0.07% ที่ระดับ 4,654.66 จุด ณ เวลา 23.00 น. ตามเวลาประเทศไทย

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตลาดหุ้นสหรัฐได้รับปัจจัยหนุนจากการปรับตัวดีขึ้นของภาวะเศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทเอกชน

หุ้นดี.อาร์. ฮอร์ตัน ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้านรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐเมื่อวัดจากรายได้เพิ่มขึ้น 2.8% หลังจากระบุว่า บริษัทได้รับคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น 38% ในไตรมาสล่าสุด

หุ้นแรคสเปซ โฮสติ้ง อิงค์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการคลาวด์คอมพิวติ้งเพิ่มขึ้น 12% หลังเปิดเผยว่าบริษัทมีกำไรต่อหุ้นสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ รวมทั้งระบุว่า บริษัทอาจจะซื้อหุ้นคืนในวงเงิน 500 ล้านดอลลาร์ในปีหน้า

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย เกตุ โนนทิง โทร.02-2535000 ต่อ 349 อีเมล์: ket@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 3.2 ดอลลาร์ จากแรงซื้อเก็งกำไร

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 พฤศจิกายน 2557 07:28:43 น.

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงเมื่อวันจันทร์และร่วงลงติดต่อกันหลายวันทำการในสัปดาห์ที่แล้ว

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ 1,163 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 0.7 เซนต์ ปิดที่ 15.678 ดอลลาร์/ออนซ์

ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 1,206.70 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 6.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 772.70 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นจากแรงซื้อเก็งกำไร นอกจากนี้ การที่ตลาดหุ้นสหรัฐอ่อนแรงลงในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ ยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนปลีกตัวออกจากตลาดหุ้นและเข้าซื้อสัญญาทองคำ

อย่างไรก็ตาม ปริมาณการซื้อขายมีอยู่เพียงบางเบา เนื่องจากหน่วยงานราชาการของสหรัฐปิดทำการในวันอังคารที่ 11 พ.ย. เนื่องในวันทหารผ่านศึก และตลาดพันธบัตรสหรัฐปิดทำการซื้อขาย

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

 

ภาวะตลาดน้ำมัน: แรงซื้อเก็งกำไร หนุนน้ำมัน WTI ปิดบวก 54 เซนต์

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 พฤศจิกายน 2557 07:08:41 น.

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเมื่อวันจันทร์ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ของสหรัฐ และการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ในเดือนนี้

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 54 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 77.94 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 67 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 81.67 ดอลลาร์/บาร์เรล

นักลงทุนเข้ามาช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงเมื่อวันจันทร์ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาดูกลุ่มโอเปคจะจัดการประชุมในวันที่ 27 พ.ย.ที่กรุงเวียนา ประเทศออสเตรีย

นายอาลี อัล-โอมาร์ รมว.พลังงานของคูเวตคาดการณ์ว่า โอเปคอาจจะยังไม่ปรับลดเพดานการผลิตในการประชุมครั้งนี้ ส่วนในช่วงก่อนหน้านี้ กลุ่มโอเปคคาดการณ์ว่า ความต้องการน้ำมันดิบจากกลุ่มโอเปคอาจจะลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 14 ปีที่ 28.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2560

นอกจากนี้ โอเปคยังได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงอย่างรุนแรงในระยะนี้ โดยนายอับดุลลา เอล-บาดรี เลขาธิการใหญ่ของโอเปคกล่าวว่า ราคาน้ำมันโลกปรับตัวลง "มากเกินไปสักหน่อย" แม้ว่าปัจจัยพื้นฐานของตลาดยังคงแข็งแกร่งอยู่ก็ตาม

นักลงทุนจับตาดูสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) จะเปิดเผยรายงานสต็อกน้ำมันประจำสัปดาห์ในวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมานั้น สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 460,000 บาร์เรล แตะ 380.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะพุ่งขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

10411048_822734814490137_6708863624114611291_n.jpg?oh=a352b98e1b2bbe6b43d8efaa90b2ef12&oe=551D8FFD&__gda__=1427839820_e923bb8806efead94c2c3e4391345a8b

โชคดีจุ๊บๆ

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

เกาะติดหุ้นโลก 12-11-57 vdo.gif Morning News : เกาะติดหุ้นรอบโลก "NOW26" 12-11-57 สรุปหุ้น-ทองรอบวัน 11-11-57 vdo.gif ตรงประเด็นข่าวค่ำ : สรุปหุ้น-ทองรอบวัน "NOW26" 11-11-57 BKDลั่นรายได้-กำไรปีนี้ทำนิวไฮ "บางกอก เดค-คอน" มั่นใจรายได้-กำไรปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ - ตั้งเป้ารายได้โตเฉลี่ยปีละ 20% ในช่วง 5 ปีข้างหน้า บีอีซีเผยไตรมาส3กำไรลดเหลือ1พันลบ. เงินบาทปิด32.87/88อ่อนค่า พอร์ตลงทุนหุ้นวันนี้ต่างชาติขาย527ลบ. หุ้นไทยปิดบวก3.86จุด

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

 

การเงิน - การลงทุน

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2557 12:09

 

ชี้บทเรียน'จำนำข้าว'ราคาแพง

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

news_img_615735_1.jpg

(รายงาน) ชี้บทเรียนจำนำข้าวราคาแพง เลิกมายาคติ-จำกัดการอุดหนุน

วานนี้ (5 พ.ย.) นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย หรือทีดีอาร์ไอและคณะ ได้เสนอรายงานผลการศึกษา สู่แนวคิดใหม่ของนโยบายอุดหนุนภาคเกษตร:บทเรียนจากนโยบายจำนำข้าวเสนอต่อสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) มีรายละเอียดบางตอนของผลการศึกษา

โครงการจำนำข้าวปี 2554-57 เป็นโครงการแทรกแซงตลาดข้าวไทยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยรัฐบาลใช้เงิน 9.85 แสนล้านบาท ซื้อข้าว 54.4 ล้านตัน (53% ของผลผลิต) ชาวนาเข้าโครงการมากที่สุด 1.77 ล้านราย รอบ 1 ปี 2555/56 โรงสี 826 แห่ง โกดัง 1,685 แห่ง ผู้ตรวจข้าว 20 ราย โดยชาวนาในโครงการได้รายได้ทางตรงเพิ่มขึ้น 2.96 แสนล้านบาท ประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม 5.61 แสนล้านบาท โดยประโยชน์ส่วนใหญ่ตกกับชาวนารายกลางและรายใหญ่

ถ้าตีราคาสต็อกในเดือนเม.ย. 2557 จะขาดทุนรวม 5.4 แสนล้านบาท และเพิ่มเป็น 7.5 แสนล้านบาท ถ้าขายข้าวหมดใน 10 ปี แต่ถ้ารวมปัญหาข้าวในสต็อก 85% มีคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน (ณ ต.ค. 2557) มูลค่าขาดทุนจะเพิ่มเป็น 6.6 แสนล้านบาท และจะขาดทุนเพิ่มเป็น 9.6 แสนล้านบาทถ้าขายข้าวหมดใน 10 ปี

นโยบายจำนำข้าวก่อให้เกิดต้นทุนและความเสียหายต่อสังคม มากกว่าประโยชน์ต่อชาวนาและผู้บริโภคเป็นมูลค่า 1.23 แสนล้านบาท (ต้นทุนสวัสดิการ -1.23 แสนล้านบาท)

ชาวนาผู้เข้าร่วมโครงการและที่ไม่เข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าว เห็นว่ามีการทุจริตในโครงการอยู่ในระดับค่อนข้างสูง และมีการทุจริตอยู่ในทุกระดับของการดำเนินงาน ถ้ารวมทุจริตส่งข้าวคุณภาพต่ำเข้าโกดังกลาง มูลค่าทุจริตจะเพิ่มเป็น 1.09 แสนล้านบาท

หลักฐานเชื่อมโยงการทุจริตระบายข้าวกับเจ้าหน้าที่รัฐ

รัฐบาลขายข้าวให้พรรคพวก โดยขายข้าว 5.3 ล้านตันให้พรรคพวกที่เสนอซื้อในราคาต่ำ ข้าวส่วนใหญ่ถูกขายในประเทศ เพราะราคาข้าวสารขายปลีกใกล้เคียงสมัยรัฐบาลอภิสิทธิ์ มีการลักลอบนำข้าวเปลือก/ข้าวสารจากโรงสีของโครงการจำนำไปขายก่อน แล้วซื้อข้าวคุณภาพต่ำมาคืน ปรากฏรายงานข้าวหาย 2.98 ล้านตัน ณ 31 ม.ค.2556

นายหน้าใช้อิทธิพลนำข้าวเปลือกจากโรงสีไปขายให้ผู้ส่งออกข้าวนึ่ง โดยไทยสามารถส่งออกข้าวนึ่ง 4.76 ล้านตัน ในช่วงต.ค.2554-เม.ย.2557 ทั้งๆที่โครงการไม่มีการทำข้าวนึ่งและข้าวนาปรังเกือบทุกเม็ดขายให้รัฐบาลหมด

วิธีหาข้าวคืนคลัง : ใช้อิทธิพลซื้อข้าวเก่าจากโครงการจำนำในอดีต 2 ล้านตัน ข้าวคุณภาพต่ำ ข้าวต่างประเทศ มาส่งคืนคลัง นี่คือสาเหตุที่ข้าวกว่า 85% ในโกดังไม่ได้มาตรฐาน แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่ได้นำมาคืนโกดังกลาง คือ ความไม่ชอบพามากล เมื่อมีข่าวข้าวหาย 2.98 ล้านตัน การหาข้าวมาคืนคลัง โดยการ “ยืม” ข้าวจากโครงการรับจำนำรอบ 2 ปี 2555/56 ไปคืนโครงการรอบ 1 ปี 2555/56

มีการทุจริตขายข้าวถุงของ อคส. โดยการตรวจสอบพบของการสอบสวนของคณะกรรมาธิการเกษตรวุฒิสภา

การตรวจสต็อกของ คสช.พบข้าวหายเพียง 1.2 แสนตัน ไม่น่าแปลกใจ เพราะเวลาล่วงเลยมาถึง 12 เดือน หลังมีข่าวข้าวหาย เพราะโรงสีและโกดังสามารถหาซื้อข้าวเก่าจากรัฐบาล (2 ล้านตัน) ข้าวต่างประเทศ (2-3 ล้านตัน) และข้าวตกเกรดการคัดมาตรฐานมาส่งแทนข้าวใหม่

ความเสียหายของโครงการรับจำนำเกิดจากความล้มเหลวทั้งด้านตัวนโยบาย หรือความบกพร่องในการดำเนินงาน ค่าเช่าทางเศรษฐกิจมีมูลค่า 5.85 แสนล้านบาท (41% ของGDPเกษตร) ทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้องลงทุนเพื่อแสวงหากำไรพิเศษนี้ เป็นการถลุงทรัพยากรแท้จริงของประเทศ และส่งผลเสียต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ

การป้องกันมิให้เกิดนโยบายรับจำนำข้าวรอบที่ 3

ปัญหาสำคัญ คือ ชาวนาและสื่อมวลชนจำนวนมากยัง “ติดกับดักการจำนำข้าว” โดยคนจำนวนมากยังมีมายาคติว่า “ชาวนาเป็นคนยากจน หากรัฐไม่ช่วยเหลือ จะอยู่ไม่รอด” ซึ่งรัฐบาลจะต้องกล้ารณรงค์ สร้างทัศนคติใหม่ในหมู่ชาวนา ประชาชนและสื่อมวลชนเรื่อง การร่วมมือกันแก้ปัญหา แทนนโยบายอุดหนุนราคาได้อย่างไร

ต้องแก้กฎหมายกำหนดให้พรรคการเมืองที่หาเสียงต้องแจกแจง ภาระค่าใช้จ่ายและที่มาของเงินได้ กำหนดให้พรรคที่ชนะเลือกตั้งต้องเสนอร่างงบประมาณรายจ่ายพิเศษต่อรัฐสภา เปิดเผยบัญชีการเงินและผลการดำเนินงานต่อรัฐสภาก่อนเสนอร่างงบประมาณปีใหม่ แก้ไขกฎหมายข้อมูลข่าวสารของราชการให้รัฐบาลต้องเปิดเผยข้อมูล หากปกปิดมีความผิด ตราพระราชบัญญัติจำกัดอำนาจรัฐในการแทรกแซงตลาด

นอกจากนี้การจัดทำบัญชีรวมของโครงการประชานิยมทุกโครงการ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ ทั้งนี้เพื่อให้รัฐบาลและรัฐสภารับทราบค่าใช้จ่ายทั้งหมด การจัดทำรายงานอิสระเรื่องผลกระทบและบทเรียนจากโครงการรับจำนำข้าว เพื่อสรุปเป็นบทเรียนสำหรับประชาชน

การแปลงภาระขาดทุนให้เป็นหนี้การคลัง หลังจากการตรวจสอบสต็อกและจัดทำบัญชีรวมเสร็จสิ้น รัฐบาลควรทำการออกพันธบัตรเพื่อหาเงินชำระหนี้ และจัดทำแผนการชำระทั้งต้นและดอกเบี้ยให้ชัดเจน พร้อมกำหนดแนวทางการระบายข้าวในสต็อก

ข้อเสนอแนะต่อ คสช.และรัฐบาลชุดปัจจุบัน

ควรเริ่มจัดวางระเบียบใหม่ว่าด้วยการแทรกแซงตลาดแบบโปร่งใส กำหนดและเร่งรัดให้หน่วยงานรัฐจัดทำบัญชี และบัญชีรวมโครงการเสนอ สนช. และสภาปฏิรูปทุกไตรมาส จัดตั้งคณะกรรมการอิสระสอบสวนปัญหาข้าวในโกดังไม่ได้มาตรฐาน เพื่อหาสาเหตุ และให้หน่วยงานรัฐสืบสวนหาผู้รับผิดชอบทั้งผู้ประกอบการเจ้าหน้าที่รัฐ รัฐมนตรี และนักการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง

นโยบายจำนำข้าวเป็นโครงการอุดหนุนที่แพงและสร้างความเสียหายใหญ่หลวงที่สุดในประวัติศาสตร์นโยบายเกษตรไทยอุดหนุนชาวนามีฐานะ ผู้บริโภค โรงสี โกดัง ผู้ตรวจข้าว สร้างความร่ำรวยให้พ่อค้าพรรคพวก และนักการเมือง

แนวคิด“ทศวรรษใหม่ของการอุดหนุนเพื่อพัฒนาศักยภาพและเพิ่มสมรรถนะการแข่งขันของภาคเกษตร” ถึงเวลาที่รัฐบาลต้องมีแผนการลงทุนใช้เงินเพื่อพัฒนาเกษตร จำกัดวงเงินอุดหนุนด้านราคา จำกัดการช่วยเหลือเฉพาะเกษตรกรยากจน/คนชรา การช่วยเหลือเกษตรกรยากจนควรเป็นเพียงการสงเคราะห์ชั่วคราวควบคู่กับการสร้างศักยภาพในการประกอบอาชีพ ใช้งบประมาณส่วนใหญ่ ในการสร้างศักยภาพในการผลิตของเกษตรกรและเกษตรกรรม (productive capacity)

การแทรกแซงตลาดควรมีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้ตลาดมีการแข่งขันมากขึ้น และทำงานได้ดีขึ้น ให้เกษตรกรหัวก้าวหน้า/ชุมชน/ภาคประชาสังคม/มหาวิทยาลัย/ภาคเอกชนเป็นผู้เสนอและร่วมดำเนินโครงการ โดยรัฐให้เงินทุนสนับสนุนหน่วยราชการปรับบทบาทมาเป็นผู้ประสานงาน ผู้จัดการโครงการ และติดตามประเมินผลโครงการ

การกำหนดประเภทและเงินอุดหนุนควรเริ่มจากการจัดทำแผนพัฒนาการเกษตรและการปรับโครงสร้างการเกษตรก่อน โจทย์ 1 : กลุ่มชาวนาเงินล้าน....ไม่น่าห่วง...ไม่ต้องอุดหนุน แต่ช่วยลดอุปสรรค ต้องมีวิจัยการตลาด และวิจัยสายพันธุ์ข้าวที่ตลาดต้องการบริโภค

ต้องหยุดการอุดหนุน โดยเฉพาะชาวนารายใหญ่ในเขตชลประทานที่ใช้น้ำฟรี

โจทย์ 2 : เกษตรทางเลือกเป็นเกษตรกรกลุ่มเล็กๆ และปราชญ์ชาวบ้าน รัฐจะมีมาตรการอย่างไรให้ชาวนากลุ่มนี้มีบทบาทช่วย นำการส่งเสริมและพัฒนาข้าวไทยในอนาคต

โจทย์ 3 : ชาวนารายเล็ก-กลางทำนาบางเวลา ทำอย่างไรจึงจะมีกำไรรวมเพิ่มจากการทำนา อาจต้องรวมแปลงนา เพื่อลดต้นทุน และแก้ปัญหาเรื่องขาดน้ำ จัดการแปลงนาใหม่ แก้กฎหมายการเช่านา แก้ดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อที่ดินแพง และข้อจำกัดเรื่องน้ำ รวมทั้งการรวมกลุ่มผลิตข้าวคุณภาพดี

โจทย์ 4 : เกษตรกรยากจนออกนอกเกษตรเท่านั้น ต้องพัฒนาทักษะและความรู้เพื่อให้ย้ายออกจากภาคเกษตร และการพัฒนาชนบท

สรุปนโยบายด้านเกษตรกร ต้องยกฐานะความเป็นอยู่ และสร้างความยืดหยุ่นให้เกษตรกร พัฒนาความรู้และการจัดการสมัยใหม่ ควบคู่กับการพัฒนาตลาด ย้ายเกษตรกรยากจนออกจากเกษตรโดยการพัฒนาทักษะควบคู่กับการพัฒนาชนบท

Tags : นิพนธ์ พัวพงศกรทีดีอาร์ไอจำนำข้าวสกว.ราคาแพงมายาคติอุดหนุน

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

<div class="text_exposed_root text_exposed" id="id_5462cd749fbaf9c98913296" style="display: inline; color: rgb(20, 24, 35); font-family: Helvetica, Arial, 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; font-size: 14px; line-height: 12.8800001144409px;">

<p style="margin-bottom: 6px;"><span style="font-size:18px;">ราคาทองที่ปรับตัวลงมามากส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามา...<br />

โดยมีแนวต้านในระหว่างวันอยู่ที่ 1,170 ดอลลาร์ ที่แนวรับบริเวณ 1,145 และ 1,130-1,135 ดอลลาร์ ยังคงสามารถกลับเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวกลับ แต่ควรระวังแรงขายที่จะมีกลับออกมามากหากไม่สามารถยืนเหนือ 1,130 ดอลลาร์ ได้....</span></p>

<p style="margin-top: 6px; margin-bottom: 6px;"> </p>

<div class="text_exposed_show" style="display: inline;">

<p style="margin-bottom: 6px;"><span style="font-size:18px;">เพิ่มเติม<br />

<a href="http://www.huasengheng.com/uploads/news/attach/afc5816ddf0ec075f5c19285967103d2.pdf" rel="nofollow" style="color: rgb(59, 89, 152); cursor: pointer; text-decoration: none;" target="_blank">http://www.huasengheng.com/…/afc5816ddf0ec075f5c19285967103…</a><br />

<a href="http://www.thairath.co.th/content/462841" rel="nofollow" style="color: rgb(59, 89, 152); cursor: pointer; text-decoration: none;" target="_blank">http://www.thairath.co.th/content/462841</a><br />

<a href="

rel="nofollow" style="color: rgb(59, 89, 152); cursor: pointer; text-decoration: none;" target="_blank">

</div>

</div>

<div class="_5yn1" id="u_37_b" style="margin-top: 10px; direction: ltr; color: rgb(20, 24, 35); font-family: Helvetica, Arial, 'lucida grande', tahoma, verdana, arial, sans-serif; font-size: 14px; line-height: 12.8800001144409px;"> </div>

 

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

ราคาทองที่ปรับตัวลงมามากส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามา...

โดยมีแนวต้านในระหว่างวันอยู่ที่ 1,170 ดอลลาร์ ที่แนวรับบริเวณ 1,145 และ 1,130-1,135 ดอลลาร์ ยังคงสามารถกลับเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวกลับ แต่ควรระวังแรงขายที่จะมีกลับออกมามากหากไม่สามารถยืนเหนือ 1,130 ดอลลาร์ ได้....

 

 

เพิ่มเติม

http://www.huasengheng.com/…/afc5816ddf0ec075f5c19285967103…

http://www.thairath.co.th/content/462841

See Translation

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

 

 

 

 

 

Chalee Na Roied

November 10 at 10:32am · Edited ·

 

 

นั่นหมายความว่า รัฐบาลสหรัฐกำลังเดินหน้า ประกาศสงครามกับประเทศที่กำลังเป็นภัยคุกคามกับ "petrodollar" นั่นคือ ซีเรีย อิหร่าน รัสเซียและจีน โดยเฉพาะรัสเซียที่แสดงท่าทีอย่างชัดเจน ในการทำลายค่าเงินดอลลาร์ และทยอยกว้านซื้อทองคำ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลสหรัฐ จำต้องจุดชนวนความขัดแย้งในยูเครนขึ้นให้ได้ เพื่อดึงความสนใจของรัสเซีย ออกมาจากตะวันออกกลางนั่นเอง ซึ่งไม่แปลกใจครับว่า จากกระแสข่าวดังกล่าว ทำให้รัสเซียตัดสินใจเคลื่อนย้ายขีปนาวุธ และจรวดไปประจำการยัง พรมแดนที่ติดกับยูเครน ตามรายงานของสื่อสหรัฐhttp://freebeacon.com/…/russia-moving-missiles-rockets-tow…/

หน่วยข่าวของรัสเซียรายงานว่า บรรดามหาเศรษฐีกลุ่มนี้ กำลังทำทุกอย่างเพื่อรักษา เงินดอลลาร์ที่เป็นเศษกระดาษหรือระบบ (Fiat curency) เพื่อรักษาความมั่งคั่งของตัวเอง ด้วยการทุ่มเงินมหาศาล ในการเลือกตั้งกลางเทอมที่ผ่านมา จนพรรครีพับลิกันเป็นฝ่ายชนะ http://www.truth-out.org/…/27199-who-s-buying-the-midterm-e…

ซึ่งแน่นอนครับผลการเลือกตั้งล่าสุด ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐเป็นบวก เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้น ทองคำอ่อนค่าลงทันที เพราะคนกลุ่มนี้ไม่ยอมให้ "petrodollar" ถูกทำลาย เพราะฉะนั้นสงครามจึงต้องดำเนินต่อไป ซึ่งทำให้หน่วยข่าวของรัสเซีย ต้องออกมาเตือนรัฐบาล ถึงผลกระทบที่กำลังจะเกิดขึ้น ในอนาคตจากการครองเสียงข้างมาก ของบรรดาพรรครีพับลิกัน ซึ่งบรรดากลุ่มชนชั้นสูงอยู่เบื้องหลังดังกล่าว เพราะผลที่ตามมาน่าจะหนีไม่พ้นสงคราม

http://nesaranews.blogspot.com/…/russia-declares-us-oligarc…

รัสเซียซึ่งเวลานี้อยู่นิ่งไม่ได้ครับ นอกจากต้องวางแผนรับมือสงครามแล้ว ทางด้านเศรษฐกิจ กำลังหันหน้ามาทางตะวันออกมากขึ้น เพราะมาตรการแซงชันของสหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา เพราะล่าสุดรัสเซียและจีน ก็เดินหน้าลงนามซื้อขายก๊าซระหว่างกันอีกแห่งหนึ่ง ภายหลังก่อนหน้านั้น เคยลงนามซื้อขายก๊าซไปแล้ว 400,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา http://rt.com/business/203679-china-russia-gas-deal/

ซึ่งแน่นอนครับเวลานี้ โลกยากจะเลี่ยงสงคราม และความขัดแย้ง เพราะอีกฝ่ายกำลังทำสงคราม เพื่อรักษาความมั่งคั่งของตัวเอง เพราะรัสเซียกำลังเดินหน้าท้าทาย กำลังทำลายความมั่งคั่งของ มหาเศรษฐกฐีชาวอเมริกันกลุ่มดังกล่าว หรือกำลังทำลาย.."petrodollar"..นั่นเอง

See Translation

 

 

 

 

1925329_368285796664239_1784474558400659799_n.jpg?oh=288f020bb955b2acba478f667378e4ee&oe=54DC2EF4&__gda__=1428103283_1e9669c34d9ba0f96f3aa04196127f7b

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

ด่วน!ประหาร"ครรชิต"อดีตสส.ปชป.ฆ่า"นายกฯตุ่น"

 

http://goo.gl/xOQPs8

 

 

ภาวะตลาดทองคำ by Hua Seng Heng Gold Futures

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 12 พฤศจิกายน 2557 11:37:46 น.

กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--ฮั่วเซ่งเฮง โกลด์ ฟิวเจอร์ส

- ทองปิดบวกหลังร่วงแรงในการซื้อขายกลางคืนของวันจันทร์

- SPDR ถือทองลดลง 0.9 ตัน

- คาดทองแกว่งตัวแคบและยังมีแนวโน้มฟื้นตัว

ราคาทองคำยังคงแกว่งตัวขึ้นลงผันผวนแม้ว่าในสัปดาห์นี้จะไม่มีการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจใดๆที่น่าสนใจและจะมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ ราคาทองที่ปรับตัวลงมามากส่งผลให้มีแรงซื้อเก็งกำไรกลับเข้ามา แต่ด้วยนักลงทุนส่วนใหญ่ต่างยังประเมินว่าราคาทองคงมีกรอบการฟื้นตัวค่อนข้างจำกัด ในช่วงที่ราคาทองฟื้นตัวขึ้นจึงยังมีแรงขายกลับออกมามาก จนทำให้ราคาทองเคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน

ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงยังคงได้รับความสนใจจากนักลงทุนเนื่องจากมีการเพิ่มสภาพคล่องเข้าสู่ระบบจากธนาคารกลางญี่ปุ่น และนักลงทุนบางส่วนคาดการณ์ว่าธนาคารกลางยุโรปก็น่าจะมีมาตรการในลักษณะเดียวกัน เงินทุนส่วนใหญ่จึงยังไหลเข้าไปลงทุนในตลาดหุ้นซึ่งเป็นตัวแทนของสินทรัพย์เสี่ยง และด้วยในระยะนี้เป็นช่วงประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ของบริษัทจดทะเบียน แรงซื้อที่มีเข้ามายังตลาดทองคำจึงคาดว่าคงมีค่อนข้างจำกัด

มีแรงซื้อกลับเข้ามาหลังจากราคาทองอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับแรกของวันบริเวณ 1,145 ดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากปรับตัวลงมากในการซื้อขายวันจันทร์ ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคของราคาทองจึงยังมีแนวโน้มว่าราคาจะปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านในระหว่างวันอยู่ที่ 1,170 ดอลลาร์ และหากราคาทองอ่อนตัวลง ที่แนวรับบริเวณ 1,145 และ 1,130-1,135 ดอลลาร์ ยังคงสามารถกลับเข้าซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวกลับ แต่ควรระวังแรงขายที่จะมีกลับออกมามากหากไม่สามารถยืนเหนือ 1,130 ดอลลาร์ ได้

ราคาโลหะเงินปิดตลาดเพิ่มขึ้นจากวันจันทร์เพียงเล็กน้อย ภาพการเคลื่อนไหวทางเทคนิคยังคงมีแนวโน้มว่าราคาโลหะเงินจะแกว่งตัวฟื้นตัวขึ้นลงระหว่างแนวรับและแนวต้านบริเวณ 15.0 และ 16.0 ดอลลาร์ หากไม่สามารถยืนเหนือแนวรับบริเวณ 15.0 ดอลลาร์ ได้ ควรระวังแรงขายที่คาดว่าจะมีออกมา

 

ราคาทองคำซบถึงสิ้นปี เหตุปัจจัยกดดันเพียบ เดือนพ.ย.ราคาแกว่งตัวในกรอบ17,000-19,000บ.

ข่าวหุ้น-การเงิน ThaiPR.net -- พุธที่ 12 พฤศจิกายน 2557 11:35:23 น.

iq89551d5671175a584836583b5f1b857e.jpg

กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--ธามดี พลัส

ศูนย์วิจัยทองคำเผยดัชนีเชื่อมั่นทองคำเดือน พ.ย. ฟื้นตัวเล็กน้อยหลังทองร่วงหนักเดือนก่อน หลังยุติ QE โดยดัชนีอยู่ที่ระดับ 46.77 จุด เพิ่มขึ้น 8.10 จุดจากเดือนก่อน BOJ ออกมาตรสภาพคล่องเพิ่มส่งค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปีครึ่งเทียบสกุลเงินหลักลดความน่าสนใจถือครองทองคำ ด้านผู้ค้ารายใหญ่เชื่อทองเดือนพ.ย.มีแนวโน้มย่อตัวต่อ ระหว่างเดือนน่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 17,000-19,000 บาทต่อบาททองคำ

12:08 ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวขึ้นต่อบ่ายนี้ จากกระแสคาดการณ์ญี่ปุ่นชะลอการขึ้นภาษี ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวสูงขึ้นในการซื้อขายช่วงบ่ายวันนี้ ภายหลังจากท…

12:06 ภาวะตลาดหุ้นฮ่องกง: ฮั่งเส็งปิดเช้าบวก 15.88 จุด ขณะจับตาศก.จีน ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดเช้าปรับตัวขึ้น โดยตลาดยังคงขานรับข่าวที่ว่าคณะ…

12:01 อังกฤษเผยยอดการปล่อยกู้จำนองขยายตัวชะลอลงในไตรมาส 3 สภาผู้ปล่อยกู้จำนองของอังกฤษ (CML) เปิดเผยว่า ยอดการปล่อยเงินกู้จำนองของอังกฤษยังคงชะลอกา…

11:53 รัสเซีย-อิหร่านลงนามข้อตกลงสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 แห่งในอิหร่าน รัสเซียได้ลงนามข้อตกลงกับอิหร่าน เพื่อช่วยเหลืออิหร่านในการสร้างเตาปฏิกร…

11:34 PTTEP คงเป้าปริมาณขายปิโตรเลียมปี 58 โต 10% หลังปีนี้โตแค่ 8% บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม(PTTEP) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายปริมาณขายปิโ…

 

(เพิ่มเติม) เงินบาทเปิด 32.85/87 แนวโน้มระยะยาวยังอ่อนค่า กังวลเศรษฐกิจไทยฟื้นช้า

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 พฤศจิกายน 2557 11:14:06 น.

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 32.85/87 บาท/ดอลลาร์ ใกล้เคียงกับช่วงเย็นวานนี้ที่ปิดตลาดที่ระดับ 32.87/88 บาท/ดอลลาร์

วันนี้บาทคงจะยังนิ่งๆ ไม่เคลื่อนไหวมากนักเมื่อเทียบกับเมื่อวานนี้ โดยระยะยาวเงินบาทยังอาจอ่อนค่า หลังจากข่าวที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ออกมาระบุว่า เศรษฐกิจไทยไม่ได้ฟื้นตัวอย่างที่คาด ดังนั้นอาจมีความจำเป็นต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย ประกอบกับข่าวเรื่องนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น ออกมาระบุว่าจะมีการเลือกตั้งใหม่ในเดือนธ.ค.

"บาทวันนี้แนวโน้มน่าจะอ่อนค่าต่อ จากข่าวเมื่อวานผู้ว่าแบงก์ชาติออกมาบอกว่ายังมี room ที่จะลดดอกเบี้ยได้อีก จึงกดดันให้บาทอ่อนค่า หลังจากที่เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวช้ากว่าคาด รวมทั้งข่าวที่นายกฯ อาเบะของญี่ปุ่น บอกว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนธ.ค. จึงกดดันให้เยนอ่อนค่า และบาทน่าจะอ่อนค่าตาม" นักบริหารเงิน ระบุ

นักบริหารเงิน คาดว่า วันนี้เงินบาทอาจจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.80-32.92 บาท/ดอลลาร์ ทั้งนี้หากเงินบาทอ่อนค่าหลุดระดับ 32.92 บาท/ดอลลาร์ไปได้ ก็มีแนวโน้มจะไปทดสอบที่ระดับ 33 บาท/ดอลลาร์ ซึ่งมีโอกาสจะได้เห็นภายในปลายปีนี้

ล่าสุด SPOT อยู่ที่ระดับ 32.8575 บาท/ดอลลาร์ ส่วน THAI BAHT FIX 3M(11 พ.ย.) อยู่ที่ 1.80557% และ THAI BAHT FIX 6M(11 พ.ย) อยู่ที่ 1.78116%

* ปัจจัยสำคัญ

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 115.75 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 115.91 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 1.2461 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.2408 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 32.8500 บาท/ดอลลาร์

- มร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกรัฐมนตรี ระบุจ่อปรับเศรษฐกิจใหญ่ 4 ด้าน ขณะนี้ คลัง-พลังงาน-เกษตร เปิดใจสร้างความเป็นธรรม-ลดความเหลื่อมล้ำคนไทย

- นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประเทศไทยเพียงแห่งเดียวในโลกที่มีอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจ (จีดีพี) เพียง 0.5% แต่ถ้ารวมเป็นกลุ่มประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (เออีซี) จะมีจีดีพี 3% ของโลก การรวมตัวเป็นเออีซีจึงเป็นจุดดึงดูดนักลงทุน

- ธปท.เตรียมใช้นโยบายการเงินพยุงเศรษฐกิจ หลังประเมินเบิกจ่ายภาครัฐล่าช้ากว่าคาด ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจปีนี้เสี่ยงโตต่ำกว่า 1.5% ส่งออกแนวโน้มติดลบ นักวิเคราะห์มอง "เซอร์ไพร์สตลาด" เตือนหั่นดอกเบี้ยช่วยฟื้นเศรษฐกิจ แต่เงินไหลออก ขณะ "ศุภวุฒิ" ชี้นักลงทุนจับตาการเมืองใกล้ชิด

- ธปท.สนับสนุนไทยเข้าร่วมเป็นสมาชิก AIIB เอื้อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของไทยเร่งดำเนินการขณะนี้ ขณะเดียวกันมองว่าสถาบันการเงินระหว่างประเทศที่มีอยู่เดิมอย่าง ADB หรือ World Bank ต่างก็เปลี่ยนนโยบายไปสนับสนุนการพัฒนาเชิงโครงสร้างสังคมมากกว่า คาดทางการไทยจะสนับสนุนด้านการเงินประมาณ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1.5 แสนล้านบาท

- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงการคลังได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงเรื่องการกำหนดกรอบเงินเฟ้อของประเทศโดยได้เห็นสอดคล้องกับ ธปท.ที่จะให้นำเอาเงินเฟ้อพื้นฐานทั่วไปมาเป็นตัวกำหนดนโยบายการเงินการคลัง จากที่ได้ใช้กรอบเงินเฟ้อพื้นฐานมานานแล้ว

- ธปท.กังวลเบิกจ่ายงบช้าไม่มีแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ ปีนี้เสี่ยงโตต่ำกว่าเป้าหมาย 1.5% เล็งใช้นโยบายการเงินเข้าช่วยอีกแรง ด้านนักเศรษฐศาสตร์มองจังหวะยังไม่เหมาะสม ควรรอมาตรการการคลังออกฤทธิ์ก่อน รับหากลดดอกเบี้ยถือเป็นการเซอร์ไพรส์ตลาดเงิน ห่วงเงินไหลออก มองจีดีพีปีนี้โตได้แค่ 1% กว่า

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งแกร่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปีเมื่อเทียบสกุลเงินเยนเมื่อคืนนี้ (11 พ.ย.) จากกระแสคาดการณ์ที่ว่านายกรัฐมนตรีชินโสะ อาเบะของญี่ปุ่น อาจชะลอแผนการปรับขึ้นภาษีการบริโภค

- สมาคมแลกเปลี่ยนทองคำและเงินของจีน เปิดเผยว่า ราคาทองคำที่ตลาดฮ่องกงเพิ่มขึ้น 112 ดอลลาร์ฮ่องกง เปิดที่ระดับ 10,750 ดอลลาร์ฮ่องกง/ตำลึงในวันนี้ โดยราคาดังกล่าวเทียบเท่ากับ 1,164.36 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.13 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อัตราแลกเปลี่ยนล่าสุด 1 ดอลลาร์สหรัฐ/ 7.75 ดอลลาร์ฮ่องกง

- ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนเปิดเผยว่า ผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปก) ได้เห็นชอบในเรื่องการใช้แรงจูงใจใน 5 ประเด็นเพื่อส่งเสริมการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอนาคต โดยแรงจูงใจดังกล่าวประกอบไปด้วย การปฏิรูปเศรษฐกิจ เศรษฐกิจในรูปแบบใหม่ การขยายตัวอย่างมีนวัตกรรม การสนับสนุนเป็นพิเศษ และการพัฒนาเขตเมือง

พร้อมกันนี้ผู้นำเอเปกยังตัดสินใจใช้นวัตกรรม การปฏิรูป และการขยายตัวเพื่อสนับสนุนซึ่งกันและกันในการรวมเอเชีย-แปซิฟิกเป็นหนึ่งเดียวในฐานะเครื่องจักรขับเคลื่อนการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก

อินโฟเควสท์ โดย กษมาพร กิตติสัมพันธ์/รัชดา โทร.02-2535000 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

รัสเซีย-อิหร่านลงนามข้อตกลงสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ 2 แห่งในอิหร่าน

ข่าวการเมือง สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 พฤศจิกายน 2557 11:53:00 น.

รัสเซียได้ลงนามข้อตกลงกับอิหร่าน เพื่อช่วยเหลืออิหร่านในการสร้างเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์แห่งใหม่ 2 แห่งที่โรงไฟฟ้าพลังงนิวเคลียร์ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองบูเชอร์ของอิหร่าน โดยเมืองแห่งนี้เป็นที่ตั้งของเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาด 1,000 เมกะวัตต์ ซึ่งสร้างโดยบริษัทโรซาตอมของรัสเซีย และได้เริ่มดำเนินการเมื่อปีที่แล้ว

ข้อตกลงที่ทำขึ้นระหว่างเจ้าหน้าที่ตัวแทนของรัสเซียและอิหร่านระบุว่า ทั้ง 2 ประเทศได้ตกลงกันว่าจะเพิ่มจำนวนเตาปฏิกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีของรัสเซียให้เป็น 8 แห่งในอิหร่าน ซึ่งรวมถึง 4 แห่งที่โรงไฟฟ้านิวเคลียร์บูเชอร์ ทางตอนใต้ของอิหร่าน

ทั้งนี้ รัสเซียจะเป็นผู้จัดหาเชื้อเพลิงนิวเคลียร์ให้กับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ทั้ง 8 แห่ง และแท่งเชื้อเพลิงที่ใช้แล้วนั้น จะถูกส่งกลับไปยังรัสเซีย

ทางด้านบริษัทโรซาตอมได้เน้นย้ำในแถลงการณ์ว่า โครงการดังกล่าวอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของสำนักงานพลังงานปรมาณูสากล (IAEA)

โรงไฟฟ้านิวเคลียร์แห่งแรกของอิหร่านซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองบูเชอร์นั้น ได้สร้างขึ้นในปี 2518 โดยบริษัทหลายแห่งของเยอรมนี อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานในโรงไฟฟ้าแห่งนี้ได้หยุดชะงักลงเมื่อสหรัฐได้สั่งห้ามการจัดส่งสินค้าไฮเทคให้กับอิหร่านหลังจากมีการปฏิวัติในปี 2522

ต่อมาในปี 2541 รัสเซียได้ลงนามในสัญญาร่วมกับอิหร่านว่าจะสร้างโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ให้แล้วเสร็จ แต่การก่อสร้างก็ยังคงต้องถูกเลื่อนออกไปอีกหลายปี เนื่องจากปัญหาด้านเทคนิคและการเงิน และแรงกดดันจากสหรัฐ สำนักข่าวซินหัวรายงาน

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/พันธุ์ทิพย์ โทร.02-2535000 อีเมล์: pantip@infoquest.co.th--

 

การประชุมสุดยอดอาเซียนเปิดฉาก มุ่งถกประเด็นกลุ่ม IS อีโบลา และทะเลจีนใต้

ข่าวเศรษฐกิจ สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พุธที่ 12 พฤศจิกายน 2557 11:02:00 น.

การประชุมสุดยอดอาเซียนเปิดฉากขึ้นแล้วในวันนี้ที่กรุงเนย์ปิดอว์ เมืองหลวงของพม่า โดยกลุ่มประเทศสมาชิกทั้ง 10 ประเทศ จะมุ่งหารือในประเด็นต่างๆที่เป็นความท้าทาย อาทิ กลุ่มรัฐอิสลามในอิรักและซีเรีย ไวรัสอีโบลาในแอฟริกาตะวันตก และข้อพิพาทเรื่องเขตแดนในทะเลจีนใต้

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กลุ่มผู้นำของอาเซียนจะหารือเกี่ยวกับขั้นตอนในการจัดตั้งชุมชนอาเซียนที่มีการผนวกรวมมากขึ้นในปีนี้ ตลอดจนวิสัยทัศน์ของกลุ่มภายหลังปี 2558 และการดำเนินการเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของสถาบันของอาเซียน

สำหรับการหาสมาชิกเข้ากลุ่มกบฎ IS และนักรบจากประเทศต่างๆ อาทิ อินโดนีเซียและฟิลิปปินส์นั้น กลุ่มผู้นำอาเซียนจะได้หารือและแสดงคววามมุ่งมั่นที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มนักรบเดินทางจากประเทศสมาชิกอาเซียนเพื่อเข้าร่วมเป็นสมาชิกของกลุ่มก่อการร้ายได้

อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย สุนิตา พรรณรักษา/รัตนา โทร.02-2535000 ต่อ 327 อีเมล์: ratana@infoquest.co.th--

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

คูเวตส่งสัญญาณโอเปคคงเพดานผลิตฉุดราคาน้ำมัน คูเวตส่งสัญญาณโอเปคคงเพดานผลิตในการประชุมปลายเดือนนี้ ส่งผลน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับลด เหลือ77ดอลลาร์ต่อบาร์เรล สั่งเลี่ยงลงทุน'บจ.'เมินต้านคอร์รัปชัน "ก.ล.ต." เตรียมขอความร่วมมือโบรกเกอร์ เผยแพร่อันดับต้านคอร์รัปชันในบทวิเคราะห์ พร้อมแนะเลี่ยงลงทุน เอกชนขอดีเซลไม่เกิน32บาท/ลิตร ส.อ.ท.หวั่นปรับโครงสร้างพลังงานยกแผง ขอดีเซลไม่เกิน 32 บาท/ลิตร ธปท.เล็งมาตรการกระตุ้นศก. ชี้เบิกจ่ายอืด-ส่งออกจ่อติดลบ 'คาราวบาว'ไอพีโอ28บาท ดัชนีเชื่อมั่นทองพ.ย.ยังต่ำกว่า50 'หม่อมอุ๋ย'รอโปรดเกล้าฯตั้งรมช.คลัง-เกษตรฯ

ดูข่าว ทั้งหมด icon-arrow-gray.gif

 

 

ข่าวยอดนิยม

แชร์โพสต์นี้


ลิงก์ไปโพสต์
แชร์ไปเว็บไซต์อื่น

Join the conversation

You can post now and register later. If you have an account, sign in now to post with your account.

ผู้มาเยือน
ตอบกลับกระทู้นี้...

×   วางข้อความแบบ rich text.   วางแบบข้อความธรรมดาแทน

  อนุญาตให้ใช้ได้ไม่เกิน 75 อิโมติคอน.

×   ลิงก์ของคุณถูกฝังอัตโนมัติ.   แสดงเป็นลิงก์แทน

×   เนื้อหาเดิมของคุณได้ถูกเรียกกลับคืนมาแล้ว.   เคลียร์อิดิเตอร์

×   คุณไม่สามารถวางรูปภาพได้โดยตรง กรุณาอัปโหลดหรือแทรกภาพจาก URL

กำลังโหลด...

  • เข้ามาดูเมื่อเร็วๆนี้   0 สมาชิก

    ไม่มีผู้ใช้งานที่ลงทะเบียนกำลังดูหน้านี้

×
×
  • สร้างใหม่...